บทที่ 2
บทที่ 2
ณอนผลักบานประตูเปิดสู่ทางเดินเข้าไปในคุก เขาเดินตามทางเดินยาว ๆ ไปยังห้องขัง เขาเคยมาคุกใต้ดินแห่งนี้นับร้อยครั้งแต่เขาก็ยังไม่คุ้นเคยกับมันอยู่ดี ความเย็น สัมผัสของความโหดร้ายทำให้เขารู้สึกตัวแข็งทื่อ เขามองเห็นภาพห้องที่มีประตูกรงเหล็ก หน้าต่างกรงเหล็ก ตาข่ายเหล็กล้อมรอบกรอบกระจก กรงเหล็ก ตู้ลิ้นชักเหล็กสิ่งเหล่านี้ไม่มีความรู้สึกอบอุ่นเจือปนอยู่เลย

ณอนทุบประตูเหล็กของเจ้าพนักงาน เขามองเห็นใบหน้าของ กลอเรีย ร็อดริเกซ เมียงมองดูเขาผ่านกรงเหล็ก ร็อดริเกซ เป็นคนร่างเตี้ย และอุ้ยอ้าย หล่อนมีดวงตาลาตินกลมโต หล่อนถลึงตาเป็นเชิงถาม หล่อนไม่เคยยิ้ม ไม่เยทำตัวให้ดูสบาย ๆ หรือแสดงความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ประเภทที่กวนประสาทให้พวกผู้ชายอารมร์เสียได้ทุกวัน ทำไมเขาให้หล่อนมาทำงานที่นี่ ณอนนึกไม่ออกจริง ๆ
“สวัสดียามบ่ายครับ กลอเรีย “ เขากล่าวพร้อมกับเดินผ่านเธอไป สายรัดกระเป๋าถือของเขาหลุดออกในขณะที่เขากำลังควานหาเอกสารบางอย่าง
“สวัสดีตอนบ่าย คุณบาร์เร็ตต์ คุณสบายดีหรือ?” หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาอ่อนโยน
“ก็ดีครับ โรซาริโอเป็นไงบ้าง?” กลอเรียเคยแต่งงานแล้วและมีบุตรชายเล็ก ๆ คนหนึ่ง
“ภาคเรียนนี้เขาได้รับใบเชิดชูเกียรติ” ตาของหล่อนฉายแววอบอุ่นมากขึ้นกว่าเดิม “ ตรงไปที่นั่น และวางสัมภาระของคุณไว้บนโต๊ะ” หล่อนพูดพร้อมกับก้าวถอยห่างจากประตูเพื่อให้ณอนเดินผ่าน
แพตเตอร์สัน เจ้าหน้าที่เรือนจำอีกคนหนึ่งที่เข้าเวร ตัวอ้วนพองตาแฉะเพราะฤทธิ์เบียร์ เขาเหวี่ยงเท้าหมุนเก้าอี้เหล็กในห้องทำงานของเขา “ท่านทนาย” เขาทักพร้อมกับพยักหน้าทักทายณอน “บอกหน่อยสิ คุณลุ้นใครในแพคเกอร์ เกม?”
“ฟริสโก ลบสาม” ณอนตอบโดยไม่ได้ละสายตาไปจากเอกสารของเขา “อา.. มันช่วยเตือนความทรงจำของผม” เขาพูดพร้อมกับล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบเอาธนบัตรใบละสิบดอลลาร์พร้อมกับบัตรพนันสีเขียวและวางไว้บนเคาน์เตอร์ข้าง ๆ เจ้าหน้า

แพ็ตเตอร์สัน เป็นที่รู้จักกันดีในช่วงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลล์ เขาทำหน้าที่เป็นเจ้ามือรับแทงประเภทหกใบในท้องถิ่นนี้ ถ้าคนใดสามารถแทงผู้ชนะได้ถูกจำนวนหกคน เข้าจะได้รับหนึ่งพันเหรียญจากการแทงแค่สิบเหรียญ แม้แต่ผู้พิพากษาก็ยังแอบเข้ามาในห้องขังในตอนบ่ายวันศุกร์เพื่อมาวางแทงและจ่ายสิบเหรียญ
แพ็ตเตอร์สัน ดึงพวงกุญแจออกจากเข็มขัดของเขา “ว่าไง วันนี้จะตกเบ็ดเอาปลาตัวไหนล่ะ ท่านทนาย?”
“เรามีปลามากมายให้ตกในทะเลแถว ๆ นี้ หรือไม่ก็ในอ่างปลา” แพ็ตเตอร์สันชอบพูดติดตลก “บางทีเราอาจจะตกเอาปลาฉลาม แน่นอนฉลามเหล่านั้นผ่านเข้ามาทางประตูพร้อมกระเป๋าถือ”

ณอนได้อ่านคำรายงานของนายอำเภอ และได้อ่านชื่อเต็มของชายที่ผู้พิพากษาแมคลินขอร้องให้มาสืบพยานจำเลย “แชด ลี เคอร์ทิส” เขาตอบ
แพ็ตเตอร์สัน เอามือควานหากระดาษยับ ๆ ที่พิมพ์ออกมาจากพริ้นเตอร์บนราวที่ห้อยอยู่ที่ผนังห้อง “ โอ นี่ ใช่แล้ว เจ้าปิรันญา”
“ปิรันญาหรือ?”
“ใช่แล้ว เขาคือฆาตรกรไร้ศพ ใช่หรือเปล่าล่ะ ท่านทนาย? เรานึกคิดเอาเองว่าเขาคงเขมือบเหยื่อเข้าไปแล้ว เพราะไม่พบชิ้นส่วนของหล่อนแม้แต่ชิ้นเดียว”
แพ็ตเตอร์สันหัวเราะพร้อมกับผลักบานเปิดประตูเปิดออก ณอนปิดกระเป๋าดึงสายรัดให้แน่น ปากคาบใบรายงานของนายอำเภอเอาไว้ หอบเอาสำภาระแล้วเดินตามเจ้าหน้าที่เรือนจำไป
“เฮ้ คุณได้คนดังไว้ในอุ้งมือเชียวนะ บาร์เร็ตต์ ‘สิงห์ปืนยาว’ แชด เคอร์ทิส” แพ็ตเตอร์สันพูดพร้อมกับชี้มือไปที่ใบรายงาน
“ครั้งสุดท้ายที่ผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับเขาในนิตยสาร ไทม์ “ ณอนพูด “ เขายิงได้ทริบเปิล เอ เชียวแหละ แล้วเกิดบ้าบออะไรขึ้นมาล่ะ?”
“เขากันท่าคนอื่นไว้ และพยายามจะขว้างบอลล์ออกนอก แยงกี้ สเตเดียม”
“อย่างนั้นเชียวหรือ!” ณอนพูดพร้อมกับส่ายหัว
“แน่นอน ผมได้ยินว่าเกี่ยวกับการพนันในทีม บางทีอาจสูบโคเคนทั้งวัน อาจจะเป็นว่า ‘อา ให้ตายเถอะ ฉันจะโยนมันออกนอกสเตเดียมเฮงซวยนั่น!’ ” แพ็ตเตอร์สันหัวเราะกับการออกท่าทางของตัวเอง
“คุณได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน?” ณอนถามอย่างสงสัย เพราะเจ้าหน้าที่เรือนจำดูจะร้ายไปกว่าเหล่าอีตัวแม่บ้านในเรื่องซุบซิบนินทา

“ลูกของผมติดเขาแจเลยในไฮสคูล พวกเขายังคงไปไหนมาไหนด้วยกัน” แพ็ตเตอร์สันตอบ จากนั้นก็หยุดไปครู่หนึ่ง เหมือนพยายามนึกถึงอะไรสักอย่างหนึ่ง เขาเอื้อมมือไปที่ประตูห้องขังที่ปิดอยู่ “คุณรู้ไหม ผมจำได้ว่าลูกชายของผมกลับมาบ้านหลังจากที่เคอร์ทิส ขว้างบอลล์ในวันนั้น มือของเขาเปื้อนเหมือนพยายามซ่อมเครื่องยนต์รถในขณะที่เครื่องยังคงทำงานอยู่ มือบวมเป่งและมีรอยแผลด้วย ผมเห็นเคอร์ทิสครั้งหนึ่งโดยมองผ่านเรด้าของปืนภาพขาวดำ เก้าสิบแปด เขากระโดดลงตรงเส้นใกล้ ๆ ลูกชายของผมในการฝึกซ้อม เก้าสิบแปด!” แพ็ตเตอร์สันผิวปาก “ ผมบอกได้เลยว่าเขาเป็นนักกีฬาที่ดีที่สุดในเขต ออเรนจ์ เคานตี้ ในบรรดา ซีไอเอฟ ควอร์เตอร์แบ้ค เขาขึ้นนำเป็นผู้ที่ทำแต้มได้สูงที่สุดในการแข่งขันเบสบอลล์ และอยู่อันดับที่สามในระดับมืออาชีพ สามปีต่อมา โอคแลนด์ก็นำเขามาร่วมทีมจนเกือบจะสิ้นสุดฤดูการแข่งขัน ในขณะที่กำลังเล่นอยู่กับทีมบิกส์ เจ้าเบื๊อกนี่ก็พยายามจะข้างลูกบอลล์ออกจากแยงกี้ สเตเดียมบ้านั่น”

“นั่นเป็นสาเหตุให้เขาพลาดโอกาส ชวดเงิน ยี่สิบห้าล้านดอลลาร์ รวมถึงสัญญาต่าง ๆ ด้วย” ณอนพูดพร้อมกับผิวปากเสียดายที่เคอร์ทิสทำอะไรโง่ ๆ ทำให้ตัดอนาคตของตนเอง
“ห้องขังที่สามครับ ท่านทนาย” แพ็ตเตอร์สันบอกพร้อมกับปิดประตูตามหลังณอนเสียงดัง

ณอนเดินตรงไปที่ห้องทำงานแคบ ๆ และหาที่นั่ง มันเป็นห้องขนาดเท่าห้องส้วมเล็ก ๆ ที่พบเห็นตามปั้มน้ำมัน แต่ก็สะอาดพอใช้ ข้างในก่อกำแพงคอนกรีตและติดกระจกส่วนบนเพื่อใช้กั้นแยกออกเป็นสองห้อง ณอนต้องสัมภาษณ์ผ่านกระจกที่มีแผงลวดกั้น ซึ่งมีรอยนิ้วมือ รอยเลอะน้ำลาย และขี้มูกเปรอะเปื้อนหนาเตอะ เขาต้องมองหาตรงบริเวณที่มันใสสะอาดหน่อยเพื่อที่จะมองเห็นว่าลูกความของเขาหน้าตาเป็นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างหนึ่งของผนังทั้งสองด้านคือ จิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งพ่นด้วยสีดำอยู่ด้านในคุก โลโก้แกงส์ต่าง ๆ เครื่องหมายนาซี โรยด้วยพริกไทย และยังมีข้อความอื่น ๆ เช่น มันฝรั่งทอดแกล้มลูกหมา และ สาบานด้วยเลือด!

ณอนนั่งลงและอ่านแฟ้มประวัติของเคอร์ทิสอีกครั้งขณะที่เขารอ เขาได้อ่านมันคร่าว ๆ ไปแล้วครั้งหนึ่ง ชึ่งเขาจับเอาเฉพาะประเด็นสำคัญเพราะมันเป็นคดีอาญา สองสามนาทีผ่านไปจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประตูดังแกร็ก เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นแพ็ตเตอร์สันนำเคอร์ทิสเข้ามา เขาเป็นคนตัวใหญ่ หน้าตาดี ผมสลวย นัยย์ตาสีฟ้าใส สูงประมาณหกฟุตสามนิ้ว แต่เขาตัวหนาขึ้นกว่าตอนที่อยู่ชั้นมัธยมปลาย ราวกับว่าเขาใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายขลุกอยู่ในห้องยกน้ำหนัก

“นั่งลง” แพ็ตเตอร์สันบอก และเคอร์ทิสก็นั่งลงที่ม้านั่งเตี้ย ๆ เหมือนเด็กในคืนงานวันผู้ปกครองพบครู
“หวัดดี แชด” ณอนทัก “ผมชื่อณอน บาร์เร็ตต์ ผมเป็นทนาย ผู้พิพากษาแมคลินขอร้องให้ผมเป็นตัวแทนฝ่ายคุณ แต่ผมต้องการทราบข้อมูลบางอย่าง ก่อนที่ผมจะตกลงรับคดีของคุณ”
“ผมมนีทนายแล้วครับ” แชดพูดอย่างระมัดระวัง
“ครับ ผมรู้” ณอนพูด “ บิล เปลเซอร์ เกิดการขัดแย้ง”
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” เคอร์ทิสพูดด้วยท่าทีระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม มันเหมือนสัญญาณเตือนอะไรบางอย่าง ณอนรู้ดีว่าบางครั้งเหตุไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ สิ่งที่ไม่คาดการณ์อย่างเช่น ทำให้ใครบางตกใจ ภายในคุกแคบ ๆ อย่างนี้ การสูญเสียทนายก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
“ ผมรู้มาเท่านี้แหละ แชด” เขาบอกพร้อมกับวางรายงานที่เขาเพิ่งกวาดสายตาอ่านลวก ๆ ลงบนตัก

“ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมผมจึงยังคงอยู่ที่นี่” แชดพูดเสียงดัง “คุณเปลเซอร์บอกผมว่า ผมจะออกจากคุกนี่เมื่อไหร่ก็ได้ หลังจากการไตร่สวนมูลฟ้อง ผู้พิพากษาจำเป็นต้องยกฟ้อง เขาบอกผมอย่างนั้น” เคอร์ทิสลุกจากม้านั่งถอยห่างออกไปสองสามนิ้ว แต่ใบหน้ายังแนบชิดกับกระจก จากนั้นก็เปลี่ยนช่องกระจกและพูดเสียงดัง “พวกเขาไม่พบศพของหล่อน พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรบินตายหรือไม่ แล้วทำไมต้องขังผมไว้ที่นี่?”

โดยทั่ว ๆ ไป ณอนจะต้องแตะมือของลูกความเบา ๆ เพื่อทำให้เขามั่นใจ แต่ตอนนี้ นาฬิกาบอกเวลา ห้าโมงสิบเอ็ดนาทีแล้ว เวลาห้าโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่จะเอารถบัสมาขนนักโทษกลับไปที่คุกประจำเขต และเคอร์ทิสก็ต้องไปขึ้นรถบัสคันนั้นไม่ว่าเขาอยากจะขึ้นหรือไม่ก็ตาม ณอนหยิบเอาหนังสือ “ฆาตรกร” ขึ้นมา ซึ่งได้รวบรวมสำนวนการสืบสวนคดีอาชญากรรม “ดูนี่สิ แชด ในนี้มีเอกสารหนากว่าสองนิ้ว เวลาที่ผมมีอยู่ก็คือ ต้องการรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกีบคดีของคุณ ดังนั้น ผมต้องทำข้อตกลงกับคุณนะ “ เขาวางหนังสือลง และพูดเบา ๆ “ ข้อแรก ผมมีคำถามจะถามคุณ จากนั้น ถ้ามีเวลาพอ ผมจะพยายามตอบตำถามของคุณ”
เคอร์ทิส ก้มตัวลงนั่งที่ตั่งตามเดิม พร้อมกับพยักหน้า
“ตกลง”
แชดยอมปฏิบัติตามอย่างรวดเร็วอาจทำให้ณอนรู้สึกแปลกใจถ้าเขาไม่รู้อะไรมาก่อน ปกติแล้วแชด เคยชินกับการรับคำสั่งจากผู้ควบคุมทีม ถึงแม้ว่าเขาอาจจะอยากอวดครวญบ้าง แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจที่มีคนรับผิดชอบชีวิตของเขา

“ฟังนะ” ณอนบอก “ผู้หญิงที่คุณถูกกล่าวหาว่าฆาตรกรรมหล่อน ที่ชื่อ โรบิน เพ็นโรส เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ?”
“โรบิน เป็นแฟนผมตอนอยู่ไฮสคูล” แชดตอบ
ณอนพลิกด้านหลังกระดาษรายงานและจดตามที่แชดบอก “ ขอข้อมูลเกี่ยวกับหล่อนหน่อย แชด”
“ผมเคยรักเธอ” เขาเล่าเหมือนข้อความนั้นบอกชัดเจนหมดทุกอย่างแล้ว
“คุณเคยรักเธอ นั่นหมายถึงคุณแน่ใจว่าหล่อนตายแล้วใช่ไหม?”
“หล่อนคงตายแล้ว” เขาตอบ และเริ่มพูดเสียงดังอีกครั้ง “ หล่อนก็เคยรักผมด้วย หล่อนจะไม่ยอมให้ผมอยู่ที่นี่หรอกถ้าหล่อนยังคงมีชีวิตอยู่”
“เอาล่ะ “ ณอนพูดพร้อมกับยกมือขึ้นปรามตรงหน้าแชด “ สงบสติอารมณ์หน่อย เล่าเรื่องเกี่ยวกับหล่อนให้ผมฟังหน่อยซิ”
“ เอ่อ.. เธอเป็นคนสวยมาก” แชดเริ่มเรื่อง “ เธอเป็นนักแสดง เธอเคยแสดงหนังอยู่สองเรื่องในช่วงที่ทำสัญญา แหละเธอยังรับในละครแนวตลก ในเรื่อง ไชน์เฟล

ณอนพยักหน้า “เล่าต่อครับ”
“เราเป็นคู่ที่ดังมากในไฮสคูล ผมเล่นควอร์เตอร์แบค เธอเป็นหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์หลัง จากจบไฮสคูลเธอก็ไปฮอลลีวูดเพื่อไขว่คว้าหางานแสดงที่เธอใฝ่ฝันส่วนผมได้ทำสัญญาเล่นในระดับโปร..”
“คุณหมายถึงเบสบอลล์มืออาชีพใช่หรือไม่?” ณอนรีบถาม เพราะเขาต้องการให้แชดรู้สึกว่าเขาคือ แฟนบอลของแชด เด็กคนนี้ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ใช่ฮีโร่ที่ใคร ๆ ยกย่อง ทาง ดี เอ ไม่ได้เสนอสัญญาผู้เล่นตัวจริงให้เขา

“ใช่ เบสบอลล์” แชดตอบ “ผมได้รับข้อเสนอทุนสำหรับฟุตบอลล์ด้วย แต่คนที่เก่ง ๆ หลายคนบอกผมว่า อนาคตของผมต้องเบสบอลล์ พวกเขารู้ดี” แชดเอนหลังพิงและหัวเราะสั้น ๆ ณอนสังเกตเห็นว่า แม้แต่อยู่ในคุกแบบนี้ เขายังหัวเราะได้สบาย ๆ นั่นเป็นสิ่งที่น่าคิด คณะลูกขุนต้องชอบ แชด เคอร์ทิสแน่
“แล้วเกี่ยวกับโรบินล่ะ?” ณอนถามต่อ “เกิดอะไรขึ้นกับเธอที่ฮอลลีวูด?”
“คือ.. ที่นั่นมันเป็นชีวิตที่ลำบากมากสำหรับเธอ สุด ๆ เลย เธอไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนไม่ดี อย่างเช่น ยาเสพติดอะไรพวกนั้น ผมรู้แค่นั้นแหละ ตอนที่เธอกลับมาที่นิวพอร์ท เธอสวยขึ้นมากเลย และมีเพื่อนเก่าแก่คนหนึ่งหางานให้เธอทำ” แชดก้มหัวลงและพยายามกลั้นน้ำตา “เธอทำงานเก่ง” เขาเล่าต่อ “ หาเงินได้มาก และกลับไปเรียนหนังสือต่อ”
“ถึงตรงนี้” ณอนบอก “ผมอยากย้อนไปถึงครั้งสุดท้ายที่คุณเห็นเธอมีชีวิตอยู่”
“เคอร์ทิสยักไหล่ “ ผมขับรถไปส่งเธอที่หน้าอพาร์ทเม้นในคืนวันศุกร์ เมื่อสองสามสัปดาห์ผ่านมา นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเธอ”
“คุณพอจะทราบไหมว่ามีใครเห็นเธออีกไหมตั้งแต่คืนนั้น?”
“ไม่เลย ผมหมายถึงยังไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย”
“เอาล่ะ” ณอนพูดพร้อมกับจดอะไรบางอย่างลงในใบรายงาน “ตอนที่คุณได้รับการไตร่สวนมูลฟ้อง เล่าให้ผมฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“คือ ..มีเด็กคู่หนึ่ง บอกว่าพวกเขาเห็นผมทะเลาะกับโรบินที่ชายหาดและเห็นผมตบตีเธอ พวกเขาบอกว่า พวกเขาคิดว่าเธอตายแล้วตอนที่ผมแบกเธอไปที่รถของเธอ แต่เธอไม่ได้ตายนะ คุณบาร์เร็ตต์ เธอแค่เมาเท่านั้นเอง
“เอาล่ะแชด” ณอนพูดเบา ๆ “มีใครให้การเป็นพยานบ้าง?”
“ชายคนที่ชื่อ แฟรงค์ จอห์นสัน เขาให้การว่า ผมขอร้องเขาให้ช่วยกำจัดรถของโรบิน ก็มีอยู่แค่นั้น”
“เอาล่ะแชด” ณอนพูดต่อ “ การทะเลาะที่ชายหาดเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร?” เขารู้ว่าคำให้การของเด็กสองคนนั่นทำให้ตำรวจต้องตั้งข้อหาเคอร์ทิสเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายในศาลชั้นต้น

“นั่นไม่ใช่ปัญหาของผม เธอเมามาก ทำให้เธอพล่ามเรื่องบ้าบออะไรก้ไม่รู้ออกมา” แชดพูด “ ผมคงได้ตบหน้าเธอไปครั้งหรือสองครั้งนี่แหละเพื่อทำให้อารมณ์ของเธอสงบลง มันก็แค่นั้นแหละ เธอสบายดีทุกอย่างตอนที่ผมไปส่งเธอที่บ้าน”

ณอนกวาดสายตาสำรวจดูแชดครู่หนึ่ง สิ่งที่เขาบอกมันขัดแย้งกันอย่างมากกับจากที่เด็กสองคนนั่นบอก พวกนั้นเล่าว่า ดูเหมือนว่าแชดทุบตีจนกระทั่งหล่อนตาย
“พวกคุณทะเลาะกันเรื่องอะไร?” ณอนถาม
“ก็แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ คุณก็น่าจะรู้”
“ไม่ ผมไม่รู้” ณอนพูดเชิงดุ “บอกผมมาตรง ๆ ว่า คุยกันเรื่องอะไร และเกิดอะไรขึ้น?”
“ก็แค่ทะเลาะกัน” แชดตอบอย่างเร็ว “ไม่มีอะไรสำคัญ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราทะเลาะกันเรื่องอะไร”

ณอนก้มมองดูรายงานของนายอำเภอ เขาลากนิ้วชี้มองหาข้อความที่อาจช่วยเขาได้ “แล้วชายคนที่คุณทิ้งรถไว้ให้ล่ะ?” เขาพูดพร้อมกับจ้องมองอีกครั้งเพื่อดูชื่อให้แน่ใจ “แฟรงค์ จอห์นสัน ใช่หรือไม่?”
“ผมไม่ได้ทิ้งรถไว้ให้เขา นายจอมโกหก เขามีปัญาหาอยู่เสมอ ๆ เขาคงแค่พูดโกหกเพื่อให้รอดตัวจากตำรวจ” แชดตอบ จากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “ พวกเขาจะให้ผมอยู่อย่างนี้หรือคุณบาร์เร็ตต์ โดยที่ไม่มีศพของเธอมามาเป็นหลักฐาน?”

ณอนวางเอกสารทุกอย่างลงและโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อที่เคอร์ทิสจะได้มองเห็นใบหน้าเขาได้ชัดเจนผ่านกระจกมัวสลัวนั้น “ คุณก็รู้ แชด ผมก็ไม่ทราบว่า คุณเข้าใจลึกซึ้งขนาดไหนกับคดีนี้ มันดูเหมือนว่า พวกเขามีหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่จะตั้งข้อกล่าวหาคุณ หลักฐานที่ถูกทำลายบางอย่าง”
“ผมไม่รู้เรื่องพวกนั้น” แชดโต้ “เจ้าเด็กที่ชายหาดนั่นคงไม่เห็นอะไรมากหรอก เพราะผมไม่ได้ฆ่าเธอ เธอแค่เมาจนสลบไป ก็แค่นั้น และแฟรงค์ จอห์นสัน” เขาพูดพร้อมกับหัวเราะ “ แฟรงค์ จอห์นสันก็ประเภทชอบเลี่ยงเพื่อเอาตัวรอด เขาเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เวลาเราเล่นด้วยกัน ตอนนี้เขาก็พยายามเลี่ยงเพื่อให้ตัวเองรอด เขาจะทำทุกอย่างเพื่อเงิน เขาคงกุเรื่องขึ้นก็ได้”

ณอนมองดูแชดอีกครั้ง เขารู้ว่าเด็กที่ให้การในวันนั้นอยู่ในอาการช็อค “มันอาจจะเป็นอย่างคุณพูดก็ได้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ โอกาสของคุณที่จะโน้มน้าวคณะลูกขุนได้แทบไม่มีเลย”
แชดไหล่ห่อลงทันที “แต่ผมไม่ได้ทำนะ”
ณอนหยุดชั่วครู่ ทนายความนั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้ให้คำปรึกษา นั่นเป็นสิ่งสำคัญของงานที่เขาทำ การพยายามอธิบายกฎหมายให้ลูกความเข้าใจ ให้คำแนะนำในเรื่องสิทธิ์และทางเลือก และเขาก็ต้องยึดเอากฎหมายเป็นหลัก การให้คำแนะนำแชดเพิ่งจะเริ่มต้น

“มันไม่สำคัญมากนักหรอกว่าคุณทำหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับว่าหลักฐานที่พวกเขาจะกล่าวหาคุณมันมีน้ำหนักพอที่จะโน้มน้าวคณะลูกขุนได้หรือไม่” ณอนพูดต่อ “มันก็จริงที่พวกเขายังไม่พบศพ และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมา ถ้าไม่มีศพมันก็จะเป็นการยากที่จะพิสูจน์ว่า หล่อนตายแล้ว นั่นแหละคือประเด็นว่าทำไมทนายความในเขตนี้จึงยากนักที่จะปิดคดีได้ เพราะว่าถ้าเขาตั้งข้อกล่าวหาเขาต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์หรือไม่ก็ปล่อยจำเลยให้เป็นอิสระ มันเข้าข่ายของคุณ ทนายประจำท้องที่ก็รู้ มันเป็นการยากที่จะนำจำเลยขึ้นไตร่สวนเว้นเสียแต่ว่ามีหลักฐานแน่นหนาที่จะทำให้คุณดิ้นไม่หลุด และก็เป็นที่แน่นอนว่าเขาจะไตร่สวน เพราะทนายประจำท้องที่กำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดำเนินการไตร่สวนคดีอาญากับคุณ”

แชดก้มหน้าต่ำจนคางชิดกับทรวงอก วันก่อนที่เขาได้พบกับทนาย เขาคิดว่าเขาคงจะเดินออกจากคุกพร้อมกับทนาย
“คุณบาร์เร็ตต์ ผมไม่มีวันทำร้ายโรบินหรอก” แชดพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง “ ผมรักเธอ คุณถามใคร ๆ ก็ได้ที่รู้จักเรา ถาม แครี่ โรบินสันก็ได้ หล่อนเป็นเพื่อนสนิทของเธอ”
“แครี่ โรบินสัน เป็นทนายความไช่ไหม?” ณอนถาม ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเห็นหล่อนสองสามครั้งในงานปาร์ตี้และในสำนักงานที่เป็นสำนักงานเครือข่าย สิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับแครี่ โรบินสันก็คือชื่อเสียงและความนับหน้าถือตา หล่อนเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทของพ่อ หล่อนอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ และได้เป็นผู้ดูแลบริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักงานของณอนด้วย หล่อนสามารถควบคุมทนายใหญ่ ๆในสำนักงานของจนพวกนั้นหงอเลย หล่อนเป็นคนน่าคบมากทีเดียวในช่วงเวลาอย่างนี้ แต่ถ้าจะต่อกรด้วยละก็ หล่อนมีใบหน้าที่พวกผู้ชายจะยอมทุ่มเงินจนสุดตัวเพื่อให้ได้หล่อนมา และหล่อนยังมีชื่อเสียงในศาลต่าง ๆ อีกด้วย ประเภทรวยมากและหยิ่งมากเป็นที่รู้จักกันดีในนิวพอร์ท สำหรับณอนแล้วเขาของเลี่ยง ขอไม่พบเธอจะดีกว่า
“แครี่จะบอกคุณเองแหละว่าผมไม่ได้ฆ่าเธอ หล่อนรู้ว่าผมรักโรบินมากแค่ไหน”
“ผมเชื่อคุณ แชด” ณอนตอบ “แต่โชคไม่ค่อยดีเลยนะ ความรักเป็นสิ่งแรกที่โจทย์จะนำมาพิสูจน์ความผิด ความรักมีแนวโน้มว่าเป็นสิ่งเดียวที่ก่อให้เกิดฆาตรกรรมโหดมากที่สุด”

พอแชดเงยหน้าขึ้น แววตาของเขาตื่นตระหนกด้วยความกลัว ณอนมองเห็นชัดเจน แต่เขายังคงมีงานต้องทำต่อก่อนจะถึงห้าโมงครึ่ง
“ผมสังเกตเห็นในแฟ้มของเปลเซอร์ มีโทรศัพท์หลายสายเรียกเข้ามา ชายนิรนามคนหนึ่งพูดสำเนียงแคริเบียน ซึ่งแจ้งว่าเขารู้ว่าเปลเซอร์จะหาโรบินเจอได้ที่ไหน” ณอนพูด” เขาได้เล่าเรื่องโทรศัพท์เหล่านี้ให้คุณฟังไหม?”
“ไม่เลย”
“คุณคิดบ้างไหมว่า พวกที่โทรเข้ามาเขาต้องการอะไร?”
“ไม่เลย และผมก็ไม่รู้เรื่องพวกนั้นเลย” แชดขยับเปลี่ยนที่นั่งจนเกือบชิดติดกับด้านข้างของณอน เขาเอามือกอดอก
ณอนพิจารณาดูแชดแว๊บหนึ่ง ชายหนุ่มผู้ไม่เคยใช้ชีวิตในคุกมาก่อน ท่าทางเขาไม่มีความ กระตือรือร้นที่จะให้ความร่วมมือกับทนายเอาเสียเลยทั้งที่รู้ว่าทนายจะช่วยให้เขาเป็นอิสระ

“คุณรู้ไหม แชด” ณอนพูดเบา ๆ “จุดแข็งของทนายจำเลยที่ดีน่ะ เขาสามารถอ่านคนออก อ่านพยาน และลูกความ หรือแม้กระทั่งอ่านใจของทนายคนอื่น ๆ ด้วย พฤติกรรมการแสดงออกของคนในเวลาตอบคำถามบอกผมได้มากกว่าสิ่งที่เขาพูด และในขณะที่สัมภาษณ์นี้ ผมมีความรู้สึกว่าว่าคุณบอกความจริงแก่ผม บางทีมันอาจมีความเคลือบแคลงบ้างในบางประเด็น แต่ก็อยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง จนกระทั่งเมื่อผมได้เอ่ยถึงชาวแคลิบเบียนที่โทรหา”

เขาทำให้แชดต้องนั่งกระวนกระวายอยู่บนม้านั่ง “คุณอยากจะบอกผมเพิ่มเติมอีกไหมเกี่ยวกับชายคนนี้?” ณอนถามขึ้นในที่สุด
“ฟังนะ” แชดตอบ “ ผมสาบานได้เลยว่าผมไม่รู้อะไรเลย”
ณอนลังเล จ้องมองดูเขา สำหรับลูกความเกือบทั้งหมด มันเป็นการดีที่จะบอกพวกเขาให้รู้ตัวว่า เมื่อเขาคิดว่าลูกความโกหกเขาจะหยุดไม่พูดต่อ หลังจากนั้นเขาก็นั่งมองดูสภาพห้องขังที่ยาวรายเรียงที่เขาพบเห็นบ่อย ๆ
“คุณคิดว่าพวกเขาจะดำเนินการไตร่สวนไหม?” แชดถาม “เพราะเปลเซอร์คิดว่า ถ้าไม่พบศพ ศาลก็จะยกฟ้อง”
“ผมเสียใจนะ แชด พวกเขาดำเนินคดีกับคุณแน่ ๆ พวกเขากำหนดจะไตร่สวนคุณพรุ่งนี้”
“แต่ผมไม่ได้ฆ่าเธอ ไม่มีเหตุผลที่ผมจะทำร้ายเธอ มันน่าจะเป็น...” แชดหยุดกึกพร้อมกับเบือนหน้าหลบณอน
“น่าจะเป็นใครฮึ?” ณอนซักต่อ “ คุณรู้ว่ามีใครบางคนที่มีเหตุผลพอที่จะฆ่าหล่อนใช่ไหม? คุณต้องบอกผมมาเดี๋ยวนี้เลย”
แชดส่ายหัว ยังคงหลบสายตาณอน
“เธอกำลังโกหกใช่ไหม เจ้าหนุ่ม” ณอนพูด “ ผมคิดว่าคุณรู้ว่าหล่อนตายแล้ว และคุณคิดว่าใครเป็นคนฆ่าหล่อน?”
พลันแชดก็พล่ามออกมา “ ผมไม่รู้หรอกว่าใครฆ่าเธอ”
“แต่คุณก็รู้ใช่ไหมว่าหล่อนตายแล้ว?”
“ผมไม่ได้พูดแบบนั้น”
“ฟังนะ ผมรู้ว่ามันโกหกทั้งเพ จากที่ได้ฟังมา”
แชดไม่ตอบ สายตาจับอยู่ที่ผนังห้อง
“มองหน้าผมสิ แชด” ณอนตะคอก “มองหน้าผมสิ!”
เขาจึงค่อย ๆ หันมามอง
“แชด ผมคิดว่าไม่เป็นการฉลาดเลยนะที่ผมต้องมารับคดีที่มีความซับซ้อนอย่างนี้ และโดยเฉพาะเมื่อผมรู้ว่าลูกความของผมโกหก”
ณอนลุกเตรียมที่จะออกไป
“คุณบาร์เร็ตต์ ผมเสียใจครับ” แชดอ้อนวอน “ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ ผมหมายถึงว่า เธอมีปัญหามากตอนที่เธออยู่ฮอลลีวูด เธอติดยางอมแงม คบคนไม่ดี ผมคิดว่าเธออาจเป็นหนี้เงินพวกนั้น คนที่ผมไม่รู้จัก”

ตอนนี้เขาเริ่มได้เรื่องจริง ๆ แล้ว “รู้จักชื่อพวกนั้นบ้างไหม?” ณอนถามต่อ
“ไม่เลย ผมเสียใจครับ ผมเล่นบอลล์อยู่ตลอดเวลา โรบินก็ใช้เวลาไปขลุกอยู่กับพวกนั้น”
แพ็ตเตอร์สันเดินเข้ามา ทำท่าพยักเพยิดบอกณอน “เสียใจนะณอน ” แพ็ตเตอร์สันกล่าว “เราต้องพาเขาไปเข้าแถวเตรียมขึ้นรถบัสแล้ว”
แชดลุกขึ้น เดินตามแพ็ตเตอร์สัน แล้วหันมามองณอน “คุณจะช่วยผมไหม?”
“ผมยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้” ณอนตอบขณะมองแชดเดินผ่านประตูไปจนลับตา ความจริงก็คือ ณอนรู้ตัวแล้วว่าเขาอยากทำคดีนี้ แต่แชดเคอร์ทิสยังไม่รู้ ในที่สุดเขาก็นำตัวเองไปสู่คดีดังระดับโลก คดีที่หายากในโลก ณอนไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มคนนี้จึงไม่บอกความจริง ณอนรู้ดีว่าเขารู้มากกว่าสิ่งที่เขาบอก แต่เพราะอะไรล่ะ? มันจะคุ้มค่าไหมกับการยอมเสี่ยง หลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาฆาตรกรรม แล้วมาซ่อนตัวอยู่ในนี้?”



Create Date : 12 มกราคม 2554
Last Update : 12 มกราคม 2554 13:27:49 น.
Counter : 585 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Maya_II
Location :
มุกดาหาร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Star sign : Gemini
Hobby : Reading & Writing
Interest : variety