กันตยา & ซาช่า 28
 

             โคปากำลังอยู่ในอาการโกรธจัด เขาเดินกลับไปกลับมาอย่างใช้ความคิด หญิงแก่ไอลีนก้มหน้าต่ำไม่กล้าสบตาเขา   

          “เจ้าล้มเหลวเรื่องการเจราจา   ล้มเหลวเรื่องการต่อรอง  เจ้าอับจนซึ่งปัญญา แล้วยังมายืนเสนอหน้าอยู่อีก หญิงเฒ่าผู้น่ารังเกลียด”    ไอลีนรู้สึกร้อนวูบที่หน้าที่โคปาไม่เคารพเธอเหมือนที่ผ่าน ๆ มา   

 

          “ไอลีน..ไอลีน..” โคปาลากเสียงยานคาง “เจ้าอยู่กินมากับเขาหลายปีแต่ก็ไม่มีค่าพอสำหรับพวกเขา  เจ้าด้อยค่าไปกว่าพวกเด็กเลือดผสมวานซืน”     คำพูดของโคปาทำให้ไอลีนเลือดฉีดขึ้นหน้าสุดจะกลั้น  

 

          “แล้วทำไมเจ้าถึงอยากได้คืนในเมื่อครอบครัวของข้าจ่ายค่าตอบแทนและทำสัญญาเป็นเรื่องซื้อขายกันกับบรรพบุรุษเจ้า ตอนนี้เขาจะยกให้ใครก็เป็นเรื่องของเขา”   

 

          “อ้อ ตอนนี้เจ้าเข้าข้างตาแก่นั่นแล้วเหรอ ไม่เห็นเหรอว่าเขานอกใจเจ้า” โคปาพูดอย่างผู้มีชัย “ แล้วที่ข้าต้องคอยดูแลเจ้ามาตลอดสิบกว่าปีนี่ล่ะ เจ้าไม่คิดจะตอบแทนอะไรบ้างเลยหรือ..ห๊ะ” 

          “เราไม่มีสัญญาต่อกันในเรื่องนั้น”   

 

          “ฟังไว้นะหญิงเน่า  ถึงเขาไม่มอบให้ในตอนนี้ ก็ไม่เป็นไรเพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกคนขาวต้องออกจากแผ่นดินนี้ให้หมด รวมทั้งเจ้าด้วย”   

 

          “ข้าไม่ไป ข้าไม่อยากหอบเอาร่างอันน่าทุเรศนี้ไปให้คนอื่น ๆ ได้เห็น ข้าขอตายที่นี่” 

 

          “งั้นเจ้าก็จะได้ตามใจปรารถนา” พูดจบโคปาหันไปตะโกนสั่งสาวกเสียงดังลั่น 

 

            “ เอายายแก่อัปลักษณ์นี้ออกไป”  

 

ราตูรู้สึกเป็นห่วงลูกทั้งสองที่ออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับมา นางจึงตัดสินใจออกตามหาบ้านทูเกลูล่า ที่ลูกสาวเคยเล่าให้ฟัง  ฝ่ายโยฮันก็ตามหานางเช่นกัน เขาเดินมุ่งหน้ไปทางโบสถ์ขณะที่นางกำลังเดินออกประตูโบสถ์ ทันทีที่เห็นโยฮันรีบวิ่งถลาเข้าหา 

 

          “สวัสดีราตู จะรีบไปไหนแต่เช้า”   

 

ราตูจ้องหน้าเขาเขม็ง ปิดปากเงียบ นางเริ่มรู้สึกว่าโยฮันและนางอาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกันและนางไม่อยากจะเข้าใกล้เขามากนัก  

 

          “ผมมีข่าวดีมาบอก”  เขามองซ้ายทีขวาทีก่อนจะพูดต่อ ” เมื่อคืนพวกของเรากับแนวร่วมได้ทำลายไร่ปศุสัตว์ของตระกูลเกลมัง  ไม่ให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว  ”    ราตูได้ยินดังนั้นนางเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงกลางใจ นางนึกถึงเสียงเจื้อยแจ้วของซาช่าที่เล่าสู่นางฟัง  

           ‘แม่คะ หนูแอบได้ยินนายทั้งสองคุยกัน เขาบอกจะยกบ้านและไร่ให้หนูเพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน’   

โยฮันไม่ทันระวังตัวจึงโดนฝ่ามือของนางฟาดเปรี๊ยะเข้าที่หน้า

 

          “สารเลว ..นั่นมันไร่ของลูกสาวฉัน ”   

 

โยฮันแทบไม่เชื่อหูตัวเอง กับสิ่งที่ได้ยิน เขาอึ้งไปชั่วครู่ พอได้สติเขาเริ่มปะติดปะต่อเหตุการร์ที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน  

 

          “อ้อ..แล้วไง..ที่แท้ก็ตาเฒ่านั่นเองหรอกหรือ และตอนนี้ก็มีใจให้มันแล้วใช่มั้ย ห๊ะ เงินฟาดหัวได้ ซื้อศักดิ์ศรีได้ใช่ไหม”  

 

              “ถ้าเธอมีลูกเธอจะเข้าใจความรักที่มีต่อลูก”  

 

          “ไม่ต้องเอาลูกมาอ้าง เธอมันก็พวกยอมให้กดขี่ทางเพศเพียงเพื่อหวังเศษเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ฉันคิดแล้วเชียวถ้าเธอไม่มีใจให้เขา ใครเขาจะลดตัวลงมาเกลือกกลั้วด้วย ฉันเสียใจที่ดูเธอผิดไป   ลาก่อน”   เขาเดินจากไปโดยที่นางไม่เอ่ยคำกล่าวลาและไม่แม้แต่ปรายตามองตาม 

 ถึงบ้านทูเกลูล่า นางรู้สึกทั้งตื่นเต้นกล้า ๆ กลัว ๆ นางคิดว่าถ้าเจอท่านผู้เฒ่านางจะทำอย่างไร  นางรู้สึกตัวของนางลีบหดเล็กลง  พอทาคิเห็นนางโผล่ตรงทางเข้าบ้านเขารีบวิ่งมาหา เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้นางฟัง ซาช่าเดินออกมาสมทบและพานางไปพักที่ห้องสี่เหลี่ยมคอกม้าของเธอ ตอนนี้ทั่วทั้งบริเวณกระท่อมและคอกม้าเงียบเหงาราวกับปราศจากสิ่งมีชีวิตอื่นใด เหมือนโลกทั้งใบมีเพียงพวกเขาสามแม่ลูก  

 วันต่อมาราฟิคิก็โผล่มาที่หน้าบ้าน ใบหน่าก้มต่ำแฝงรอยโศกเศร้า  กิลเบอร์ตเดาได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น  และเขาก็เดาถูก ราฟิคินำข่าวร้ายมาบอกว่า มีคนพบศพนายหญิงไอลีนจมน้ำตายในแอ่งข้างเหมืองร้าง เนื่องจาก     นายหญิงเป็นสาวกของกลุ่มนับถือเทพราบิอะจะต้องทำพิธีเผาไฟส่งดวงวิญญาณยามค่ำคืนตามความเชื่อ และห้ามคนนอกเข้าเกี่ยวข้องด้วย แม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่อนุญาต เพราะถือว่าสาวกทุกคนได้สละซึ่งทุกสิ่งและ อุทิศตนเพื่อเทพแล้ว กิลเบอร์ตเลือดฉีดขึ้นหน้า ทำจมูกฟุดฟิดแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เขาเอากำปั้นทุบโต๊ะปังอย่างแรง และเมื่อเขานำข่าวนั้นไปบอกแก่ผู้เฒ่าข่าวนั้นก็ทำให้ผู้เฒ่าเกลมังอาการทรุดลงกว่าเดิม  คืนนั้นทั้งกิลเบอร์ตและซาช่าผลัดกันเฝ้าอย่างใกล้ชิด ส่วนทาคิยังคงอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่ห้องข้างคอกม้า  

ตกดึกผู้เฒ่าเริ่มดิ้นรนตะเกียกตะกาย อ้าปากส่งเสียงร้อง เสียงแหบพร่าฟังไม่ได้ศัพท์  มือผอมซีดของเขาพยายามไขว่คว้าอะไรบางอย่าง กิลเบอร์ตะโกนเรียกซาช่าซึ่งนอนอยู่ห้องข้าง ๆ ให้มาดู  เธอพยายามเงี่ยหูฟังว่าผู้เฒ่าพูดอะไรแต่ก็โดนมือของผู้เฒ่ายื้อฉุดดึงผมของเธอ จนเธอต้องทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด แล้วผู้เฒ่าก็กรอกเสียงลงข้างหูของเธอ  

             “ทะ..ทอง ..คืนแก่แผ่นดิน  ทะ..ทางลัด..กะ กุญแจ..อยู่..” ผู้เฒ่าผูดด้วยความยากลำบากไม่นานมือที่ดึงผมของเธอก็เริ่มคลายออกช้า ๆ และแขนทั้งสองของผู้เฒ่าก็ร่วงลง  

           “ท่านคงอยู่ได้อีกไม่นาน ฉันอยากให้แม่ของเธอเข้ามาดูหน่อยและอภัยให้ท่านในสิ่งที่ได้ทำลงไป ท่านจะได้จากไปโดยสงบ”    

ราตูเดินมาถึงประตูบ้าน แต่นางไม่ยอมเข้าบ้าน นางนั่งลงกับพื้นที่ขอบประตูก้มหน้า กิลเบอร์ตเดินออกมาหานางและขอร้องให้นางเข้าไปข้างใน นางได้แต่ส่ายหัว จนซาช่ามาช่วยประคองนางจึงยอมลุกขึ้นและเดินไปนั่งลงข้างเตียงก้มหน้า นางไม่กล้ามองมองผู้เฒ่าตรง ๆ พลันน้ำไส ๆ ก็ไหลอาบแก้ม  ขณะที่นางเปร่งเสียงเครือ  

 

          “ฉันยอมยกโทษให้   และลูก ๆ ของฉันก็น่ารัก”  พูดจบนางก็คลานออกนอกห้องไป  จากนั้นไม่นานผู้เฒ่าก็จากไปอย่างสงบ

 งานศพของผู้เฒ่าเกลมังจัดขึ้นเรียบ ๆ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองกำลังตึงเครียด ผู้คนอยู่อย่างหวาดระแวง มีเพียงเพื่อนสนิทและครอบครัวฝ่ายเบ็ตตี้เท่านั้นที่มาร่วมงาน บรรดาคนงานสีผิวไม่มีใครมา ทาคิกับซาช่าอยู่ในอาการสงบตลอดเวลาท่ามกลางสายตาผู้อยากรู้อยากเห็ที่มาร่วมงาน  หลังจากเสร็จสิ้นงาน กิลเบอร์ตส่งครอบครัวตัวเองกลับไปแล้ว เขาหันมาหาซาช่าซึ่งไม่ใช่ในฐานะนายกับบ่าว แต่เป็นพี่ชายกับน้องสาว 

 

          “น้องว่าเราควรจะทำอย่างไร”  

 

          “พี่เอาไงน้องก็เอาด้วย”  

 

          “เราต้องทำลายเหมืองร้างนั่น เพราะที่นั่นเป็นแหล่งช่องโจร” กิลเบอร์ตสูดลมหายใจแรงจนเห็นอกกระเพื่อม แววตาแดงก่ำ ซาช่าเบิกตาโพลงและเผลอเอามือมาปิดปาก กิลเบอร์ตรีบอธิบาย  

           “เราไม่ได้ลอบฆ่ามหมู่นะ แค่ระเบิดทางเข้าให้หินถล่มลงมา การเข้าออจะได้ลำบากขึ้น และบริเวณรอบ ๆ อีกนิดหน่อยเป็นการขู่ไง  ที่พักของพวกเขาอยู่ลึกเข้าไปข้างในโน่น”  เขาเห็นซาช่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธออยากบอกเหลือเกินว่า ‘ฉันไปเห็นมาแล้ว’  แต่ก็อย่าดีกว่า  

           “เราจะทำลายด้วยวิธีไหนล่ะคะ”    

           “เครื่องมือ อุปกรณ์  ชนวนระเบิดหินยังมีเหลืออยู่ในห้องเก็บของ”  พูดจบเขาก็เดินไปหยิบเอาแผนผังเหมืองออกมากางและอธิบายจุดต่าง ๆ ให้ซาช่าได้เข้าใจ 

แล้วคืนนั้นทั้งสองก็ร่วมวางแผนและจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้และจัดแบ่งหน้าที่กันจนดึกดื่น ส่วนทาคินอนเป็นเพื่อนแม่ที่ห้องสี่เหลี่ยมข้างคอกม้า  

 

ก่อนพระอาทิตย์ตกดินของวันต่อมากิลเบอร์ตก็นั่งบนหลังม้าโดยมีซาช่านั่งซ้อนอยู่ข้างหลังมือถือเชือกจูงม้าอีกตัวหนึ่งที่บรรทุกสัมภาระเต็มเป้ใบใหญ่ทั้งสองข้าง มุ่งตรงไปเหมืองร้าง กิลเบอร์ตไม่ได้ไปที่นั่นมาหลายปี บริเวณพื้นที่โดยรอบเปลี่ยนแปลงไปบ้างแต่เขาก็จำพื้นที่บริเวณนั้นได้ทุกตารางนิ้ว   เขาจัดแจงผู้ม้าไว้ในที่กำบังรอจนมืดจึงจัดแบ่งสัมภาระช่วยกันขน เดินเท้าต่อ และข้ามสะพานแขวนไป

 

          “อากาศฤดูใบไม้ผลิเย็นยะเยือกในตอนกลางคืน พวกยั้นคงนอนขดอยู่ในอุโมงค์เป็นแน่แท้” กิลเบอร์ตพูดปากสั่นระริกด้วยความหนาว   

 

กว่าทุกอย่างจะจัดการเสร็จก็ผ่านเลยเที่ยงคืน ทั้งสองจึงต้องพักเอาแรงและม่อยหลับไปด้วยความเพลีย มาตื่นอีกทีก็จวนจะรุ่งสาง ซาช่าต้องดูต้นทางให้ กิลเบอร์ตเป็นฝ่ายจุดชนวน ขณะที่ทุกอย่างกำลังจะลงตัวด้วยดี ซาช่าเหลือบไปเห็นเงาตะครุ่มของคนสองคนกำลังข้ามสะพานมา เธอจำได้ดีว่าเงาสูงโย่งเดินนำหน้าคือทาคิน้องชายฝาแฝดของเธอเอง และคนที่เดินตามคือแม่  ทั้งสองมุ่งตรงไปบริเวณปากทางเข้าใกล้บริเวณที่วางจุดระเบิด   เธอรีบวิ่งไปกันให้พวกเขาถอยออกมา และบอกให้ข้ามสะพานกลับไป   

 

          “ลูกกำลังทำในสิ่งที่เสี่ยงเกินไป แม่อยากมาช่วยลูก”   

 

          “ทาคิ ทำไมไม่ดูแลแม่ให้ดี ๆ ”  

 

          “แม่ไม่ฟังก็เลยแอบตามพี่มา” 

 

          “พาแม่กลับไปเดี๋ยวนี้ มันอันตรายรู้ไหม”   

 

          “แม่จะไม่ยอมทิ้งลูกไปไหนเด็ดขาด” นางยืนยันเสียงแข็ง 

 

          “กิลเบอร์ต ยังไม่ปลอดภัยนะรอก่อน”  ซาช่าตะโกนพร้อมกับลากแขนทาคิและแม่ไปที่สะพาน “พาแม่ไปรออยู่ฝั่งโน้นพี่จะตามไป เชื่อฟังกันหน่อยพี่จะได้ทำงานได้สะดวก”  

 

ทั้งทาคิและแม่จำยอมต้องปฎิบัติตามแบบไม่เต็มใจ ซาช่าจึงให้สัญญาณกิลเบอร์ต  พอเสียงระเบิดลูกแรกดังตูมขึ้น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโกลาหล และตามมาด้วยเสียงตูมที่สอง ที่สามเป็นระยะๆ กิลเบอร์ตเมื่อจุดชนวนเสร็จรีบวิ่งกลับไปที่สะพาน ซาช่าลังเลเรื่องทองคำว่าจะจัดการอย่างไรดี  แต่แล้วก็คิดได้ว่าเมื่อทุกอย่างสงบค่อยย้อนกลับมาใหม่ เธอหันหลังเตรียมจะออกวิ่งแต่เธอช้าไปเสียแล้ว พวกสาวกและแนวร่วมเจ็ดแปดคนโผล่มาจากไหนไม่รู้เข้ามาล้อมวงเธอไว้  เธอรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาไม่ได้นอนในเหมืองร้าง ในมือแต่ละคนถือหอกถือพรวน เธอชักปืนพกชูขึ้น พวกนั้นถอยห่างขยายวงกว้างออกไปเล็กน้อย  

 

          “จับเป็น”  เสียงแหบพร่าทว่าดังชัดเจนตะโกนออกมาเธอรู้ดีว่านั่นคือเสียงของโคปา 

 

          “วิ่งเร็วซาช่า” เสียงกิลเบอร์ตตะโกนมาจากสะพานแขวน 

 

          “รีบไปก่อน เดี๋ยวจะตามไป”  เธอตะโกนตอบพร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัดเพื่อหวังแหวกวงล้อม พวกนั้นก้มหัวหลบ เธอเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ  วงขยายกว้างแต่ทิ้งระยะตามจังหวะที่เธอก้าวเดิน ซาช่าปรายหางตาข้ามไหล่มองข้างหลัง   

 

 “อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงสะพาน”     

 

พลันเสียงของแม่ของเธอก็ดังขึ้นจากข้างหลัง

 

          “อย่าทำอะไรลูกฉันนะ”   

 

ซาช่าหน้าซีดอ้าปากค้าง   

 

          “แม่ กลับมาทำไม”  

 ราตูวิ่งผ่านเธอไปยืนขวางกั้นสองมือเปล่าของนางชูกวัดแกว่งไปมาไม่ให้พวกนั้นเข้ามาใกล้ลูกสาว ซาช่าต้องเอามืออีกข้างดึงฉุดแม่ให้ถอยหลังกลับไปที่สะพาน   ซาช่าเหลือบไปเห็นทาคิกำลังเดินข้ามสะพานมาอีกคน เธอเลือดฉีดขึ้นหน้าและตะโกนให้ถอยกลับไป เขาเชื่อฟังอย่างว่าง่าย เขาวิ่งกลับและไปแอบซุ่มเฝ้าสังกเตการณ์อยู่ข้าง ๆ กิลเบอร์ต  

ในที่สุดทั้งซาช่าและราตูก็ถอยมาจนถึงสะพาน และค่อย ๆ ก้าวถอยหลังโดยปืนในมือของเธอยังคงส่ายจ้องไปมา ฝ่ายที่ตามมาไม่กล้าเข้าใกล้มากนัก เสียงตะโกน จับเป็นของโคปายังดังไม่หยุด พวกเขาจึงพากันจับสายสะพานแล้วโยกอย่างแรง   ราตูที่อุ้ยอ้ายเดินไม่ค่อยคล่องเสียหลักเซถลาล้มลงมือที่จับซาช่าอยู่พลอยดึงเธอให้ล้มลงด้วยพวกนั้นรีบวิ่งกรูตามมา   พอเธอลุกขึ้นได้เตรียมจะเข้าไปพยุงแม่ แต่ทว่านางลุกขึ้นได้ก่อนและวิ่งโซซัดโซเซวิ่งเข้าหาพวกที่ติดตามมาพร้อมกับส่งเสียงร้องเกรี้ยวกราดเหมือนคนเสียสติ  

           “ไอ้พวกคนใจชั่ว พวกแกจะทำอะไรลูกข้าฮึ   ต้องข้ามศพข้าไปก่อน”    

สะพานที่โยกเยกไปมาและด้วยความเร่งรีบทำให้ซาช่าเสียการทรงตัวและเซถลาล้มลงอีกครั้ง ปินพกร่วงหลุดจากมือหล่นลงสู่แม่น้ำเชี่ยวกราด    ทันทีที่ราตูกระโดดโถมใส่พวกมันจังหวะเดียวกันปลายหอกหลายอันก็ทิ่มลงมายังร่างของนาง นางทรุดฮวบลงกองบนพื้นสะพานเลือดแดงฉานไหลลงสู่สายน้ำเบื้องล่าง  ซาช่ากรีดร้องเสียงหลงเธอ  เธอกำลังจะวิ่งเข้าไปหาแม่ แต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อพวกนั้นเดินข้ามร่างแม่ของเธอประชิดเข้ามาเรื่อย ๆ หอกและพรวนแกว่งไปมาอยู่ในมือ  เธอถอยหลังไปช้า ๆ น้ำตำลังทะลักออกมาจนตาพร่ามัวมองเห็นเพียงลาง ๆ  แต่เธอก็ถอยหลังมาเรื่อย ๆ จนมาถึงกลางสายน้ำ เธอจึงหยุดฟังเสียงน้ำเบื้องล่างที่ส่งเสียงหวีดหวิวเหมือนกำลังโกรธเกรี้ยว ผู้ที่ติดตามมาก็หยุดกึกเช่นเดียวกับเธอ  ทันใดนั้นโคปาก็เดินแสยะยิ้มแหวกกลุ่มผู้ติดตามออกมายืนเชิญหน้ากับเธออย่างผู้มีชัย   และที่กำลังแทรกตัวเข้ามาอีกคนคือมาร่า สายตาของนางที่จ้องมองเธอเหมือนเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่สิบชาติ    โคปาอ้าแขนทั้งสองออก  เบ้ปากทำหน้าเป็นเชิงให้ยินยอมให้จับเสียดี ๆ ภาพเจ้าซีโร ไวคาส พ่อผู้เฒ่า สัตว์เลี้ยงที่ไร่ และเธอมองเลยผ่านไปเพื่อจะดูร่างของแม่ แต่ตอนนี้พวกที่ตามมายืนเต็มสะพานบดบังเอาไว้  สะพานส่งเสียงเอียดอ๊าด โคปาหน้าถอดสี ผู่ที่ติดตามมาก็หันไปมองหน้ากันเลิกลั่ก

 

          “สะพานแขวนคงรับน้ำหนักได้ไม่มากนักนะ”  ซาช่ากัดฟันพูด

 

            “ถ้าพวกนี้ยังมีชีวิตอยู่ชีวิตของเธอก็คงไม่เป็นสุข”  ซาช่าคิด “และพวกมันควรได้รับกรรมในสิ่งที่พวกมันทำลงไป”  

           “ถ้าระเบิดหยุดยั้งพวกนั้นไม่ได้ เมื่อเราข้ามสะพานมาแล้วให้น้องตัดเชือกสะพานเลยนะ”  

 เสียงกิลเบอร์ตดังก้องขึ้นในหัว จังหวะเดียวกันที่ผู้ติดตามบางคนกำลังส่งเสียงเอะอะสั่งให้บางส่วนถอยขึ้นฝั่งก่อน ต่างลุกลี้ลุกลนจะหันกลับ มาร่าก็รวมอยู่ในนั้นด้วย ขณะที่พวกมันกำลังวุ่นวายซาช่าก็ดึงมีดพกที่สะพายซ่อนไว้อยู่ใต้เสื้อคลุมออกมา คมมีดสะท้อนแสงวาววับเธอแกว่งมีดตัดเชือกขอบสะพานดังฉับ ทันทีที่เชือกราวสะพานขาดก็ทำให้สะพานเสียการทรงตัวพลิกเอียงกระเท่เล่  แบบเทกระจาดร่างที่ล่วงตกลงไปในสายน้ำส่งเสียงร้องเสียงหลง   มืออีกข้างของซาช่ายังคงจับเชือกแขวนสะพานแต่ลำตัวห้อยต่องแต่ง  โคปาก็อยู่ในสภาพที่มาแตกต่างไปจากเธอ  ถ้าจับชือกแขวนให้แน่น ๆ  แล้วป่ายปีนขึ้นบนสะพานโอกาสรอดมี ถ้าไม่หมดเรี่ยวแรงก่อน   แต่เธอไม่ต้องการให้โคปารอด นี่คงเป็นหนทางเดียวที่เธอจะแก้แค้นเขาได้   เธอจึงรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเงื้อมีดสุดแขนตัดเชือกขอบสะสานอีกข้างขาดสะบั้น ทั้งเธอและโคปาเสียหลักล่วงหล่นลงไปในสายน้ำ  ร่างของเธอลอยละลิ่วดิ่งลงเบื้องล่างเธอมองเห็นสายน้ำสีเจิดจ้าและเกิดเสียงดังตูมทันทีร่างของเธอแตะผิวน้ำ พองน้ำแตกกระเซ็นกระสาย   

          ร่างของกันตยาสะดุ้งเฮือกตัวโก่งงอเป็นครั้งแรกหลังจากที่หลับไปนานเกือบสองวัน   ฟาโก้รีบถลาเข้ามาดูใกล้ ๆ   

 

“เบลลามาดูนี่สิ เธอใกล้จะฟื้นแล้ว” เบลลาที่นั่งสัปหงกอยู่ใกล้ ๆ กระโดดเหยงเข้ามาดู ยายที่เฝ้าดูห่าง ๆ ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน  

 

          “ยาที่ใช้ได้ผลแฮะ คงต้องรออีกสักพักก็คงจะฟื้น”  ฟาโก้พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  เขาจ้องร่างของกันตยาซึ่ง ยังคงปิดเปลือกตาหลับสนิทนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง 




Create Date : 16 ตุลาคม 2558
Last Update : 16 ตุลาคม 2558 16:38:48 น.
Counter : 369 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maya_II
Location :
มุกดาหาร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Star sign : Gemini
Hobby : Reading & Writing
Interest : variety