จอห์น โรบินสัน เกิดใน 27 ธันวาคม 1943 ที่เมืองอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ปี 1943 มีชื่อเต็มว่า จอห์น เอ็ดเวิร์ด โรบินสัน ฉายาของเขาคือ เจ้านายทาส (Slave Master) เป็นฆาตกรต่อเนื่องสังหารผู้หญิง 8 ราย ในระหว่างปี 1984-1999 ในแคสซัส อเมริกา ถูกจับเมื่อ 2 มิถุนายน 2000 ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง เขาทำได้อย่างไรที่สามารถหลบหนีตำรวจมายาวนานถึง 15 ปี จอห์น โรเบิร์ตสันในอดีตนั้นเคยเป็นลูกเสือดีเด่น เขาเคยได้เข้าร่วมกิจกรรมมากมาย ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าร่วมคอนเสิร์ตของควีนอลิซาเบธที่ 2 ที่ลอนดอน และได้เรียนมหาลัยที่ชิคาโกแต่เนื่องด้วยเขายากจนและขาดวินัย ทำให้ไม่ได้ศึกษาต่อ จากนั้นชีวิตของเขาก็เริ่มตกต่ำมีชีวิตเข้า ๆ ออก ๆ คุกประจำ ในข้อหาคดีเล็กน้อย เช่น ปลอมลายเซ็น ปลอมเอกสาร ต่อมาเขาก็มีอาการทางจิตบ่นว่าชอบหน้าอกของผู้หญิงจนต้องขอคำแนะนำจากแพทย์ แม้โรบินสันจะมีงานทำ เป็นพ่อลูกสี่ แต่กระนั้นในปี 1995 โรบินสันซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และเริ่มติดต่อขอผู้หญิงเป็นเพื่อน เขาใช้ชื่อ The Slave Master แทนชื่อจริงเพื่อใช้ในการติดต่อ โดยหัวข้อส่วนใหญ่ที่เขาคุยกับผู้หญิงทางโทรศัพท์คือประสบการณ์ BNSM ของเขา
เกร็ดความรู้
BNSM เป็นตัวย่อ โดย...
- B = ย่อมาจาก bondage มีความหมายว่า ความเป็นทาส หรือการผูกมัด พันธนาการ ศัพท์นี้น่าสนใจคือมันมีที่มาจากยุโรปยุคศตวรรษที่ 19 ที่มีความเชื่อว่าผู้ปกครองจะนิยมมัดมือของบุตรชายเพื่อไม่ให้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เนื่องจากเชื่อว่าถ้าสำเร็จความใคร่จะทำให้ตาบอดและกลายเป็นคนวิกลจริต
- D = ย่อมาจาก discipline การทำให้มีระเบียบวินัย โดยการทำโทษให้อีกฝ่ายเกิดความหวาดกลัว โดยการลงโทษนี้เพื่อความเสน่หาไม่ได้ก้าวร้าวแต่อย่างใด
- S = ย่อมาจาก sadism การมีความสุขหรือพึงพอใจจากการทรมานผู้อื่นก็มีที่มาจากหนัง The 120 Days in Sodom เป็นนิยายเรื่องเอกและโด่งดังมากของมากีย์ เดอ ซาด ซึ่งต่อมามีผู้กำกับชื่อดังชาวอิตาเลียนชื่อ ปิแอร์ เปาโล รอสโซลินี นำมาทำเป็นภาพยนตร์ ในชื่อ Salo ดีขนาดที่ว่าหลังจากออกฉายได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ได้มีคนดูที่อินจัดจนต้องฆ่ารอสโซลินีให้ตายคามือ จึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของเขา อย่างน่าเสียดาย
- M = ย่อมาจากmasochism การมีความสุขหรือพึงพอใจจากถูกทรมานหรือทำให้ความเจ็บปวด คำนี้มีที่มาจากชื่อนักเขียนที่ชื่อ ลีโอโพลด์ ฟอน ซาเซอร์-มาชอก (Leopold Von Sacher Masoch ) (1836-1905) ชาวออสเตรีย งานเขียนที่สำคัญ คือ Venus in the Furs (1846) นำเสนอเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่นชอบการยินยอมเป็นทาสในการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวคนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อคลุมขนสัตว์และมีท่าทางเหมือนราชินี