Group Blog
 
All blogs
 

REVIEW: Sugarpill Cosmetics + HOW TO: Royal Blue Eyes

อันนี้เห่อสุดๆ ค่ะ เป็นของที่สั่งมาจากเว็บ sugarpill ดูคนอื่นรีวิวใน youtube ตั้งแต่มันออกใหม่แรกๆ แล้วอยากได้มาก เพิ่งจะได้สั่งมาลอง

เจ้าของเป็น ebay seller ขายพวกเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าบนเวที สีสันจะจัดจ้าน แล้วก็มาทำเครื่องสำอางแบรนด์ตัวเองชื่อ sugarpill เน้นอายแชโดว์สีจัดๆ

ของที่สั่งมา


*คลิกเพื่อขยาย

มีอายแชโดว์พาเล็ต 1 อายแชโดว์แบบเพรส 2 อายแชโดว์แบบผง 2


*คลิกเพื่อขยาย

แพ็กเกจสวยมาก มีกล่องกระดาษอย่างดี ลายบนแพ็กเกจเป็นลายสกรีน ไม่ใช่สติกเกอร์ มีส่วนผสม มีน้ำหนัก


*คลิกเพื่อขยาย

ขอเริ่มด้วยตัวพาเล็ตก่อนนะคะ

ชื่อว่า Burning Heart

ด้านหน้า เหมือนกับพาเล็ตอื่นๆ (มีอีกสองเซ็ต)



ด้านหลัง มีชื่อสีด้วย (ถ้าเป็นรุ่นแรกจะไม่มีชื่อสีแปะนะคะ เค้าเพิ่งมาทำเพิ่มตอนลูกค้าคอมเมนต์)


*คลิกเพื่อขยาย

ส่วนผสม


*คลิกเพื่อขยาย

เป็นพาเล็ตแบบกระดาษแข็ง ค่อนข้างหนา แข็งแรง เป็นพาเล็ตแม่เหล็ก แงะอายแชโดว์ออกมาได้ ทำให้เปลี่ยนสีได้



สีของ Burning Heart



เทสต์พิกเมนต์ของอายแชโดว์ให้ดู

จัดจ้านมากกกก



แต่ละสีของพาเล็ตนี้จะมีทำขายแยกเป็นตลับแบบเดี่ยวด้วยค่ะ แต่ซื้อแบบนี้คุ้มกว่า เพราะราคา 34USD แบบเดี่ยวราคา 12USD ถ้าซื้อแบบเดี่ยว 4 อัน จะราคา 48USD ซื้อเป็นพาเล็ตเหมือนได้ฟรีหนึ่งอันแล้วก็ลดราคาอีกต่างหาก

ตัวอายแชโดว์แต่ละอันก็ขนาด 4 g ใหญ่เบิ้มมาก ไม่ต้องกลัวหมดง่ายๆ

ทาออกมาด้วยพาเล็ตนี้ได้แบบนี้ (สีขาวตรงหัวตาใช้อายแชโดว์สีขาวนะคะ ไม่ใช่ในพาเล็ต)


*คลิกเพื่อขยาย

เดี๋ยวมีทาสีบนแขนให้ดูพร้อมสรุปคุณภาพด้านล่างนะคะ

ต่อด้วยอายแชโดว์แบบเดี่ยว

Press Eyeshadow

ลายแพ็กเกจน่ารักสุดๆ


*คลิกเพื่อขยาย

ซื้อมาสองอัน


*คลิกเพื่อขยาย

Midori สีเขียวสด
Afterparty สีฟ้าสด


*คลิกเพื่อขยาย

Swatch สี ทั้งหมด (รวม Loose Eyeshadow ที่จะรีวิวถัดไปด้วย)



สีสวยมากกก มีบางทีที่ต้องทาบนเบสจะสีติดดีกว่า แต่อย่าง Afterparty, Love+, Buttercupcake อาจจะไม่ต้องใช้ก็ได้

อายแชโดว์ค่อนข้างติดทนนะคะ (แต่อาจจะเพราะใช้เบสด้วย)

อายแชโดว์เนื้อค่อนข้างแน่น เวลาเอาแปรงไปแตะๆ ไม่ร่วงเป็นฝุ่นๆ เนื้อดีค่ะ แต่พวกสีสดๆ อย่าง poison plum กับ afterparty ตอนล้างมันจะติดสีชมพูกับฟ้าๆ เล็กน้อย

ใช้ Midori กับ Lumi แล้วก็มีอายแชโดว์สีดำ


*คลิกเพื่อขยาย

ใครชอบอายแชโดว์สีีจัดๆ แนะนำเลยค่ะ :-))

ต่อมา

Chroma Lust Loose Eyeshadow

แพ็กเกจน่ารักตามเคย


*คลิกเพื่อขยาย

มีสองอันเหมือนกัน

ตัวกระปุกเป็นขนาด 5 g แบบฝาเกลียว ไม่มีฝากรอง (ทำให้อายแชโดว์ปลิวง่าย)

ราคา 12USD



ส่วนผสม



สีขาวใสวิ้งเหลือบเขียวอมฟ้า เป็น Lumi
สีฟ้าแบบโคบอลต์ วิ้งเหลือบฟ้า เป็น Royal Sugar


*คลิกเพื่อขยาย

Swatch


*คลิกเพื่อขยาย

สองแถวบน
รูปซ้ายสุดจะเป็นแบบทาเปล่าๆ ไม่มีอะไร (Royal Sugar ไม่ค่อยติดผิวมาก ต้องใช้ร่วมกับเบส ตรงข้ามกับ Lumi)
รูปตรงกลางทาอายเบสก่อนแล้วทาอายแชโดว์ (ทาเบสแล้วจะเห็นสีเข้มขึ้นมา ตัว Lumi จะกลายเป็นสีขาวเงินไปเลย)
รูปขวาสุด หยดน้ำ/magic eye changer ผสมแล้วเอามาป้าย (Royal Sugar สวยมาก เป็นสีน้ำเงินเข้ม แต่วิ้งๆ จะหายไปนะคะ ไม่เหมือนตอนทากับเบสหรือทาเปล่าๆ ส่วน Lumi เป็นสีขาว อันนี้ทายากกว่า ใช้ทากับเบสกับทาทับเปล่าๆ จะสวยกว่า)

แถวล่างสุด
เป็นการทาทับอายไลเนอร์สีดำ (หรือเบสสีดำ)
Lumi จะเป็นประกายเขียวอมฟ้าชัดมากๆ ส่วน royal sugar เนื่องจากมันไม่ใช่ duo chrome มันก็เลยไม่ได้เป็นเหลือบๆ

อายแชโดว์สีแปลกและสวยมาก คุณภาพถือว่าดีทีเดียวค่ะ อายแชโดว์แบบอัดแข็งสีสด ติดทน อายแชโดว์แบบผงจะมีสี Royal Sugar ที่ไม่ติดผิว ต้องเอาอายเบสลง อยากได้อีกหลายสี แต่ว่าคราวนี้ ลองสั่งมาก่อน ไว้คราวหน้าคงได้ซื้ออีก

นอกจากของที่สั่งไป ยังได้ของเหล่านี้มาด้วย

มีการ์ดรูปภาพ กับสติกเกอร์ชูการ์พิลล์ และบิล+ลายเซ็นขอบคุณของ Amy เจ้าของร้านด้วย น่ารักดีค่ะ


*คลิกเพื่อขยาย

ค่าส่งไม่แพงค่ะ เริ่มต้นไม่ถึง 10 USD ถ้าสั่ง 75USD ส่งฟรีทั่วโลก
บริการรวดเร็ว สั่งไปวันพุธที่แล้ว อีกอาทิตย์นึงได้ของแล้ว ส่งของมาเป็นกล่องกระดาษแข็ง มีห่อกระดาษชมพูน่ารักมาให้ด้วย

คุณภาพของโอเคเลย แม้ราคาถ้าเทียบกับ mac ราคาเมืองนอกอาจจะพอๆ กัน แต่ว่าคุณภาพถือว่าดีทีเดียวค่ะ แพ็กเกจสวยถูกใจ มีกล่องด้วย น่ารักๆ

มาดูฮาวทูจากของเล่นใหม่ sugarpill กันค่ะ

HOW TO: Royal Blue Eyes

เริ่มด้วยใช้แปรงอายแชโดว์อันเล็ก แตะสีฟ้า afterparty ระบายทั่วเปลือกตา


*คลิกเพื่อขยาย

เปลี่ยนแปรง เป็นแปรงอันเล็ก แต่หัวเรียวๆ หน่อย
ผสม Royal Sugar กับ Magic Eye Changer ระบายช่วงหางตา แล้วทำเป็น wing ออกไป ลากเส้นต่อลงมาที่ขอบตาล่างราว 1 ใน 3


*คลิกเพื่อขยาย

เอาแปรงอายแชโดว์อันเก่าที่ใช้กับสี Afterparty แต่แรก แต่ยังมีอายแชโดว์เหลือ เบลนด์สีระหว่าง Royal Sugar กับ Afterparty ให้กลืนกัน


*คลิกเพื่อขยาย

เปลี่ยนแปรงหัวตัดอันเล็ก แต่สี Afterparty ระบายต่อจาก Royal Sugar ที่ขอบตาล่างมาอีกนิด


*คลิกเพื่อขยาย

เอาอายไลเนอร์ดินสอสีขาวมาทำเป็นอายเบส ระบายตรงหัวตากับขอบตาล่างที่เหลือ เบลนด์สีให้กลืนกับผิว


*คลิกเพื่อขยาย

เอาแปรงหัวตัดอันใหม่ (หรือเช็ดสีเก่าออก) แตะสี Lumi ระบายทั่วหัวตาตรงที่เราทาอายไลเนอร์เอาไว้ แล้วก็ระบายเบลนด์ไปด้านบนเล็กน้อยด้วย


*คลิกเพื่อขยาย

เอาดินสอสีดำ (Shu Uemura #M Black) เขียนอินเนอร์ไลน์ขอบตาบนและลงมาที่ขอบตาล่างราว 1 ใน 3


*คลิกเพื่อขยาย

ได้แบบนี้ (หลังจากเขียนอินเนอร์แล้ว มิถุนามีเพิ่ม Royal Sugar ตรงร่องน้ำตา ต่อเส้นขึ้นไปเชื่อมกับสีด้านบนด้วยค่ะ)

(คอนแทกเลนส์ของ Geo 3-tone gray)


*คลิกเพื่อขยาย

ปากใช้ลิปสติก MAC #Stroke of Lust สีออกชมพูอมม่วงนิดๆ มีวิ้ง ทาทับด้วยกลอส MAC Dazzleglass #Funtabulous สีชมพูอมม่วงวิ้งๆ

แก้มเป็นสีชมพูอมม่วงซีดๆ Shu Uemura #M Pink 32E

ก็ได้แบบนี้


*คลิกเพื่อขยาย

อันนี้เป็นแบบเดียวกัน แต่เปลี่ยนสีเล็กน้อย ใช้ Lumi กับ Poison Plum


*คลิกเพื่อขยาย
ป.ล. ยังมีของขี้เห่ออีก จะพยายามรีบรีวิวนะคะ แบบว่า...ตื่นเต้น เพราะมันเป็นโปรเจกต์ดอง+ใหญ่

บล็อกอัพเดตช่วงนี้

REVIEW: Sugarpill Cosmetics + HOW TO: Royal Blue Eyes


HOW TO ละเอียดยิบ: การเขียนอายไลเนอร์สำหรับตาแบบต่างๆ




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2553    
Last Update : 17 ตุลาคม 2553 22:10:14 น.
Counter : 3117 Pageviews.  

REVIEW: Nars Makeup Primer + HOW TO: Blue Blue Eyes

ช่วงนี้จะพยายามทยอยอัพบล็อกที่ทำดองไว้ให้จบนะคะ มีอีกหลายอย่างคอยคิวอยู่ึ้ค่ะ ต้องเร่งมือๆ

REVIEW: Nars Makeup Primer With SPF 20



ไพรเมอร์ตัวนี้ของนาร์ส ไว้ทาบำรุงผิว ลดรอยย่น เตรียมให้ผิวชุ่มชื่นก่อนการลงเมคอัพ ลดรอยแดง และปรับสภาพผิว มีสารกันแดด SPF 20

ปริมาณ 50 ml

ราคา 33 USD



เนื้อครีมสีขาว เหลว (ข้างขวา) พอเกลี่ยจนกลืนกับผิว จะทำให้ผิวดูวาวๆ ไม่เชิงมันมากนะคะ แต่รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้น+มันเล็กน้อย ผิวขาวขึ้นเล็กน้อย (จนแทบไม่สังเกตเห็น)

ซีกหน้าซ้ายทา prime ซีกหน้าขวาไม่ได้ทา



ผิวดูวาวขึ้นมันขึ้นและขาวขึ้นเล็กน้อย เรื่องรอยแดง...ไม่รู้สึกว่าลดลง

ทารองพื้น (ที่ไม่คุมมัน)



สองฝั่งดูไม่ต่างกันมากนะคะ แต่สังเกตดีๆ จะเห็นว่าฝั่งซ้ายที่ทาไพรเมอร์ เปลือกตาดูเนียนๆ กว่า

ทาแป้งฝุ่น + เขียนคิ้ว



หลังจากนี้มีเขียนอายไลเนอร์เพิ่มค่ะ

แล้วก็ผ่านไป 4 ชั่วโมง (โดยไม่ซับหน้า)



ฝั่งซ้ายที่ทาไพรเมอร์ดูไม่วาวเท่าฝั่งขวาที่ไม่ทานะคะ ดูที่ดวงตาจะเห็นว่าอายไลเนอร์เลอะเล็กน้อย (ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตาฝั่งขวาหลบในด้วย)

ผ่านไป 6 ชั่วโมง



หน้าวาวพอๆ กัน แต่ว่าฝั่งซ้ายวาวน้อยกว่าเล็กน้อย สีสันเมคอัพฝั่งซ้ายที่ทาไพรเมอร์ดูเข้มกว่านิดนึง

สรุป...

เนื้อครีมสีขาว กลิ่นหอม เวลาทาซึมไม่ช้าไม่ไว หน้ามันเล็กน้อยหลังทา ตอนแรกเห็นไพรเมอร์นี้ทาแล้วผิวจะออกมันเล็กน้อย เลยคิดว่าจะไม่ช่วยอะไรมาก และอาจจะทำให้หน้ามันขึ้น แต่หลังจากใช้งานพบว่าช่วยทำให้เมคอัพติดทนกว่าเดิม และลดความมันเล็กน้อย น่าจะดีสำหรับคนที่ผิวไม่มีปัญหามาก ผิวแห้ง/ผิวธรรมดา และอยากได้ตัวบำรุงผสมสารกันแดด อาจจะไม่ได้จำเป็นอะไรเท่าไหร่นักค่ะ

HOW TO: Blue Blue Eyes

งวดนี้เป็นตาโทนสีฟ้านะคะ

หลังจากทาอายไพรเมอร์นะคะ เอาแปรงอายแชโดว์อันเล็กแตะอายแชโดว์สีฟ้าวิ้งๆ (Reserve Naturalle หาเบอร์สีไม่เจอ) ระบายทั่วเปลือกตา


*คลิกเพื่อขยาย

เปลี่ยนเป็นแปรง Crease หัวเล็ก (ของ OP) แตะสีฟ้าอมม่วงอ่อนๆ (ฺBourjois Smoky Eyes#Romantic Violet) ระบายที่รอยพับเปลือกตา


*คลิกเพื่อขยาย

เปลี่ยนเป็นแปรงหัวตัด แตะสีม่วงเข้ม (ฺBourjois Smoky Eyes#Romantic Violet) ระบายตรงช่วงหางตาเล็กน้อย


*คลิกเพื่อขยาย

ใช้แปรงอันเดิม แต่หยด Magic Eye Changer ลงไป เอาไปขยี้กับอายแชโดว์สีเดิม ทำให้เนื้อเป็นครีมมี่ แล้วก็เอามากรีดขอบตา โดยเว้นตรงใกล้หัวตาเอาไว้ (ตามรูป)


*คลิกเพื่อขยาย

ใช้แปรงหัวตัด/หัวเล็ก แตะสีขาว (ฺBourjois Smoky Eyes#Romantic Violet) ระบายตรงช่วงหัวตาและขอบตาล่างที่เหลือ


*คลิกเพื่อขยาย

เอาอายไลเนอร์สีฟ้าใสๆ (Anna Sui #150) กรีดทับเส้นอายไลเนอร์สีน้ำเงินด้านบน เพื่อเพิ่มมิติให้เส้น


*คลิกเพื่อขยาย

เขียนอินเนอร์ไลน์ด้วยดินสอสีดำ (Avon Glimmerstick #Blackest Black) ทั้งขอบตาบนและลงมา 1 ใน 3 ของขอบตาล่าง


*คลิกเพื่อขยาย

เขียนอินเนอร์ไลน์ด้วยดินสอสีฟ้าอ่อน (Nars #Istanbul) ที่ขอบตาล่างที่เหลือ จะเน้นดวงตาให้โต


*คลิกเพื่อขยาย

ได้ตาแบบนี้


*คลิกเพื่อขยาย

เติมปากด้วยลิปสติก CastleDew #187 ทากลอส MAC Dazzleglass #Comet Blue ทับ
แก้มใช้ Privacy Face Glitter สีชมพูอ่อนวาวๆ ปัดไฮไลท์จากบลัช Shu Uemura #Rose Marble ทับเล็กน้อย

ได้ประมาณนี้


*คลิกเพื่อขยาย

บล็อกอัพเดตช่วงนี้

HOW TO: ทาเล็บด้วย Pigment (Dark BaseTechnique)


REVIEW: Soul Brown Contact Lens


REVIEW & HOW TO: Nail Foil เล็บลายจี๊ดๆ


REVIEW: Nars Makeup Primer + HOW TO: Blue Blue Eyes




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2553    
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 0:06:23 น.
Counter : 5988 Pageviews.  

REVIEW & HOW TO: Nail Foil เล็บลายจี๊ดๆ

ช่วงนี้ซื้อของเยอะนะคะ มีของเล่นเพียบเลย ทำรูปไว้ตรึม ค่อยๆ ทยอยอัพให้ค่ะ

อันนี้เป็นฟอยล์ติดเล็บ



เวลาซื้อต้องซื้อกาวติดมาด้วย

ฟอยล์อันละ 45 ยาวประมาณ 1 ฟุต
กาวขวดละ 100

ซื้อจากเว็บขายของในเน็ตค่ะ

เวลาใช้ก็

ตัดฟอยล์ให้เท่ากับขนาดเล็บตัวเอง



เอากาวออกมา



ทาบางๆ ทั่วเล็บ

รอจนน้ำยาเปลี่ยนจากสีขุ่น (นิ้วนาง) เป็นสีใส (นิ้วก้อย)



เอาฟอยล์แปะหน้าเล็บ



เอาัคัตตอนบัดถูให้ทั่ว



ถูเบาๆ จนฟอยล์มันหลุดออกมา (ฟอยล์จะลอกกลายเป็นกระดาษใส)



แล้วดึงฟอยล์ออก

ถ้าเกิดดึงออกมาแล้วมันเป็นแบบนี้



ซ่อมด้วยวิธีแบบเดิม

คือทากาวส่วนที่มันเสีย (บางๆ นะคะ) พอกาวใสก็เอาฟอยล์ติดลงไป เอาคััตตอนบัดถู แล้วก็ดึงออก

จะได้แบบนี้



ทาน้ำยาเคลือบเล็บทับ อย่าใช้แบบแห้งไว

เวลาล้างก็ใช้น้ำยาล้างเล็บธรรมดาล้างออก



ข้อเสียของเล็บแบบฟอยล์

- บางลายทำยากค่ะ ติดแล้วลอกออกมาได้ลายไม่เต็มแผ่น อย่างสีม่วงที่ทำนี่...เละตลอด ทำยังไงก็ไม่สวย

- ตอนทำแรกๆ อาจจะลำบากนิดนึง ยิ่งทำด้วยมือซ้าย จะยิ่งยาก เพราะว่าเราขูดลายได้ไม่เรียบเท่ามือขวา (เพราะไม่ถนัดมือซ้าย)

- ไม่ทนเอาซะเลย ทำเล็บคืนนี้ ถ้าเกิดใช้งานมือเยอะๆ เล็บจะเป็นรอยขูดขีด ฟอยล์เป็นรอย ถึงวันรุ่งขึ้น ใช้งานมือหนัก (พิมพ์คอมพ์ ล้างมือ ทำโน่นนี่) ปลายๆ เล็บจะลอก (อย่างนิ้วชี้ กลาง นางนี่ ไปก่อนเพื่อนเลย)

ข้อดีของเล็บแบบฟอยล์

- สวยและแปลกดีค่ะ

- เป็นการทำเล็บที่ค่อนข้างเร็ว (แต่ถ้าเป็นมือใหม่หัดทำ อาจจะใช้เวลา)

- แม้บางทีลายมันจะแตกๆ เพราะใช้งานหรือทำเล็บไม่ดี แต่คนที่มองมักจะมองไม่ออก สีมันกระแทกตาเสียก่อน :-))

ข้อแนะนำ

- แม้จะทาเคลือบเล็บซ้ำสองครั้ง ก็ไม่เป็นผล ยังคงลอกง่ายดาย...แถมยังลอกง่ายกว่าเดิมด้วยซ้ำ

- ใช้คัตตอนบัดดีกว่าใช้นิ้วขูดลาย เพราะนิ้วจะทำให้ลายเสียง่าย

- ทากาวบางๆ จะได้แห้งไว และไม่เหนียวมาก (ถ้าเหนียว เวลาลอกฟอยล์มักจะเสียทุกที)

สีที่ทำลายเอาไว้

ภาพเป็นภาพสาดแฟลช จะทำให้เห็นรอยแตกตำหนิเยอะนะคะ แต่ของจริง พอดูในแสงธรรมชาติ ไม่ค่อยเห็นมากเท่าไหร่ค่ะ

Peach Burst (สีนี้ทำง่ายสุด แกะออกมาแล้วได้ลายสมบูรณ์สุด)



Silver (ทำไม่ยากมาก แต่เวลาลอกชอบได้ลายไม่ครบ เป็นเส้นแตกๆ ซึ่งมันมองไม่ค่อยเห็น)



Lime Ab (สีนี้ก็ทำง่าย แต่ชอบแตกลายเป็นเส้นๆ)



บล็อกอัพเดตช่วงนี้

HOW TO: ทาเล็บด้วย Pigment (Dark BaseTechnique)


REVIEW: Soul Brown Contact Lens


REVIEW & HOW TO: Nail Foil เล็บลายจี๊ดๆ


REVIEW: Nars Makeup Primer + HOW TO: Blue Blue Eyes




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2553    
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 0:06:36 น.
Counter : 4944 Pageviews.  

REVIEW: Soul Brown Contact Lens + HOW TO: Teal Eyes

REVIEW: Soul Brown Contact Lens

ซื้อคอนแทกเลนส์ใหม่ ใส่มาสักพักแล้วค่ะ ชอบลายมันมากๆ เลย

Soul สี Brown



ฺBC 8.60
DIA 14.5



เป็นแนว 3-tone เลนส์ลายสีน้ำตาลอมแดง เทา และดำ สีค่อนข้างชัดเจน เลนส์ไม่ใหญ่มาก ใส่แล้วไม่แบ๊วเกิน ตาโตกำลังดี

เลนส์นิ่ม ใส่ยากนิดหน่อย เพราะมันนิ่มมาก จับไม่ดีจะพับกลับไปอีกด้าน


*คลิกเพื่อขยาย

ข้อเสีย...รู้สึกว่ามันไม่ค่อยอมน้ำ ใส่แล้วตาแห้งไว ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยเหมือนกัน

HOW TO: Teal Eyes

อันนี้เป็นฮาวทูเห่อแรกๆ ที่ได้คอนแทกเลนส์มา เลือกสีเขียวที่ตัดกับตาสีน้ำตาล ทำสโมกกี้อายสีๆ แบบง่ายๆ

เริ่มด้วยแตะอายแชโดว์สีเขียว (NYX #Wildfire) ระบายเปลือกตา


*คลิกเพื่อขยาย

ใช้แปรง Crease แตะอายแชโดว์สีดำ (NYX #I dream of Barbados Palette) ระบายตรงรอยพับเปลือกตา เปลี่ยนแปรงเป็นแปรงหัวตัดอันเล็ก แตะสีดำเหมือนเดิม แล้วระบายลงมาขอบตาล่างราว 1 ใน 3


*คลิกเพื่อขยาย

ใช้อายไลเนอร์ดินสอสีขาว (MAC #Fascinating) ระบายขอบตาล่างที่เหลือ รวมทั้งหัวตา แล้วก็ใช้นิ้วเบลนด์สีเล็กน้อย


*คลิกเพื่อขยาย

ใช้แปรงหัวตัด แตะอายแชโดว์วิ้งสีขาวเยอะๆ (Nars #Night Snow) ระบายทับอายไลเนอร์สีขาวที่ทาไว้


*คลิกเพื่อขยาย

ทำให้ตามีมิติขึ้นด้วยเฉดสีระหว่างเขียวกับดำ เลือกสีน้ำเงินหม่นๆ (L'oreal HIP #Sassy) ระบายระหว่างสีดำกับเขียว ช่วงหางตา เบลนด์ทั้งสามสีให้กลืนกัน


*คลิกเพื่อขยาย

ใช้แปรงหัวตัดอันเดิม (เช็ดสีดำออกก่อน) แตะอายแชโดว์สีเทา (NYX #I dream of Barbados Palette) ระบายระหว่างสีดำกับขาวตรงขอบตาล่าง (หรือจริงๆ จะใช้แปรงเบลนด์สีขาวกับดำเข้าด้วยกันก็ได้)


*คลิกเพื่อขยาย

เอาอายไลเนอร์ดินสอสีดำ (Avon Glimmerstick #Blackest Black) เขียนอินเนอร์ไลน์ของตาบนและลงมาขอบตาล่าง 1 ใน 3


*คลิกเพื่อขยาย

ได้แบบนี้


*คลิกเพื่อขยาย

แก้ม Shu Uemura #Rose Marble ไฮไลต์เหนือโหนกแก้มด้วย Lola Luna Twiight Mortal Glow #Swoon

ปากใช้ MAC Lipstick #Utterly Frivolous ทาทับด้วยกลอส MAC Dazzleglass #Comet Blue

รวมๆ ประมาณนี้ค่ะ


*คลิกเพื่อขยาย

บล็อกอัพเดตช่วงนี้

HOW TO: ทาเล็บด้วย Pigment (Dark BaseTechnique)


REVIEW: Soul Brown Contact Lens


REVIEW & HOW TO: Nail Foil เล็บลายจี๊ดๆ


REVIEW: Nars Makeup Primer + HOW TO: Blue Blue Eyes




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2553    
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 0:07:18 น.
Counter : 4326 Pageviews.  

HOW TO: ซ่อมอายแชโดว์แตก + DIY: Press Pigments

HOW TO: ซ่อมอายแชโดว์แตก + DIY: Press Pigments

เคยอัพฮาวทูแบบนี้ในบล็อกนะคะ แต่ว่ารูปถ่ายไม่ชัดเลย เพราะเป็นกล้องมือถือ แต่เมื่อวันก่อน อายแชโดว์ที่มีแตก เลยได้มีโอกาสถ่ายรูปทำฮาวทูใหม่ พอดีเพิ่งทำรูปเหล่านี้เสร็จ เลยเอามาแปะให้ได้อ่านกันค่ะ

HOW TO: ซ่อมอายแชโดว์แตก

อุปกรณ์...

อายแชโดว์ที่เสียหาย



ตัวประสาน...

แอลกอฮอล์

ป.ล. เนื่องจากหาซื้อแอลกอฮอล์แบบไม่มีสียาก เลยใช้แบบที่มีขายทั่วไปตามร้านขายยาแทน



ตวงแอลกอฮอล์ โดยใช้ช้อนเล็ก หรือสลิงดูยาก็ได้ค่ะ

ในรูปใช้แอลกอฮอล์ 1/4 tsp กับอายแชโดว์แตกปริมาณ 2.7 g

เทแอลกอฮอล์ลงไป

ค่อยๆ เทก็ได้นะคะ เทให้ทั่วอายแชโดว์ ให้มันเปียกหมาดๆ



ตัวกดให้อายแชโดว์ประสานกับแอลกอฮอล์

เนื่องจากว่าตลับอายแชโดว์ของ nyx เป็นทรงสี่เหลี่ยม แทนที่จะใช้เหรียญห่อทิชชูรัดหนังยางเหมือนปรกติ เลยใช้ลิปกลอสแท่งสี่เหลี่ยมแทน



เอาทิชชูอย่างหนาหน่อย ไม่ก็ซ้อนให้หนา หุ้มแท่งลิปกลอส แล้วเอาหนังยางรัด



เอามากดบนอายแชโดว์ กดแน่นๆ (แต่พยายามระวังอย่าแรงเกิน เพราะอายแชโดว์จะทะลัก หรือฟุ้ง)



กดไปเรื่อยๆ จนหน้าเริ่มเรียบ



เรียบพอแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้

ป.ล. จะเห็นว่าอายแชโดว์สีเข้มขึ้น เนื่องจากโดนของเหลว



พอแห้งก็จะได้แบบนี้

จะเห็นว่าพอแอลกอฮอล์ระเหยไป สีอายแชโดว์ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม



ลองทาดู...

ทางซ้ายเป็นสีอายแชโดว์ที่แตก
ทางขวาเป็นสีอายแชโดว์ที่ซ่อมแล้ว

ดู ไม่ต่างกันมากใช่ไหมคะ สีหลังซ่อมดูอ่อนกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ก็ทำให้เรายังใช้อายแชโดว์ที่แตกได้ โดยที่ไม่ต้องทิ้งไป หรือหาตลับมาใส่ใหม่



คำแนะนำ/ประสบการณ์การซ่อมอายแชโดว์โดยส่วนตัว

- ไม่แนะนำให้ใช้กับอายแชโดว์เนื้อแมตต์ เพราะว่าหลังแอลกอฮอล์ระเหย และอายแชโดว์แห้ง ส่วนบนของอายแชโดว์จะแข็ง แต่ถ้าเอามีดขูดส่วนแข็งๆ นั้นออก ก็ยังใช้อายแชโดว์ได้เหมือนเดิม

- บางทีแอลกอฮอล์อาจจะทำปฏิกิริยากับส่วนผสมในอายแชโดว์ ทำให้อายแชโดว์เปลี่ยนสีได้ ถ้ากลัวอายแชโดว์จะเสีย แนะนำให้แบ่งส่วนเล็กๆ มาทดสอบกับแอลกอฮอล์ก่อน

- เท่าที่ซ่อมอายแชโดว์ที่แตกแล้วเอามาใช้งาน อายแชโดว์ก็ยังใช้ได้ปรกตินะคะ สีที่ได้ก็ไมไ่ด้อ่อนลงด้วย แต่ในตัวอย่างที่ทำด้านบน สีดูอ่อนลงนิดนึง อาจจะเป็นเพราะสูตรอายแชโดว์ แต่ก็ใช้งานได้เหมือนเดิม

- ถ้ากลัวจะเทแอลกอฮอล์ใส่อายแชโดว์มากเกินไป แนะนำให้เอาแอลกอฮอล์ใส่กระบอกสเปรย์แล้วฉีดทั่วหน้าอายแชโดว์แทน ก่อนจะกดด้วยของที่พอดีกับหน้าตลับ

- สามารถใช้ได้กับบลัชออน แต่อย่าลืมอ่านคำแนะนำทั้งหมดด้วยค่ะ

- เห็นมีคนถามหาวิธีซ่อมแป้ง เลยไปหาในคลังกระทู้เก่ามา แต่ใช้คนละวิธีกับที่มิถุนาใช้ ไม่มีปัญหาเรื่องแป้งเปลี่ยนสภาพหรือสีแน่นอนค่ะ :-))
คลิกที่นี่

DIY: Press Pigments

พอซ่อมอายแชโดว์แล้ว เลยคิดว่าจะเอาอายแชโดว์ MMU ผงๆ มาอัดเป็นอายแชโดว์แข็งไว้ใช้งาน

เหตุผล...เพราะอายแชโดว์ MMU สีมักจะอ่อน ไม่ติดผิว ฟุ้งกระจาย เลยเอามาอัดเป็นแบบแข็ง จะทำให้ใช้งานง่ายขึ้น และสีติดทนขึ้น

อุปกรณ์...

- อายแชโดว์แบบผง
- แอลกอฮอล์
- ตลับใส่ (ทำความสะอาดให้เรียบร้อย)
- ไม้จิ้มฟัน (ไว้คนส่วนผสม)
- ช้อนตวง/สลิง (ไว้บรรจุแอลกอฮอล์)
- อุปกรณ์อัดอายแชโดว์ (เหรียญ + ทิชชู + หนังยาง)



เริ่มด้วยการทำอุปกรณ์อัดอายแชโดว์ก่อนนะคะ

ถ้าเป็นตลับกลม ก็ใช้ของทรงกลม

อย่างในรูปเป็นเหรียญสิบ

ลองวางทาบกับตลับที่จะใช้ใส่อายแชโดว์ พอดีเลย



เมื่อเลือกได้ ก็เอาเหรียญวางบนทิชชู (ซ้อนให้หนาเล็กน้อย)



บิดทิชชู



รัดด้วยหนังยาง



เริ่มต้นด้วย...

เอาแอลกอฮอล์ใส่ตลับ

(ความจริงจะเอาผง MMU ใส่ตลับก่อนก็ได้นะคะ)



แล้วก็ใส่ MMU อายแชโดว์/Pigment ลงไป

ปริมาณที่ใช้ 1/2 tsp กับแอลกอฮอล์ 1/4 tsp กับอีกนิดหน่อย

(สามารถกะประมาณเอาได้ โดยค่อยๆ เติมแอลกอฮอล์/อายแชโดว์ผงทีละนิด ดูให้ส่วนผสมเขละๆ)

ป.ล. PIGMENT คืออะไร
คลิกอ่านที่นี่



เอาไม้จิ้มฟันคนเบาๆ

คนให้เข้ากันดี

(เหมือนกับการซ่อมอายแชโดว์ อายแชโดว์ผงเมื่อโดนของเหลวก็จะสีเข้มขึ้น เดี๋ยวพอแห้งก็จะได้สีแบบเก่า)



เวลาผสม เอาให้ได้เนื้อเขละๆ แบบนี้นะคะ

เพราะจะได้รอแห้งไม่นาน

(แต่ถ้าเผลอใส่แอลกอฮอล์มากไปจนเหลวก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่อาจจะต้องทิ้งเวลารอนานกว่าปรกติ)



พอได้ความหนืดที่พอใจ ก็เอานิ้วจับตลับแล้วเคาะกับโต๊ะเบาๆ เพื่อให้หน้าอายแชโดว์เรียบเสมอกัน



ได้แบบนี้



ระหว่างนี้ก็รอให้มันแห้งนะคะ (แต่ไม่ได้รอให้แห้งสนิท ขอให้เนื้ออายแชโดว์มันดูเกือบจะแห้งเท่านั้น)

แล้วก็มาทำสีอื่นๆ โดยเริ่มต้นแบบเดิม

อันนี้เป็นสีเขียว



จะเห็นว่าพอโดนของเหลว สีดูเข้มขึ้นมาก แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวตอนแห้งก็จะได้สีเดิม



เคาะกับโต๊ะให้หน้าเรียบเสมอกันเหมือนเดิม แล้วพักรอไว้



ทำสีสุดท้าย



เมื่อทิ้งรอให้มันแห้งนิดๆ สักพัก (อย่าทิ้งให้แห้งสนิท)

ก็ลองเอานิ้วจิ้มเบาๆ ทดสอบดู ถ้าหน้าอายแชโดว์แข็ง แสดงว่าพร้อมจะ Press แล้ว



ถ้ามันยังเหลวติดมือมาแบบนี้ ไม่โอเคนะคะ ต้องรอไปอีก



พออายแชโดว์เริ่มแห้งนิดๆ ก็เอาเหรียญห่อทิชชูที่เตรียมไว้แต่แรกมากดลงไป

กดแรงพอสมควร เพื่ออัดอายแชโดว์ให้แน่นติดถาด

ถ้าเกิดว่าเราอัดตอนอายแชโดว์ยังไม่แห้งดี ส่วนผสมจะทะลักออกมาค่ะ



พอเอาออก จะเห็นว่าทิชชูเปียกแอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลือ

และหน้าอายแชโดว์เรียบสนิท



กดจนพอใจ ก็ทิ้งรอให้มันแห้งสนิทจริงๆ (ถ้ากลัวไม่ชัวร์ ทิ้งข้ามวันก็ไ้ด้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใส่แอลกอฮอล์มากเกินไป ครึ่งวันก็แห้งแล้ว)



เมื่อแห้งสนิท จะได้อายแชโดว์แบบนี้

น่าใช้มาก



เทสสีให้ดู

ไม่ผิดจากในตลับเลยค่ะ



บล็อกอัพเดตล่าสุด

REVIEW: Biore Perfect Cleansing Oil V.S. Biore Cleansing Milk


HOW TO: Vixen Purple Eyes (With Purple Contact Lens)




 

Create Date : 03 ตุลาคม 2553    
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 14:51:26 น.
Counter : 6282 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.