ห้องแฟนตาซีของmoony
|
|||
บทที่ 6 ฆาตกรรมสยอง
บทที่ 6
ฆาคกรรมสยอง เสียงหัวเราะที่เปี่ยมไปด้วยความสุขดังจากบ้านใหญ่หลังหนึ่งในแถบชุมชนระดับกลางย่านชานเมือง เด็กชายวัยแปดขวบกำลังวิ่งไปรอบห้องพลางส่งเสียงร้องเรียกพ่อที่กำลังไล่ตามอย่างสนุกสนานก่อนจะกระโดดขึ้นไปเต้นอยู่บนเตียง เด็กหญิงวัยไล่เลี่ยกันเงยหน้าขึ้นจากหนังสือภาพและยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะขณะมองพ่อที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับน้องของเธอ เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้งก่อนมารดาของเด็กทั้งสองจะก้าวเข้ามา ได้เวลานอนแล้วเด็กๆ เธอพูดเสียงเรียบพลางก้มลงเก็บหมอนที่สองพ่อลูกขว้างใส่กัน เด็กชายตัวน้อยนิ่วหน้า ขอผมเล่นต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือครับ เขาอ้อนวอนและหันไปมองหน้าพ่อแต่แม่ของเขากลับส่ายหน้า พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า เธอหันไปทำตาดุใส่สามี นอนได้แล้วทั้งสามคน ลูกสาววัยสิบขวบขานรับขณะปิดหนังสือภาพของเธอและวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ส่วนเด็กชายตัวน้อยรีบมุดตัวลงไปในผ้าห่มและพริ้มตาลงขณะที่แม่ของเขาเดินมาจูบหน้าผากอย่างแผ่วเบา ราตรีสวัสดิ์ลูกรัก เธอหันไปทางบุตรสาวพลางดึงผ้าห่มให้ก่อนจะก้มลงไปจุมพิต ราตรีสวัสดิ์ค่ะแม่ เด็กหญิงพูดเสียงแผ่ว มารดาของเธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินไปที่ประตูห้อง พ่อของเด็กทั้งสองเลื่อนมือไปที่สวิตท์ไฟ ราตรีสวัสดิ์ ไฟทั้งห้องดับพรึ่บลงพร้อมกับบานประตุที่ถูกปิดจนสนิท เด็กทั้งสองนอนหลับตานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงหันไปมองหน้ากัน เคยไปตกปลาไหม น้องชายถาม อีกฝ่ายสั่นหน้า ไม่เคย พ่อบอกว่ามันสุดยอดมาก ปลาเทร้าส์ที่นั่นตัวใหญ่จนแทบยกคนเดียวไม่ไหวแน่ะ เด็กชายตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น อีกฝ่ายยิ้ม ฉันจะช่วยแม่ทำอาหาร พี่สาวของเขาพูดจากปลาที่เธอกับพ่อตกมา มันต้องเป็นวันหยุดที่วิเศษสุดแน่ น้องชายของเธอพูดด้วยใบหน้าสีชมพู อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆจัง */*/*/*/* สายตรวจที่กำลังยืนสอบปากคำหญิงชราอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านของเธอเงยหน้าขึ้นเพื่อมองรถคันหนึ่งซึ่งกำลังเลี้ยวมาจากมุมถนนมุ่งหน้าตรงมายังจุดที่เขายืนด้วยความเร็วไม่มากนัก เขาหันไปกล่าวคำขอบคุณกับผู้ให้ปากคำผู้สูงวัยก่อนจะเดินตรงไปหารถคันดังกล่าวซึ่งจอดสนิทเรียบร้อยแล้ว นักสืบเครนก้าวลงจากรถพร้อมกับพูด ช่วยสรุปให้ผมฟังหน่อยคอลลิน ฆาตกรรมยกครอบครัวครับ เหยื่อสี่คนพ่อแม่ลูก ทั้งหมดถูกฆ่าตายในห้องนอน ผมคิดว่าฆาตกรอาจจะเป็นคนร้ายรายเดียวกันกับคดีที่ผ่านมา ทำไมถึงคิดแบบนั้น เครนถามขณะหยุดยืนหน้าบ้านที่เกิดเหตุ สายตรวจคอลลินมองเจ้าหน้าที่ในชุดสูทสีเข้มพร้อมกับตอบด้วยเสียงไม่ดังนัก พวกเอฟบีไอมาถึงที่เกิดเหตุทันทีที่ได้รับรายงาน เขากวาดตามองอย่างระวังพร้อมกับกระซิบ ผมเห็นสภาพศพของเหยื่อก่อนที่พวกนั้นจะมาถึง ทุกรายมีบาดแผลเหมือนกับเหยื่อในคดีฆาตกรรมในครั้งก่อนครับ นักสืบเครนชะงักค้างนิ่ง เขามองหน้าสายตรวจคอลลินก่อนจะหันหน้าไปยังเจ้าหน้าที่พิเศษคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหา ไว้คุยรายละเอียดทีหลัง เขาบอกผู้ใต้บังคับบัญชาก่อนจะหันไปทางเอฟบีไอผู้นั้นพร้อมกับยื่นมือออกไป เจ้าหน้าที่พิเศษแสตนลีย์ นักลืบเครนเอ่ยทักขณะสัมผัสมืออีกฝ่าย ผมไม่แปลกใจเลยที่เห็นพวกคุณอยู่ที่นี่ ทางหน่วยแจ้งมาว่าบาดแผลของผู้ตายมีลักษณะใกล้เคียงกับเหยื่อรายก่อน แสตนลีย์ตอบพลางผายมือเชิญให้นักสืบเครนเดินไปด้วยกัน ผมคิดว่าอาจจะเป็นฝีมือของฆาตกรคนเดียวกัน บาดแผลเหมือนกันอย่างนั้นหรือ นักสืบเครนทวนคำด้วยความแปลกใจ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอผงกศีรษะพลางชี้ไปที่ร่างของเหยื่อซึ่งนอนก่ายกันอยู่บนเตียง คุณดูเองก็แล้วกัน เขาพูดสั้นๆก่อนจะหันไปกำชับเจ้าหน้าที่นิติเวชให้เพิ่มความรอบคอบในการเก็บหลักฐาน เครนกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดฝืนขณะมองสภาพของห้องที่เต็มไปด้วยรอยสาดกระเซ็นของเลือดตั้งแต่พื้นไปจนจรดเพดาน เขานิ่วหน้าด้วยความเสียงสยองก่อนจะลดสายตาลงและมองสภาพศพสองสามีอย่างพิจารณา ร่างของทั้งคู่นอนหงายซ้อนทับกันโดยร่างของผู้ที่เป็นภรรยาอยู่ด้านล่าง ดวงตาของทั้งสองเหลือกลานบ่งบอกถึงความตื่นตระหนกและหวาดกลัวก่อนที่จะถูกสังหาร เตียงของพวกเขานองไปด้วยเลือดสีแดงสดซึ่งไหลออกมาจากบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าท้องที่ดูเหมือนจะถุกแทงด้วยของมีคมขนาดใหญ่จะทะลุไปถึงด้านหลัง นักสืบประจำสถานีเดินเข้าไปใกล้และก้มหน้าลงมองบาดแผลอย่างพิจารณา เขาขมวดคิ้วและนึกย้อนถึงคดีฆาตกรรมในครั้งก่อน จิตใต้สำนึกกระตุ้นเตือนถึงความผิดปรกติบางอย่างที่ในตอนนี้ตัวเครนเองก็ยังไม่เข้าใจ เจ้าหน้าที่พิเศษแสตนลีย์มองกิริยาของนักสืบร่างใหญ่นิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้น พวกเด็กอยู่อีกห้อง จะไปดูด้วยกันไหม เครนพยักหน้ารับอย่างเคร่งขรึมก่อนจะเดิมตามเอฟบีไอไปยังห้องนอนที่อยู่ใกล้กัน กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงขึ้นทำให้นักสืบใหญ่ชะงักเล็กน้อย หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหดหู่เมื่อเห็นสภาพศพของเด็กน้อยสองคนที่กำลังนอนเบิกตาค้างอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงของเขาเอง ฆาตกรคงเข้ามาในบ้านและจัดการเด็กสองคนนี่ก่อน แสตนลีย์อธิบาย พวกเขาเกือบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้ ถ้าแทงคนหนึ่ง เด็กอีกคนก็ต้องส่งเสียงร้องตะโกนสิ ถ้าเขาขู่ว่าจะฆ่าคนแรกก่อนล่ะ แสตนลีย์พูดและจ้องหน้าเครนนิ่ง เตียงของเด็กสองคนตั้งเกือบจะชิดกัน แค่แทงคนแรกและหันมาอุดปากคนที่สองก่อนจะลงมือ แค่นี้พ่อแม่ก็ไม่ได้ยินเสียงแล้ว เป็นการฆ่าที่เหี้ยมโหดมาก นักสืบเครนพึมพำ ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าฆาตกรจะเป็นรายเดียวกันกับคดีในครั้งก่อน จากบาดแผลและการกระทำทางเราคิดว่าน่าจะเป็นรายเดียวกัน ผมสังหรณ์ว่าไม่น่าจะใช่ นักสืบเครนพึมพำ คุณตรวจที่เก็บยาของครอบครัวนี้แล้วหรือยัง นักลืบเครนถาม เจ้าหน้าที่แสตนลีย์มองเขาด้วยความแปลกใจ ตรวจทำไม ผมไม่พบยาภายในบ้านของเหยื่อทุกคนในคดีที่ผ่านมา ผมจะสั่งให้พวกนิติเวชจัดการเดี๋ยวนี้ แสตนลีย์พูดพลางหันไปสั่งเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้าง เขารับคำสั่งและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ห้านาทีหลังจากนั้นจึงกลับขึ้นมารายงาน เราพบยาประจำบ้านอยู่ในตู้ที่ห้องน้ำด้านล่างครับ มีขวดไหนที่ดูแปลกไปบ้างไหม สแตนลีย์ถามอีกฝ่ายสั่นหน้า ไม่มีครับ ขอบใจ แสตนลีย์ตัดบทพร้อมกับโบกมือ เขาหันไปมองนักสืบเครนที่ยืนขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด มีอะไร ทำไมคราวนี้คนร้ายจึงไม่หยิบยาในบ้านไป เขากวาดตามองสภาพรอบตัว แถมการลงมือของมันในครั้งนี้เหมือนมีการเตรียมตัวเอาไว้ก่อน คนร้ายอาจจะเปลี่ยนวิธีการ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอพูด เครนหันไปมองหน้าเขาด้วยสายตาคาดไม่ถึงก่อนจะพูดเสียงเรียบ คิดไม่ถึงว่านี่เป็นข้อสรุปของเอฟบีไอ ผมเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนไม่ใช่หน่วยวิเคราะห์พฤติกรรม เราหาตัวคนร้ายด้วยการสืบหาหลักฐานและกระบวนการทางนิติวเช ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณไม่รู้สึกเอะใจอะไรบ้างหรือไง ตอนนี้ไม่ สแตนลีย์ตอบพร้อมกับหันไปมองเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินที่กำลังลำเลียงร่างของผู้เคราะห์ร้ายออกจากห้อง แต่เราคงได้คำตอบของคดีนี้ตอนชันสูตร เขาหันไปมองเครน คุณจะไปร่วมฟังกับเราก็ได้ ผมไปแน่ นักสืบร่างใหญ่ตอบและหมุนตัวเตรียมเดินออกจากห้อง เขาชะงักและหันหน้ากลับไปที่เจ้าหน้าที่พิเศษอีกครั้ง ได้ข่าวของคาร์เพนเตอร์บ้างไหม เรากำลังดำเนินการสืบหา แสตนลีย์ตอบ ได้เรื่องเมื่อไหร่จะรีบติดต่อกับคุณทันที ขอบคุณ นักสืบเครนพูดและเดินออกไป เจ้าหน้าที่พิเศษแสตนลีย์มองตามเขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงหันไปให้ความสนใจหลักฐานบางอย่างที่หน่วยนิติเวชพบ มันเป็นก้านสำลีที่ถูกนำไปป้ายบริเวณท่อระบายน้ำและตรวจสอบพบปฏิกิริยาทางเคมี คราบเลือด เขาพูดพลางมองหน้าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้มาจากไหน อ่างล้างจานครับ แสดงว่าฆาตกรล้างอาวุธหลังก่อเหตุ สแตนลีย์พึมพำ หรือจะเป็นอย่างที่นักสืบเครนพูด เขามองออกไปนอกหน้าต่างและจ้องรถฉุกเฉินที่กำลังวิ่งห่างออกไป ฆาตกรในครั้งนี้เป็นคนละคนกับคนร้ายในคดีฆาตกรรมที่ผ่านมา */*/*/*/*/* ข่าวคดีฆาตกรรมล้างครอบครัวสร้างความแปลกใจต่อท่านผู้หญิงการ์ดเนอร์เป็นอย่างมาก เธอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และมองภาพข่าวอย่างใช้ความคิด หลังจากติดตามรายงานข่าวจนจบการ์ดเนอร์จึงเอนตัวมาข้างหน้าพร้อมกับประสานมือไว้ที่ปลายคาง สมองไล่เรียงแผนการบางอย่างที่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นสองสามครั้งดึงความคิดทั้งหมดให้กลับคืนมาอีกครั้ง ท่านผู้หญิงเอนตัวพิงพนักเก้าอี้พร้อมกับพูดเสียงเรียบ เข้ามาได้ เธอมองร่างสูงโปร่งที่กำลังก้าวมาในห้องด้วยท่าทางสงบและหยุดยืนตรงหน้า การ์ดเนอร์ผายมือไปยังเก้าอี้พร้อมกับพูด เชิญนั่ง ขอบคุณ เสียงเนิบเย็นกล่าวขึ้นไม่ดังนักก่อนไรซินจะหย่อนตัวลงบนเก้าอี้หนังหนานุ่มในลักษณะนั่งตัวตรง ท่านผู้หญิงหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะเริ่มการสนทนา ได้ข่าวว่ากีพาร์ดก่อเรื่องวุ่นวาย แค่อาละวาดเล็กน้อยเท่านั้นครับ ไรซินตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพอีกฝ่ายกระตุกยิ้ม นักวิจัยตาย 3 บาดเจ็บ 17 คน แถมเรายังเสียตัวอย่างทดลองไปจำนวนหนึ่ง คุณเรียกเรืองแบบนี้เรียกว่าเป็นการอาละวาดเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ ครับ ไรซินตอบเสียงเรียบ ท่านผู้หญิงนิ่วหน้า แต่ดิฉันเรียกการกระทำแบบนี้ว่า ก่อความเสียหายอย่างหนัก เมื่อไหร่คุณจะจัดการเจ้าสัตว์ทดลองตัวนี้ไปเสียที เขาเป็นตัวอย่างสำคัญ นักวิทยาศาสตร์ใหญ่ขององค์กรพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ การ์ดเนอร์มองเขาด้วยดวงตาวาว แต่ฉันเห็นมันเป็นต้นเหตุของความพินาศ เธอกดปุ่มเปิดข่าวที่บันทึกไว้ เห็นข่าวนี้หรือยัง ผมทราบแล้ว นั่นไม่ใช่ฝีมือของกีพาร์ด เขายิ้มมุมปาก เขาทำได้สะอาดกว่ามาก ดิฉันไม่ต้องการคำพูดเล่นลิ้น ท่านผู้หญิงพูดเสียงห้วน การกระทำของเขาอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร คดีนั่นเป็นฝีมือของพวกโรคจิตที่กำลังคุ้มคลั่ง ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวข้องกับกีพาร์ดตรงไหน ทั้งตำรวจและเอฟบีไอต่างคิดว่ามันเป็นการกระทำของคนร้ายรายเดียวกัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาสืบสาวจนมาถึงองค์กร ผมไม่เคยกังวลในเรื่องนั้น ไรซินตอบพร้อมกับลุกขึ้น คุณเรียกผมมาด้วยเรื่องเพียงแค่นี้เองหรือครับท่านผู้หญิง ที่เรียกมาเพื่อจะบอกว่าฉันได้เสนอเรื่องกีพาร์ดไปที่องค์กรแล้ว คุณเตรียมหาวิธีการกำจัดเขาเอาไว้ได้เลย มนุษย์พิษชะงักและมองหน้าท่านผู้หญิงการ์ดเนอร์ด้วยสายตาที่ยากแก่การคาดเดานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก ทุกอย่างแล้วแต่นายท่าน เขาส่งรอยยิ้มที่ทำให้การ์ดเนอร์รู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง ไม่ใช่คุณ ว่าไงนะ ท่านผู้หญิงพูดเสียงต่ำ รอยยิ้มของไรซินจางหายไป หมดธุระแล้วผมต้องขอตัว เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะก้าวออกจากห้องไปอย่างเงียบงันโดยไม่สนใจท่านผู้หญิงที่กำลังนั่งกำมือแน่นด้วยความแค้นใจ คุณจะทำท่าหยิ่งยะโสแบบนี้ได้อีกไม่นานหรอก ไรซิน */*/*/*/* บทที่ 5 กำลังใจ
บทที่ 5
กำลังใจ เทเลอร์นั่งขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิดหลังจากฟังรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของวลาร์ดและวูล์ฟจบลง เขาหยิบซองพลาสติกที่มีเกล็ดสีน้ำตาลเข้มบรรจุอยู่ขึ้นมา หมายความว่าปิศาจที่เธอทั้งสองคนพบไม่ใช่คนที่ถูกฝังปรสิต เทเลอร์พูดพลางพลิกซองที่อยู่ในมือและมองอย่างพิจารณา แต่เป็นสัตว์ทดลองธรรมดาของพวกอิลูมิเนติค ครับ วลาร์ดตอบโดยสายตายังคงจ้องซองที่เทเลอร์ถือไว้ ที่ต่างกันก็คือ หลังถูกกำจัด เซลล์ของมันปล่อยของเหลวออกมาละลายเนื้อเยื่อจนหมด เลยเหลือกลับมาเพียงเท่านี้ หัวหน้าของเขาพูดพลางวางซองในมือลง ของแค่นี้คงบอกอะไรเราไม่ได้มาก คงต้องรอรายงานจากเขา ลูกครึ่งแวมไพร์พูด เทเลอร์นิ่วหน้า ใคร นักล่าจากส่วนกลาง เขาเก็บตัวอย่างสมองคนที่โดนฝังปรสิตมาด้วย วลาร์ดอธิบายและหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของเทเลอร์ คุณยังไม่ทราบเรื่องนี้หรือครับ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กคนนั้นกลับมาแล้ว หัวหน้าหน่วยนักล่าพูดเสียงเรียบพร้อมกับลุกขึ้น สมิธรีบถาม จะไปไหนหรือครับ ห้องพิสูจน์หลักฐาน เทเลอร์ตอบก่อนจะก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว วูล์ฟหันไปมองหน้าลูกครึ่งแวมไพร์ เป็นเรื่องอีกแล้ว นายพูดเหมือนฉันเป็นคนผิด วลาร์ดรีบพูด อีกฝ่ายส่ายหน้า ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น เขาถอนใจและมองเพื่อนที่กำลังก้าวออกจากห้อง นั่นนายจะไปไหน ห้องพิสูจน์หลักฐาน ลูกครึ่งแวมไพร์เดินออกจากห้องทันที หนุ่มหมาป่าหันไปมองสมิธ ไม่ตามไปด้วยหรือครับ ผมต้องเตรียมเอกสารและศึกษาข้อมูลการทดลองเกี่ยวกับปรสิตที่คุณแอชเชอร์ส่งมา ชายหนุ่มยิ้มให้วูล์ฟ รีบตามพวกเขาไปเถอะ ครับ หนุ่มหมาป่ารับคำก่อนจะรีบวิ่งตามเพื่อนไปในทันที ทั้งคู่เดินไปโดยไม่พูดอะไรต่อกันจนกระทั่งถึงห้องพิสูจน์หลักฐาน วลาร์ดเปิดประตูชั้นนอกและหยิบเสื้อคลุมมาสวมก่อนจะเข้าไปภายในห้องในขณะที่วูล์ฟก้าวตามเข้าไปโดยไม่สนใจเรื่องเสื้อคลุมหรือถุงมือ ทั้งคู่หยุดยืนอยู่ด้านหลังของเทเลอร์ซึ่งกำลังจ้องวิคตอเรียนิ่งและยืนรอจนกระทั่งอีกฝ่ายละสายตาจากกล้องจุลทรรศน์จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม พบอะไรบ้าง หญิงสาวเหลือบตามองไปยังวลาร์ดและตวัดกลับไปที่หัวหน้าหน่วยนักล่าแทบจะทันที ค่ะ แต่ตอนนี้คงยังสรุปอะไรแน่นอนไม่ได้ คุณไม่รายงานตัวหลังกลับจากการปฏิบัติหน้าที่และเข้ามาตรวจหลักฐานสำคัญโดยไม่มีการแจ้งให้ผมทราบหนำซ้ำตอนนี้ยังปิดบังข้อมูลบางส่วนเอาไว้ เทเลอร์พูดด้วยสีหน้าจริงจังและจ้องหน้าวิคตอเรียเขม็ง ผมต้องการคำอธิบายเดี๋ยวนี้ ที่ไม่ได้เข้าไปรายงานตัวเพราะต้องรีบตรวจสอบเนื้อเยื่อที่ได้มาก่อนที่มันจะถูกทำลาย ถูกทำลาย วูล์ฟทวนคำ จากอะไร ฟอร์มัลดีไฮด์ วลาร์ดพูดพลางหยิบขวดแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาและเลื่อนสายตามองแผ่นสไลด์ที่วางอยู่บนกล้องจุลทรรศน์ หนุ่มหมาป่าขมวดคิ้ว มันคืออะไร แล้วทำไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น วูล์ฟยังคงซักต่อด้วยความสงสัย นักล่าสาวเหลือบตามองเขาอย่างรำคาญ สารเคมีชนิดนี้มีปฏิกิริยากับของเหลวที่หลั่งออกมาจากเซลล์ของสัตว์ทดลอง มันช่วยชะลอการสลายตัวให้ช้าลง วิคตอเรียหันไปอธิบายให้เทเลอร์ฟังและรีบพูดต่อ ฉันเคยทดสอบมาแล้ว แต่ฟอร์มัลดีไฮด์เข้มข้นจะทำลายเนื้อเยื่อ ลูกครึ่งแวมไพร์พูดพลางวางขวดแก้วลง เสียเวลาเปล่าที่เก็บหลักฐานด้วยวิธีนี้ ยังดีกว่าพวกที่ไม่เคยคิดจะทำ หญิงสาวสวนทันควัน วูล์ฟเลิกคิ้วในขณะที่วลาร์ดมองเธอด้วยสายตาเฉยชา ฉันลองมาแล้ว กับสัตว์ทดลองที่หลุดเข้าไปในองค์กรน่ะเหรอ นักล่าสาวถามด้วยน้ำเสียงดูถูก ดวงตาของลูกครึ่งแวมไพร์ทอประกายวาว เด็กคนนั้นชื่อแอลลิสัน เธอเป็นเหยื่อไม่ใช่สัตว์ทดลอง เขาพูดเน้นเสียงทีละคำและจ้องวิคตอเรียนิ่งด้วยความโกรธ เทเลอร์รีบยกมือห้าม พอได้แล้ว หัวหน้าหน่วยนักล่าหันไปมองวลาร์ดก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปที่วิคตอเรียอีกครั้ง ผมรู้ว่าคุณต้องค้นพบอะไรบางอย่างบ้างแล้ว พร้อมที่จะรายงานหรือยัง สีหน้าเคร่งขรึมและจริงจังของเทเลอร์ทำให้นักล่าสาวยืนนิ่ง เธอเหลือบมองลูกครึ่งแวมไพร์ที่เลื่อนสายตาไปจ้องจอขนาดใหญ่บนผนังซึ่งกำลังฉายภาพขยายของเนื้อเยื่อที่ตนกำลังตรวจสอบก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก เนื้อเยื่อที่ได้มาในครั้งนี้แตกต่างจากสัตว์ทดลองทุกตัวที่เราเคยพบ การกระจายตัวของปรสิตในสมองไม่เหมือนกับกรณีของเด็กที่ชื่อแอลลิสัน หมายความว่ายังไง หนุ่มหมาป่าถามแทรกขึ้น วิคตอเรียมองหน้าเขาแต่ไม่ยอมตอบอะไรวลาร์ดจึงเป็นฝ่ายอธิบายทั้งที่ยังคงจ้องจอภาพไม่วางตา ไมซีเลียม อะไรนะ วูล์ฟถามเสียงสูงลูกครึ่งแวมไพร์หันหน้ากลับมา มันเป็นกลุ่มเซลล์ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยเรียกว่า ไฮฟา(Hypha) และไมซีเลียมก็คือไฮฟาที่รวมกันเป็นกระจุก นายสังเกตดูเห็นจุดเล็กๆที่ยึดติดกับเนื้อสมองนี่ไหม วลาร์ดชี้ไปบนจอภาพ มันคือไรซอยด์ ฉันขอคำอธิบายสั้นๆ ในภาษาคนธรรมดา หนุ่มหมาป่าโพล่งขัดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน เพื่อนของเขามองด้วยสายตาเบื่อหน่ายก่อนจะสรุป มีเส้นใยคล้ายตาข่ายสีขาวฝังรากอยู่ในเนื้อสมองของคนที่ได้รับเชื้อปรสิต ก็เท่านั้น วูล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงประชดและทำท่าจะพูดต่อแต่ต้องชะงักเมื่อเทเลอร์หันมามองด้วยสายตาตำหนิ ผมไม่มีความชำนาญด้านสารเคมีและชีววิทยาเหมือนคุณทั้งสองคน เขาพูดขณะมองหน้าวลาร์ดและวิคตอเรีย กรุณาสรุปให้สั้น กระชับและได้ใจความ ปรสิตในสมองของมนุษย์ทดลองที่พบในวันนี้ต่างจากปรสิตที่อาศัยในแอลลิสัน ลูกครึ่งแวมไพร์พูดพลางชำเลืองมองนักล่าสาว เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะอธิบายต่อ การฝังตัวของปรสิตที่พบในเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบตาข่ายที่ครอบคลุมไปทั่วสมอง แต่ปรสิตตัวที่พบในวันนี้นอกจากการแพร่กระจายของมันเป็นแบบการฝังรากด้วยเส้นใยเหมือนไมซีเลียมของเชื้อราแล้วฉันยังพบว่าปรสิตบางตัวมีการแบ่งตัวและเคลื่อนที่แบบซูโดพอด แต่ก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนักเพราะตัวอย่างที่ได้มามีชิ้นเล็กเกินไปและที่สำคัญ เธอมองชิ้นส่วนสมองในจากเพาะเชื้อซึ่งเริ่มยุบตัวลงและกลายเป็นของเหลวเหนียวข้น แม้จะถูกแช่มาในน้ำยา แต่เซลล์ก็ยังสามารถหลั่งสารย่อยออกมาสลายตัวเอง สรุปคือพวกเธอยังไม่รู้อะไรเลย หัวหน้าหน่วยนักล่าพูด วิคตอเรียขมวดคิ้วในขณะที่ วลาร์ดนิ่วหน้า เทเลอร์สั่นศีรษะพร้อมกับถอนใจ เขียนรายละเอียดและข้อมูลของปรสิตชนิดใหม่ที่เธอสองคนพบ เขามองหน้าวิคตอเรียกับลูกครึ่งแวมไพร์ และส่งให้ฉันในตอนเช้าก่อนการเดินทางไปพบคุณแอชเชอร์ คำพูดสุดท้ายเน้นย้ำอย่างจงใจขณะสายตาจับจ้องอยูที่หญิงสาวโดยเฉพาะ อีกฝ่ายเม้มปากแน่นและเบือนหน้าหนีไปอีกด้าน หัวหน้าหน่วยนักล่าจึงเลื่อนสายตาไปที่วลาร์ดเหมือนต้องการกำชับคำสั่งกับเขาอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้อง วิคตอเรียจึงหันไปเก็บชิ้นส่วนสมองออกจากกล้องจุลทรรศน์ จานเพาะเชื้อรวมทั้งขวดแก้วลงกล่องผนึกฝาจนแน่นหนาและทำท่าจะก้าวออกจากห้อง วูล์ฟรีบถามทันที จะเอาไปไหนน่ะ ตึกขาว นักล่าสาวตอบเสียงห้วน หนุ่มหมาป่าเลิกคิ้ว วางเอาไว้ที่นี่แล้วเรียกเจ้าหน้าที่มาจัดการให้ก็ได้ ฉันไม่ชอบใช้งานใคร วิคตอเรียพูดและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว วูล์ฟส่ายหน้าพร้อมกับบ่น เหมือนมีผีดิบเพิ่มมาอีกคน พูดมากน่า ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงไม่ดังนัก หนุ่มหมาป่าหันไปมองหน้าเพื่อนและถาม จริงเหรอ อะไร ปรสิตที่เจอวันนี้เป็นคนละชนิดกับตัวที่ทำร้ายแอลลิสัน วลาร์ดนิ่งไปเล็กน้อยเหมือนกำลังไตร่ตรองก่อนจะตอบเพื่อน ตัวอย่างที่ได้มาในวันนี้มีน้อยเกินไป แต่เท่าที่ดูวิธีการแพร่กระจายในเนื้อสมองมันน่าจะเป็นแบบนั้น น่าจะเป็น วูล์ฟทวนคำพูดเพื่อนด้วยความแปลกใจ อย่าบอกนะว่านายยังไม่มั่นใจในเรื่องที่พูดมาเท่าไหร่ หนุ่มหมาป่าถามและจ้องหน้าเพื่อนอย่างสงสัย ลูกครึ่งแวมไพร์ยืนขมวดคิ้วนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก ก็ทำนองนั้น คำตอบของอีกฝ่ายทำให้วูล์ฟถึงกับอึ้งไปชั่วอึดใจ เขาส่ายหน้า นายเป็นอะไรไป ถามทำไม คนอย่างนายไม่เคยพูดจนกว่าจะแน่ใจว่าแถมตอนทำงานยังใจร้อนจนบางทีฉันแทบตามไม่ทัน นายเองก็ด้วย ลูกครึ่งแวมไพร์ย้อน ใช้กำลังปฏิบัติหน้าที่รุนแรงเกินกว่าเหตุจนฉันเก็บเก็บซากสัตว์ทดลองกลับมาตรวจสอบไม่ได้ตั้งหลายครั้ง คำพูดของวลาร์ดทำให้วูล์ฟต้องยืนอึ้งไปอีกครั้ง เขากำมือแน่นก่อนจะก้มหน้าลงและพูดเสียงแผ่ว ฉันยังทำใจไม่ได้ หนุ่มหมาป่าคำพูดค้างไว้แล้วถอนใจ นายน่าจะรู้ ฉันเข้าใจ วลาร์ดพูดเสียงเรียบก่อนจะไล่สายตามองไปรอบห้อง ต้องใช้เวลานานกว่าจะรวมสมาธิทำงานในห้องนี้ได้ ลูกครึ่งแวมไพร์มองตำแหน่งที่อันเดอร์ฮิลล์เคยยืนทำงานด้วยสายตาเศร้า เขาวางมือลงบนโต๊ะที่ใช้ตรวจหลักฐานอย่างแผ่วเบาขณะหวนคิดถึงภาพที่เคยทำงานร่วมกับบิดาบุญธรรม เด็กหนุ่มระบายลมหายใจออกมาก่อนจะถอดเสื้อคลุมและเดินออกจากห้อง วูล์ฟรีบถามด้วยความสงสัย นั่นนายจะไปไหน เขียนรายงาน วลาร์ดตอบกลับมาและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเหมือนไม่ต้องการให้เพื่อนตาม หนุ่มหมาป่ายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงก้าวออกจากห้อง เสียงร้องเรียกที่ดังมาจากทางเดินอีกด้านทำให้เขาหันไปมองและเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ คุณสมิธ วูล์ฟเอ่ยทัก มาทำอะไรแถวนี้ครับ คุณเทเลอร์สั่งให้มาดูคุณทั้งสองคน ชายหนุ่มตอบพลางไล่สายตามองไปรอบตัว วลาร์ดไปไหน กลับไปที่ห้องแล้วล่ะครับ หนุ่มหมาป่าตอบและอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าฉงนของสมิธ คุณเทเลอร์สั่งให้เขาเขียนรายงาน งั้นหรือ ชายหนุ่มพึมพำพลางมองวูล์ฟ แล้วคุณล่ะ ผมไม่ชอบงานเอกสาร หนุ่มหมาป่าตอบเสียงเรียบขณะเดินไปตามทางและหันไปมอง สมิธที่กำลังจ้องเขาไม่วางตา มีอะไรหรือครับ เปล่า อีกฝ่ายตอบและแว้นระยะไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ ผมไม่เห็นคุณที่สนามบาสฯมาหลายอาทิตย์แล้ว ครับ วูล์ฟตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ช่วงนี้ผมกำลังฝึกอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อย พอจะบอกได้ไหม อย่าเพิ่งดีกว่าครับ หนุ่มหมาป่าปฏิเสธอย่างสุภาพพร้อมกับหยุดเดิน เขายืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงหันหน้าไปทางสมิธ ผมมีเรื่องอยากจะถาม คุณได้ข่าวคืบหน้าอะไรบ้างไหม ทางองค์กรพยายามสืบค้นทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่พบอะไรเลย ชายหนุ่มตอบและถอนใจ เอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรเป็นของปลอมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ บัตรประจำตัว ใบขับขี่ หมายความว่าเราไม่มีทางเจอตัวคนร้ายรายนี้ วูล์ฟพูดด้วยความโกรธ วลาร์ดรู้เรื่องแล้วหรือยังครับ สมิธพยักหน้าแทนการตอบ หนุ่มหมาป่าบดกรามตัวเองแน่นก่อนจะเลื่อนสายตามองไปยังสนามด้านนอก หมอนั่นถึงได้ดูหงุดหงิดตลอดเวลา คุณเองก็เหมือนกัน สมิธพูด ไม่เพียงแต่พวกคุณ ตัวผม คุณเทเลอร์และเจ้าหน้าที่ในหน่วยนักล่าทุกคนมีความรู้สึกแบบเดียวกันหมด ทุกคนต่างทุ่มเทการทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะจับฆาตกรรายนี้ให้ได้ ดังนั้นผมจึงไม่อยากให้วลาร์ดและคุณรวมถึงวิคตอเรียใช้อารมณ์ในการปฏิบัติงาน เพราะมันอาจทำให้เกิดการพลาดพลั้งจนพวกคุณต้องได้รับอันตราย คุณสมิธ วูล์ฟหลุดคำพูดออกมาด้วยความคาดไม่ถึง อีกฝ่ายยิ้ม ถึงพวกผมจะเป็นเพียงแค่ฝ่ายสนับสนุน แต่เราทุกคนเป็นห่วงพวกคุณมาก สมิธพูดพร้อมกับวางมือลงบนไหล่ของหนุ่มหมาป่าและบีบเบาๆ อย่าเอาแต่ลุยจนลืมหน้าที่หลักและความปลอดภัยของตัวเอง ครับ วูล์ฟรับคำเสียงแผ่ว สมิธยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ไปห้องฝึกเถอะครับ ชายหนุ่มตบบ่าหนุ่มหมาป่าสองสามครั้งก่อนจะเดินจากไป วูล์ฟยืนมองตามจนอีกฝ่ายเดินพ้นไปจากสายตาจึงหมุนตัวและก้าวออกจากที่นั่นตรงไปยังห้องฝึกซึ่งอยู่ในชั้นใต้ดินของอาคาร */*/*/*/* บทที่ 4 การตัดสินใจของตุลาการ
บทที่ 4
การตัดสินใจของตุลาการ ชั่วโมงวิทยาศาสตร์วันนี้เราจะเรียนเรื่องการทำงานของระบบอวัยวะภายในของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ครูสาวของโรงเรียนประถมประจำเมืองพูดเสียงดังและนิ่วหน้าด้วยความหนักใจเมื่อเห็นเหล่านักเรียนตัวน้อยยังคงนั่งเล่นกันเหมือนไม่ได้สนใจการเรียนเท่าใดนัก เธอจึงชูโหลแก้วในมือขึ้นพร้อมกับตะเบ็งเสียงแข่งกับศิษย์ตัวน้อย วันนี้พวกเธอจะได้ดูการผ่ากบ ครูสาวแอบยิ้มเมื่อเห็นจอมซนทั้งหลายหันมาจ้องกบในโหลเป็นตาเดียว อลัน เด็กนักเรียนชายตัวโตที่สุดในชั้นยกมือ ครูจะผ่ามันเป็นๆใช่ไหมครับ แน่นอน ครูของเขาตอบเด็กชายขมวดคิ้ว ทำไมไม่ให้พวกเราเป็นคนผ่าเองล่ะครับ เพราะมันอันตรายเกินไป หญิงสาวผู้เป็นครูตอบพร้อมกับวางขวดในมือลง เอาล่ะขอให้พวกเธอทุกคนมายืนล้อมครูเอาไว้ เธอรอจนกระทั่งเด็กนักเรียนมายืนรอบตัวจนครบจึงหยิบขวดสีชามาเปิดและคีบก้อนสำลีที่อยู่ในนั้นออกมา ช่วยปิดฝาให้ครูด้วยเจฟฟรีย์ เธอสั่งเด็กคนหนึ่งขณะเลื่อนขวดสีชาส่งให้เด็กชายอีกคนจากนั้นจึงหยิบโหลใส่กบมาเปิดฝาครอบออกและหย่อนก้อนสำลีลงไปพร้อมกับปิดอย่างรวดเร็ว อลันจ้องอย่างสนใจ มีใครรู้บ้างว่าครูใส่อะไรลงไป คลอโรฟอร์มครับ อลันรีบยกมือตอบ ครูของเขายิ้ม ถูกต้อง ทำไมต้องใส่ลงไปด้วย แฮริสันหันไปถามเพื่อน อีกฝ่ายหันมามอง มันจะได้หลับยังไงล่ะ แล้วทำไมต้องทำให้มันหลับ แฮริสันซักด้วยความสงสัย อลันชักสีหน้าเหมือนไม่พอใจและตอบอย่างรำคาญ หรือนายอยากเห็นมันดิ้นตอนกำลังถูกผ่า นึกว่านายจะชอบเสียอีก เจฟฟรีย์พูดแทรกไม่ดังนักและรีบก้มหน้าหลบเมื่อเห็นเพื่อนมองด้วยสายตาอาฆาต เลิกเรียนเมื่อไหร่นายได้เจอดีแน่ เอาล่ะทุกคนกรุณาสนใจตรงนี้ด้วย ครูสาวปรบมือเพื่อดึงความสนใจเด็ก เธอใช้ปากคีบหยิบกบออกมาจากโหล เสียงร้องอุทานด้วยความตื่นเต้นดังมาจากกลุ่มเด็กผู้ชายในขณะที่เด็กหญิงต่างพากันเบ้หน้าอย่างขยะแขยงระคนหวาดกลัว ครูของพวกเขายิ้ม เจ้ากบตัวนี้หลับไปแล้ว ทีนี้เราจะมาดูว่าข้างในตัวของมันเป็นยังไง เธอพูดพลางวางกบเคราะห์ร้ายลงบนถาดและหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมากรีดช่วงท้องของมัน ครูจะแหวกหนังท้องของกบออกแล้วตรึงมันไว้ด้วยเข็มหมุดพวกเธอจะได้เห็นอวัยวะภายในของมันได้สะดวก สุดยอด เสียงอเลนพึมพำด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าหัวใจของกบกำลังเต้นเป็นจังหวะเขาหันไปมองเจฟฟรีย์ซึ่งยืนหน้าซีด กลัวเหรอ แค่ไม่ชอบกลิ่นของมันเท่านั้น อีกฝ่ายรีบแก้ตัวขณะกลืนน้ำลายเพื่อข่มความรู้สึกของตนและชะโงกหน้าเข้าไปมอง อลันยิ้มอย่างเกเร อย่าเพิ่งเป็นลมไปก่อนล่ะ เขาทำหน้าดูถูกก่อนจะหันไปให้ความสนใจการผ่ากบอีกครั้งและรีบยกมือขึ้นเมื่อครูสาวถามหาคนนำซากกบที่ถูกแยกเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้วไปกำจัด เด็กชายยิ้มอย่างกระหยิ่มขณะประคองโหลใส่กบออกจากห้อง เขารีบนำมันไปซ่อนไว้ที่พุ่มไม้ก่อนกลับเข้าห้องเรียนอีกครั้งและตั้งใจฟังการสอนจนกระทั่งโรงเรียนเลิก อลันรีบตรงเข้าไปหาเพื่อนร่วมกลุ่มและกระซิบบอกแผนการของเขาทันที ฉันเก็บกบตัวนั้นไว้ที่พุ่มไม้ พวกนายหาทางหลอกหมอนั่นไปที่โกดังร้างได้หรือเปล่า เด็กชายหัวโจกพูดพลางชำเลืองตาไปที่เจฟฟรีย์ แฮริสันขมวดคิ้ว ทำไม ไม่ต้องถามทำตามที่ฉันบอกก็พอ อลันพูดเสียงห้วน ตกลง จอร์จรับคำพร้อมกับคว้ากระเป๋า เขาหันไปทางแฮริสันพร้อมกับเร่ง เร็วหน่อยได้ไหม รู้แล้ว เพื่อนของเขาพูดพร้อมกับยัดหนังสือลงกระเป๋า อลันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองเดินไปหาเจฟฟรีย์ จอร์จแย่งกระเป๋าไปจากมือของเขาและวิ่งหนีออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจเจฟฟรีย์ซึ่งพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อจะวิ่งตามให้ทัน เด็กชายหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะรีบเดินไปหยิบซากกบที่ตนเองซ่อนไว้และก้าวออกจากที่นั่นตรงไปยังโกดังร้างอย่างรวดเร็ว จอร์จและแฮริสันวิ่งไปลัดเลาะไปตามซอกซอยอย่างคล่องแคล่วจนกระทั่งถึงรั้วของโรงงานขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ทั้งคู่หยุดและหันไปมองเจฟฟรีย์ซึ่งกำลังวิ่งกระหืดกระหอบตามมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ทั้งสองจึงช่วยกันรื้อลังกระดาษซึ่งปิดรอยโหว่กำแพงเอาไว้และมุดผ่านไปอีกด้าน หลังจากแกล้งยืนรอเจฟฟรีย์จนกระทั่งแน่ใจว่าเขาตามมา จอร์จและแฮริสันจึงวิ่งตรงไปยังโกดังร้างซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งโล่ง ทันทีที่ทั้งสองเข้าไปในนั้นจอร์จรีบเหวี่ยงกระเป๋าของเจฟฟรีย์ชึ้นไปยังชั้นวางของซึ่งอยู่ด้านในสุด เมื่อเขาหันหน้ากลับมาก็พบว่าเจฟฟรีย์กำลังยืนหอบหายใจอยู่ที่ประตู คืนกระเป๋าฉันมาเดี๋ยวนี้ เขาพูดเสียงไม่ดังนัก แฮริสันหันไปมองหน้าเพื่อน นายเอากระเป๋าหมอนั่นมาเหรอ เปล่านี่ จอร์จตอบเสียงดังพลางเหลือบตามองไปที่เจฟฟรีย์ นายไปลืมไว้ที่ไหนมากกว่า เจฟฟรีย์ ฉันไม่ได้ลืม เพื่อนตัวผอมของเขาเถียงพลางชี้มือไปที่ชั้นวางของ นายแย่งกระเป๋าฉันมาและโยนมันขึ้นไปไว้บนนั้น ไปเก็บมาเดี๋ยวนี้เลยเพื่อน ฉันไม่ใช่เพื่อนของนาย จอร์จพูดเสียงห้วน อยากได้ก็ปีนขึ้นไปเก็บเอาเอง เจฟฟรีย์กัดปากตัวเองขณะไล่สายตามองความสูงของชั้น เขายืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหาจอร์จ แต่นายเป็นคนโยนมันขึ้นไป แล้วไง จอร์จย้อนถามด้วยท่าทางกวนเต็มที่ในขณะที่แฮริสันแกล้งทำเป็นหักนิ้วตัวเองเล่น เจฟฟรีย์กลืนน้ำลายเพื่อข่มความกลัวก่อนจะพูดต่อ นายต้องปีนไปเก็บมาคืนฉัน มันจะมากไปแล้ว จอร์จพูดเสียงดังและผลักเจฟฟรีย์อย่างแรงจนเขาหงายหลังล้มลง กล้ามากที่มาสั่งฉัน ฉันไม่ได้สั่งแต่เป็นการขอร้อง เจฟฟรีย์พูดเสียงแผ่วขณะดันตัวให้ลุกขึ้น นายก็รู้ว่าฉันกลัวความสูง พวกเราถึงต้องลงมือฝึกให้นายไง จอร์จหันไปหลิ่วตาให้แฮริสัน รับรองได้เลยว่าวันนี้นายจะหายจากโรคกลัวความสูงและกบ หมายความว่าไง เจฟฟรีย์ถามด้วยความงงและสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงอลันดังมาจากทางด้านหลัง หมายความว่าคืนนี้นายจะนอนค้างในโกดังนี่กับเพื่อนใหม่ของฉัน เด็กชายร่างใหญ่ชูซากกบขึ้น อ้อ ต้องขอโทษด้วยที่ลืมยัดไส้ของมันกลับเข้าไปในท้อง แต่นายคงไม่ได้กลัวของแค่นี้ใช่ไหม ไม่ เจฟฟรีย์พูดเสียงแผ่วพลางขยับถอยออกห่างแต่จอร์จรีบคว้าแขนเขาเอาไว้พร้อมกับกดให้นั่งลง จะหนีไปไหน ฉันจะกลับบ้าน เจฟฟรีย์ตอบเสียงสั่น ดวงตาจ้องกบในมือของอลันเขม็งด้วยความหวาดกลัว จอร์จยิ้ม แต่พวกเรายังไม่อยากให้นายไปไหน เขาบีบไหล่ผอมเกร็งแรงขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มดิ้น มาช่วยกันจับเจ้านี่หน่อยแฮริสัน มัดมันเอาไว้ อลันสั่งพลางโยนเชือกเส้นหนึ่งให้และรอจนกระทั่งจอร์จกับแฮริสันช่วยกันมัดเจฟฟรีย์จนเสร็จเรียบร้อยเขาจึงก้าวไปหยุดยืนตรงหน้าและถามเสียงห้วน นายใช่ไหมที่เอาเรื่องที่พวกเราพ่นสีใส่ประตูห้องเรียนไปบอกครู นายพูดเรื่องอะไร เจฟฟรีย์ย้อนเสียงสั่นและผวาเฮือกเมื่ออลันยื่นซากกบเข้าไปจนเกือบติดใบหน้า อย่ามาทำเป็นไม่รู้ ฉันเห็นนายอยู่หน้าห้องพักครูเมื่อเช้า เด็กชายตัวโตพูดเสียงดัง เขากดซากกบลงไปบนหน้าของเจฟฟรีย์อย่างแรง คนขี้ขลาดอย่างนายต้องเจอแบบนี้ จับมันอ้าปาก ประโยคหลังเขาหันไปร้องสั่งเพื่อน จอร์จและแฮริสันรีบช่วยกันจับเจฟฟรีย์และง้างปากของเขาให้อ้าออก อลันแกล้งชูซากกบให้อยู่เหนือใบหน้าของเพื่อนปล่อยให้ของเหลวเหนียวหนืดไหลย้อยเข้าไปในปาก ดวงตาของเจฟฟรีย์เบิกกว้างเขาพยายามเบือนหน้าหนีแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของเพื่อนทั้งสองคนได้ กลิ่นคาวจัดซึ่งกำลังไหลเข้าไปในลำคอทำให้เจฟฟรีย์รู้สึกขยะแขยงจนแทบจะอาเจียนออกมา แค่นี้ยังน้อยไป อลันพูดพลางยัดกบทั้งตัวเข้าไปในปากของเจฟฟรีย์ อีกฝ่ายสะบัดหน้าหนีและทำท่าจะคายออกมาแต่จอร์จกับแฮริสันช่วยกันกดหัวเขาเอาไว้กับพื้น ทั้งคู่เบ้หน้าเมื่อเห็นของเหลวสีเขียวข้นไหลทะลักออกมาจากปากและจมูกของเจฟฟรีย์ พอแค่นี้เถอะ แฮริสันพูดขึ้นและหุบปากนิ่งเมื่อเห็นสายตาของอลัน จอร์จนิ่วหน้าด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าผู้ที่เขากำลังออกแรงกดเอาไว้นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง เด็กชายรีบคลายมือออกพร้อมกับหันไปมองหน้าเพื่อน อะไร อลันถามเสียงห้วน อยู่ๆหมอนี่ก็หยุดดิ้น จอร์จตอบด้วยน้ำเสียงตระหนก แฮริสันหน้าซีดทันที หรือว่า เขาลุกขึ้นและขยับถอยออกห่าง อลันมองเพื่อนทั้งสองด้วยความรำคาญ เขาผลักจอร์จอย่างแรง อย่าปอดไปหน่อยเลย เจ้านี่แค่กลัวจนสลบไปเท่านั้น หัวโจกของกลุ่มพูดพลางใช้เท้าเตะไหล่ของเจฟฟรีย์ค่อนข้างแรงและยิ้มเมื่อเห็นร่างของอีกฝ่ายกระตุกเบาๆ เห็นไหม อลันพูดเสียงดังพลางหันหน้าไปมองเพื่อน จอร์จมองของเหลวที่ยังคงไหลทะลักออกจากปากของเจฟฟรีย์ ไอ้น้ำนี่มันอะไรกัน เขาถามออกมาได้แค่นั้นก็ต้องชะงักและเบิกตากว้าง อ...อลัน เรียกทำไม เพื่อนของเขาขานรับด้วยความรำคาญและขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าตระหนกจากเพื่อนทั้งสองคน พวกนายเป็นอะไรไป ร...รีบถอยออกมาเร็วเพื่อน แฮริสันพูดเสียงสั่น สายตาจับจ้องร่างของเจฟฟรีย์ที่กำลังขยับ และร้องลั่นเมื่อเห็นช่วงบนของลำตัวพลิกหงายขึ้นในขณะที่ช่วงล่างยังคงอยู่ในท่านอนคว่ำหน้า เสียงกระดูกบิดดังฟังเหมือนกิ่งไม้หัก มันทำให้อลันต้องหันกลับไปมอง ร่างสยองที่กำลังยืดตัวสูงขึ้นทำให้เด็กชายต้องร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว วิ่งเร็ว! จอร์จตะโกนบอกเพื่อนแต่ไม่ทันเพราะเพียงเจฟฟรีย์คว้าลำคอของอลันเอาไว้และบีบอย่างแรง ดวงตาของเด็กจอมวายร้ายเหลือกลาน เขาจ้องใบหน้าสยองซึ่งกำลังกลืนซากกบลงคอด้วยสายตาหวาดกลัว เจฟฟรีย์ คำพูดหลุดออกมาได้เพียงเท่านั้นหัวของอลันก็ถูกเจฟฟรีย์ฉีกกระชากออกจากตัว จอร์จและแฮริสันอ้าปากค้าง พวกเขาต่างร้องตะโกนและรีบวิ่งไปที่ประตูแต่ไม่ทัน ทั้งคู่กรีดร้องดังลั่นเมื่อถูกมือแข็งเหมือนคีมตะครุบลงบนหัว อสูรร้ายในร่างของเจฟฟรีย์หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะบีบกะโหลกของเด็กทั้งสองจนแหลกคามือ แสงวับวาบของไฟบนหลังคารถตำรวจดึงความสนใจของผู้ที่อยู่อาศัยรอบโกดังร้างให้ออกไปยืนดู ทุกคนต่างตกใจเมื่อรู้ว่าเกิดเหตุคดีฆาตกรรมสยองขึ้นและยิ่งได้ยินว่าเหยื่อทั้งสามเป็นเพียงเด็กประถมพวกเขาก็เริ่มตื่นตระหนก บางคนถึงกับรีบกลับบ้านเพื่อไปดูบุตรหลานของตนด้วยความเป็นห่วงแต่อีกหลายคนยังคงยืนอยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อรอดูร่างของผู้เคราะห์ร้าย แต่เมื่อถูกสายตรวจสอบถามพวกเขาต่างสั่นหน้าพร้อมทั้งให้การว่าไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรผิดสังเกต คำตอบของคนเหล่านั้นทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนต้องจับกลุ่มปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดในขณะที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานเริ่มเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุใส่ซองโดยไม่รู้ตัวว่าการกระทำทั้งหมดของพวกเขาอยู่ในสายตาของใครอีกคนซึ่งกำลังยืนซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวกวาดมองไปโดยรอบก่อนจะเลื่อนขึ้นและจ้องไกลออกไป เสียงแฮมเมอร์ซึ่งอยู่ในสูทสีดำถาม มีอะไรหรือครับคุณวิคตอเรีย มีคดีฆาตกรรม หญิงสาวตอบอย่างเคร่งขรึมพลางกระโดดลงจากจุดที่ยืนอยู่ เหยื่อเป็นเด็กสามคน เหยื่อ แฮมเมอร์ทวนคำ ไม่ใช่การกระทำของมนุษย์หรือครับ ไม่ใช่ วิคตอเรียพูดพลางหันหน้าไปในทิศทางที่จ้องเมื่อครู่ มันหายไปทางนั้น หญิงสาวชะงักคำพูดและสูดลมหายใจเข้าค่อนข้างแรง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นอย่างฉับพลัน แฮมเมอร์มองกิริยาของเธอด้วยความแปลกใจ คุณวิคตอเรีย กลิ่นเลือด เธอพึมพำพร้อมกับนิ่วหน้า มันกำลังฆ่าคน! หญิงสาวกระโดดข้ามกำแพงสูงและวิ่งหายไปในความมืด ทิ้งให้แฮมเมอร์ซึ่งกำลังร้องห้ามยืนอ้าปากค้างเอาไว้เพียงลำพัง เขารีบเดินกลับไปที่รถและหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา หลังจากรายงานทุกอย่างพร้อมกับรับทราบคำสั่งเรียบร้อยแล้วแฮมเมอร์จึงขับรถออกจากบริเวณนั้นและมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกับที่วิคตอเรียหายไป นักล่าสาววิ่งผ่านทุ่งโล่งไปจนกระทั่งถึงแหล่งชุมชน แม้จะไม่หนาแน่นมากนักแต่กระแสลมยามค่ำคืนผนวกกับกลิ่นอาหารนานาชนิดที่โชยออกมาจากบ้านลบกลิ่นคาวเลือดให้หายไปชั่วขณะ วิคตอเรียขมวดคิ้วด้วยความขัดใจก่อนจะกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนอาคารสูงและกวาดตามองไปรอบตัว สายลมเย็นที่พัดผ่านร่างนำพากลิ่นเลือดกลับมาอีกครั้ง หญิงสาวหันหน้าไปตามทิศทางที่เป็นต้นลม ดวงตาคมจ้องบ้านขนาดเล็กหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไป เธอกระโดดลงจากตึกและพุ่งตรงไปที่นั่นทันที เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวที่ดังออกมาจากบ้านหลังนั้นทำให้ผู้วิคตอเรียต้องเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น เธอกระโดดข้ามรั้วไปหยุดยืนอยู่ที่สวนด้านหลังและก้าวตรงไปที่ประตูอย่างระวัง เสียงร้องคำรามที่ดังมาจากภายในทำให้หญิงสาวตัดสินใจกระแทกบานประตูและพุ่งตัวเข้าไป เมื่อเห็นภาพชิ้นส่วนจากร่างกายของมนุษย์ที่กระจัดกระจายไปทั่วทำให้วิคตอเรียต้องชะงัก เธอนิ่วหน้าและเม้มปากแน่นขณะไล่สายตามองเลือดที่สาดกระเซ็นขึ้นไปจนถึงเพดาน หญิงสาวเดินสำรวจอย่างระมัดระวังและหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงลากเท้าดังมาจากชั้นบน เธอเอื้อมมือไปดึงดาบที่สะพายไว้ด้านหลังก่อนจะก้าวขึ้นไปตามขั้นบันได เสียงคำรามแผ่วต่ำทำให้นักล่าสาวต้องกระชับอาวุธในมือแน่นพร้อมกับกวาดตามองและหยุดไว้ที่ห้องนอนขนาดใหญ่ซึ่งมีร่างอมนุษย์กำลังก้มหน้าก้มตาแทะแขนข้างหนึ่งอย่าตะกละตะกรามอยู่บนเตียง วิคตอเรียพยายามวางเท้าให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวแต่ทันทีที่ก้าวผ่านประตูห้อง พื้นไม้ชิ้นหนึ่งก็ดังลั่นขึ้น อสูรร้ายสะดุ้งสุดตัว มันหันหน้ากลับมาแยกเขี้ยวขู่นักล่าสาวและพุ่งเข้าทำร้ายเธอทันทีแต่วิคตอเรียเบี่ยงตัวหลบได้ทัน ดาบในมือเงื้อขึ้นหมายจะฟันปิศาจให้ขาดเป็นสองท่อนแต่ต้องชะงักค้างนิ่งเมื่อเห็นร่างของมันชัดเต็มตา วิคตอเรียพึมพำออกมาด้วยความตกใจ เด็ก อสุรกายที่มีใบหน้าของเจฟฟรีย์ใช้เล็บตะกุยพื้นไม้อย่างบ้าคลั่ง มันส่งเสียงคำรามก้องก่อนจะกระโจนเข้าใส่นักล่าสาวอีกครั้งแต่เธอกลับยืนนิ่งไม่ยอมหลบ ปิศาจร้ายกางกรงเล็บออกหมายจะฉีกร่างของผู้ที่อยู่ตรงหน้าให้เป็นชิ้นแต่ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วจะสัมผัสถูกตัวหญิงสาว ร่างของมันก็ถูกใครบางคนพุ่งเข้าชนจนกระเด็นไปกระแทกกับผนังห้อง ร่างสยองทรุดลงไปนอนกองกับพื้นทันที ไม่เป็นไรใช่ไหม วูล์ฟหันหน้ากลับมาถาม วิคตอเรียมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ นายมานี่ได้ยังไง ทางหน่วยแจ้งมาน่ะ หนุ่มหมาป่าตอบ งานของพวกเราเสร็จพอดีเลยรีบมาช่วย ยุ่งไม่เข้าเรื่อง หญิงสาวพูดอย่างรำคาญ วูล์ฟเลิกคิ้ว อ้าว ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ หนุ่มหมาป่าพูดเสียงดังและชี้ไปที่ปิศาจร้ายซึ่งกำลังยืนโอนเอนไปมา ถ้าไม่เข้ามาป่านนี้เธอโดนเจ้านั่นฉีกเป็นชิ้นแล้ว ฉันไม่ได้ขอให้ใครช่วย นักล่าสาวพูดเสียงเรียบพลางหมุนดาบในมือ หลีก วูล์ฟอ้าปากทำท่าจะเถียงแต่เสียงร้องคำรามด้วยความโกรธของอสูรอัปลักษณ์ทำให้เขาต้องชะงักและหันไปมอง หนุ่มหมาป่าจ้องร่างที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาตกใจเพราะแม้จะอยู่ในสภาพที่เกือบจะไม่เหมือนมนุษย์แต่เค้าโครงหน้าของอสูรร้ายตัวนั้นยังคงเป็นเจฟฟรีย์ เด็กนักเรียนชั้นประถม วิคตอเรียเหลือบตามองวูล์ฟก่อนจะตวัดสายตาไปยังแขนของผู้เคราะห์ร้ายที่ตกอยู่บนพื้น เธอเม้มปากแน่นก่อนตัดสินใจหันหน้าไปประจันกับปิศาจเด็กคนนั้นและตวัดดาบฟันคอของมันจนขาดกระเด็น วูล์ฟมองหัวที่กำลังกลิ้งไปบนพื้นและอ้าปากค้างเมื่อเห็นนักล่าสาวเหวี่ยงดาบลงไปบนหัวนั่นอีกครั้งผ่ากระโหลกให้แยกเป็นสองซีกและรีบตัดมันสมองบางส่วนใส่ลงไปในขวดแก้วที่มีของเหลวบรรจุอยู่อย่างรวดเร็ว อะไรน่ะ หนุ่มหมาป่าถามด้วยความอยากรู้ วิคตอเรียชำเลืองตามองวลาร์ดที่ยืนอยู่นอกห้องก่อนจะตอบเสียงห้วน อย่ายุ่ง เธอก้าวไปที่ระเบียงและกระโดดลงไปชั้นล่างทันที วูล์ฟมองตามพร้อมกับบ่นพึมพำ นิสัยแย่เหมือนเจ้าผีดิบไม่มีผิด จะยืนพูดอีกนานไหม เสียงเรียบเย็นถามขึ้น หนุ่มหมาป่าหันไปมองหน้าเพื่อน ไม่เก็บหลักฐานเหรอ ไม่ทันแล้ว วลาร์ดตอบพลางพยักหน้าไปทางร่างของเจฟฟรีย์ที่ตอนนี้ถูกละลายด้วยของเหลวสีเขียวเข้ม พริบตาร่างปิศาจร้ายก็เหลือเพียงเมือกกองใหญ่นองเต็มพื้น เยี่ยม วูล์ฟพูดขณะยกเท้าข้ามกองของเหลวเพื่อก้าวไปหาเพื่อน เหลือแต่เมือกน่าขยะแขยงเหมือนทุกครั้ง แบบนี้เราก็ไม่มีทางรู้อะไรเกี่ยวกับปรสิตพวกนั้นเลยน่ะสิ ก็ไม่เชิง ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบพลางเลื่อนสายตามองไปยังรถของแฮมเมอร์ที่กำลังวิ่งห่างออกไป อย่างน้อยเขาก็ได้ตัวอย่างบางส่วนไป วลาร์ดชะงักคำพูดค้างและนิ่วหน้าเมื่อเสียงสัญญาณของรถตำรวจดังใกล้เข้ามา หนุ่มหมาป่าส่ายหน้า พวกน่าเบื่อมากันแล้ว เขาหันไปมองหน้าลูกครึ่งแวมไพร์ อีกฝ่ายจึงพูดเสียงเรียบ ไปกันเถอะ ทั้งคู่กระโดดลงมาจากชั้นสองและเดินไปที่รถซึ่งจอดรออยู่ในเงามืด เมื่อทั้งสองขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้วสมิธจึงติดเครื่องยนต์และขับออกจากที่นั่นมุ่งหน้ากลับไปยังหน่วยนักล่าซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเมือง */*/*/*/* บทที่ 3 บทลงโทษ
บทที่ 3
บทลงโทษ เสียงฝีเท้าก้าวอย่างสม่ำเสมอดังสะท้อนก้องไปตามทางเดินสีขาวซึ่งทอดยาวลึกลงไปใต้ดิน ระหว่างทางหากนักวิจัยหรือเจ้าหน้าที่ภายในห้องทดลองคนใดบังเอิญสวนทางมา พวกเขาต่างพากันรีบก้มศีรษะให้อย่างนอบน้อมพร้อมกับเบี่ยงตัวหลบปล่อยให้ผู้มีตำแหน่งสูงที่สุดในบรรดานักวิทยาศาสตร์ขององค์กรเดินผ่านไป ไรซินเองก็ไม่ได้สนใจที่จะกล่าวทักทายกับใคร เขายังคงเดินไปด้วยท่าทางเยือกเย็นน่าเกรงขามจนกระทั่งถึงหน้าห้องวิจัยห้องหนึ่งจึงหยุดลงและก้าวเข้าไปข้างในทันทีที่บานประตูเลื่อนเปิดออกอย่างอัตโนมัติ เจ้าหน้าที่ประจำห้องทดลองสองคนซึ่งกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์รีบหันหน้ามาทำความเคารพ เขาเป็นยังไง ยังไม่รู้สึกตัวเลยครับ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบพร้อมกับยื่นรายงานส่งให้ ไรซินรับมาถือไว้และไล่สายตาอ่านอย่างรวดเร็ว สุขภาพแข็งแรง ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปรกติทุกอย่าง อวัยวะภายในก็สมบูรณ์ไม่มีส่วนใดบกพร่อง เขาวางรายงานลง เป็นตัวอย่างที่เหมาะแก่การทดลองมาก เราเตรียมปรสิตที่ท่านสั่งไว้เรียบร้อยแล้วครับ เจ้าหน้าที่อีกคนพูดขึ้น เขามองไรซินอย่างลังเลก่อนตัดสินใจถาม ท่านจะฝังลงไปในร่างของเขาหรือครับ ทำไม เสียงเรียบเย็นย้อนถามอีกฝ่ายสะดุ้งและรีบก้มหน้าลง เขาเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยอันเทสต์ที่ยังแข็งแรง ผมคิดว่าเราไม่น่าจะ... ถ้าเห็นว่ามันไม่เหมาะผมจะให้คนย้ายเขาออกไป ไรซินเว้นระยะคำพูดเล็กน้อยก่อนจะต่อประโยคเสียงเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง และให้คุณลงไปนอนแทน เจ้าหน้าที่คนนั้นผวาขึ้นสุดตัว เขารีบก้าวถอยหลังพร้อมกับส่ายหน้า ได้ปรดอย่าทำอย่างนั้นเลยครับ เขาพูดรัว ผมแค่สงสัยเท่านั้น คุณมีสิทธิ์สงสัยได้แค่เฉพาะงานทดลอง อย่าให้ผมได้ยินคำพูดทำนองนี้อีก ไรซินจ้องเขาด้วยดวงตาเย็นชาแต่คมกริบดุจเชือดหัวใจอีกฝ่ายให้ขาดสะบั้น เจ้าหน้าที่ปากมากรีบค้อมตัวลงต่ำพร้อมกับรับคำปากคอสั่น ครับท่าน ทำให้เขารู้สึกตัว ไรซินหันไปสั่งเจ้าหน้าที่อีกคนซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างเตียง เขารีบหยิบเข็มขึ้นมาและฉีดยาเข้าไปในสายน้ำเกลืออย่างระวัง ระหว่างรอให้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงฟื้น มนุษย์พิษตรวจดูปรสิตที่เขาต้องใช้อีกครั้งอย่างรอบคอบก่อนจะวางลงและเลื่อนมือไปหยิบมีดผ่าตัดมาถือไว้เมื่อเห็นเหยื่อทดลองเริ่มขยับ สวัสดี เขาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงทุ้มเย็นเยียบ รู้สึกยังไงบ้างคาร์เพนเตอร์ คาร์เพนเตอร์กระพริบตาสองสามครั้งเหมือนขับไล่ความง่วงงุน เขามองดวงไฟที่สว่างเจิดจ้าเหนือร่างด้วยความแปลกใจก่อนจะเลื่อนสายตามองไปที่ไรซิน เกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ที่ไหน เขาทำท่าจะลุกแต่ต้องนิ่วหน้าเมื่อพบว่าทั้งแขนและขาถูกพันธนาการเอาไว้กับเตียง นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงมัดผมไว้แบบนี้ มันเป็นบทลงโทษ น้ำเสียงเรียบเย็นตอบ คาร์เพนเตอร์มองใบหน้าที่เฉยนิ่งของนักวิทยาศาสตร์ใหญ่แห่งองค์กรด้วยดวงตาสงสัย ลงโทษ เขาทวนคำ ผมทำอะไรผิด คุณน่าจะรู้ไม่ใช่หรือ ไรซินย้อนถามพลางใช้ปากกาขีดลงไปบนหนังศีรษะที่ถูกโกนจนเกลี้ยงเกลา คาร์เพนเตอร์มองการกระทำของเขาด้วยความหวาดกลัว ผมทำทุกอย่างตามที่คุณสั่ง เขาระล่ำระลักพูดเมื่อเห็นอีกฝ่ายหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมา ไรซินตวัดตามองคาร์เพนเตอร์พร้อมกับพูดเสียงเรียบ นอกจากเรื่องอันเดอร์ฮิลล์ น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้น ผมสั่งให้คุณคอยตามเก็บหลักฐานของเหยื่อที่ถูกกีพาร์ดฆ่าเท่านั้น แล้วคุณเดินทางไปที่หน่วยนักล่าทำไม ผม น้ำตาของคาร์เพนเตอร์ไหลเป็นทาง ผมทำตามคำสั่งของเลดี้การ์ดเนอร์ ดวงตาของไรซินทอประกายกร้าว เขาจรดมีดผ่าตัดลงไปบนหนังศีรษะและกดลงไปเบาๆ คาร์เพนเตอร์สะดุ้งสุดตัวพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมา ขอโทษ ผมลืมไปว่ายังไม่ได้ให้ยาชากับคุณ ไรซินพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนจะหันไปทางเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังยืนหน้าซีดด้านข้าง ไลโดเคน ไรซินวางมีดผ่าตัดลงและหยิบก้อนสำลีมาซับเลือดซึ่งกำลังไหลออกจากบาดแผลอย่างเบามือพร้อมกับถาม หน่วยอันเทสต์ขึ้นตรงต่อใคร ค...คุณ อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักและอุทานด้วยความเจ็บปวดเพราะผู้ที่กำลังทำความสะอาดแผลเจตนากดน้ำหนักมือให้แรงขึ้น ต้องเพิ่มคำว่า แต่เพียงผู้เดียว ลงไปด้วย ไรซินพูดด้วยน้ำเสียงเนิบเย็นขณะโยนก้อนสำลีชุ่มเลือดทิ้งลงถัง ผู้ช่วยคนหนึ่งหันหน้ามาทางเขา ทุกอย่างพร้อมแล้วครับท่าน รอยยิ้มอำมหิตพาดผ่านใบหน้าซูบ มนุษย์พิษหยิบมีดผ่าตัดเล่มใหม่ขึ้นมาและลงมือกรีดหนังศีรษะของคาร์เพนเตอร์อย่างบรรจง ทีนี้ช่วยพูดอีกครั้งว่า ใครคือนายของคุณ เขาพูดขณะเปิดแผ่นหนังออกจนเห็นกะโหลก คาร์เพนเตอร์หลับตาแน่นและตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ท...ท่านไรซิน แต่เพียงผู้เดียวครับ ดีมาก ไรซินพูดพลางวางมีดลงและรับเครื่องเจาะกะโหลกจากเจ้าหน้าที่มาถือไว้ คำสั่งของผมคืออะไร เก็บกวาดหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวกับเหยื่อของกีพาร์ด ความจำของคุณยังใช้ได้ มนุษย์พิษพูดพร้อมกับกดปุ่มให้เครื่องมือทำงาน เขายิ้มเมื่อเห็นคาร์พนเตอร์สั่นไปทั้งตัว แล้วไปที่หน่วยนักล่าทำไม เป็นคำสั่งของท่านผู้หญิง ท่านบอกให้ผมเข้าไปสืบค้นเพื่อหาแนวทางทำลายพวกนักล่า รวมทั้งกำจัดผู้นำของที่นั่นหากเป็นไปได้ ซึ่งคุณก็ยอมทำตามโดยไม่มีการรายงานผม น้ำเสียงของไรซินเข้มขึ้น การ์ดเนอร์เสนอจะให้อะไร คาร์เพนเตอร์ไม่ยอมตอบ ไรซินจึงวางเครื่องเจาะลงบนกะโหลกของเขาและกดปุ่มให้มันหมุนในอัตราความเร็วต่ำ แม้ฤทธิ์ของยาจะทำให้อดีตลูกน้องของเขาไม่รู้สึกเจ็บแต่แรงสั่นสะเทือนที่ได้รับทำให้คาร์เพนเตอร์บังเกิดความกลัวจนแข็งเกร็งไปทั้งร่าง เขารีบตอบระรัว ท่านผู้หญิงสัญญาว่าจะย้ายผมเข้าไปทำงานในองค์กร ดวงตาของคาร์เพนเตอร์เหลือกลานเมื่อไรซินเร่งความเร็วของเครื่อง มันเจาะคว้านกระโหลกลงไปทีละน้อยจนกระทั่งถึงระดับหนึ่งจึงหยุด มนุษย์พิษถอนเครื่องมือออกพร้อมกับจัดแจงเปิดแผ่นกระดูกที่ถูกตัดอย่างระวัง และเหยียดยิ้มเมื่อเห็นคาร์เพนเตอร์ร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว ไม่มีใครย้ายคนในหน่วยของผมได้ ไรซินพูดขณะตรวจเนื้อสมองก่อนจะหยิบหลอดทดลองที่ใช้เลี้ยงปรสิตขึ้นมา แม้เขาจะกลายเป็นศพไปแล้วก็ตาม ดวงตาสีเปลือกไม้มองหน้าคาร์เพนเตอร์เขม็ง มันฉายความอำมหิตออกมาอย่างชัดแจ้ง มนุษย์พิษพูดด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มน่าสะพรึง ผมเป็นเจ้าชีวิตของพวกคุณทุกคน คาร์เพนเตอร์มองไรซินด้วยน้ำตานองหน้า อภัยให้ผมด้วย ผมไม่เคยยกโทษให้กับคนทรยศ อีกฝ่ายพูดขณะฝังปรสิตลงในเนื้อสมองของผู้ที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ไม่เป็นไรเพราะเมื่อปรสิตนี่เติบโตขึ้น มันจะทำให้คุณกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์ยิ่งกว่าตอนเป็นคน ไรซินวางหลอดทดลองที่ว่างเปล่าลงบนถาด เขามองคาร์เพนเตอร์อีกครั้งก่อนจะสั่งเจ้าหน้าที่เสียงเรียบ เย็บแผลและดูแลเขาให้ดี บันทึกความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและรายงานผลให้ผมทราบทุกสองชั่วโมง มนุษย์พิษก้าวออกจากห้องนั้นทันทีที่สั่งจบและขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นหัวหน้าหน่วยอันเทสต์กำลังยืนรออยู่ด้านนอก มีเรื่องด่วนครับท่าน เขารีบรายงานด้วยสีหน้ากังวล ห้องทดลองย่อยของแผนกที่ห้าถูกพวกนักล่าบุกเข้าไปทำลายแล้วครับ เสียหายเท่าไหร่ ไรซินถามขณะเดินไปตามทาง อีกฝ่ายตอบอย่างรวดเร็ว ตัวอ่อนหมายเลขห้าสิบถูกทำลายเกือบทั้งหมด แต่นักวิจัยของเราระเบิดห้องทดลองทิ้งได้ทันก่อนที่นักล่าพวกนั้นจะนำส่วนที่เหลือออกไป งั้นรึ ไรซินพึมพำพร้อมกับยิ้ม ไม่เลว ไม่ทราบว่าท่านจะสั่งการให้เราทำอะไรต่อไปครับ หัวหน้าหน่วยอันเทสต์ถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นผู้เป็นนายมีท่าทางนิ่งเฉยเหมือนไม่ใส่ใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าใดนัก มนุษย์พิษตอบเสียงเรียบ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ห้องทดลองของพวกเราคงถูกทำลายจนหมด ก็แค่ส่วนย่อย ไรซินพูดอย่างไม่ยี่หระ เขาหันไปมองผู้ใต้บังคับบัญชา ที่คุณควรทำในตอนนี้ก็คือติดตามสัตว์ทดลองรุ่นใหม่ที่ผมเพิ่งคิดค้นขึ้น คอยระวังอย่าให้มันแสดงพิรุธออกมา ตัวไหนมีท่าทางผิดปรกติให้รีบรายงานผมทันที ครับท่าน หัวหน้าหน่วยอันเทสต์รับคำและชะงักนิ่งไปเล็กน้อยราวกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขานิ่วหน้าอย่างลังเลก่อนตัดสินใจพูด มีอีกเรื่องที่ผมอยากเรียนให้ท่านทราบ เรื่องอะไร ท่านผู้หญิงการ์ดเนอร์ ผมได้ข่าวมาว่ามีการเคลื่อนไหวที่ไม่สู้ดีนักจากเธอและร็อคนีย์ ผมไม่สนใจเรื่องของคนพวกนี้ แต่การ์ดเนอร์ต้องการกำจัดท่านนะครับ หัวหน้าหน่วยอันเทสต์โพล่งขึ้น ไรซินมองเขาอย่างใจเย็น ผมทราบ ท่านไม่รายงานเบื้องบนหรือครับ คุณคิดหรือว่านายท่านจะไม่รู้ มนุษย์พิษตอบและยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย ทำหน้าที่ของคุณไปอย่าได้กังวลกับการ์ดเนอร์ส่วนร็อคนีย์ ผมแน่ใจว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไร ท่านมั่นใจหรือครับ หัวหน้าอันเทสต์ถามและหน้าเจื่อนเมื่อเห็นดวงตาคมกริบของไรซิน เขารีบก้มศีรษะลง ถ้าอย่างนั้นผมต้องขออนุญาตไปปฎิบัติงาน เชิญ หัวหน้าของเขาพูดเสียงเรียบ อีกฝ่ายคำนับเขาอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป ไรซินมองตามด้วยสีหน้านิ่งแต่ดวงตาของเขากลับลุกวาวจนน่ากลัว คุณไม่มีวันทำลายผมได้หรอก การ์ดเนอร์ ไม่มีวัน */*/*/*/* บทที่ 2 หนี
บทที่ 2
หนี ถาดอาหารถูกเกี่ยวด้วยตะขอโลหะก่อนจะเลื่อนลงไปยังห้องที่ใช้กักขังกีพาร์ดอย่างระมัดระวัง เสียงร้องทักทายจากเพื่อนร่วมงานทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งกำลังหย่อนโซ่ต้องละสายตาจากงานที่กระทำ กีพาร์ดรีบฉวยจังหวะนั้นกระโดดตัวลอยเข้าไปหาผนังและออกแรงถีบมันเพื่อส่งตัวขึ้นไปยังตะแกรงด้านบน มือข้างหนึ่งยื่นผ่านช่องอาหารและคว้าคอเสื้อขอเจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายในขณะที่มืออีกข้างจับตะแกรงแน่น มนุษย์ครึ่งเสือกระชากร่างของอีกฝ่ายให้ก้มต่ำลงและพูดด้วยน้ำเสียงคำราม เปิดกรงเดี๋ยวนี้ ไม่ เจ้าหน้าที่คนนั้นตอบพลางขืนตัวเพื่อลุกขึ้นแต่กีพาร์ดกลับดึงเขากลับลงไปอีกครั้ง ฉันไม่ชอบพูดซ้ำซาก กรงเล็บที่กำรอบคอกระชับแน่นขึ้น เปิดกรง เร็ว! ถ้าเปิด ท่านไรซินลงโทษผมแน่ แต่ถ้าไม่เปิด แกต้องตายอยู่ตรงนี้ มนุษย์ครึ่งเสือแยกเขี้ยวคำราม อีกฝ่ายตัวสั่นด้วยความกลัว ผมยอมตาย เขาพูดเสียงขาดเป็นห้วงและร้องลั่นเมื่อถูกกีพาร์ดจับกระแทกกับตะแกรงโลหะอย่างแรงจนสลบ มนุษย์ครึ่งเสือผลักเจ้าหน้าที่ผู้นั้นไปให้พ้นทางก่อนจะพยายามแทรกร่างผ่านช่องขึ้นมาด้านบน กีพาร์ดหันไปมองเจ้าหน้าที่อีกสองคนซึ่งกำลังยืนอ้าปากค้างด้วยความตระหนก ทั้งคู่รีบพุ่งไปที่ปุ่มสัญญาณฉุกเฉินแต่ยังช้ากว่ามนุษย์เสือซึ่งกระโจนเข้าใส่อย่างรวดเร็วและเหวี่ยงสันหมัดฟาดลงไปที่ต้นคอของผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองทันที เจ้าพวกโง่ กีพาร์คพึมพำพลางกวาดตามองรอบตัว สายตาของเขาหยุดอยู่ที่แผงจอภาพจำนวนหนึ่งบนผนังและจ้องสัตว์ทดลองหลายชนิดซึ่งถูกขังอยู่ตามห้องต่างๆด้วยดวงตาลุกวาว มนุษย์ครึ่งเสือแสยะยิ้ม นายได้สนุกกับผลงานของตัวเองแน่ ไรซิน */*/*/*/* เสียงสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินดังลั่นไปทั่ว เจ้าหน้าที่และนักวิจัยต่างพากันวิ่งหนีสัตว์ทดลองหลายตัวที่ถูกกีพาร์ดปล่อยออกมา พวกมันต่างอาละวาดทำลายสิ่งของทุกอย่างอย่างบ้าคลั่ง และจับนักวิทยาศาสตร์ที่หนีไม่ทันมาฉีกกิน ประตูเหล็กหนาหนักเลื่อนปิดลงอย่างรวดเร็ว กั้นส่วนที่สัตว์ทดลองอาละวาดไม่ให้หลุดออกนอกบริเวณได้ จากนั้นหน่วยอันเทสต์ เจ้าหน้าที่ซึ่งขึ้นตรงต่อไรซินได้นำกำลังบุกเข้าไป พวกเขารีบตั้งแนวสกัดพร้อมกับระดมยิงปืนยาสลบเข้าใส่สัตว์ทดลองทุกตัวแต่เนื่องมาจากผลของการตัดต่อพันธุกรรม สัตว์ร้ายตัวหนึ่งกลับไม่เป็นอะไร มันกวาดตามองพวกพ้องที่ล้มกองรอบตัวด้วยความโกรธและแยกเขี้ยวร้องคำรามอย่างคุ้มคลั่ง สัตว์ตัวนั้นกระโจนเข้าใส่กลุ่มอันเทสต์อย่างรวดเร็ว เสียงฝีเท้าซึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งร้อนและหยุดลงที่หน้าประตูอย่างฉับพลันทำให้ไรซินต้องละสายตาจากกล้องจุลทรรศน์ เขาเงยหน้าขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับเจ้าหน้าที่อันเทสต์เปิดประตูก้าวเข้ามา มนุษย์พิษถามเสียงเรียบ มีอะไร น้ำเสียงเจืออารมณ์ขุ่นอย่างไม่พอใจอันเนื่องมาจากการถูกขัดจังหวะการทำงาน เจ้าหน้าที่ผู้นั้นก้มศีรษะลงเล็กน้อยและรีบตอบ ขออภัยครับที่เข้ามารบกวนท่าน แต่ตอนนี้เขตสามกำลังเกิดเหตุการณ์วิกฤต คำตอบของอันเทสต์ผู้นั้นทำให้ไรซินวางเครื่องมือลง เขาหันหน้าไปมองผู้เข้ามารายงานและขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในสภาพเปื้อนเลือดไปทั้งตัว ฝีมือหมอนั่นอีกแล้วหรือ ครับ คราวนี้กีพาร์ดปล่อยสัตว์ทดลองให้ออกมาอาละวาดระหว่างหนี แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน ไรซินถามขณะลุกขึ้น เจ้าหน้าที่อันเทสต์ก้มหน้าลงอย่างนอบน้อมก่อนตอบ ยังอยู่ในเขตสามครับ เปิดประตูฉุกเฉิน ผมจะเข้าไป ไรซินสั่งเสียงเรียบ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นทันที แต่มันอันตรายนะครับ เขาชะงักคำพูดค้างและปิดปากลงเมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นนาย เจ้าหน้าที่คนนั้นก้มหน้าลงอีกครั้ง ผมจะนำท่านไป เขารีบก้าวนำออกจากห้องทันที ทั้งสองเดินไปตามทางมุ่งหน้าตรงไปยังห้องทดลองที่อยู่ด้านใน เมื่อไปถึงไรซินมองประตูเหล็กที่ถูกปิดกั้นด้วยสีหน้านิ่งก่อนจะหันไปสั่งหน่วยอันเทสต์เสียงเรียบ เปิดประตู ข้างในอันตรายมากนะครับท่าน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแย้ง มีสัตว์ทดลองตัวหนึ่งกำลังอาละวาดอยู่ ขนาดโดนยิงด้วยกระสุนยาสลบชนิดแรงที่สุดมันก็ยังไม่เป็นอะไร ยาสลบใช้ไม่ได้ผลงั้นรึ ไรซินยิ้ม น่าสนใจ มนุษย์พิษหันหน้ากลับไปที่ประตูอีกครั้งพร้อมกับเสียงห้วน เปิด ผู้ใต้บังตับบัญชาหันไปมองหน้ากันด้วยความลำบากใจแต่เมื่อเห็นสายตาของไรซินที่กำลังเหลือบมองกลับมายังพวกเขา หนึ่งในนั้นจึงเลื่อนมือไปกดปุ่มที่ผนัง ทันทีที่ประตูเลื่อนขึ้น เสียงคำรามอย่างดุร้ายของสัตว์ร้ายที่ถูกขังอยู่ภายในก็ดังสวนออกมา เจ้าหน้าอันเทสต์ทั้งหมดรีบเล็งปืนไปยังเป้าหมายทันทีแต่ไรซินกลับยกมือห้ามพร้อมกับเหวี่ยงหลอดแก้วขนาดเล็กเข้าใส่สัตว์ทดลองอย่างรวดเร็ว ควันสีเทาหม่นที่ฟุ้งกระจายออกมาทำให้มันผงะถอยหลังพร้อมกับส่งเสียงด้วยความตระหนก เจ้าสัตว์ร้ายพยายามจะพุ่งเข้าใส่มนุษย์พิษแต่เพียงแค่ขยับขาเท่านั้นร่างสูงใหญ่ของมันก็ทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรงราวกับแมงกะพรุนบนหาดทราย ไรซินก้าวไปหยุดยืนมองด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม คิดจะเล่นซ่อนหากับฉันหรือ เสียงครางแผ่วต่ำดังมาจากช่องระบายอากาศเหนือหัว เจ้าหน้าที่หน่วยอันเทสต์เงยหน้าขึ้นมองและเบิกตากว้างเมื่อเห็นกีพาร์ดกระโดดลงมา เขาหันไปมองสัตว์ทดลองซึ่งนอนแน่นิ่งไปเรียบร้อยแล้วก่อนจะเลื่อนกลับมายังไรซิน นายใช้ยาอะไร ทำไมถึงไม่มีผลกับเจ้าพวกนั้น เขาตวัดสายตาไปยังกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งยืนเรียงหน้ากระดานอยู่นอกห้อง ไรซินตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แค่ยาคลายกล้ามเนื้อที่แรงกว่าปรกติสิบเท่า งั้นรึ กีพาร์ดขยับมาข้างหน้าหนึ่งก้าวพร้อมกับถาม แล้วคิดจะใช้ยาอะไรกับฉัน นั่นสินะ อีกฝ่ายพูดพลางล้วงมือลงไปในกระเป๋า มนุษย์เสือหรี่ตาลงและพุ่งเข้าไปหาเขาทันทีแต่ต้องสะดุ้งสุดตัวและหยุดชะงักอย่างฉับพลัน กีพาร์ดฝืนเดินต่อไปอีกสองสามก้าวก่อนจะล้มลง เขาขบกรามแน่นขณะเลื่อนมือไปยังต้นคอและดึงเข็มฉีดยาขนาดเล็กออกมา เป็นไปไม่ได้ แกไม่มีทางเร็วกว่าฉัน มนุษย์เสือพึมพำและพยายามฝืนดันตัวลุกขึ้นแต่ด้วยฤทธิ์ของยาทำให้เขาต้องล้มกลับลงไปนอนอีกครั้ง ไรซินมองเขาด้วยดวงตาที่ยากแก่การอ่านก่อนจะสั่งเสียงเรียบ พาเขากลับห้องและใช้โซ่มัดไว้กับเตียง เจ้าหน้าที่ประจำห้องทดลองช่วยกันยกร่างของกีพาร์ดออกไป ไรซินไล่สายตาไปรอบห้องและขมวดคิ้วเมื่อเห็นอุปกรณ์สำคัญหลายชิ้นถูกทำลาย เขาเอ่ยปากถามหัวหน้าหน่วยอันเทสต์ซึ่งกำลังก้าวเข้ามา เสียหายมากแค่ไหน โหลเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อถูกทำลายไปทั้งหมด อุปกรณ์หลักของห้องนี้เสียหายถึงขั้นใช้การไม่ได้ ที่สำคัญ ตัวอ่อนกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่ท่านเพิ่งคิดค้นถูกสัตว์ทดลองตัวหนึ่งกินไปแล้วครับ งั้นรึ ไรซินพูดพลางมองเศษแก้วที่แตกกระจายเกลื่อนพื้นปะปนไปกับเศษเลือดและเนื้อของทั้งเจ้าหน้าที่และนักวิจัยที่ถูกสัตว์ทดลองทำร้าย ตายกี่คน เจ้าหน้าที่อันเทสต์ 17 นักวิจัย 3 ครับท่าน ส่วนพวกที่บาดเจ็บกำลังถูกนำไปทำการรักษาที่ห้องพยาบาล พาพวกเขาไปที่ห้องวิจัยเขตหนึ่ง แยกขังห้องละคน จัดทีมเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลง รายงานผมทันทีหากใครมีอาการผิดปรกติ แล้วพวกที่ตายล่ะครับ หัวหน้าอันเทสต์ถามเมื่อเห็นเจ้านายทำท่าจะเดินออกจากที่นั่น ไรซินหันกลับมา เผาให้หมด เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป */*/*/*/* ความร้อนที่กำลังแผ่กระจายไปทั่วร่างทำให้กีพาร์ดต้องบิดตัวและร้องครางออกมาด้วยความทรมาน ลำคอปวดแปลบจากการถูกเข็มฉีดยาปักซ้ำลงไปสองสามครั้ง ฤทธิ์ของยาที่ได้รับวิ่งพล่านไปตามกระแสเลือดสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ความร้อนรุ่มของมันดุจจะแผดเผากล้ามเนื้อทุกส่วนให้มอดไหม้ ดวงตาเหลืองทองดุจนัยน์ตาของเสือปรือขึ้นและจับจ้องตะแกรงโลหะที่อยู่เหนือร่างเขม็ง มนุษย์เสือพยายามขยับตัวแต่พันธนาการของโซ่ที่มัดเขาจนแน่นติดกับเตียงทำให้ไม่อาจทำได้ดังใจ กีพาร์ดบดกรามด้วยความโกรธและแผดเสียงร้องตะโกน ไรซิน! ฉันอยู่นี่ เสียงเรียบเย็นขานรับข้างตัว กีพาร์ดหันหน้าไปมองพร้อมกับแยกเขี้ยวคำราม ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ คงไม่ได้ ไรซินปฏิเสธพลางก้าวเข้าไปหา รู้ตัวไหมว่าวันนี้นายทำเรื่องวุ่นวายมาก วุ่นวาย กีพาร์ดทวนคำและแค่นเสียงหัวเราะ แบบนั้นมันน่าจะเรียกว่าสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับนายมากกว่า แค่ตัวอย่างถูกทำลายไปสองสามชนิด จะทำขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วคนของนายล่ะ เห็นโดนสัตว์ทดลองแสนรักเล่นงานไปหลายคนนี่ กีพาร์ดแกล้งถามด้วยน้ำเสียงประชดแต่ไรซินกลับยิ้มมุมปาก แค่ทรัพยากรสิ้นเปลืองเท่านั้น เขาพูดด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจนัก ดวงตาของมนุษย์เสือลุกวาว พูดแบบนี้ได้ยังไง เขาเป็นลูกน้องของนายไม่ใช่เรอะ ก็ใช่แต่คนที่ทำให้พวกนั้นตายคือนายต่างหาก ไรซินสวนทันควัน ฉันไม่เข้าใจกีพาร์ด ทำไมนายถึงได้พยายามทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับเราแบบนี้ ทำไมน่ะรึ กีพาร์ดกระแทกลมหายใจ นายไม่เข้าใจหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ ดวงตากร้าวจ้องนัยน์ตาเฉยนิ่งของอีกฝ่ายเขม็ง ไรซินเลื่อนมือไปที่โต๊ะและหยิบปืนฉีดยากระบอกหนึ่งขึ้นมา สิ่งที่ฉันทำคือความก้าวหน้าทางพันธุกรรม เขาดึงยาขวดเล็กออกมาจากกระเป๋า กว่าจะสำเร็จก็ต้องมีผู้เสียสละกันบ้าง เขาบรรจุขวดยาลงไปในกระบอกปืนเข็ม กีพาร์ดจ้องด้วยสายตาโกรธจัด รวมถึงการจับพ่อของตัวเองไปเป็นหนูทดลองด้วยอย่างนั้นเรอะ มือที่ถูกโซ่รัดไว้กำแน่น แล้วยังสภาพของฉันในตอนนี้ ช่วยบอกทีวิคเตอร์ว่านายทำแบบนี้เพื่ออะไร! อย่างน้อยนายก็พ้นจากสภาพของคนพิการ ไรซินตอบเสียงเย็นพลางกดปลายเข็มไว้บนลำคอของกีพาร์ด ส่วนผู้ชายคนนั้นถือเป็นการเสียสละเพื่อความก้าวหน้าทางการทดลอง เสียงคลิกเบาๆเมื่อมนุษย์พิษกดไกปืน ยาในขวดถูกดันผ่านเข็มให้ไหลเข้าไปในเส้นเลือดที่ลำคอของกีพาร์ด เขาสะดุ้งขึ้นสุดตัว แกฉีดยาอะไรให้ฉัน พูดกับพี่แบบนี้ได้ยังไง ไรซินยิ้มพลางวางปืนฉีดยาลง แค่ยานอนหลับธรรมดาเท่านั้น แกไม่ใช่พี่ฉัน กีพาร์ดพูดเสียงขาดเป็นห้วง เขาพยายามเบิกตาให้กว้างขณะที่ออกแรงดิ้นรน ไรซินมองมนุษย์เสืออย่างใจเย็นและยกมือขึ้นแตะบนหน้าผากอย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสงบลงไปแล้ว พักผ่อนให้สบาย เขาพึมพำไม่ดังนักก่อนจะรีบลดมือลงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา เจ้าหน้าที่ประจำห้องทดลองก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงขออนุญาต ไรซินถามเสียงห้วน มีอะไร มีโทรศัพท์ถึงท่านครับ ถ้าเป็นการ์ดเนอร์บอกเธอไปว่าผมกำลังยุ่ง ไรซินบอกปัดอย่างไม่สนใจพลางหมุนตัวเพือเดินออกจากห้องแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าหน้าที่ผู้นั้นขณะพูด ไม่ใช่ท่านผู้หญิงการ์ดเนอร์ครับ เข้าใจแล้ว มนุษย์พิษกล่าวอย่างเคร่งขรึม ปิดห้องนี้ให้ดี จัดคนมาคอยดูแลเขาแต่ห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด ไรซินสั่งเสียงเรียบก่อนจะเดินจากไปด้วยท่าทางที่เร่งรีบ เขาก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัวและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ ขออภัยด้วยครับที่ทำให้นายท่านต้องเสียเวลารอ ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายกล่าวคำขอโทษที่โทร.มารบกวนเวลาทำงานของคุณ อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่ทว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม ได้ยินมาว่ามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในห้องทดลอง แค่อุบัติเหตุเล็กน้อยเท่านั้นครับ ตอนนี้ทุกอย่างเป็นปรกติเรียบร้อยแล้ว สาเหตุเดิมอีกแล้วใช่ไหม เสียงนายท่านถาม ไรซินอึ้งไปเล็กน้อยก่อนตอบ ครับ การ์ดเนอร์รายงานมาว่ากีพาร์ดคอยจ้องแต่จะทำลายงานของเรา ผมเข้าใจดีว่าคุณต้องการปกป้องน้องชายแต่หากยังขืนปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจอยู่แบบนี้ ผลกระทบก็จะกลับมาตกอยู่ที่ตัวคุณ เสียงปลายสายเงียบไปชั่วชณะหนึ่ง หากที่ประชุมลงมติให้กำจัด ผมเองก็คงไม่สามารถคัดค้านอะไรได้ ผมเข้าใจดีครับ ไรซินพูดด้วยน้ำเสียงเบากว่าทุกครั้งและนิ่งเงียบไป ผู้ถูกเรียกว่านายท่านจึงกล่าวต่อ เวลานี้คำร้องของท่านผู้หญิงยังอยู่ในมือผม ท่านหมายความว่า ผมยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องที่เธอรายงานมาเท่าใดนัก ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ตอนนี้เราคงต้องพักเรื่องกีพาร์ดเอาไว้ก่อนเพราะผมสนใจรายงานล่าสุดของคุณมากกว่า แน่ใจหรือว่าจะทำอย่างที่เสนอมา ผมแน่ใจ คุณไม่กลัวอิทธิพลของการ์ดเนอร์หรือ ผมให้ความเคารพต่อท่านแต่เพียงผู้เดียว ไรซินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อีกฝ่ายนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพูด ถ้าอย่างนั้นก็จัดการไปตามที่คุณเห็นควร ครับ ไรซินรับคำและวางสายลงเมื่ออีกฝ่ายตัดการสนทนา เขาเลื่อนสายตามองแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับเหยียดยิ้ม ได้เวลาลงโทษคนทรยศเสียที */*/*/*/* |
กิสึเนะ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี Group Blog
All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |