มีสุข มีทุกข์ อะไรก็จะเขียนไว้ที่นี่

คน คือ ความผิดผลาดของธรรมชาติ

ก่อนอื่นขอรำลึกถึงเหตุการณ์ 9-11 ที่ครบรอบ 9ปี ไปเมื่อสามวันก่อนที่ผ่านมานี่เอง ที่เพิ่งมาเขียนในวันนี้ก็เพราะว่าลืม ทุกเรื่องไม่ว่าดีหรือร้าย ไม่ช้าก็เร็วเราก็ลืม ผมลืม คุณลืม ทุกคนลืม แล้วเรื่องเหล่านั้นก็ถูกลืมไป

คนเราพัฒนาเทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างแทบไม่น่าเชื่อ ทุกวันนี้อะไรๆ ก็ก้าวหน้าไปหมด จนอดคิดไม่ได้ว่าสิ่งเดียวที่ไม่เคยพัฒนาก็คือ คน

เรายังขัดแย้งกัน ทำร้ายกัน เข่นฆ่ากัน ไม่ต่างกับสัตว์ทั่วไปเลยสักนิด ถ้านับเอาเฉพาะช่วงที่มนุษย์มีสมองใหญ่ขึ้นเรียบร้อยแล้ว ก็ประมาณ 3แสนปี ช่วงเวลาที่ผ่านมาคนเราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย เคยทำสงครามโลกมา 2 ครั้ง สงครามเล็กๆ อีกนับไม่ถ้วน แต่คนไม่เคยเรียนรู้อะไรขึ้นมาเลย เรายังแก้ปัญหาโดยการเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม โดยอ้างความชอบธรรม อ้างศาสนา อ้างเชื้อชาติ อ้างความเชื่อต่างๆ นานา สุดแต่จะหามาอ้างกัน ทำไมไม่เข้าใจเสียทีว่า ทุกเชื้อชาติศาสนา ก็คือเพื่อนร่วมโลกเดียวกัน ไม่มีใครเป็นเจ้าของโลก ไม่มีศาสนา ไม่มีประเทศ ที่จริงจังอะไร เราสมมุติกันเอาเองทั้งนั้น

ศาสนา คือ เครื่องมือที่นิยมใช้เป็นข้ออ้างอันชอบธรรม ในการเข่นฆ่ากันมากที่สุด เชื่อจริงหรือว่าสิ่งที่ศาสนาสอนให้เราทำอย่างนั้น อย่างนี้ มันเป็นจริง เชื่อจริงหรือว่านรกมีจริง เชื่อจริงหรือว่าสวรรค์มีจริง เชื่อจริงหรือว่าชีวิตหลังความตายมีจริง เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น เปิดโอกาสให้เราพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ครั้งหนึ่งไม่อาจพิสูจน์ได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนหลายศาสนา สอนว่าโลกแบนบ้าง โลกเป็นหลังเต่าบ้าง แล้วแต่ศาสดาจะจินตนาการเอาเอง แต่วันหนึ่งก็พบว่าโลกเรากลม นั่นแปลว่าอะไร แปลว่าที่จริงแล้วคำสั่งสอนต่างๆ นานา เหล่านั้นเชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้าง ต้องเลือกดูให้ดีๆ ต้องพิสูจน์ก่อนแล้วจึงเชื่อ ต้องสมเหตุสมผล ต้องเป็นไปได้ จึงจะเชื่อ

เชื้อชาติ คืออีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้อ้างในการเข่นฆ่ากัน ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ตอนสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทุกคนรู้ ทุกคนเห็น หลายคนเชื่อว่าหลังสงครามโลกครั้งที่สอง คนจะเลิกทำสงครามกันเสียที เพราะได้เรียนรู้ว่าสงครามนำความเสียหายมากมายเพียงใด แต่เปล่าเลย เห็นแต่จะหาเรื่องทำสงครามกันอยู่ตลอดเวลา การที่ไม่รู้จักจำ ไม่รู้จักเรียนรู้ แสดงให้เห็นว่าคน ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเลยสักนิด

นอกจากนี้ คนก็หาเหตุมาแบ่งแยกกัน ฆ่าฟันกันได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะสีผิว สัญชาติ ระบอบการปกครอง ใกล้ตัวหน่อยก็ สถาบันการศึกษา ไม่ช้าหรอกคนคงแบ่งแยกกัน เข่าฆ่ากัน เพราะชอบเส้นก๋วยเตียวไม่เหมือนกัน




 

Create Date : 14 กันยายน 2553   
Last Update : 14 กันยายน 2553 11:31:57 น.   
Counter : 751 Pageviews.  

Cat's In The Cradle

อยู่ๆ ก็นึกได้ว่าเคยฟังเพลงโฆษณาเลิกบุหรี่ เพลงนึงที่ฟังไม่รู้เรื่องแต่น้ำตาซึม เพิ่งรู้ชื่อเพลงแล้วก็ความหมายของเนื้อเพลง ก็วันนี้เอง

Cat's In The Cradle
by Harry Chapin

Notated by Eric Larson (larsoe@rpi.edu)


Verse:
E G
My child arrived just the other day,
A E
He came to the world in the usual way
E G
But there were planes to catch and bills to pay,
A E
He learned to walk while I was away
D A/C# Bm A
And he was talking 'for I knew it, and as he grew
G Bm E G Bm E
He said "I'm gonna be like you, dad, you know I'm gonna be like you"


Chorus:
E D
And the cat's in the cradle and the silver spoon,
G A
Little boy blue and the man in the moon
E D
"When you commin' home dad?" "I don't know when,
G Bm E G Bm E
But we'll get together then, You know we'll have a good time then"

Verse 2
My son turned ten just the other day
He said "Thanks for the ball dad, come on let's play
Can you teach me to throw"
I said "Not today I got a lot to do" He said "Thats OK"
He walked away but his smile never dimmed,
It said I'm gonna be like him, yeah,
You know I'm gonna be like him

Verse 3
Well he came from college just the other day
So much like a man I just had to say
"Son I'm proud of you can you sit for a while?"
He shook his head and he said with a smile,
"What I'd really like dad is to borrow the car keys,
See you later can I have them please?"

Verse 4
I've long since retired, my son's moved away
I called him up just the other day
I said "I'd like to see you if you don't mind"
He said "I'd love to dad if I could find the time,
You see the my new job's a hassle and the kids have the flu
But it's sure nice talkin' to you dad
It's sure nice talkin' to you"

And as I hung up the phone it occurred to me,
He'd grown up just like me
My boy was just like me


Last Chorus
And the cat's in the cradle and the silver spoon
Little boy blue and the man in the moon
"When you commin' home son?" "I don't know when,
But we'll get together then, Dad,
We're gonna have a good time then"




 

Create Date : 02 กันยายน 2553   
Last Update : 2 กันยายน 2553 17:57:54 น.   
Counter : 897 Pageviews.  

สังเกตุว่ามีอาการง่วงเวลาทำงานมากกว่าแต่ก่อน

ผมสังเกตุว่า ช่วงนี้มีอาการง่วงเวลาทำงานมากกว่าแต่ก่อน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ คิดเอาเองว่าอาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นชินกับห้องใหม่ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่นี่มันจะครบเดือนแล้ว น่าจะคุ้นได้แล้ว หรือเป็นเพราะความสูงของห้องพัก ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ อันนี้ก็ไม่ทราบได้ คงต้องรอดูกันอีกสักระยะ

สงสัยว่าต้องปรับเวลาเข้านอนให้เร็วขึ้นอีกหน่อย เพื่อชดเชยเวลาที่นอนไม่หลับ หรือไ่ม่ก็อาจต้องทำใจให้สงบก่อนนอน หรือไม่อีกทีคงต้องอ่านหนังสือก่อนนอน

เอ... หรือว่าหมู่นี้ไม่ค่อยมีงานก็เลย มีเวลาว่างสมองก็เลยเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน ถ้าเป็นเพราะเหตุนี้ก็ไม่ยากเดี๋ยวหาอะไรตื่นเต้นทำสักหน่อย อาการคงดีขึ้น




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2553   
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 13:43:53 น.   
Counter : 740 Pageviews.  

ซื้อคีย์บอร์ด YAMAHA PSR-E423 มาหัดเล่น

หลังจากย้ายที่พักแล้ว ก็เกิดปัญหาว่า ผมรู้สึกเกรงใจห้องข้างๆ ไม่กล้าเล่นกีตาร์ร้องเพลงเหมือนที่เคยทำ ก็เลยเกิดความคิดว่า อยากได้เครื่องดนตรีที่ผมสามารถเล่นแล้วได้ยินเสียงคนเดียว จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้

หลังจากค้นหาข้อมูลมากมาย ก็พบว่ามีเครื่องดนตรีอีเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ที่สามารถเล่นฟังคนเดียวได้ก็คือ คีบอร์ด ตอนแรกผมเองก็งงๆ ว่าคีย์บอร์ด อีเล็กโทน เปียโนไฟฟ้า คีย์ใบ้ ออร์แกน มันแตกต่างกันอย่างไร แต่หลังจากค้นจากอินเตอร์เนตก็พอสรุปได้ว่า


คีย์บอร์ด หมายถึงเครื่องดนตรีที่ใช้คีย์กดทั้งหมด และยังหมายถึง Portable Keyboard ที่ผมจะซื้อนี่ด้วย ซึ่งผมนิยามว่า หมายถึงเครื่องดนตรีอีเล็กทรอนิกส์ที่เลียนเสียงดนตรี ได้หลายชนิด มีลำโพงในตัว อาจเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ก็ได้แล้วแต่รุ่น อาจเชื่อมต่อด้วยพอร์ต MIDI หรือ USB ก็ได้ แล้วแต่รุ่นอีกนั่นแหละ


คีย์ใบ้ หมายถึง MIDI Controller ไม่มีเสียงในตัวเองใช้ต่อกับคอมพิวเตอร์ เท่านั้นมีทั้งแบบที่เป็นพอร์ต MIDI หรือ USB


อีเล็กโทน ก็คีย์บอร์ดนั่นแหละแต่เป็นชื่อที่ yamaha ตั้งขึ้น และในความรู้สึกของผมแล้ว มันหมายถึงคีย์บอร์ดรุ่นแพงๆ ตัวละแสนขึ้นไปโน่นด้วย


เปียโนไฟฟ้า ชื่อก็บอกอยุ่แล้วว่าเป็นเปียโนที่ทำงานด้วยไฟฟ้า เน้นเล่นทดแทนเปียโนเป็นหลัก ซึ่งคีย์กดจะให้ความรู้สึกเหมือนเปียโนจริง ผมลองกดคีย์ของ Yamaha P95
ดูก็พบว่าเออให้ความรู้สึกหน่วงๆดี

ออร์แกน หมายถึงเครื่องเป่าที่ใช้คีย์บอร์ดเป็นตัวควบคุม ที่ผมนึกออกก็คือ ไปท์ออร์แกนที่เล่นในโบสถ์คริส เวลาแต่แต่งงาน ที่เขามักเล่นเพลง แต่น แตน แตน แตน แต่น แต้น แต่น แตน


สุดท้ายก็สรุปได้ว่า สิ่งที่ผมต้องการนั้นมันคือ คีย์บอร์ด(Portable Keyboard) เพราะผมต้องการที่จะเล่นดนตรีเพื่อฟังคนเดียว และผมต้องการใช้มันเขียนโน้ตเพลงในคอมพิวเตอร์ ผ่านโปรแกรม garageband หรือ cakewalk อะไรทำนองนี้ด้วย


แน่นอนที่สุดว่าไม่มีอะไรง่ายสำหรับชีวิตผม เริ่มจากการหาว่าผมควรซื้อรุ่นไหน ราคาเท่าไหร่ มีขายที่ไหน ซึ่งสรุปออกมาได้ว่า ผมจะซื้อ Yamaha PSR-E423 ซึ่งราคา 13900-14500 และมีขายที่ powerbuy แล้วก็ที่ bngmusic


เหตุผลที่ผมเลือกรุ่นนี้ก็เพราะว่าผมพบว่า มันคือคีย์บอร์ด รุ่นเล็ก รุ่นล่าสุดของยามาฮ่า ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานตรงตามความต้องการของผมนั่นคือ

1. มีเสียงในตัว
2. ต่อคอมพิวเตอร์ใช้กับโปรแกรม garageband cakewalk ได้
3. มีระบบที่เรียกว่า Touching ซึ่งถ้ากดเบาเสียงเบา กดแรงเสียงแรง ประมาณนี้
4. เลียนเสียงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด
5. ต่อหูฟังได้

ผมไปดูที่ powerbuy พระราม2 ก่อนแต่ปรากฎว่าพนักงานที่ขายเครื่องดนตรีไม่มา ไม่มีใครแทนได้ ผมก็เลยไปซื้อที่ bngmusic แทน แต่ก็เจอปัญหาว่าที่เดอะมอลล์บางแค ไม่มีของ มีอยู่ที่สาขาเดอะมอลล์งามวงวาน แถมเหลือตัวเดียวด้วย นั่นหมายถึงต้องซื้อตัวโชว์ซึ่งอาจบอบช้ำนิดหน่อย แต่ผมก็ทำใจได้ไม่ว่ากัน

ธรรมดาของโลกที่ คนเรามักจะเห่อของที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมเองก็เห่อเหมือนกัน หลังจากซื้อมาแล้ว ก็เอาแต่นั่งลูบๆคลำๆ กดโน่นกดนี่เล่นบ้าง อ่านคู่มือบ้าง เพราะยังเล่นไม่เป็น มีโน้ตเพลงในหัวอยู่กี่เพลงก็ลองกดเล่นดูจนหมด ว่ากันตั้งแต่เพลงชาติ ยันเพลงสรรเสริญบารมีกันเลยทีเดียว

แต่เนื่องจากว่าผมไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องดนตรีชนิดนี้ก็เลย ติดๆขัดๆ เล่นได้แต่ท่อนสั้นๆช้าๆ เพราะว่าหาคีย์ไม่เจอ โชคดีที่ปกติกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์บ่อยทำให้ พอจะสั่งงานนิ้วต่างๆ ได้ตามใจอยู่บ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเวลาเล่นเพลงที่ต้องย้ายข้อมือไปไกลๆ เพราะพอนิ้วเคลื่อนออกจากตำแหน่งตรง C3 แล้วผมก็ไม่รู้ว่าโน้ตอะไรอยู่นิ้วไหน คงต้องฝึกกันอีกนาน

แม้หลายคนจะไม่เข้าใจว่า ผมคิดยังไงถึงซื้อคีย์บอร์ดมาเล่น ทั้งๆที่เล่นไม่เป็น แต่ในความคิดของผมแล้ว ไม่มีอะไรน่าสับสนเลยสักนิด มันชัดเจนว่าผมต้องการเล่นดนตรี และผมเชื่อมั่นเหลือเกินว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถ ไม่มีใครเป็นตั้งแต่เกิด ทุกคนล้วนแต่ต้องผ่านการฝึกฝนกันทั้งนั้น เป็นเร็วบ้าง เป็นช้าบ้าง ถ้าไม่ล้มเลิกเสียก่อนยังไงก็ต้องเล่นได้ในสักวัน จริงไหม




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2553   
Last Update : 25 สิงหาคม 2553 13:44:18 น.   
Counter : 5277 Pageviews.  

ย้ายมาอยู่ห้องใหม่เรียบร้อยแล้ว

นึกๆ ก็ตลกตัวเอง เล่าให้ใครฟังเขาก็ว่า *** แหม.... ทำไปได้ *** ก็ผมไม่มีเวลาไปหาห้องพัก แถมผมก็ไม่ชอบโทรศัพท์ซะด้วย ก็เลยใช้วิธีที่อาจพูดว่าไปตายเอาดาบหน้า คือพอถึงวันหยุดผมก็เก็บของทั้งหมด ใส่ลังบ้าง ใส่ถุงบ้าง ชิ้นไหนใหญ่ก็ยกมันไปแบบนั้นเลย กว่าจะเก็บเสร็จ ทีมงานขนย้ายก็มาถึงพอดี ทีมที่ว่าก็มี แม่ พี่สาว พี่เขย น้องพี่เขย ว่าแล้วผมก็บรรยายสรุปให้ฟังว่าจะต้องทำอะไร

พอฟังจบ ทุกคนก็อึ้งที่รู้ว่าผมยังไม่ได้ติดต่อที่ไหนเลย ไปดูมาที่เดียวตรงปากทางสาย5 ซึ่งผมถือว่าเป็นแผนสุดท้าย และแน่นอนทุกคนพูดว่า มันต้องหาห้องให้ได้ก่อนแล้วค่อยขนของไป ไม่มีใครที่ไหนเขาขนของไปหาหอแบบผม ผมก็ตอบไปว่าผมมีเวลาจำกัด ทำได้วิธีนี้วิธีเดียว ว่าแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขนของขึ้นรถจนเต็มกระบะ เหลือของต้องขนอีกพอควร เท่ากับว่าหลังจากหาหอได้แล้วต้องกลับมาขนอีกเที่ยวนึง นั่นคือแผนของผม

ตามคำแนะนำของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงานทำให้ผมมีจุดหมายปลายทางอยู่แถวบางแค ด้วยเหตุผลสำคัญสองข้อคือ

1. รถบริษัทวิ่งผ่านทำให้สามารถขึ้นรถมาทำงานได้สะดวก
2. ใกล้กับตลาดสะดวกในการหาซื้อข้าวปลาอาหาร

ผมก็เลยตั้งใจจะหาอพา์ทเมนท์แถวๆ นั้นให้ได้ เดินดูอยู่ 3 แห่ง ก็ตัดสินใจเลือกอยู่แห่งที่มีลิฟท์เพราะคิดว่าคงสะดวกในการขนย้ายของ แม้จะแพงกว่าแต่ก็รับได้ แถมได้ข่าวว่าเคยมีคนเจอผียิ่งน่าอยู่เข้าไปใหญ่ ถามพนักงานที่พาไปดูห้องว่าผมย้ายเข้าวันนี้เลยได้หรือเปล่า คำตอบคือได้แต่ต้องขอเวลาทำความสะอาดห้องก่อน ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะผมต้องกลับไปขนของอีกรอบอยู่ดี

กว่าจะกลับมาห้องก็พร้อมพอดี ขนของสะดวกดังที่คาดไว้แค่ยกใส่รถเข็นแล้วก็ลากใส่ลิฟท์ แล้วก็ลากไปห้องพักได้เลย ถึงอย่างนั้นก็เล่นเอาเหนื่อยแทบตาย แต่ก็เสร็จก่อนมืดอย่างที่ตั้งใจไว้ ถ้าเป็นเกมคงมีคำว่า (Mission accomplish) ขึ้นมากลางหน้าจอตัวใหญ่ๆ

ผ่านมาหลายวันผมก็ยังจัดของไม่เป็นระเบียบ อะไรหาที่วางไม่ได้ก็ยัดเข้าใต้เตียงไปก่อน คงอีกหลายอาทิตย์กว่าจะจัดของทั้งหมดเข้าทีเข้าทาง ตั้งใจว่าจะไม่ทำห้องรกจนเกินไป อะไรไม่ใช้จะทิ้งเสียให้หมดเพราะห้องเล็กๆแบบนี้ขืนเก็บสิ่งของที่ไม่จำเป็นเดี๋ยวก็กลายเป็นรังหนูพอดี

แม่บอกว่าช่วงที่นั่งรอผมกลับไปขนของอยู่ เห็นสาวๆ เดินขึ้นๆ ลงๆ เยอะไปหมด คงแอบหวังว่าผมจะเจอใครถูกใจสักคนทำนองนั้น คงเป็นไปได้ยากเพราะเท่าที่ผมอยู่ที่นี่มาสองสามวันยังไม่เห็นสาวเลยสักคน ที่เห็นก็ไม่สาว

แม่ออกปากไว้แล้วว่า ต่อไปคงมาหาไม่ได้เพราะไกล เดินทางมาไม่สะดวก ถ้าขืนแม่ต้องต่อรถหลายๆต่อเดี๋ยวก็หลงทางกับพอดี

ผมยังไม่มีเวลาสำรวจพื้นที่สักเท่าไหร่ เพราะยังรู้สึกเหนื่อยกับการขนของอยู่ วันหยุดถ้ามีเวลาคงได้ออกเดินสำรวจว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง จะได้สะดวกเวลาจะซื้อของกินของใช้ต่างๆ ตอนนี้รู้แค่ว่าจะซื้ออาหารจากที่ไหน ขาดเหลืออะไรคงต้องซื้อจากโลตัสเท่านั้น

ส่วนห้องพักก็มีส่วนที่ผมชอบมากกว่าที่ผมไม่ชอบ อย่างแรกคือได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น เพราะห้องอยู่ด้านตะวันออก และแน่นอนว่าทำให้ห้องไม่ร้อนแม้จะไม่มีแอร์ก็ตาม จะร้อนก็แค่ช่วงเช้าครู่นึง ซึ่งก็สามารถใช้แสงแดดฆ่าเชื้อโรคในห้องเป็นผลพลอยได้อีกทางนึง แถมเวลาฝนตกก็ไม่โดนฝนสาดด้วยเพราะปกติแล้วลมฝนจะพัดมาจากทางใต้หรือไม่ก็ตะวันตก

ข้อเสียเท่าที่นึกออกก็คือลมไม่พัดเหมือนห้องทางทิศใต้ และอาจทำให้ผ้าแห้งช้าเวลาตากเพราะไม่ค่อยโดนแดด นึกออกแค่เนี้ยะ

ถ้าไม่มีอะไรเกิดความคาดหมายผมคงต้องอยู่หัองนี้ไปอีกหลายปี สิ่งเหนือความคาดหมายก็ทำนองว่าเกิดถูกสลากออมสินขึ้นมา หรือไม่ก็อาจคิดค้นอะไรสักอย่างที่ขายได้เงินเยอะๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจจะย้ายไปอยู่ที่อื่น




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2553   
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 17:28:43 น.   
Counter : 761 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  

mrpipo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ประชาธิปไตยจงเจริญ
[Add mrpipo's blog to your web]