Group Blog
 
All blogs
 

REVIEW: Urban Decay Pocket Rocket #Julio ลิปกลอสผสมฟีโรโมน

เป็นชิ้นที่ภูมิใจนำเสนอ...

Urban Decay Pocket Rocket Lip Gloss

ชื่อสี Julio


*คลิกเพื่อขยาย

ราคา 18 USD

ปริมาณ 8 ml



คำโปรยด้านหลัง



ประมาณ เป็นกลอสไม่เหนียว เนื้อเงาเป็นประกาย กลิ่นแครมบูเล่ มีส่วนผสมของ Hyaluronic-spheres ช่วยให้ปากอิ่มเต็ม
มีส่วนผสมของฟีโรโมน ซึ่งจะออกมาถ้าถู (???)



ส่วนผสม


*คลิกเพื่อขยาย

ลูกเ่ล่นของกลอสนี้ ที่ทำให้อยากได้ เพราะรูปผู้ชายบนแพ็กเกจจะเปลี่ยนไปเมื่อเราขยับกลอส

คือมันจะเป็นรูปหนุ่มใส่เสื้อ กับหนุ่มถอดเสื้อ

เป็นกลอสที่น่ารักดีค่ะ


*คลิกเพื่อขยาย

หนุ่มคนนี้ชื่อ Julio


*คลิกเพื่อขยาย

ประวัติข้างกล่อง ประมาณ เป็นเชฟสมัครเล่น & คุณพ่อสุดฮ้อต

สีสวยมาก

เป็นสีใสวิ้งเงิน



แปรงเป็นแบบพู่กัน ชอบแปรงแบบนี้



ทาแล้วปากเป็นประกาย



ชอบเอาไว้ทาทับลิปสีอื่นๆ จะสวยมาก

(สีพื้นเป็นสีชมพูบานเย็น L'oreal Colourjuice #Tutti Fruiti)



สรุป...

ชอบแพ็กเกจ ชอบลูกเล่น ชอบสี เนื้อกลอสไม่เหนียว ใช้ทาทับสีอื่นได้สวย

เกลียดกลิ่น...เกลียดมาก แครมบูเล่ที่กินไม่ได้กลิ่นแบบนี้แน่นอน กลิ่นมันออกยาๆ วิตามินๆ

gimmick เรื่องฟีโรโมน (ที่บอกให้ถู เพื่อให้มีกลิ่นออกมา) คิดว่าไม่ได้จริง เป็นลูกเล่นมากกว่า

ทำ ให้ปากอวบอิ่มไหม? ไม่รู้สึกนะคะ เคยใช้พวกกลอสปากเจ่อ มันจะรู้สึกชาๆ บวมๆ แต่กลอสนี้ไม่รู้สึกอะไรอย่างนั้นเลย ถ้าดูอวบอิ่มคงเป็นเพราะความมันวาวของมันมากกว่า

บล็อกอัพเดต

REVIEW: Benefit Her Name Was Glowla

REVIEW: Urban Decay Pocket Rocket #Julio ลิปกลอสผสมฟีโรโมน




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2554 19:46:57 น.
Counter : 2769 Pageviews.  

REVIEW: Benefit Her Name Was Glowla

ช่วงนี้ยังมีของเล่นใหม่ๆ มาตลอด จะทยอยอัพบล็อกเรื่อยๆ ค่ะ

ของส่วนหนึ่งจะมาจากกองนี้


*คลิกเพื่อขยาย

REVIEW: Benefit Her Name Was Glowla


*คลิกเพื่อขยาย

ชิ้นนี้ได้เป็นของขวัญปีใหม่ ตอนเปิดห่อกรี๊ดมากๆ เพราะมีแต่ของของ benefit ที่อยากได้ทั้งนั้น

ราคา 36 USD เป็น Limited Edition ถ้าในยุโรปจะขาย 50 USD เห็นคนที่ซื้อให้บอกว่าขายดีมากกกก เป็นที่ต้องการไปทั่ว sephora

เปิดกล่อง

เซ็ตนี้ ไม่รู้ว่าเมืองไทยมีขายไหมนะคะ แต่ว่าเป็นเซ็ตที่จัดมาดีมากๆ มีเครื่องสำอางค่อนข้างครบเลย


*คลิกเพื่อขยาย

มีบุ๊กเล็ตเล็กๆ

สอนแต่งหน้าด้วยพาเล็ตนี้


*คลิกเพื่อขยาย

ถ้ายกชั้นด้านในออก ก็จะได้กล่องสวยๆ ไว้ใช้งาน


*คลิกเพื่อขยาย

ข้างในกล่องประกอบไปด้วย (ภาพนี้เป็นแบบเปิดแฟลช ค่อนข้างจ้าไปหน่อยนะคะ เดี๋ยวมีสีจริงๆ ให้ดูแยกชิ้นกัน)

บลัช coralista (พร้อมแปรง)
ไฮไลท์ Moon Beam กับ High Beam
ลิปกลอส Life on the A List
อายแชโดว์ 5 สี (พร้อมแปรงสองหัว)
มาสคาร่า BadGal Lash


*คลิกเพื่อขยาย

ส่วนผสม เผื่อใครจะสนใจ


*คลิกเพื่อขยาย

swatch สีของ product รวมๆ เป็นบางชิ้น (เดี๋ยวมี swatch ให้ครบค่ะ)

เรียงจากซ้ายไปขวา
Coralista --> Eyeshadow --> Life is on the A List


*คลิกเพื่อขยาย

ขอเริ่มไล่จาก

บลัช Coralista
สีชมพูอมส้ม


*คลิกเพื่อขยาย

Swatch สี coralista เทียบกับบลัชโทนสีพีชๆ

ปัดออกมาแล้วสีใกล้เคียงกันนะคะ ยกเว้นของ Too Faced ที่เวลาปัดจะดูเงาๆ กว่าของ Benefit และ Shu



แปรงที่ให้มา เล็กมากกกก ถ้าเทียบกับขนาดแปรงปรกติ แต่ก็ปัดแก้มได้พอดีค่ะ

เ็ป็นบ ลัชสีชมพูอมส้มที่สวยมากๆ ปัดได้เรื่อยๆ เนื้อค่อนข้างเป็นผงนะคะ พอเอาแปรงปาดลงไป ฝุ่นก็ฟุ้งมาเลย แต่เนื้อบลัชปัดแล้วได้สีชมพูอมส้มใสๆ ดีค่ะ

ติดทนปานกลางนะคะ มีสีดรอปลงไปบ้างช่วงบ่ายๆ เย็นๆ



ต่อด้วย High Beam กับ Moon Beam

ความต่าง...

High Beam --> สีชมพู, Luminescent = เป็นประกาย

Moon Beam --> สีเหลือง, Iridescent = ให้สีเหลือบ


*คลิกเพื่อขยาย

ขวดเป็นเหมือนกลอส และมีแปรงแบบพู่กัน



ลองปาดดู

แบบเปิดแฟลช

ฝั่งซ้ายจะเป็นแบบป้าย ฝั่งขวาเบลนด์ไปกับหลังมือ


*คลิกเพื่อขยาย

แบบในแสงธรรมชาติ

จะเห็นว่าในแสงธรรมชาติ ทั้งสองอันแทบไม่ออกสีเลย

High Beam จะดูวิ้งกว่าเล็กน้อย

Moon Beam จะเหลือบๆ คล้ายกับ Smashbox artificial light #Flash


*คลิกเพื่อขยาย

ลองทา High Beam บนโหนกแก้ม

แต้มเป็นจุดๆ ตามแนวโหนกแก้ม แล้วค่อยเอานิ้วเบลนด์

สีที่ได้จะออกประกายน้อยๆ ไม่ค่อยวูบวาบมาก ทาได้แบบไม่ต้องกลัวเป็นลูกนิมิตร
สีสวยดีค่ะ ไม่ทำให้รูขุมขนดูกว้างด้วย


*คลิกเพื่อขยาย

ส่วน Moon Beam นั้น

พอทาแล้วจะเห็นว่าโหนกแก้มดูเงาๆ ไม่มีประกายเหมือน High Beam

ทั้งสองอัน ถ้าไม่ได้สังเกตมาก ก็จะไม่เห็นความต่างนะคะ ทั้งคู่ให้ลุ้กธรรมชาติ ไม่เวอร์

ชอบทั้งสองสีเลยค่ะ

แต่ ถ้าจำเป็นต้องเลือกระหว่างสองอันนี้ คงจะเลือก Moon Beam มากกว่า เพราะชอบให้ผิวดูโกลว์ มากกว่าวิ้ง แม้ตัว High Beam จะไม่ได้วิ้งมากมาย


*คลิกเพื่อขยาย

Eyeshadow Palette

มี 5 สี เป็นธรรมชาติ

เนื้ออายแชโดว์นุ่มดีค่ะ เวลาเอาแปรงไปแตะๆ วนๆ อาจจะมีฝุ่นบ้างเล็กน้อย

สีสวยนะคะ แต่ว่าถ้าเทียบกับบางยี่ห้อที่ติดทนมากๆ ยังสู้ตรงนี้ไม่ได้


*คลิกเพื่อขยาย

BadGal Lash

เป็นมาสคาร่าอันโด่งดังของ Benefit ให้ขนตาหนา


*คลิกเพื่อขยาย

หัวแปรงจะค่อนข้างใหญ่



สภาพขนตาของมิถุนา: ขนตาแข็ง สั้น บาง ดัดไม่ขึ้น ขนตาตก ไม่ชอบดัดขนตาเพราะยังไม่เจอที่ดัดขนตาที่เข้ากับเบ้าตาพอดี และอีกปัญหาคือดัดไม่ขึ้น ไม่มีขนตาให้ดัด เลยมักจะปัดมาสคาร่าอย่างเดียวให้ขนตาดูหนาขึ้นมากกว่า

ลองปัดดู


*คลิกเพื่อขยาย

รูปแรก ฝั่งซ้ายดัดขนตา (จะเห็นว่าทางหางตา มันดัดไม่ขึ้น) ฝั่งขวาไม่ได้ดัดขนตา

รูปที่สอง ปัดทั้งสองข้าง ข้างละ 1 ครั้ง

รูปที่สาม ปัดทั้งสองข้าง เพิ่มอีก 1 ครั้ง

จะเห็นว่ายิ่งปัด ขนตายิ่งดูหนานะคะ ถ้าคนขนตายาวๆ สวยๆ มาปัด คงจะยิ่งดีกว่านี้

เนื้อมาสคาร่าไม่แฉะ ทำให้ไม่เป็นก้อนตอนปัด
แปรงปัดง่าย (เราชอบแปรงแบบนี้)
ทำให้ขนตาหนาขึ้น ไม่จับเป็นก้อน

ไม่เหมาัะกับคนที่อยากได้มาสคาร่าเพื่อขนตายาว เพราะมันไม่ช่วยเรื่องความยาวเลย

ข้อเสีย...นอกจากราคาก็เป็น มาสคาร่าไม่กันน้ำ เซ็งมากกกกก

Lipgloss #Life is on the A List


*คลิกเพื่อขยาย

แปรงเป็นแบบฟองน้ำ

กลอสสีชมพูนมๆ



สีบนปาก



กลอสกลิ่นพีช (ไม่ค่อยชอบกลิ่นนี้)
เนื้อไม่เหนียว และเพราะเนื้อไม่เหนียว เลยไม่ได้ติดทนเท่าไหร่

สี ในหลอดสวยมาก เป็นสีชมพูอ่อนๆ สีชมพูนมๆ แต่ตอนทาจะให้สีค่อนข้างบาง ถ้าทาหนา มันจะตกร่องปาก (เป็นคนปากแห้ง เป็นร่อง) ถ้าคนที่ปากสีคล้ำ อาจจะกลบสีปากไม่ได้

ทั้งหมดทุกชิ้นในกล่อง ชิ้นนี้ไม่ชอบที่สุด

ทั้งพาเลต แต่งหน้าคร่าวๆ ได้ประมาณนี้



สภาพเมื่อแต่งไปประมาณ 6 ชั่วโมง



ดูไม่แย่เลยนะคะ สียังเห็นอยู่พอสมควร ซับมันนิดหน่อยก็โอเค

สรุป...

เป็นพาเล็ตที่น่าใช้มากๆ ค่ะ เหมาะกับคนเพิ่งหัดแต่งหน้า คนที่ชอบแต่งหน้าโทนธรรมชาิติ หรือคนที่อยากลองผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างของ benefit




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2554 18:20:16 น.
Counter : 4961 Pageviews.  

REVIEW: มาส์กหน้ากาก Skinlite, Baviphat, & My Beauty Diary

ส่วนใหญ่เป็นมาส์กที่ซื้อจากโปรคราวก่อนของ Boots นะคะ น่าจะประมาณเดือนหรือสองเดือนก่อน



มาส์กของ Skinlite ตอนนั้นจัดโปรที่ 3 อัน 149 หรือ อาจจะถูกกว่านี้ จำไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะ

ราคาที่ขายตอนไม่ลดราคาจำไม่ไ้ด้ รู้แต่ไม่แพงมาก แน่นอนว่าไม่ถึง 100 บาท

ขอเริ่มที่

Skinlite Ultra-Hydrating Olive Mask


*คลิกเพื่อขยาย

ส่วนผสม


*คลิกเพื่อขยาย

คำโปรยด้านหลัง


*คลิกเพื่อขยาย

เ็ป็นมาส์กเื่พื่อให้หน้าชุ่มชื้น และอ่อนเยาว์ มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก คอลลาเจน วิตามินอี

แกะมาส์กออกมาดู บีบดูน้ำที่มาส์ก ชุ่มเลยค่ะ



ก่อนใช้...

กระดาษมาส์กนุ่มดีค่ะ กลิ่นหอมมะกอกก่อนๆ น้ำที่ใส่ในมาส์กให้มาุชุ่ม

หลังใช้...

หลังจากแปะมาส์กไว้บนหน้าราว 15 - 20 นาทีแล้วเอาออก รู้สึกว่าหน้านุ่มขึ้นมากๆ ช่วงนั้นจมูกแห้ง ลอก หลังใช้แล้วรู้สึกว่าผิวดูสมานกันมากขึ้น รอยลอกๆ ลดน้อยลง ค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ค่ะ

จะซื้อมาใช้อีกไหม...

ซื้ออีกค่ะ

Skinlite Illuminating Arbutin Mask



ส่วนผสม



คำโปรย


*คลิกเพื่อขยาย

มีส่วนผสมของอาร์บูติน วิตามินอี ชาเขียว และผลไม้เมืองร้อน เพื่อช่วยให้ผิวขาวกระจ่าง นอกจากนี้ยังช่วยคืนน้ำให้ผิวด้วย

ก่อนใช้...

ความรู้สึกมาส์กน้ำมันมะกอกอันแรก ที่กระดาษมาส์กนุ่ม น้ำชุ่ม แล้วก็กลิ่นหอม แต่อันนี้กลิ่นมันอ่อนๆ บอกไม่ถูกว่าเป็นกลิ่นอะไร

หลังใช้...

หน้านุ่มขึ้นมาก (ซึ่งส่่วนใหญ่มาส์กหน้ากากดีๆ จะให้คุณสมบัตินี้) แต่สำหรับเรื่องผิวขาวกระจ่างขึ้นไหม ไม่ค่อยรู้สึกนะคะ ช่วงนั้นหน้าหมองๆ ใช้แล้้วก็เฉยๆ แล้วก็ถ้าเทียบเรื่องช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว มาส์กน้ำมันมะกอกเวิร์กกว่าค่ะ แต่อันนี้จะกลิ่นหอมกว่า

จะซื้อมาใช้อีกไหม...

อาจจะซื้อค่ะ

มาส์กอันสุดท้ายจากโปร

Green Tea Essence Mask



ส่วนผสม



คำโปรย


*คลิกเพื่อขยาย

ช่วยยกกระชับและทำให้ผิวชุ่มชื้น มีส่วนผสมของวิตามินอี คอลลาเจน และชาเขียว

ก่อนใช้...

ความรู้สึกเดียวกันกับมาส์กสองอันบน กระดาษนุ่ม น้ำชุ่ม กลิ่นหอม เว้นแต่กลิ่นจะคนละแบบ คล้ายๆ กลิ่นของมาส์กลอกสิวเสี้ยนกลิ่นชาเขียวของบีโอเร

หลังใช้...

หน้านุ่มขึ้น ผิวก็ชุ่มชื้นดีค่ะ ผิวตึงกระชับขึ้นไหม บอกไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าต้องใช้ติดต่อกันหรือเปล่า แต่ชอบกลิ่นและความชุ่มชื้นที่ได้รับ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นดีกว่ามาส์กอาร์บูตินอันข้างบน

จะซื้อมาใช้อีกไหม...

อาจจะค่ะ

เอาล่ะค่ะ มาข้ามค่ายกันบ้าง

Baviphat Peach Juicy Mask Sheet



อันนี้ซื้อมาประมาณ 35 - 45 บาท

คำโปรยด้านหลัง



อ่านไม่ออกค่ะ แต่เป็นมาส์กเพื่อให้ผิวกระชับขึ้น ใช้แปะบนหน้า 15 - 20 นาทีี

แกะออกมาดูหน้าตา เป็นมาส์กหน้ากาก น้ำในมาส์กชุ่มอย่างที่เห็น



ก่อนใช้...

ตัวมาส์กกระดาษนุ่มดีค่ะ แต่ถ้าเทียบกับสามอันบน จะสู้ไม่ได้ กลิ่นหอมพีชอ่อนๆ ปรกติไม่ชอบกลิ่นพีช แต่มาส์กนี้ไม่ทำให้รู้สึกรำคาญเลย น้ำในมาส์กก็ชุ่มดีค่ะ อ้อ แต่ตัวกระดาษมาส์กบอบบางเหมือนกัน ต้องแกะดีๆ เดี๋ยวขาด

หลังใช้...

หน้านุ่มขึ้น แต่ไม่รู้ึสีึกว่าผิวกระชับขึ้นแต่อย่างใด ไม่รู้ว่าเพราะใช้ครั้งเดียวหรือเปล่า่ ผิวชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องลดรอยลอกที่จมูกมากเท่าไหร่ (คือช่วยได้บ้าง แต่น้อย)

จะซื้อมาใช้อีกไหม...

ไม่เอาดีกว่า อยากลองสูตรอื่น

อันสุดท้าย

Red Wine Mask



มันเป็นมาส์กกล่องๆ แบบที่กล่องหนึ่งจะมีหลายๆ ซอง ของ My Beauty Diary เราซื้อมาลองแค่อันเดียว ราคาประมาณ 45 บาท

ด้านหลังซองไม่มีคำโปรย คงเพราะอยู่ที่กล่องมากกว่า เลยไม่ได้ถ่ายรูปให้ดู

แต่มาส์ก red wine จะช่วยเรื่องผิวขาวใส และชุ่มชื้น

แกะออกมาจะเป็นมาส์กหน้ากาก แบบทีพลาสติกแบบนี้ติดทับ


*คลิกเืพื่อขยาย

ก่อนใช้...

เนื้อกระดาษนุ่ม (แต่สู้ของ skinlite ที่ทั้งหนาและนุ่มไม่ได้) เนื้อกระดาษบาง เวลาแกต้องระวังขาด ไม่ชอบพลาสติกที่ติดมาด้วยกัน มันทำให้คลี่มาส์กออกง่ายก็จริง แต่ว่ามันเกะกะ ไม่ชอบๆ น้ำมาส์กชุ่มกระดาษ

หลังใช้...

หน้านุ่มดีค่ะ รู้สึกชุ่มชื้นขึ้นพอสมควร เรื่องกระจ่างใส/ผิวขาวยังไม่ค่อยเห็นผล อาจจะเพราะใช้แค่อันเดียว (มันเป็นมาส์กทั้งกล่อง)

จะซื้อมาใช้อีกไหม...

อาจจะซื้อเพิ่ม ลองทั้งกล่อง หรือไม่ก็ซื้อสูตรอื่นมาลอง

หลังจากใช้มาส์กทั้งห้าอันนี้ทุกอาทิตย์ จะช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อมาส์กหน้ากากเพิ่ม เพราะใช้ Clarins Beauty Flash Balm (ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น) กับ เอาโลชั่นมะเฟืองใส่มา์ส์กหน้ากากแบบอัดเม็ด (ช่วยให้หน้าขาวใส) ซึ่งพอใจกับทั้งสองอันนี้ค่ะ


บล็อกอัพเดต

REVIEW: Colgate Plax Natural White Mouthwash ทดสอบ 5 เดือน เพื่อฟันขาว

WORKSHOP & REVIEW: Lunasol 2011 Spring Make up Collection

REVIEW: Lunasol Full Glamour Liquid Lips #06 Bright Pink

SWATCH REVIEW: MAC Pigment & Glitter (Lot: Feb 2011)

REVIEW: Ettusais Flat Design Liquid

REVIEW: Cleansing Express Cleansing Lotion Sebum V.S. Boots Botanics Soothing Eye Make Up Remover

REVIEW & HOW TO: Hot Topic Eyeshadow #Plexi Cloud Eye Shadow

REVIEW: มาส์กหน้ากาก Skinlite, Baviphat, & My Beauty Diary




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2554 0:13:36 น.
Counter : 4592 Pageviews.  

REVIEW & HOW TO: Hot Topic Eyeshadow #Plexi Cloud Eye Shadow

เป็นของเล่นใหม่ที่ได้มาไม่นานนี้

เป็นอายแชโดว์ของ hot topic #plexi cloud eye shadow

พาเล็ตเป็นกล่อง หน้าตาน่ารักมาก ลายเมฆเข้ากับชื่ออายแชโดว์


*คลิกเพื่อขยาย

ปริมาณ 4.8 g

ีราคา 9.99 USD (ประมาณสามร้อยบาท)

เปิดออกมาดูสี

เป็นโทนสีฟ้า ม่วง เงิน และเหลือง สวยมากกก


*คลิกเพื่อขยาย

ซูมๆ

ทุกอันจะมีกลิตเตอร์ชิ้นใหญ่นะคะ แต่ในรูปอาจจะมองไม่เห็นชัดเท่าไหร่



ถ้าเิิปิดข้างใต้ขึ้นมาจะเป็นกล่องไว้ใส่ของกระจุกกระจิกได้ ลายด้านล่างเป็นสติกเกอร์ติด ไม่ได้เป็นสกรีน



ลอง swatch บนหลังมือ



ด้านบนจะเป็นทาเปล่าๆ ไม่ทาไพรเมอร์
ด้านล่างจะเป็นแบบทาไพรเมอร์

แบบทาไพรเมอร์สีจะชัดกว่า สีฟ้ากับสีม่วงสดมากๆ สีฟ้าจะทาบนมือง่ายกว่า สีติดง่ายกว่า

สรุป...

เป็นอายแชโดว์ที่แพ็กเกจและตัวสีที่มองเห็นสวยมาก แต่ว่ากล่องด้านบนกับด้านในที่เป็นลายพิมพ์ เป็นสติกเกอร์ ไม่ได้เป็นสกรีน (ด้านบนฝาจะเนียนกว่า ถ้าไม่ไปมือบอนแกะมัน)

ตัวเนื้ออายแชโดว์เองนั้น ดูสีสวย บางสีเนื้อเป็นฝุ่น วิ้งกลิตเตอร์ใหญ่ พอทาออกมาเห็นกลิตเตอร์กระจัดกระจายไม่มาก ดูไม่วิ้งเหมือนในรูป สีที่ทาบนมือ ดูชัดเจนดี และยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อใช้กับไพรเมอร์

แต่เมื่อใช้กับเปลือกตานั้น สีเข้มสดอย่างฟ้าและม่วงใช้งานยาก คือเบลนด์ยาก แม้เราจะทาไพรเมอร์ แต่เมื่อเบลนด์ สีมันจะจางลงไปกว่าเดิมมาก ต้องใช้อายแชโดว์แบบเปียกถึงจะได้สีเข้มสะใจ แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่เป็นกับสีเหลืองและสีเงิน

ถ้าถามว่าอยากได้อีกไหม...ก็อยากได้อีกนะคะ แม้เนื้ออายแชโดว์จะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ให้สีสวยมาก ใช้แบบเปียกได้สวย และัตัวแพ็กเกจน่ารัก

ข้อดี...อายแชโดว์สีสวยและแปลก กล่องน่ารัก

ข้อเสีย...อายแชโดว์เนื้อไม่ดีเท่าไหร่ เบลนด์ยาก ควรแก้ด้วยการใช้แบบเปียก

HOW TO: Hot Topic Eyeshadow #Plexi Cloud Eye Shadow

หลังจากลงอายไพรเมอร์

เริ่มใช้แปรงอายแชโดว์หัวเล็กแตะอายแชโดว์สีฟ้า (Hot Topic #Plexi Cloud Eye Shadow) ทาทั่วเบ้าตาด้วย



เปลี่ยนเป็นแปรงหัวตัด (แปรงอะไรก็ได้ที่หัวเล็กๆ) แตะอายแชโดว์สีเงิน (Hot Topic #Plexi Cloud Eye Shadow) แล้วก็ระบายช่วงหัวตา ทั้งขอบตาบนและล่าง



กลับไปใช้แปรงอันเดิมที่ใช้ตั้งแต่แรก แตะอายแชโดว์สีม่วง (Hot Topic #Plexi Cloud Eye Shadow) แล้วก็ระบายช่วงหางตา ลงไปถึงขอบตาล่างเป็นรูป <



(หลังจากแต่งถึงขั้นตอนนี้ รู้สึกว่าอายแชโดว์สีม่วงและฟ้าให้สีอ่อนเกินไป เลยเปลี่ยนไปใช้แบบเีปียก)

เปลี่ยนเป็นแปรง crease หัวเล็ก (หรือแปรงหัวดินสอ) แตะอายแชโดว์สีเหลือง (Hot Topic #Plexi Cloud Eye Shadow) ระบายช่วงรอยพับเปลือกตา เหนือสีม่วงและสีฟ้า



เขียนอินเนอร์ไลน์ขอบตาบนด้วยอายไลเนอร์ดินสอสีดำ (Shu Uemura Drawing Pencil #ME Black)



เขียนอินเนอร์ไลน์ขอบตาล่าง ส่วนที่ระบายด้วยอายแชโดว์สีม่วง ด้วยอายไลเนอร์ดินสอสีม่วง (Wet n Wild Kohl Eyeliner #Lilac)



เขียนอินเนอร์ไลน์ขอบตาล่างที่เหลือ ด้วยอายไลเนอร์ดินสอสีขาวมุก (Make Up Forever Aqua Eyes #14L)



ทำให้หัวตาวิ้งๆ ด้วยอายไลเนอร์แบบน้ำสีขาววิ้ง (Etude Tear Drop Liner)



เขียนขอบตาบน ตวัดหางนิดเดียว ด้วยอายไลเนอร์แบบน้ำสีดำ (Majolica Marjoca Perfect Automatic Liner #BK999)



ได้แบบนี้



เติมแก้มสีชมพูกุหลาบ (Everyday Minerals #Sprung)

ลิปกลอสสีชมพูจัดๆ (L'oreal Colourjuice #Tutti Fruitti) ทากลอสวิ้งเงินทับ (Urban Decay Pocket Rocket #Julio)

รวมๆ



บล็อกอัพเดต

REVIEW: Colgate Plax Natural White Mouthwash ทดสอบ 5 เดือน เพื่อฟันขาว

WORKSHOP & REVIEW: Lunasol 2011 Spring Make up Collection

REVIEW: Lunasol Full Glamour Liquid Lips #06 Bright Pink

SWATCH REVIEW: MAC Pigment & Glitter (Lot: Feb 2011)

REVIEW: Ettusais Flat Design Liquid

REVIEW: Cleansing Express Cleansing Lotion Sebum V.S. Boots Botanics Soothing Eye Make Up Remover

REVIEW & HOW TO: Hot Topic Eyeshadow #Plexi Cloud Eye Shadow




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2554 11:39:30 น.
Counter : 4423 Pageviews.  

REVIEW: Cleansing Express Cleansing Lotion Sebum V.S. Boots Botanics Soothing Eye Make Up Remover

Boots Botanics Soothing Eye Make Up Remover เป็นรีมูฟเวอร์ที่ใช้ซ้ำมาหลายครั้ง แต่พอหมดครั้งสุดท้าย เลยลองซื้อ Cleansing Express มาใช้บ้าง เพราะยังไม่เคยใช้คลีนซิ่งแบบน้ำมาก่อน

ขอเริ่มที่ Boots ก่อนนะคะ

Boots Botanics Soothing Eye Make Up Remover

เป็นรีมูฟเวอร์สำหรับดวงตา



ปริมาณ 150 ml

ราคา แอบจำไ่ม่ได้น่ะค่ะ ซื้อโปร 1 แถม 1 เมื่อนานมาแล้ว ใช้นานกว่าจะหมด แต่ราคาพอๆ กับของ l'oreal

ส่วนผสม


*คลิกเพื่อขยาย

เนื้อผลิตภัณฑ์ จะเป็นแบบนี้



คือจะแยกเป็นชั้น เป็นน้ำกับน้ำมัน

เวลาใช้ต้องเขย่าให้เข้ากัน



เวลาล้างเครื่องสำอางบนตา ชอบเทรีมูฟเวอร์ใส่สำลีชุ่มๆ แล้วก็มาแปะที่ตาแบบนี้



(แต่งตาเต็มที่ อายแชโดว์ อายไลเนอร์ กันน้ำ)

ผลการล้างครั้งแรก


*คลิกเพื่อขยาย

ออกมาเยอะดีนะคะ แต่เหลือพวกคราบอายไลเนอร์บ้าง

ต้องเช็ดครั้งที่สอง (สีตกค้างเขียวๆ เป็นเพราะสีอายแชโดว์นะคะ ไม่เกี่ยวกับตัวรีมูฟเวอร์)


*คลิกเพื่อขยาย

บางทีเขียนอินเนอร์ไลน์เยอะๆ แล้วด้านในจะล้างไม่สะอาดง่ายๆ ต้องเอาีคัตตอนบัดชุบรีมูฟเวอร์เช็ดอีกที


*คลิกเพื่อขยาย

สรุป...

เป็นรีมูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ล้างเครื่องสำอางรอบดวงตาได้สะอาดโดยไม่ระคายเคือง เพราะมีส่วนผสมของน้ำมัน เลยล้างพวกเครื่องสำอางได้ง่าย ส่วนที่ล้างออกลำบากอย่างอายไลเนอร์ อาจจะต้องล้างซ้ำสองครั้ง

ราคาไม่แพง (โดยเฉพาะเวลาโปร 1 แถม 1)

ข้อเสีย...ปากขวดมันไม่มีจุกที่ทำให้เทรีมูฟเวอร์ได้ทีละนิด บางทีตอนเทจะชอบทำหกง่ายๆ และบางคนไม่ชอบรีมูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ก็อาจจะไม่ชอบเจ้านี่

อีกหนึ่งข้อเสีย (ตามชื่อผลิตภัณฑ์ คือมันเป็นรีมูฟเวอร์สำหรับตา เหมาะกับล้างดวงตา แต่มิถุนาก็เอามาเช็ดลิปสติกด้วย (ซึ่งสะอาดดีมาก) บางทีก็เอามาเช็ดหน้า (แต่หลังจากเช็ดหน้าจะมัน แต่ไม่เคยแพ้เพราะน้ำมันของมัน)

ต่อกันที่

Cleansing Express Cleansing Lotion Sebum



ปริมาณ 300 ml

ราคา 300 กว่าบาท

ฉลากที่ขวด (คำโปรยและส่วนผสม)


*คลิกเืพื่อขยาย

เป็นโลชั่นเช็ดเครื่องสำอางสูตรกระชับรูขุมขน สามารถเช็ดได้ทั้งหน้า โดยไม่ต้องล้างน้ำเปล่าซ้ำ ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารกันเสีย

วิธีใช้



กด cleansing express ใส่สำลี แล้วเอามาเช็ดหน้า

หน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอาง (รองพื้น อายไลเนอร์ ลิป ฯลฯ)



เริ่มเช็ดดวงตาก่อน

ใช้วิธีกด cleansing express ใส่สำีลีให้ชุ่มแล้วก็แปะที่ตาสักแ๊ป๊บ แล้วเช็ดออก


*คลิกเพื่อขยาย

ในรูปด้านล่างขวา เกือบจะสะอาดนะคะ เหลืออินเนอร์ไลน์อีกนิดหน่อย ต้องใช้คัตตอนบัดเช็ดอีกที แต่ลืมถ่ายรูปไว้ค่ะ

มาเช็ดปากกันบ้าง


*คลิกเพื่อขยาย

เช็ดครั้งแรก สีหลุดติดมาเยอะเลยค่ะ

ครั้งที่สองนั้นมีสีติดมานิดเดียว (ในรูปแทบมองไม่เห็นนะคะ สีจางมาก)

ปากไม่หลงเหลือความมันของกลอส ทั้งที่ cleansing express มันเป็นน้ำๆ ดูเหมือนจะไม่น่าล้างพวกกลอสได้สะอาด

สุดท้าย...เช็ดทั้งหน้า (ทารองพื้นและแป้ง)


*คลิกเพื่อขยาย

เสียสำลีไปห้าแผ่นกว่าจะสะอาด

เกลี้ยงแล้ว



สรุป...

เป็นคลีนซิ่งแบบน้ำที่ใช้งานง่ายดีค่ะ ล้างเครื่องสำอางที่ตาและปากได้สะอาด แต่ถ้าเป็นพวก base make-up อย่างรองพื้น อาจจะล้างละเอียดหน่อย ไม่งั้นมันจะไม่หมดจด

หลังเช็ดหน้าจะไม่มัน ผิวนุ่มๆ ดี แต่ช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนไหม ตอนนี้ใช้ยังไม่ถึงครึ่งขวดเลยค่ะ ยังไม่รู้สึกว่าช่วยอะไร

ราคาไม่แพงมาก ปริมาณเยอะดีค่ะ แต่ก็ใช้เปลืองเหมือนกัน

ข้อเสีย...รสมันขมๆ อ่ะค่ะ เวลาเช็ดปากแล้วบางทีเผลอไปเม้มโดนก็ขมๆ แหวะๆ ไม่ชอบตรงนี้

บล็อกอัพเดต

REVIEW: Colgate Plax Natural White Mouthwash ทดสอบ 5 เดือน เพื่อฟันขาว

WORKSHOP & REVIEW: Lunasol 2011 Spring Make up Collection

REVIEW: Lunasol Full Glamour Liquid Lips #06 Bright Pink

SWATCH REVIEW: MAC Pigment & Glitter (Lot: Feb 2011)

REVIEW: Ettusais Flat Design Liquid

REVIEW: Cleansing Express Cleansing Lotion Sebum V.S. Boots Botanics Soothing Eye Make Up Remover




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2554 7:17:03 น.
Counter : 5159 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.