Group Blog
 
All blogs
 

SWATCH & REVIEW: พาเลตและไอเทมทั้งหมดของ Urban Decay ที่ครอบครอง

พอดีได้ของขวัญวันเกิดล่วงหน้าเป็นพาเลตจาก UD เลยว่าจะทำบล็อกอุทิศให้ UD เสียเลย

ตอนนี้ครอบครองสามพาเลต



สมาชิกใหม่เป็น Fun Palette นะคะ



ราคาประมาณ 34 USD

พลิกข้างหลังให้ดูก่อน



ประกอบไปด้วย อายแชโดว์หกสี อายไลเนอร์ 1 แท่งเล็ก อายไพรเมอร์จิ๋ว



สีเตะตานี่ เขียว ม่วง ชมพูเลยค่ะ

Uzi สีขาวเป็นสีที่อยากได้มานานแล้ว (เช่นเดียวกับ Flipside)

มาดูสีชัดๆ (เดี๋ยวอายไลเนอร์ 24/7 จะรีวิวหลังๆ นะคะ)

รูปบนจะเป็นแบบเปิดแฟลช รูปล่างจะเป็นในแสงธรรมชาติค่ะ



Swatch (รวมอายไลเนอร์ แต่เดี๋ยวจะรีวิวอายไลเนอร์แยกต่างหากอีกที)

ฝั่งซ้ายจะเป็นรูปเปิดแฟลช ฝั่งขวาเป็นแบบในแสงธรรมชาติ

และในแต่ละรูปจะแยกอีกว่า ฝั่งซ้ายไม่ทาอายไพรเมอร์ ฝั่งขวาทาอายไพรเมอร์



สีสวยมากกก ชอบสีสดๆ แล้วก็สีขาว

ขอต่อที่พาเลตอื่นก่อนนะคะ พอแปะ swatch ครบจะสรุปความพอใจของอายแชโดว์ค่ะ

เซ็ตต่อมาเป็น Summer of Love



สีอายแชโดว์ข้างใน



Swatch

พาเลตนี้ เราชอบ Maui Wawie กับ Flash



สุดท้ายกับพาเลตแรกที่เรามี

Skull Shadow Box



พาเลตนี้ไม่มีอะไรนอกจากอายแชโดว์ ไม่มีอายไลเนอร์ ไม่มีไพรเมอร์ เหมือนพาเลตสองอันข้างบน

สีชัดๆ อันนี้ใช้ไปเยอะแล้ว



Swatch ช่วงแรกๆ ติด Oil Slick กับ Cherry หลังๆ ชอบ Vert



สรุป...

อายแชโดว์ของ UD เนื้อดี เนียน ปาดแล้วสีชัดเจน แต่เวลาเอาแปรงแตะอาจจะมีผงๆ บ้าง

ติดทนไหม? ติดทนพอสมควร (ให้สี่ดาว) ถ้าจะให้ติดทนทั้งวันควรใช้อายไพรเมอร์ เช่นเดียวกับถ้าต้องการให้สีชัดขึ้นควรจะทาอายไพรเมอร์

เนื้ออายแชโดว์สีหลายแบบ แบบชิมเมอร์และแบบกลิตเตอร์

แบบชิมเมอร์เนื้อละเีอียดดีค่ะ แบบกลิตเตอร์บางสีจะกลิตเตอร์ใหญ่มาก ถ้าทาไม่ดี เข้าตาแล้วจะเจ็บได้ อย่างสี Uzi, Midnight Cowboy Ride Again ฯลฯ

ข้อเสียของพาเลต UD ที่เจอบ่อยๆ คือ พาเลตมักจะจับคู่สีเดิมๆ มาไว้ในตลับ อย่างสี Midnight Cowboy Ride Again, Chopper, Baked เป็นสียอดฮิตสีซ้ำเลย อย่างเรามี Chopper ซ้ำ

ข้อเสียอีกหนึ่งอย่างคือราคาแพง หาซื้อในไทยยาก

แพ็กเกจน่ารักดี แต่บางคนอาจจะไม่ชอบพาเลตกระดาษแข็ง

ต่อมาขอรีวิวรายการดังนี้ค่ะ



เริ่มด้วยอันบนสุดก่อนนะคะ

Urban Decay Matte Eyeshadow #Narcotic



ชอบตลับมากเลย ลายน่ารัก แต่ก๊องแก๊งไปนิด

ปริมาณ 1.4 g

ราคา 17 USD

เปิดสี



เป็นสีแบบฟ้าจริงๆ

Swatch (รวมกับอันอื่นนะคะ)

ฝั่งซ้ายจะไม่ได้ทาไพรเมอร์ สีจะจางชัดมาก
ฝั่งขวาทาอายไพรเมอร์แล้ว



ลองทาบนตา



สรุป...

อายแชโดว์เนื้อแมตต์ มีปัญหาประจำคือ มันจะทาติดยาก ตอนที่เราลองเอานิ้วแตะอายแชโดว์สีฟ้านี้ มันติดนิ้วดี และเนื้อนุ่มมาก แต่ทาผิวไม่ค่อยติด ต้องใช้อายไพรเมอร์

พาทาบนตา สีจะดูดรอปลงไปนิดหน่อย ไม่สดเท่าทาบนมือ

ไม่ได้สีเหมือนในตลับทีเดียว แต่ถ้าถามว่าชอบสีนี้ไหม ตอบว่าชอบค่ะ

ติดทนเหมือนกัน แต่อาจจะด้อยกว่าพวกเนื้อชิมเมอร์เล็กน้อย

เป็นอายแชโดว์สีสวย แต่ควรใช้ร่วมกับอายไพรเมอร์

Urban Decay Cream Shadow #Midnight Rodeo



ปริมาณ 6.7 ml

ราคา 17 USD

เป็นครีมอายแชโดว์ ที่มีแปรงไว้ทา



สี Midnight Rodeo จะออกนู้ดๆ และวิ้งจัดมากกกกก

สรุป...

เราชอบครีมอายแชโดว์ของ UD มากๆ เลย ปรกติเราจะเฉยกับพวกครีมอายแชโดว์นะ เพราะเปลือกตามัน แต่ของ UD นอกจากสีสวยแล้ว ยังติดทนอีกต่างหาก

แต่ว่าหนังตามันอย่างเราก็ทานอาการตกร่องยามเย็นไม่ได้ ต้องใช้ร่วมกับอายไพรเมอร์ถึงจะทนสุดๆ

ชอบเอาสีนี้มาระบายที่หัวตา ให้วิ้งๆ นู้ดๆ ที่สวยมากๆ และติดทนด้วย

เนื้อครีม เบลนด์ง่าย เราเคยมีสีดำ ก็เบลนด์ไม่ยากเท่ากับครีมอายแชโดว์สีเข้มบางยี่ห้อที่เราเคยใช้ แถมทาแล้วยังดำไม่จืดจางไปเมื่อเบลนด์อีกด้วย

เป็นครีมอายแชโดว์ที่แนะนำสุดๆ ค่ะ แม้ราคาจะไม่น่ารักเท่าไหร่

ต่อกันที่อายไลเนอร์แบบน้ำ



อันซ้ายเป็น Liquid Liner Liquid Shadow สี Roach

อันขวาเป็น Liquid Liner สี Thames

พู่กันเป็นหัวแหลมๆ



สองอันนี้เป็น L/E นะคะ ไม่มีขายแล้ว

ราคาตกประมาณ 16 USD

ขนาด 6 ml

สรุป...

Liquid Liner Liquid Shadow สี Roach เป็นอายไลเนอร์สีน้ำตาลแบบช็อกโกแลต สีเข้มสวย แปรงใช้ง่าย เพราะหัวแหลมเล็ก

ข้อเสีย...ไม่ติดทน เราใ้ช้แล้วแพนด้า ต้องเอา Benefit She Laq ที่เป็นตัวซีลอายไลเนอร์ทาทับ ไม่งั้นแพนด้าแต่หัววันเลย

ลองทาบนตานะคะ



ส่วน Liquid Liner สี Thames เป็นสีเขียวอมน้ำเงิน สวยดีค่ะ สีสวยมาก แปรงก็ใช้ง่ายอีกเหมือนกัน

อันนี้จะติดทนทีเดียวนะคะ ไม่ลอกเลือนระหว่างวัน ออกแนว in2it ที่ล้างง่ายแต่ติดทนค่ะ

ชอบมากๆ

ทาบนตาให้ดู



ต่อกันสุดท้ายที่

24/7 Glide-on Eye Pencil



ไซส์ใหญ่ ขนาด 1.2 g ราคา 18 USD

ขนาดเล็ก (จากพาเลต ไม่ก็จากเซ็ตรวม) ขนาด 0.8 g

Swatch



ลองทาบนตาให้ดูนะคะ

เริ่มด้วย

Oil Slick



Bourbon



Lucky



Covet



Electric



ชอบ Electric กับ Covet มากกกกกกก

สรุป...

อายไลเนอร์ดินสอ เนื้อครีมมี่มาก ส่วนใหญ่ทุกสีจะเป็นสีเหลือบและมีวิ้งเล็กๆ นะคะ เว้น Oil Slick จะเห็นวิ้งเงินชัดกว่าสีอื่นๆ

สีอ่อนที่สุดอย่าง Electric เขียนยากกว่าใคร ต้องระบายทับสองครั้งขึ้นไป

แห้งช้าพอสมควร แถมยังแพนด้าอีกต่างหาก เคยเขียนสีเขียวกับฟ้าไปประมาณชั่วโมงก็เริ่มมีสีติดที่เปลือกตา ส่วนชั่วโมงนี้จะเป็นเส้นๆ เลย ต้องใช้พวก Benefit She Laq ไม่ก็อายไลเนอร์กลิตเตอร์ทาทับเพื่อซีลสีอีกที ถึงจะช่วยได้

ดินสอเหลาง่าย ไส้ไม่หัก แต่อย่าทำหล่นเชียว ไส้มันนิ่ม อาจจะหักได้

ข้อดีมากๆๆๆ สีสวย ถูกใจ

ข้อเสีย ไม่ติดทน ราคาแพง หาซื้อยาก

ผลิตภัณฑ์อื่นของ UD ที่เคยรีวิว (ตอนรวมลิงก์ เพิ่งรู้ว่ารีวิวเปรียบเทียบ Primer Potion หลายครั้งมากกกกกก)



REVIEW: Urban Decay Primer Potion V.S. e.l.f. Eyelid Primer V.S. Nars Smudge Proof Eyeshadow Base

REVIEW: Urban Decay Pocket Rocket #Julio ลิปกลอสผสมฟีโรโมน

REVIEW: Urban Decay Primer Potion V.S. Too Faced Shadow Insurance

REVIEW: เปรียบเทียบ Urban Decay Primer Potion #Sin V.S. Etude Proof 10 Eye Primer

บล็อกอัพเดต

REVIEW: ลิปสีนู้ดซีดๆ Revlon Matte Lipstick #001 Nude Attitude + B&C MakeMania Lip Silicone #503

REVIEW: Benefit Finding Mr. Bright

Review: Sleek Palette #Bad Girl, Oh So Special, Sunset + HOW TO: Sunset Tropical Eyes

SWATCH & REVIEW: พาเลตและไอเทมทั้งหมดของ Urban Decay ที่ครอบครอง




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2554    
Last Update : 11 มิถุนายน 2554 0:21:48 น.
Counter : 3363 Pageviews.  

Review: Sleek Palette #Bad Girl, Oh So Special, Sunset + HOW TO: Sunset Tropical Eyes

Review: Sleek Devine Mineral Based Eyeshadow Palette

เป็นพาเล็ตที่รอมานานค่ะ ดีใจที่ได้สักที อ่านรีวิวมาเยอะ โดนยั่วน้ำลายมานานแล้วววว

เราได้มาสามพาเล็ตเลย (จริงๆ สั่งแค่ Bad Girl แล้วบอกให้เพื่อนซื้ออะไรก็ได้ตามใจ เพื่อนเลยเลือกอีกสองอันมาให้ด้วย)



แกะๆๆ

มีสามพาเล็ต Bad Girl, Oh So Special & Sunset



เป็นพาเล็ตแพ็กเกตดีเลยค่ะ แข็งแรง ขนาดประมาณ 7 x 14 cm มีกระจกบานใหญ่ กับฟองน้ำทาตาหนึ่งอัน

ราคา 10USD

ปริมาณ 12 สี x 1.1 g

แปะส่วนผสมให้ดูก่อน



โชว์ด้านใน



เนื้ออายแชโดว์ครั้งแรกที่แตะ ให้ความรู้สึกดีมาก

เนื้อมุกๆ ชิมเมอร์จะนุ่มๆ ส่วนเนื้อแมตต์จะแข็งหน่อย แต่แตะแล้วสีจัดทั้งหมดเลย



ดูแต่ละพาเล็ตชัดๆ กันค่ะ

Bad Girl

เป็นโทนเข้มๆ ใครอยากได้โทนสโมกกี้อายส์เข้มๆ แนะนำพาเล็ตนี้ค่ะ

(ด้านบนเป็นแบบเปิดแฟลช ด้านล่างเป็นแบบแสงธรรมาชาติค่ะ)



Swatch

ด้านซ้ายเป็นแบบเปิดแฟลช ด้านขวาเป็นแบบแสงธรรมชาิตินะคะ

ส่วนในแต่ละรูป แยกฝั่งซ้ายเป็นไม่ทาไพรเมอร์ ฝั่งขวาเป็นทาไพรเมอร์



Oh So Special

พาเล็ตนี้โทนหวานๆ เป็นสีชมพูและน้ำตาลส่วนใหญ่



Swatch (เป็นพาเล็ตที่เราชอบที่สุดเลย)



Sunset

ตลับนี้ไม่มีชื่อสี ไม่ดีเลย แต่สีส้มนี่ถูกใจเรามากๆๆๆ



Swatch



สรุป...

เป็นอายแชโดว์พาเล็ตที่สีเยอะดีค่ะ ตลับนึงมีสิบสองสี ใช้คุ้มเลย ราคาไม่แพงด้วย

อายแชโดว์เนื้อนุ่ม อันไหนที่เป็นเนื้อแมตต์จะแน่น เวลาใช้แปรงแตะมีผงๆ ออกมาบ้าง แต่ให้สีสดและชัดเจน ค่อนข้างติดทนค่ะ (ให้คะแนนติดทน 5 ดาว)

พาเล็ตที่เราชอบมากที่สุดเป็น Oh So Special สีชมพูสวยมากกกก รักเลย สีเนื้อกับน้ำตาลก็ใช้งานง่ายและใช้ได้บ่อยดีค่ะ ใครชอบโทนหวานๆ และเอิร์ธโทน แนะนำพาเล็ตนี้

พาเล็ตแข็งแรง กระจกบานใหญ่สะใจดี

ข้อเสีย...ไม่มีขายในไทยค่ะ อันนี้เราฝากเพื่อนซื้อ
อายแชโดว์บางสีในตลับจะดูซ้ำๆ กัน อย่างเช่นสีดำ ที่มักจะเป็นสีพื้นฐานในแต่ละตลับเลย

HOW TO: Sunset Tropical Eyes

เห็นสีส้มใน Sunset แล้วต้องแต่งตาแบบนี้ให้ได้เลยกลายมาเป็นฮาวทูนี้

หลังจากลงไพรเมอร์แล้ว ก็ใช้แปรงอายแชโดว์ขนาดกลางแตะสีส้มระบายที่เบ้าตา



จากนั้นเปลี่ยนเป็นแปรงหัวเล็ก แตะสีเหลืองทอง ระบายที่หัวตา ลงไปที่ขอบตาล่างราวครึ่งหนึ่ง



เช็ดแปรงอันเดิม แล้วแตะอายแชโดว์สีฟ้า ลากถัดจากสีเหลืองของขอบตาล่างแล้วก็ลากเป็นหางออกไปตามรูป (อย่าลืมเบลนด์สีระหว่างสีเหลืองกับฟ้าให้กลืนกันเล็กน้อยด้วยค่ะ)



เปลี่ยนเป็นแปรงหัวตัด แตะอายแชโดว์สีดำ ทำเป็น Cut Crease ลากเป็นเส้นตัดตรงขอบเบ้าตา แล้วก็ลากเส้นเล็กๆ ชิดขอบตาล่าง (ประมาณ 1 ใน 3) เฉียงขึ้นไปขนาบกับสีฟ้า แล้วก็เบลนด์ขอบสีดำด้านบนให้ฟุ้งๆ



ได้แบบนี้ (ถ้าอยากให้เส้นขอบตาชัดกว่านี้ ให้เขียนอินเนอร์ไลน์ด้วยอายไลเนอร์ดินสอสีดำนะคะ)



แก้ม ใช้ Stila Lip & Cheek Stain #Mango Crush เป็นสีส้มๆ
ปาก ใช้ Etude Vip Girl Lipstick #OR207 สีส้มอีกเช่นกัน ทากลอสวิ้งๆ นู้ดๆ ทับ ใช้ Suhada Glossy Finish

ได้รวมๆ แบบนี้



บล็อกอัพเดต

REVIEW: ลิปสีนู้ดซีดๆ Revlon Matte Lipstick #001 Nude Attitude + B&C MakeMania Lip Silicone #503

REVIEW: Benefit Finding Mr. Bright

Review: Sleek Palette #Bad Girl, Oh So Special, Sunset + HOW TO: Sunset Tropical Eyes

SWATCH & REVIEW: พาเลตและไอเทมทั้งหมดของ Urban Decay ที่ครอบครอง




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2554    
Last Update : 11 มิถุนายน 2554 0:22:22 น.
Counter : 4891 Pageviews.  

REVIEW: Benefit Finding Mr. Bright

หนึ่งในของเล่นใหม่ที่เห่อช่วงนี้ตามที่บอกไว้ในบล็อกที่แล้วนะคะ

เป็นพาเล็ตรวมผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กของ Benefit

ชุดนี้จะเน้นเรื่องผิวโกลว์ สว่างใส ปิ๊งๆ



ราคา 1360
แต่เราฝากเพื่อนซื้อ ตีราคาเป็น USD = 36USD ราคาถูกกว่าเล็กน้อย

เปิดออกมา

เจอ manual ก่อนเลย



manual สอนวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ



เอา manual ออก เจอของเหล่านี้



erase paste in 02 (medium) คอนซีลเลอร์สีแซลมอน
ขนาด 3.2 g

girl meets pearl เป็นไพรเมอร์สีชมพูและทอง
ขนาด 7.5 ml

posietint ทินต์สีชมพู
ขนาด 4.0 ml

high beam เป็นไฮไลท์
ขนาด 2.5 ml

ส่วนผสม



ถ้าเอาของกับถาดกระดาษออก จะได้กล่องน่ารักๆ แบบนี้ไว้ใส่ของ



Swath ของแต่ละตัว

ฝั่งซ้ายแบบเปิดแฟลช ฝั่งขวาเป็นในแสงธรรมชาติ
และในแต่ละรูป ฝั่งซ้ายเป็นแบบป้ายให้เห็นสีชัดๆ ฝั่งขวาเบลนด์สีจนกลืนกันแล้ว



มาดูผลงานของแต่ละชิ้นกันค่ะ

ขอเริ่มด้วย Erase Paste ก่อน

เป็นคอนซีลเลอร์ สีส้ม เหมาะกับใต้ตา ยิ่งใครที่ใต้ตาออกม่วงๆ จะยิ่งกลบได้ดีนะคะ

ฝั่งซ้ายทา Erase Paste ฝั่งขวาไม่ได้ตา จะเห็นว่าฝั่งขวาดูคล้ำๆ กว่า



สรุป...

เนื้อคอนซีลเลอร์ค่อนข้างนุ่มและเป็นครีมมี่มากๆ เกลี่ยง่าย ค่อนข้างชอบเนื้อนะคะ ไม่ตกร่องด้วย

สีส้มช่วยให้ใต้ตาสว่างทันทีเลยค่ะ เอาไว้กลบพวกรอยสิวเล็กๆ ก็ใช้ได้ (แต่ไม่ดีเท่ากลบใต้ตา)

เป็นคอนซีลเลอร์แนะนำสำหรับคนใต้ตาเป็นสีม่วงคล้ำ ผิวแห้ง อยากได้คอนซีลเลอร์เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่ตกร่อง

ต่อด้วย Girl Meet Pearls

เป็นไพรเมอร์วิ้งๆ ใช้ทาเดี่ยวๆ หรือผสมกับพวกรองพื้นในการทา จะช่วยให้หน้าดูโกลว์ขึ้น

ผลงานของมัน
รูปแรกจะเป็นหน้าเปล่าๆ รูปที่สองทา Erase Paste รูปสาม ใช้ Girl Meets Pearl รูปที่สี่ ทาแป้งพัฟไม่ผสมรองพื้น



ไม่ค่อยเห็นความต่างตอนทากับไม่ทาในภาพรวมนะคะ แต่ถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นวิ้งละเอียดทั่วหน้า เป็นไพรเมอร์ที่ให้ความวิ้ง แต่ไม่เวอร์ กำลังสวยค่ะ เหมาะกับคนรูขุมขนกว้างด้วย ไม่ขยายรูขุมขนให้ดูใหญ่ตามวิ้ง

แต่...ไม่ได้ช่วยให้หน้าดูสว่างใสเท่าไหร่ เรียกว่าทำให้หน้าดูมีวิ้งๆ มากกว่าค่ะ

ตัวนี้คล้ายกับ Hollywoodglo



แต่ต่างกันตรงที่ Girl Meets Pearl มันจะออกทองๆ มากกว่า และ Hollywoodglo จะวิ้งเยอะกว่า (แต่ก็ไม่ได้วิ้งน่าเกลียดชนิดทำให้หน้าเป็นลูกนิมิต)

Swatch ทั้งสองเทียบให้ดูนะคะ



เบลนด์ทั้งสองแล้ว ถ้าไม่สังเกตหน้าดีๆ อาจจะแยกไม่ออก



ส่วนตัวชอบทั้งคู่นะคะ ถ้าใครมีอันใดอันหนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องมีอีกอัน แต่ถ้ากังวลเรื่องรูขุมขน เราจะแนะนำ Girl Meets Pearl มากกว่า

และกลิ่นของ Girl Meets Pearl ถูกใจเรามากกว่าค่ะ กลิ่นหอม ไม่เหมือนกลิ่นแป้งน้ำแก่ๆ เหมือน Hollywoodglo

ต่อกันที่ Posie Tint กับ High Beam นะคะ

็High Beam เคยรีวิวคู่กับ Moon Beam ในรีวิว Benefit Her Name Was Glowla แล้ว ถ้าสนใจก็คลิกอ่านที่นี่ึค่ะ

ฝั่งซ้ายเป็น High Beam ฝั่งขวาเป็น Posie Tint



ลอง Posie Tint ก่อนนะคะ

เป็น Tint ไว้ทาปากและแก้ม สีชมพู และติดทน

Posie Tint เป็นสีที่อยากได้ค่ะ สีชมพูสวยมากกกกกกก

ทาบนปาก

รูปนี้ลองที่ริมฝีปากล่างก่อน ริมฝีปากบนเป็นสีปากจริงค่ะ



ทาทั้งปาก ให้สีชมพูสวยมากเลย

รูปซ้ายแบบเปิดแฟลช รูปขวาในแสงธรรมชาติ



เอามาทาแก้มต่อนะคะ

วิธีทาแก้ม...ใช้แต้มเป็นจุดบนแนวแก้มที่ต้องการ แล้วรีบเกลี่ยให้กลืนกับผิวโดยเร็ว ต้องรีบหน่อยนะคะ แต้มเสร็จเกลี่ยเลย ทาทีละข้าง เพราะมันแห้งไว ไม่งั้นหน้าจะเป็นด่างๆ สีชมพูค่ะ



ได้สีแบบนี้



สรุป...

เป็น Tint สีชมพูสวยมากกกก ทาปากและแก้มจะได้สีชมพูเป็นธรรมชาติ ปรกติเราไม่ทา Tint นะ เคยมีทั้งของ Benetint, Etude ฯลฯ แต่ใช้แล้วไม่ถูกใจเลย แต่ก็ยังอยากลอง Posie Tint ปรากฎว่าชอบมากๆ เป็นสีชมพูสวยและใส

เราว่าเืนื้อของ Tint แบบนี้เป็นเหมือนโลชั่น ทาง่ายกว่าแบบน้ำๆ (หรือ Benetint) เกลี่ยแล้วไม่เป็นด่างง่ายๆ (แม้ว่าจะแห้งไว้ ถ้าเกลี่ยไม่ทันอาจจะเป็นด่าง)

ค่อนข้างติดทน เรากินอาหารไป ปากยังชมพูอยู่เลย แก้มก็ทาแล้วทนเหมือนกัน

ส่วนใหญ่ทาหลังจากแป้งแล้ว เพราะรู้สึกว่าสีชัดเจนกว่า

High Beam เป็นไฮไลต์วิ้งละเอียด สีชมพู ดูโกลว์สวยมาก

วิธีใช้...ใช้ทาตามส่วนโหนกนูนของหน้าเพื่อเน้นให้ดูโกลว์ หรือจะผสมกับรองพื้นเล็กน้อยแล้วทาทั่วหน้าก็ได้ค่ะ

เราชอบทาที่โหนกแก้ม จะทำให้ดูเงาๆ สวยมากกกกก

วิธีใช้ก็เหมือนกับ Posie Tint เลย แต่อาจจะไม่ต้องรีบเกลี่ยเท่าไหร่



รูปแบบใหญ่ แก้มดูเงาสวยกำลังดี



สรุป...

เป็นไฮไลต์ที่สวยมาก เราชอบตรงที่วิ้งมันละเอียด ทาแล้วไม่ขยายรูขุมขนบนหน้าเรา ทาแล้วดูเป็นธรรมชาติ

ติดทนไหม เราว่าติดทนปานกลาง เราเป็นคนหน้ามันไวและเหงื่อออกง่าย ถ้าไปตะลอนๆ ทั้งวัน อาจจะมีจางๆ ลงไป

เป็นไฮไลต์ที่แนะนำสุดๆ ค่ะ ถ้ากลัวไม่ชอบ ลองหาไซส์มินิมาลองนะ เราใช้ได้นานเลยล่ะ

ทิ้งท้ายด้วยรูปในแสงธรรมชาติ ที่ทาปากและแก้มด้วย Posie Tint และทาโหนกแก้มด้วย High Beam (แต่อาจจะมองไม่เห็น High Beam เพราะว่าแสงอาทิตย์มันสาดใส่)



บล็อกอัพเดต

REVIEW: ลิปสีนู้ดซีดๆ Revlon Matte Lipstick #001 Nude Attitude + B&C MakeMania Lip Silicone #503

REVIEW: Benefit Finding Mr. Bright

Review: Sleek Palette #Bad Girl, Oh So Special, Sunset + HOW TO: Sunset Tropical Eyes

SWATCH & REVIEW: พาเลตและไอเทมทั้งหมดของ Urban Decay ที่ครอบครอง




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2554    
Last Update : 11 มิถุนายน 2554 0:22:42 น.
Counter : 5298 Pageviews.  

REVIEW: ลิปสีนู้ดซีดๆ Revlon Matte Lipstick #001 Nude Attitude + B&C MakeMania Lip Silicone #503

ได้ลิปสีนู้ดแบบที่ชอบมา จับคู่กันแล้วลงตัวมากๆ

ขอเริ่มรีวิวลิปสติกก่อนนะคะ

REVIEW: Revlon Matte Lipstick #001 Nude Attitude

รุ่นแมตต์ ปลอกจะเป็นแบบด้านๆ



ปริมาณ 4.2 g

ราคา 8USD แต่เมืองไทยขายสามร้อยกว่าๆ (ถ้าจำไม่ผิด)

เบอร์ 001 Nude Attitude สวยมากกกก



Swatch จะดูเหมือนคอนซีลเลอร์



ตอนทาบนมือ เนื้อลื่นๆ ไม่แห้งนะคะ แต่เห็นในรูปแล้วแห้งๆ

พอทาปากแล้วแห้งค่ะ คือ ตอนทาน่ะ เนื้อมันไม่แห้งหรอก แต่ด้วยสีที่อ่อนจัด และเป็นแบบแมตต์ และเราเป็นคนปากแห้งและเป็นร่อง มันเลยเน้นร่องปากชัด (สำหรับเรา จะทาอันนี้ทีต้องสครับปากก่อนเลยล่ะค่ะ)

ทาบนปาก แบบซูม



สีปากแบบรูปใหญ่

นู้ดซีดสวยค่ะ ชอบมากๆ สีถูกใจ (แต่เนื้อยังไม่ถูกใจ แต่ก็ทนเอา เพราะชอบสี)



สรุป...

เป็นลิปเนื้อแมตต์ สีนู้ดที่สวยมากกก ใครอยากได้ปากซีดๆ แต่ไม่ซีดขนาดเด้งออกมาจากหน้าเหมือนเอาสีคอนซีลเลอร์มาทา แนะนำสีนี้ค่ะ

ลิปกลบสีปากได้มิด

เนื้อลิปดูเหมือนจะชุ่มชื้นนะคะ แต่ทาบนปากแล้วผลเห็นชัดว่าแห้งเชียว คนปากแห้งอาจจะไม่ชอบ แ่ต่ถ้าสครับดีๆ ก็พอถูไถไปได้

อยากลองสีอื่นอีกค่ะ แ้ม้จะไม่ชอบเนื้อของมันเท่านั้น แต่สีสวยจังเลย

ชอบเอา Revlon 001 มาจับคู่กับ

REVIEW: B&C MakeMania Lip Silicone #503


*คลิกเพื่อขยาย

ปริมาณ 7.5 g

ราคา ประมาณ 500 กว่าบาทหรือ 400 กว่านี้แหละ

ซูมสี 503 ชัดๆ

เป็นสีนู้ดวิ้งๆ



Swatch



ตัว wand เป็นไม้พายพลาสติก สะอาดดีค่ะ



เค้าว่าเป็นกลอสที่ทำให้ปากอิ่ม

ลองทาดูนะคะ รูปแรกซ้ายสุดเป็นปากเปล่าๆ รูปที่สอง (ตรงกลาง) ทา 1 ครั้ง รูปที่สาม ขวาสุด ทาสองครั้ง


*คลิกเพื่อขยาย

กลบสีปากได้มิดดีนะคะ ทาครั้งแรกก็สวยแล้ว ทาครั้งที่สอง เราว่าปากเราดูบวมๆ ไป ไม่ชอบ แล้วก็ทาเยอะเกินมันจะเป็นคราบค่ะ เราเลยชอบทาครั้งเดียว แบบบางๆ มากกว่า

ทาบนปาก รูปใหญ่


*คลิกเืพื่อขยาย

กลบปากสีออกชมพูซีดๆ ของเราได้ดีทีเดียวค่ะ

สรุป...

เป็นกลอสไม่มีกลิ่น เนื้อเหนียวมากกกกก ใครไม่ชอบลิปเหนียวๆ ไม่แนะนำเลยค่ะ

สีสวย เป็นนู้ดวิ้งๆ กำลังสวยเลยค่ะ ค่อนข้างติดทน เพราะความเหนียวของมัน

ตัวลิปซิลิโคน เราว่ามันทำให้ปากอิ่มขึ้นเมื่อทาเยอะๆ แล้วจะปากเหมือนใหญ่ๆ เพราะัมันวาว แต่เราว่าตัวนี้ทาครั้งเดียว และบางๆ จะดีกว่า เพราะทาหนาๆ มันชอบตกร่องแล้วก็เน้นเรื่องปากแห้งเกินไป ทาครั้งเดียวบางๆ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับเรา

ราคาแพงไปนิดนึง

เราชอบจับคู่กับ Revlon 001


*คลิกเพื่อขยาย

พอทากลอส ปากจะดูเงาๆ แล้วก็กลบเรื่องปากแห้งได้ดีค่ะ


*คลิกเพื่อขยาย

เป็นการจับคู่สีนู้ดที่ perfect สำหรับเรามากๆ ชอบค่ะ แม้เนื้อลิปอาจจะไม่เอื้ออำนวยกับคนปากแห้งเท่าไหร่

เมื่อเดือนก่อนได้ของขวัญกับของฝากซื้อมาเพียบเลย ไว้จะรีวิวให้ดูนะคะ ทำรูปไว้เกือบจะพร้อมแล้ว ใครอยากดูรีวิวชิ้นไหนก่อนก็บอกได้ค่ะ



บล็อกอัพเดต

REVIEW: ลิปสีนู้ดซีดๆ Revlon Matte Lipstick #001 Nude Attitude + B&C MakeMania Lip Silicone #503

REVIEW: Benefit Finding Mr. Bright

Review: Sleek Palette #Bad Girl, Oh So Special, Sunset + HOW TO: Sunset Tropical Eyes

SWATCH & REVIEW: พาเลตและไอเทมทั้งหมดของ Urban Decay ที่ครอบครอง




 

Create Date : 06 มิถุนายน 2554    
Last Update : 11 มิถุนายน 2554 0:23:01 น.
Counter : 5804 Pageviews.  

REVIEW: Tarte Amazonian Clay Long-wear Blush #Blissful + Gosh Extreme Art Eye Liner #26

อัพบล็อกคู่อีกแล้วนะคะ

ชิ้นนึงเป็นของดองยาวนาน แต่ช่วงนี้ใช้บ่อยเหมือนกัน

อีกชิ้นเพิ่งได้มาจากน้องต่าย whitepiano555 ค่ะ เห่อก็เลยใช้บ่อยอีกเช่นกัน

REVIEW: Tarte Amazonian Clay Long-wear Blush #Blissful



เป็นบลัชที่ดังมาสักพักแล้วในยูทูป

เค้าว่าเป็นบลัชที่มีส่วนผสมของ Amazonian Clay (ดินลุ่มน้ำอะเมซอน...แปลเองซะเวอร์ 55) ส่วนผสมอื่นๆ ก็มี Beeswax, Vitamin E & C, Mineral Pigments และยังบอกอีกว่าไม่มีส่วนผสมของ Mineral oil

ค่อนข้างสนใจบลัชตัวนี้ เพราะอ่านรีวิวเห็นว่าเนื้อมันจะด้านๆ แล้วก็ติดทน 12 ชม. ปรกติชอบสีบลัชที่ไม่วิ้งจัด เลยสนใจ แต่หาซื้อในเมืองไทยไม่ได้ โชคดีน้องต่ายส่งมาให้ลองเล่นดูค่ะ

ตลับสวยดีนะคะ เป็นแดงอมสีชมพู สีตลับตามสีบลัช



ขนาด 5.6 g (เยอะมากกกก)

ราคา 25 USD

เปิดออกมา เป็นบลัชมีลวดลาย ตลับมีกระจก แต่ไม่มีแปรงให้



ส่วนผสมเต็มๆ


*คลิกเพื่อขยาย

สีบลัช (รูปซ้ายแบบเปิดแฟลช รูปขวาเป็นแสงในห้อง)

สีบลัชที่เห็นจริงๆ เป็นสีออกชมพูอมแดง


*คลิกเพื่อขยาย

สีแบบในแสงธรรมชาติ (สีจริงจะคล้ายๆ สีในห้องกับสีในแสงธรรมชาติ แต่ว่าจะออกแดงกว่า)

เนื้อแมตต์ ให้สีเข้ม สีออกชมพูอมแดง ติดทนดีนะคะ ตอนเอาไปล้างน้ำเปล่า ต้องถูไม่งั้นจะไม่ออก ถึงถูก็ยังเห็นสีจางๆ เหลือ


*คลิกเพื่อขยาย

ปัดบนหน้า (ไม่ได้ปัดเยอะนะคะ ปรกติปัดบลัชให้ออกสีพอประมาณ ไม่ชอบให้แก้มเป็นตูดลิงค่ะ ดังนั้นรูปในแสงธรรมชาติสีเลยอาจจะดูไม่เห็นชัด)

รูปซ้ายเป็นแบบเปิดแฟลช รูปขวาเป็นแบบในแสงธรรมชาติ


*คลิกเพื่อขยาย

ให้สีออกแดงอมชมพูอมส้ม เป็นสีที่เข้ากับการแต่งหน้าได้ไม่ยาก

ผ่านมา 5 ชม.

สีดูโอเคอยู่นะ (หน้ามันสักหน่อยนะคะ ไม่ได้ซับหน้าเลย)



สรุป...

เป็นบลัชเนื้อแมตต์ที่สวยดีค่ะ ให้สีชมพูอมส้มอมแดง (อธิบายยาก) คาดว่าสีคงจะเปลี่ยนไปตามสีผิวที่ปัด แต่สีนี้ค่อนข้างใช้ง่าย

บลัชมีกลิ่น (ต้องดมใกล้ๆ) ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม กลิ่นแบบบอกไม่ถูก แต่ไม่เหม็น

เนื้อบลัชแน่นมาก เอาแปรงปาดแล้ว มีแต่สีออกมา แต่ว่าไม่มีผงร่วนๆ ดีกว่า Nars ที่เนื้อแน่นๆ อีกค่ะ ขนาด Nars พวกสีวิ้งๆ จะมีผงร่วนๆ ออกมา

เท่าที่ใช้มาทั้งวัน (ไม่เกิน 8 ชม.) สำหรับคนผิวผสม ค่อนข้างมันอย่างเรา ถือว่าติดทนเลยค่ะ สียังไม่จางเท่าไหร่ คือจางจากตอนแรกนิดเดียว แต่ถ้าใช้ราวๆ 5 - 6 ชม. ก็ยังติดทนอยู่ดี

ไม่เคยลองทิ้งไว้ยาวนานขนาด 12 ชม. เลยไม่ทราบว่าจะติดทนขนาดนั้นไหม

แต่ค่อนข้างพอใจกับผลและสีของมัน

แพ็กเกจน่ารักดีค่ะ ตลับใหญ่เบิ้ม มีกระจกใหญ่ แต่ไม่มีแปรงให้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพกพาออกไปอยู่ดี เพราะมันติดทนทั้งวัน

ราคาอาจจะแพงไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มถ้าไม่ค่อยได้ซื้อบลัช และอยากได้บลัชติดทน

ไอเทมต่อมา...

อายไลเนอร์อันนี้ได้มานานแล้ว ตอนแรกที่ลองสีบนมือ ไม่ชอบเลย แต่ใช้มาสักพักก็ชอบ เดี๋ยวจะบอกเหตุผลในรีวิวค่ะ

REVIEW: Gosh Extreme Art Eye Liner #26



ปริมาณ 3 ml

ราคา (ไม่แน่ใจนะคะ ซื้อมานานแล้ว) น่าจะประมาณ 10 HKD

เบอร์ 26 จะเป็นสีเทาๆ วิ้งสีรุ้ง



หัวแปรงเล็กดีค่ะ



Swatch

ข้างขวาจะเป็นทาครั้งเดียว ข้างซ้ายจะทาสามครั้ง

สีออกเทา (อ่อนกว่าในหลอดที่เห็น) และวิ้งสีรุ้ง



ทาบนตา

ได้สีเทาจืดชืดมากกกกกก



เลยเอามาใช้ทาทับอายไลเนอร์สีอื่นๆ จะทำให้อายไลเนอร์ติดทนขึ้น และมีวิ้งสวย

ช่วงนี้เขียนอายไลเนอร์ดินสอสีๆ ก็จะใช้ Gosh อันนี้ทาทับสีอื่นประจำเลย



ทาทับแบบอายไลเนอร์สีๆ



สรุป...

สีในขวดสวยมากกกกกก

อายไลเนอร์รุ่นนี้ของ Gosh มีหลายสีมากๆ ค่ะ เราแอบพลาดที่เืลือกเบอร์ 26 เป็นแบบวิ้งๆ มาแทน ตอนแรกคิดว่าสีจะชัดกว่านี้เหมือนสีอื่นๆ ที่เห็นในรีวิว แต่ดันเป็นแบบสีเทาใสและมีวิ้งแทน เอามาเขียนอายไลเนอร์เปล่าๆ ไม่สวย และไม่ชัด เอามาทาทับสีอื่นๆ ที่เขียนไว้ก่อนหน้าจะสวยกว่ามาก และทำให้อายไลเนอร์ที่ทาก่อนหน้าติดทนขึ้น

ไม่กันน้ำนะคะ แ่ต่ก็ติดทนทั้งวันค่ะ แห้งช้าเหมือนกัน ตามประสาอายไลเนอร์แบบมีวิ้ง

หัวแปรงเล็ก เขียนง่าย

ราคาก็ถือว่าแพงเหมือนกัน

อยากซื้อแบบสีอื่นๆ เพิ่มอีก เพราะสีสวยมากกกกกกกก




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 31 พฤษภาคม 2554 15:31:59 น.
Counter : 2924 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.