Group Blog
 
All blogs
 

REVIEW: Avon Anew Genics Treatment Concentrate

เมื่อราวปลายเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ได้รับเชิญจากเอวอน ให้ไปร่วมงานเปิดตัว Anew Genics และได้ผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ค่ะ หลังจากใช้จนหมดขวดแล้ว เลยเอามาริวิวให้ดูกันนะคะ

หน้าตาของ Anew Genics Treatment Concentrate



ปริมาณ 30 ml

ราคา 2000 บาท

มาในกล่องกระดาษแข็งอย่างดี ขวดเป็นขวดแก้วขนาดพอเหมาะมือ เป็นแบบหัวปั้ม ใช้ง่าย

เจ้าตัว Anew Genics เป็นเทคโนโลยี ยูธเจ็น ลิขสิทธิ์ของเอวอน คุณสมบัติคือบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย

เค้า claim ว่า
ทันทีที่ใช้ จะรู้สึกว่าผิวแลดูอ่อนเยาว์อย่างสัมผัสได้
และหลังใช้ภายในสองสัปดาห์ จะลดพวกเส้นริ้วรอย จุดด่างดำ และทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอ
และหลังใช้ภายในสี่สัปดาห์ พวกเส้นรอยลึก และจุดด่างดำจะลดเลือน สีผิวจะดูสม่ำเสมอชัดเจน

ส่วนตัวเราไม่เคยลองไลน์บำรุงของเอวอนเลยนะ เคยแต่พวกเครื่องสำอาง เลยตื่นเต้นเล็กน้อยตามประสาคนที่อายุขึ้นเลขสามและเริ่มมีปัญหาริ้วรอย

ลองมาดูเนื้อครีมกันก่อน



กดหนึ่งปั้ม พอใช้ทั้งใบหน้าค่ะ เนื้อครีมค่อนข้างเหลวนิดหน่อย แต่เนื้อเบา ทาแล้วซึมไวมาก หน้าไม่เหนอะไม่มัน ชอบค่ะ กลิ่นครีมก็หอมอ่อนๆ

ปัญหาผิวของเรา...ผิวผสมค่อนข้างมัน รูขุมขนกว้างปานกลาง มีรอยสิวเป็นประจำ ริ้วรอยที่มี เป็นที่หางตา เกิดเฉพาะเวลายิ้ม แต่มีไม่มาก

สรุป...

ผลการใช้ครั้งแรก ที่เค้าว่าครั้งแรกที่ใช้ผิวจะแลดูอ่อนเยาว์ เราเฉยนะ ไม่รู้สึกเท่าไหร่ เว้นแต่หน้าจะดูนุ่มๆ ช่วงอาทิตย์แรกก็ยังไม่เห็นผลอะไรชัดเจนมาก มาเริ่มเข้าอาทิตย์ที่สองหรือสาม จะรู้สึกว่าพวกรอยสิวดูจางลง ริ้วรอยที่หางตาก็ยังเป็นเหมือนเดิม อาจจะเพราะเราไม่ได้มีรอยเยอะด้วยอ้ะค่ะ เว้นรอยสิว แต่พอใช้ไป...น่าจะครึ่งขวดได้ ตอนส่องกระจกจะเห็นชัดเลยว่า หน้าเราดูขาวขึ้น (คือมันจะขาวกว่าคอ) ส่วนพวกรอยสิวก็จางลงไวกว่าปรกติเล็กน้อย พวกรูขุมขนกับริ้วรอยก็เหมือนเดิม คือไม่ีมีอะไรเปลี่ยนแปลง

ตัว Anew Genics สำหรับเรา ช่วยในเรื่องสีผิวสม่ำเสมอและเรื่องจุดด่างดำ ผิวขาวใสขึ้น แต่เรื่องริ้วรอย อย่างที่บอกแต่แรกคือ เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องริ้วรอยมาก อาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน

ข้อดีอีกอย่างที่ชอบคือ เนื้อครีมเบา ซึมไว เหมาะกับคนที่ผิวค่อนข้างมัน

ไม่ได้ช่วยเรื่องให้ความชุ่มชื้นนะคะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าแห้ง

ราคา 2000 เราใช้ขวดนี้ (ใช้เจ้านี่ตัวเดียว ไม่ได้ใช้ครีมอื่น) ได้ประมาณสองเดือนครึ่ง ราคาค่อนไปทางแพงสำหรับคนที่ใช้ครีมราคาต่ำกว่าหนึ่งพันบาท

แต่เราว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาครีมบำรุงเพื่อสีผิวสม่ำเสมอ และลดเลือนจุดด่างดำที่ไม่ทำให้หน้ามัน และเนื้อครีมไม่หนักหน้า




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2555    
Last Update : 1 มิถุนายน 2555 17:32:48 น.
Counter : 2896 Pageviews.  

REVIEW: Maybelline Water Shine Diamonds #301

ใครมองหาลิปสติกเนื้อกลอส สีนู้ดสวยๆ ลองดูสีนี้กันนะคะ

Maybelline Water Shine Diamonds #301



ราคา 199

จากแท่งจะเห็นเลยว่าีสีนู้ด มีวิ้งเล็กๆ ด้วย

Swatch



วิ้งเล็กๆ สวยมาก

ลองทาบนปาก สีนู้ดสุดๆ

ประกายวิ้งจะละเอียด มองไม่ชัดมากนะคะ



รวมๆ



สรุป...

เป็นลิปสติกเนื้อชุ่มชื้น ทาแล้วออกแนววาวเหมือนทากลอส แต่ไม่เยิ้มเหมือนกลอส รุ่น Diamonds จะเป็นแบบลิปที่มีกากเพชรเป็นประกาย แต่ว่ามันไม่ระคายปา่กเลยค่ะ ดีมากๆ

สีเบอร์ 301 สวยมาก เป็นสีนู้ดที่ไม่ซีดและมีวิ้ง

ไม่ได้ติดทนมากนะคะ เพราะมันเนื้อออกชุ่มชื้น เราทาแล้วไม่ได้เน้นร่องปาก โอเคเลยค่ะ

แพ็กเกจเป็นพลาสติก สีชมพู เราว่าดูดีนะ

ราคาไม่แพง ใครมองหาลิปสติกสีนู้ดสวยๆ แนะนำเลย




 

Create Date : 15 เมษายน 2555    
Last Update : 15 เมษายน 2555 14:10:52 น.
Counter : 2220 Pageviews.  

REVIEW: Estee Double Wear Stay-in-place Makeup

วันหยุด พยายามอัพบล็อกให้มากที่สุด...ถ้าไม่ขี้เกียจไปเสียก่อน :-D

Estee Double Wear Stay-in-place Makeup



ขวดเป็นขวดแก้ว ขนาด 30 ml

ราคาประมาณ 1600 บาท

เราผิวขาวเหลือง ใช้เบอร์ 65 ค่ะ

อันนี้ลืมถ่ายรูปเนื้อรองพื้นไว้นะคะ ไม่รู้รูปไปไหนแล้ว และเราก็ไม่มีตัวนี้แล้วด้วย หมดแล้ว แต่เนื้อรองพื้นจะเป็นแบบน้ำ แต่เนื้อไม่เหลวทีเดียว คือข้นกว่ารองพื้นน้ำบางยี่ห้อ

มาดูประสิทธิภาพบนหน้านะคะ

อ้อ เราเป็นคนผิวผสมค่อนข้างมัน บางทีทีโซนแห้ง ใต้ตาคล้ำและมีรอยสิวเยอะ รูขุมขนกว้างปานกลาง



รูปแรกหน้าเปล่าๆ
รูปกลางเป็นหลังลงรองพื้น Estee
รูปขวาสุดแต่งหน้าอื่นๆ จนครบ

สรุป...

เนื้อรองพื้นเป็นแบบเหลว แต่เนื้อไม่เหลวมาก เนื้อออกหนาหนัก ทาแล้วแห้งไว ต้องรีบปาดค่ะ ไม่งั้นจะเป็นปื้นๆ

หลังทา ปกปิดริ้วรอยต่างๆ ได้เกือบมิด เว้นรอยแดงที่เป็นรอยสิวใหม่ของเรา กา่รปกปิดดีมาก แต่เนื้อรองพื้นค่อนข้างหนา เราจะไม่ชอบเท่าไหร่

ข้อดีมากๆๆๆ ที่เราไม่ค่อยเจอในรองพื้นที่เคยใช้คือมันคุมมันค่ะ คุมมันจริงๆ ทาไปสามชั่วหน้า หน้ายังไม่มันเลย แล้วก็อยู่ไปครึ่งวันแบบมันเล็กน้อย ถือว่าดีมากทีเดียว

ข้อเสีย...ไม่ชอบขวดแก้ว หนัก พกยาก แล้วก็ไม่ชอบเนื้อรองพื้นหนาๆ เท่าไหร่ คือเราเคยใช้ที่ปกปิดน้อยกว่านี้เล็กน้อย แต่ไม่หนักหน้าเท่าน่ะค่ะ




 

Create Date : 14 เมษายน 2555    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 18:14:09 น.
Counter : 3498 Pageviews.  

REVIEW: ของฝากจากญี่ปุ่น (Candy Doll, Diamond Lash, & etc.)

สวัสดีัวันสงกรานต์ค่ะ ปรกติไม่ไปเที่ยววันหยุด เพราะไม่ชอบคนเยอะๆ เลยมาอัพบล็อกดองๆ เล่นๆ

พอดีปีก่อนน้องชายไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ต้นปีกลับมารับปริญญา เลยซื้อของมาฝากด้วย

เยอะแยะเลย



เริ่มด้วยของกินกับของที่ระลึกก่อนก็แล้วกันนะคะ :-D

Coin Souvenir จาก Disney Land มันจะเป็นเหรียญที่ระลึกน่ะค่ะ

น้องช่างรู้ใจมากกกก รู้ว่าพี่สาวเก็บสะสม เลยหยอดมาให้เต็มพิกัดเลย ปลื้มมมมมม

อันนี้ไม่ได้ถามราคาน้องมา เลยไม่รู้ว่าเท่าไหร่



อีกชิ้นจากดิสนีย์เป็นขนมในกล่องเหล็ก กล่องสวยมากกกก กล่องละ 850 เยน



เป็นขนม madeline รสสตรอว์เบอร์รีกับธรรมดา ขนมรสหวานมากกกกก หวานเกิ๊นนนนน เราไม่ชอบหวานจัดๆ แบบนี้ ใครชอบแนวเค้กเนยหวานเจี๊ยบอาจจะถูกใจ



คิทแคท ขนมยอดฮิตที่คนที่ไปญี่ปุ่นมักซื้อเป็นของฝาก อันนี้่ก็ไม่ได้ถามราคามาอีกเช่นกัน



มีรสวาซาบิ เมลอน สตรอว์เบอร์รี จริงๆ มีรสชาเขียวกับซากุระชาเขียวด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้

วาซาบิเป็นแบบกล่องแล้วมีชิ้นเล็กๆ หลายชิ้น ดีค่ะ เหมาะกับคนที่กินขนมรสหวานๆ ทีละนิดแบบเรา



ฟังชื่อวาซาบิอาจจะน่ากลัวนะคะ แต่ว่ามันเป็นเหมือนรสช็อกโกแลตนม แล้วมีกลิ่นวาซาบิ กินได้ไม่ฉุนแบบวาซาบิจริงๆ แต่เราว่ารสมันออกหวานน่ะค่ะ เราไม่ชอบหวานๆ แบบนี้ เลยไม่ได้ถูกใจมาก



รสเมลอน...หอมเมลอน ช็อกโกแลตเป็นช็อกโกแลตนม อันนี้ก็อร่อยดี แต่ก็หวานเหมือนกัน กินได้ทีละนิดตามเคย



รสชาเขียว...ที่ใครๆ ฮิต แต่เราเฉยๆ นะ มันออกแนวช็อกโกแลตนม เราไม่ได้ชอบพวกชาเขียวใส่นมหรือช็อกโกแลตนมเลยรู้สึกว่ามันหวานมาก กินได้ทีละนิดอีกเช่นกัน แต่รสซากุระชาเขียวหวานกว่าค่ะ เป็นแบบบเวอร์ชันชาเขียวที่นมกว่า หวานกว่า อันนี้ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่

รสที่ชอบที่สุดเป็นรสสตรอว์เบอร์รี อร่อยมากกกกกกก เปรี้ยวๆ หวานๆ กำลังดี ห้ามลืมซื้อนะคะ แช่เย็นถึงจะอร่้อย ไม่แช่เย็น ไม่รู้ทำไมเวเฟอร์มันไม่กรอบ

Royce'

รสชาเขียว อันนี้มีแต่หน้ากล่อง ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในไว้ หรือถ่ายรูปไว้แต่หาไม่เจอนี่แหละ

อันนี้อร่อยอ้ะ ขนาดเราไม่ชอบชาเขียวนม เรายังชอบเลย มันรสน๊มนม แล้วก็หอมๆ อร่อยมากกกกกกกกก ห้ามพลาด



ที่เด็ดกว่าของเราจาก Royce'

รส Bitter หรือแบบช็อกโกแลตขม กินแล้วละลายในปาก รสชาตินุ่มนวล ไม่หวานมาก เริดมากๆๆๆๆๆๆ คือเีราเป็นคนชอบช็อกโกแลตแบบดาร์กเลยยิ่งชอบมากเป็นพิเศษน่ะค่ะ

ที่ญี่ปุ่น Royce' ราคาตีเป็นเงินไทยกล่องละ 295 บาท



โมจิ ไส้รวม ชิ้นเล็กๆ กินง่ายดีค่ะ แต่เรา่ว่าโมจิญี่ปุ่นหวานจังเลย เราอาจจะไม่ได้เป็นคนกินหวานก็ได้น่ะค่ะ เลยรู้สึกว่าหวาน กินทีได้คราวละครึ่งลูก

ไม่ได้ถามราคาหรือย่านที่ซื้อมาอีกเช่นกัน



ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าทำของน่ารักๆ ขายแพ็กเกจ นี่เป็นขนมอีกชิ้นที่กล่องสวยมาก เหมาะเป็นของฝาก



เปิดออกมา เป็นขนมแบบ...มันจะเป็นเหมือนแป้งๆ กรอบๆ กลิ่นอบเชย แล้วก็เคลือบด้วยครีมชาเขียว รสออกหวานค่ะ หวานทีเดียว ขนมญี่ปุ่นหวานๆ ทั้งนั้นเลย



ขนมรสงาดำ...

อันนี้ของน้องฝากแม่ แม่แบ่งมาให้ชิม



อันบนเป็นแป้งแบบขนมเปี๊ยะ ไส้เป็นงาดำ
อันล่างเป็นแบบคุกกี้งาดำ ไส้ครีม

เราชอบอันนี้มากกกก อร่อยค่ะ หอมๆ แม้จะรสหวานก็เถอะ แต่อร่อยจริงๆ ใครชอบงา เราว่าไม่ควรพลาด



มาต่อที่เครื่องสำอาง

ตอนแรกฝากซื้อ แต่พอได้ของ น้องบอกว่ายกให้เป็นของฝากทั้งหมด เสียดาย ฝากซื้อน้อยไป อิๆ

เราซื้อสองยี่ห้อเอง เป็น Candy Doll กับ Diamond Lash

Candy Doll เลือกแต่โทนส้มมา อยากได้โทนส้มๆ



แกะๆๆๆ



Swatch ให้ดู (เดี๋ยวรีวิวแยกนะคะ ถัีดไปค่ะ)



Candy Doll Lipstick #Apricot Beige



1260 YEN

ปลอกเป็นพลาสติก สีดำ ดูเหมือนก๊องแก๊งนะคะ แต่ก็โอเค รับได้



เปิดมาเป็นแบบนี้



ลิปสีอ่อนค่ะ ออกแนวนู้ดๆ ไม่ได้ส้มแบบที่เราอยากได้มากๆ



ทาบนปาก (รูปซ้ายเป็นสีปากจริง รูปขวาทาลิปสติก)



สรุป...

สี Apricot Beige เป็นสีแนวนู้ด ติดสีส้มนิดหน่อย ไม่ได้นู้ดส้มชัดเจน แต่ทาแล้วปากดูนู้ดมากกกกก สวยค่ะ เหมาะกับสโมกกี้อายส์สุดๆ

ไม่ได้ิติดทนมาก แต่ก็ไม่ได้เลือนไวมาก อยู่ในระดับกลางๆ

เนื้อลิปครีมมี่นะคะ แต่ถ้าปากแห้งๆ อาจจะเป็นคราบได้ กลบสีปากได้มิดค่ะ ชอบ อยากได้สีอื่นอีก แต่กลัวโทนสีจะใกล้เคียงกันมากเกินไป

แพ็กเกจ พลาสติกไม่ค่อยดีอย่างที่คิด ลวดลายดูเด็กๆ ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้เกลียด

ราคาถือว่าไม่ถูกแต่ก็ไม่ได้แพง

Candy Doll Lipgloss #Milk Tea orange



ราคา 1260 เยน

สีสวยนะคะ ในหลอดดูส้มๆ ครีมๆ มากมาย



แปรงเป็นแบบฟองน้ำ หัวเอียงๆ



ทาบนปาก



สรุป...

Milk Tea Orange สีส๊มส้มในหลอด แต่ทาแล้วนู้ดมากกกกกก กลบสีปากได้มิด แต่ห้ามทาเยอะเกินไม่งั้นจะเป็นคราบ เวลาใช้ต้องทาบางๆ อ้ะค่ะ ไม่งั้นจะน่ากลัว แต่ยอมรับว่ากลบสีปากเดิมได้มิดเลย เป็นอะไรที่เหมาะกับการแต่งหน้าโทนเข้มมาก แต่ทาบางๆ ก็ยังแอบตกร่องนิดหน่อยนะคะ คือยังไงดี มันจะเห็นลายๆ แบบในรูปทาบนปากน่ะค่ะ แต่ว่ามองเผินๆ ก็ไม่เห็นชัดเจน

ลิปกลอสเนื้อเหนียวทีเดียวค่ะ เท่าๆ Mac เลย ลิปกลอสไม่มีกลิ่น แพ็กเกจน่ารักดีค่ะ ไม่ก๊องแก๊ง

และเพราะลิปมันเหนียว เลยติดทน แต่ถ้าไม่ชอบลิปกลอสเหนียว ไม่แนะนำเลย ราคาก็กลางๆ ค่ะ

Candy Doll Cheek Color #Carrot Orange



1260 Yen

เป็นชิ้นที่รู้ว่าสีนี้ทาแล้วจะดับ แต่อยากได้สีนี้เลยซื้อมา ไม่เคยมีบลัชสีนี้เลย สีแบบส้มติดเหลือง

ตลับเล็กมากกกก เห็นในรูปไม่คิดว่าจะเล็กอย่างนี้ แต่ก็ดีตรงที่พกง่าย เพราะเล็ก



ทาบนแก้ม (หมายเหตุ...เวลาใช้จริง เราผสมกับสีอื่น ไม่ก็ปัดคู่กับสีอื่นนะ ไม่ได้ใช้โดดๆ เพราะหน้ามันจะดีซ่านมากๆ แบบในรูปเลย)



สรุป...

สี Carrot Orange มันเป็นสีส้มอมเหลือง ไม่วิ้ง ใครที่ผิวโทนเหลือง ปัดไ่ม่เกิดค่ะ

บลัชเนื้อดีนะคะ ปัดออกมาแ้ล้วไม่เป็นแป้งๆ สีที่ปัดบนแก้มได้ส้มเหลืองใสๆ ถ้าใครขาวจัดๆ อมชมพู ปัดแล้วคงจะสวยน่าดู

สีนี้แปลกไม่ค่อยเห็นแบรนด์ไหนทำ เพราะมันปัดยากนั่นเอง

ติดทนใช้ได้ค่ะ บ่ายๆ อาจจะสีจางไปบ้าง แต่ก็โอเค

ราคาก็เท่าๆ กับลิปและกลอส ราคากลางๆ

แพ็กเกจ ดีค่ะ ไม่ก๊องแก๊ง แต่บลัชตลับเล็กและไม่มีแปรงหรือกระจก

คราวหน้าอยากได้สีลาเวนเดอร์อ้ะค่ะ เราว่าเวลาปัดโทนสีม่วงอ่อนแล้วได้แก้มชมพูกำลังสวยเลย ชอบมากกกกก

ต่อกันที่ Diamond Lash



เลือกมาสามแพ็ก ขนตาบน 2 ขนตาล่าง 1 กาวติดขนตาแบบกันน้ำ (จากการอ่านนิตยสารญี่ปุ่น)

พวกขนตาปลอม กล่องนึงมี 5 ชุด ราคาชุดละ 1050 เยน คุ้มดีค่ะ ไม่แพงมาก คุณภาพดีเลย โดยเฉพาะพวกก้านใส

เทียบหน้าตาแบบซูมๆ



ขนตามันจะยาวค่ะและดูเวอร์มาก ตอนแรกพอเห็นของก็คิดในใจ จะติดดีไหมเนี่ย ดูเวอร์สุดๆ ในรูปเว็บที่ดูไม่เห็นเวอร์เลย แต่ของจริง ขนตาเป็นแผงแบบหนา แต่สุดท้ายก็ลองติดและติดใจมากกกกก

เวลาติด เราตัดขนตาออกประมาณ 1 เซนติเมตรนะคะ เพราะว่าตาเราเล็ก แถมเป็นพวกขนตาบางและน้อย ถ้าติดทั้งแผง มันจะน่ากลัวมากกกกกกก



ช่อเล็กๆ ที่ตัดก็เก็บไว้ได้นะคะ เอาไว้ติดที่ช่วงหางตา ใช้ได้เหมือนกัน

Diamond Lash Glamorous (กล่องม่วง)

เป็นขนตาแบบช่อใหญ่ ติดทีเป็นแพเลย แถมแอบหนักตานิดนึง 55

Glamorous ก้านเป็นสีดำ ติดง่ายกว่าก้านใส แต่เราชอบก้านใสมากกว่า เพราะมันเบากว่า



Cats (ขนตาบน กล่องสีม่วง) ก้านใส ติดยากหน่อย แต่ติดแล้วเนียน ไม่หนัก ชอบมากกกก ติดแล้วขนตาเด้งสุดๆ เป็นแพจัดๆ

Naturals (ขนตาล่าง กล่องสีม่วง) ตัดออกราว 1 ซ.ม. เช่นกัน ไม่งั้นจะเป็นตุ๊กตาผี เป็นธรรมชาติดีค่ะ ติดแล้วทำให้ดวงตาที่ติดขนตาเวอร์ๆ แบบนี้ดู balance กัน
ขนตาล่างก้านเป็นแบบใส ติดแล้วสวยดีค่ะ ชอบมากๆๆๆ ใครอยากลองขนตาล่าง เราแนะนำรุ่นนี้



มีอีกรุ่น เพื่อนฝากซื้อ รุ่น Dolly Eye กล่องชมพู



เรามีแลกกับเพื่อนมาสองคู่ แต่ยังไม่ได้ลองเลย

เทียบไซส์กับ Glamorous มันต่างกันมาก เราชอบ Glamorous เวอร์ดีค่ะ

Dolly Eye ดูเล็กมาก เลยไม่ได้ลองสักที



Diamond EyeLash Fixer

กาวติดขนตาปลอม



เป็นแบบหลอดๆ เหมือนลิปกลอส



หัวแปรงเป็นแบบพู่กัน



กาวเป็นสีขาว (ฝั่งขวา) แต่พอแห้งเป็นใสๆ (ฝั่งซ้าย)



ใช้งานง่ายดีค่ะ แต่บางทีใช้ไปนานๆ กาวมันชอบมาจับที่เกลียว จะทำให้เปิดยาก ต้องคอยทำความสะอาด (ซึ่งยากอยู่ดี)



สรุป...

กาวสีขาว แต่พอแห้งแล้วเป็นสีใส

กาวแห้งไว ติดแล้วเหนียวหนึบ แอบล้างยาก

ทนไหม...เราว่ายังไม่ทนเท่าที่เราคาดหวัง อาจจะเพราะเราติดช้าเกินไป พอช่วงปลายๆ กาวจะแห้งไปบ้างแล้ว ทำให้ติดไม่ทนอย่างที่ต้องการ

แพ็กเกจน่ารัก พกง่าย ใช้ง่าย แต่ว่าถ้าเกิดใช้ไปนานๆ กาวจะไปเกาะที่ฝาเกลียว ทำให้เปิดยาก

ราคาประมาณ 800 - 900 เยน ก็ไม่แพงไม่ถูก กลางๆ ค่ะ

อิๆ หมดแล้วค่ะ หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์นะคะ :-))




 

Create Date : 13 เมษายน 2555    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 18:14:23 น.
Counter : 15898 Pageviews.  

REVIEW: RMK Liquid Foundation & RMK Irresistible Lips C #Sheer Pink

เอารีวิวที่ดองรูปไว้เป็นชาติมาอัพค่ะ ช่วงนี้ยุ่งๆ เลยไม่ค่อยได้อัพบล็อกเครื่องสำอางเท่าไหร่

สองชิ้นนี้จาก RMK ถือเป็นชิ้นโปรด ทั้งคู่ใช้จนหมดไปแล้ว ประทับใจทั้งสองชิ้นเลย

เริ่มที่

REVIEW: RMK Liquid Foundation



เราใช้เบอร์ 102

ปริมาณ 30 ml
ปริมาณ 15 ml

ราคาประมาณ พันกว่าๆ จำราคาไม่ค่อยได้
ถ้า 15 ml จะถูกกว่าเยอะ (ต้องซื้อในเว็บ)

ดูเนื้อรองพื้นกันค่ะ



ช่องซ้ายขวาสุด เป็นรองพื้น เนื้อจะเหลวนะคะ สีออกเข้ม แต่ทาแล้วจะพอดีกับผิวหน้าเรามาก (เราจะสีผิวประมาณ NC25)

ช่องกลาง ทารองพื้นแล้ว ผิวดูเนียนๆ ใสๆ แต่ก็ปกปิดด้วย

ช่องซ้ายสุดไม่ได้ทาอะไรค่ะ เป็นผิวเปล่าๆ จะเห็นว่ามีรอยแดงเล็กๆ ผิวเราเป็นรอยง่าย บางทีจะขึ้นผื่นแดงๆ พอทารองพื้นแล้วจะปกปิดได้ค่ะ

มาดูแบบทาบนหน้าดีกว่านะคะ ชัดเจนกว่า

หมายเหตุ...สภาพผิวเรา เป็นคนผิวผสมค่อนข้างมัน ทีโซนบางทีแห้งเป็นขุย หน้ามีรอยสิว เพราะชอบแกะ แล้วก็รูขุมขนกว้างปานกลาง



รูปซ้ายสุด...ไม่ได้ทาอะไรเลยนอกจากบำรุงกับกันแดด จะเห็นว่ามีรอยสิวเยอะ แล้วก็หน้าหมองๆ

รูปกลาง...ทา RMK แล้ว ผิวสีดูสม่ำเสมอขึ้น กลบรอยสิวได้เกือบหมด

รูปขวาสุด...ปัดแป้งแล้วก็เติมพวก point make-up ก็พร้อมออกข้างนอกแล้ว

สรุป...

เนื้อรองพื้นเหลว ใช้ง่าย เกลี่ยง่าย ทาแล้วซึมไว ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ปกปิดปานกลาง เนื้อรองพื้นบาง ไม่หนา แต่ปกปิดใช้ได้ กลบรูขุมขนได้บ้าง

ไม่ได้คุมมัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น

ไม่ได้กันน้ำ อาจจะไ่ม่เหมาะกับคนที่เหงื่อเยอะเท่่าไหร่

คาดว่ามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะได้กลิ่นของมัน ใครแพ้แอลกอฮอล์ไม่แนะนำให้ใช้

ขวดเป็นแบบเทๆ กะปริมาณลำบากหน่อย บางทีชอบเทเกิน ขวดไซส์จริงจะเป็นขวดแก้ว ขวดแบบ 15 ml เป็นขวดพลาสติก พกง่ายกว่า

ราคาค่อนข้างแพง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ (แต่ตอนนี้ RMK ของราคาขึ้น อาจจะแพงกว่าตอนที่เราซื้อของเค้าแรกๆ)

ลังเลว่าจะซื้อใช้ซ้ำอีกดีไหม (ความจริงขวดในรูปเป็นขวดที่สองแล้วนะคะ ขวดแรกหมดไปแล้ว) เพราะมันยังปกปิดไม่พอคนที่เป็นรอยสิวเยอะๆ อย่างเรา แต่เราชอบความบางของมัน ที่ทาแล้วไม่หนักหน้าแต่ก็ปกปิดรอยสิวได้ดี

มาต่อกันที่ลิปสติกค่ะ

REVIEW: RMK Irresistible Lips C #Sheer Pink



ซื้อมาพร้อมๆ กับรองพื้น เคยรีวิวไปแล้วเหมือนกัน แต่ตอนนั้นใช้กล้องมือถือรีวิว เลยลบบล็อกไปแล้ว เพราะสีไม่ชัด

ปริมาณ จำไม่ได้ค่ะ ทิ้งแพ็กเกจไปแล้ว

ราคา อืม ถ้าจำไม่ผิด 1000 นิดๆ ถ้่่าเป็นรุ่นลิป M จะเกือบพัน

Swatch

เป็นสีชมพูหวานๆ

สวยมากกกกก



ทาบนปาก

ทาแล้วได้สีชมพูใสๆ สวยมากกก เป็นสีชมพูแบบน่ารักๆ เราชอบมากกกกกก



ภาพรวมๆ



สรุป...

ลิปรุ่นลิป C เป็นแบบเนื้อลิปออกกลอส (คล้ายๆ Maybelline Watershine) สี Sheer Pink เป็นชมพูอ่อนๆ หวานๆ สวยมากกกก คอนเฟิร์มสุัดตัว

เนื้อลิปลื่น ทาง่าย ไม่เป็นคราบหรือตกร่อง ทาแล้วปากดูวาวนิดๆ ชุ่มชื้นแบบสุขภาพดี เราว่าเหมาะกับคนปากแห้ง

เนื่องจากลิปออกแนวชุ่มชื้น เลยไม่ติดทนมากเท่าไหร่ (ถ้าเอาทนๆ ต้องรุ่นลิป M)

เนื้อลิปนิ่ม แต่ไม่นิ่มจัดแบบทาแล้วแท่งทู่นะคะ กลิ่นลิปเค้าจะแปลกๆ คือมันหอมแปลกๆ เอาเป็นว่าไม่ใช่กลิ่นน่ารำคาญ

แพ็กเกจสีเงินสวยงาม เป็นรอยง่ายหน่อย

ราคาแพงทีเดียวค่ะ ขึ้นหน้าด้วยพัน สำหรับเราว่าแพง

แต่ถูกใจสีมากๆ เราไม่ค่อยเจอลิปสีชมพูหวานๆ ไม่มีกลิตเตอร์ ไม่มีเอฟเฟกต์แบบนี้ มันเป็นสีชมพูก็จริง แต่ไม่ใช่พวกสีชมพูนมๆ แบบที่หาได้ง่ายกว่า ใครมองหาลิปสีชมพูหวานๆ ทาได้ทุกวัน เราแนะนำเลยค่ะ




 

Create Date : 05 เมษายน 2555    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 18:14:39 น.
Counter : 4268 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.