!~~ ํE v e R y ํ D~@~Y + !'m + I n ( L ^U^ V ) ~~!
Group Blog
 
All blogs
 

ฮ่องกง น้องปลาวาฬ กับสายการบินแขก.. ^^

บล็อกรีวิวดองเค็ม เก็บมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาเมื่อต้นปีล่ะ คริคริ
วันนี้ฤกษ์งามยามดี เอามาปัดฝุ่น เขียนบันทึกซะหน่อย ... ^^

ว่าด้วยเรื่องฤดูแห่งการท่องเที่ยว ... 

จะว่าไปแล้วช่วงมกรา-กุมภาพันธ์ของทุกๆปี 
โดยส่วนตัวเราแล้วจะถือเป็นช่วงที่เหมาะสมมากๆในการไปเที่ยวที่ใกล้ๆในแถบเอเชีย
เพราะว่าอากาศยังเย็นอยู่  คนไม่เยอะมากเหมือนปีใหม่แล้ว
ความช้ำในที่ท่องเที่ยวน่าจะจางลงไปบ้าง

ทริปต้นปีนี้เลยเลือกที่เที่ยวใกล้ๆ อย่างฮ่องกง ... 


ทีนี้พอรู้แล้วว่าอยากไปไหน ต่อมาเลยต้องเลือกปักหมุดต่อว่าจะเดินทางกับสายการบินอะไรดี ... 

.. เอาจริงๆ ตัวเลือกในการระบุสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการเที่ยวกันเองของเรามีไม่มากซักเท่าไหร่หรอก เพราะสิ่งสำคัญหลัก คือ เน้นถูกและดี มีเวลาเดินทางไปได้สวยๆ


และจากที่สอดส่ายสายตาหาตารางเวลาและราคากับสายการบินโลว์คอร์สจนปวดหัว 
.. ก็เริ่มเขยิบขึ้นมาหาตัวเลือกอื่นๆของสายการบินที่บริการเต็มรูปแบบกันบ้าง 
ทั้ง Hong Kong Airlines / Cathay Pacific / Thai Airways / Emirates  และ Kenya Airways  

จนสุดท้ายมาได้ข้อสรุปที่สายการบินที่บริการดีที่สุด ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกกับ Emirates Airline

... และปี 2012 นี้เป็นปีที่เอมมิเรตเปิดทำการครบรอบ 12 ปี 
เมื่อตอนต้นปีเลยมีโปรโมชั่นตั๋วถูกพิเศษในหลายๆเส้นทางออกมายั่วยวนนักเที่ยวอย่างเรา .. 


ให้ทายกันดีกว่า ว่าตั๋วที่เราว่าถูกหน่ะ มันตกแล้วคนละกี่บาทกันนะ ... อิอิ 
(เด๋วไปเฉลยท้ายบล็อกนะ ^^)


พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยดีกว่า เกริ่นมานานเกิ๊นนน ... ^^
สำหรับคนที่เดินทางด้วยสายการบินเอมมิเรตจากสนามบินที่สุวรรณภูมิบ้านเรา
จะต้องมาเช็คอินก่อนขึ้นเครื่องเค้าเตอร์ที่แถว T นะจ๊ะ..

เลือกเอาเลยว่าจะเช็คอินช่องไหน First Class หรือ Business Class .. ตามสบาย อิอิ




และสำหรับใครที่เช็คอินผ่านอินเตอร์เน็ตมาแล้ว ก็มองหาช่องที่เขียนว่า Online Checked-in 
แล้วตรงเข้าไปรับตั๋วพร้อมโหลดกระเป๋าได้เลย ไม่ต้องต่อคิวยาวให้ปวดใจ


น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่องต่อคนที่ 30Kg. หายห่วงเลยว่าน้ำหนักกระเป๋าจะเกิน 
เพราะเที่ยวเองยังไงก็ไม่เกินจริงจริ๊งง พนันได้เลย !!


พอเข้ามาด้านในก็ดูโน้นดูนี่ พร้อมดูที่บอร์ดอีกที 


ว่าประตูขึ้นเครื่องตรงกับที่เค้าระบุมาในตั๋วโดยสารหรือเปล่า .. กันพลาด !! 

(อันนี้อาจจะเป็นนิสัยที่ติดมาจากเวลาที่นั่งสายการบินโลว์คอร์สมากไปหน่อย เพราะสายการบินโลว์บางเส้นทางจะไม่ค่อยระบุเกทขึ้นเครื่องในทันที หรือไม่ถ้าระบุก็อาจจะเป็นเกทแปลกๆ หรือเป็นบัสเกทกันไป คือออกประตูนี้เพื่อไปต่อรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่องอีกที เลยต้องดูกันอีกรอบเพื่อความชัวร์ .. )


ประตูขึ้นเครื่องของเราวันนี้คือ ... E4 จร้า ไปรอกันเล๊ยย ^^

คุณรู้มั๊ย .. มันตื่นเต้นมากขนาดไหนเวลาที่เห็นเครื่องบินในฝันในแบบของจริงใกล้ๆ 
และยิ่งกว่านั้นคือ กำลังจะได้ขึ้นไปใช้บริการบนวาฬลำนั้นอ่ะ   

มองไกลๆ แค่เห็นหาง ก็หวั่นไหวน่าดู คริคริ ^^


เดินมาใกล้อีกนิด รู้สึกได้ว่าเจ้าวาฬตัวนี้มันใหญ่มาก ... ตื่นเต้นสุดๆ

และเมื่อมองผ่านกระจกออกไป แล้วเห็นเธอใกล้ๆชัดๆ .. รักเลย !!


และภาพนี้ .. มุมบังคับก่อนขึ้นเครื่อง 
เธอตัวใหญ่จัดจริงๆนะ ภาพเลยมาแบบปีกขาดหลังขาดแบบนี้่ง่ะ >_<'

ที่นั่งเรา เลือกเองกับมือ .. 85A อ่ะแน่นอน ติดหน้าต่างสิจ๊ะ คริคริ

ด้วยความที่พี่อ้วนวาฬ 380 เป็นเครื่องบินที่ใหญ่มาก การที่ตั้งใจจะขึ้นไปถ่ายบนเครื่อง
รวมถึงรูปวิวที่ต้องอาศัยการมองลอดหน้าต่างออกมา เลยต้องวางแผนเรื่องที่นั่งกันนิสสนึ่ง

เราเลือกที่นั่งที่พ้นปีกไปแล้ว เพราะกลัวว่าเด๋วเวลาถ่ายรูปออกมาจะเห็นแต่ปีกของเธอ
เลยได้ที่นั่งซะท้ายเครื่องเลย "ก็ปีกเธอหน่ะ .. มันใหญ่และกว้างมากมายจริงๆนะ >_<'"


ไหนลองมองลอดหน้าต่างออกไปชมวิวซิ ..


ไหนลองแอบส่องมองพี่คนข้างหน้าจากข้างเบาะซิ .. คริคริ ^^

พอเครื่องขึ้นบินจนได้ระดับแล้วเห็นได้ชัดมาก ว่าอากาศดีสุดๆ ฟ้าเป็นฟ้า เมฆสีขาวจั๋วน่าเจี๊ยะมากๆ^^



ส่วนภาพนี้ในขณะที่กำลังมองโน้นนี้ชมวิวก้อนเมฆอยู่เพลินๆ .. 
ต้องถึงกับสะบัดหน้าแล้วมองย้อนกลับไปที่เครื่องบินลำนั้นอีกรอบ .. 
แล้วถามกับตัวเองว่ามาได้ยางงายฟร่ะ ... อยู่ดีดีก็มาบินอยู่ข้างๆกันซะอย่างนั้นอ่ะ 


พอเลิกดูก้อนเมฆ ก็มาคุ้ยเขี่ยดูโน้นนี่ที่เบาะกันบ้าง ลืมถ่ายช่วงขามาให้ดู .. 
แต่เชื่อเถอะ ว่ามันนั่งสบายมาก 
อาจจะเป็นเพราะขาเราสั้นด้วยอ่ะนะ 5555 เลยไม่มีส่วนไหนไปชนเบาะให้คนข้างหน้าเสียอารมณ์ ^^


บนเครื่อง 380 บางลำของเอมมิเรตสามารถเชื่อมต่อ wi-fi ได้ด้วยนะเธอว์..
ใกล้กันได้ตลอดเวลาเลยเชียว .. แต่ไม่ฟรีนะจ๊ะ



กว่าจะดูโน้นนี่ครบโทรศัพท์เราที่ประยุกต์เอามาใช้เป็นกล้องก็แบตอ่อนเต็มที 
เลยถือโอกาสเสียบชาร์ตจากหลังเบาะที่เค้าามีให้เสียบนี่หล่ะ แล้วก็เปิดดูเมนูอาหารไปเรื่อยเปื่อย


เปิดดูเมนูไปอย่างนั้นล่ะค่ะท่านผู้โช้มม .. 
เพราะก่อนมาแอบไปสมัครสกายวอร์ดแล้วเลือกอาหารพิเศษเป็นซีฟู๊ดไว้ก่อนแล้วล่ะ



พอช่วงที่ไฟลท์แอทเทนเดนท์เริ่มเดินแจกถาดอาหาร ไม่ว่าเราจะนั่งอยู่ตรงไหนของเครื่อง 
ในฐานะที่ระบุอาหารพิเศษไว้แล้ว เราก็จะได้รับอาหารนั้นก่อนใครเลย .. เริ่ดเนอะ !!



แล้วพอลูกเรือแจกอาหารพิเศษสำหรับลูกค้าที่ระบุมาเสร็จแล้ว 
ลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้ระบุมาถึงจะได้รับเป็นลำดับต่อไป 
ปล. จริงๆแอบระอายใจ เวลาที่ต้องรับทานอาหารยั่วคนข้างๆนะ แต่ก็กินต่ออ่ะ .. อิอิ



พอกินเสร็จอะไรเสร็จ .. บินต่อไปอีกแปร๊บนึ่งก็จะถึงแล้วล่ะ 
เป็นการเดินทางใกล้ๆในระยะสองสามชั่วโมงที่ไม่เบื่อเลยจริงๆ อิอิ ^^




.. เครื่องใหญ่ นั่ง นิ่ม สบาย ไม่มีโคลงจริงๆ
หลงรักเธอแ้ล้วสินะ.. <3 EK 




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2555    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2555 11:37:40 น.
Counter : 1468 Pageviews.  

ขี่ Jet เที่ยว .. ไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ ^^

ไปเที่ยวกันเถอะจ่ะ จริงๆทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ค่อยได้ตั้งใจจะไปเท่าไหร่

เพราะพอดีว่าเพื่อนจองไปแล้วข้ามปี แล้วถึงใกล้ๆก็ค่อยมาชวนกันอีกที ก็เลยเอาว่ะ ไปก็ไป 
จะได้ถึอโอกาสไปหาเพื่อนรักด้วย ไม่ได้เจอกันมาเกือบปี คิดถึงมากมาย ^^

พอตกลงปลงใจว่าไปก็ไป ก็เลยต้องเข้ามาจองตั๋วจองรร.
ทริปนี้ได้ตั๋วก่อนเดินทางประมาณสองเดือน 
ไปกลับตกคนละประมาณใกล้ๆ 6 พัน ... ไม่ถูกเท่าไหร่สำหรับสายการบินโลว์คอร์ส -__-'

ว่าแล้วก็ข้ามมาถึงวันลั๊นลา วันเดินทาง ณ สนามบินเลยล่ะกัน ไปดูเครื่องบินกันดีกว่า ^___^'

เดอะเจ็ทที่เราถ่ายวันนี้เป็นวันกลับแล้ว 
เพราะวันมาไม่ค่อยได้ถ่ายเท่าไหร่ เพราะว่ามาไฟล์ทเช้าจัด ยังง่วงๆอยู่ 555


SIN - BKK 13 08 12
และ..นั่นงัย เครื่องของเรามาล่ะ


อ่ะม่ะช่ายยย จริงๆแล้วเป็นลำเน้จร้าา ^^




กะลัง taxi ตามเส้นเหลืองเข้าหลุมจอด 
เพื่อมาเชื่อมกะงวงช้างให้เราเดินไปขึ้นเครื่องกันล่ะจ้าาา



มุมบังคับก่อนขึ้นเครื่อง .. สวยงามม่ะละคร๊าบบ อิอิ


พอขึ้นเครื่องเสร็จก็มานั่ง .. พี่ข้างๆเป็นฝรั่งสูงขายาวหล่อล่ำ ..
ไอ้เรานั่งข้างๆเห็นแล้วก็สงสาร เพราะพี่เค้าขายาวเข่าติด 555 ต้องนั่งหันขาออกไปที่ทางเดินบ่อยๆ
โชคดีนะที่เราตัวสั้นหน่อยนั่งเก้าอีกอีโค้ได้สบายๆ .. ดูช่วงเข่าสิต่างกันเยอะเลย ^^






หมดล่ะ คราวนี้ไม่ได้ถ่ายอะไรเยอะ 
เดี๋ยวไว้ Entry หน้า จะรีวิววาฬยักษ์ให้ดูนะจ๊ะ ^^






 

Create Date : 24 สิงหาคม 2555    
Last Update : 24 สิงหาคม 2555 16:39:58 น.
Counter : 843 Pageviews.  

ไปเที่ยวชะอำ... แล้วนอน Alila กันมั๊ยจร๊ะ .. !

รีวิว Alila Cha-am ... ดองเค็มข้ามปีข้ามชาติ
ดองจนเค้าเปลี่ยนชื่อโรงแรม เปลี่ยนทีมบริหารไปหมดแล้วถึงได้มาเผยไต๋ให้ใครๆชม อิอิ


ตอนแรกรู้จัก Alila Cha-am เพราะเห็นใครซักคนรีวิวในห้องบูลฯของเรานี่แหล่ะ
เห็นแล้วเจ้าตัวกิเลสก็พุ่งสูงปรี๊ดสุดเต็มพิกัดกันเลยทีเดียว ทนไม่ไหวเลยต้องจัดไปเที่ยวกันเถอะ

ด้วยข้อจำกัดของการเที่ยวโรงแรมนี้ คือ ห้องพักที่สวยปรี๊ดสมราคาที่สูงเกินไป
สำหรับพนักงานออฟฟิศตัวกะเปี๊ยกอย่างเรา ..
เลยต้องรอให้ถึงช่วงงานไทยเที่ยวไทย ที่โรงแรมต่างๆ มักจะมาขาย give voucher เอง
ห้องจะได้ถูกลงมาหน่อย แหะๆ

และราคาห้องที่ซื้อมาจากในงานไทยเที่ยวไทย ตอนนั้นอยู่ที่ห้องละสามพันหรือสามพันสามหรือสามพันห้าอะไรซักอย่างราวๆนี้ (จำไม่ได้จริงๆ ต้องขออภัย เพราะรีวิวนี้ดองนานเกินไปแล้วจริงๆ) ... แต่ !! ราคานั้นเป็นราคาที่้ต้องพักในวันธรรมดานะจร๊ะ ถ้าพักวันเสาร์อาทิตย์ก็เพิ่มอีกห้องละ 500 ต่อคืน

โรงแรมนี้จะอยู่ค่อนมาทางชะอำ .. คือ ถ้ามาจาก กทม. เราจะถึงก่อนหัวหินนั่นเอง
ที่นี่จะสะดวกมากสำหรับใครที่ไม่ชอบดินเนอร์ที่โรงแรม
เพราะโรงแรมจะอยู่ไม่ไกลกับสะพานปลาบนหัวหาดชะอำ ..
ขับรถเลยไปนิดเดียวเอง จะเจออาหารทะเลสดใหม่ปรุงรสจัดจานตามแบบชาวบ้านๆ
และมีให้เลือกหลายร้านที่เดียว ... แนะนำว่าต้องจัดซักมื้อนะจร๊ะ ... ห้ามพลาด !!

ขับเข้ามาเจอโรงแรมครั้งแรกแอบชอบตั้งแต่หน้าประตูเลย 555
เรียบง่ายแต่ดูดีทีเดียว



พอจอดรถเสร็จก็ออกมาเดินเล่นถ่ายรูป ลานหน้าโรงแรมที่เป็นบันไดใหญ่จัด
เรียกได้ว่าเป็นกิมมิคของที่นี่เลยก็่ว่าได้ เพราะจะมีไม่กี่ที่ที่มีบันไดใหญ่สวยแบบนี้ ...

แต่ด้วยความที่มันใหญ่เกินเลยไม่ได้เดินไปจนสุดแล้วถ่ายมา
เอามุมแบบบ้านๆเดินเล่นไปดูไปล่ะกันเนอะ 555



เหนือบันใดใหญ่ที่เราเห็นนี้จะเป็นส่วนของ Reception ของโรงแรม
...ใครจะ Check-in / out ก็ตรงส่วนนี้เลยจร้า ..

แล้วพอมองออกไปจากส่วน Reception ที่เห็นไกลๆ นั่นก็ทะเลแล้วล่ะ



บรรยากาศสุดจะชิลเกินบรรยายจริงๆ



... ลมดี คนไม่เยอะ เหมาะกับการพักผ่อนมากมายเลยเธอว์ :)



... ในภาพที่เห็นเป็นตึกๆในแถบด้านขวานี้ จะเป็นห้องพักที่อยู่ในโซน Horizon Room
แอบเรียกได้ว่าเป็นโซนห้องที่ถูกที่สุดของโรงแรมแล้วหล่ะ .. โซนของเรานั่นเอง 555



(โดยราคาโปรโมชั่นปกติของโรงแรมส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 5 พันต้นๆ
พอรวม Tax and Service Charge เข้าไป ราคารวมๆ ก็จะอยู่ประมาณ 6 พันหน่อยๆ
ถึงบอกว่าไปซื้อห้องในงานท่องเที่ยวจะถูกกว่าอีกประมาณ สองสามพันเลยทีเดียว คุ้มจ่ะ)



(แต่เราแอบรู้แผนผังมาล่วงหน้า่ว่าห้องที่มุมดีที่สุดจะเป็นห้อง 333 กับ 334
เลยแอบโทรมาจองไว้ก่อน แต่โชคไม่เข้าข้างเลยได้แต่ตึกที่เหมือน ... )



เปิดเข้ามาด้านในห้องก็ชอบอีกแล้ว..
ตรงที่เค้าออกแบบในส่วนที่เป็นทางเดินให้เรารู้สึกไม่แตกต่างกับทางเดินในส่วนอื่นของโรงแรม
โดยการบีบช่วงที่เป็นทางเดินทั้งหมดทุกที่ในโรงแรม ให้เป็นเส้น-เป็นแนวนำสายตา

จากที่เห็นในภาพด้านซ้ายแรกจะเป็นห้องน้ำ เลยไปอีกล็อกจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นแล้วก็เตียงนอน
บรรยากาศดี สวยสะเด็ดจริงๆ


ในล็อคของห้องน้ำ ด้านนึ่งจะเป็นตู้เสื้อผ้าแล้วอีกด้านนึ่งจะเป็นตู้ที่ใส่ชา กาแฟ
ไวน์ แชมเปญ เตรียมไว้ให้อย่างพร้อมสรรพเลยจริงๆ !!




..



อ่างล้างหน้าออกแบบเล่นแสงสวยดี แต่แอบล้างหน้ายาก
เพราะเค้าทำก็อกน้ำซ่อนไว้หลังกระจก เวลาก้มไปล้างหน้าหัวกับอ่าง..ออกจะไม่ค่อยได้ส่วนกันเท่าไหร่



และ... แต๊แด !!! ส่วนนี้เป็นส่วนที่หลงรักเลย "Rain Shower"
ไฮไลท์สุดรักที่มีน้ำไหลรินร่วงหล่นมาจากใต้ฝ้ากันเลยทีเดียว
น้ำแรงได้ใจ .. เล่นเอายืนเล่นน้ำเป็นเด็กอยู่นานสองนานจนตัวเหี่ยวกันเลยทีเดียว แหะๆ



หันซ้ายหันขวาในห้อง ... สวยน่านอนเลยม๊ะ อุอุ



สาระวนนั่งเล่นนอนเล่นแล้วก็ถ่ายรูปอยู่ในห้องอยู่นานสองนาน เลยเดินออกมาเก็บบรรยากาศด้านนอกแบบเกร๋ๆต่อ





สระว่ายน้ำที่มีฝนตกตอนบ่ายๆ ... เลยได้เห็นเตียงข้างสระแบบที่มีผ้าคลุมอยู่ ..




ตามทางเดินต่างๆ จะมีป้ายบอกเกร๋ๆ ให้เราเห็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ






แล้วพอเดินมาจนถึงหาดที่สุดปลายทาง
แอบมีป้ายเตือนให้ระวังแมงกระพรุนด้วยนะเนี๊ย ... สงสัยจะมีเยอะอยู่เหมือนกัน


พอเดินเล่นจนพระอาทิตย์ลาลับ เราก็ออกไปหาอะไรกินที่สะพานปลาชะอำ ..


แล้วก็เดินมาเก็บบรรยากาศตอนกลางคืนต่อ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ สวยไปอีกแบบนะเนี๊ย



สระว่ายน้ำตอนกลางคืน เล่นไฟไว้ใต้สระซะสวยเลย



เหนือสระอีกด้านนึ่งเป็นบาร์ ที่นี่ให้ความสำคัญกับแสงไฟตอนกลางคืนมากๆ เห็นแล้วคึกคักจริงๆ อิอิ



และมุมนี้อยู่ตรงโถ่งก่อนขึ้นห้อง พอเค้าเปิดไฟแล้วสวยดีนิ๊

สำหรับวันนี้พอจบแค่นี้ก่อนเนอะ .. ไปนอนกันดีกว่า ตื่นมาค่อยจัดหนักกันต่อ
คืนนี้ราตรีสวัสดิ์นะจร๊ะ อิอิ





 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2554 14:15:10 น.
Counter : 1414 Pageviews.  

ไปเที่ยวชะอำ... แล้วนอน Alila กันมั๊ยจร๊ะ #2 .. !!

ต่อจากเมื่อคืนนี้ที่หนีไปนอน !!



ดูจากสภาพเตียงนอน บอกได้ทันทีเลยใช่ป่ะว่านุ่มน่านอนจริงๆ ...
นี่มันเตียงดูดวิญญาญชัดๆ นอนสบายจนไม่อยากจะตื่นกันเลยทีเดียว อุอุ

พอได้นอนเต็มอิ่ม แล้วลุกขึ้นมาเจออากาศดีดี พลังเหลือสิคับป๋ม
ลุกไปฟิตปัง ดึ๋ง ดั๋ง ว่ายน้ำเรียกเหงื่อแต่เช้าเลย พอว่ายน้ำเสร็จก็หิวโซ
อาหารเช้าแบบ a la carte ของมื้อนี้เลยถูกจัดเต็มซะ ... อิ่มเลย อุอุ






ภาพรวมเบาๆ ของห้องอาหารเช้าในโรงแรม... ก็ยังตรึงอารมณ์ด้วยแสงและการจัดวางที่เป๊ะเหมือนเดิม




เริ่มต้นเบาๆ เคลือบกระเพาะว่างๆด้วยซีเรียล นม และผลไม้แห้งเกร๋ๆ





ถัดมาก็กระตุ้นให้ร่างกายตื่นอีกนิดด้วยกาแฟซักถ้วย ... กับเดนิสและก็พายชิ้นเล็กๆ



นั่งคุยกันไปมาซักประเดี๋ยวเลยเดินไปดูๆอาหารเช้ามารับทานต่อ .. แล้วก็ได้ข้าวต้มหมูสับหอมๆ มาถ้วยนึ่ง อิอิ



ตอนนี้ชักหยุดไม่อยู่ เครื่องเริ่มติดเลยสั่ง Omelet มาอีกจาน เพิ่มโปรตีนให้ร่างกาย 555


ยังจ่ะ.. ยังไม่พอ หลังจากที่ผ่านเนื้อ นม ไข่ไปแล้ว
เรายังมีสลัดผักเบาๆ ทานคู่กับ salami รสจัดๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายอีกด้วยนะ อิอิ
.. งั่มๆๆ อร่อย
ปล. จัดโปรแกรมการกินได้บาลาซ์นมาก เบาๆสลับหนัก เลยทำให้กินสนุกกันไปเลย 5555




และยังไม่หมด ... สายตาอันปราดเปลื่องของเราเห็นก๋วยเตี๋ยวปีกไก่ตุ๋นอยู่ไกลๆ เลยจัดมาลองชิมด้วยซะเลย

งานนี้แอบเห็นสายตาน้องๆที่อยู่แถวนั้น ทำท่าเหมือนไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
.... ว่าเป็นผู้หญิงรูปร่างบอบบางมากินกัน จัดหนักมากๆ 555
จริงๆ เราก็เขินนะ ... แต่ไม่แสดงออกหรอกอ่ะ 5555



กินเสร็จก็เดินดูรอบๆอีกนิดหน่อย แล้วก็ขึ้นไปจัดกระเป๋าเตรียมอำลาการพักผ่อนชิลๆ ที่หมดไปอีก 1 วัน



แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าจร้าาา :)




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 9 เมษายน 2556 22:10:12 น.
Counter : 1033 Pageviews.  

หนีร้อนมาเดินเล่นที่มาเลย์กันดีมั๊ยจ๊ะ :)

นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศที่สุดแสนจะน่าเบื่ออยู่ดีดี ... เพื่อนที่สุดแสนจะรู้ใจ
ส่งโปรตั๋วเครื่องบินถูกมาให้ดู ... ตาโตสิคับ ไปเที่ยวรอบๆบ้านเรา ตั๋วไปกลับแค่ 17xx เอง
ถูกกว่าบินภายในประเทศขาเดียวอีกนะเอ่อ !!

พอราคาตั๋วโปรมันยั่วยวนขนาดนี้แล้ว จะช้าอยู่ใย ... ก็จัดแจงและจับจองกันเลยสิคับ
และเนื่องด้วยเราลาหยุดนานไม่ได้ ครั้นจะลาแต่ละทีก็ลำบากลำบน
เหมือนประหนึ่งว่าทำผิดบาปกันเลยทีเดียว
ด้วยเหตุผลนี้เลยทำให้เราเลือกไปได้ในประเทศใกล้ๆ ที่เที่ยวดูอะไรไปรอบๆได้เกือบครบ
ภายในสอง-สามวัน ข้อสรุปนี้จึงได้เป็นประเทศ ... ประเทศ ... ประเทศมาเลเชีย ...





หลังจากได้ประเทศที่จะไปแล้ว ทริปนี้ดูเหมือนจะเป็นใจในเรื่องเวลาเดินทาง
เพราะมีไฟล์ทขาไปตอนเช้าวันศุกร์ 7.10 น. และไฟล์ทขากลับตอนเย็นวันอาทิตย์ 18.45 น.
เข้าทางเลย ไปเช้ากลับเย็นแบบนี้ชอบ เพราะทำให้เรามีเวลาเที่ยวเต็มวัน




(ขอขั้นเวลาแล้วเห่อหน่อยเถอะนะ ... ขากลับได้นั่งเครื่อง AK ด้วยนะ คนอื่นอาจจะบอกบ้า
แต่เราตื่นเต้นอ่ะ 5555 ก็มันคือเครื่องสัญชาติมาเลย์ง่ะนานๆได้นั่งที
ส่วนขาไปนั่ง FD ได้นั่งกันบ่อยๆอยู่แล้วอ่ะเน๊อะ )





นั่งไป 2 ชม. เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ก่อนเครื่องลงจอด แอบมองไปนอกหน้าต่าง
แล้วต้องแอบตกใจ บ้านเค้ามีสวนปาล์มเย๊อะมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้ำมันบ้านเค้าถึงถูก
เพราะเค้ามีกระบวนการทดแทนรองรับที่ชัดเจนแบบนี้นี่เอง !!





ตัดกลับมาที่สนามบินบ้านเค้า ด้วยความที่เรามาแบบโลว์คอสเครื่องบินที่พาเรามาลง
ก็เลยพามาลงที่สนามบินโลว์คอสด้วยเช่นกัน
(อย่าได้หวังว่าจะเหมือนบ้านเรา ที่ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหนๆในโลก ก็ได้ลงจอดที่สุวรรณภูมิ)

สนามบินแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม LCCT : Low Cost Carriage Terminal, Airport Kuala Lumpur
หรือคนไทยชอบเรียกติดปากว่า "โลตัสเทอร์มินัล" เพราะหน้าตาและหลังคาสีเขียวของมันนั่นแหล่ะ..
โลตัสไม่ผิดเพี้ยน





พอมาเข้ามาถึงไปจัดการตรวจหนังสือเดินทางเป็นปกติ แล้วก็มาต่อรถบัสเพื่อเข้าเมือง
(จาก LCCT ชานเมือง เข้าสู่หมอชิตของมาเลย์ที่เรียกว่า KL Sentral)

.. และเจ้าตั๋วรถบัสของเราเนี๊ย เราจองพ่วงไปตอนซื้อตั๋วเครื่องบินงัย
พอมาถึงตรงนี้ก็เดินขึ้นรถได้เลย
รถแดง .. หาง่ายยยย มีเขียนเขียนข้างรถว่า Sky bus นั่นแหล่ะ ใช่แน่ๆ
เป็นรถค่ายเดียวกับ Air Asia เค้าล่ะ สะดวกทีเดียว

... แต่

... ตอนเราซื้อตั๋วรถพ่วงมากับตั๋วเครื่องบินเนี๊ย ตั๋วรถมันราคา 13.8 RM. เลยนะเฟ้ย
แล้วทำไมที่สนามบินเขียนราคาไว้แค่ 9 RM. เองอ่ะ .. อ๊ากกกกกแอบเจ็บใจ ... โดนหลอก

แทนที่ซื้อมาพร้อมตั๋วเครื่องบินจะถูกกว่า กลับแพงกว่าซะงั้น เซร็งเลย ..

ตัดมาบนรถเน๊อะ ... พอขึ้นไปนั่งเสร็จสรรพ ก็มีพนักงานขึ้นมาตรวจตั๋ว
เราก็เอาใบที่ปริ้นท์มาส่งให้เค้าไปทั้งแผ่นเลย
เค้าก็ฉีกตั๋วใหม่มาให้เรา ได้มาหน้าตาแบบนี้ ..
พรถออกก็นั่งดูโน้นดูนี่ไปประมาณ 45 นาทีก็ถึงหมอชิต KL แล้วล่ะ





พอมาถึง KL Sentral เราก็เดินไปซื้อตั๋วรถ + กระเช้า เพื่อจะขึ้นไปเก็นติ่งต่อ
... และเมื่อไปถึงหน้าช่องขายตั๋วเท่านั้นหล่ะ ....

เจี๊ยกกกกก วันนี้ไม่มีกระเช้าให้บริการเนื่องจากปิดปรับปรุง ....





จริงๆก็ไม่รู้จะตกใจทำไมอ่ะนะ เพราะว่าในใบรายการที่มีอยู่ในมือ
มันก็บอกไว้หร๊าอยู่แล้วว่ามันปิดทั้งอาทิตย์ แต่ไม่ได้หยิบมาอ่านงัย
ไม่มีเวลา ได้แต่ปริ้นท์ๆๆออกมาแล้วมาอ่านเอากลางทาง





จากที่เตรียมจ่ายค่าตั๋วไปเก็นติ้งที่คนละ 9.30 ก็เลยเหลือคนละ 4.7 RM.
แล้วก็เดินไปขึ้นรถได้เลย เพราะเราไปถึงมันใกล้ถึงรอบที่รถจะมาพอดี
นั่งไปหลับไป รู้แต่ว่าเย็นขึ้นเรื่อยๆ แล้วสองข้างทางมีแต่ต้นไม้สีเขียว





(มาเลย์นี่ไม่มาไม่รู้จริงๆนะ บ้านเมืองเค้าต้นไม้เยอะกว่าที่เราคิดจริงๆ
เย๊อะแบบ...มองไปทางไหนก็เขียวเป็นปื้นนเลย ไม่ใช่แค่เรียกว่ามีต้นไม้
แต่มัน...เป็นต้นไม้จริงๆที่ดูแล้วไม่แปลกแยกกับสังคมของเค้า .. อันนี้ขอชื่นชมจริงๆ)





หลังจากที่นั่งรถหลับๆตื่นๆ ดูโน้นนี่บ้างเรื่อยเปื่อย ฝนก็ตกปรอยๆพรมต้อนรับเรามาตลอดทางเลย
เย็นสบายเหมือนอยู่นป่าดิบชื้นยังงัยยังงั้น





และ...แต๊แด๊ !! ถึงแล้วคร๊าบบบ โรงแรมที่มีห้องพักเยอะที่สุดในโลก
ด้วยความประมาท (ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง)
... จริงๆแล้วเราเล่งอีกโรงแรมนึ่งไว้ก่อนมานานแล้ว
แต่มัวทำโน้นทำนี่วุ่นวาย เลยลืมจอง ทีนี้พอจะกดจองอีกทีสองวันก่อนมา ...
งานเข้าสิขอรับ ห้องเต็ม อดนอน ...
ทำงัยหล่ะตานี้ ทางเลือกมีไม่มาก หันซ้ายหันขวา ดูหน้าอื่นๆในเน็ต
จำต้องเปลี่ยนเป็นโรงฯนี้แทน โรงแรมสามดาวที่เคยเห็นใครต่อใครรีวิวไว้ในห้องบูลฯ





พอมาถึงก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรดูโน้นดูนี่ไปตามประสา เพราะคิดว่า...
เราจองห้องแถมจ่ายเงินเต็มมาแล้วหนิ่ ไม่น่ายากอะไร
พอเดินเข้ามาเท่านั้นล่ะ .. ถึงกับต้องร้องเจี๊ยกกันเลยทีเดียว





นี่มันอะไรกันนี่ ... คนเยอะได้โลห์จริงๆ
วิธีการเช็คอินห้องก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่ ... เอ่อ เอ่อ.. !!
เห็นตรงเสาสี่เหลี่ยมที่เป็นเค้าเตอร์แล้วมีคนยืนต่อแถวกันอยู่มั๊ย ...


นั่นคือด่านแรกนะ ... มาถึงต้องเดินเข้าคิวไปตรวจเอกสาร
เค้าก็จะถามประมาณว่า.. จองมายังงัย จ่ายเงินรึยัง พักกี่ห้อง มีกี่คน
แล้วก็บอกว่าห้องเราจะได้โซนไหน เืทือกๆนี้ล่ะ
เสร็จแล้วเค้าก็จะให้บัตรคิวมาอีกที ... หน้าตาแบบนี้




เลขที่ออก .... 4109
แล้วก็มานั่งรอเรียกอีกทีแบบนี้ !!!





ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในห้องบูลฯ ของชาวเรา มักจะเรียกตรงนี้ว่าหมอชิต
คงเป็นเพราะมีคนมานั่งรอกันเยอะประหนึ่งนั่งรอรถทัวร์กลับต่างจังหวัดกันเลยทีเดียวมั๊ง -_-'

พอได้การ์ดเข้าห้องเรียบร้อย ด้วยความที่ยังไม่ได้กินอะไรกันเลยตั้งแต่ตอนเที่ยง
มา ณ บัดนี้ ... หิวสิคับท่านผู้ชม รีบเก็บของ รีบเดินลงมาหาอะไรกินกันพลัน

(รีบจนลืมถ่าย การ์ดเข้าห้องมาให้ดูเลยทีเดียว
การ์ดเค้าทำดีเลยนะ เป็นบัตรแข็ง แถมเอากลับบ้านเป็นของที่ระลึกได้ด้วย
555 ไม่ไ่ด้จะแฮ๊บนะ เค้าให้จริงๆ ... แต่จะว่าไปเค้าก็มีที่ให้คืนแหล่ะ
แบบว่าช่วยกันลดโลกร้อน เอาการ์ดมาคืนตรงนี้นะจ๊ะ ไรประมาณนี้ !!)


ในบริเวณด้านล่างของโรงแรม จะมีทางเชื่อมที่เต็มไปด้วยร้านค้าเรียงราย
ขายของกระจุ๊กกระจิ๊กวางขายกันเต็มไปหมด สามารถพบเห็นได้ตลอดทางแบบนี้ :)











และของเหล่านี้ ... แน่นอนไม่ได้แอ่มเงินข้าพเจ้าหรอก มีแต่ของหลอกเด็ก


เดินๆๆมาถึง food court ก็ไม่รอช้า เจอร้านตามสั่งแบบมาเล้ มาเลเข้าไปก็จิ้มเลยสิคับ
ไม่ใช่อะไรยุ่งยาก เป็นคนง่ายๆ เอาข้าวผัดนี่แหล่ะ อิอิ
อร่อยมากขอบอก ไม่รู้ว่าอร่อยเพราะหิวจัดหรือว่ามันอร่อยจริงๆ ก็ไม่รู้ได้ 555








พอกินข้าวสร็จก็ไม่รอช้า เดินเที่ยวรอบๆดูโน้นนี่ไปเรื่อย ..
และ..อ๊ากกก เดินมาเจอทีเด็ดอีกอย่าง ...





เป็นที่รู้กันว่าอุณหภูมิบนนี้มันเย็นมากใช่ป่ะจ๊ะ
พอหันไปเห็นมันหวานอบเท่านั้นหล่ะ แจ้นเข้าไปซื้อมาลิ้มลองเลยง่ะ





(เราชอบกินมันมากนะ และมีคำพูดบางคำทำให้เราจำได้ขึ้นใจมาจนป่านนี้ เพราะเคยมีเพื่อนสนิทคนนึ่งเคยบอกไว้
ประมาณว่า เค้าจะไม่กินเผือก กินมันเด็ดขาด คนเรามันไม่มีอะไรจะกินขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงต้องไปขุดมากินกันอ่ะ
ถึงตอนนี้ ... อยากจะบอกเธอคนนั้นว่า ... "มัน" มันอร่อยจริงๆนะตัวเธอว์ .. เกิดมาไม่ได้กินนี่ถึงกับเสียชาติเกิดเลยนะเอ่อ !!!)


และ...แน่นอน เราไม่เล่นเครื่องเล่นอ่ะ เท่าที่เห็นมีนิดเดียวและ ... ดูจากสภาพแล้ว อย่าเล่นเลย !!!





เดินเล่นกันเถอะ :)











ตัดมาเช้าวันที่สองเลยเน๊อะ
ออกมายืนมองวิวเบาๆ ของหุบเขาเมื่อมองลงมาจากชั้น 17 หมอกกำลังสวยเลยเน๊อะ
อากาศเย็นสบายมากๆ ไม่อยากจะเข้าเมืองเลยจริงๆนะสบ๊ายยย ... สบาย





เดินลงมาหาอะไรกินในห้องอาหารของโรงแรม
.. คุณจะพบความวุ่นวายที่ซ่อนอยู่ภายในห้องนี้ได้อย่างทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา
เพราะที่รู้ๆกัน จำนวนห้องพักไม่ใช่น้อยอ่ะนะ ... คนก็เลยเยอะตามเป็นธรรมดา
ดีนะที่มีหลายโซนเลยกระจายความวุ่นวายกันไป

ที่นี่เค้ามีแบ่งโซนของกลุ่มคนที่รับประทานมังสวิรัตไว้ต่างหากด้วยนะ ดีทีเดียว ... !!
ที่เห็นในภาพคุณพี่เซฟกำลังทำไข่กวนให้กินอยู่จร้า...





แล้วก็มีขนมปังชุบไข่ทอด ราดด้วยน้ำผึ้งหรือไซรัปกันไปตามเรื่อง





แล้วก็คุณพี่เซฟอีกคน ที่แอบดูคล้ายพี่คนที่ทำไข่กวน .. กำลังทำ Fried Noodle
หรือเรียกง่ายๆ ว่า ... ผัดซีอิ๊วนี่เองงงงงงง ... !!!!!)





แต่เอาจริงๆ หลังจากเดินวนไปมาอยู่นาน แล้วก็เลือกรับประทานเจ้าพวกนี้นี่่ล่ะ น่าจะโอเคสุด
และจริงๆ จานนี้ต้องเป็นสลัด ... แต่เท่าที่แอบยกน้ำสลัดที่มีให้มาดมๆแล้ว กลิ่นไม่ค่อยน่าสนใจ
เลยรับประทานผักสดมันซะเลย อร่อยล้างปาก งั่มๆ อิอิ





พอเสร็จจากห้องอาหาร ก็ออกมาเดินเล่นด้านนอก ล่ะก็มองหาป้ายบอกเวลารถที่จะพาเราไปเที่ยวที่วัดจีน แบบนี้ ....





แต่เพราะเราอยู่ที่โรงแรม First World ใช่ป่ะ แต่รถรับส่งเค้าจะมีจอดที่โรงแรม High Land งัย
เลยต้องนั่งรถไปต่อรถ ... ไม่ยากๆๆ สั้นๆ ชิลมาก เพราะอากาศดี





และหน้ารถที่จะพาเราไปจะติดป้ายแบบนี้ ... ดูดีดีนะ
เพราะว่ามีรถบัสมาจอดรับส่งผู้โดยสารที่นี่เยอะมาก แ่ละคันก็หน้าตาเหมือนกันไปซะหมดด้วยสิ.. -_-'





ภาพรวมของหน้ารถจะเป็นแบบนี้นะจ๊ะ ...





จากโรงแรมไปวัด จริงๆถ้าเทียบระยะทางเวลานั่งรถ รู้สึกไม่ไกลเท่าไหร่นะ





เพราะว่านั่งมองวิวหมอกๆ สองข้างทางไปประมาณ 10-15 นาทีก็ถึงแล้วนะเนี๊ย เร็วเน๊อะ





มองจากมุมนี้แอบเห็นยอดเจย์ดีวัดแล้วนะ.. :)





สวยดีเน๊อะ














 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 9 เมษายน 2556 22:07:28 น.
Counter : 1184 Pageviews.  

1  2  3  4  

MIYAZAKI'S
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Memon Chaisiri

Hell0Kids
New Comments
Friends' blogs
[Add MIYAZAKI'S's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.