ปัจจุบันคดีที่เกี่ยวข้องกับการสังหารบิดามารดายังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุนั้นก็แตกต่างกันออกไป แต่ช่วงหลัง ๆ เริ่มมีประเด็นเรื่องลูกต้องการเงินมรดกเงินประกันมาใช้จ่ายเพื่อบำเรอความสุขของตนเองมากขึ้น อันเนื่องมาจากความอบอุ่นในครอบครัวลดน้อยถอยลง ดังนั้น เมื่อลูก ๆ เกิดความต้องการอะไรบางอย่างมาก ๆ พวกเขาอาจสามารถทำอะไรทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเพื่อให้พวกเขาสมปรารถนา......
เวลา 6:52 ของวันที่ 1 พฤศจิกายน1955 เที่ยวบินสายยูไนเต็ดแอร์ 629 เครื่องบิน DC-6B กับคนขึ้นเครื่องอีก 44 คน ได้ออกจาก สนามบินเดนเวอร์ มลรัฐโคโลราโด เสียงเครื่องบินทะยานฟ้าคำรามก้อง ล้อหน้าล้อหลังถูกยกขึ้นเตรียมขึ้นฟ้าสูงกว่า 4,000 ฟุต เป้าหมายคือพอร์ทแลนด์ ออเรกอน เครื่องบินนี้มีห้องโดยสารขนาดเล็กมาตรฐานที่ 39 ผู้โดยสารสามารถสูบบุหรี่ได้ กัปตันหอประกาศ ประกาศให้ผู้โดยสารทราบว่าเครื่องบินจะถึงจุดหมายประมาณสามชั่วโมง และแนะนำให้ผู้โดยสารระมัดระวังและอยู่ในความสงบในเที่ยวบินเที่ยวนี้ เครื่องบินเดินทางอยู่เหนือเมืองเล็ก ๆ ลองมอนต์ในโคโลราโด กัปตันผู้มีประสบการณ์ในการบินในห้องควบคุมเครื่องบินกำลังสบายใจ งานนี้หมูเป็นบ้าสบายใจถึงขั้นจิบกาแฟไป ดูเส้นทางการบินไป อากาศสดใส ทุกอย่างปกติ โลกนี้สงบสุขเสียจริง แต่แล้ว พวกเขาก็เริ่มระแคะระคายถึงสิ่งผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นจากใต้ด้านล่างเครื่องด้านหลังเมื่อกัปตันได้ยินเสียงและแรงสะเทือนจากบริเวณนั้น พวกเขาเตรียมลุกขึ้นเพื่อตรวจสอบที่มาแต่สายไปแล้ว จู่ ๆ พื้นที่ดังกล่าวเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง มันเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น โลหะเพดานโดนแรงระเบิดพังทลายจนหลุดออกจากกัน เครื่องบินมโหฬารระเบิดเหนือน่านฟ้า กระเป๋าผู้โดยสารและร่างของผู้โดยสารถูกแรงระเบิดฉีกร่าง ชิ้นส่วนปลิวว่อน ตามด้วยแรงระเบิดรอบสองจากถังเชื้อเพลิง เครื่องบินสูญเสียการควบคุมสภาพเวิ้งว้างสิ้นหวังก่อนที่จะตกที่ฟาร์มใกล้ ๆ ลองมอนต์ มลรัฐโคโลราโด อย่างย่อยยับ
หลังจากนั้น 11 นาทีต่อมา ชาวอเมริกันทั้งประเทศก็ช็อกกับข่าวที่เกิดขึ้น เมื่อเครื่องบิน DC-6B เกิดระเบิดอย่างลึกลับขึ้นกลางอากาศ ส่งผลให้ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่รวม 44 คนบนเครื่องบินตายทันที (30 คนเป็นผู้ใหญ่ 9 คนเป็นทารก และอีก 5 คนเป็นลูกเรือ) และซากเครื่องบินตกไฟลุกท่วม
จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมารถดับเพลิง ตำรวจ หน่วยกู้ภัย รีบรุดไปที่เกิดเหตุ โชคดีบริเวณที่เครื่องบินตกเป็นฟาร์มโล่งไม่ใช่บ้านเรือน ทำให้การเสียหายโดยรอบในขณะเครื่องบินตกไม่รุนแรงมากนัก ไม่มีเหยื่อจากลูกหลงในครั้งนี้ พวกเขาทำการดับไฟที่ลุกท่วมเครื่องบิน พร้อมหาผู้รอดชีวิตในเครื่องไปด้วย แต่กระนั้นก็แทบหมดหวัง เพราะถึงที่สุดแล้วก็ไม่พบผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้แม้แต่คนเดียว ตลอดทั้งวันทั้งคืนตำรวจ อาสาสมัครและแพทย์ทำงานไม่หยุด พวกเขาทำการบันทึกสิ่งที่พบทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นซากตำแหน่งเครื่องบินที่กระเด็นไปหลายไมล์ เศษชิ้นส่วนกระเป๋าและร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายนับร้อยผสมกับโลหะที่กระจัดกระจายถูกบันทึกลงแผ่นฟิล์มหลายพันรูป โดยหวังว่านี้จะช่วยสามารถไขปริศนาเครื่องบินตกครั้งนี้ได้
ความรู้เพิ่มเติม:-
สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) เป็นหนึ่งในสายการบินชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1926 โดยในปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ โดยมีสนามบินหลักคือท่าอากาศยานนานาชาติโอแฮร์ เป็นหนึ่งในสมาชิกของสตาร์อัลไลแอนซ์ เป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอเมริกา และเป็นสายการบินที่เป็นเป้าหมายของการก่อการร้ายเป็นอันดับ 1 ด้วย โดยเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดคือ เหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ที่ สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 93 ได้ประสบกับวินาศกรรม 11 กันยายน ซึ่งมีเครื่องบินทั้งหมด 4 ลำที่ประสบกับวินาศกรรมครั้งนี้ โดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 40 รายที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น)
วันที่ 2 พฤศจิกายน FBI และกองทะเบียนตรวจสอบศพรีบรุดไปที่เกิดเหตุทันที จากวอชิงตันไปยังโคโลราโด โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถหาสาเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้เพื่อตอบคำถามจากประชาคมโลกได้ ร่างผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมถูกลำเลียงออกจากซากเครื่องบิน และถูกนำไปวางในโรงเก็บศพชั่วคราว เมื่อ FBI และผู้เชี่ยวชาญด้านลายมือมาถึง พวกเขาสามารถชี้ตัวผู้ตายได้ 9 ศพเพราะสภาพยังไม่เละเกินไปทำให้ญาติ ๆ และเพื่อนจำหน้าได้ ส่วนอีก 35 คนไม่สามารถระบุได้เพราะศพไหม้เกรียม ตำเป็นตอตะโก จนไม่เหลือสภาพเค้าโครงเดิม ทางด้านการสอบสวนผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ถูกเข้าไปทำการตรวจสอบซากเครื่องบินที่ตก ส่วนหางของเครื่องบินยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ทำให้สามารถกู้กล่องดำซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญได้ไม่ยาก แต่ส่วนอื่น ๆ ของเครื่องบินนั้นพังยับ เครื่องยนต์เสียหาย ปีกทั้งสองด้านฉีกขาดจนแยกออกกัน ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ข้าวของ กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นที่บริเวณนั้น การตรวจสอบใช้เวลานานประมาณ 6 วัน จึงสามารถสรุปสาเหตุเครื่องบินระเบิดได้
ความรู้เพิ่มเติม:-
ความจริงแล้ว กล่องดำ ที่เราพูดถึงกันบ่อย ๆ นั้นไม่ได้มีสีดำดังชื่อ เพราะบ้างก็เป็นสีแดง หรือสีส้ม แต่ที่เรียกเช่นนั้นอาจเป็นเพราะหลังเกิดอุบัติเหตุกล่องนี้จะถูกไฟไหม้ทำให้กลายเป็นสีดำ รวมถึงการที่กล่องดังกล่าว เป็นกล่องที่บันทึกความลับของเครื่องบินลำประสบเหตุ ซึ่งเป็นปริศนาที่เราต้องค้นหาคำตอบ จึงนิยมเรียกกันว่า "กล่องดำ" กล่องดำ คือกล่องที่บรรจุอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการลำดับเหตุการณ์ของอุบัติเหตุทางการบิน โดยข้อกำหนดขององค์การการบินระหว่างประเทศระบุว่า เครื่องบินโดยสารทุกลำที่มีตั้งแต่ 19 ที่นั่งขึ้นไปจะต้องติดตั้งกล่องดำ เพื่อช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของการเกิดอุบัติเหตุ ภายในกล่องดำจะบรรจุอุปกรณ์สำคัญ 2 ส่วน คือ Flight Data Recorder (FDR) แถบบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการบิน พิกัด ความเร็ว ระดับความสูง การเร่งผ่อนคันบิดปิดเปิดน้ำมัน แรงขับของเครื่อง ฯลฯ และ Cockpit Voice Recorder (CVR) อุปกรณ์ทำหน้าที่บันทึกเสียงการสนทนาภายในห้องนักบิน การติดต่อระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน รวมทั้งเสียงของลูกเรือที่เข้ามาในห้องนักบิน การทำหน้าที่ของกล่องดำ จะเริ่มบันทึกเหตุการณ์ทุกอย่าง นับตั้งแต่นักบินติดเครื่องไปจนถึงดับเครื่อง แต่หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ข้อความที่สำคัญที่สุดจะอยู่ในช่วง 30 วินาทีสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงที่นักบินจะทราบว่ามีอะไรผิดพลาดก่อนที่เครื่องจะตก ลักษณะโครงสร้างของกล่องดำ ทำจาก โลหะพิเศษที่ทนทาน ทนต่อแรงกระแทกอย่างรุนแรง ทนน้ำทนไฟ เวลาที่เครื่องบินตก และเกิดระเบิดอย่างรุนแรงกล่องดำมักจะไม่ได้รับความเสียหาย ตำแหน่งที่ติดตั้งกล่องดำจะอยู่บริเวณส่วนหางของเครื่องบิน เพราะเป็นบริเวณที่แข็งแรงและเมื่อเครื่องบินตก ส่วนหางจะได้รับการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
ในระหว่างวันที่ 2 และ 5 พฤศจิกายน 1955 มีการสอบถามพยาน 200 ปาก ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่บริเวณ 140 ตารางไมล์ตรงที่เครื่องบินตก พยานบางคนให้การว่ามันเหมือนแสงจันทร์ในตอนกลางวัน มันวูบวาบจนคิดว่าเป็นดาวตกเสียมากกว่าจะเป็นเครื่องบิน วันที่ 7 พฤศจิกายน 1955 ประธานสอบสวนได้ออกมาแถลงข่าวสรุปเหตุการณ์เครื่องบินระเบิดนี้ว่า "มันเป็นการก่อวินาศกรรมมากกว่าจะเป็นอุบัติเหตุ โดยหลักฐานชี้ให้เห็นว่าเครื่องบินดังกล่าวถูกวางระเบิด" จากนั้นประธานสอบสวนก็แจกแจงว่าเครื่องบินโดนระเบิดอย่างไร ขั้นแรกเมื่อเครื่องบินบนขึ้นไปในระดับ 10,800 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล หรือ 5,782 ฟุตเหนือพื้นดินในระยะหนึ่งระเบิดก็ทำงาน ซึ่งน่าจะเป็นระเบิดแบบตั้งเวลาหรือจุดชนวน และใช้ไดนาไมต์หรือไม่ก็ระเบิดพลุทำ แรงระเบิดนี้มีอนุภาพมากพอที่ทำให้เครื่องบินเสียหาย จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้เครื่องบินจนเป็นทางยาว เครื่องบินลดระดับในการตก จากนั้นก็มีการระเบิดครั้งที่ 2 ซึ่งน่ามาจากถังเก็บน้ำมันระเบิด ผู้โดยสารทั้งหมดตายทันทีจากการระเบิดครั้งที่ 2
วันที่ 8 พฤศจิกายน การสอบสวนคืบหน้า เมื่อมีการกู้ซากปรับหักพังและกู้สัมภาระเพื่อหาหลักฐาน จนพบว่าที่มาของระเบิดนั้นมาจากกระเป๋าใบที่อยู่ตรงช่องที่ 4 เพราะพบซากระเบิดติดในเศษผ้าของกระเป๋า ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้โดยสารเครื่องบินทั้งหมดต้องสอบสวน จากการตรวจสอบที่มาของกระเป๋าใบนั้น มีการส่งสำเนาเศษซากกระเป๋าไปให้ทางยูไนเต็ดแอร์ทันที การระบุไม่ยากเพราะช่อง 4 เป็นช่องที่ใช้สำหรับเก็บกระเป๋าของผู้โดยสารและสินค้าอื่น ๆ ทำให้สามารถระบุเจ้าของกระเป๋านี้ได้คือ "นางเดซีย์ คิง" การสอบสวนคืบหน้า และใกล้สิ้นสุด เพราะการตรวจสอบเริ่มแคบลง แคบลง ครอบครัวของนางคิงถูกนำมาสอบสวน สื่อมวลชนเริ่มตีข่าวภูมิหลังของนางคิง โดยบอกว่าเธอเป็นคนร่ำรวย มีลูกชายอยู่คนหนึ่งชื่อ จอห์น กิลเบิร์ต เกรแฮม ในตอนเดินทางเธอบอกกับครอบครัวเธอว่าเธอจะไปอลาสก้าเพื่อเยี่ยมลูกสาวที่กำลังจะแต่งงาน เขาจะทำแบบนี้เพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร?? ตอนแรกเจ้าหน้าที่เดาว่า นางคิงจะเป็นผู้ก่อการร้ายแบบระเบิดพลีชีพหรือเปล่า เพราะว่าไม่มีใครบ้าพอที่จะระเบิดเครื่องบินแบบไม่มีมูลแน่ๆ หรืออาจมีคนนอกจากคุณนายคิงเอาระเบิดซุกในกระเป๋าหวังให้มันระเบิดกลางอากาศเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าเป็นฝีมือก่อการร้าย แต่กระนั้นก็ไม่มีกลุ่มก่อการร้ายไหนๆ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และดูเหมือนว่าเหตุระเบิดเครื่องบินในครั้งนี้ไม่น่าจะใช่เพื่ออุดมการณ์อะไรทั้งสิ้น เพราะสาเหตุการระเบิดเครื่องบินในครั้งนี้คือ เงินล้วน ๆ โดยสิ่งที่น่าจะเอาเฉลยเรื่องนี้ได้ คงเป็นหลักฐานการทำเงินประกันชีวิตแก่สนามบินก่อนออกเดินทาง ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังว่า มีผู้โดยสาร 6 คน ทำเงินประกันถึง $62,500, 4 คนทำเงินประกัน $ 50,000 ที่เหลือก็ลดหลั่นลงไป โดยนางคิงทำเงินประกันสูงสุดไว้ที่ $37,500 โดยให้ลูกชายจอห์น กิลเบิร์ต เกรแฮมได้รับผลประโยชน์หากเธอตายเพราะเที่ยวบินเครื่องบินเที่ยวนี้ (เขาตรวจสอบจากเครื่องทำประกันภัยอัตโนมัติซึ่งมีข้อมูลซื้อและผู้ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด) และนางคิงก็ตายเพราะเครื่องบินระเบิดในที่สุด ส่งผลให้จอห์น กิลเบิร์ต เกรแฮมได้มรดกมหาศาลจากการตายของแม่ในครั้งนี้เต็ม ๆ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือ หรือว่า.......!?