เรื่องของวันปีใหม่ ตะวันอ้อมเหนือ อ้อมใต้ และไม่อ้อม
จากบล็อกก่อนหน้านี้ ที่ผมบ่นเรื่องของวันปีใหม่ไทยไปนั้น ผมก็ไปค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่เขาบอกว่าพระอาทิตย์เคลื่อนจากราศีมีน ไปราศีเมษนั้นมันหมายความว่าไง
เนื่องจากคนโบราณ อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ แถมเป็นคนช่างสังเกตุ หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น ผ่านไปวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า ก็สังเกตุว่า ทุกๆ ปีดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าจะหมุนวนกลับมาครบรอบพอดี ( อย่าลืมว่าสมัยนั้นไม่มีปฏิทิน ที่ผมพูดว่า 1 ปีนั้นคือ พระอาทิตย์เปลี่ยนไปจนกลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้ง )
ถ้านึกไม่ออกก็ลองจินตนาการว่าคุณเป็นคนโบราณ อาศัยอยู่บนยอดเขา ทุกเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้นเขาก็จะมายืนดูตรงจุดเดิมทุกวัน ที่นี้ถ้าเกิดตำแหน่งที่พระอาทิตย์ขึ้นไปตรงกับ ยอดเขาที่ปลายขอบฟ้าพอดิบพอดี วันต่อมาพอเขามาดูอีก เขาก็จะเห็นว่าตำแหน่งที่พระอาทิตย์ขึ้นนั้นค่อยๆ เลื่อนไป ทางซ้ายหรือขวาทางใดทางหนึ่ง ( สมมุติว่าไปทางขวาก็แล้วกัน ) หลายร้อยวันต่อมา เขาจะพบว่าพระอาทิตย์หยุดเคลื่อนที่ไปทางขวาและเริ่มเคลื่อนที่กลับ จากนั้นอีกหลายร้อยวัน พระอาทิตย์ก็ค่อยเคลื่อนกลับมาทางซ้ายเรื่อยๆ จนผ่านยอดเขาที่เขากำหนดตำแหน่งไว้ แล้วก็ผ่านไปทางซ้ายเรื่อยๆ จนไปถึงจุดหนึ่งพระอาทิตย์ก็จะหยุดเคลื่อนไปทางซ้าย แล้วค่อยๆ กลับมาทางขวาอีกครั้ง
จนในที่สุดถึงยอดเขาตรงตำแหน่งที่เขากำหนดไว้ครั้งแรก นี่คือตำแหน่งที่พระอาทิตย์เดินทางมาครบรอบพอดี และเวลาที่ใช้ในการเดินทางครบหนึ่งรอบนี้ เราเรียกกันว่า 1 ปี ( เห่อ เหนื่อย ถ้าอ่านแล้วงง กรุณอ่านซ้ำใหม่อีกรอบ )
ถึงตรงนี้คนโบราณก็ได้รู้แล้วว่าระยะเวลา 1 ปี นานแค่ไหน ต่อมาคนโบราณก็รู้อีกว่าในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านไปนั้นมันมีฤดูอะไรบ้าง ( ถ้าบ้านเราก็มีหน้าร้อน หน้าฝน แล้วก็หน้าหนาว ) เท่าที่ศึกษาดูพบว่าวันปีใหม่นั้น คือวันเริ่มฤดูเพาะปลูก ซึ่งแม้จะต่างกันในแต่ละส่วนของโลก แต่ก็คล้ายกันตรงที่เอาช่วงที่สิ้นสุดฤดูแล้ง หรือ ฤดูหนาว แล้วเข้าสู่ฤดูร้อนเป็นวันเริ่มการเพาะปลูก
ที่นี้ก็เอาตำแหน่งของพระอาทิตย์ มารวมกับเรื่องฤดู ก็จะพบว่าช่วงปลายฤดูหนาว ต่อกับต้นฤดูร้อนนั้นมีวันหนึ่ง ที่พระอาทิตย์เดินทางเป็นเส้นตรงข้ามหัวเราไป ไม่อ้อมใต้ ไม่อ้อมเหนือ ผลก็คือในวันนี้ กลางวันกับกลางคืนจะเท่ากัน และตำแหน่งที่พระอาทิตย์ขึ้นจะเป็นทิศตะวันออกเป๊ะๆ และแน่นอนว่าตำแหน่งที่พระอาทิตย์ตก ก็เป็นทิศตะวันตกเป๊ะๆ ด้วย คนโบราณจึงเลือกเอาวันที่ว่านี้ เป็นวันขึ้นปีใหม่ ( ถ้าผมเป็นคนโบราณผมก็คงเลือกวันที่พิเศษนี้เป็นวันปีใหม่ เช่นกัน )
ถึงตอนนี้ก็รู้ไปแล้วว่า คนโบราณเลือกวันปีใหม่ยังไง แต่ยังไม่จบครับ เพราะไอ้วันที่พระอาทิตย์เดินทางข้ามหัวเป๊ะๆ นี่แต่ละพื้นที่เกิดไม่พร้อมกัน เช่นถ้าเราอยู่ตรงเส้นศูนย์สูตรพอดี เราก็จะมีวันปีใหม่ช่วงเดือนมีนาคม หรือถ้าอยู่เหนือขึ้นไปแถวลาว วันปีใหม่ของเราอาจอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้น ก็เลยต้องมีเกณฑ์ที่ดีกว่านี้ ในการเลือกวันปีใหม่
คนโบราณก็คิดเกณฑ์ใหม่ขึ้นมาโดยอาศัยความรู้ด้านดาราศาสตร์ ( ไม่รู้คิดได้ไง ขนาดผมเกิดในยุคนี้อ่านแล้วผมยังมึนๆ เลย ) เขาใช้วิธีแบ่งท้องฟ้าออกเป็นช่องเท่าๆ กัน 12 ช่อง แล้วเลือกเอาดาวที่มองเห็นชัดเจนบนท้องฟ้า มาเป็นจุดสังเกตุของแต่ละช่องอีกที แล้วจินตนาการว่ากลุ่มดาวในแต่ละช่องนั้นคล้ายรูปอะไร ( บอกตามตรงว่าบางอันผมไม่เห็นว่ามันจะดูเหมือนไอ้ที่เขาว่าสักนิด )
แล้วก็เลยเกิดดาวประจำเดือนต่างๆ ขึ้นมา ( ลองไปหาอ่านดูเอาเองแล้วกัน ) ที่นี้กลุ่มดาวที่ใช้กำหนดวันปีใหม่ของเราคือ กลุ่มดาวปลา ( Pisces ) คนไทยเรียกว่า กลุ่มดาวราศีมีน และ กลุ่มดาวแกะตัวผู้ (Aries ) คนไทยเรียกว่า กลุ่มราศีเมษ ที่นี้เขาก็จับเอาเวลาที่ ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่จากช่องบนท้องฟ้าที่แบ่งไว้ก่อนหน้านี้ จากกลุ่มดาวปลา ไปยังกลุ่มดาวแกะตัวผู้ เป็นวันปีใหม่ วิธีนี้ก็จะทำให้ได้วันปีใหม่ที่แม่นยำมากขึ้น
เขียนเองยังงงเอง ไม่เข้าใจตรงไหน กูเกิ้ลช่วยได้ ลองค้นดูเองแล้วกัน อ้อเกือบลืมปีใหม่ฝรั่งเขากำหนดจากความเชื่อทางศาสนาคริสต์ เพราะว่าบ้านเขาไม่มีพระอาทิตย์เดินทางข้ามหัวเหมือนแถบบ้านเรา จึงทำให้วันปีใหม่เขาไม่ตรงกับเราอย่างที่เป็นอยู่นี้ จบแล้วครับ
Create Date : 18 เมษายน 2554 |
| |
|
Last Update : 18 เมษายน 2554 17:43:07 น. |
| |
Counter : 1857 Pageviews. |
| |
|
|