4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
แบร์รี่ วินเชลล์ - คัลเพอร์เนีย แอดดัมส์ : นักรบเพศที่สาม


แต่ไหนแต่ไรมากองทัพสหรัฐฯ กับรักร่วมเพศ ดูเป็นเหมือนของแสลงซึ่งกันและกัน แม้ว่าความจริงบุคลากรในกองทัพ มีไม่น้อยที่เป็นเกย์หรือเลสเบี้ยน แต่ผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ก็ทำเป็นตาบอด เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่รับความจริง

มีตัวเลขที่น่าตกใจว่า ในปี 1998 มีการทำร้ายหรือก่อกวนเกย์ในกองทัพกว่า 400 คดี ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ย้อนกลับไปในปี 1997 มีเพียง 182 คดี เห็นได้ว่าเพียงปีเดียวความรุนแรงเพิ่มขึ้นถึง 120 เปอร์เซ็นต์

ขณะเดียวกันที่เพศที่สามในกองทัพเองก็ต้องปิดบังตัวเองสุดฤทธิ์ มิเช่นนั้นอาจถูกถอดยศปลดดาว รวมทั้งถูกศาลเตี้ยปิดตาตีแมวจากบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพ ร้ายที่สุดอาจถึงขั้นเอาตายเหมือนอย่างกรณีของ แบร์รี่ วินเชลล์ พลทหารชั้นดีที่หวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะมีดาวมาประดับบ่าในฐานะนักบินประจำหน่วยเฮลิคอปเตอร์

✿ แบร์รี่-คัลเพอร์เนีย
ในต้นปี 1999 แบร์รี่ วินเชลล์ วัย 21 ปี เข้าประจำการ ณ ฟอร์ท แคมเบลล์ เคนตั๊กกี้ ซึ่งเป็นค่ายฝึกทหารหน่วยสนับสนุนกำลังทางอากาศสู่พื้นราบ เบอร์รี่มี จัสติน ฟิชเชอร์ วัย 25 เป็นบัดดี้คู่หู กินนอนอยู่ห้องเดียวกัน ปฏิกิริยาแรกที่จัสตินแสดงต่อน้องใหม่คือความเกรี้ยวกราดเจ้าอารมณ์ ประมาณว่าข้าอยู่ก่อน เอ็งมาทีหลังอย่าแหยม แต่หลังจากที่เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมฝึกรบอย่างหนักหนาสาหัสด้วยกัน แบร์รี่ก็เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของบัดดี้ได้อย่างไม่ยากเย็น แถมเบอร์รี่ยังมีความประพฤติดีเข้าขั้นทหารชั้นยอด มีวี่แววว่าจะเป็นหัวหน้าหมู่ในเร็ววัน

คืนวันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากปลดเปลื้องภาระการฝึกแล้ว แบร์รี่อาสาเป็นสารถีขับรถของเขาขนเพื่อน ๆ ไปเริงราตรีกันที่คลับของเกย์ในเมืองแนชวิลล์ โดยมีจัสตินเป็นตัวตั้งตัวตีนำขบวนไปที่นั่น แม้ทุกคนจะว่าตัวเองเป็นแมนเต็มร้อยก็ตาม ท่ามกลางแสงสี ควันบุหรี่ และเสียงอึกทึก บนเวทีปรากฏร่างของสาว คัลเพอร์เนีย แอดดัมส์ ดาวโชว์คาบาเรต์งามหยด แบร์รี่เหมือนต้องมนต์สะกด ไม่อาจละสายตาจากเธอได้ ทั้งคู่สบตากัน วินาทีนั้นกระแสไฟฟ้าในตัวเขาพล่านไปทั่ว ปลุกเลือดหนุ่มให้ซู่ซ่าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ไวกว่าความคิด หลังม่านปิดจบโชว์ ชายหนุ่มไม่รอช้าบุกเข้าไปหลังเวที เพื่อทำความรู้จักกับเธอคนนั้น ทั้งที่รู้ดีว่าเธอคือผู้ชายในร่างผู้หญิงก็ตาม

หลังจากคืนนั้นสัมพันธ์รักของทั้งคู่ก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ คืนวันศุกร์แบร์รี่จะไปเฝ้ารอหวานใจอยู่ในห้องแต่งตัว พอคลับปิดคู่รักข้าวใหม่ปลามันจะควงกันเช่าวิดีโอกลับไปดูที่บ้านของคัลเพอร์เนีย หรือไม่ก็แวะไปนั่งจิบกาแฟที่คอฟฟี่ช็อปในเมืองวันเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่นั่งเล่นนอนเล่นที่บ้าน ก็จะขับรถพากันออกไปกินลมชมวิวไม่ต่างจากคู่รักชายหญิงทั่วไป

เพื่อนของคัลเพอร์เนียต่างก็พากันยินดีกับความสุขของเพื่อนรัก มองว่าทั้งคู่เป็นเหมือนคู่รักหนุ่มสาววัยหวานที่โลกทั้งใบแต่งแต้มไปด้วยสีชมพู ผิดกับจัสตินคู่บัดดี้ซี้ของแบร์รี่ที่เริ่มออกอาการอิจฉาตาร้อนขึ้นมาตะหงิด ๆ เขาอ้างกับแบร์รี่ว่าเพื่อนเปลี่ยนไปไม่ค่อยจะมีเวลาเฮฮากันเหมือนก่อน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักเพราะภายหลังที่เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น มีผู้วิเคราะห์ว่าแท้จริงแล้วจัสตินมีปัญหาทางจิต หลงรักเพื่อนตัวเอง

✿ ข่าวเกย์ลือกระฉ่อน
จัสตินปูดเรื่องนี้ให้กับผู้บังคับบัญชาหมวด ไมเคิล ไคฟ์เก็น ฟังว่าตอนนี้ในค่ายมีทหารซึ่งเขาไม่สามารถเอ่ยชื่อได้เป็นเกย์ ผู้หมวดไมเคิลเร่งสืบสวนในทางลับ สอบถามผู้เข้าข่ายต้องสงสัยรวมทั้งแบร์รี่ แต่เขาก็ยืนกรานว่าไม่ได้เป็น ผู้หมวดเชื่อคำพูดของพลทหารความประพฤติดีคนนี้ แต่เรื่องก็ไม่หยุดอยู่แค่นั้น จัสตินคนที่แบร์รี่เชื่อมาโดยตลอดว่าค่อนข้างเข้าใจในความรักของเขาอย่างจริงใจ ตอบแทนความไว้ใยจของเพื่อนรักอย่างสาสมด้วยการปล่อยข่าวเรื่องรักลับของแบร์รี่ ข่าวนี้ลุกลามเร็วยิ่วกว่าไฟไหม้น้ำมัน ไม่นานก็รู้กันทั่วทั้งแคมป์

ตอนหนึ่งจากคำให้การของผู้หมวดไมเคิลต่อศาลมีใจความว่า "แบร์รี่ถูกเพื่อน ๆ ล้อเลียนต่าง ๆ นานา นั่นทำให้เขารู้สึกแย่ลงเรื่อย ๆ" ขณะที่ เจ. คอร์ทแลนด์ ทอร์เรส เพื่อนทหารของเขาซึ่งเป็นเกย์เล่าว่า ในตอนที่ข่าวนี้เลวร้ายลง เขารู้สึกห่วงใยในความปลอดภัยของเพื่อนซี้ และกำชับให้แบร์รี่วางเฉยอย่าโต้ตอบ "หากกองทัพจัดการเรื่องการเกลียดเกย์ได้ การฆาตกรรมก็คงไม่เกิดขึ้น"

✿  คู่หูคู่ฆ่า
ระหว่างที่ความบาดหมางของจัสตินกับแบร์รี่ เริ่มก่อตัวขึ้น คาลวิน โกลเวอร์ วัย 19 ปี อดีตเด็กที่มาจากครอบครัวแตกแยก และใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ระยะหนึ่ง ได้ตบเท้าเข้ากองทัพท่าทีที่ดูกร่างและเถื่อนเยี่ยงเด็กมีปัญหาทั่วไป ปลุกเร้าด้านมืดของจัสตินให้กระชุ่มกระชวยขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ในเวลาไม่นานรุ่นพี่กับรุ่นน้องก็เป็นเงาของกันและกัน เมื่อถูกเป่าหูมาก ๆ เข้า คาลวินถึงกับมีเรื่องชกต่อยกับแบร์รี่ ทว่าด้วยรูปร่างและกระดูกคนละเบอร์ทำให้เด็กหนุ่มถูกสอยลงไปกองกับพื้น และขู่อาฆาตจะเอาชีวิตของคู่แค้นให้จงได้ และเขาก็ลงมือทำจริง ๆ

✿ คืนสังหาร
4 กรกฏาคม ปี 1999 ซึ่งเป็นวันหยุดวันชาติสหรัฐฯ เหล่าทหารหาญในค่ายฟอร์ท แคมป์เบลส์ที่ไม่ได้กลับบ้าน ต่างก็พากันเฉลิมฉลองด้วยเหล้ายาปลาปิ้งอยู่ในค่ายทหาร จัสตินมีทีท่าเป็นปรปักษ์กับแบร์รี่มากขึ้น ถึงขนาดไล่แบร์รี่ไปให้พ้นหน้า คืนนั้นแบร์รี่จึงตัดสินใจย้ายเตียงออกมานอนที่โถงทางเดินด้านนอก ความจริงแล้วคัลเพอร์เนียได้ชวนให้แบร์รี่ไปเป็นกำลังใจเธอในการประกวดนางงามสาวประเภทสองฉลองวันชาติ แต่เขาก็อยากจะลดกระแสข่าวแง่ลบของตัวเอง ด้วยการอยู่ฉลองกับเพื่อนฝูงมากกว่า แบร์รี่ก็รับปากว่าจะไปแต่ก็ไม่ได้ไป ระหว่างที่นอนหลับใหลอยู่ในห้วงนิทรารมณ์ แบร์รี่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าความตายกำลังจะมาเยือน




ฟอร์ท แคมป์เบลล์ สถานที่เกิดเหตุ


ราวตี 3 เวลาใกล้เคียงกับที่คัลเพอร์เนียคว้ามงกุฏมาครองสมใจ คาลวินถูกยุจากจัสตินให้ไปฆ่าแบร์รี่เสีย ด้วยความแน่นอุราเป็นทุนเดิม เด็กหนุ่มไม่รอช้าคว้าไม้เบสบอลย่างสามขุมไปที่แบร์รี่นอนอยู่ แล้วกระหน่ำไม้หวดลงบนศีรษะแบร์รี่นับครั้งไม่ถ้วน แบร์รี่ดิ้นพราดด้วยความเจ็บปวด หายใจรวยรินอยู่บนเตียง เลือดไหลนองพื้นกินวงกว้างถึง 15 ฟุต แบร์รี่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายตอนรุ่งสางของวันที่ 5 กรกฎาคม ปี 1999 ที่โรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยของเมืองแนชวิลล์ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของมารดาและเพื่อน ๆ
คัลเพอร์เนียหอบเอาข่าวดีมาบอกคนรักที่บ้าน แต่เธอก็ไม่พบแม้แต่เงาของเขา เมื่อได้รับรู้ความจริงอันแสนโหดร้ายจากข่าวโทรทัศน์ในช่วงบ่ายวันต่อมา หัวใจของเธอแทบสลาย ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด "เหตุผลที่เขาถูกฆ่า คงเป็นเพราะเขาได้มารู้จักกับฉัน"

✿ บทสรุปฆาตกร
หลังจากจัสตินและคาลวิน ถูกจับขึ้นศาลทหาร ฝ่ายแรกถูกจำคุก 12 ปี ส่วนคาลวินแม้อายุจะยังไม่ถึง 20 ปี ศาลก็ตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต สาสมกับกรรมที่พวกเขาได้ก่อขึ้น




(ภาพซ้าย) คาลวิน โกลเวอร์
(ภาพขวา) จัสติน ฟิชเชอร์ ขณะถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร

หลังจากการเสียชีวิตของคนรักที่เธอวาดหวังว่าจะได้ครองคู่กันตลอดไป คัลเพอร์เนียได้อพยพตัวเองไปอยู่ที่ฮอลลีวู้ด แคลิฟอร์เนีย เพื่อเริ่มชีวิตใหม่ ปัจจุบันเปิดบริษัทผลิตสื่อบันเทิงกับหุ้นส่วน อังเดรย์ เจมส์ ภายใต้ชื่อ Deep Stealth Productions, Inc. ซึ่งเป็นผู้สร้าง Soldier's Girl นั่นเอง นอกจากนี้ยามมีเวลาว่างเธอยังเป็นตัวตั้งตัวตีอุทิศตนรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับเกย์ไปบรรยายถึงความรุนแรงต่อเกย์ในกองทัพตามสถานทีต่าง ๆ รวมทั้งออกหนังสือชื่อ Mark 947 : A Life Shaped by God, Gender and Force of Will เล่าถึงชีวิตรักของเธอกับแบร์รี่และการฆาตกรรมทุกแง่ทุกมุม และน่ายินดีที่ปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯ หันมาให้ความสนใจต่อทหารเพศที่สามมากขึ้น.


Soldier's Girl : เรื่องจริงของชายรักชาย
แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่ถูกสร้างเพื่อฉายทางโทรทัศน์เมื่อปี 2003 แต่โปรดักชั่นก็ถือว่าใหญ่และมีคุณภาพไม่แพ้หนังโรงใหญ่ กำกับการแสดงโดย แฟรงค์ เพียร์สัน มี ทรอย การิตี้ สวมบทเป็น แบร์รี่ วินเชลล์ และนักแสดงหน้ามน ลี เพซ ถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ ใช้เวลาแต่งหน้าทำผมเสริมหน้าอกถึงวันละกว่า 4 ชั่วโมงครึ่ง เป็นสาวประเภทสอง คัลเพอร์เนีย แอดดัมส์ ทั้งคู่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัน Independent Spirit Awards สาขานักแสดงสมทบชาย และนักแสดงนำชายตามลำดับ ภายหลังที่มีเสียงชื่นชมจากบรรดานักวิจารณ์และผู้ชม Soldier's Girl ก็ถูกทำเป็นดีวิดีออกขายทั้งในและนอกสหรัฐฯ เนื้อเรื่องดำเนินตามเหตุการณ์จริงเกือบทุกอย่าง แต่เสริมในส่วนอารมณ์โรแมนติกของทั้งคู่เข้าไปพอควร เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับนั้น แม้กระนั้นก็ไม่เสียความคิดหลักของหนังแต่อย่างใด




คัลเพอร์เนีย แอดดัมส์ ในปัจจุบัน














Create Date : 13 กรกฎาคม 2558
Last Update : 28 กรกฎาคม 2558 13:55:43 น. 0 comments
Counter : 1043 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.