มีสุข มีทุกข์ อะไรก็จะเขียนไว้ที่นี่

แล้วเราคนไทยจะไปทางไหนกันดี

เช้ามาก็ได้ยินข่าวว่ามีการประกาศใช้ สถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพมหานคร เดาว่าคงมีเหตุอะไรแน่ๆ ในที่สุดก็รู้ว่ามีการปะทะกันของกลุ่ม พันธมิตร กับ นปช ทำให้มีคนตาย 1 คน จนอีก 40 กว่าคน รัฐบาลคงเชื่อว่าจะสามารถบังคับใช้กฎหมายเพื่อสลายการชุมนุมได้ แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะได้ หรือถ้าจะทำให้ได้ก็ต้องใช้ความรุนแรงพอสมควร ซึ่งนั่นจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่ขึ้นอีก ที่นี้เรื่องจะไม่จบง่ายๆ

เมื่อยังเป็นเด็กผมจำได้ว่า ชอบเล่นเล่นฮีโร่ออกไปปราบสัตว์ประหลาด ผมก็จะมีดาบไม้ใผ่ ธนู หนังสติ๊ก เรียกว่าอาวุธครบมือ โดยสมมุติว่า พวกกอใผ่ จอมปลวก ต้นไม้ เป็นสัตว์ประหลาด ตอนที่เล่นผมไม่รู้ตัวหรอกว่าผมกำลังสร้างเส้นแบ่งในความคิดว่า เราคือฝ่ายดี ส่วนฝ่ายตรงข้ามก็เป็นฝ่ายไม่ดี เราสามารถใช้ได้ทั้ง อาวุธ คาถา และทุกวิธีการ เท่าที่จะจินตนาการออกในการปราบศรัตรูได้ โดยไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น เพราะพวกนั้นสมควรตายอยู่แล้ว และเราเป็นพระเอก ผู้คนต้องชื่นชมที่เราปราบสัตว์ประหลาดได้

จนถึงวันนี้ วันที่คนแบ่งออกเป็นสองฝ่ายแล้วบอกว่าฝ่ายตนถูก อีกฝ่ายผิด แน่นอนว่าฝ่ายตนสามารถใช้วิธีการใดก็ได้ในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องศีลธรรม ความถูกต้อง หรือแม้แต่กฎหมาย มีเครื่องมือใดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็พร้อมจะหยิบมาใช้ได้ทันที สุดท้ายหลังจากที่มีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น ฝ่ายชนะก็จะหลงชื่นชมในชัยชนะอยู่ได้สักพักหนึ่ง เมื่อวันเวลาผ่านไป ความบาดหมางในใจเริ่มลบเลือน ก็จะถึงเวลาที่จะเฝ้าถามตัวเองว่าเราทำเช่นนั้นไปได้อย่างไร และอดคิดไม่ได้ว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราจะไม่ทำเช่นนั้น สุดท้ายก็เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น

ผมขอยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดๆ ตอนนี้คุณสุริยะใส คงเกลียดคุณสมัครจนเข้าไส้ และบอกตัวเองว่าจะทำทุกทางเพื่อทำลายคุณสมัครให้ได้ ในทางกลับกันคุณสมัครคงจะคิดไม่ต่างกัน ทั้งสองคนต่างคิดว่าต่อให้ฆ่ากันให้ตายไปข้างนึงก็ไม่มีทางจะหายเกลียด

แต่เชื่อผมเถอะว่า สรรพสิ่งในโลกล้วนอนิจจัง นั่นรวมไปถึงความขัดแย้ง ความเกลียดชัง ที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้ด้วย ผมกล้าทำนายไว้เลยว่าอีกไม่นานทั้ง คุณสมัคร และคุณสุริยะไสก็จะลืมความรู้สึกในวันนี้

ทำท่าไม่เชื่อ เอางี้สมัยเรียนคุณต้องมีอาจารย์ที่คุณไม่ชอบหน้าแน่ๆ คุณอาจจะยังจำหน้าได้ จำชื่อได้ จำเรื่องที่เคยทำให้คุณเกลียดได้ แต่เชื่อไหมว่าคุณจำความรู้สึกเกลียดที่มีในวันนั้นไม่ได้ ผมเชื่อว่าตอนนั้นคุณต้องคิดจะทำอะไรมากมาย ตั้งแต่ปล่อยยางรถ หรือไม่ก็กรีดสีรถให้เป็นรอย ซึ่งคุณจะลงมือทำหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ ผมถามแค่ว่าถึงวันนี้คุณยังโกรธยังเกลียดอาจารย์ท่านนั้นอยู่หรือไม่ ผมเชื่อว่าสำหรับคนทั่วๆไปแล้ว จะตอบว่าไม่ และหลายคนอาจให้เหตุผลต่ออีกว่าที่อาจารย์ทำเช่นนั้นเพราะอาจารย์มีหน้าที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะอาจารย์หวังดีกับเรา

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ไม่มีอะไรเลยที่คงที่ยั่งยืน ยิ่งกับความรู้สึกนึกคิดด้วยแล้ว ยิ่งเปลี่ยนแปลงได้ง่ายเข้าไปใหญ่เลย


เคยมีคนข้างบ้านวางยาฆ่าหมาบ้านผมตายหมดบ้าน ผมตั้งใจว่าสักวันผมจะแก้แค้นให้ได้ ตอนนั้นผมคิดวิธีการแก้แค้นไว้มากมาย แต่ก็ไม่เคยได้ทำ และโชคดีมากที่ไม่ได้ทำอะไรลงไป ไม่งั้นวันนี้ผมอาจจะต้องมาเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแน่ๆ ทุกวันนี้ผมจำความรู้สึกโกรธแค้นในวันนั้นไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่าเคยโกรธ เคยอาฆาตแค้น คนคนนั้น มันก็เป็นเช่นนี้เอง

วันนี้เราไทยเราแตกแยกกันเพราะคิดไม่เหมือนกัน แต่ต่างฝ่ายต่างมุ่งจะเอาชนะ และคิดว่าฝ่ายตนคิดถูก ฝ่ายตนชอบธรรมกว่า ฝ่ายตนเหนือกว่า ฝ่ายตนต้องชนะ สุดท้ายจะไม่มีใครชนะ และไม่มีวันชนะด้วย หากรังแต่จะแพ้ ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ผลกระทบจะไม่ได้เกิดกับเพียงแค่คนสองฝ่ายนี้เท่านั้นคนที่เป็นกลาง คนที่ไม่ร้เรื่องด้วย คนทั้งชาติต้องได้รับผลกรรมนี้ไปด้วย

ผมเกิดมานานพอสมควร ผมไม่เคยเห็นนักการเมือง ขบวนการทางการเมือง หรือพรรคการเมืองใดที่ปราศจากมลทิน ถ้าไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ ไม่เห็นแก่อำนาจ ไม่เห็นแก่ชื่อเสียง คงไม่ก้าวเข้ามาทำงานการเมือง แตกต่างกันแค่ว่าใครโกงมาก ใครโกงน้อย ใครโดนจับได้ ใครโกงได้แนบเนียน

ธรรมชาติของคนมักไม่กลัวการทำชั่ว แต่กลัวจะมีคนล่วงรู้ว่าเราทำชั่วมากกว่า นั่นคือความจริงที่หนีไม่พ้น ผมเองก็เป็น คุณเองก็เคงเช่นกัน

ไม่ใช่แค่พันธมิตร รัฐบาล หรือใครคนหนึ่งคนใดหรอก ที่อยากเห็นการเมืองที่ดี คนทั้งชาติต่างอยากเห็นการเมืองทีดี แต่จะทำอย่างไร เลือกเส้นทางไหน ต่างฝ่ายต่างคิด ต่างทำ แตกต่างกันออกไป ไม่มีใครผิดทั้งหมด ไม่มีใครถูกทั้งหมด ผิดถูกเท่าๆกัน พอๆ กัน นั่นแหละ แทนที่จะแตกแยกกัน แทนที่จะฆ่ากัน น่าจะช่วยกัน ร่วมมือกันเสียมากกว่า

ผมรู้ว่าตอนนี้ไม่มีใครฟังใคร บ่นไปก็เท่านั้น สาเหตุที่แท้จริงคือ ประเทศเราขาดผู้นำ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเรามีกันตั้ง 63 ล้านคน จะหาผู้นำดีๆ แค่คนเดียวไม่ได้ หรือเป็นเพราะว่าคนดีๆ เขาไม่ชอบทำงานการเมือง คิดแล้วเศร้าและสับสน




Create Date : 02 กันยายน 2551
Last Update : 2 กันยายน 2551 17:00:03 น. 1 comments
Counter : 689 Pageviews.  

 
ก็เห็นด้วยหลายประการ..

แต่จะทำไงอ่ะ
เอาเป็นว่าคืนนี้จะสวดมนต์ ชุดใหญ่เลย
ขอให้ประเทศ และชาวไทยปลอดภัย



โดย: อัสติสะ วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:18:03:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

mrpipo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ประชาธิปไตยจงเจริญ
[Add mrpipo's blog to your web]