นักล่าแห่งรัตติกาล ภาคสัญลักษณ์เลือด บทที่ 12 การปรากฏตัวของไรซิน 1

บทที่ 12 การปรากฏตัวของไรซิน

 

           

 

            คริสโตเฟอร์ยืนกระสับกระส่ายอยู่เชิงบันไดอาคารที่ทำการสแตฟฟอร์ด ความเป็นห่วงเพื่อนทำให้เขาคิดจะบุกเข้าไปในห้องประชุมหลายครั้งเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเขากับโทมัสมีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยคำพูดทั้งหลายก็จะไร้ประโยชน์ ดีไม่ดีการกระทำแบบปราศจากความยั้งคิดเช่นนั้นอาจทำให้บรรดาอาจารย์เพิ่มความสงสัยในตัวเพื่อนเขามากยิ่งขึ้น

 

 

            ระหว่างเดินกลับไปกลับมาด้วยความกลัดกลุ้มคริสโตเฟอร์ต้องแปลกใจเมื่อเห็นศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์ รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องประชุม หลังจากเธอหายไปได้ไม่ถึงสิบนาทีโทมัสก็ก้าวออกมาข้างนอก สีหน้าที่ไร้ความกังวลทำให้เด็กหนุ่มร้องเรียก

 

 

            “ทอม”

 

 

            โทมัสหันไปมองและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนกำลังวิ่งเข้ามาหา

 

 

            “คริส นายมาทำอะไรตรงนี้”

 

 

            “ไม่น่าถาม ก็รอนายไง” คริสโตเฟอร์ตอบพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “ตกลงพวกอาจารย์ว่ายังไง นายถูกลงโทษหรือเปล่า”

 

 

            โทมัสยิ้มแต่ไม่ตอบ เขาหมุนตัวเดินกลับไปยังหอพักอย่างไม่เร่งรีบนัก การเดินด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความสุขุมกับสีหน้าที่เดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจสร้างความหงุดหงิดต่อคริสโตเฟอร์เป็นอย่างมาก หลังจากเดินตามเพื่อนไปได้สักพักเขาจึงถาม

 

 

            “เฮ้ จะบอกได้หรือยัง”

 

 

            “เรื่องอะไร” อีกฝ่ายถามด้วยใบหน้าอมยิ้มเหมือนเจตนาจะยั่วอารมณ์ คริสโตเฟอร์พ่นลมหายใจค่อนข้างแรง

 

 

            “คำตัดสิน” เขาพูดเน้นเสียงทีละคำ โทมัสหัวเราะออกมาเบาๆ

 

 

            “บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง” เขาพูดอย่างอารมณ์ดีแต่คริสโตเฟอร์กลับสังเกตเห็นแววตาที่กำลังฉายความครุ่นคิดออกมาจางๆ

 

 

            “ความจริงแล้วพวกอาจารย์คิดจะลงโทษนาย แต่ศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์เข้าไปห้ามและตอนนี้นายกำลังสงสัยการกระทำของเธออยู่ใช่ไหม”

 

 

            โทมัสเลิกคิ้วด้วยความทึ่ง

 

 

            “เดาได้เก่งนี่ ถูกต้องฉันกำลังถูกตัดสินแต่จู่ๆศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์ก็เข้ามาห้าม บอกว่าเป็นคำสั่งจากอธิการบดีพอพวกกรรมการสอบสวนทำท่าจะขัดคำสั่งเธอก็ให้พวกเขาอ่านจดหมายที่ถือมาด้วย”

 

 

            เขาหยุดคำพูดไว้แค่นั้น คริสโตเฟอร์ขมวดคิ้ว

 

 

            “แล้วไงต่อ”

 

 

            “ฉันเห็นพวกอาจารย์หน้าซีดหลังจากอ่านจดหมายและยอมยกเลิกการสอบสวนทั้งหมด รองอธิการบดีเลยอนุญาตให้ฉันกลับหอพัก”

 

 

            คริสโตเฟอร์พยักหน้าหงึกหงักและนิ่วหน้า

 

 

            “ยกเลิกเท่านั้นเองเหรอ ถ้าต่อไปอาจารย์พวกนั้นเกิดอยากจะเรียกนายไปสอบสวนใหม่ละ นายจะทำยังไง”

 

 

            “คงไม่ เพราะเท่าที่ได้ยินจากรองอธิการ ดูเหมือนจดหมายนั่นจะมาจากคนที่มีอำนาจสูงสุดและสั่งห้ามสอบสวนฉันอีกต่อไป”

 

 

            คำตอบของเพื่อนทำให้คริสโตเฟอร์ทำตาโต

 

 

            “สุดยอด! ฉันชักอยากเจอเจ้าของจดหมายฉบับนั้นแล้วละสิ ลองปกป้องนายถึงขนาดนี้แสดงว่าเขาต้องเป็นคนดีคนหนึ่ง”

 

 

            “ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น” โทมัสตอบอย่างเคร่งขรึม คริสโตเฟอร์จึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและยิ้มกว้างก่อนจะลดสายตากลับมาที่เพื่อน

 

 

“แบบนี้ต้องฉลอง คืนนี้นายว่างใช่ไหม”

 

 

โทมัสมองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน

 

 

“อย่าบอกนะว่านายวางแผนออกไปข้างนอก” เขาถามและถอนใจเมื่อเห็นเพื่อนผงกศีรษะรับ “คดีฉันจบยังไม่ทันข้ามวันนายคิดก่อเรื่องใหม่อีกแล้วหรือ”

 

 

“ก่อเรื่องอะไรกัน แค่ออกไปผ่อนคลาย” คริสโตเฟอร์พูดอย่างอารมณ์ดี “คืนนี้สองทุ่มเจอกันที่เดิม”

 

 

โทมัสส่ายหน้าแต่ไม่พูดอะไร ทั้งสองเดินอย่างสบายใจไปจนถึงหอพัก ทันทีที่ก้าวข้ามประตูอาจารย์ประจำหอก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับร้องเรียก

 

 

“เฮลเลอร์สไตน์ วินเก็ต”

 

 

สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังของผู้เรียกทำให้คริสโตเฟอร์ต้องขมวดคิ้วและบ่นเบาๆ

 

 

“อะไรอีกละทีนี้”

 

 

ดูเหมือนเสียงของเขาจะได้ยินไปถึงอาจารย์ประจำหอเพราะเธอมองเขาลอดแว่นขณะวางจดหมายสองฉบับลงบนโต๊ะ

 

 

“มีจดหมายถึงเธอสองคน” เธอพูดพร้อมกับเคาะนิ้วลงบนตราประทับหน้าซอง คิ้วของเด็กหนุ่มทั้งสองขมวดเข้ากันเมื่อเห็นว่ามันคือตราประทับประจำกลุ่มจักษุดารา

 

 

“นี่มัน” คริสโตเฟอร์ทำท่าจะเปิดออกดูแต่อาจารย์ประจำหอกลับพูดเสียงเรียบ

 

 

“ถ้าเป็นฉันจะเปิดอ่านในห้อง” เธอเหลือบตามองไปทางซ้ายและขวาก่อนจะลดระดับเสียงลง “ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้จดหมายแบบนี้”

 

 

โทมัสผงกศีรษะอย่างเข้าใจ เขาหยิบจดหมายใส่กระเป๋าจากนั้นจึงเดินกลับห้อง ระหว่างก้าวขึ้นบันไดเด็กหนุ่มต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นคริสโตเฟอร์เดินตามหลัง

 

 

“นายจะไปไหน”

 

 

“อ่านจดหมาย” คริสโตเฟอร์ตอบพลางพลิกจดหมายไปมา โทมัสจึงชี้ไปยังบันไดซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม

 

 

“ห้องนายไปทางนั้น”

 

 

“ฉันรู้” อีกฝ่ายพูดพร้อมกับชูจดหมายในมือขึ้น “เราได้รับจดหมายแบบเดียวกันควรจะเปิดอ่านด้วยกัน”

 

 

“ไม่จำเป็น” โทมัสพูด คริสโตเฟอร์เลิกคิ้ว

 

 

“ทำไม”

 

 

“นายไม่เห็นหรือว่าตราประทับนี่ต่างจากตราประจำกลุ่มจักษุดารา” โทมัสอธิบายพลางชี้ให้อีกฝ่ายดูรูปมังกรสามหัวตรงกึ่งกลางภาพดวงดาวโดยมีดวงตาขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง จากนั้นจึงไล่ไปบนอักษรละตินบนมุมทั้งสี่ คริสโตเฟอร์มองตามแล้วนิ่วหน้า

 

 

“ไม่เหมือนกันจริงด้วย งั้นก็หมายความว่านี่ไม่ใช่จดหมายจากกลุ่มจักษุดารา”

 

 

“ตรงกันข้าม มันคือจดหมายของกลุ่มจักษุดารา แต่พิเศษกว่านั้นก็คือมันเป็นบัตรเชิญ”

 

 

คำพูดของโทมัสทำให้คริสโตเฟอร์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยความสงสัย

 

 

“นายรู้ได้ยังไง”

 

 

“จำเรื่องจดหมายแจ้งให้เราสองคนเข้าร่วมประชุมของกลุ่มจักษุดาราครั้งก่อนได้หรือเปล่า ถ้าสังเกตให้ดีนายจะเห็นตราประทับแบบนี้ตรงมุมล่างด้านซ้ายของกระดาษ”

 

 

คริสโตเฟอร์นิ่งคิดไปชั่วอึดใจก่อนจะพยักหน้า

 

 

“จริงด้วย งั้นก็หมายความว่านี่เป็นการประชุมพิเศษ”

 

 

“ทำนองนั้น” โทมัสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยและมองหน้าเพื่อน “รู้อย่างนี้แล้วยังคิดจะออกไปข้างนอกอยู่อีกหรือเปล่า”

 

 

“แน่นอน แบบนี้ยิ่งต้องฉลองให้หนัก” คริสโตเฟอร์พูดอย่างร่าเริงพร้อมกับตบไหล่เพื่อนสองสามครั้ง “สองทุ่มคืนนี้อย่าลืม”

 

 

พูดจบก็เดินร้องเพลงเสียงดังลั่นตรงไปยังบันไดซึ่งอยู่ด้านตรงกันข้าม โทมัสส่ายหน้าให้กับอาการเบิกบานอย่างไร้ขีดจำกัดของเพื่อนก่อนจะเดินกลับห้อง เมื่อปิดประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาจึงดึงจดหมายออกจากซองซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะมันคือบัตรเชิญจากคณะกรรมการพิเศษของกลุ่มจักษุดารา สำหรับโทมัสแล้วไม่ได้ตื่นเต้นกับจดหมายประเภทนี้มากนักแต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเขาก็คือสถานที่นัดพบ เพราะแทนที่จะเป็นห้องประชุมภายในหอพักจักษุดารา กลับเป็นหอประชุมพิเศษภายในอาคารสำนักงานของมหาวิทยาลัยซึ่งผู้สามารถเข้าไปได้นั้นมีเพียงอธิการบดีกับอาจารย์ระดับสูง จึงเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่นักศึกษาปีหนึ่งอย่างเขากับคริสโตเฟอร์ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ แต่เมื่อนึกถึงระดับคะแนนและไอคิวที่อยู่ในเกณฑ์สูงกว่ามาตรฐานแล้วเขาก็ไม่แปลกใจอะไรมากนัก เพราะนักศึกษาที่เข้าร่วมประชุมล้วนมีผลการเรียนดีเด่นทุกคน

 

 

โทมัสเคาะบัตรกับโต๊ะสองสามครั้งก่อนจะเก็บกลับเข้าซอง จากนั้นเขาจึงหยิบตำราเรียนเล่มหนามาอ่าน ความที่เพ่งสมาธิไปกับอักษรทุกตัวบนหน้ากระดาษทำให้โทมัสเกือบพลาดมื้อค่ำซึ่งกว่าเขาจะรับประทานอาหารเสร็จเวลาก็ล่วงไปจนถึงสองทุ่ม ความกลัวว่าจะไปสายโทมัสจึงล้มความตั้งใจเรื่องอาบน้ำและตรงไปยังจุดนัดพบ เขาทำหน้าแปลกใจเมื่อเห็นคริสโตเฟอร์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

 

 

“ไม่คิดว่านายจะมาเร็ว”

 

 

“ฉันไม่อยากแกร่วอยู่ในห้อง” คริสโตเฟอร์พูดพร้อมกับลุกขึ้น “ไปกันเถอะ”

 

 

*/*/*/*/*/*

 

 




Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2556 10:25:43 น.
Counter : 410 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิสึเนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี
All Blog