มีสุข มีทุกข์ อะไรก็จะเขียนไว้ที่นี่

กำลังรอเวลาที่จะกลายเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วม

จากการคาดการณ์ของผม (ซึ่งเชื่ออะไรไม่ค่อยได้) คาดว่าน้ำน่าจะท่วมบริเวณแมนชั่นที่ผมพักอยู่ในเร็ววันนี้ และคาดการณ์อีกเช่นกันว่า น่าจะลึกประมาณ 1 เมตร คิดไว้ว่าจะท่วมนานประมาณ 1 เดือน

ถ้าเป็นไปตามคาด ผมก็ต้องเตรียมหาเสบียงสำรองให้เพียงพอสำหรับช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะเวลาหนึ่งเดือนเท่ากับอาหาร 90 มื้อ ถ้ากินวันละ 2 มื้อเหมือนพระก็ 60 มื้อ ก็ยังเยอะอยู่ดี

สิ่งจำเป็นสูงสุดน่าจะเป็นน้ำดื่ม ถ้าดื่มน้ำวันละลิตรก็ต้องเตรียมน้ำไว้ 30 ลิตร ตามแผนการณ์คือจะซื้อถังน้ำดื่ม 20 ลิตร 2ถัง แล้วไปกดน้ำหยอดเหรียญใส่ให้เต็มไว้ แค่นี้ก็น่าจะจบ

ต่อมาคืออาหาร มันขึ้นอยู่กับว่าไฟฟ้าจะดับหรือไม่ ถ้าไฟดับก็ต้องเตรียมสำรองอาหารพร้อมรับประทาน เช่น ขนมปังกรอบ ปลาเส้น นมข้นหวาน ทำนองนี้ แต่ถ้าไฟฟ้ายังมีอยู่ ก็สามารถหุงข้าว ต้มมาม่า อุ่นอาหารแช่แข็งได้ เท่าที่ผ่านมาทุกที่ที่น้ำท่วม การไฟฟ้ามักจะตัดไฟ ทำให้ผมเชื่อว่าถ้าน้ำท่วมจริงแมนชั่นผมก็คงไม่มีไฟฟ้าแน่ๆ เท่ากับว่าเตรียมอาหารพร้อมรับประทานไว้จะเหมาะสมกว่า แต่อาหาร 90 มื้อนี่มันไม่ใช่น้อยๆ เลย และที่สำคัญผมก็กะไม่ถูกด้วย อาจต้องใช้วิธีเผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด

เรื่องการเดินทางสัญจร ก็ถ้าน้ำท่วมถนนด้านหน้าเมื่อไหร่ ก็จบเพราะไม่มีเรือ คงอยู่แต่บนห้องไปไหนไม่ได้

เรื่องการงาน ถ้ารถบริษัทเลิกรับส่งเมื่อไหร่ ก็หยุดเมื่อนั้น หรือบางทีถ้าการเดินทางใช้เวลานานเกินไป หรือสุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัย ก็อาจใช้สิทธิ์ลาพักร้อน ที่ตั้งแต่ทำงานมา 10 ปีผมไม่เคยลาเลยแม้แต่วันเดียว อาจได้ใช้ปีนี้เป็นปีแรก และอาจใช้ในปีถ้ดไปเรื่อยๆ เพราะบริษัทไม่มีนโยบายในการสะสมหรือเปลี่ยนเป็นเงินใดๆ ทั้งสิ้น แถมไม่เคยมองเห็นว่ามันเป็นคุณงามความดีอะไร ขยันมาทำงานให้ตายก็ไม่มีค่าอะไร หน้าที่การงานก้าวหน้าสู้พวกประจบสอพลอไม่ได้เลย (พูดแล้วน้อยเนื้อต่ำใจ หยุดดีกว่าเดี๋ยวยาว)

การอพยพ เงื่อนไขของการจะตัดสินใจอพยพก็คือ ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีอาหาร ซึ่งเกิดเพราะน้ำท่วมนานเกินว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น ถ้าอพยพจริงก็ไม่รู้จะไปไหนเพราะบ้านที่สิงห์บุรี ท่วมไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็อยู่อาศัยได้ มีเรือ มีอาหาร มีน้ำดื่ม มีไฟฟ้า ที่สำคัญเป็นทางเลือกเดียวที่มี ปัญหาคือจะกลับไปได้อย่างไรในเมื่อถนนปิดไปหลายเส้นแล้ว หวังว่ารถบขส. จากกรุงเทพไปสิงห์บุรีจะยังวิ่งได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องไปยังจังหวัดใกล้เคียงก่อนแล้วค่อยหารถต่อเข้าสิงห์บุรีอีกที แม้จะไปถึงสิงห์บุรีได้ก็ไม่ง่ายเลยที่จะไปให้ถึงบ้านอาจต้องเดินเท้าบ้าง โบกรถบ้าง จนกว่าจะไปถึงคันคลองชลประทานหน้าบ้าน จากนั้นค่อยโทรเรียกให้แม่พายเรือมารับ

สุดท้ายของส่งความปราถนาดีไปยังผู้ประสบภัยทุกคน โลกก็เป็นแบบนี้ มีความทุกข์เป็นธรรมดา ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรที่สามารถยึดเป็นของเราได้เลย ขอให้ทุกท่านสามารถผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ไปได้ด้วยดี ยิ้มๆไว้ครับ


Create Date : 28 ตุลาคม 2554
Last Update : 28 ตุลาคม 2554 10:07:00 น. 0 comments
Counter : 718 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

mrpipo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ประชาธิปไตยจงเจริญ
[Add mrpipo's blog to your web]