*คำสอนท่านพุทธทาสภิกขุ *โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก *อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง *คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย *ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ *ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น *ในโลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า แน่นอน *คนเราเมื่อ ตัวตาย ก็ต้องลงดิน ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด *เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคนอีกคนหนึ่ง *ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร *หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ *ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น *จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว *อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง *เริมต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย *อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ *จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์ *เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน *ไม่มีคำว่าบังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ *ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป *หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ *หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว *ไม่เป็นขุนนางนะได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้ *มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง *เมื่อวานก็สายเกินแล้ว พรุ่งนี้ก็สายเกินไป *อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณหมดทุกคน
2555 ปีใหม่ขอให้พบแต่สิ่งใหม่ๆที่ดีในชีวิตตลอดไป
"ธรรมะที่ปฏิบัติดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาสู่ตน"
Group Blog
 
All blogs
 
ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ

ประโยชน์ของสมาธิ พูดได้หลายอย่าง เช่น ประโยชน์ทางด้านอภิญญา ประโยชน์ทางด้านศาสนา ประโยชน์ทางด้านบุคลิกภาพ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

1.ประโยชน์ทางด้านอภิญญา เช่น ฝึกสมาธิแล้วได้อภิญญา(ความสามารถพิเศษเหนือสามัญชน) ได้แก่ หูทิพย์ ตาทิพย์ ทายใจคนอื่นได้ แสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ได้ ประโยชน์ด้านนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพระศาสนาโดยตรง

2.ประโยชน์ที่เป็นจุดหมายทางพุทธศาสนาแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ

(1)ประโยชน์ระดับต้น ฝึกสมาธิไประยะหนึ่ง จิตจะหายฟุ้งซ่าน จนถึงระดับได้ฌาน สามารถใช้สมาธิที่ได้ระงับ หรือข่มกิเลสได้ชั่วคราว แค่นี้ก็เรียกได้ว่าได้ "วิมุตติ"(หลุดพ้น)ระดับหนึ่งแล้ว เรียกว่า วิกขัมภมวิมุติ (หลุดพ้นด้วยข่มไว้)ตราบใดที่ยังข่มได้อยู่ เจ้ากิเลสมันก็ไม่ฟุ้งดอกครับ อย่าเผลอก็แล้วกันเผลอเมื่อได เดี๋ยว "จะเป็นเรื่อง"

เมื่อท่านเจ้าประคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท จันทร์) เทศน์สองธรรมาสน์กับ สมเด็จวัดเทพศิรินทร์ เจ้าคุณอุบาลีฯท่านอธิบายเรื่องกิเลส โลภ โกรธ หลง ยกศัพท์ยกแสงขึ้นมาอธิบายอย่างละเอียด สมเด็จท่านทักขึ้นว่า"แหม ว่าละเอียดเชียวนะ โลภมาจากธาตุนั้นปัจจัยนี้… ไหนลองบอกดูวิว่า ลาว มาจากธาตุอะไร"

(ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯท่านเป็นชาวอีสาน ที่คนภาคกลางมักจะเรียกเหยียดๆว่า "ลาว")

ท่านเจ้าคูณอุบาลีฯ ตอบว่า ลาว ภาษาบาลีว่า ลาโว แปลว่า "ผู้ตัด" มาจาก ลุ ธาตุ วิเคราะห์ว่า ลุนาตีติ ลาโว = ผู้ใดย่อมตัดผู้นั้นชื่อว่าลาว" "ตัดอะไร" สมเด็จซัก "ตัดหางเปียเจ็ก" เจ้าคุณอุบาลีฯสวนขึ้นทันที(สมเด็จท่านมีเชื้อสายจีนชาวชลบุรีครับ) สมเด็จไม่ทันระวังตัว เพราะมัวไปแขวะคนอื่นเพื่อความมันส์โกรธหน้าแดงเลย นี่แหละครับ กิเลสที่มันสงบอยู่ดุจหญ้าถูกหินทับ พอถูกสะกิดเท่านั้นมันก็ฟุ้งขึ้นมาได้ ยกเรื่องจริงในยุทธจักรดงขมิ้นมาเล่าประดับความรู้ครับ

(2)ประโยชน์ระดับสูงสุด ก็คือสมาธิอันเป็นบาทฐานวิปัสนาพิจารณาสภาวธรรมทั้งหลายรู้แจ้งไตรลักษณ์ กำจัดกิเลสได้โดยสิ้นเชิง พูดอีกในหนึ่งก็คือสมาธินำไปสู่ความเป็นพระอรหันต์นั้นแหละครับ

3.ประโยชน์สมาธิในด้านพัฒนาบุคลิกภาพ ผู้ที่ฝึกสมาธิประจำ ย่อมมีบุคลิกภาพที่พึงปรารถนาหลายประการเช่น

(1)มีบุคลิกหนักแน่น เข้มแข็ง
(2)มีความสงบเยือกเย็น ไม่ฉุนเฉียวเกรี้ยวโกรธ
(3)มีความสุภาพ นิ่มนวล ท่าทีมีเมตตากรุณา
(4)สดใส สดชื่น เบิกบาน
(5)สง่า องอาจ น่าเกรงขาม
(6)มีความมั่นคงทางอารมณ์
(7)กระฉับกระเฉง ไม่เซื่องซึม
(8)พร้อมเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ฉับไว ไม่ต้องอธิบาย เพียงเอ่ยถึง ก็คงเข้าใจแล้วนะครับ

4.ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน คนมักถามว่าฝึกสมาธิแล้วได้ประโยชน์อะไรในชีวิตประจำวัน ฝึกแล้วบรรลุมรรคผลนิพพานน่ะ รู้แล้วว่าพระคัมภีร์พูดไว้จริง แต่ได้จริงหรือเปล่า ยังไม่เคยเห็น ถ้าจะให้ทำเองก็ไม่ทราบว่าเมื่อไรจะเห็นผล เอาในชีวิตประจำวันเห็นๆกันนี้ดีกว่าว่าฝึกแล้วได้อะไร


ได้มากมายทีเดียวกันเช่น
(1) ทำให้ใจสบาย ไม่เครียด มีความสุข ผ่องใส
(2) หายหวาดกลัว หายกระวนกระวายโดยไม่จำเป็น
(3) นอนหลับง่าย ไม่ฝันร้าย สั่งตัวเองได้(เช่น สั่งให้หลับหรือตื่นตามเวลาที่กำหนดไว้ได้)
(4) กระฉับกระเฉง ว่องไว รู้จักเลือกและตัดสินใจเหมาะแก่สถานการณ์
(5) มีความแน่วแน่ในจุดหมาย มีความใฝ่สัมฤทธิ์สูง
(6) มีสติสัมปชัญญะดี รู้เท่าปรากฏการณ์ และยับยั้งใจได้ดีเยี่ยม
(7) มีประสิทธิภาพในการทำงาน ทำกิจกรรมสำเร็จด้วยดี
(8)ส่งเสริมสมรรถภาพมันสมอง เรียนหนังสือเก่ง ความจำดีเยี่ยม
(9) เกื้อกูลต่อสุขภาพร่างกาย เช่นชะลอความแก่ หรืออ่อนกว่าวัย
(10)รักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคเครียด โรคท้องผูก โรคความดันโลหิต โรคหืด หรือโรคกายจิตอย่างอื่น
โรคกายจิต(อ่านว่าโรค กา-ยะ-จิต ) หมายถึง ไม่เป็นโรค แต่ใจคิดว่าเป็น คิดบ่อยๆเข้าก็เลยเป็นจริงๆ อาการอย่างนี้ฝึกสมาธิสักพักเดียวก็หาย


ลองฝึกสมาธิดูสิครับ วันละเล็กละน้อย ทำบ่อยๆเป็นกิจวัตร ไม่ช้าไม่นานเราจะรู้ตัวว่าเรากลายเป็นคนละคนกับคนเก่า-ปานนั้นเชียว



//www.dhammakid.com/board/eaoo-cone1oaaao1/adaaa1iioa1neeaoo/


Create Date : 18 สิงหาคม 2553
Last Update : 20 สิงหาคม 2553 10:49:15 น. 2 comments
Counter : 1695 Pageviews.

 
ขอคุณที่นำข้อมูลดีๆมาแบ่งปันค่ะ...
กำลังฝึกให้ลูกชายหัดนั่งสมาธิทุกคืนค่ะ


โดย: neenika วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:15:11:01 น.  

 
ตอนนี้ก็กำลังฝึกอยู่ค่ะ ^^


โดย: ขนมชั้น...เธอห้ามกิน!!! วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:2:27:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mambococonut
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





*ข้อคิดในการดำเนินชีวิต......

1. ระลึกเสมอว่า การจะได้พบความรักและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็ต้องประสบกับความเสี่ยงอันมหาศาลดุจกัน

2. เมื่อคุณแพ้ อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน

3. จงปฏิบัติตาม 3 Rs

3.1 เคารพตนเอง ( Respect for self )

3.2 เคารพผู้อื่น ( Respect for others )

3.3 รับผิดชอบต่อการกระทำของตน ( Responsibility for all your actions )

4. จงจำไว้ว่า การที่ไม่ทำตามใจปรารถนาของตนบางครั้งก็ให้โชคอย่างน่ามหัศจรรย์

5. จงเรียนรู้กฎ เพื่อจะทราบวิธีการฝ่าฝืนอย่างเหมาะสม

6. จงอย่าปล่อยให้การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณ

7. เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข

8. จงใช้เวลาในการอยู่ลำพังผู้เดียวในแต่ละวัน

9. จงอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าของคุณหลุดลอยจากไป

10. จงระลึกไว้ว่า บางครั้งความเงียบก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด

11. จงดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อที่ว่าเมื่อคุณสูงวัยขึ้นและคิดหวนกลับมาคุณจะสามารถมีความสุขกับสิ่ง ที่ได้ทำลงไปได้อีกครั้ง

12. บรรยากาศอันอบอุ่นในครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต

13. เมื่อเกิดขัดใจกับคนที่คุณรัก ให้หยุดไว้แค่เรื่องปัจจุบัน อย่าขุดคุ้ยเรื่องในอดีต

14. จงแบ่งปันความรู้ เพื่อเป็นหนทางก้าวสู่ความเป็นอมตะ

15. จงสุภาพกับโลกใบนี้

16. จงหาโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยไป อย่างน้อยก็ปีละครั้ง

17. จำไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด คือความรักมิใช่ความใคร่

18. จงตัดสินความสำเร็จของตนด้วยสิ่งที่ต้องเสียสละ

19. จงเข้าใกล้ความรักด้วยการปล่อยวาง

***************************

"คุณงามความดีเราสร้างไว้แล้ว
ถ้าเกิดในภพใดชาติใด
หากมีความจำเป็น
รำลึกถึงบุญ บุญจะมาปรากฏทันที
ช่วยเหลือเราให้หลุดพ้นไปโดยลำดับลำดา
นี่คือบุญ"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


Online Users
Friends' blogs
[Add mambococonut's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.