ผู้ที่จะบรรลุถึงธรรมขั้นสูงสุดนี้ได้ ต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์เป็นเบื้องต้น ดังนั้นส่วนมากจึงเป็นพระภิกษุ ถือศีล ๒๒๗ ข้ออย่างเคร่งครัด ถ้าเป็นคฤหัสถ์ก็ต้องรีบบวช ศีล เป็นขั้นต้นสำหรับสำหรับการเจริญสมาธิ อบรมจิตใจให้แน่วแน่ นำไปสู่ซึ่งโลกุตตระปัญญา พระอรหันต์ละสังโยชน์ได้สิ้นทั้ง ๑๐ ประการ คือสักกายทิฎฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส กามะราคะ ปฏิคะ รูปราคะ (ความติดใจในรูปธรรม) อรูปราคะ (ความติดใจในอรูปธรรม) มานะ (ความสำคัญว่าตัวตนเป็นนั่นเป็นนี่) อุทัธจะ (ความคิดฟุ้งสร้าน) อวิชชา (ความไม่รู้แจ้ง) ผู้ที่สำเร็จธรรมขั้นนี้ เป็นผู้บริสุทธิ์จากกิเลสทั้งปวงโดยเด็ดขาด ไม่มีทางจะกลับแปดเปื้อนได้ และเป็นผู้มีสติอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นผู้ที่ไม่ทำความผิดใดๆอีกต่อไป เมื่อสิ้นชีวิตลงก็เข้าปรินิพพาน หลุดพ้นไปจากสังสารวัฏฏ์ ไม่ต้องกลับมาเกิดต่อไปอีก ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติตามพระวินัยของพระพุทธเจ้าโดยเคร่งครัด ตราบนั้นโลกก็ยังไม่ว่างจากพระอรหันต์.