4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
ขุมทรัพย์จอมสลัด



ใครจะคิดบ้างว่า บนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้จะมีความลึกลับดำมืดที่คลี่คลายไม่ออกแฝงซ่อนเร้นอยู่เป็นอันมาก โลกทุกวันนี้เจริญรุดหน้าด้วยวิทยาการจนสามารถเดินทางออกไปค้นหาเพื่อนบ้านที่อยู่ต่างดาวได้ แต่ความลับของโลกที่เราอาศัยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน กลับไม่มีใครสามารถใช้วิทยาการเหล่านั้นไขมันออกได้บ้างเลย ดังเช่นความลับของขุมทรัพย์จอมสลัดที่จะกล่าวสถึงต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง

ฝรั่งเรียกขุมความลับแห่งนี้ว่า "หลุมเงิน" (Money pit) เป็นโพรงลึกแทบไม่มีก้น ขุดไว้โดยน้ำมือมนุษย์ตั้งแต่เมื่อใดไม่ปรากฏ แต่เข้าใจกันว่าคงเป็นสมัยโจรสลัดเรืองอำนาจอยู่ในท้องทะเลหลวงนั่นเอง และจุดมุ่งหมายที่ขุดไว้เพื่อเก็บซ่อนทรัพย์สมบัติที่ปล้นได้มา ถ้าใครไปค้นพบเข้าก็นอนใจได้เลยว่าความเป็นมหาเศรษฐีอยู่แค่เอื้อมมือแล้ว จึงมีผู้ไปเสาะแสวงค้นหาขุมทรัพย์ซึ่งเชื่อว่าคงซุกซ่อนอยู่ใต้หลุมลึกนั้นมากมายหลายหมู่คณะ นับตั้งแต่ที่มีผู้พบเห็นกันเป็นครั้งแรกคือ ค.ศ. 1795 เป็นต้นมา ทว่า สืบมาจนถึงบัดนี้เกือบสองปีแล้วก็ยังไม่มีผู้ใดค้นพบทรัพย์สมบัติ หรือค้นหาก้นของโพรงซ่อนเงินนี้สำเร็จเลย..ความลับก็ยังคงลึกลับอยู่ต่อไปอีกนานเท่าใดก็ยากจะรู้ เพราะเดี๋ยวนี้ดูเหมือนผู้คนจะราข้อยอมแพ้ความลับนี้ ไม่ลงทุนลงแรงไปขุดค้นอีกเลย



ขุมความลับมันนี่ พิทที่ว่านี้อยู่ในเกาะโอ๊ค นอกฝั่งโนวาสโกเชียของแคนาดาออกไปไม่มากนัก ผู้พบกลุ่มแรกได้แก่ หนุ่มอายุ 16 ปีชื่อ แดเนียบ แม็คกินนิส วันหนึ่งในปี ค.ศ. 1795 (พ.ศ. 2338) เขาล่องเรือแคนูไปตามอ่าวมาโฮนี จนลุถึงเกาะเล็ก ๆ ที่มีต้นโอ๊คขึ้นเต็ม จึงแวะขึ้นที่นั่นและตรงกลางเกาะซึ่งเป็นที่ราบปราศจากพืชรกรุงรังนั่นเอง เด็กหนุ่มก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเป็นครั้งแรก นั่นคือบนกิ่งโอ๊คใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งขึั้นตระหง่านอยู่กลางลานเรียบเกลี้ยง มีเศษวัตถุคล้ายหมุดตอกเรือขนาดใหญ่แขวนติดกับเชือกคล้องอยู่บนกิ่ง ห้อยปลายที่ผูกหมุดเรือนั้นลงสู่พื้น ซึ่งแดเนียลสังเกตเห็นว่ามีรอยถูกขุดและกลบไว้อย่างหยาบ ๆ แน่นอนเขาเข้าไปคุ้ยดูความอยากรู้อยากเห็น และพบว่าภายใต้นั้นคือหลุมลึกดำมืดหลุมหนึ่ง

แดเนียล แม็คกินนิสแน่ใจว่ามาพบหลุมสมบัติเข้าให้แล้ว วันรุ่งขึ้นจึงไปชวนพรรคพวกอีก 2 คนมาช่วยกันขุด การค้นหาสมบัติบันลือโลกที่ต้องเปลืองทั้งแรงงานแรงเงินก็เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กหนุ่มทั้ง 3 ขุดลงไปประมาณ 10 ฟุต ก็พบแผ่นกระดานหนามาก กว้างตั้ง 13 ฟุตขวางอยู่ และทุก ๆ ระยะ 10 ฟุตลึกลงไปเป็นต้องพบกระดานหรือซุงขนาดใหญ่ขวางไว้ทุกทีจนกระทั่งหมดเรี่ยวแรงไปตาม ๆ กัน เด็กหนุ่มทั้ง 3 ก็เลยยอมแพ้เลิกขุดและพากันกลับ แต่ก็ยังตั้งใจว่าจะกลับมาใหม่อีกครั้งเมื่อเขาพร้อมแล้ว 

อีก 9 ปีต่อมา ทั้งสามก็กลับคืนสู่โอ๊คไอส์แลนด์จริง ๆ คราวนี้ทุกคนเติบโตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วพกเงินทองเป็นทุนรอนมาด้วยพอสมควร เมื่อขุดขุมทรัพย์ลี้ลับนั้นลงไปจนถึงระยะ 90 ฟุต ทุกคนก็ได้รับความตื่นเต้นดีอกดีใจกันขนานใหญ่ ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติมหาศาลอยู่ที่นั่น สิ่งที่ขุดไปนั้นเป็นเพียงแผ่นหินเรียบกว้างที่ปิดขวางทางไว้แผ่นหนึ่ง บนแผ่นหินจารึกอักษร อ่านได้ความว่า "ลึกลงไปอีก 40 ฟุตจะพบสมบัติมูลค่าสองล้านปอนด์ซ่อนอยู่" 



"เรารวยแน่แล้ว" แดเนียล แม็คกินนิสร้องบอกเพื่อนฝูงด้วยความดีอกดีใจจนเนื้อเต้น ขณะนั้นเป็นเวลาค่ำของวันเสาร์ แดเนียลจึงคิดจะหยุดฉลองชัย 1 วัน พอถึงวันจันทร์ค่อยกลับมาขุดเอาทรัพย์สองล้านปอนด์ไป เพราะว่า "ยังไง ๆ เงินมันก็นอนรออยู่ที่นี่แหละน่า" เขาบอกกับเพื่อน ๆ อย่างนั้น แต่แล้วราวกับฟ้าผ่าโครมลงมาในเข้าวันจันทร์นั่นเอง เพราะหลุมที่ขุดไว้ในคืนวันเสาร์นั้นบัดนี้เจิ่งนองไปด้วยน้ำจังซึ่งไม่รู้ว่ามันเป็นน้ำจากที่ไหน ในเมื่อไม่มีฝนตกเลยแม้แต่น้อยนิด 
ทุกคนไม่สิ้นหวังต่างก็ลงแรงขุดหลุมขึ้นอีกข้าง ๆ ขุมทรัพย์นั้นเพื่อระบายน้ำในขุมเงินออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล น้ำระบายออกไปได้ครู่เดียวก็เอ่อขึ้นมาใหม่จนไม่สามารถลงไปค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้แผ่นหินเกลี้ยงนั้นได้เลย แดเนียลกับสหายจึงต้องรามือกลัวไปด้วยความผิดหวังอย่างแรง

ขุมทรัพย์ลี้ลับของใครก็ไม่ทราบนั้นถูกทอดทิ้งอยู่เดียวดายกลางเกาะโอ๊ค ต่อมานานถึง 45 ปีจึงมีบุคคลอีกคณะหนึ่ง นำโดยหนึ่งในจำนวนสองสหายของแดเนียล แม็คกินนิสกลับไปขุดหาทรัพย์สมบัติตามคำจารึกนั้นอีกในปี ค.ศ. 1849 คราวนี้มีการวางแผนกันอย่างละเอียดรอบคอบ สามารถค้นพบว่า ขุมทรัพย์นั้นมีทางติดต่อกับทะเลที่อ่าวสมิธโค๊ฟได้ จึงต้องทำเขื่อนดินขึ้นกั้นน้ำทะเลไม่ให้ไหลเข้าไปสู่ขุมทรัพย์ที่กำลังขุดลึกลงไปตั้ง 97 ฟุตได้ แต่แล้วน้ำทะเลก็ซัดเอาเขื่อนพังหมด ทุกคนไม่ละความพยายามขุดเป็นปล่องเพื่อระบายน้ำทะเลออกไปทางอื่น แต่ขุมทรัพย์ก็ยังมีน้ำขังอยู่เช่นเดิมไม่มีวันแห้ง ในที่สุดคณะค้นหาสมบัติรายนี้ก็ต้องยอมแพ้ไปอีกครั้ง

หลังจากนั้น ก็มีคณะค้นหาสมบัติพากันไปขุดอีกมากมายหลายคณะ เท่าที่มีการจดบันทึกไดว้ได้แก่ บริษัทโอ๊คไอส์แลนด์เอลโดราโ้คอมปานี ไปขุดหาสมบัติในปี ค.ศ. 1866 ไม่สำเร็จเหมือนรายแรก ๆ ต่อมาในปี 1894 บริษัทโอ๊คไอส์แลนด์เทรเซอร์ส์คอมปานี ก็ออกทำการขุดค้นอีกคราวนี้ทำทั้งเขื่อนกั้นน้ำ และขุดอุโมงค์ผันน้ำด้วยเสร็จสรรพเพื่อเอาชนะหลุมเงินมันนี่พิทให้จงได้ น้ำไหลเข้าท่วมหลุมสมบัติอีกตามเคย บริษัทนี้ต้องเลิกกิจการไปอย่างสิ้นเนื้อประดาตัว

ในปี ค.ศ. 1938 และ 1942 ก็มีคณะบุคคลอีก 2 คณะ ไปขุดหาสมบัติกันอย่างเอิกเกริกลงเอยด้วยความล้มเหลวเหมือนรายอื่น ๆ แต่ในช่วงเวลานี้ ได้มีการศึกษาและค้นคว้ากันยกใหญ่ถึงที่มาและเจ้าของขุมทรัพย์มันนี่พิท จนกระทั่ง ค.ศ. 1929 เฮอร์เบิร์ต ปาร์เมอร์ ทนายความชื่อดัง จึงพบแผนที่โบราณมากสามฉบับซ่อนอยู่ในหีบสมบัติเก่าแก่ภายในห้อง ซึ่งกล่าวกันว่า กัปตันคิดด์ จอมสลัดลือนามเป็นเจ้าของ

แผนที่โบราณนั้นแสดงที่ตั้งเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในทิศทางและมีรูปร่างลักษณะเหมือนเกาะโอ๊คไม่มีผิด เรื่องนี้จึงไปถึงมือผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิสูจห์หาข้อเท็จจริงและก็ตื่นเต้นเกรียวกราวกันใหญ่ เมื่อผู้เชี่ยวชาญการแผนที่โบราณแห่งพิพิธภัณฑ์เมืองอังกฤษยืนยันว่า แผนที่เก่าแก่ที่เฮอร์เบิร์ต ปาร์เมอร์ค้นพบนั้น เป็นแผนที่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 จริง และยังมีการยืนยันต่อไปด้วยว่า ลายมือที่ขีดเขียนอักษรบนแผนที่ก็เป็นลายมือกัปตันคิดด์จอมสลัดชื่อดังจริง ๆ ด้วย



อันว่า กัปตันวิลเลี่ยม คิดด์ ผู้นี้ ใคร ๆ ก็รู้จักดีว่าเป็นจอมสลัดชื่อดังที่ขึ้นล่องมาสมุทรแอตแลนดิก ออกปล้นสะดมเรือสินค้าและเรืออื่น ๆ จนเป็นที่คร้ามเกรงของคนทั่วไป แต่ถึงจะเก่งกาจอย่างไรก็ตาม จอมสลัดผู้นี้ก็ถูกจับได้ และถูกตัดสินแขวนคอในปี ค.ศ. 1701

ว่ากันว่าก่อนตายกัปตันคิดด์ได้ลั่นวาจาเป็นคำสาปแช่งอันน่ากลัวว่า "ใครบังอาจไปขุดหาขุมสมบัติของข้า จะได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาหัส" ไม่มีใครรู้เลยว่า กัปตันจอมสลัดซ่อนทรัพย์สมบัติที่ตีชิงปล้นมาไว้ที่ไหน? ก็เลยเดาเอาว่าคงซ่อนไว้ในขุมทรัพย์มันนี่พิทที่เกาะโอ๊คนี่แหละ เมื่อรู้ความจริงกันอย่างนี้แล้ว ใครต่อใครก็พากันออกค้นหาสมบัติเป็นการใหญ่ยิ่งขึ้น เพราะแน่ใจว่าสมบัติของกัปตันคิดด์นั้นมีจำนวนมหาศาลแน่นอน แต่ดูเหมือนคำสาปประจำขุมทรัพย์ของกัปตันจะเป็นความจริงขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะในปี ค.ศ. 1965 นั่นเอง ขุมทรัพย์อาถรรพ์ก็กลืนชีวิตนักค้นหาสมบัติรวดเดียว 4 ชีวิต เมื่อปั๊มน้ำในหลุมระเบิดขึ้นขณะทำการขุดค้นหาสมบัติกันอยู่ 

ต่อในปี 1976 นักธุรกิจจากมอนทรีอัลจำนวน 12 คน ก็รวมทุนกันกว่าสองแสนคน ก็รวมทุนกันกว่าสองแสนปอนด์ ตั้งเป็นบริษัทไทรทันอัลไลแอนซ์ ออกทำการสำรวจค้นหาวิธีขุดสมบัติขึ้นจากก้นหลุมด้วยเทคนิควิชาการอันทันสมัยที่สุด เป็นเวลานานถึง 4 ปี จึงขุดลึกถึง 212 ฟุต และใช้กล้องถ่ายโทรทัศน์จับภาพใต้ก้นหลุมนั้น สิ่งที่กล้องถ่ายออกมาได้นั้นน่าพิศวงเป็นอันมาก นั่นคือ เป็นภาพเลือน ๆ ของกล่องไม้แบบโบราณขนาดมหึมา 3 ใบ ขวานแบบเก่า 1 เล่ม และสิ่งสุดท้ายที่พบในภาพ ทำให้ทุกคนสะดุ้งไปตาม ๆ กัน มันเป็นมือข้างหนึ่งที่อยู่ในลักษณะกำครึ่ง ๆ วางอยู่บนพื้นลักษณะถูกตัดขาดแค่ข้อมือ!!

สิ่งอื่น ๆ ที่ขุดพบได้แก่เศษไม้จากซากเรือสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 และเศษเหล็กจากซากเรือลำเดียวกัน คณะขุดสมบัตินำส่วนที่พบนี้ส่งห้องทดลอง และนักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการทดสอบหาอายุด้วยกรรมวิธีทันสมัยพบว่า มันมีอายุประมาณ 250 ปี แต่ก็เพียงเท่านั้นเองที่คณะค้นสมบัติรายนี้ค้นพบ เทคนิคและวิชาการแผนใหม่ไม่ช่วยให้ขุดสมบัติขึ้นจากหลุมอาถรรพณ์ได้เลย ผู้ที่เชื่อไสยศาสตร์ต่างก็พากันกล่าวว่า คำสาปแช่งของกัปตันคิดด์นั้นฉมังนัก จะไม่มีใครได้สมบัติของเขาเป็นอันขาด ถ้ากัปตันไม่ยินยอม

ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ก็ยังมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับความลับของขุมสมบัตินี้อยู่ ส่วนมากเชื่อว่าเป็นขุมสมบัติของกัปตันคิดด์จอมโจรสลัดแน่ ๆ แต่หลายรายยังสงสัยอยู่ โรแบร์ ฟรู์ไนซ์ นักเขียนชื่อดังสรุปเป็นทฤษฎีต่างจากคนอื่นว่า เขาชื่อว่า ขุมความลับมันนี่พิทนี้ถูกขุดขึ้นในสมัยสงครามอิสรภาพระหว่างอังกฤษและอเมริกาในราวปี ค.ศ. 1788 เซอร์ เฮนรี่ คลินตัน เป็นผู้ขนสมบัติมหาศาลซึ่งส่วนมากเป็นทองที่ใช้ในกองทัพ ไปซ่อนไว้ในหลุมดังกล่าวนี้เพื่อจะมาขุดเอาไปในภายหลัง ซึ่งก็ไม่มีใครทราบว่า ทองมหาศาลนั้นท่านเซอร์ให้ใครมาขุดเอาไปแล้วหรือยัง?

ขุมทรัพย์มันนี่พิทจึงเป็นสิ่งท้าทายนักแสวงหาโชคและนักแสวงหาเรื่องลี้ลับอยู่เสมอ จนกว่าจะมีใครสักคนประสบความสำเร็จลงไปสำรวจก้นหลุมได้สำเร็จ และยกเอาหีบโบราณที่ถ่ายรูปได้นั้นขึ้นมาเปิดพิสูจน์...แต่ว่าใครล่ะจะทำได้ในเมื่อการค้นหาความลับนี้ต้องใช้ทุนรอนไม่น้อยเหมือนกัน 


ที่มา : ต่วย'ตูนพิเศษ ปีที่ 40 ฉบับที่ 480 เดือนกมภาพันธ์ 2558 











Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 3 มิถุนายน 2558 16:14:10 น. 0 comments
Counter : 2862 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.