time in a botton - เวลาในขวดแก้ว
บลีอคนี้มีเพื่อนในพันทิปแนะนำให้เปิดนะครับ เนื่องจาก บล๊อคนี้เป็นบลีอคแรก ก็อยากบันทึกถึงเพื่อน 2 - 3 คนที่มีไมตรีกันมาตลอด
1. คุณสาวสวนพลู เพื่อนคริสต์ที่ดีมั๊กๆ 2.น้องรี่ที่มีกำลังใจให้เสมอ 3.คุณม่อนเพื่อนที่ดีอีกคน หวังว่าคงได้ตามมาอีกนิ
ผมคงจะเขียนเกี่ยวกับหนัง - เพลง - หนังสือ ตามถนัด และไหนๆ เพื่อนก็เป็นคนยุให้เขียนบลีอคนี้แล้ว ก็ขออ้างถึงเรื่องของเพื่อนเป็นเรื่องแรก
หนังสือเรื่อง "เวลาในขวดแก้ว" เป็นนิยายวัยรุ่นที่ผมชอบที่สุดเรื่องหนึ่ง
ในหนังสือมีบทสนทนาบทหนึ่งซึ่งผมชอบมากมาก นัท - ตัวเอกของเรื่องได้ของขวัญวันเกิดจากจ๋อมเป็นนาฬิกาทราย เขาดีใจมากและบอกว่า "อย่างนี้เราก็เก็บเวลาไว้ในขวดแก้วได้แล้วละสิ"
เพลง Time In A Bottle เป็นเพลงที่ผมชอบมากพอๆกับหนังสือไม่แน่ใจว่ารู้จักอะไรก่อนแต่ช่วงเวลานับว่าใกล้เคียงกัน เนื้อหาของเพลงง่ายๆ รวมๆแล้วบอกเราว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าเราเก็บเวลาเอาไว้ในขวดแก้วได้ เพื่อจะได้ใช้มันไปกับคนที่เรารักที่สุด
If I could save time in a bottle The first thing that Id like to do Is to save every day 'Till eternity passes away Just to spend them with you
If I could make days last forever If words could make wishes come true I'd save every day like a treasure and then, Again, I would spend them with you
เนื้อหาของ "เวลาในขวดแก้ว" พูดถึงสภาพสังคมไทยในยุคก่อนเหตุการณ์รุมฆ่านักศึกษา วัน 6 ตุลา ผ่านเรื่องราวของเด็ก ม.ปลายต่อมหาลัยกลุ่มหนึ่ง นัท หนิง ป้อม จ๋อม เอก ชัย ที่ผมชอบคือเรื่องเล่าผ่านสายตาของ นัท ผู้ซึ่งเป็นกลางที่สุด เขาไม่ได้หัวรุนแรงเหมือนป้อม - ชัย ไม่ใช่ลูกเศรษฐีเหมือนจ๋อม ไม่ใช่ลูกพ่อค้าเหมือนเอก เขาชอบดูหนัง ฟังเพลงฝรั่ง มองสังคมและการเมืองแค่ผ่านๆ และรู้แต่ว่าในสภาพที่พ่อแม่แยกทางกัน เขาต้องดูแลหนิงน้องสาวเขาให้ดีที่สุด
ในสังคมยุคที่ไม่มีมือถือ ไอฟ๊อด มีแต่แผ่นเสียง ไม่มีวงดนตรีวัยรุ่น กิจกรรมของพวกเขาสมัยนั้นคือการอ่านหนังสือ ทำกิจกรรมบางอย่างทางสังคม - เรื่องราวมาสรุปที่เหตุการณ์วันวิปโยค เพื่อนบางคนเสียชีวิต บางคนเดินทางจากเมืองสู่ป่าเขา นัทเองกัดฟันเรียนมหาลัยจนจบทั้งที่ไม่ชอบวิชาที่เรียน และไม่เข้าใจสังคมตอนนั้นเลย - บางช่วงของหนังสือบอกเราอย่างนั้น แต่ละคนย่อมมีเวลาที่เราต้องเลือกใช้เอง จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
ประภักสร เสวิกุล เขียนเรื่องนี้ไว้เมื่อต้นยุค 2520 แต่เอามาอ่านกี่ทีก็ไม่ล้าสมัย ยิ่งในสมัยนี้ที่ผมรู้สึกอะไรๆมันคล้ายๆยุค 6 ตุลา ด้วยสายตาของนัท เพราะสังคมช่วงนี้ฝันให้สงบอย่างไรก็คงจะเป็นจริงไปไม่ได้ เขามีกำลังใจเพียงแค่ใครสักคนเท่านั้น - เหมือนกับเนื้อเพลงช่วงที่บอกว่า - ถ้าหากมีกล่องสักใบที่ใส่ความฝันได้ กล่องนั้นมันก็คงว่างเปล่า เพราะจะมีแค่ความทรงจำเท่านั้น
If I had a box just for wishes And dreams that had never come true The box would be empty Except for the memory Of how they were answered by you
ว่ากันว่า จิม โครเซ่ - Jim Croce แต่งเพลงนี้ให้แก่ลูกชายที่เพิ่งเกิดของเขา - เนื้อหาท่อนที่ว่า - เวลาเท่าไรมันก็ดูไม่พอ เมื่อเราพบคนที่เราต้องการใช้เวลาทั้งหมดในชีวิตด้วย - เขาคงอยากใช้เวลากับลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมเสียใจกับเขามากจริงๆที่รู้ว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะใช้มันได้มากเท่าที่สมควรจะเป็น - จิมเสียชีวิตเมื่อลูกเขาอายุได้แค่ขวบเศษ
But there never seems to be enough time To do the things you want to do Once you find them Ive looked around enough to know That youre the one I want to go Through time with
ต่อจากย่อหน้าแรกพอนัทพูดอย่างนั้น จ๋อมก็แหย่ ตอบนัทไปว่า - "ไม่จริงหรอก เธอกำลังใช้เวลาให้มันเปลืองไปเปล่าๆนะ " นัทสงสัย เงยหน้าถาม " จริงเหรอ ? " จ๋อมยิ้มๆแล้วตอบ "ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรมันก็เป็นเวลาของเธอ เธอจะใช้มันยังไงก็ได้"
เวลาเป็นของผม แต่บาง"ห้วงเวลา" เช่น สภาพสังคม-การเมืองทุกวันนี้ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับมันจริงๆ(แย่จัง)
Create Date : 12 กรกฎาคม 2550 | | |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2550 13:44:17 น. |
Counter : 967 Pageviews. |
| |
|
|
|