สน. โมไบล์ (2) เล่นน้ำสงกรานต์
“มาเร้ว.. มาเล่นกันตรงนี้”
ตรงที่ว่านั้นอยู่ริมถนนใหญ่ ใกล้บ่อน้ำ ดิฉันเตรียมถังน้ำใบใหญ่ แล้วสูบน้ำจากบ่อมาใส่ลงในถัง เด็ก ๆ ทั้งหญิงชาย เรียนอยู่ราว ๆ ชั้น ป.1-6 จำนวนเกือบหนึ่งโหล เราเป็น เป็นหัวโจกพาเด้ก ๆ เล่น
เล่นกันในช่วงบ่าย ๆ .. รอสาดน้ำคนที่เดินผ่านไปมา และรถที่วิ่งผ่านไปมา.. ยิ่งเล่นยิ่งสนุก..

จนกระทั่งมีรถโลโก้ตำรวจสีขาว-น้ำตาลเลือดนกหลายคันวิ่งผ่าน .. รู้สึกแปลกใจว่า พวกเขาพากันไปไหนด้วยท่าทีรีบร้อน ท้ายรถเขียนบอกว่ารถมาจาก สน. ไหนบ้าง คันแล้วคันเล่าที่วิ่งผ่านไปที่เราได้แต่ยืนดู ..บางคันก็ใช้โทรโข่งประกาศ

“นี่เป็นภารกิจเร่งด่วน.. ห้ามรดน้ำ.. ห้ามสาดน้ำ..ห้ามรด..”
ยืนมองนาน ๆ ก็เริ่มเบื่อ เพราะนอกจากรถตำรวจแล้ว.. บนถนนในตอนนั้น ไม่มีรถคันอื่น ๆ เลย (เพราะจอดหลบข้างทางกันหมด) มือที่ถือขันค้างไว้เริ่มเมื่อย อดรนทนไม่ได้.. เอาละ.. วันนี้วันสงกรานต์.. จะว่ายังไงก็ขอสาดน้ำไว้ก่อนล่ะ
“ห้ามสาด..ห้ามรด..ห้ามสาดน้ำ” คันนี้ก้ประกาศมาตั้งไกล แต่มือดิฉันก็ยั้งไม่อยู่ ซะแล้ว สาดโครมเข้าใส่เต็มรัก
“.. เพล้ง..”
อุ้ย... เกิดอะไรขึ้นนี่ .. หูไม่ฝาดแน่.. เสียงกระจกแตก.. รถคันนั้นกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง.. ต้องเบรกเอี๊ยดอย่างแรง.. แล้วก็เลี้ยวกลับมาช้า ๆ พร้อม ๆ กับ ประกาศเสียงตามโทรโข่ง..
“บอกว่าอย่าสาดน้ำ..ห้ามรด..ห้ามรด.."

ตอนนี้เด็ก ๆ ที่เล่นอยู่ด้วนกันแตกฮือวิ่งหนีคนละทิศละทาง บางคนกระโจนข้ามรั้วหนีแบบไม่คิดชีวิต.. .. คนเฒ่าคนแก่สองข้างทาง ละแวกนั้นต่างโผล่หน้าสะหลอนมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดิฉันใจเต้นตูมตาม ๆ ถ้าวิ่งหนีก็เหมือนกับว่าตัวเองทำผิด .. แต่นี่ .. แค่เล่นน้ำ..ไม่ได้ทำอย่างอื่น.. ถ้าผิดก็ขอรับผิด.. รถตำรวจจอดกึกตรงหน้า.. ปากยังคงพ่นใส่ไมค์โครโฟน พลขับรุ่นคุณลุง มองดูฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ.. ดิฉันยืนแน่นิ่ง..มือยังคงถือขันไว้ ตามองดูทั้งคนขับ ทั้งคนที่นั่งมาด้วย.. ดิฉันใส่กางเกงขาสั้นแค่เข่า เซิ๊ตแขนยาว ใส่หมวกจ๊อกกี้.. อาศัยชายหมวกช่วยปิดหน้าปิดตาให้บ้างและแอบมองด้วยสายตา .. คนขับหน้าแดงก่ำ.. คนที่นั่งคู่มาด้วยมียศระดับสารวัตร นั่งนิ่งแค่ปลายตามองมาที่ดิฉันและนิ่งในท่าเดิม..ดิฉันคิดตอนนั้นว่า.. กระจกส่องข้าง (ขวา) แตก ราคาคงไม่แพงนัก มีตังค์พอที่จะชดใช้ให้ได้ ..
พลขับหันไปมองนายอีกทีหนึ่ง.. นายยังคงนิ่งอยู่ แกจึงหันมาตวาดดิฉัน..ตะโกนใส่โทรโข่ง
“เล่นน้ำ..ก็ควรเล่นให้สุภาพ.. ไม่ควรใช้ก้อนหินสาด”
“น้ำเปล่า ๆ ค่ะ.. ไม่มีก้อนหิน”
“ไม่มีแล้วอะไรโดนกระจกละหึ”
“ไม่ทราบ.. น้ำ..สูบขึ้นมาจากบ่อแล้วใส่ลงถัง..ไม่เชื่อคุณก็ลงมาตรวจดูสิคะว่ามีเศษหินเศษดินไหม "
“ก็ประกาศแล้วว่าห้ามรด..ห้ามรด”
“ก็วันของมันนี่นา..มันอดใจไม่ได้” เขายังคงหน้าตึง.. คนรอบ ๆ ข้างก็ยืดคอดูกันอยู่ห่าง ๆ ได้ยินเสียงแว่วมา..”สมน้ำหน้า..เล่นสนุกนัก.. ทำเป็นหัวโจก..เห็นไหมว่าเกิดอะไรขึ้น.. ตำรวจไม่ปล่อยแน่ ๆ ...”
“จะให้ใช้ไหมค่ากระจกน่ะ”
พลขับหันไปมองนาย.. นายกลับส่งอมยิ้มมาทางดิฉัน แล้วหันกลับไป..
พลขับมองหน้าดิฉัน..มองหน้านาย..ทำท่าลังเล
“ถ้าจะให้ใช้ จะขึ้นไปเอาตังค์ให้ ..บ้านอยู่ตรงนี้” ดิฉันพูดพร้อมกับชี้มือไปที่บ้านที่อยู่ข้างหลัง.. พลขับหันมองนายอีกครั้ง.. นายนิ่งไม่มีปฏิกิริยา แกจึงตะคอกใส่ย่างแรง
“ไม่ต้อง! คราวต่อไปเล่นให้สุภาพหน่อย” แล้วก็ค้อนหน้าง้ำ พร้อม ๆ กับกระชากรถเลี้ยวกลับอย่างแรง ดิฉันยืนมอง.. ทำเอาไทยมุงผิดหวัง เพราะคาดการณ์ว่า ตำรวจจะต้องเอาดิฉันขึ้นรถไปด้วย.. .. วันนั้นเซ็งเลยค่ะ..

ยังเก็บเอามาคิดจนถึงทุกวันนี้ว่า กระจกมันร้าวอยู่หรือเปล่า.. ทำไมมันแตก..



Create Date : 25 ตุลาคม 2553
Last Update : 25 ตุลาคม 2553 16:00:08 น.
Counter : 411 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Maya_II
Location :
มุกดาหาร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Star sign : Gemini
Hobby : Reading & Writing
Interest : variety