การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรสังเกตุ คำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง
Group Blog
 
All Blogs
 
Mark to Market คืออะไร?

กองทุนรวมตราสารหนี้ กับการ Mark to Market

วันนี้มาคุยกันเรื่องการ Mark to Market นะครับ ที่ผ่านมาเพื่อนๆพี่ๆนักลงทุนคงได้ยินคำๆนี้อยู่บ่อยๆ บ้างคนอาจรู้คร่าวๆแล้วว่าคืออะไร ในขณะที่บางคนอาจไม่รู้เลยว่ามีผลกับหน่วยลงทุนที่ตัวเองถืออยู่ยังไง

จริงๆแล้วการ Mark to Market ไม่ใช่ทำกับเฉพาะกองทุนรวมตราสารหนี้เท่านั้นนะครับ ลองมาดูนิยามของมันก่อน

Mark to Market หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "การคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิโดยให้สะท้อนราคาตลาดที่เป็นธรรม" (ยาวดีป่ะ) ก็คือ วิธีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนถืออยู่ไม่ว่าจะเป็น หุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร ฯลฯ ให้เป็นมูลค่าตามตลาดหรือราคาตลาดปัจจุบัน หรือราคาล่าสุด ที่เกิดการซื้อขายจริงๆในวันนั้นๆ หรือวันก่อนก่อนหน้า (หากวันนั้นไม่มีการซื้อขาย)

จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่เฉพาะตราสารหนี้เท่านั้นที่โดน Mark to Market จริงๆแล้ว ปัจจุบันกองทุนหุ้นในตลาด ก็ต้อง Mark to market ด้วยเช่นกันครับ แต่ในกรณีที่กองทุนลงทุนในหุ้นนั้น เราใช้ราคาปิดของหุ้นรายๆตัวนั้นๆอยู่แล้ว ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ก็เข้าใจกันหมด จริงๆแล้วตราสารหนี้ก็เหมือนกันครับไม่แตกต่างกัน

แล้วการ Market to Market เกิดประโยชน์อะไรกับผู้ถือหน่วย
- เนื่องจากกองทุนรวมส่วนใหญ่จะมีผู้ลงทุนเข้า ๆ ออก ๆ อยู่ตลอดเวลา (ซื้อขายได้ทุกวันทำการ) จึงต้องมีการแบ่งส่วนทรัพย์สินให้แก่คนที่ออกไป หรือส่วนของเงินใหม่ที่จะเข้ามาอย่างเป็นธรรม และวิธี Mark to Market จะทำให้กองทุนสะท้อนฐานะและมูลค่าตามความเป็นจริงในแต่ละสิ้นวันได้ดีขึ้น ไม่เกิดการได้เปรียบ หรือ เสียเปรียบ สำหรับนักลงทุนเก่า และนักลงทุนใหม่
- อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แท้จริงของกองทุนและบริษัทจัดการ ว่าพอร์ตการลงทุนนั้น มีความผันผวนด้านราคาของตราสารมากน้อยแค่ไหน อันจะทำให้นักลงทุนเข้าใจธรรมชาติของกองทุนนั้นๆได้ดีขึ้นครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ กองทุน Fixed Income Fund ของ AYF ทุกกองนั้น ปัจจุบัน Mark to Market ทุกวัน โดย NAV ย้อนหลังนั้น มีความผันผวนสูงสะท้อนให้เห็นความเสี่ยงด้านราคาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น (ปัจจุบัน หลายกองทุนนอกจาก AYF ก็นำวิธีการ Mark to Market ทุกวัน มาใช้คำนวน NAV แล้ว)



เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น เอาตัวอย่างแบบคร่าวๆไปดูนะครับ
สมมติ เราลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้อยู่แล้ว วันนี้ กนง.ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้มูลค่าพันธบัตรและตราสารหนี้ตัวอื่นๆที่กองทุนรวมถืออยู่สูงขึ้น หากไม่มีการ Mark to Market ให้ NAV สูงขึ้นตาม ผู้ลงทุนใหม่ที่เข้าลงทุนวันนี้ ก็จะได้ซื้อหน่วยลงทุนในราคาถูกเกินความเป็นจริง ขณะที่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมหากขายหน่วยลงทุนออกจากกองทุนจะได้ราคาหน่วยที่น้อยเกินไป
และในทางกลับกัน เมื่อดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวสูงขึ้น มูลค่าตราสารหนี้ที่กองทุนรวมถืออยู่ลดลง หากไม่มีการ Mark to Market เพื่อปรับ NAV ให้ลดลง จะกลายเป็นว่านักลงทุนที่เข้ามาในวันนี้ จะต้องซื้อหน่วยลงทุนแพงเกินจริง และหากนักลงทุนเดิมต้องการไถ่ถอนหน่วยลงทุนคืนในวันนี้ ก็จะได้รับเงินคืนมากเกินไป
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่ากองทุนจะถือตราสารอายุยาวเพียงใด (Duration port) การซื้อขายได้ทุกวันทำการของกองทุนเปิดนั้น หากไม่มีการ Mark to Market ก็จะเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นครับ

ราคาตลาดของหลักทรัพย์ต่างๆ ที่จะใช้ในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ได้แก่
หุ้น : ใช้ราคาปิดในตลาดหลักทรัพย์
ตราสารหนี้..ใช้อัตราผลตอบแทนจากการซื้อขายครั้งล่าสุดในศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย
หน่วยลงทุน..ใช้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย (NAV) ที่คำนวณได้ ณ สิ้นวัน
เงินฝาก/ตั๋วสัญญาใช้เงิน..ใช้มูลค่าเงินต้นบวกด้วยดอกเบี้ยค้างรับ

พอจะเห็นความจำเป็น และวิธีการ Mark to Market หรือยังครับ


Create Date : 17 พฤษภาคม 2550
Last Update : 17 พฤษภาคม 2550 22:56:04 น. 4 comments
Counter : 681 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ เข้าใจขึ้นมากจริงๆ


โดย: หนุ่ม IP: 58.9.111.83 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:50:07 น.  

 
ขอบคุณค่ะ หาข้อมูลอันนี้มาสักพัก เรามือใหม่มากๆค่ะ ตอนนี้มีแต่ T-Cash แต่สนใจกองทุนอื่นๆที่ลงในหุ้นมากขึ้น จะทยอยอ่นข้อมูลในนี้ละกันค่ะ

ขอบคุณที่ทำบล็อกดีๆ ^^


โดย: พิชู IP: 125.24.32.59 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:00:09 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ค่ะ


โดย: Ying IP: 64.62.138.101 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:00:33 น.  

 
ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ มีประโยชน์มากเลย

ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูลครับ


โดย: คุณชายนะคร้าบ IP: 118.173.5.25 วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:17:28:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Messenger
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]




Head, Investment Consultants Citigold Citibank N.A. (Thailand)
free hit counter
click here
free hit counter
Friends' blogs
[Add Mr.Messenger's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.