ย่านอากิฮาบารา เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในฉายา "เมืองเครื่องใช้ไฟฟ้า แห่งโตเกียว" โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ที่นี่ไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องเสียงต่าง ๆ ไปจนถึง เครื่องโทรสาร หรือแม้แต่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็มีเช่นกัน ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของที่นี่ ถ้าพกหนังสือเดินทางมาด้วยจะสามารถซื้อของโดยไม่ต้องเสียภาษี สำหรับที่นี่แล้วยังเป็นแหล่งรวมบรรดานักเล่นเกมส์ เพราะเป็นแหล่งที่มีเกมส์ให้เลือกมากมาย แหล่งผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนแนวธรรมดา การ์ตูนโดจิ้น รวมถึงซีดีติดเรท .. เรียกได้ว่าเป็นย่านสำหรับหนุ่มน้อยจนถึงหนุ่มใหญ่ หรือย่านโอตาคุ เลยทีเดียว แต่แล้วไม่มีใครคาดคิดว่าในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ย่านอากิฮาบาราแห่งนี้จะกลายเป็นเวทีสังหารหมู่!!

โทโมฮิโระ คาโต้ เกิดปี ค.ศ. 1983 ในบ้านชานเมืองอาโอโมริ จังหวัดฮอนชู พ่อของเขาเป็นถึงผู้จัดการตำแหน่งสูง เป็นคนเก่งทั้งในด้านการเรียนและเล่นกีฬา แถมเป็นที่ศรัทธาของเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนอีกด้วย เมื่ออายุเพียง 24 ปี เขาก็สามารถเข้าโรงเรียนทสึคุดะ ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับสูงด้วยอายุที่น้อยที่สุดของโรงเรียนแห่งนี้ แต่ไม่นานเขาก็ไม่อาจทนสภาพความกดดันของครอบครัวที่หวังต่อตัวเขาได้ จนผลเรียนตกลงจนเกือบบ๊วย (ในโรงเรียนมีจำนวนนักเรียน 360 คน) มันทำให้คาโต้ท้อแท้สิ้นหวังต่อชีวิตจนทิ้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในจังหวัดฮอกไกโด ที่มีชื่อเสียงไป

จากนั้นคาโต้ก็ฝึกฝนการเป็นช่างที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์คันโต ออโต้ เวิร์คส ในจังหวัดชิสุโอกะ แม้เขาจะบอกว่าเขาชอบงานนี้ และนายจ้างก็ชมว่าเขาทำงานดี และเอาใจใส่การทำงาน ไม่มีปัญหาในที่ทำงาน แต่ไม่รู้เนื่องจากสาเหตุใดที่ทำให้ในเวลาต่อมาคาโต้ก็เริ่มขาดงาน และไม่นานก็ลาออก จนกลายคนว่างงานเรื่อยมา…..

จากรายงานการสัมภาษณ์ครอบครัวของคาโต้ พี่ชายและน้องชายของเขาบอกเสียงเดียวว่า คาโต้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก จากคนที่มุ่งมั่นกลายเป็นคนท่าดีทีเหลว เนื่องจากครอบครัวคาโต้ ได้สร้างความกดดันแก่เขาและคนในบ้าน โดยตั้งเป้าผลการศึกษาให้แก่สมาชิกในบ้านว่า ต้องทำคะแนนให้สูงเป็นที่ 1 ตามกำหนดที่พ่อแม่ตั้งไว้ ถ้าสมาชิกคนไหนทำไม่ได้ละก็ต้องถูกลงโทษตามที่กำหนดไว้ เช่น ต้องกินอาหารบนพื้นเหมือนหมูเหมือนหมา หรือไม่ก็ถูกเฆี่ยนตี จนโทโมฮิโระ คาโต้ คิดฆ่าตัวตาย ในปี ค.ศ. 2006 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

จากนั้นเมื่อโทโมฮิโระ คาโต้ มีอายุ 25 ปี เขาก็กลายเป็นคนไม่เอาไหนไปโดยปริยาย เขาเป็นแฟนการ์ตูนตัวยง โดยชอบอ่านการ์ตูนมาก และติดวีดีโอเกมส์ ในสมุดที่ระลึกจบการศึกษาของโรงเรียน เต็มไปด้วยภาพฮีโร่การ์ตูน โดยเขียนข้อความสั้น ๆ ห้วน ๆ ไว้ใต้ภาพเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ว่า " ครู้ก " แปลว่า”วายร้าย" ไว้ด้วย

โทโมฮิโระ คาโต้ได้เขียนข้อความผ่านทางอินเตอร์เน็ตในวันหนึ่งของเดือนพฤษภาคมล่วงหน้าก่อนวันเกิดเหตุ 1 เดือน ข้อความระบุว่า เขาต้องการขับรถไล่ขยี้ผู้คนให้ตาย หรือไม่ก็ใช้อาวุธสังหารผู้คนเสียเลย ขณะที่อีกข้อความหนึ่ง เขียนขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ค.มีข้อความว่า “หายนะในอากิฮาบาระ” และเตือนว่า "เหตุการณ์กำลังใกล้จะเกิดในไม่ช้า" กับมีคำว่า “ลาก่อนทุกคน” (ภายหลังคาโต้ยอมรับกับตำรวจว่า เขาส่งข้อความนี้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือคนอื่นหลายรายด้วย และตอนแรกตั้งใจจะขับรถพุ่งชนคน แต่ไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนไปใช้มีดไล่จ้วงแทงแทน) แต่ไม่มีใครสนใจมากนัก เพราะนึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่น และแล้ววันนั้นก็มาถึง.........

วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ก่อนที่คาโต้จะก่อเหตุสังหารหมู่ เขาได้ท่องเน็ตเพื่อโพสต์ข้อความแปลก ๆ บรรยายถึงความโกรธ ความเหงา และบอกความคืบหน้าในปฏิบัติการฆ่าหมู่ ไว้ตั้งแต่ตี 5 และโพสต์ข้อความสุดท้ายเมื่อตอนเที่ยง ๆ โดยข้อความมีดังต่อไปนี้

- เวลา 5:21 ตอนเช้าวันอาทิตย์ “ฉันจะไปอากิฮาบารา เพื่อฆ่าคน ฉันจะขับรถบรรทุกชนคนพวกนั้นและใช้มีด แต่ตอนนี้ฉันขอบายก่อน เพราะฉันเหนื่อย”
- เวลา 6:31 a.m. “ใกล้ถึงเวลาที่ฉันจะออกไปแล้ว”
- เวลา 9:48 a.m. "ฉันไปถึงคานางาว่าแล้ว ได้พักห้องพักที่เหลือ"
- เวลา 11:45 a.m. "ฉันเอื้อมถึงอากิฮาบารา คิดว่าวันนี้คนช่างพลุกพล่านจริง ๆ”
- เวลา 12:10 p.m. “ใกล้จะถึงช่วงเวลานั้นแล้ว”

และ 20 นาทีต่อมา เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริง ...เวลา 12:33 วันนั้นอากิฮาบาราเต็มไปด้วยฝูงชนเพราะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด หลายคนต่างเข้ามาจับจ่ายซื้อของดีราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือการ์ตูนทั้งหลายแหล่ จากนั้น.......คาโต้ได้ทำตามคำที่เขียนไว้ในเน็ตจริง ๆ เขาได้ขับรถบรรทุกหนักสองตันจากเมืองซูซาโนะ ไปยังกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร วิ่งฝ่าฝูงชนบนถนนอากิฮาบาราทั้ง ๆ ที่ถนนเส้นนั้นถูกปิดไว้ไม่ให้รถขนาดใหญ่ขับผ่านเพื่อความสะดวกแก่คนเดินเท้า แต่คาโต้ไม่สนคำเตือน และผ่าสัญญาณไฟจราจร รถเฉี่ยวแท็กซี่ไปนิดนึง และจากนั้นก็พุ่งชนเข้ากับฝูงชนที่เดินเท้าในบริเวณนั้นเข้าอย่างจัง!!

เสียงร้องตกใจดังระงม บางคนหนีจากเหตุการณ์ ในขณะที่บางคนทำตัวเป็นไทยมุงจ้องมองเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างใจเย็น จากนั้นคาโต้ก็หยุดรถ และกระโดดลงจากรถ ไล่จ้วงแทงเหยื่อแบบไม่เลือกหน้าอย่างบ้าคลั่ง โดยภายหลังมีการสรุปเหตุการณ์จนได้รายชื่อผู้เสียชีวิตซึ่งมีดังต่อไปนี้

· คาซึโนริ ฟุจิโนะ (Kazunori Fujino) อายุ 19 ปี
· ทาคาฮิโระ คามากุจิ (Takahiro Kamaguchi) อายุ 19 ปี
· คัทสึฮิโกะ นาคามูระ (Katsuhiko Nakamura) อายุ 74 ปี
· นาโอกิ มิยาโมโตะ (Naoki Miyamoto) อายุ 31 ปี
· มิทซึรุ มัตสุอิ (Mitsuru Matsui) อายุ 33 ปี
· คาซึฮิโระ โคอิวะ(Kasuhiro Koiwa) อายุ 47 ปี
· มาอิ มุโตะ (Mai Muto) อายุ 21ปี

โดยผู้ตายเป็นชาย 6 คน และหญิง 1 คน นอกจากนั้นมีอีก 10 รายที่บาดเจ็บ ผลจากการชันสูตรพบว่าเหยื่อ 3 รายข้างต้นตายเพราะถูกรถบรรทุกพุ่งชนอย่างจัง และอีก 4 รายถูกมีดแทงจนถึงแก่ความตาย กลับมาที่คาโต้ในขณะที่เขากำลังไล่ล่าคนอื่นนั้น มีข่าวว่าตำรวจที่เห็นเหตุการณ์ใช้กระบองหวดเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่สะดุ้งสะเทือน จนตำรวจต้องไล่ต้อนเขาไปที่มุมในซอยแคบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้ปืนไปที่เขาสั่งให้มอบตัว คาโต้ไม่คิดต่อสู้ เขาวางมีดลง และยอมให้จับ เป็นอันจบเหตุการณ์สังหารหมู่ที่เกิดขึ้นเพียง 3 นาทีเท่านั้น

จากการสอบปากคำคาโต้บอกว่า เขาแค่รู้สึกเบื่อกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เบื่อหน่ายชีวิตและไม่ได้มีเหตุจูงใจอื่นใด นอกจากอยากฆ่าใครก็ได้ที่พบ มีดนั้นเขาซื้อหลังจากสองวันก่อนเกิดเหตุการณ์ในร้านขายอาวุธทหารแถวฟุคุอิเมื่อ12:40 นาฬิกา (โทรทัศน์วงจรปิดจับภาพเขาตอนคุยกับพนักงานขายในร้านไว้ได้) จากนั้นเขาก็เช่ารถบรรทุกเพื่อไปก่ออาชญากรรมในเวลาต่อมา จากนั้นตำรวจก็ตรงเข้าค้นอพาร์ตเมนท์ และพบชุดมีดอีกจำนวนมากอยู่ภายในห้อง

10 มิถุนายน ตำรวจส่งโทโมฮิโระ คาโต้ไปยังสำนักงานของอัยการเขตโตเกียว เขาถูกตั้งข้อหาฆ่าคน 7 ราย จนถึงขณะนี้คาโต้ยังอยู่ในการสอบสวนในชั้นศาล โดยโทษที่เขาได้รับอาจถึงขั้นประหารชีวิต

หลังเกิดเหตุสังหารหมู่อากิฮาบารา แน่นอนข่าวนี้โด่งดังไปทั่วโลกทันที เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอาชญากรรมนองเลือดที่สุดในรอบ 7 ปีของประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลกต่างจับตามองญี่ปุ่นในเรื่องว่าเป็นประเทศที่สุขภาพจิตไม่ดีอยู่แล้ว และกำลังรออยู่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร แม้จะเป็นประเทศที่มีอาชญากรรมเกิดขึ้นน้อยก็เถอะ แต่เกิดแต่ละทีดังข้ามโลกแบบนี้ มันก็ไม่ไหวนะ

ส่วนประชาชนนั้นไม่ต้องพูดถึง ทั้งหมดต่างนำดอกไม้ ขนม และภาพการ์ตูน มาแสดงการไว้อาลัยให้แก่เหยื่อที่เสียชีวิตในย่านดังกล่าว แน่นอนกลุ่มโอตาคุหลังทราบข่าวว่ามีการกล่าวว่าโทโมฮิโร คาโต้เป็นพวกโอตาคุ (คือเป็นพวกคลั่งไคล้การ์ตูน) ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า "อย่าโทษโอตากุ โอตากุหลายคนก็เป็นคนดีเหมือนกัน”

นอกจากนั้นจากรายงานของหนังสือพิมพ์เกียวโดนิวส์ และซานเคอิชิมบุน (Sankei Shimbun) อ้างข้อมูลจากสำนักงานตำรวจโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า ตั้งแต่โทโมฮิโระ คาโต้บ้าคลั่งใช้มีดใล่แทงฝูงชนที่กำลังเดินอยู่ในย่านอากิฮาบาระ ตำรวจญี่ปุ่นก็ได้รับแจ้งเหตุให้ตรวจสอบข้อความขู่ฆ่าซึ่งปรากฏในเว็บบอร์ดตามเว็บไซต์ราว 200-300 ข้อความในเวลาไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งเป็นข้อความลักษณะคล้ายคลึงกับที่คาโต้เคยเขียนไว้ โดยส่วนใหญ่เป็นการโพสต์เพื่อเล่นสนุก โดยสามารถจับกุมมือโพสต์กว่า 20 รายได้ในข้อหาข่มขู่และสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้สาธารณชน

หนึ่งใน 20 รายที่ถูกจับกุมคือชายวัย 29 ปีที่โพสต์ข้อความว่า "ผมกำลังไปย่านอิคิบุกุโร (Ikebukuro) และจะฆ่าคนให้ได้ 100 คน" ซึ่งโพสต์ข้อความป่วนเพียง 1 วันให้หลังจากเหตุการณ์จริง ไม่มีจิตสำนึกไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตแม้แต่น้อย

ล่าสุดตำรวจโตเกียวได้ส่งตัวเด็กหญิงวัย 16 ปีเข้าสู่ศาลครอบครัวและเยาวชน ในข้อหาโพสต์ข้อความขู่ฆ่าฝูงชนในย่านชิบูย่า (Shibuya) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเด็กหญิงรายนี้โพสต์ข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือว่า "ฉันจะฆ่าทุกคนและจะฆ่าตัวตายตาม ฉันรักคุณคาโต้ คุณเท่มาก" เด็กหญิงจิตไม่ปกติรายนี้โพสต์ข้อความ 28 ครั้ง ตลอด 2 วันหลังเกิดเหตุฆ่าหมู่ที่อากิฮาบาระ ยังไม่มีรายงานการพิจารณาคดีในขณะนี้ ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นหลังเกิดเหตุการณ์นี้ได้เสนอกฎหมายควบคุมอาวุธและเพิ่มความปลอดภัยกับสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านมากขึ้น โดยประกาศให้ศูนย์การค้าในเมืองใหญ่ ๆ ให้ปิดทำการในวันอาทิตย์ และวันหยุดต่าง ๆ จนกว่าจะติดตั้งเครื่องมือเพื่อป้องกันอันตรายครบทุกจุด ทั้งนี้โดยหวังว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต..............

Cr. Cammy // Dek-D.com

Create Date : 29 สิงหาคม 2557
Last Update : 24 ธันวาคม 2557 16:22:55 น.		0 comments
Counter : 3094 Pageviews.
Share Tweet