บทที่ 19 ผู้ภักดี
บทที่19

ผู้ภักดี

ยาสึฮิระมองโคดาจิซึ่งกำลังนั่งค้อมตัวนิ่งหลังจากรายงานเหตุการณ์ที่เขาประสบมาจากแคว้นทาคุฮันจบลง สีหน้าของผู้นำแห่งโคะโตโระสงบนิ่งไร้ความรู้สึกใดๆ เขาหันไปหยิบถ้วยชาขึ้นมาถือไว้และกล่าวถาม
“เจ้ายอมให้มินาโมโตะตัดหัวอย่างนั้นหรือ”
“ขอรับ” โคดาจิตอบอย่างนอบน้อม ยาสึฮิระมองนักรบของตนผ่านไอร้อนที่ลอยอ้อยอิ่งออกมาจากถ้วยชาก่อนจะยกขึ้นดื่มและวางลงบนจานรองดังเดิม
“ทำไม” เขาถามเสียงเรียบ โคดาจิก้มตัวลงอีกเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“เพราะมินาโมโตะบอกว่าเป็นคำสั่งของท่าน”
“เจ้ายอมตายด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้เท่านั้นหรือ” ผู้นำแห่งโคะโตโระย้อนถามขณะมองนักรบของตน อีกฝ่ายตอบออกมาอย่างไม่ลังเล
“ขอเป็นเพียงคำสั่งของท่าน ข้ายินดีทำตามด้วยความเต็มใจ”
“โดยไม่มีคำถามหรือข้อสงสัยใดเลยอย่างนั้นหรือ”
“ขอรับ” โคดาจิตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ยาสึฮิระมองเขาด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะเอ่ยถามเสียงไม่ดังนัก
“ระหว่างการเดินทาง เจ้าได้พบปีศาจบ้างหรือไม่”
“ไม่เลยขอรับ” โคดาจิตอบพร้อมกับล้วงมือเข้าไปในเสื้อและดึงกระดาษพับรูปสามเหลี่ยมออกมาและยื่นส่งให้ยาสึฮิระ “คงเป็นเพราะของที่ท่านมอบให้”
ผู้นำแห่งโคะโตโระมองกระดาษที่อยู่ในมือของโคดาจิและยิ้มออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายจะส่งมันคืนให้กับเขา ยาสึฮิระโบกมือพร้อมกับกล่าว
“เก็บมันไว้กับตัว เจ้าจะได้ปลอดภัย” น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความปราณี โคดาจิค้อมตัวลงจนต่ำและพูดออกมาด้วยความปลื้มปิติ
“ขอบพระคุณมากขอรับ”
“เจ้าเดินทางมาไกลสมควรจะได้พัก” ยาสึฮิระกล่าวและหันไปทางข้ารับใช้ที่นั่งรออยู่อีกด้าน “พาเขาไปที่เรือนหลังเล็กท้ายสุดของจวนและจัดเตรียมที่พักพร้อมกับอาหารอย่างดีให้กับเขาด้วย”
ชายรับใช้ค้อมตัวลงรับคำ โคดาจิเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขารีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว
“ข้าเป็นเพียงนักรบธรรมดาเท่านั้น แค่เครื่องรางที่ท่านมอบให้ก็มีค่ามากมายแล้วขอรับ”
“สิ่งที่ข้ากำลงจะมอบให้เจ้ามิใช่รางวัล หากเป็นการตอบแทนหัวใจที่เต็มไปด้วยความจงรักภักดีที่เจ้ามีต่อข้าต่างหากโคดาจิ” ยาสึฮิระกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นับแต่นี้ต่อไปเจ้าคือหัวหน้าหน่วยคุ้มครองข้า คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในจวนแห่งนี้โดยขึ้นตรงต่อข้าแต่เพียงผู้เดียว”
ดวงตาจ้องนักรบที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเขม็ง
“เจ้าจะทำได้ไหม โคดาจิ”
“ข้าขอรับใช้ท่านด้วยชีวิต” โคดาจิตอบพร้อมกับค้อมตัวลง ยาสึฮิระยิ้มอย่างพอใจ
“ดีมาก” เขาเลื่อนมือไปหยิบถ้วยชา “ไปพักได้”
“ขอรับ” นักรบหนุ่มค้อมกายลงรับคำอีกครั้งก่อนจะเดินตามข้ารับใช้ออกไปจากห้อง ยาสึฮิระมองตามและยิ้มออกมาด้วยความยินดี มันจางหายไปทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งร้อนกำลังเดินเข้ามาหา ผู้นำแห่งโคะโตโระมองบานประตูที่ถูกเลื่อนเปิดออกและจ้องคนเดินสารที่ค้อมตัวลงเพื่อแสดงความเคารพก่อนจะเอ่ยถามเสียงห้วน
“มีอะไร”
“ข่าวจากสนามรบขอรับ” คนเดินสารตอบด้วยน้ำเสียงยำเกรง ยาสึฮิระนิ่วหน้าทันที
“ข่าวจากสนามรบ” เขาทวนคำและขยับตัวนั่งตรง “หรือว่ากันโซพ่ายศึก”
“หามิได้ขอรับ” คนเดินสารกล่าว “ท่านขุนพลกันโซเป็นฝ่ายมีชัย ทัพของฮะคุโจแตกพ่ายไม่เหลือรอดแม้สักคน” เขาชะงักคำพูดค้างไว้และทำท่าลังเลใจว่าสมควรจะพูดต่อไปดีหรือไม่ ยาสึฮิระมองเขาด้วยความสงสัยและพูดเสียงดัง
“เล่ามาให้หมด”
“ขอรับ” คนนำสารค้อมตัวลงและพูดเสียงสั่น “เพียงแต่ชัยชนะที่ท่านกันโซได้มาในครั้งนี้คล้ายกับการรบกับพวกอุเอโนะ”
“คล้ายกับตอนที่ต่อสู้กับอุเอโนะอย่างนั้นหรือ” ยาสึฮิระทวนคำและเบิกตากว้าง “หรือว่า”
“ขอรับ ก่อนที่ทัพของท่านกันโซจะปะทะกับทัพของฮะคุโจ ได้มีฝูงปีศาจจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น พวกมันกัดกินนักรบฝ่ายทาคุฮันจนหมดสิ้นและหายไปกับหมอกควันเหลือไว้แต่ซากเกราะและอาวุธเท่านั้นเอง”
“ปีศาจพวกนั้นไม่ได้แตะต้องคนของกันโซเลยหรือ”
“ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ปีศาจพวกนั้นกัดกินนักรบของฮะคุโจจนหมดแล้ว พวกมันก็หายตัวไปในทันทีโดยไม่สนใจหรือทำร้ายนักรบฝ่ายเราเลย”
คำบอกเล่าของคนเดินสารสร้างความตระหนกต่อยาสึฮิระยิ่งนัก สีหน้าของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างหนักขณะที่นึกทบทวนเหตุการณ์ครั้งที่ปีศาจบุกโจมตีพวกอุเอโนะ ต่างกันตรงที่ในครั้งนี้พวกมันไม่แตะต้องนักรบของกันโซเลยแม้แต่น้อย ผู้นำแห่งโคะโตโระถอนใจ เขาโบกมือไล่คนเดินสารให้ออกไปจากห้องและนั่งคิดด้วยความวิตกกังวลอย่างหนัก หลังจากไตร่ตรองทุกอย่างอยู่นานยาสึฮิระจึงพึมพำออกมา
“หรือเขาเป็นผู้บงการปีศาจเหล่านั้น” ยาสึฮิระยกมือขึ้นกุมศีรษะ “เป็นไปไม่ได้ กันโซไม่ใช่คนร้ายกาจเช่นนั้นอย่างแน่นอน”

*/*/*/*/*/*

ข่าวที่กันโซได้รับชัยชนะเหนือขุนพลไร้พ่ายฮะคุโจแพร่กระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว
โอริเอะรีบนำข่าวนี้ไปบอกกับฮารุคาเสะทันทีพร้อมกับกล่าวคำอำลาต่อโทอิจิโรผู้เป็นเจ้าบ้านเพื่อเดินทางกลับปราสาทยาสึฮิระโดยไม่สนใจคำทัดทานของอีกฝ่ายที่บอกให้เขารออยู่ที่บ้านฟูจิวาระก่อนจนกว่าจะแน่ใจว่าเส้นทางที่เขาใช้นั้นปลอดภัย เมื่อเห็นว่านายกองหนุ่มดึงดันที่จะไปโทอิจิโรจึงจำต้องปล่อยให้เขาเดินทางกลับเพียงลำพัง
หลังจากส่งโอริเอะเรียบร้อยแล้ว โทอิจิโรจึงเดินกลับไปยังห้องฝึกซ้อมและเฝ้าดูฮารุคาเสะสอนการรำพัดแก่โฮชิโนะอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเดินกลับไปที่ห้อง ระหว่างที่เขากำลังผ่านสวนที่คั่นกลางระหว่างเรือนนอนกับห้องซ้อมอยู่นั้นโทอิจิโรก็ต้องชะงักฝีเท้าของตนเมื่อจมูกสัมผัสกับกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง เขากวาดตามองไปโดยรอบและบ่นพึมพำออกมา
“นี่มันกลิ่นอะไรกัน”
เจ้าบ้านฟูจิวาระก้าวลงจากระเบียงและสอดส่ายสายตามองไปตามพุ่มไม้ด้วยเข้าใจว่าที่มาของกลิ่นนั้นอาจจะเป็นนกหรือกระรอก เขาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อไม่พบกับสิ่งใด จนกระทั่งเสียงของใครผู้หนึ่งถามขึ้นอย่างสุภาพ
“ท่านเจ้าบ้านมองหาสิ่งใดหรือขอรับ”
โทอิจิโรเงยหน้าขึ้น เขามองมาซาบุโร่ซึ่งยืนอย่างนอบน้อมอยู่ทางด้านหลังและกล่าวตอบ
“ข้าได้กลิ่นอะไรบางอย่าง”
“ท่านได้กลิ่นแบบไหนกันหรือขอรับ” มาซาบุโร่ถามพร้อมกับสูดลมหายใจ “ข้าไม่ได้กลิ่นอะไรเลยสักนิด”
“เป็นไปได้ยังไงกัน” โทอิจิโรพูดพร้อมกับนิ่วหน้า เขากวาดตามองรอบตัวอีกครั้งและบ่นพึมพำ “น่าแปลกใจจริงๆ”
“บางทีอาจจะเป็นเพราะลมก็ได้นะขอรับ” มาซาบุโร่กล่าว เจ้าบ้านฟูจิวาระผงกศีรษะก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ
“อาจจะเป็นไปได้” เขามองหน้าบ่าวจากบ้านโอริโมโนะ “ข้าคงจะกังวลมากไป”
“ท่านกังวลเรื่องอะไรหรือขอรับ” มาซาบุโร่ถามและสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นสายตาของโทอิจิโร เขารีบค้อมตัวลง “ขออภัยที่ข้าบังอาจถาม”
“ไม่เป็นไร” เจ้าบ้านฟูจิวาระตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงตามองมาซาบุโร่แน่วนิ่ง “เจ้าเข้ามาถึงในนี้ มีธุระอะไรหรือ”
“ข้าเป็นห่วงคุณหนู”
“โฮชิโนะกำลังฝึกการร่ายรำ ซ้ำนางยังอยู่กับฮารุคาเสะ มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง”
“ข้ากลัวพวกปิศาจจะบุกเข้ามา” มาซาบุโร่กล่าวออกมาแค่นั้นก่อนจะค้อมตัวลง “ขออภัยที่บังอาจกล่าวเช่นนี้แต่ข้าเป็นห่วงคุณหนูจริงๆ”
“ข้าเข้าใจ” โทอิจิโรกล่าว “นางอยู่ที่ห้องฝึกซ้อม ข้าอนญาตให้เจ้าไปดูได้ แต่ห้ามทำสิ่งใดที่เป็นการรบกวน”
“ขอรับ” มาซาบุโร่ค้อมกายลงต่ำ เขายืนรอจนกระทั่งเจ้าบ้านฟูจิวาระเดินห่างออกไปจึงหมุนกายและมุ่งหน้าตรงไปยังห้องฝึกซ้อมการรำ ข้ารับใช้แห่งบ้านโอริโมโนะเฝ้าดูนายหญิงน้อยของตนด้วยความห่วงใยขณะที่หัวใจของเขาหวนคิดถึงเรื่องราวร้ายแรงที่เพิ่งประสบมา มาซาบุโร่ถอนใจ
“โปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด คุณหนูโฮชิโนะ”
มาซาบุโร่พึมพำพร้อมกับค้อมตัวลง
การฝึกของโฮชิโนะแม้จะไม่หนักหนาเท่าใดนัก แต่ความเข้มงวดและจริงจังของฮารุคาเสะทำให้เด็กสาวรู้สึกอ่อนล้าจนแทบจะก้าวขาเดินกลับห้องไม่ไหว เมื่อเห็นมาซาบุโร่ซึ่งนั่งคอยอยู่ด้านนอกโฮชิโนะจึงยิ้มกว้างด้วยความดีใจ นางรีบเดินเข้าไปหาข้ารับใช้ของตนทันที
“เจ้าเข้ามาในนี้ได้ยังไงมาซาบุโร่”
“ข้าเป็นห่วงคุณหนู จึงขอท่านโทอิจิโรเข้ามาขอรับ” ข้ารับใช้ของนางตอบด้วยท่าทางอ่อนน้อม โฮชิโนะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“ข้าอยู่กับฮารุจัง” นางหันไปส่งยิ้มให้กับฮารุคาเสะก่อนจะหันหน้ากลับไปยังมาซาบุโร่อีกครั้ง “ไม่มีใครเข้ามาทำร้ายพวกเราในบ้านฟูจิวาระได้หรอกมาซาบุโร่”
“แต่ข้าก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้” มาซาบุโร่กล่าว “ถ้าเกิดพวกปิศาจบุกเข้ามาในนี้จะทำอย่างไรกัน”
“เจ้าก็เห็นแล้วว่าฮารุจังมีพลังปราบมาร ถ้ามีปิศาจตัวไหนบุกเข้ามาข้าจะบอกให้เขาไล่พวกมันให้กระเจิง”
เสียงกระแอมดังมาจากทางด้านหลัง โฮชิโนะหันไปมองอาจารย์ของตนและยิ้มอย่างซุกซน ฮารุคาเสะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาและกล่าวเสียงเรียบ
“ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ ฝึกต่ออีกสักสองชั่วยามดีไหม”
“ไม่ดี ข้าเหนื่อยจนแทบยกแขนไม่ขึ้นแล้ว อย่าให้ข้าฝึกต่อเลยนะฮารุจัง” เด็กสาวรีบแย้งทันควัน ดวงตากลมโตที่กำลังมองมาอย่างอ้อนวอนทำให้ฮารุคาเสะถึงกับอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ควรรีบกลับห้อง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “และห้ามออกมาเดินเล่นยามค่ำคืนอย่างเด็ดขาด”
“ทำไม” โฮชิโนะย้อนถาม ฮารุคาเสะมองนางก่อนจะตอบอย่างเคร่งขรึม
“เพราะตอนนี้มีปิศาจบางตัวสามารถเข้ามาในนี้ได้” สีหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความกังวลขณะที่เขาเลื่อนสายตามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดสลัวลง “อย่าชะล่าใจเกินไปนักโฮชิโนะ”
ฮารุคาเสะเบือนหน้ากลับมามองเด็กสาวอีกครั้ง เขาถอนใจก่อนจะหันไปทางมาซาบุโร่และสั่ง
“พานางไปได้แล้ว”

หลังทำความสะอาดร่างกายและรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วโฮชิโนะจึงรีบเข้านอนตามที่ฮารุคาเสะสั่ง เด็กสาวมองมาซาบุโร่ที่กำลังดับตะเกียงนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดเสียงแผ่ว
“จริงหรือที่ฮารุจังบอกว่ามีปิศาจบุกเข้ามาในนี้”
“เป็นความจริงขอรับ” มาซาบุโร่ตอบ เขามองตะเกียงที่เหลือไว้เพียงดวงเดียวและกล่าวต่อ “พวกมันเข้ามาในวันที่คุณชายฟูจิวาระไปช่วยคุณหนู”
“ไม่น่าเชื่อ” โฮชิโนะพึมพำ มาซาบุโร่มองนางด้วยความเป็นห่วง
“ถึงจะมีพลังปราบมารที่แข็งแกร่ง แต่คุณชายไม่มีทางช่วยเหลือคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ ดังนั้นกรุณาทำตามคำแนะนำของเขาเถอะนะขอรับคุณหนู”
“รู้แล้ว” เด็กสาวตอบเสียงห้วนและถอนใจ “ข้าไม่มีทางทำอะไรให้ฮารุต้องเป็นห่วงหรอกมาซาบุโร่”
โฮชิโนะนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปทางข้ารับใช้ที่กำลังจะออกจากห้อง
“คนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง”
“พวกเขาคลายความหวาดกลัวลงไปมากแล้วขอรับ” มาซาบุโร่ตอบอย่างนอบน้อม เด็กสาวผงกศีรษะก่อนจะเลื่อนสายตามองเพดาน ข้ารับใช้ของนางมองด้วยความแปลกใจ “คุณหนูกังวลใจเรื่องอะไรหรือ”
“ข้าเป็นห่วงท่านพ่อ” โฮชิโนะตอบ “หากไม่มีใครไปส่งข่าวว่าข้ามาถึงบ้านฟูจิวาระอย่างปลอดภัยแล้ว ท่านต้องตามมาแน่”
คำพูดของนายหญิงน้อยทำให้มาซาบุโร่นิ่งเงียบไป หลังจากนั่งนิ่งอยู่ชั่วขณะเขาจึงตัดสินใจค้อมตัวลงและกล่าว
“ข้าขออาสาเดินทางกลับไปที่โอริโมโนะเอง”
“ไม่ได้” โฮชิโนะร้องห้ามพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง “มันอันตรายมาก อาจจะมีพวกปิศาจรอทำร้ายเจ้าระหว่างทาง”
“แต่ถ้าข้าไม่ไป ผู้ที่จะได้รับอันตรายก็คือนายท่าน” มาซาบุโร่แย้ง เด็กสาวนั่งนิ่งไปในบัดดล นางถอนใจออกมา
“ไม่มีหนทางอื่นแล้วหรือ”
“ข้าเกรงว่าจะไม่มี” ข้ารับใช้ตอบเสียงแผ่ว โฮชิโนะเม้มปากแน่นขณะใช้ความคิด หลังจากนั่งไตร่ตรองอยู่นานเด็กสาวก็เบิกตาโต นางหันไปทางมาซาบุโร่และกล่าวออกมาอย่างดีใจ
“รู้แล้ว ข้าจะไปขอให้ฮารุจังช่วย”
“ท่านฮารุคาเสะเป็นถึงคุณชายบ้านฟูจิวาระ ข้าไม่บังอาจถึงเพียงนั้น”
“เจ้าพูดเรื่องอะไร ที่ข้าบอกว่าจะให้ฮารุจังช่วยก็คือเรื่องเครื่องรางต่างหาก” เด็กสาวยิ้ม “คนเก่งแบบเขาต้องทำได้อยู่แล้ว”
“แต่มันจะเป็นการรบกวน” มาซาบุโร่พูดด้วยความเกรงใจแต่โฮชิโนะกลับโบกมือ
“เรื่องความเป็นความตายแบบนี้ฮารุจังยินดีช่วยอยู่แล้ว” เด็กสาวกล่าว “โดยเฉพาะเพื่อคนดีแบบเจ้า”
“คุณหนู” ข้ารับใช้ของนางกล่าวเสียงเครือ เขาค้อมตัวลงจนศีรษะแนบกับพื้น “ขอบคุณมากขอรับ”
“ข้าต่างหากที่สมควรกล่าวคำนั้น” โฮชิโนะพูดพลางมองเขาด้วยสายตาสำนึกบุญคุณ “ขอบใจเจ้ามาก”
“ข้าเพียงแต่ทำไปตามหน้าที่”
“สำหรับข้ามันคือความภักดี และมีน้ำใจ” เด็กสาวกล่าวพร้อมกับเอนตัวลงนอน นางหันไปมองมาซาบุโร่อีกครั้ง
“ดึกมากแล้วเจ้าควรไปพัก”
“ขอรับคุณหนู” มาซาบุโร่ค้อมตัวลงอีกครั้งและมองโฮชิโนะที่กำลังปิดเปลือกตาลง เขาเลื่อนประตูปิดอย่างแผ่วเบาและนั่งอีกชั่วครู่จนแน่ใจว่านายหญิงน้อยหลับสนิทแล้วจึงลุกขึ้นและเดินกลับห้องของตน

*/*/*/*/*







Create Date : 31 สิงหาคม 2552
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 10:37:35 น.
Counter : 339 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิสึเนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี