ประเมินรายได้ กัลกุล ปี 54-55     งบการเงิน Q1 เพิ่งออกเมื่อวานนี้ -- EPS 0.14 บาทต่อหุ้น เทียบกับปีที่แล้ว 0.02 บาทต่อหุ้น ส่วนผลประกอบการในปีนี้ผู้บริหารบอกว่าจะเติบโตกว่าปีที่แล้ว 90-100% -- ส่วนตัวผมมองว่าเป้าที่ผู้บริหารให้ไว้คงไม่ยากเกินไป ผมเลยลองแจกแจงรายละเอียดให้ดู... -Conventional Business      เมื่อเดือนมีนา บริษัทออกงาน opportunity day และได้ให้รายละเอียด back log ในส่วนงานปีนี้อยู่ที่ 1900 ล้าน ผมให้ NPM เท่ากับปีที่แล้ว 9.47% ดังนั้นส่วนงานนี้จะมี EPS = 0.45 บาท -Renewable Energy      *ระยะเวลาตั้งแต่ 4 มค-31 ธค จำหน่ายไฟฟ้าให้ กฟภ 3MW ผมคิดว่าน่าจะได้กำไรสุทธิประมาณ 27 ล้านบาท EPS = 0.067 บาท     *กำลังผลิต 4.4 MW คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเดือน สิงหาคม คาดว่าจะได้กำไรสุทธิประมาณ 19 ล้าน(หน้าฝนหมดประมาณ กันยา -ตุลา) ดังนั้น EPS = 0.047     *กำลังผลิต 26 MW ของ GPS(บริษํทย่อย บริษัทฯถือหุ้น 100%) กำหนดเริ่มจำหน่ายไฟฟ้า 1 ตุลา คาดว่าจะมีกำรไสทธิประมาณ 76.658 ล้านบาท EPS = 0.19 บาท -ปีนี้บริษัทฯชนะประมูลโครงการ Solar farm ของบริษัท โซลาตาร์ มุลค่าโครงการ 752 ล้านบาท ซึ่งงานนี้บริษัทฯจะรับรู้กำไรสุทธิ ประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มบันทึกตั้งแต่ Q2 EPS = 0.175 บาท สรุป EPS รวมทั้งสิ้น = 0.93 บาท เติบโตมากกว่า ปี 53 ที่ 0.38 บาทต่อหุ้น ถึง 144% โดยประมาณ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องอยากทราบละครับว่า "แล้วราคาหุ้นละ ควรจะอยู่ที่เท่าไหร่?"     GUNKUL เป็นหุ้น growth ครับ โดยปกติแล้ว PE หุ้น growth เนี่ยจะต้องสูง และปัจจุบัน(10/5/54)PEอยู่ที่ 39.94!! -- สูงไปมั๊ย!! ผมเลยทำตารางขึ้นมา ดังนี้ครับ   *ทำไมผมเผื่อ EPS ไปถึง 1.2 นั่นเพราะว่าผมเผื่อว่าระยะเวลาอีก 3Q บริษัทฯยังมีโอกาสได้งานประมูลอื่นๆ(เขื่อน,solar farm,อื่นๆ)เพื่มเติมอีก     คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วหล่ะครับว่าให้ให้ PE เท่าไหร่ดี ส่วนตัวผมไม่กล้าให้ PE ไปถึง 39 หรอกครับ เพราะผมกลัวว่าดอยข้างบนมันจะหนาวเกินไป๊!!    -- ตอนนี้ผมว่างครับเลยอยากประเมิณปี 55 ดูหน่อยว่า ความฝันครั้งนี้ของผมจะอยู่สูงขนาดไหน!! เอาแบบเร็วๆเลยนะครับ ลวกๆ หน่อย เพราะปีหน้ายังอีกไกล หมอกควันยังมีอยู่ ขอเอาแบบเงินที่จะได้ชัวร์เลยนะครับ มะ..เริ่มเล้ย!! -Conventional Business     ผมให้ EPS เท่ากับปี 53 เลยที่ 0.38 บาท -Renewable Energy     *ต้นปี 54 มีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 33.7 MW ดังนั้น EPS = 0.77 บาท     *อีก 23.5 MW จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้เดือน สิงหาคม 55 ดังนั้น EPS = 0.27 บาท รวม EPS ทั้งสิ้นจากทั้งสองส่วนธุรกิจปี55 = 1.42 บาทต่อหุ้น เป็นอย่างต่ำครับผม!! -- แหม เห็นตัวเลขผมก็ชื่นใจอะนะครับ เลยแถมให้อีก 1 ปี 2556!! --     ปีนี้มีกำลังผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบตั้งแต่ต้นปีทั้งสิ้น 57MW!! โอ้ว..วันๆนั่งนับตังกันอย่างเดียว มาดูกันว่าจะได้กำไรปีละเท่าไหร่ -- กำไรจาก 57MW โดยประมาณเท่ากับ ....... 522 ล้านครับ!!!!!!(นั่งอยู่เฉยๆก็รวย) EPS = 1.3 เลยทีเดียว(กลายเป็นรายได้หลักของบริษัทฯไปโดยปริยาย)    อย่าลืมบวกอีก 0.38 บาทต่อหุ้น(เท่ากับปี53) จากธุรกิจเดิมด้วยครับ เพราะฉะนั้น ปี56 จะมีกำไรต่อหุ้น(EPS) เท่ากับ 1.68 บาท!!!!!! *การคำรวณกำไรสุทธิจาก Solar farm ผมใช้ข้อมูลกำไรสุทธิจริงที่บริษัทได้บันทึกไว้ในหมายเหตุงบการเงินปี 53 นะครับแล้วเอามาคิดตามอัตราส่วน และคิดลดกำไรจากความผันผวนของสภาพอากาศด้วยนะครับ โดยระยะเวลาหนึ่งปีเต็มผมให้มีวันที่ผลิตไฟฟ้าไฟได้คือมีแดด 70% ครับ ข้อมูลนี้ผมอ้างอิงมาจากรมอุตุด้วยนะครับ //www.arcims.tmd.go.th/DailyDATA/ *** หมายเหตุข้อมูลที่ผมเขียนขึ้นด้านบนทั้งหมดเป็นเพียงการคาดการณ์โดยวิจารณญาณส่วนบุคคลนะครับ -- อย่าลืมนะครับว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนไม่มีใครในโลกนี้ล่วงรู้ได้ ถ้ามีคุณก็คงรวยไปแล้วครับ!! ^^     Create Date : 11 พฤษภาคม 2554     3 comment Last Update : 12 พฤษภาคม 2554 0:53:59 น.     Counter : 412 Pageviews.   Share Tweet

สรุปสาระสำคัญ AGM ของกัลกุล     การประชุม AGM เป็นสิ่งที่สำคัญที่นักลงทุนควรจะเข้าร่วม เพราะจะได้ถามคำถามโดยตรงกับท่าประธานและคณะกรรมการ ทุกท่านเลย....แต่ผมดันไม่ได้ไปซะนี่ T_T --- แต่ยังดีที่ทางบริษัทฯ upload คลิปงานประชุมขึ้นที่ website บริษัทฯ ใช้เวลาในกาีร ประชุมประมาณเกือบ 2 ชม. แถมทาบริษัทฯยังจัดอาหารกลางวันให้ทานอีกต่างหาก โอ้ว..ยิ่งเสียดายเข้าไปอีก T_T ตอนท้ายการประชุม ก็มีการถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับบริษัทฯ -- มีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่บ้างผมเลยอยากจะเอามา update ให้เพื่อนๆ ที่พลาดการประชุม AGM แล้วก็ยังไม่ได้ดูคลิป     -เรื่องกางลงทุนในส่วนของ Conventional business จากเงินลงทุนที่ได้จากการ ipo คือ บริษัทจะเอาไปลงทุนทำ มอก ของตัว อุปกรณ์ป้องกันที่ผลิตเอง ซึ่งบริษัทฯจะต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ทดสอบ และต้องสร้างห้องทดลองด้วย(วางแผนว่าจะลงทุนประมาณปลายปี) ผลดีก็คือ ถ้าอุปกรณ์นั้นๆมี มอก ในประเทศครบ 3 ราย แล้วละก็บริษัทจะเปิด Barrier to Entry หมายความว่า คู่แข่งจะไม่สามารถนำเข้า อุปกรณตัวนั้นมาขาย(ผมเข้าใจอย่างนี้อะนะครับ ผิดรบกวนแก้ไขด้วย) market share ของอุปกรณ์ตัวนั้นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ บริษัทฯ ไม่ได้จะทำ มอก แค่ตัวเดียวนะครับ แต่หลายตัวเลย -- ส่วนจะเป็นอุปกรณ์ตัวไหนบ้างนั้น เค้าขออุบไว้ก่อน บอกไม่ได้ครับเดี๋ยวคู่แข่งจะรู้ไต๋     -อุปกรณ์ในระบบ Grounding ทางบริษัืทจะจดทะเบียน UL และถ้าประสบความสำเร็จแล้วละก็บริษัทฯเชื่อว่า จะได้ market share ของตัวนี้มากถึง 50%เลยทีเดียว     -งานเขื่อนมูลค่า 500 ล้าน ใน Q2 นี้บริษัทฯจะเซ็นสัญญาในส่วนงานที่ทางบริษัทฯทำมูลค่า 100 ล้าน คือขายอุปกรณ์ -บริษัทฯวางเป้าหมายไว้ว่าจะพยายามเข้าประมูลงานเขื่อน รถไฟและเหมืองให้มากกว่านี้....ยังไม่พอครับผมทางบริษัทฯพยายาม จะสร้าง growth ในส่วยของ Conventional business ให้ได้ 15% อีกด้วย ^0^ มาดูในส่วน Renewable Energy บ้างดีกว่าครับว่ามีอะไรมา update บ้าง     -คนที่มีสัญญา PPA ในมืออะนะครับก็จะเริ่มสร้าง Solar Farm ล่ะ ทีนี้งานประมูลก็จะมีมากขึ้น จากผลงานและประสบการณ์ของบริษัทฯแล้ว ผมเชื่อว่ามีโอกาสสูงครับที่ทางบริษัทฯจะคว้างานประมูลมาได้ หมดแล้วครับส่วนของพลังงานทดแทน ถึงจดน้อยแต่ big impact ครับ เพราะแต่ละโครงการเนี่ยมูลค่าไม่ใช่แค่หลักสิบล้านนะครับแต่ เป็นหลักร้อยล้านพันล้าน OMG!!!   **เพิ่มเติมให้อีกหน่อยสำหรับทะเบียน UL --- Underwriters Laboratories Inc. (UL) คือ องค์กรอิสระดำเนินการให้การรับรองผลิตภัณฑ์ ทดสอบผลิตภัณฑ์และจัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นของ USA ครับ Free TextEditor   Create Date : 09 พฤษภาคม 2554     0 comment Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 16:01:02 น.     Counter : 338 Pageviews.   Share Tweet

ความเสี่ยงของ GUNKUL การลงทุนมีความเสี่ยง เพราะว่าธุรกิจก็มีความเสี่ยงในการขายสินค้าและบริการ แต่ยิ่งถ้าหากความเสี่ยงในการขายสินค้าและบริการน้อยลงแล้ว ความเสี่ยงในการลงทุนในบริษัทนั้นๆก็ยิ่งน้อยลงตามไปด้วย ยังไม่พอครับ Warrent Buffett กล่าวไว้ว่า "ความเสี่ยงคือการที่เราไม่รู้เพราะฉะนั้นยิ่งถ้าเรารู้มากเท่าไหร่ความเสี่ยงก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น" 1.ความเสี่ยงในการพึ่งพิงลูกค้าภาครัฐ ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ที่สัดส่วนประมาณร้อยละ 30-50 ของรายได้จากการจำหน่ายสินค้า 2.ความเสี่ยงของการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทมีการจัดจำหน่ายและสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศโดยเงินสกุลหลักเป็นดอลล่าร์สหรัฐและยูโร ความเสี่ยงของธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 1.ความเสี่ยงในเรื่องของความสามารถในการผลิตไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับแสงอาทิตย์ วันไหนมีแสงแดดวันนั้นก็สามารถผลิตได้ วันไหนแสงแดดไม่มาก็ไม่ได้เงิน เรื่องของแวงแดดเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศจริงๆครับ 2.ความเสี่ยงในการไม่สามารถก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าในอนาคตได้ บริษัทเซ็นต์สัญญาในลักษณะ Non-Firm ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้เสร็จตามกำหนด บริษัทมิได้มาภาระหน้าที่ในการจ่ายขดเชยค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้นเลย *ในส่วนธุรกิจ Solar Farm ผมมองว่าความเสี่ยงน้อยมาก 1.ในเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติหรอ? หากว่าลูกเห็บขนาดไม่เท่าไข่ห่านตกก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรได้ เฮอริเคนประเทศไทยก็ไม่มี ซึนามิก็คงไปไม่ถึงภาคเหนือ นอกซะจากแผ่นดินไหว!! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางบริษัทก็ได้ทำประกันไว้แล้ว(0.065% ของมูลค่าโครงการ)หากเกิดความเสียหายเนื่องจากภัยพิบัติต่างๆ เราก็จะได้เปลี่ยนแผงกันไปแบบฟรีๆ! 2.เรื่องเงินกู้หรอ? แต่ทางบริษัทก็มี ธ.กรุงไทยเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้แล้วทุกโครงการหนิ 3.เรื่องลูกหนี้เหรอ? กฟภ.เป็นลูกค้านะครับ ไม่น่าจะไม่มีเงินจ่าย ผมนั่งคิดนอนคิดมานานมากก็ยังคิดเรื่องความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของ Solar Farm ....ใครคิดออกช่วยบอกผมหน่อยเต๊อะ!!!   Create Date : 27 เมษายน 2554     4 comment Last Update : 28 เมษายน 2554 1:00:24 น.     Counter : 459 Pageviews.   Share Tweet

GUNKUL's Five Forces Model analyze ผมได้ศึกษา GUNKUL มาตั้งแต่เมื่อต้นปีนี้ และได้เข้าถือและทยอยซื้อสะสมมาเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าในอนาคตบริษัทจะมีรายได้หลักมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีรายได้มั่นคง ประมาณการได้ และที่สำคัญผมคิดว่ามูลค่าหุ้นตอนนี้ยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในอนาคตอันใกล้นี้ เรามาลองวิเคราะห์ตัวธุรกิจกันหน่อยดีกว่าครับว่ามันดีอย่างไร??? บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัดมหาชน(GUNKUL) อยู่ในหมวดพลังงานและสาธรณูปโภค ทำธุรกิจ 2 ประเภท คือ 1.Conventional Business-ธุรกิจผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าและระบบพลังงานทดแทน โดยมีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.Renewable Energy-ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ปัจจุบันรายได้จากส่วนนี้มาจากโรงไฟฟ้า Solar farm ที่น่าสนใจคือตัวธุรกิจ Solar farm ธุรกิจส่วนนี้จะทำให้บริษัทมีรายได้ที่ stable มากขึ้น ปัจจุบัน gunkul มีกำลังการผลิตที่กำลังจ่ายไฟอยู่ 3.3 MW สิ้นปี 2010 จะมีประมาณ 33.7 MW และสิ้นปี 2012 จะมีกำลังการผลิตทั้งหมด 56.7 MW ลองมาวิเคราะห์ five forces ดูกันครับ 1.Barrier to entry -Conventional Business มี brand Royalty เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้ามีตรายี่ห้อเป็นของตัวเองและเป็นบริษัทผู้แทนจัดจำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศต่างๆ -Renewable Energy ธุรกิจ Solar farm ใช้เงินลุทุนสูงและต้องมี license ในการสร้าง Solar farm ซึ่ง บริษัทได้เซ็นสัญญา MOU ไ้ว้ทุก MW เรียบร้อยแล้ว 2.Treat of Substitutes -Conventional Business เทคโนโลยีของสินค้าแต่ละยี่ห้อซึ่งลูกค้าจะเป็นฝ่ายเลือกใช้และค้องคำนึงในเรื่องของอายุการใช้งาน มาตราฐานและความปลอดภัย ซึ่งกันกุลมีแบรนด์เป็นของตัวเองอีกทั้งยังเป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายของแบรนด์ต่างประเทศอีก -Renewable Energy ไม่มีสินค้าทดแทนเนื่องจากไฟฟ้าทุกหน่วยที่ผลิตได้ กฟภ รับซื้อหมดทุกหน่วย 3.Bargaining Power of Suppliers -Conventional Business บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงที่นำเย้ามาเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีสูง และเปนที่รู้จักดีในวงการฟ้าแรงสูง -Renewable Energy การสั่งแผงโซล่าเซลล์ของบริษัทจะสั่งซื้อในปริมาณที่มาก เนื่องจากโครงการมีขนาดหลาย MW จึงไม่ทำให้อำนาจต่อรองตกอยู่ที่บริษัทผู้ผลิต 4. Bargaining Power of Customers -Conventional Business รายได้ส่วนใหญ่มาจากการประมูลโครงการเพราะฉะนั้นสินค้าอุปกรณ์ ก็ต้องใช้อุปกรณ์ของบริษัทอยู่แล้ว -Renewable Energy ก่อนการจำหน่ายไฟฟ้าได้เซ็นต์สัญญาไว้ก่อนแล้วว่า กฟภ. จะรับซื้อไฟฟ้าทุกหน่วยที่ผลิตได้ เพราะฉะนั้น กฟภ. จึงไม่มีอำนาจในการต่อรอง 5. Intensity of Rivalry -Conventional Business ภาวะในตลาดมีการแข่งขันสูง แถมอัตราการเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้ายังน้อยอยู่ที่ประมาณ 5.8% ต่อปี อีกทั้งยังต้องพึ่งเทคโนโลยีจากต่างระเทศ -Renewable Energy ความเข้มข้นของภาวะการแข่งขันไม่มีผลต่อการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เนื่องจาก กฟภ. รับซื้อทุกหน่วยที่ผลิตได้ จบการวิเคราะห์ Five Forces Model หลังจากนี้ผมจะมาเขียนเรื่อยๆเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานต่างๆของบริษัทครับ หากท่านไหนมีความเห็นหรือว่าผมผิดตรงไหน ผมยินดีครับ เพราะผมก้ไม่ได้เก่งหรือเป็นเซียน ผมยังอ่อนประสบการณ์นัก หวังที่จะพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ธุรกิจให้แข็งแรง   Create Date : 27 เมษายน 2554     3 comment Last Update : 28 เมษายน 2554 1:00:13 น.     Counter : 1945 Pageviews.   Share Tweet