|
ฤาท่านจะขัด รัฐธรรมนูญ
ประเด็นข่าวที่เร้าความสนใจของประชาชนคนไทย เกิดขึ้นใหม่ได้ไม่เว้นแต่ละวัน
ปัญหาเก่าๆ ยังไม่ทันคลี่คลายให้หายสงสัย ก็มีเรื่องราวใหม่ ๆเข้ามาดึงความสนใจให้ติดตาม
สองสามวันนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการแก้ รัฐธรรมนูญ แก้ไขกติกาบ้านเมือง ...
รัฐธรรมนูญ ปัญญาอ่อน ผมได้ยินแว่วๆขณะที่เดินผ่านหน้าโทรทัศน์
แต่ไม่มีการขยายความให้รู้ว่า ปัญญาอ่อนตรงไหน ยังไง เหมือนบอกว่ามันไม่ดี แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ดียังไง
แล้วรัฐบาลก็ดันให้การแก้ไข รธน. กลายเป็นวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องเร่งด่วน แทนที่ควรจะเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ประชาชนคนไทยหวังในรัฐบาลปัจจุบัน
ด้วยการให้เหตุผลว่ารัฐธรรมนูญฉบับคมช.ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า ส่วนไหน มาตราไหน มีข้อเสียอย่างไร ขัดต่อระบอบการปกครองยังไง นั่นไม่ได้ทำให้ผมหรือ ประชาชนคนไทย ปัญญาแข็งแรงมากกว่าเดิมซักเท่าไหร่
ความจริงแล้วก็ไม่เห็นจะต้องหาเหตุผลมาสนับสนุนให้ยุ่งยาก เพราะประชาชนคนไทยไม่ได้ปัญญาอ่อนถึงขนาดจะไม่รู้ว่า วาระแห่งชาติ ที่พูดถึง คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อการลบล้างความผิดของพรรค ที่มีผู้สมัครถูกชี้มูลว่าทำผิดกติกา และยุบหน่วยงานที่ดำเนินคดีลูกพี่ใหญ่
สิ่งที่ประชาชนสนใจ และลุ้นให้รัฐบาลนี้ทำให้สำเร็จ ไม่น่าจะใช่การแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองช่วงก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ กับค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลาน
หนึ่งหมื่นหกพันล้าน ต่อปี ที่หัวหน้าพรรคผ่ายค้านได้เสนอแนวทางส่งเสริมนโยบาย เรียนฟรี ที่ช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจได้ถึงตัวและถ้วนหน้า ยิ่งกว่า กองทุนหมู่บ้าน ที่รัฐบาลเจตนาใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นระบบเศรษฐกิจรากหญ้า ในวงเงินที่ไม่หนีกันซักเท่าไหร่
ผมเห็นด้วยในหลักการของกองทุนหมู่บ้าน SML (ที่ไม่ต่างจาก ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขซักเท่าไหร่) เพราะเชื่อว่าเป็นการเสริมสร้างประชาธิปไตย ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา แต่ถ้าภาคประชาชนยังไม่เข้มแข็งพอ ในทางปฏิบัติ งบประมาณนั่นกลับถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ที่ผ่านมาผมกลับเห็นการเอางบประมาณแผ่นดินมาสร้างเครือข่าย ด้วยการสร้างเงื่อนไขในการรับการอุดหนุนงบประมาณ แลกกับการสนับสนุนฝักฝ่ายทางการเมืองที่เชื่อมโยงมาถึงระดับท้องถิ่น พูดให้ง่ายกว่านั้น คือการเอาเงินของประชาชนมาหาแนวร่วม สร้างฐานเสียง
ยังเห็นด้วยกับ วาระชุมชน โครงการหมู่บ้าน แต่หากเป้าหมายคือ การกระจายเม็ดเงินไปอยู่ในกระเป๋าประชาชนและนำเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ผมว่า โครงการเรียนฟรี ยังตรงประเด็นมากกว่า และเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ก็คงจะเห็นด้วย
หากรัฐช่วยรับภาระตรงนี้ได้ จะช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจ ที่ได้ผล มากกว่า โครงการหมู่บ้าน/ชุมชน จึงน่าจะทบทวนดูกันอีกซักครั้ง
บุคคลย่อมมีสิทธิในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 12 ปี ที่รัฐต้องจัดให้ทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย มีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ.2540
แต่10 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลละเลย ทำเป็นเพิกเฉยต่อกฏหมายข้อนี้มาโดยตลอด อย่าว่าแต่ ปีละหมื่นกว่าล้าน ต่อให้ปีหนึ่งต้องใช้ซักสี่ห้าหมื่นล้าน รัฐบาลก็ต้องจัดให้
ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรเป็นรัฐบาล ถ้าทำการขัดต่อกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย ก็คงไม่ใช่เป็นสิ่งที่ชอบธรรม
ผมไม่ต้องการบอกให้เอาเงินกองทุนหมู่บ้าน หมื่นแปดพันล้าน มาจัดสวัสดิการเรียนฟรี เพียงแต่อยากให้ลองคิดกันดูทีว่า สวัสดิการการศึกษา กับ โครงการหมู่บ้าน ด้วยจำนวนเงินที่ไล่เลี่ยกัน อันไหนจะทำให้เกิดประโยชน์กับคนไทยในด้านเศรษฐกิจได้มากกว่า
ถ้ารัฐไทย มีปัญญาหาเงินมาสนับสนุนทั้งสองโครงการมันก็คงจะดี รวมไปถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานเฉกเช่นดั่งอารยะประเทศเค้ามี แต่ด้วยความจริงที่ว่า แม้ทรัพยากรของไทยสามารถสร้างมูลค่าได้อย่างมากมายจนหลายประเทศอิจฉา แต่ผ่านมากี่ยุคกี่สมัย รัฐไทย ก็ยังไม่เคยสามารถจัดสวัสดิการ โครงสร้างพื้นฐานให้คู่ควรสมกับมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศได้ซักที
จะบอกไม่มีปัญญา ก็ไม่ถูกเสียทีเดียวทั้งหมด เพราะความจริงคือ รัฐไม่มีเงินงบประมาณมาบริหารจัดสวัสดิการเหล่านี้ พูดใหม่อีกที ก็คือ รัฐไทยไม่มีตังค์นั่นเอง
การบริหารที่ทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ย่ำแย่ลง (แม้ตัวเงินมากขึ้นแต่ค่ามันก็น้อยลง) รัฐบาลก็จนลง กระทั่งต้องหากินกับการออกพันธบัตร (อย่าบอกนะครับ ว่าเพื่อส่งเสริมการออม)
รัฐบาลไม่มีตังค์ แล้วแก้ปัญหาด้วยวิธีการกู้เงินจากประชาชน(ที่ซื้อพันธบัตร) ทั้งที่สามารถใช้อำนาจอธิปไตยในการจัดสรรผลประโยชน์ สามารถใช้มาตการภาษีก้าวหน้า ภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก และภาษีส่วนต่างอันเกิดจากทุน หรือการลงทุนเพื่อรับดอกผลกำไรอย่างที่รัฐอื่นเค้าใช้เป็นวิธีหายรายได้มาสร้างความมั่งคั่งมั่นคงให้กับประเทศ หรือเพียงเพราะกลัวว่า กลุ่มนายทุนจะมีกำไรน้อยลง โดยไม่สนว่า คนส่วนใหญ่กำลังย่ำแย่ขนาดไหน
Create Date : 28 มีนาคม 2551 |
Last Update : 28 มีนาคม 2551 13:49:58 น. |
|
2 comments
|
Counter : 401 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Purple Wind วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:16:17:35 น. |
|
|
|
| |
|
|