4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
ทรามวัยกับคนใจทราม

ตะวันขึ้นสูงเหนือเคลียร์ ครีค แคนยอน แล้วในวันที่ 31 พฤษภาคม 1997 เบื้องล่างลงไป รถมัสแตงสีแดงเพลิงคันหนึ่งค่อย ๆ ตีโค้งไปตามถนนขนาด 2 ช่องเดินรถของทางหลวงหมายเลข 6 ห่างจากเมืองโกลเด้น มลรัฐโคโลราโด้ ไปทางตะวันตกเพียงไม่กี่ไมล์ ทั้งคนขับและผู้ดดยสารที่นั่งมาต่างเป็นนักศึกษาวิทยาลัย ที่กำลังบ่ายหน้าจะไปเล่นการพนันที่เซ็นทรัลซิตี้ แต่เพราะความงามของทัศนียภาพเรียกร้องให้พวกเขาหยุดรถเพื่อชมความความงามพวกเขาจึงหยุดรถบนไหล่ทางเพื่อชมความงามของเคลียร์ ครีค ฝั่งหินโอบเบื้องล่างถูกน้ำเซาะกัดจน เว้า ๆ แหว่ง ๆ มีต้นโอ๊คแคะแกร็นยืนต้นอยู่เป็นหย่อม ๆ ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งร้องตะโกนชี้มือไปข้างล่าง "ดูสิมีร่างคนอยู่ข้างล่าง" ร่างที่เขาเห็นท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างสวมกางเกงยีนส์ ลำตัวนอนพาดอยู่ขอบฝั่งส่วนศรีษะลอยเรี่ยอยู่ในน้ำ กลุ่มนักศึกษารีบวิ่งไปที่ถนนเพื่อโบกรถที่ผ่านไปมา มีรถหลายคันจอด และพยายามใช้มือถือโทรแจ้งตำรวจ แต่กำแพงแบล๊คแคนยอนที่สูงใหญ่บดบังสัญญาณไปจนหมดสิ้น รถคันหนึ่งจึงตัดสินใจเร่งความเร็วออกไปเรียกตำรวจ และเพียงไม่กี่นาที ตำรวจกว่า 20 นายก็มาถึงที่เกิดเหตุ

ไดแอน ออบีมา เป็นผู้ช่วยนายอำเภอคนแรกที่มาถึงที่เกิดเหตุ เธอค่อย ๆ ไต่หน้าผาลงไปดูใกล้ ๆ แล้วเธอก็เห็นว่าเจ้าของร่างเป็นเพศหญิงไม่สวมรองเท้า
มือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยกุญแจมือแบบเดียวกับที่ตำรวจใช้ ผู้ตายอายุประมาณ 14 ปี สูง 5 ฟุต หนักประมาณ 100 ปอนด์ เธอถูกข่มขืนอย่างทารุณหลายครั้ง แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกสพรายงาน ใบหน้าบวมฉุ ที่หน้าอก 2 ข้างมีรอยถูกกัดอย่างแรงจนหัวนมเกือบขาด ที่แขน ขา และแผ่นหลัง มีรอยถลอกปอกเปิก อยู่เต้มไปหมด เธอถูกข่มขืนและถูกแทงด้วยใบมีดคมกริบ ถึง 28 ครั้ง แพทย์ผู้ชันสูตรศพเปิดเผยว่าช่องทวารหนักของผู้ตายฉีกขาดยับเยินจากวัตถุขนาดใหญ่ ซึ่งอาจเป็นด้ามไม้กวาด และยังถูกแทงซ้ำด้วยมีดอีกด้วย




วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน หญิงคนหนึ่งขับรถไปยังสำนักงานนิติเวชที่เจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี้ เพื่อตามหาลูกสาวที่หายไป ร่างที่ทอดยาวอยู่บนถาดในห้องเย็นไม่ใช่ "เจน โด " อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอมีชื่อผูกติดไว้แล้วว่า แบรนดี้ โรส ดูวัล แบรนดี้ ถูกแกงค์อันธพาลข้างถนนกระทำทารุณ และแกงค์ที่น่ากลัวที่สุดมีชื่อว่า "แกงค์ 7 ปีศาจ" แดนนี่ มาร์ติเนซ กับ อันโตนิโอ น้องชายเป้นแกนนำของแกงคื โดยมี แซมควินตาน่า ลูกพี่ลูกน้องและฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ที่ไม่ได้เกี่ยวดองเป็นญาติเลย เป็นลูกสมุน

 


อันโตนิโอ เคยถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานพินิจเด้กมาแล้วในข้อหาใช้อาวุธ ส่วนแดนนี่ ก้มีหมายจับในคดีหลบหนีการบำบัดยาเสพติด แวมควินตาน่า เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าชายคนหนึ่ง และทำร้ายสมาชิกร่วมแกงค์ 2 คนที่แตกแถว เมื่อเดือน กรกฎาคม 1996 นอกจากนี้ทั้ง 3 ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมกันสังหารสมาชิกร่วมแกีงอีกคนหนึ่งด้วย แต่ในครั้งนั้นยังไม่มีหลักฐานอะไรที่จะมัดปีศาจทั้ง 3 เข้ากับคดี แบรนดี้ ดูวัลได้ พนักงานกระจายกำลังสืบสวนเพื่อสอบปากคำ ด.ญ เพื่อนผุ้ตาย นักสืบเจฟฟรีย์ เพฟเลอร์ และดิ๊ก มัวร์ ได้คุยกับเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่งซึ่งได้พบกับ แบรนดี้เป็นครั้งสุดท้าย แพท โบว์แมน อยู่กับแบรนดี้ในคืนวันที่ 30 พ.ค. และยังเห็นแบรนดี้ เดินไปหยุดรอรถที่ป้ายรถประจำทาง แพทบอกว่าแบรนดี้แต่งกายด้วยเสื้อยืดของทีมชิคาโก้ บูลส์ สีแดงกางเกงขาสั้นสีเข้ม และรองเท้าผ้าใบยี่ห้อไนกี้ แล้วเสื้อผ้าทั้งหมดของแบรนดี้ หายไปไหนเล่า?

วันที่ 10 มิถุนายน นักสืบได้รับโทรศัพทร์จากผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม แจ้งว่า สมาชิกของแกงค์ 7 ปีศาจ และแกงค์เลือด ผลัดกันข่มขืนแล้วฆ่าแบรนดี้ ดูวัล ในคืนวันที่ 30 พ.ค เหตุเกิดในบ้านหลังหนึ่งที่ฮอว์ธอร์น เพลส ตะวันตก ในอดัมส์ เคาน์ตี้ ผุ้แจ้งเรื่องบอกเขาทรา
บเรื่องนี้จากชายชื่อ โฆเซ่ มาร์ติเนซ พนักงานสืบสวนจึงรุดไปพบ มาร์ติเนซถึงบ้านที่ ฮอว์ธอร์น เพลส ตะวันตกในวันที่ 12 มิถุนายน ด้านนอกบ้านมีรั้วลวดตาข่ายล้มเอียงกะเท่เร่อยู่รอบสนามรกเรื้อไปด้วยวัชพืชนานาชนิด รวมทั้งเศษขยะ กระป๋องเบียร์เกลื่อนกราด โฆเซ่ มาร์ติเนซยอมรับว่าเขาเห็นการข่มขืนด้วยตาตัวเองแต่เขายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วม ด้วยคนในกิจกรรมครั้งนี้มีทั้งหมดประมาณ 8-10 คน โดยที่ตัวเขาเองไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำนี้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเงื่อไขว่าหากเขาชี้ตัวผุ้ต้องหาทุกคนและให้ความร่วมมือจะไม่ตั้งขอหากับเขาและจะให้เขาอยู่ในโครงการคุ้มครองพยาน

 


โฉมหน้าฆาตกร

วันที่ 14 มิถุนายน 1997 โฆเซ่ ได้ชี้ตัว แดนนี่ มาร์ติเนซ พร้อมพี่น้อง มอริซ และเดวิด วอร์เรน จากรุปถ่ายในแฟ้มอาชญากร วันรุ่งขึ้นก้ชี้ตัว แฟรงกี้ ไวจิล วัย 16 ปี เพิ่มอีก 1 คนจากภาพถ่ายในแฟ้ม โฆเซ่ได้คุยกับ แซมมี่ ควินตาน่า ทางโทรศัพทร์ โดยตำรวจบันทึกเสียงเอาไว้ ภายหลังการสนทนา ตำรวจรู้สึกว่าคงมีหลักฐานพอแล้ว จึงจับกุมควินตาน่า และแฟรงค์ ไวจิล วันต่อมา ฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ซึ่งยังคงถุกควบคุมตัวที่เมืองเดนเวอรื ข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ก้ถุกตั้งข้อหาร่วมกันส่มรู้ร่วมคิดกระทำการฆาตกรรม เช่นเดียวกับพี่น้องตระกูล วอร์เรน และชายอีกคนชื่อ เจค คาซาโด ทั้งหมดถุกตั้งข้อหาเจตนาฆ่าคนตาย เจตนาข่มขืนกระทำชำเราทำอนาจารเด้กและพยายามลักพาตัว

ควินตาน่า ยอมรับสารภาพอย่างรวดเร็วว่ามีส่วนร่วมในการฆ่าและข่มขืน แต่ก็โยนความผิดส่วนใหญ่ให้กับ ฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ตามคำให้การของ ควินตาน่านั้น แบรนดี้ ดูวัล ถุกสมาชิกแกงคืเลือด 3 คน คือ 2 พี่น้อง เดวิส และมอรีช วอร์เรน กับ เจค คาซาโก ฉุดจากป้ายรถประจำทางแล้วไปที่พาไปที่บ้าน..จุดเริ่มต้นของความโหดร้ายกำลังจะเกิดขึ้นกับแบรนดี้ ดูวัล..

คนอื่น ๆ รออยู่ที่บ้าน โดยดื่มกินกันจนเมามาย เขาเล่าว่า มอริซ วอร์เรน เดินโอบแบรนดี้ เข้ามาในบ้าน แฟน ของ ฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ก็รออยู่ที่บ้านหลังนั้นด้วย เช่นเดียวกับแฟนของ แดนนี่ และ โฆเซ่ มาร์ติเนซ ควินตาน่าอ้างว่า เมื่อแบรนดี้เข้ามาถึง ดูเธอมึนเมาเกือบไม่ได้สติ เขาให้เธอ เสพ โคเคน ขณะที่ฟรานซิสโก ค่อย ๆ เปลืองผ้าเธอออก ฟรานซิสโก เป็นคนอุ้มแบรนดี้เข้าไปในห้องนอน และลงมือข่มขืนเธอเป็นคนแรก ตามด้วยควินตาน่า แบรนดี้ ถุก กักตัวไว้ ในห้องด้านหลังนานประมาร 2 ช.ม ขณะที่พวกเขาผลัดกันเรียงคิวเข้าไปข่มขืนเธอ ควินตาน่าบอก ตอนที่ควินตาน่ากลับเข้าไปเพื่อต่อ "รอบที่สอง" เขาเห้น ฟรานซิสโก กำลังข่มขืน แบรนดี้อยู่อีกครั้ง ควินตาน่า เล่าว่า ฟรานซิสโก ใช้ด้ามไม้กวาด ดัน เข้าไปใน ทวารหนักของแบรนดี้ จนทั้งเลือดทั้งอุจจาระ ไหลออกมาชุ่มโชกผ้าปูที่นอน แบรนดี้มีเลือดออกมาก ฟรานซิสโก จึงอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ ควินตาน่าตามไปดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือป่าว ก้ได้เห็นว่า ฟรานซิสโก กำลังนั่งคุกเข่าข้างเธอ เขอถือไม้ทะลวงท่ออยู่ในมือที่ด้ามไม้นั้นมีเลือดเปรอะอยู่เต็มไปหมด แดนนี่ มาร์ติเนซ ตามเข้ามาในห้องน้ำอีกคน แล้วอุ้มเธอกลับไปยังที่นอน วางเธอหงายบนเตียง แล้วลงมือข่มขืนเธออีก หลังจากนั้นก็ถึงรอบของแฟรงค์ ไวจิล ตอนที่แฟรงค์เดินออกมาจากห้องนอน เขาดูมีสีหน้ากังวลไม่น้อย และบอกกับคนอื่น ๆ ว่า พวกเราอาจต้องติดคุกกันทั้งหมดถ้าไม่ตัดสินใจ ฆ่าเธอซะ แดนนี่ มาร์ติเนซจึงถามขึ้นว่า มีใครมีปืน บ้าง แดนนี่ อุ้มเธอออกมาจากห้องนอน โดยมีกางเกงยันส์ตัวโคร่ง สวมติดกายอยู่ตัวเดียว ส่วนท่อนบนไม่ได้ปิดอะไร มือทั้งสิงข้างถุกใส่กุญแจมือไพล่หลัง เอาไว้ แดนนี่เอาเสื้อยืดคลุมหน้าเธอไว้ แล้วจับเธอนั่งพิงไว้ที่มุมห้อง เธอส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ เมื่อได้ยินว่าไอ้พวกตัวร้ายจะฆ่าเธอทิ้งซะ แดนนี่ มาร์ติเนซ เดินมายืนคร่อมเะอไว้ และเตะเข้าที่หน้าอกดังพลั่ก จนเธอล้มหมดสติลงไปกองกับพื้น

แดนนี่ กับฟรานซิสโก หิ้วเธอกลับไปที่ห้องน้ำใหม่ แล้วลงมือข่มขืนเธออีกครั้ง เมื่อแดนนี่เดิอนออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับลากแบรนดี้ที่ถูกใส่กุญแจมืออกมา เธอส่งเสียงคร่ำครวญว่า "ได้โปรดเถอะค่ะ พาหนูไปส่งโรงพยาบาลด้วย" แต่ แดนนี่กลับกระโดดเตะเข้าที่ศรีษะเธออย่างเต็มรัก แฟรงค์ ไวจิล ถามว่าเธอรู้ไหมว่าเธออยู่ที่ไหน เธอขมุบขมิบ ผ่านริมฝีปากที่บวมเจ่อว่า "เลขที่ 60 ถนนเฟดเดอรัล " และนั่นเท่ากับเธอประกาศิตความตายให้ตัวเองทันที แบรนดี้ได้ยินพวกเขาเรียกชื่อกันเองซ้ำยังเห็นหน้าพวกเขาหมดแล้วด้วย ทุกคนในนั้นจึงตกลงว่าต้องฆ่าเธอจริง ๆ แดนนี่ เป็นคนถอดรองเท้าและเสื้อผ้าเธอ รวมทั้งผ้าปูที่นอนที่ชุ่มไปด้วยเลือด แล้วเอาไปโยนไว้ในหลุมขยะหลังบ้าน ทีแรกพวกเขาว่าจะฝังเธอไว้หลังบ้าน และคิดกันว่าจะฆ่าเธอยังไงดี ระหว่างยิงทิ้ง แทงด้วยมีด ใช้รถทับ หรือบีบคอให้ตาย

ในที่สุดพวกเขาก็เอารถออก 2 คัน สมาชิกจากแกงค์ 7 ปีศาจ จำนวน 4 คน นั่งประกบแบรนดี้ไว้ที่เบาะด้านหลัง ทั้ง ๆ ยังมีเสื้อคลุมหัว และมือยังถุกใส่กุญแจมือไพล่หลังไว้ เดวิด และมอริช วอร์เรน ขับรถคันที่ 2 ตามไป เสียงเพลงจังหวะแร็พ ถูกเปิดดังลั่นทั่วภูเขา ขณะ
รถค่อย ๆ ไต่ขึ้นสูง ๆ แบรนดี้ยังพยายามดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน และร้องขอชีวิตของเธอ ฟรานซิสโกที่นั่งอยู่ข้างคนขับ ชะโงกหันหลังมามองเธอแล้ว เสือกมีดพรวดเข้าไปในช่องท้องเธอ ขณะที่รถบ่ายหน้าไปทางถนนสายที่ 6 นอกเมืองโกลเด้นแล้วเข้าทางหลักที่เคลียร์ ครีค แคนยอน 2 พี่น้องวอร์เรน กลับหายลับไปจากสายตา เพราะทั้งสองเปลี่ยนใจเลี้ยวรถกลับตั้งแต่มาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น การกระทำเช่นนี้ ฟรานซิสโก ถึงกับเอ่ยวาจาว่า ทั้ง 2 พี่น้องนั้นต้องตาย!! พวกที่เหลือลงจากรถ แล้วดึงแบรนดี้มาด้วย ฟรานซิสโกผลักเธอล้มคว่ำลงกับพื้น แล้วคว้ามีดแทงเธอที่ลำคอ แดนนี่ มาร์ติเนซ และแฟรงค์ ไวจิล เตะซ้ำเข้าที่สะโพก ส่วนควินตาน่า จิกผมเธอขึ้นมาจนหน้าหงาย ขณะที่ฟรานซิสโกแทงเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่านับครั้งไม่ถ้วน

"เรากลัวว่านังเด็กนั่นจะยังไม่ตาย" 
ควินตาน่าบอกกับตำรวจ ควินตาน่าให้การต่อไปว่า ตัวเขาและฟรานซิสโก เป้นคนจับแขนเธอคนละข้าง แล้วจับเธอเหวี่ยงลงหน้าผา เธอลอยละลิ่วเหมือนลูกบอลชายหาด กระแทกกับก้อนหินก้อนนั้นก้อนนี้ จนกระทั่งไปสงบนิ่งที่ชายน้ำ พวกเขาจึงรีบขึ้นรถแล้วขับหนีไป แต่ฟรานซิสโกนึกขึ้นได้ว่าเขาลืมมีดไว้ตรงนั้นจึงวกรถกลับไปเอามีดแล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน แบรนดี้ยังไม่ตาย เธอกระเสือกกระสนต่อสู้กับความตายอยู่อีกหลายนาที โดยพยายามปีนกลับมาข้างบน แต่แล้วก้ต้องหมดแรงหงายหลังผึ่งลงไปสิ้นใจอยู่ชายน้ำนั้นเอง คำให้การของควินตาน่าเป็นไปโดยสมัครใจ ดังนั้น เดวิด และมอริช วอร์เรน และเจค คาซาโด จึงต้องมีความผิดฐานข่มขืน และฆ่าคนตายโดยเจตนาไปด้วย ตามคำให้การของเดวิด เขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 32 ปี มอริช น้องชายเขารับโทษจำคุก 16 ปี ส่วนเจค คาซาโด ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมก๊วนคืนนั้น ต้องรับโทษจำคุก 20 ปี สำหรับการแสดงความเป็นชายในฐานะสมาชิกแกงค์ 7 ปีศาจเพียงคืนเดียว เป้าหมายที่สำคัญที่ยังเหลืออยู่ คือ ฟรานซิสโก มาร์ติเนซ และแฟรงค์ ไวจิล



อัยการเดวิด โธมัส ประกาศว่าเขาจะพยายามเสนอโทษประหารชีวิตให้คนทั้งสองนี้ให้ได้ ส่วนแดนนี่ มาร์ติเนซ หนีไปได้ไม่นานก้ถุกจับกุมตัวมาได้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1998 เพียง 5 วันก่อนวันพิจารณาคดีของแฟรงค์ ไวจิล หนุ่มวัยเพียง 16 ปี จะเริ่มขึ้นที่ศาลแขวง เจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี้ แม้ว่าไวจิลจะถูกพิจารณาคดีในศาลเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่เพราะอายุ เขาแท้ ๆ ที่ช่วยให้เขาพ้นโทษประหารมาได้..ที่นอกถนนมีเสียงลือแพร่สะพัดว่าแกงค์ 7 ปีศาจ จะตามสังหารทุกคนที่ให้การปรักปรำไวจิล หรือ ฟรานซิสโก มาร์ติเนซ สำหรับฝ่ายอัยการประกอบด้วยผู้ช่วยอัยการเขตมาร์ก แรนดัล, อินกริด เบคค์ และฮัล ซาเจนท์ ส่วนผู้พิพากษาที่ขึ้นบัลลังก์คือ ผุ้พิพากษาไมเคิล วิลลาโน หลังจากที่คณะลูกขุนได้รับฟังคำให้การของควินตาน่า และพยานปากอื่น ๆ แล้วต่างก็มีความเห็นพ้องต้องกันว่า แฟรงค์ ไวจิล มีความผิดจริง และสมควรรับโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์ได้รับทัณฑ์บน สมาชิกร่วมแกงค์คนอื่น ๆ อีกหลายคนเคยต้องคดีข่มขืน และทำร้ายร่างกายมาแล้วแต่ไม่มีใครเคยก่อเหตุฆาตกรรมมาก่อนเลย คนต่อไปที่ถูกพิจารณาคดี คือ ฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ครั้งนั้นนับเป็นครั้งที่ 2 ของประวัติศาสตร์ มลรัฐโคโลราโด ที่ต้องใช้คณะผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังค์พิจารณาคดีพร้อมกันถึง 3 ท่าน 

 


การนั่งพิจารณาคดีครั้งนี้จึงตกเป็นหน้าที่ของ ผู้พิพากษาเขตเจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี้, ไมเคิล วิลลาโน, ผู้พิพากษาเขตเดนเวอร์ ดรเิร์ต ไอแอท และผู้พิพากษาเขต อราพาโฮ เคาน์ตี้ เคนนา ฮิคแมน ที่จะต้องตัดสินว่า ฟรานซิสโก มาร์ติเนซมีความผิดจริงหรือไม่.....คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญที่สุดที่ผมได้ประสบพบมา อัยการ ซาเจนท์ แถลง "และหากมีการตัดสินประหารชีวิตก้เป็นการสมควรอย่างยิ่งแล้วสำหรับคดีนี้" ในเดือน กันยายน 1998 คณะ ผู้พิพากาาทั้ง 3 ท่านมีความเป็นเอกฉันท์ว่า ฟรานซิสโก มาร์ติเนซ มีความผิดจริง แต่ด้วยระบบขบวนการยุติธรรมของ เจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี้ จึงชลอเวลาออกไปถึง 8 เดือน กว่าฟรานซิสโก จะกลับมาฟังคำพิจารณาใหม่ วันศุกรืที่ 28 พฤษภาคม 1998 คณะผู้พิพากษาให้ประหารชีวิตในสำนวน 16 หน้า ตอนหนึ่งบรรยายว่า "จากประสบการณ์พิพากษาคดีสั่งสมมา 50 ปี คณะผู้พิพากษาชุดนี้ไม่เคยพานพบกับการกระทำชั่วที่หน้าตระหนกและไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เช่นที่จำเลยคนนี้กระทำมาก่อนเลย.......ในบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงของฟรานซิสโก ต่างร่ำไห้ระงม แต่ฟรานซิสโก "ปานโช" มาร์ติเนซ กลับนั่งนิ่งไม่แสดงท่าทีใด ๆ แม้แต่กระพริบตา เขาเพียงแค่หันไปขยิบตาให้ครอบครัวของเขาเพียงเล้กน้อยก่อนเดินออกจากห้องพิจารณาคดี เพราะมีการยื่นอุทธรณ์ จึงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะประหารฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ส่วนแซมมี่ ควินตาน่า พยานปากเอกถูกตัดสินจำคุก เป็นเวลา 96 ปี.





 




Create Date : 14 กรกฎาคม 2558
Last Update : 14 กรกฎาคม 2558 15:54:48 น. 2 comments
Counter : 742 Pageviews.

 
แม่หนูแบรนดี้ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ไปสู่สุขคติเถิดสาวน้อย


โดย: ศรา นันทศิริ IP: 27.55.172.27 วันที่: 25 สิงหาคม 2559 เวลา:0:39:03 น.  

 
แม่หนูแบรนดี้ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ไปสู่สุขคติเถิดสาวน้อย


โดย: ศรา นันทศิริ IP: 27.55.172.27 วันที่: 25 สิงหาคม 2559 เวลา:0:39:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.