Group Blog All Blog
|
เดินเล่นPalio นอนเส้นทาง @Love แวะเที่ยวอช.ป่าหินงาม
ทำงานมาหลายสัปดาห์มันเครียด เลยต้องหาเรื่องตะกายไปพักผ่อนหาที่นอนนอกบ้าน สรุปได้โปรแกรมคร่าวๆตามหัวข้อข้างต้น เพราะเคยเห็นเพื่อนๆห้องนี้พาน้องหมาไปเดินเล่นที่ Palio และที่เส้นทาง@Loveก้อเป็นรีสอร์ทของพี่บี&พี่จ้อย บ้านDOGHALL คนรักและดูแลน้องหมาเหมือนลูกเช่นกัน ส่วนที่อุทยาน เราเลือกขึ้นไปเช้าวันจันทร์ เพราะพี่บีแนะนำว่าไม่ค่อยมีคน เราสามารถนำรถเข้าไปเองได้และขอกับจนท.เรื่องน้องหมา ว่าจะไม่ให้ลงจากรถค่ะ...
 ถึง Palio ประมาณ 10.05 น. ยังคุยกะแฟนว่าสงสัยจะมาช่วยเค้าเปิดร้าน แต่ที่ไหนได้ ที่จอดรถเริ่มแน่นแล้วค่ะ    มุมสวยๆเยอะ แต่ตอนที่ถือสายจูงเจ้าชบา ทำให้ความสามารถในการเดินชมสถานที่ลดลงไปมากกกกกกกกก  หน้าร้านมาดาม...สีสวยสดใส  ลืมเอาขวดน้ำมาให้ชบาค่ะ มีแต่ชามใส่น้ำ 5555..กว่าจะเดินเจอร้านขายน้ำ สงสารลูกเจงเจง    ออกเดินทางกันต่อดีกว่า  ถึงที่พักประมาณบ่าย2 เงียบค่ะ...ไม่มีใครเลย อากาศดีมั่กๆ  มีน้องๆมาเปิดเต้นท์และเตรียมเครื่องดื่มให้ หลังจากนั้น ก้อเหลือแค่เรา 5555    อีกหนึ่งประโยชน์ของบอลโต๊ะ...   บรรยากาศของที่พักช่วงบ่ายๆ    บ่ายแก่ๆ บ้านDOGHALLก้อเดินทางมาถึง...แต่น่าเสียดายจริงๆ ที่ชบาไม่เป็นมิตรกะพี่วู้ดดี้ พี่สุขใจ และน้องไฮกุเลย ไม่งั้นคงได้วิ่งเล่นกันจนสนามหญ้าพังเป็นแถบๆ... ฝนตกมานิดหน่อย ทำให้อากาศเย็นสบาย อาหารเย็นเราออกไปทานข้างนอกค่ะ แต่จะสั่งทานที่รีสอร์ทก้อได้ค่ะ มีรายการอาหาร+เบอร์โทรให้อยู่ข้างในเต้นท์... แล้วก้อกลับมานั่งเล่นที่หน้าเต้นท์...คืนนี้มีเต้นท์เรากับเต้นท์บ้านพี่บี ... อากาศเย็น..จนไม่อยากอาบน้ำ ^_^     เช้าแล้วค่ะ...   เต้นท์เขียวของเรา  ห้องน้ำรวม หญิง 2 ห้อง ชาย 2 ห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่น ฝักบัว สบู่เหลว และแชมพูทุกห้อง ตกแต่งง่ายๆ แต่ดูดีค่ะ  พ่อกะแม่ขอกินกาแฟก่อนนะ  เช้านี้แยกย้ายกันเดินทาง บ้านพี่บีพี่จ้อยเดินทางไปทำธุระต่อ ส่วนบ้านเราจะเดินทางไปอช.ป่าหินงาม ขอบคุณมากๆนะคะพี่ทั้งสอง ที่แวะเข้ามาดูแล และนอนเป็นเพื่อน มีโอกาสจะไปพักผ่อนที่เส้นทาง@Loveอีกนะคะ  และแล้วชบาก้อเจอเพื่อน  ที่อช.ป่าหินงาม ไม่มีรูปนะคะ เพราะต้องอยู่กับชบาในรถ ให้แฟนลงไปถ่ายรูปคนเดียวโดยไม่มี2นางแบบ อยากพาน้องหมามาเที่ยวด้วยก็ต้องทำใจอย่างนี้แหล่ะ..เค้าไม่สามารถเข้าไปได้ทุกที่เหมือนเรา แต่แค่ได้ออกมานอกบ้านน้องหมาเค้าก้อมีความสุขแล้วล่ะค่ะ ทริปนี้ 8-9 สค. 2553 พาชบาไปเที่ยว Primo Posto เขาใหญ่
My trip on 22 Nov 2009
นึกได้ตอนเที่ยงคืนวันเสาร์ ว่าควรใช้วันหยุดวันอาทิตย์ทำอะไรมากกว่าการนอน เอาล่ะ โปรแกรมเรา จะแวะไปกินสเต๊กที่แดรี่โฮมก่อน (เลือกร้านนี้ เพราะต้อนรับน้องม๋า น้องม๋าเข้าได้ นี่แหล่ะหัวอกพ่อแม่ ลูกมาก่อนเสมอ) แล้วขับเลยไปกินกาแฟ+ถ่ายรูปที่ Primo Posto เห็นในรูปมันงามแต๊งามว่า และแล้วเราก้อขับเลยร้านแดรี่โฮมค่ะ...แป่ว !!!!!!!! ไหนๆก้อเลยแล้วก้อเลยไปเลย ขับรถชมวิว ชมรีสอร์ท ร้านอาหารสองข้างทางไปพลางๆ เด๋วมันก้อวนมาเจอร้านกาแฟ...แล้วก้อแดรี่โฮม คริ คริ...  คนเยอะเชียว จะบ่าย2แล้วล่ะ อากาศเย็น...สบาย  ค่าเข้า 55 บาทต่อคน น้องม๋าไม่คิด แต่มีโซนห้ามสัตว์เลี้ยง นอกนั้นก้อ..เดินตามสบาย..  บัตรผ่านใบแรก...เอาไปแลกกะไอติมช็อคโกแล็ต 1 ถ้วย...อากาศเย็นๆ แล้วเจอไอติมเข้าไป OMG เจงเจง... เรียบร้อยค่ะ ไม่เหลือหลักฐานใดๆ  ด้านหลังเนี่ยแหล่ะค่ะ เป็นมุมในตึกสำหรับนั่งรับประทานไอติม กาแฟ เค้ก ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไป  เดินไปหาจุดปลอดคนดีกว่า..มุมไหนดีฟะ...  ตั้งหน้าตั้งตาเล็ง...  มุมของเราอาจไม่เหมือนของใคร...  จะได้เห็นในหลายๆมุมของที่นี่  อีกไม่นาน คงมีร้านกาแฟแบบนี้ แถวๆนี้ หลายที่    ยืนรอสั่งกาแฟกันค่ะ รอให้คนน้อยกว่านี้จะไปสั่งเหมือนกัน  บัตรใบที่สองแลกเป็นไอซ์ลาเต้ 1 แก้ว เพิ่มตังค์ 30 บาท  หนักได้ใจแม่จริงๆนะชบา..อุ้มแทบไม่ไหว   จะกลับแล้ว ถ่ายให้เบื่อกันไปข้างเลย >     จากนั้นก้อขับตามหาร้านแดรี่โฮม หิวมั่กๆ พอเลี้ยงเข้าไปในร้านก้ออึ้งกิมกี่ แววกินแห้วลอยมาตรงหน้า มีผู้โดยสาร เอ๊ย ลูกค้านั่งรออยู่หน้าร้านเต็มไปหมด ต้องแจกบัตรคิวอ่ะ..แล้วเราจะได้คิวไหนหว่า...มีลูก4ขามาด้วยอีกต่างหาก สรุปต้องจูงลูกกลับมาที่รถไปหากินเอาดาบหน้าก้อได้นะ ขับเลยไปฟาร์มโชคชัยดูให้แน่ว่ามีป้ายห้ามสัตว์เลี้ยงตรงร้านอาหาร...ไม่ให้เข้าเจงๆ งั้นซื้อไอติม ขนมกลับบ้านแทนก้อได้... และแล้วก้อได้กินสเต๊ก...โคขุนโพนยางคำที่ร้านข้าวสามสี...โอเพ่นเชียว ลมพัดกรรโชก (เว่อร์นิดนึง) เรียกหาเสื้อแจ๊คเก็ตใส่แทบไม่ทัน ชบาเองยังสั่น..เลยสั่งไส้กรอกรมควันมาปลอบขวัญ...พาหนูขับหาร้านข้าวตั้งนาน...อะไรมันก้อ..ยากตรงพาลูกมาด้วยนี่แหล่ะ..ขอบอก  เที่ยวปายปลายฝนต้นหนาว
ออกจากภูโคลนเราก้อมุ่งหน้าสู่อ.ปาย ผ่านโค้งแล้วโค้งเล่า กี่โค้ง ก้อไม่รู้ ไม่ได้นับ ลูกสาวตัวดีก้อหลับสบายในอ้อมแขนเรา ถ้ารถสะเทือน หรือไม่ลื่นไหล เธอก้อจะส่งเสียงอือ อา ไม่พอใจ เปลี่ยนท่านอน เอาหัวไปหนุนขาคนขับ เอาก้นมาวางบนขาแม่มัน เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา เยี่ยงนี้....
จุดชมวิวกิ่วลม ระหว่างทาง  ผ่านเข้าตัวเมืองปาย แล้วก้อออกมาก่อนเนื่องจากเราต้องไปตามล่าหาที่พักก่อน ว่าอยู่ส่วนไหน เนื่องจากเอกสารต่างๆที่เตรียมรวมถึงแผนที่และที่อยู่ไม่ได้หยิบมาอ่ะ ผ่านตรงนี้เห็นเค้าจอดถ่ายรูปกัน อืมมมม ไม่แวะได้ไง   ไปกันแค่นี้แหล่ะ เราสามคน  จากนั้นก้อโทรฯถามพิกัดรีสอร์ท และแล้วเราก้อมาถึง....  แฮ่ะ แฮ่ะ คุณเอก ใจดีมาก ให้เลือกห้องได้ด้วย เบอร์5 หรือ6 มีสนามหญ้าหน้าห้องไว้ให้น้องม๋าวิ่งเล่นด้วย..... เลือกเบอร์นี้เลยค่ะ...ข้างในมีพัดลม ทีวี เครื่องทำน้ำร้อน ไม่มีตู้เย็นเน้อ..ตอนจองเมื่อ 2-3เดือนที่แล้วราคา 700 แต่ตอนนี้เค้าปรับราคาเป็น1200แว้วววว โชคดีเจงๆเลยนะเรา  สนามหญ้าเล็กๆหน้าบ้านเบอร์5 มีแม่น้ำปายไหลผ่านด้วยนะ   ร้านอาหาร น่านั่งค่ะ เมนูหลากหลาย    ไปไหว้พระพุทธรูปอุ่นเมือง วัดน้ำฮูกัน   แวะเที่ยวถนนคนเดิน ตอนกลางวัน แดดเปรี้ยงๆดูบ้าง  เจอร้านเสื้อพอดี แวะดีกว่า...เด๋วเอ้าท์ มาปายทั้งที ไม่มีเสื้อปาย คริ คริ   แวะจุดชมวิว เอ้ย..ไม่ใช่ จุดแวะยอดนิยม ก่อนกลับเชียงใหม่...  Coffee In Love ร้านกาแฟที่ต้องแวะ...ถ่ายรูป  ไม่งั้นคงไปไม่ถึงปาย...ต้องกลับไปสอบซ่อม   อเมริกาโน่เย็นแก้วนึงค่ะ ps: น้ำกระบอก 2แก้วที่ซื้อมาเมื่อกี๊ยังไม่พร่องเลย ซื้ออีกแล้ว   ออกจากร้านกาแฟ เราก้อไปแวะโป่งน้ำร้อน ท่าปายต่อค่ะ ความจริงก้อไปทางเดียวกับบ้านต้นไม้น่านแหล่ะ ซอยเดียวกันเลย   แวะขึ้นไปเที่ยวบ้านวัดจันทร์กันหน่อย อยากดูบ้านพักขององค์การป่าไม้ เคยเห็นในรูป น่าพักมาก พอไปถึง ฝนโปรยพอดี เฮ้อ...    โบสถ์วัดจันทร์ค่ะ   จากนั้นก้อวิ่งยาวเข้าเชียงใหม่...จบทริป ปางอุ๋ง VS ปาย แค่นี้นะคะ พาน้องม๋าปั๊กไปดูหงส์ที่ปางอุ๋ง
ทริปนี้วางแผนไว้นานพอดู ต้องจองที่พักล่วงหน้าเกือบๆ3เดือน แต่พอถึงเวลาจริง แทบจะไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย
วันเดินทางผู้ร่วมทางที่ตื่นก่อนใคร ก้อคือลูกสาวเนี่ยล่ะค่ะ ตื่นเต้น กลัวโดนทิ้ง...สุดสุด เดินพันแข้งพันขา พ่อแม่ขยับไปทางไหน หนูเกาะตามติดตลอด ไม่ให้คลาดสายตาเธอเลยล่ะ ไปกันรึยังแม่...  คืนแรกแวะนอนเชียงใหม่.... เช้าวันจันทร์ แอบหนีลูกไปต่อบัตร ปชช. ก่อนดีกว่า หมดอายุพอดี ต่างจังหวัดคิวคงไม่นานเหมือนแถวบ้านเรา... จากนั้นก้อทิ้งตัวตามโค้ง สู่จ.แม่ฮ่องสอนกัน ..เละแล้วก้อโดนปลุกให้ตื่นจากนิทรา เดินหน้ายุ่งหัวฟูเข้าไป ติดต่อรับบัตรผ่านที่ศูนย์ศิลปาชีพก่อนขึ้นปางอุ๋ง  ยามเย็น รูปนี้ CANNON EOS 500D  ส่วนนี่จากกล้องดิจิตอล...โอลิมปัส  หลายเสียงคัดค้านเรา ว่ามาเที่ยวทำไมเดือนนี้ รอให้หนาวก่อนดีกว่า แต่มาเที่ยวปลายฝนต้นหนาวแบบนี้มันก้อได้อีกบรรยากาศนะ  ถ่ายรูปออกมาก้อดูโล่งๆดี ...ไม่ต้องแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว ที่สำคัญ ปั๊มคงน้ำมันไม่หมด 55555  พ่อ แม่ และลูกสาว 4 ขา   <จองที่พักที่รวมไทยเกสต์เฮ้าส์ บ้านขนาดกลาง 450 บาท ต่อคืน แถวหน้าสุด เป็นห้องเล็ก ห้องน้ำรวม...  เราได้แถวที่สอง ห้องที่มีสายไฟพาดผ่านหน้าห้อง..มองจากหน้าต่างก้อจะเห็นปางอุ๋งพอดี๊ พอดี...  วิวยามเช้า..แบบนี้  ร้านอาหาร..ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำหน่ายนะคะ..  ก้ออย่างที่รู้ๆกันว่า ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีฝักบัว ไม่มีทีวี แอร์ ตู้เย็น แต่มีเทียนไข 2 เล่ม กับไฟแช็ค, กระดาษทิชชู และน้ำดื่ม 2 ขวด เนื่องจากจะเปิดไฟให้ประมาณ18:20ถึง22:00 ถ้าไปพักเตรียมเทียนไปเพิ่มด้วยนะคะ อ้อ...อย่าลืมไฟฉายด้วย.. อ่ะ...เช้าแล้ว ไปเดินเล่นกันอีกรอบ   ที่จอดรถ..ในวัดทางเข้าปางอุ๋ง  ใครใคร่กางเต๊นท์..กาง  ใครใคร่กินพิซซ่า..สั่ง...ส่งช้ากินฟรี ?????  เดี๋ยวไปนั่งแพไม้ไผ่กัน 150 บาทค่ะ ประมาณ 45 นาที  ลุงคนพายบอกจะพาไปดูหงส์  นั่นไงชบาเห็นหงส์แว้วววววววว  ใกล้เข้าอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย   มาเป็นคู่ หงส์ทองกะหงส์แดง..เอ้ย หงส์ขาวกะหงส์ดำ   เฮ้อ หงส์หนอหงส์...!!!! หลอกให้ชบาอยากแล้วจากไป  สักรูปนะลูกนะ เดี๋ยวเค้าจะไม่รู้ว่าเราไปไหนกัน...  แวะน้ำตกผาเสื่อ....ถ่ายเอาป้ายอีกแล้วอ่ะ...   จากนั้นก้อเลี้ยวมานี่เลย ภูโคลนคันทรีคลับ  เห็นเค้าพอกโคลนก้ออยากพอกบ้าง.... *** ตอนนี้สิวผุดมาเยอะเชียวไม่รู้จะเกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย ไม่ใช่ของเค้าไม่ดีนะ หน้าเราต่างหากที่มันไม่ดี แง แงงงงงง ****  ทริปนี้ยาวนิดนึงนะคะ...แต่ยังไม่จบนะ..เด๋วมาต่อภาคเที่ยวปายกับชบากันค่ะ  หลุบพญา รีสอร์ท กาญจนบุรี
ทริปนี้ 23-24 พย 2551
ไปเที่ยวกาญจน์ทุกปี แต่ปีนี้จะพาชบาไปด้วย เลยอาศัยกูเกิลช่วยในการหาที่พัก สรุปได้ที่หลุบพญานี่แหล่ะ บอกว่าต้อนรับน้องม๋า และเห็นน้องม๋าหลายบ้านไปพักมาแล้ว... ค่าที่พัก 1,200 ได้ข้าวต้มหมู 2 ถ้วย สำหรับมื้อเช้า สภาพในห้องเป็นอย่างที่เห็นในรูปเลยค่ะ ดีที่สุดคงเป็นวิวสวยๆ เนื่องจากห้องพักเป็นกระจกใส รับบรรยากาศไปเต็มๆ  รอหน้าห้องนะ ขอแม่สำรวจห้องพักก่อน  มองจากห้องพ้กค่ะ  ออกไปส่องข้างนอกห้องบ้าง  โต๊ะกินข้าว อยู่ข้างห้องพอดี๊ พอดี สีสดใสได้ใจ  กลับเข้ามาในห้องดีกว่า   ชบาจับจองพื้นที่อีกแล้ว...ผ้าคลุมเตรียมมาเองค่ะกลัวรอยเท้าจะเปื้อนผ้าปูเค้า แต่หยิบผืนเล็กมาซะนี่  ห้องน้ำ  มีเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ไม่ธรรมดา...  เราไปเข้าพักวันอาทิตย์ค่ะ ทางรีสอร์ทบอกว่าลูกค้ากรุ๊ปใหญ่เพิ่งเช็คเอ้าท์...ว่าจะอุดหนุนมื้อเย็นที่รีสอร์ท...แต่มีของให้เลือกน้อยจัง. .เลยทานแค่พออยู่ท้อง แล้วก้อเข้าเมืองพยายามหาร้านที่คาดว่าต้อนรับลูกสาวเรา และก้อได้ร้านนี้เลย...  กินเสร็จ ลูกสาวก้อเริ่มตะกุยตะกาย รออยู่ใต้โต๊ะนานแล้ว เบื่ออ่ะแม่...จะกลับกันรึยังเนี่ย  โห..แม่โซ้ยน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ไม่เรียกเลย...  เช็คเอ้าท์เสร็จก้อขับเลยไปชมเขื่อนศรีนครินทร์ ดูซิไม่ได้มา2-3ปีมีอะไรเปลี่ยนไปมั่ง  ชบารักพ่อนะ...  แต่รักแม่มากกว่า...อิ๊ อิ๊..อึ๋ยยยย พุงหลามเลยลูกเรา...   บางมุม..ของเขื่อน  เราจะไปเที่ยวไหนต่อดีล่ะแม่...แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยว่ะ  ปราสาทเมืองสิงห์ หนูน่าจะเข้าได้นะ....  ดีจัง ชบาไม่เสียค่าผ่านประตูด้วย...   แบตฯกล้องเตือนแว้ววววว   หิวมาก ไปกินข้าวริมแม่น้ำแควกันดีกว่า นี่เลย ริเวอร์แควโฟลทติ้ง..วิวรถไฟ หมาเข้าได้ แถมรับบัตรเครดิตด้วย 5555  ไม่มีรูปชบาเลยนะ พ่อ+แม่มัวแต่วุ่นวายกับการรับประทาน และถ่ายรูปรถไฟวิ่งผ่าน แต่มีฝาหรั่งกะอาหรับมาขอถ่ายรูปชบาด้วย สงสัยเจอของแปลก..โกอินเตอร์แน่ๆงานนี้  เจอกันทริปหน้าค่ะ.... |
MenyMeny
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |
