มิสซิสโพสต์แมน หญิงสาวผู้หลงรักตู้แดง
ในห้วงเวลาที่ผู้คนหันกลับมารักชอบ วิธีการสื่อสารแบบโรแมนติก ผ่านการเขียนจดหมายโปสการ์ดถึงตัวเองหรือผู้เป็นที่รัก เล่นบทสลับกันไปมาระหว่างผู้รับกับผู้ส่ง แต่จะมีสักกี่คนที่นึกถึง สื่อกลางที่ยืนตัวแดงตระหง่าน ทำหน้าที่ส่งผ่านความทุกข์ ความสุข มาแสนนาน...
-1-
อย่างน้อยๆ คุณแม่ลูกหนึ่งวัยสามสิบเศษ สุรางคนางค์ ลัทธคุณ ผู้ที่เรียกตัวเองผ่านบล็อกว่า Mrs.Postman คือคนหนึ่งที่หลงใหลและรักใคร่ตู้ไปรษณีย์เอามากๆ ถึงขนาดเปิดพื้นที่ในโลกเพื่อถ่ายทอดและร้อยเรียงเรื่องราว ความรัก ของเธอ
จริง ๆ แล้ว สุรางคนางค์ หรือ เกด เพิ่งจะปวารณาตัวเป็นแฟนคลับตู้ไปรษณีย์สีแดงอย่างเป็นทางการ เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มันเริ่มมาจากคราวตะลุยค้นคว้าวิจัยไปทั่วประเทศ สมัยยังรับบทเป็นนักศึกษาปริญญาโท
ไปเจอตู้ PostBox ของชาวไทยใหญ่ที่แม่ฮ่องสอน มีหลังคาแบบไทยใหญ่ เลยเริ่มสนใจเที่ยวดูไปตามชุมชนต่าง ๆ ที่ไปวิจัย แล้วก็พบว่าแต่ละที่ แต่ละอันก็จะมีเอกลักษณ์ต่างกัน ยิ่งไปเห็นเยอะ ยิ่งสนุก
ยิ่งบุกป่าฝ่าดงไปในดินแดนที่ไกลปืนเที่ยงน้ำไฟยังเข้าไม่ถึง แต่ขอโทษ..ตู้ไปรษณีย์ไปยึดพื้นที่เรียบร้อย(นาน) แล้ว ด้วยเนื้อตัวสีแดงหม่นสนิมกินเกรอะกรัง
พอเห็นมากๆ เข้า จากความรู้สึกสนุก ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นว่า เออ...มันก็น่าจะมีความรู้สึกเหมือนกันนะ เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่เมืองหลวง เมื่อเกดไปเจอตู้ไปรษณีย์ล้มคว่ำอยู่ริมถนน ไร้คนเหลียวแล
มิสซิสโพสต์แมน แบ่งความรักก้อนนี้ออกเป็น 2 หมวด คือ ตู้ส่งกับตู้รับ ตู้ส่ง หมายถึง ตู้ไปรษณีย์สีแดงในรูปทรงที่คุ้นตา ออกแบบและผลิตโดยการสื่อสารแห่งประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มีไว้บริการสองช่อง คือ กรุงเทพ ฯ และที่อื่น ๆ อยู่ห่างจากบ้านไม่ใกล้ไม่ไกล ตู้รับ แบบนี้ค่อนข้างฟรีสไตล์ หลากสี หลายดีไซน์ ติดไว้หน้าประตูบ้าน คอยรอรับพัสดุและจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์
อย่างตู้ส่งถึงแม้มันจะดูธรรมดากว่า แต่เบื้องหลังของมันคือชุมชน ท้องตลาด เรื่องราว ต่าง ๆ บางที่เราไม่คิดว่าจะมีคนเขียนจดหมาย แต่พอไปถึงมันมี นั่นแสดงว่าคนที่นั่นยังใช้วิธีสื่อสารแบบนี้อยู่ เกดกำลังเปรียบเทียบกับตู้ไปรษณีย์แห่งโลกออนไลน์ ที่ส่งถึงมือผู้รับได้เพียงคลิกเดียว แถมส่งได้ทีละหลายคน ผิดกับจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงคนเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่ในตู้ไปรษณีย์ ในนั้นมีเรื่องราว ข่าวคราวเต็มไปหมด ในวัยเด็ก เกดจึงชอบแอบไปส่องดูตามช่องจดหมาย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
-2-
พร้อม ๆ กับการเดินทางเสาะหาตู้รับ-ส่งจดหมายทั่วประเทศ เกดก็ตั้งคำถามกับตัวเองด้วยว่าที่มาที่ไปของอาการเช่นนี้มาจากไหน
ด่านศุลกากรจ.สงขลา 15 มิ.ย. 28 ลูกสาวที่รักของพ่อ ...เพราะค่าโทรศัพท์แพงมากเหลือเกิน พ่อจึงเขียนจดหมายมาดีกว่า ระยะนี้เราต้องประหยัดให้มากๆ เพราะต้องใช้จ่ายกับบ้านใหม่มาก... รักและคิดถึงม๊ากมาก พ่อ
เมื่อเกือบยี่สิบกว่าปีก่อน พ่อของเกดต้องย้ายไปอยู่สงขลาอยู่ปีเศษ ๆ ระหว่างนั้น พ่อ-ลูกใช้วิธีส่งผ่านความคิดถึงด้วยจดหมายอยู่ไม่ได้ขาด ทุก ๆอาทิตย์ ลูกสาวก็ต้องมานั่งรออยู่ที่ตู้รับไปรษณีย์หน้าบ้าน เพื่อรอจดหมายพ่อ ผิดหวังบ้างสมหวังบ้าง ปะปนกันไป
นี่เป็นจุดแรกที่ทำให้เรารู้สึกรักและผูกพันกับตู้ไปรษณีย์ คำตอบที่เพิ่งได้เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ยี่สิบปีที่ผ่านมา พ่อ-ลูกและแม่ก็ยังคงเขียนถึงกันอยู่ไม่ขาด แม้จะแยกกันอยู่คนละบ้านแล้วก็ตาม แล้วตอนนี้เกดมีทายาทตัวน้อย ๆ เป็นของตัวเอง เลยกลายเป็นว่า แม่เขียน ลูกระบายสี แล้วสอดซองติดแสตมป์ จ่าหน้าถึงตายายที่บ้าน
ตั้งตัวเป็นมิสซิสโพสต์แมนอย่างนี้ หลายคนคงคิดว่า ตู้รับหน้าบ้านของเกดต้องสวยเริ่ดแน่นอน
ไม่เลยค่ะ ไม่สวยเลย เป็นกล่องสีแดงที่เจ้าตัวพรรณนาว่า ธรรมดามากถึงมากที่สุด แถมยังมีเพื่อนสนิมเข้ามาอยู่ด้วยมากมายหลายวง นั่นแสดงว่า ความรักความชอบในตู้ไปรษณีย์ของเกด ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก หากอยู่ที่ ของข้างในมากกว่า
-3-
พอเปิดบล็อก แสดงตัวว่ารักชอบตู้ไปรษณีย์อย่างออกนอกหน้า เกดก็ได้เจอเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งที่คอยส่งรูปตู้รับ-ตู้ส่งจากทั่วโลกมาให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเจอคนคอเดียวกันหรอกนะ
ที่ชอบตู้ไปรษณีย์เหมือนกันยังไม่มี มีแต่คนที่เขารู้ว่าเราชอบ เลยส่งมาให้ แค่นี้ก็ดีแล้วค่ะ เกดแอบหวังว่า สักวันจะเจอคนที่ชอบเหมือนกัน แต่ระหว่างนี้น้ำใจของเพื่อนในบล็อกก็ทยอยส่งเข้ามาเรื่อย ๆ จากอิตาลีบ้าง เนปาลบ้าง สวยแปลกแตกต่างกันไป
ที่บ้านของเกดตอนนี้ แวดล้อมไปด้วยของสะสมต่าง ๆ ทั้งที่หาซื้อเองและคนรักกันส่งมาให้ มากที่สุดคือ กระปุกออมสินรูปตู้ไปรษณีย์ รองลงมาเป็นรูปถ่ายตู้รับ-ตู้ส่งตามที่ต่าง ๆ , หนังสือที่เกี่ยวข้อง,นิทานที่เกี่ยวกับตู้ไปรษณีย์ และโมเดลโพสต์บ๊อกซ์ขนาดใหญ่
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เกดหนักไปทางผู้รับมากกว่าผู้ส่ง ด้วยเนื้องานที่เธอต้องออกไปติดต่อสัมพันธ์ กับกลุ่มองค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานพินิจและสมาคมผู้พิการต่างๆ
อย่างเด็กที่สถานพินิจที่เราไปช่วยดูแลทำกิจกรรม พอเราเดินออกมาแล้ว วิธีเดียวที่เขาจะสื่อสารกับเราคือเขียนจดหมาย บางทีได้รับเป็นกอง เขียนเล่าบรรยายทั้งความทุกข์ความสุขให้เราฟัง อีกที่หนึ่ง คือ เด็กหูหนวกพูดไม่ได้ เขาก็จะใช้วิธีเขียนเหมือนกัน เวลาเขาอยากติดต่อเรา ซึ่งเราก็พยายามเขียนตอบกลับไป เพราะรู้ดีว่าการรออยู่หน้าตู้รับจดหมายนั้น มัน นาน แค่ไหน"
ในฐานะที่สวมบททั้งผู้ส่งและผู้รับ เกดเปรียบเทียบอารมณ์ให้ฟังว่า ดีใจคือผู้รับ ส่วนตั้งใจคือผู้ส่ง ส่วนอนาคตของตู้ไปรษณีย์จะเป็นเช่นไร เธอเชื่อว่าอย่างไรก็คงไม่หายไป แต่ทำใจว่าคงหายากขึ้นเรื่อยๆ
คงเศร้า ไม่รู้จะไปส่งจดหมายที่ไหน สงสัยต้องไปส่งที่เซเว่นอีเลฟเว่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าเผื่อวันนั้นมาถึงจริงๆ
............................................................
เรื่องโดย : ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ ภาพโดย : อนันต์ จันทรสูตร
|
คิดถึงพี่เกดมาก ๆ
กุนจะได้น้องสาวแล้ว ดีใจจัง ตู๋ก็มีแผนจะหาน้องให้ลูกอยู่เหมือนกัน อิ อิ
พี่เกดคะ ขอให้การคลอดเป็นไปด้วยดี ให้น้องแข็งแรง อ้วนจ้ำม่ำนะคะ ถ้ามีเวลาเอารูปน้องมาให้ดูบ้างนะ