4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
ตำนานเล่าขานของ.. “พระธาตุพันขัน”





ในอดีตกาล..นานมาแล้วยังมีเมืองใหญ่เมืองหนึ่งชื่อว่าเมือง “จำปากนาคบุรี” มีพญาครองเมืองชื่อว่า “พญาพรหมทัต” มีมเหสีชื่อ “พระนางจันทราเทวี” มีลูกสาวชื่อว่า “นางแสนสี” และมีหลานสาวชื่อว่า “นางคำแพง” ทั้งสองได้ชวนกันไปเล่นน้ำที่ทะเลหลวงกว้างใหญ่ (ทุ่งกุลาร้องไห้ในปัจจุบัน) โดยมีผู้อารักขาชื่อว่า “จ่าแอ่น” มีชายหนุ่มสองคนชื่อ “ท้าวฮาดคำโปง” และ “ท้าวทอน” ทั้งสองได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมกับพระฤาษีที่ป่าหิมพานต์ เมื่อเรียนจบจึงได้เดินทางกลับมายังบ้านเมืองของตน เมื่อมาถึงฝั่งทะเลหลวงไม่มีเรือข้ามจึงได้ใช้คาถาเสกเป่าฟางให้เป็นเรือสำเภา ทั้งสองได้แล่นเรือมาท่ามกลางเสียงคลื่นและลมด้วยความสุขใจ

กล่าวถึงเมืองจำปากนาคบุรี มีนาคตนหนึ่งเป็นพญานาคเฝ้าดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของเมืองให้ ประชาชนอยู่ด้วยความสงบตลอดมา ส่วนนางแสนสี และนางคำแพง กับจ่าแอ่นได้ไปเล่นน้ำที่แม่น้ำทะเลหลวงกว้างใหญ่ บังเอิญท้าวฮาดคำโปง และท้าวทอน ได้นั่งสำเภามาพบจึงเกิดความรักต่อนางแสนสีและนางคำแพงผู้เป็นหลาน จึงได้เกี้ยวพาราสี และทั้งหมดได้ตกลงปลงใจพากันขึ้นสำเภาหนีไป“พญาพรหมทัต” ทราบข่าวจากทหารว่ามีคนเก่งกล้าสามารถมาลักลูกสาวหนีไป จึงได้ไปบอกพญานาคให้ช่วยเหลือ พญานาคจึงเห็นว่าถ้าไม่อยากให้สำเภาแล่นไปได้ก็ต้องทำให้น้ำทะเลเหือดแห้ง ดังนั้นพญานาคจึงดูดน้ำทะเลออกหมดทำให้ทะเลเหือดแห้งไป เมื่อทะเลแห้งแล้วท้าวฮาดและท้าวทอนได้พานางแสนสีและนางคำแพงพร้อมด้วยจ่าแอ่นเดินทางไปยังที่แห่งหนึ่ง และพักอยู่ที่นั้นจึงได้ชื่อว่า“บ้านแสนสี” (ปัจจุบันบ้านแสนสีอยู่ในเขตอำเภอเกษตรวิสัย)

        จากนั้นจึงได้พากันเดินทางต่อจนมาถึงริมป่าลำธารแห่งหนึ่ง และได้ข้ามลำธารไปยังโนนบ้านแห่งหนึ่ง จ่าแอ่นเกิดความเมื่อยล้าจึงไม่ขอเดินทางไปกับนางแสนสีและนางคำแพง ขอพักอยู่บ้านแห่งนั้นต่อมาจ่าแอ่นได้เสียชีวิตลงชาวบ้านจึงได้ช่วยกันฝังร่างของจ่าแอ่นไว้ที่บ้านแห่งนั้น และตั้งชื่อว่า “บ้านจ่าแอ่น” (ปัจจุบันคือบ้านแจ่มอารมณ์ อำเภอเกษตรวิสัย) เมื่อทั้งสี่คนเดินทางมาถึงเขตป่าดง ท้าวฮาดคำโปงกับท้าวทอนได้ต่อสู้กันเองเพราะรักนางแสนสีคนเดียวกัน ท้าวฮาดคำโปงจึงได้ถูกท้าวทอนฆ่าตาย ที่กลางทุ่งจึงได้เรียกหมู่บ้านในที่นั้นว่า “บ้านฮาด” (ต่อมาเป็นบ้านฮาด อำเภอเกษตรวิสัย) ด้วยความอาฆาตวิญญาณของท้าวฮาดจึงได้เป็นผีโป่ง (ผีหัวแสง) ตามไล่ท้าวทอนในเวลากลางคืน ท้าวทอนพานางแสนสี และนางคำแพงหนีไปบริเวณทางตะวันตกที่เป็นทุ่งกว้างใหญ่ ด้วยความอ่อนเพลียทั้งสามได้นอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ท้าวทอนและนางแสนสีตื่นก่อนจึงได้ปล่อยให้นางคำแพงอยู่เพียงลำพัง และ

ต่อมาจึงได้เรียกชื่อทุ่งนี้ว่า “ทุ่งป๋าหลาน” (อำเภอพยัคฆภูมิพิสัยในปัจจุบัน) ฝ่าย “พระอินทร์” ได้ออกมาส่องญาณวิเศษดูโลกมนุษย์ ได้มองเห็นทะเลหลวงแห้งเหือด และพวกปลา หอย กุ้ง และ สัตว์น้ำนานาชนิดได้ตายเน่าเหม็น จึงได้บอกนกอินทรีย์มากินปลาที่ทะเลหลวง นกอินทรีย์ได้กินปลา หอย ถ่ายออกเป็นก้อนขนาดใหญ่มีอยู่ทั่วไปตามทุ่ง ชาวบ้านเรียกว่าขี้นกอินทรีย์ นกอินทรีย์กินปลา หอย ในทะเลหลวงหมดแล้วก็ไม่มีอาหารกินจึงได้ไปขอรางวัลจากพระอินทร์ๆ จึงให้ช้างเป็นอาหารและรางวัล นกอินทรีย์ต่างแย่งกันกินเป็นพัลวัน หมู่หนึ่งคาบตัวไปกินทิ้งหัวไว้กลายเป็นป่าดง ต่อมาเรียกว่า “ดงหัวช้าง” (ปัจจุบันคือบ้านหัวช้างในเขตอำเภอจตุรพักตรพิมาน) ส่วนอีกหมู่หนึ่งคาบได้เท้าช้างไปกินแถวดงแห่งหนึ่งชื่อว่า “ดงเท้าสาร” (เขตอำเภอสุวรรณภูมิในปัจจุบัน) และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเขตดงช้าง มีช้าง มากมาย (ปัจจุบันคือบ้านดงช้าง อำเภอปทุมรัตต์)

        เมื่อ “ท้าวทอน” และ “นางแสนสี” ได้กลับมายังเมือง “จำปากนาคบุรี” พบแต่เมืองร้างเพราะประชาชนพากันหนีไป เนื่องจากกลัวนกอินทรีย์ พญานาคก็ดำดินหนีไปอยู่ที่แดนไกลเขตแม่น้ำโขง“พญาพรหมทัต” กับ “นางจันทราเทวี” ก็สิ้นพระชนม์ด้วยความคิดถึงลูกมาก ท้าวทอนและนางแสนสีได้รวมไพร่พล และประชาชนที่เหลืออยู่ มาบูรณะสร้างเมืองจำปากนาคบุรี ขึ้นใหม่ และสร้าง “พระธาตุพันขัน” ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับบิดา มารดา และไถ่บาปให้กับตนเอง ทั้งสองก็ได้ครองเมืองสืบต่อมาอย่างมีความสุขตราบจนสิ้นชีวิต


        ปัจจุบัน “พระธาตุพันขัน” ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดพระธาตุพันขัน” อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งองค์พระธาตุพันขันสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ภายในองค์พระธาตุมี“พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์” ประดิษฐานอยู่ภายใน

ขอบคุณรูปภาพและที่มาจาก : //www.lifenewonline.com






Create Date : 08 ตุลาคม 2557
Last Update : 8 ตุลาคม 2557 9:42:50 น. 0 comments
Counter : 1135 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.