Group Blog
 
All blogs
 
วายร้ายไม่หน่ายรัก (Notorious Love) บทที่ 1

วายร้ายไม่หน่ายรัก (Notorious Love) บทที่ 1

ปฐพีมองลอดผ่านแว่นกันแดดเลนส์สีเข้ม เห็นไร่องุ่นที่ทอดตัวเป็นแนวยาวเบื้องหน้า เคียงข้างกันนั้นเป็นเรือนไม้หลังเล็กๆ หลายหลังที่เรียงรายล้อมรอบเรือนกลางหลังใหญ่ บ้านไร่ของน้องสาวเขายังคงร่มรื่นและสงบเงียบเหมือนเช่นเคย ตรงข้ามกับความพลุ่งพล่านภายในใจของเขา

ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ใจของเขาก็ไม่เคยสงบ เพราะเหตุนี้กระมัง เขาจึงหยุดทำงานปัจจุบันเหมือนเรือนขวัญมิได้

พี่เมฆก็คงเป็นเหมือนเขา...

ความคิดของปฐพีชะงัก พลันแสดงความเห็นปฏิเสธออกไปแทน

ไม่ นภฑีย์ไม่น่าจะเป็นเหมือนเขาที่ทำเพราะชื่นชอบและพอใจ แต่เขาคิดมาตลอดว่านภฑีย์ตริตรองบางอย่างมากกว่านั้น บางอย่างที่เขาไม่รู้ และไม่กล้าถาม แต่เขาเชื่อว่าเมื่อถึงเวลา นภฑีย์จะบอกเขาเอง

แม้เขา นภฑีย์ และเรือนขวัญ จะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด เป็นเพียงเด็กร่วมบ้านเด็กกำพร้าเดียวกัน ที่เกิดถูกชะตากันและกัน นับถือเสมือนเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด และกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน ก่อนจะชักชวนกันหนีออกจากบ้านเด็กพร้า เพราะไม่อยากทนอยู่กับเพื่อนร่วมบ้านเกเร เบื่อความแห้งแล้งของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และอยากเห็นโลกภายนอก ซึ่งไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด พวกเขาล้มลุกคุกคลานร่วมกัน หากินกับการขโมยและต้มตุ๋นหลายปี จนเดินเข้าสู่วงการจารกรรมเต็มตัว และแม้น้องเล็กเรือนขวัญจะเกษียณตัวเองเพราะต้องการสร้างครอบครัวกับชายคนรัก แต่เขากับนภฑีย์ก็ยังทำงานเสี่ยงอันตรายเหมือนเดิม

ก็นะ...มันชินเสียแล้ว

“ใจลอยอะไรดิน” นภฑีย์ทัก

“ไม่เดินสักที พี่ร้อนแล้วนะเนี่ย”

ปฐพีหันมา เห็นพี่ชายยิ้มนิดๆ ให้

“เอ้อ...โทษทีพี่เมฆ มัวแต่...คิดโน่นคิดนี่เพลิน” น้องชายไม่ได้บอกความในใจ และนภฑีย์ไม่ซักไซ้ให้เขากระอักกระอ่วน แต่เดินนำไปยังเรือนส่วนกลาง ซึ่งเป็นทั้งเคาน์เตอร์เช็กอิน ล็อบบี และห้องรับประทานอาหารของไร่สวีตโฮม

พวกเขาเห็นน้องสาวนอกไส้นั่งอยู่ที่ล็อบบี กำลังหยอกล้อกับทัชชา หรือยายหนูลูกแก้ว ลูกสาววัยหกเดือน โดยมีทัชชกร สามีของเธอยืนซ้อนอยู่เบื้องหลัง พวกเขาพอใจกับภาพที่เห็น สามคนพ่อแม่ลูกดูเป็นครอบครัวอย่างที่สุด ครอบครัวที่พวกเขาหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้มี...และกลัวจะมี

“อ้าว! พี่เมฆ พี่ดิน มาได้ยังไงเนี่ย” เรือนขวัญเห็นก่อนที่พวกเขาจะเดินไปถึง สองหนุ่มโบกมือให้น้องสาม และเผื่อแผ่ไปยังคู่รักของเธอ ซึ่งตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม

“ไม่บอกเลยว่าจะมา ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์ขวัญหรือไง” หญิงสาวลุกขึ้นยืน อุ้มเด็กหญิงทัชชาเดินเข้ามาสมทบกับพวกเขา คุณแม่ยังสาวไม่ต่างไปจากเดิม ร่างผอมบางอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เรียบๆ หน้าตาเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอางดูมีความสุข และพวกเขารู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด หนึ่งในต้นเหตุความสุขของน้องสาวอยู่ในอ้อมแขนกลมกลึง ส่วนอีกหนึ่งเดินตามหลังไม่ห่าง...ทัชชกรดูมีความสุขไม่แพ้สองสาวต่างวัย

“ไม่คิดว่าพวกพี่จะมาหาล่ะสิ” นภฑีย์บอกยิ้มๆ

“ไม่คิดแน่นอน ใครจะไปเดาใจพี่เมฆพี่ดินได้” เรือนขวัญย่นจมูกใส่ พี่ชายของเธอเป็นพวกเอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้จะติดต่อกันสม่ำเสมอ แต่ส่วนใหญ่เป็นทางโทรศัพท์ไม่ก็อินเตอร์เน็ตเสียมากกว่า นานๆ ครั้งถึงจะโผล่มาให้เห็นหน้า

“แต่ก็ดีใจที่ได้เจอใช่ไหมล่ะ”

“ดีใจสิคะ ตั้งแต่ขวัญคลอดยายลูกแก้ว พี่เมฆกับพี่ดินมาเยี่ยมแค่ครั้งเดียว แล้วก็หายหน้าหายตาไปเลย” เธออดบ่นไม่ได้

“ติดงานน่ะ”

“รู้หรอกว่าติดงาน ไม่งั้นจะโกรธให้ดู”

คนติดงานหัวเราะ เช่นเดียวกับทัชชกร

“ขวัญบ่นคิดถึงเมฆกับดินแทบทุกวัน” เขาเสริม แม้นภฑีย์กับปฐพีจะมีศักดิ์เป็นพี่จากการแต่งงานของเขากับเรือนขวัญ แต่ด้วยอายุที่ห่างกันอย่างน้อยหกปี เขาจึงเรียกแทนทั้งสองด้วยชื่อเล่นเฉยๆ

“ฮ่าๆ นั่นแหละ ขวัญล่ะ” ปฐพีหัวเราะกับน้องเขย

“หายไปบ่อยๆ แบบนี้ เจอกันอีกที ลูกแก้วมิโตจนเดินได้แล้วหรอกหรือ” เรือนขวัญยื่นทารกน้อยในชุดสีชมพูเข้าไปใกล้

“ดูสิ น่ารักขนาดนี้ แต่คุณลุงไม่สนใจหนูเลย”

“ใครว่าลุงไม่สนใจ” ปฐพีดันแว่นกันแดดขึ้นแล้วรับเด็กหญิงมาจากน้องสาว เขาประคองร่างเล็กจ้อยด้วยความระมัดระวัง ริมฝีปากแยกยิ้มเอ็นดู

“คิดถึงลูกแก้วจะแย่ เนอะลูกแก้วเนอะ” นิ้วใหญ่เขี่ยแก้มนุ่มยุ้ย ทัชชากวักมือขึ้นมาคล้ายจะประท้วงว่า...ตาลุงคนนี้มายุ่งอะไรแก้มเค้า

“พี่ดินอุ้มลูกแก้วคล่องขึ้นแล้วนี่” เรือนขวัญทัก จำได้ว่าครั้งแรกที่เธอส่งลูกสาวให้ปฐพีอุ้ม เขาดูเก้งก้างและจับทางไม่ถูก จนต้องส่งลูกคืนให้เธอภายในเวลาไม่กี่นาทีเพราะกลัวทำลูกเธอตก ผิดกับนภฑีย์ที่นุ่มนวลและดูเป็นธรรมชาติกับทัชชามาก จนเธอนึกสงสัยว่าเขาเคยอุ้มลูกมาก่อนหรือเปล่า ถึงได้คล่องแคล่วอะไรอย่างนี้

“แน่นอน ไปซุ่มฝึกมาตั้งนาน ถ้ายังไม่ได้เรื่องอีกก็แย่แล้ว”

“ฝึก?” หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “พี่ดินฝึกอุ้มเด็กเหรอคะ ไปหาเด็กที่ไหนมาฝึกเนี่ย” เธอนึกไม่ออก ปฐพีไม่เคยมีลูกและหลานที่ไหนนอกจากลูกแก้ว

“ก็...” ปฐพีหยุดไปนิด เขายิ้มเขินๆ แล้วพูดต่อ “ซื้อตุ๊กตามาหัดน่ะ”

น้องสาวหัวเราะร่วน “แล้วตอนไปซื้อ คนขายของไม่งงเหรอคะ ผู้ชายหน้าเข้ม...ดูเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แต่ดันขอซื้อตุ๊กตา” ยิ่งนึกภาพตอนเขาช็อปปิ้งตุ๊กตาตาแป๋วแหววขัดกับหน้าตาเขา เธอก็ยิ่งขำ

“บอกไปว่าซื้อเป็นของขวัญให้หลานก็ไม่มีใครสนใจแล้ว” แถมเขายังสั่งห่อของขวัญและซื้อการ์ดอวยพรอีกต่างหาก ไม่มีใครสงสัยเขาหรอก

“หัวหมอ” เรือนขวัญค่อน

“แน่ล่ะ” ปฐพีตอบก่อนจะบอกว่า

“พี่เมฆอุ้มลูกแก้วบ้างสิ” เขาส่งเด็กหญิงให้พี่ชายต่อโดยไม่ต้องรอให้ถูกถาม รู้ดีว่านภฑีย์มักปากหนัก ทั้งที่เห่อหลานยิ่งกว่าใคร ซื้อของเล่นของใช้มาสมนาคุณให้ทัชชากระบุงใหญ่ แถมยังคอยส่งของเล่นใหม่ๆ มาให้เรื่อยๆ จนเรือนขวัญกับสามีแทบไม่ต้องหาซื้ออะไรให้ลูกสาว

นภฑีย์ฮัมเพลงเบาๆ ขณะโยกร่างจ้อยไปมา

“น่ารักจริงหลานลุง” เขาชม ตามองเด็กหญิงด้วยความรัก

“พี่เมฆกับพี่ดินคิดว่ายายลูกแก้วหน้าเหมือนใคร...ขวัญหรือพี่ทัช”

นภฑีย์เลิกคิ้วนิดๆ กับคำถามนั้น น้องสาวจึงพูดต่อ

“ขวัญกับพี่ทัชกำลังเถียงกันอยู่ว่ายายหนูเหมือนใคร”

“อืม...” ปฐพีก้ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนโยนพิศมองหลานสาวในอ้อมแขนของพี่ชายอย่างครุ่นคิด

“เหมือนใครน้า”

“พี่ว่าเหมือนทัช” นภฑีย์ตอบก่อน

“ผมก็ว่าเหมือนทัช” น้องชายสนับสนุน

ขาดคำปฐพี ทัชชกรก็หัวเราะร่วน “เห็นไหม บอกแล้วว่าลูกแก้วหน้าเหมือนพี่”

“อะไรกัน ไม่เหมือนขวัญสักนิดเลยหรือ” เรือนขวัญประท้วง เธอเถียงกับทัชชกรมานานว่าลูกสาวหน้าตาเหมือนกัน ส่วนใหญ่หลังจากถามคนอื่นๆ ก็มักจะตอบว่าเหมือนพ่อ ซึ่งไม่ใช่คำตอบที่เธอพอใจ...โธ่! ก็เธออยากให้ลูกหน้าเหมือนเธอนี่นา

“ก็...เหมือนนิดๆ นะ” คำพูดของปฐพีทำให้ดวงตาของน้องสาวเป็นประกายตื่นเต้น

“เหรอคะ เหมือนที่ไหน”

ปฐพียื่นมือออกไปทางพี่ชาย ทัชชาถูกเปลี่ยนมืออีกครั้ง ยังยิ้มได้เหมือนเคย เธอเป็นเด็กอารมณ์ดี ไม่ตื่นกลัวผู้คน

“พี่ว่า...ตาลูกแก้วเหมือนตาของขวัญ” เขาจ้องมองเด็กหญิงที่ลืมตามองเขาตาแป๋ว

“ดิน ตอนนี้ลูกแก้วยังเล็กนัก มองเห็นตาไม่ชัดหรอก ต้องรอตอนโตโน่น แต่ยังไง...ก็ต้องเหมือนผม” ผู้เป็นพ่อยืนยันเป็นมั่นเหมาะ

“พี่ทัชนะ ทำไมพูดแบบนี้” เรือนขวัญตีแขนสามี แล้วทำปากยื่น “พี่ดินบอกว่าตาของลูกแก้วเหมือนขวัญ ก็ต้องเหมือนขวัญสิ พี่ดินดูไม่พลาดหรอก”

“ดินอาจจะพลาดก็ได้ พี่ว่ายังไงโตขึ้นมา ยายลูกแก้วหน้าตาถอดพิมพ์พ่อมาแน่ๆ”

เจ้าของแบบพิมพ์ถึงกับยิ้มแป้นด้วยความภูมิใจ แถมยังสำทับว่า

“เมฆยืนยันขนาดนี้ เชื่อเมฆดีกว่า”

“อ้าว! พี่ทัช พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” ปฐพีโวย

“พี่เชื่อสายตาเมฆมากกว่าไง” ทัชชกรหลิ่วตาให้

“แล้วกัน ผมเสียหายหมด ผมว่าผมก็สายตาดีไม่แพ้พี่เมฆนา”

ทัชชกรไม่สนใจ เขาสรุปว่า

“เอาเป็นว่า...ลูกแก้วหน้าเหมือนพี่นั่นแหละ ถูกต้องแล้ว...เนอะคนสวย” เขายิ้มหยอกกับคนสวยในอ้อมแขนของน้องเขย

“โห...พี่ทัชเนี่ย ขี้ตู่จริงๆ” เรือนขวัญทำอะไรไม่ได้ เลยได้แต่ค้อนควัก

ทัชชาดูจะรำคาญเสียงคนคุยกันจ้อกแจ้ก เลยเบะปากร้อง มือไขว่คว้าไปทางมารดา

“เห็นไหม ลูกแก้วร้องไห้เลย” เรือนขวัญเอื้อมมือไปรับลูกสาวมาจากพี่ชายคนรอง เธอเขย่าร่างเล็กอย่างปลอยโยน แล้วพูดกับสาวน้อยแสนรักของเธอ

“โอ๋ๆ ลูกแก้วรำคาญพ่อกับคุณลุงใช่ไหม พวกผู้ชายนี้ไม่ได้เรื่องเลยเนอะ” แล้วก็หันไปมองหนุ่มๆ ที่เหลือราวกับจะบอกว่าพวกเขาไม่ได้เรื่อง

สามหนุ่มไม่เถียงอีกต่อไป พวกเขาล้อเลียนเรือนขวัญหอมปากหอมคอแล้ว

ทัชชกรโอบเอวภรรยาแล้วหอมแก้มเธออย่างเอาใจ

“นั่นสิ ไม่ได้เรื่องจริงๆ นั่นแหละ สู้แม่ขวัญไม่ได้หรอก”

เรือนขวัญเอนศีรษะพิงไหล่แข็งแรง เธอเงยหน้าแล้วยิ้มตอบ

พี่ชายของหญิงสาวได้แต่ยิ้มตาม อิ่มอกอิ่มใจกับครอบครัวของเธอ

“ขวัญเหมาะกับเป็นแม่นะ” นภฑีย์กล่าว

“บอกตามตรง ตั้งแต่รู้ว่าขวัญจะมีลูกแก้ว พี่นึกภาพขวัญเป็นแม่ไม่ออกเลย” ภาพลักษณ์แข็งแกร่งและไม่ค่อยแยแสอะไรของเธอติดอยู่ในความทรงจำของเขามากเกินไป และเขามักลืมไปว่าเธอเปลี่ยนไปแล้ว

“โห...พี่ดิน ไม่ไว้ใจกันเลย”

“แต่ตอนนี้...พี่คิดเหมือนกับพี่เมฆ ขวัญเหมาะกับเป็นแม่ที่สุด”

“ขอบคุณค่ะ” เรือนขวัญยิ้มรับ ก่อนจะก้มหน้าหอมแก้มลูกสาวเบาๆ

“ขนาดอายุหกเดือนยังน่ารักขนาดนี้ โตขึ้นจะน่ารักขนาดไหนนะ” ปฐพีแตะใบหน้าของทัชชาอย่างผะแผ่ว

“ไม่คิดจะมีสักคนหรือคะ”

“ยังหาแม่ของลูกไม่ได้” เขาตอบลุ่นๆ

“ถ้ายังเอาแต่ลอยไปลอยมาอย่างนี้ ผ่านไปอีกสิบปีก็ยังหาไม่ได้หรอกค่ะ” เธอไม่ได้พูดตรงๆ ว่า ปฐพีจะต้องเลิกนิสัยเปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยๆ สักที แต่ถ้าเป็นนภฑีย์น่ะหรือ เธอจะแนะนำให้เขาหาผู้หญิงให้ตัวเองสักคนแทนที่จะผนวกตัวเองไว้กับงาน

พี่ชายคนรองไม่เถียง ได้แต่ยิ้ม

“แล้วพี่เมฆล่ะ” เรือนขวัญซักต่อ

“หือ? อะไรเหรอ” นภฑีย์เอียงคอถาม

“ก็คำถามเดียวกันนั่นแหละค่ะ” เรือนขวัญค้อนเขา ราวกับจะบอกว่าเขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้หน้าตาเฉย “ไม่อยากมีลูก...หรือคะ” เธอไม่กล้าถามเขาว่า...ไม่อยากมีครอบครัว...ไม่อยากเลิกทำงานอันตรายอย่างนี้หรือ จึงได้แต่ยืนยันเรื่องลูกแทน

พี่ชายไหวไหล่นิดๆ ก่อนจะตอบ “ยังไม่ถึงเวลา”

“แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะถึงเวลาล่ะคะ ยายลูกแก้วจะได้มีเพื่อนเล่นสักที” เธอไม่ได้ต้องการเพื่อนเล่นให้ลูกสาว มากเท่ากับอยากให้พี่ชายมีครอบครัวที่น่ารักเหมือนเธอ

“โน่น ถ้าอยากให้ลูกแก้วมีเพื่อนเล่น ถามคนนั้น” นภฑีย์พยักพเยิดไปทางสามีของน้องสาว

ทัชชกรโอบเอวภรรยา ดึงเธอเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น ก่อนจะกระซิบเสียงเบา “เริ่มหาเพื่อนเล่นให้ลูกแก้วคืนนี้เลยดีไหม”

แม้จะอุ้มลูกไว้ หากเรือนขวัญยังสามารถถองสามีได้เต็มแรง “บ้า พี่ทัชเนี่ย พูดอะไรตอนนี้” ถ้าเขาไม่พูดต่อหน้าผู้ชมคนอื่น เธอคงจะไม่เขินขนาดนี้หรอก

“อูย พี่จุกนะเนี่ย”

“สมน้ำหน้า” เธอแลบลิ้นใส่ เด็กหญิงดูจะเข้าใจว่าพ่อกับแม่กำลังเล่นตลก ก็เลยหัวเราะเอิ้ก

ทัชชกรจับจมูกนิดๆ นั่นโยกไปมาเบาๆ “แหม...หัวเราะพ่อใหญ่เลยนะ”

นภฑีย์ทอดมองสามคนพ่อแม่ลูกด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยคำตอบที่ติดค้าง

“พี่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จึงจะถึงเวลานะขวัญ แต่...ถ้ามันจะมา ก็คงมาเองนั่นแหละ ขวัญก็รู้มิใช่หรือ” พี่ชายคนโตย้อน และเรือนขวัญเห็นด้วย

“ใช่ค่ะ ถึงเวลาจะมา มันก็มาเอง” เหมือนกับความรักที่เธอมีต่อทัชชกรยังไงล่ะ มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งที่พบเขาในฐานะศัตรู แฝงตัวเข้าไปสืบเอาข้อมูลจากบริษัทของเขา...หวังทำลายล้าง แถมยังหมั่นไส้เขาเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายกลับหลงรักเขา โชคดีที่เธอแก้ไขความผิดพลาดได้ และทัชชกรก็ยอมให้อภัยเธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขา และมีครอบครัวที่น่ารักแบบนี้

“เนอะพี่ทัช” เธอยิ้มกับสามี และเขายิ้มตอบ

“ครับ”





พวกเขาทั้งสี่กินข้าวกลางวันด้วยกัน ด้วยกับข้าวฝีมือของเรือนขวัญ ปฐพีไม่ประหลาดใจว่าน้องสาวทำอาหารเป็นอีกต่อไปแล้ว เธอหัดมาตั้งนาน และทำเก่งขึ้นอีกต่างหาก อย่างน้อยก็พอพูดได้ล่ะว่าเธอเป็นแม่ศรีเรือนคนหนึ่ง

ทัชชกรรับอาสาเก็บล้างจานชาม ไม่ยอมให้แขกกิตติมศักดิ์ทั้งสองช่วยเหลือ เรือนขวัญเอาทัชชาไปนอน แล้วจึงเดินมาส่งพี่ชายที่หน้าล็อบบี

“แล้วนี่จะได้แวะมาหาขวัญอีกทีเมื่อไหร่” เธอถาม

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คงอีกสักพักล่ะ” นภฑีย์ตอบ

“งานใหม่ล่ะสิท่า” หญิงสาวทักอย่างรู้ทัน

เขาพยักหน้า

“คราวนี้งานอะไรคะ”

“ขโมยของคืน”

“ขโมยของคืน?” เรือนขวัญเลิกคิ้วสงสัย ปรกติพวกเขาเคยรับแต่งานขโมยของ แต่ขโมยของคืนนี่มันคืออะไรกัน

“คืนให้เจ้าของเดิม” พี่ชายคนรองบอก ก่อนจะพูดต่อให้กระจ่างขึ้น

“เจ้าของที่ถูกต้องน่ะ”

“หรือคะ” หญิงสาวก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี และนภฑีย์ใจดีพอจะช่วยเสริม

“เจ้าของใหม่ขโมยมาจากเจ้าของเก่า”

“อ้อ” เรือนขวัญพยักหน้า เริ่มจะเข้าใจเนื้องานที่แท้จริง

“งานนี้ใครเป็นตัวหลัก พี่ดินหรือ” เธอคิดว่าตัวเองไม่น่าจะเดาผิด นภฑีย์ไม่ค่อยชอบทำงานเบื้องหน้าเท่าไหร่ ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ดังนั้นงานดังกล่าวจึงมักตกเป็นของเธอไม่ก็ปฐพี แต่เมื่อเธอไม่ได้ทำงานกับพวกเขา จึงเหลือแต่ปฐพีคนเดียวที่รับงานหน้าฉาก

“ใช่ พี่เอง” ปฐพีตอบ“ส่วนพี่เมฆจะคอยสนับสนุนเบื้องหลังเหมือนเคย”

“ระวังตัวด้วยนะคะ”

“แน่นอน ขวัญไม่ต้องห่วงพี่หรอก” เขาหลิ่วตาให้แล้วโบกมือลา

เรือนขวัญมองพี่ชายทั้งสองเดินจากไป ทัชชกรเข้ามาสมทบ มือโอบรอบไหล่แบบบาง

“คิดอะไรอยู่จ๊ะ” เขาถาม สังเกตเห็นรอยมุ่นม้วนของคิ้วเธอได้

“อยากให้พี่เมฆกับพี่ดินเลิกทำงานแบบนี้สักทีค่ะ”

“เป็นห่วงล่ะสิ”

หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ แล้วพูดต่อด้วยอย่างปลงๆ

“แต่ก็พอจะรู้หรอกว่าห้ามไม่ได้”

ขนาดตัวเธอเอง นภฑีย์กับปฐพียังไม่เคยห้ามเลย แล้วเธอจะมีหน้าไปห้ามพวกเขาได้อย่างไร

“บางทีพวกเขาคงยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว” ทัชชกรไม่กล้าพูดว่า...และบางทีพวกเขาอาจจะไม่มีวันอิ่มตัวกับงานผิดกฏหมายเลยก็ว่าได้ เขาไม่อยากให้ภรรยาคิดมาก แม้ตระหนักว่าเธอน่าจะรู้จักพี่ชายของเธอดี

“ขวัญก็หวังว่าอย่างนั้นค่ะ”

แม้จะกล่าวเช่นนั้น หากเรือนขวัญไม่มั่นใจเลย ได้แต่หวังว่าจะมีบางอย่างทำให้นภฑีย์และปฐพีเปลี่ยนใจในภายหลัง





31 Dec 2011
สวัสดีค่ะ

มาแปะนิยายเรื่องใหม่ เป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นะคะ ตอนแรกว่าจะมาแปะเร็วกว่านี้ แต่ว่ายุ่งมากๆๆๆๆ เลยเพิ่งได้มาแปะวันสุดท้ายของปีจริงๆ เลย สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขและสมหวังกับปีใหม่นี้

สำหรับเรื่อง Notorious Love เป็นเรื่องของพี่ดินนั่นเอง เอ...คุ้นๆ กับพี่ดินไหมคะ ถ้าใครได้อ่าน Hidden Love ซ่อนอะไรไว้ใต้ความรัก หรือในชื่อใหม่ที่เป็นนิยายออกกับสนพ. ยาหยีว่า แผนซ้อนซ่อนกลรัก น่าจะคุ้นๆ อยู่บ้างนะคะ หลังจากดองเรื่องของพี่ดินมานาน จนเริ่มมีคนอ่านถามหาว่าจะมีแต่งเรื่องพี่ดินไหม คราวนี้คงจะได้อ่านกันสักทีนะคะ เรื่องของพี่ดินจะเป็นยังไง ติดตามกันได้เลยค่ะ

อ้อ มีการลองจัดหน้าใหม่ ไม่เคาะบรรทัดนะคะ เท่าที่ดูด้วยตัวเองก็ค่อนข้างอ่านง่าย เพื่อนๆ มีความเห็นกับการจัดหน้าใหม่ยังไง ชอบหรือไม่ชอบ บอกกันได้ค่ะ

สุดท้าย ขอทิ้งท้ายด้วยเกมชิงหนังสือเล็กๆ น้อยๆ ตอบแทนผู้อ่านปีใหม่นี้นะคะ
มิถุนาจะแจกเรื่อง”รักนอกรอบ” (สนพ. ยาหยี-ยาใจ มิถุนาเขียนร่วมกับไผ่แก้ว) 1 เล่ม และเรื่อง “คู่จุ้นวุ่นรัก” (สนพ. ยาหยี-ยาใจ) 2 เล่ม
กติกาง่ายๆ เพียงตอบคำถามที่ว่า “เพื่อนๆ ชอบอ่านนิยายแนวไหน และเหตุผลเพราะอะไร”
ส่งคำตอบมาที่ busaba401@hotmail.com โดยพิมพ์ชื่อหัวข้ออีเมลว่า “ชิงรางวัลรักนอกรอบกับคู่จุ้นวุ่นรัก”
โดยมิถุนาจะจับฉลากเลือกผู้โชคดีมา 3 ท่าน หมดเขตร่วมสนุก 14 ม.ค. 55 ประกาศผลวันที่ 15 ม.ค. 55
อย่าลืมมาเล่นเกมกันเยอะๆ นะคะ

แล้วเจอกันค่า
มิถุนา
Busaba401@hotmail.com
//mithuna.bloggang.com


Create Date : 31 ธันวาคม 2554
Last Update : 31 ธันวาคม 2554 18:09:13 น. 6 comments
Counter : 1676 Pageviews.

 


มีความสุขมากๆ ขอให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีตังค์ใช้ตลอดปีตลอดไปนะคะ


โดย: deeplove วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:19:53:10 น.  

 
deeplove ขอบคุณมากค่า
สุขสันต์ัวันปีใหม่ ขอให้มีความสุขมากๆ เช่นกันนะคะ


โดย: มิถุนายน วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:20:12:36 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตค่ะ มีความสุขมากมากค่ะ


โดย: เอิงเอย IP: 101.109.15.229 วันที่: 4 มกราคม 2555 เวลา:16:24:41 น.  

 
เอิงเอย สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่า ขอให้เป็นปีที่ดีและมีความสุขมากๆ ค่า :-D


โดย: มิถุนายน วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:9:38:11 น.  

 
น่าสนคะ


โดย: วรรณ IP: 125.25.119.146 วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:6:31:21 น.  

 
วรรณ ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ :-D


โดย: มิถุนายน วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:11:08:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.