บล็อกเขียนตามใจ
หากเป็นวิชาการ ความรู้ ก๊อปได้ไม่หวง แต่ห้ามใช้ในการค้าหรือทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย
หากผู้รู้ท่านใดเห็นข้อผิดพลาดในสิ่งที่เราเขียนโดยเฉพาะพวกหัวข้อแนววิชาการ ขอให้ท่านบอกเราสักนิดนะคะ ในความคิดเห็นก็ได้ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ เราจะได้ปรับปรุงบทความในโอกาสต่อไป
จริงๆอยากตั้งเป็นกระทู้แหละ แต่มันจะถูกลบใน2เดือน เขียนที่นี่มันอยู่นานกว่า บล็อกส่วนตัว มีไร้สาระบ้าง อะไรบ้าง อย่าว่ากันนะ
งดลงโฆษณาทุกชนิด ถ้าเจอลบอย่างเดียว
|
|||
เลิกทำเหมือนว่าความโสดเป็นปัญหาจะได้ไหม
เราสะอิดสะเอียนกับวันวาเลนไทน์มากๆในช่วงนี้
แรกๆก็ดูดีนะ ในพันทิปมีคนตั้งกระทู้ความรักของแม่และลูก อ่านแล้วก็ชื่นใจ ต่อมาเจอกระทู้ปลอบใจคนโสด ข่าวต่างๆที่อ่านผ่านrssเขียนเกี่ยวกับการ เอาตัวรอดของคนโสดในวันวาเลนไทน์ ทำไมเหรอ? พวกฉันไม่มีคู่แล้วคิดว่าต้องเดือดร้อนมากนักหรือไง พวกเมิงไม่คิดบ้างเหรอว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกฉันบางคนเลือก เห็นหัวข้อพวกเมิงแล้วปวดตับมาก รู้สึกว่าพวกนักข่าวคิดได้ตื้นสิ้นดี คนส่วนใหญ่ไม่เลือกทางนี้ คงไม่เข้าใจความรู้สึกพวกเรา ว่าทางนี้เป็นทางที่เราเลือกด้วยความเต็มใจ เราไม่ได้จนตรอกถึงขนาดไม่เคยมีใครมาจีบถึงได้ประกาศตัวว่าจะโสดไปตลอดชีวิต คนส่วนใหญ่ก็บอกอยู่นั่นแหละ ว่าคนเราต้องมีคู่ ขอบอกนะว่าเป็นอะไรที่น่าสะอิดสะเอียนมาก ชีวิตคนเรามีแค่นั้นเหรอ? การมีคู่เป็นทางเลือกของคนส่วนใหญ่ มันเป็นแค่นั้น ทำไมต้องประโคมเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ มีช่องสบโอกาสต้องแซว ต้องอะไรต่อมิอะไร คนโสดอย่างเราเชื่อว่าจะมีความสุขมากกว่าคนมีคู่ แต่ทว่า เวลาคนมีคู่ประสบปัญหา พวกเราก็ตอกย้ำซ้ำเติมไมได้ เพราะเป็นเรื่องไม่ควรทำ แต่พวกเรา คนเลือกที่จะโสดกลับถูกคนส่วนใหญ่ว่านู้นนี่นั่นตลอดเวลา เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่า สิ่งที่ตัวเองคิดน่ะถูก พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไรบ้าง พวกคนมีคู่หรืออยากมีคู่ลองคิดดูนะ ถ้าพวกคนโสดอย่างชั้นบอกพวกเธอว่า มีแฟนแล้วเดี๋ยวก็เลิก แต่งงานเดี๋ยวก็หย่า หรือไม่ก็ถูกสวมเขา ทรยศ ถูกทุบตี ถูกรังแก พวกคุณจะคิดยังไง ไม่ชอบใจ รำคาญใช่ไหม? ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริง แต่คุณไม่ชอบฟังใช่ไหม? พอเข้าใจแล้วหรือยัง? เราเหวี่ยงในสินธรไปกระทู้นึง แค่เข้าไปแจมน่ะ เขียนแนวๆนี้แหละ (เราอยากจะลดการเหวี่ยงในสินธรนะ สงสารคนในนั้นเหมือนกัน เจอเราเหวี่ยงไปหลายรอบ หวังว่าคงจะลดลงหลังจากกำลังเหวี่ยงของเราค่อยๆหมดแรง) เพราะเซ็งกับพวกสื่อ พวกคนมีคู่ หรืออยากมีคู่เต็มประดา พวกผู้หญิงไม่เท่าไหร่ บอกไม่กี่ประโยคพอเข้าใจได้ พวกผู้ชายนี่ไม่เคยเชื่อ หาทางโต้กลับตลอด มันยิ่งทำให้เรากลับจะตอบโต้พวกคุณมากขึ้นเรื่อยๆ สะอิดสะเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆก็พอเข้าใจได้แหละ การที่เราเป็นผู้หญิง+ปฏิเสธการมีคู่ นั่นก็แปลว่าเราปฏิเสธผู้ชาย ผู้ชายมีอาการตอบโต้บ้างก็ไม่แปลก ถ้ามีคนแบบเราเยอะๆ ไอ้พวกร้านค้าที่จ้องทำกำไรอาจจะกินเค้กได้คำเล็กลง มันเลยออกมาเป็นแบบนี้ไง จะบอกให้ พวกคุณจะฉลองวันแห่งความรักก็ฉลองไป จะพากันไปกินข้าว ดูหนัง หรือให้ดอกไม้หรือให้ช็อคโกเลตหรือจะอะจื๋ยที่ไหน เราไม่ว่า แต่เลิกสงสาร ทำเหมือนคนโสดเป็นคนมีปัญหา เหมือนความโสดเป็นสิ่งไม่ดีจะได้ไหม? สงสัยคนแบบชั้นคงมีน้อยมาก ขนาดโลกไซเบอร์ยังไม่สามารถรวมตัวกันได้เลย คงต้องทนจนกว่าจะชินนั่นแหละ อาเมน ประสบการณ์การดูจิต
ตอนนี้ฝึกธรรมะค่อนข้างจริงจังมาได้2ปีแล้ว เย้ๆ เริ่มตั้งแต่ช่วงท้ายๆปี2009ตอนไปเรียนที่นิวซีแลนด์
จริงๆเราอยากเรียนรู้ธรรมะก็เพราะปัญหาส่วนตัวอ่ะ เราเป็นคนกลัวความมืด กลัวผี ตอนเด็กๆไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียวตอนกลางคืนด้วยซ้ำ พอโตมากล้าเข้าห้องน้ำคนเดียวก็จริง แต่ต้องวิ่ง รู้สึกว่าระยะทางจากประตูห้องน้ำและประตูห้องนอนนั้นห่างไกลเหลือแสน(เรื่องนี้ถ้าพวกเพื่อนๆรู้คงงงน่าดู ฮ่าๆ) ปัญหาต่อมาคือกลัวตาย ทั้งอยากรู้และกลัวไปด้วย สร้างภาพในหัวว่าจะมีสัตว์ร้ายมาทำร้ายข้างหลัง(ส่วนมากเป็นเสือ)ถ้านอนคนเดียว ไม่มีอะไรอยู่ติดกับหลังจึงต้องนอนหันหลังติดกับหมอนข้าง ปัญหาสุดท้าย ถึงแม้เราไม่อยากแต่งงาน แต่เราก็เหมือนคนอื่นๆ ใจจริงก็อยาก แต่กลัวตัวเองเดือดร้อน จึงอยากใช้ธรรมะมาช่วยขจัดกิเลสนี้ซะ สาเหตุที่เลือกธรรมะก็เพราะเราคิดว่าเดินมาทางนี้ดีไม่มีข้อเสีย มีแต่ได้กับได้ ที่สำคัญธรรมะช่วยแก้ปัญหาที่ต้นตอได้ทุกเรื่อง ถ้าจำไม่ผิดเรารู้จักหลวงพ่อปราโมทย์จากลูกพี่ลูกน้องคนนึง ก่อนไปเรียนที่นิวซีแลนด์เราโหลดธรรมะจากเว็บของหลวงพ่อปราโมทย์หมดเท่าที่เว็บของท่านมีให้โหลดในเวลานั้น ตั้งใจว่าจะเอาไปฟังอย่างจริงจังระหว่างที่เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์1ปีนี้(2009-2010) เราก็ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ คือฟังธรรมะของท่านอย่างจริงจังมากๆ ฟัง1รอบทุกวัน ฟังซ้ำไปซ้ำมาเกือบทั้งวันในวันเสาร์อาทิตย์ในช่วง3เดือนแรกที่ไปอยู่นิวซีแลนด์ จนโฮสชายหญิงทั้งสองของเรางงว่า ยัยคนไทยนี่ทำบ้าอะไรอยู่ คือเราฟังธรรมะก็ง่วงง่ายเหมือนกับคนอื่นๆน่ะแหละ สติไม่อยู่กับตัว แต่เรามีวิธีแก้ อากาศนิวซีแลนด์มันค่อนข้างหนาว(ร้อนสุด25องศาเด้อค่ะ) ถึงแม้ช่วงแรกๆที่เราไปอยู่จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนแต่มันก็ยังหนาวอยู่ดี บ้านที่เราไปอยู่ดั๊นอยู่บนเนินเขาสวนสวยรอบตัวอีก อย่ากระนั้นเลย จะนั่งอยู่เฉยๆทำไม ทำไมไม่ขยับตัวล่ะ เราก็จัดการโหลดธรรมะบรรยายของหลวงพ่อใส่ MP3 ฟังไปวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นวงกลมเล็กๆในสวนหย่อมของโฮสเราซะ(ถ้าเราออกไปวิ่งรอบหมู่บ้าน เราคงคุ้นกับหมู่บ้านที่เราเคยอยู่มากกว่านี้) คราวนี้ทั้งไม่ง่วง ทั้งไม่หนาว ไม่ป่วย น้ำหนักลด เหมือนจะดีหมดนะ เพียงแต่เราเป็นตัวประหลาดในบ้านเท่านั้นเอง ฮ่าๆ ฟังแรกๆก็ฟังไม่รู้เรื่อง ท่านพูดว่าอะไรหว่า? เราฟังแบบนี้ไปได้ประมาณ3-4เดือนย้ายบ้านใหม่ ไม่ใช่โฮสเราไม่ดีนะ แต่บ้านไกล เราขี้เกียจนั่งรถ บ้านใหม่ที่ไปอยู่ห่างจากโรงเรียนแค่15นาทีเอง เจ้าของบ้านเป็นชาวนิวซีแลนด์มีอาชีพทำของแต่งบ้านพวกโคม ม่าน ไรงี้ ใจดีมาก เป็นมิตร เท่าที่รู้มาใจดีกว่าโฮสบางบ้านอีก เราไม่ได้จ่ายค่าอาหารแต่เขาให้เรากินอาหารหลายครั้ง นม ไข่หยิบได้เอง หุหุ เมทเราเป็นคนศรีลังกา กวนๆแต่หลังๆก็ดีกับเรา พอย้ายมาบ้านใหม่ใกล้กับโรงเรียนกว่าเดิมมาก ดัดจริตซื้อจักรยานมาด้วยนะ คราวนี้ฟังธรรมะน้อยลงนิดหน่อย คือฟังรอบเดียวตอนเช้า ตื่นมายัดMP3ฟังธรรมะเลย เตรียมไปโรงเรียน กินข้าว ขี่จักรยาน ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงโรงเรียนละ ฟังต่ออีกหน่อยที่โรงเรียนถึงเริ่มตารางเรียนภาษาอังกฤษส่วนตัวได้ ช่วงประมาณ8.30ถึงเข้าเรียน เสาร์อาทิตย์อย่าคิดว่าจะทำเหมือนตอนอยู่บ้านหลังแรก งานนี้เพื่อนเริ่มเยอะ เริ่มอยู่ไม่ติดห้อง ถ้าไม่ไปเที่ยวกับพวกไต้หวันก็ไปตลาดวันอาทิตย์ แต่เนื่องจากฟังมาค่อนข้างเยอะ ถึงฟังน้อยลงไม่ก็ไม่ละทิ้งการฟังธรรมะ เราเข้าใจคำว่าใช้ลมหายใจเป็นที่อยู่ของหลวงพ่อตอนที่อยู่บ้านหลังที่2 จริงๆมันก็มีประวัติแหละ คือเราโยงเข้ากับเหตุการณ์หนึ่งตอนเราเข้าค่ายที่โรงเรียนมัธยม ตอนนั้นเราอยู่ห้อง1หรือที่เรียกว่าห้องคิง(อย่าคิดว่าเรียนเก่ง จริงๆโง่มาก) ทำอีท่าไหนไม่ทราบ เรากับเพื่อนสนิทหลงไปอยู่รวมกับห้องสุดท้ายของรุ่น พวกนั้นก็นิสัยดีนะอยู่ได้ไม่อึดอัด ในค่ายเชิญพระและทหารมาอบรม(นอกจากโรงเรียนเรา เรารู้มาว่าบดินทร์1ก็โดนกับเขาด้วย อ่านเจอในวารสาร ฮิฮิ)ในตอนค่ำพระให้พวกเรานั่งสมาธิ เราก็นั่งไป นานเหมือนกันแหละ เราจำได้ว่าใจมันหว้าวุ่นไปหมด คิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ที เนื่องจากครูเคยสอนมาว่าเวลานั่งสมาธิให้เอาสติไปรับรู้กับลมหายใจ ทำใจให้สงบ พอรู้สึกว่าใจอยู่ไม่สุขเลยก็เริ่มกังวล ทนทรมานแบบนี้นานพอสมควรก็ได้ยินเสียงวิจารณ์จากเด็กห้องอื่นว่าเรานั่งสมาธินิ่งมากๆ นิ่งไม่ขยับเลย หึหึ หารู้ไม่ว่าใจเราไม่นิ่งอย่างร่างกาย ทำให้เราจำสภาวะเวลานั้นได้แม่นยำ จริงๆเพราะชอบที่เขาชมว่าเรานั่งสมาธิแล้วนิ่ง ปกติคนจะว่าเราอยู่ไม่สุข เอ๋อ เป็นต้น ฮ่าๆ เราเอาเหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับธรรมะที่ฟังอยู่ทุกวันเวลานั้นว่า จิตคนเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อใจเราเปลี่ยนก็ดูมันเฉยๆ พอไม่มีอะไรก็กลับมาอยู่กับลมหายใจใหม่ ฟังมาครึ่งปีถึงได้ใจความสำคัญมาได้ เห้อ โง่ขนาด เราก็ฟังแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกลับเมืองไทย พอกลับไทยก็เริ่มขี้เกียจ เหมือนมีอะไรให้ทำเยอะแยะ จนมีข้ออ้างไม่ฟังธรรมะ แรกๆก็ดี พอผ่านไปได้ประมาณ3-4เดือนอาการกลัวนั่นนี่เริ่มกลับมา คราวนี้เราเริ่มฟังธรรมอีกครั้ง นั่งสมาธิก่อนนอนด้วย อาการกลัวไม่เข้าเรื่องก็หายไป สติมาเร็วขึ้น ใจเริ่มเย็นขึ้น พัฒนาการมี2อย่าง อย่างแรกคือใจเย็นมีเมตตามากขึ้น เห็นได้จากเวลามดหรือยุงกัดเรา เรายับยั้งใจไม่ให้ตบแรงๆลงบนตัวมันได้บางครั้ง(ไม่ฆ่ามันอ่ะแหละ) ดีขึ้นบ้าง แย่ลงบ้างตามประสา พัฒนาการอย่างที่2คือ เริ่มเห็นอาการอารมณ์ที่ไม่รู้จัก เราเข้าใจว่ามันคืออารมณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน ไม่แรง คนธรรมดาอย่างเราไม่รู้ว่าอารมณ์นี้คืออะไร รู้แต่ว่ามันมีแค่นั้นแหละ จากเมื่อก่อนไม่รู้สึกอะไรเลย แรกๆก็ร้อนใจ อยากรู้ อยากถามใครซักคน แต่หาคนให้ถามคงยาก และเป็นคนไม่ชอบถามอยู่แล้ว โชคดีช่วงที่เกิดปัญหานี้เราได้ยินธรรมะเกี่ยวกับเรื่องนี้จากหลวงพ่อ คือท่านบอกว่า อยากรู้ก็ให้รู้ว่าอยากรู้ จบ โอเค เราพยายามทำตามนั้น นอกจากนี้เราเริ่มรู้สึกตัวว่าโกรธเวลาโกรธแรงๆ แต่ควบคุมไม่ได้ บางครั้งทำเรื่องแย่ให้แย่กว่าเดิม แป่ว ต่อมาก็เข้าอีหรอบเดิม คือขี้เกียจ ดูเหมือนความขี้เกียจเป็นปัญหาใหญ่ของเราจริงเชียว เหอะๆ ไปๆมาๆเจอกระทู้นึงในห้องศาลาฯ ทำให้เราอยากกลับไปฟังธรรมะและนั่งสมาธิเหมือนเดิม อีกอย่างตอนนี้เรากำลังเรียนรู้เล่นหุ้น เราเห็นว่าสติสำคัญมาก จึงอยากฝึกต่อ แต่คราวนี้มีมุกใหม่ เรารู้ว่าเราลืมดูจิตเกือบทั้งวัน เราจึงประยุกต์ใช้ตัวอักษรเตือนสติ(เอามาจากวิธีเรียนภาษาจีนของเราอ่ะแหละ) เขียนคำว่าดูจิตตัวโตๆที่หลังมือซ้าย คราวนี้แจ่ม วันเดียวก็ช่วยได้มาก รู้ตัวบ่อยขึ้นเยอะ คราวนี้ต่อให้ไม่มีคำว่าดูจิตบนหลังมือซ้ายเราก็มีสติดูจิตได้บ่อยกว่าเดิม เมื่อก่อนเรารู้สึกว่าอารมณ์ปริศนามีบ่อย ตอนนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่ากิเลสมาบ่อย และควบคุมไม่ได้แจ่มชัดขึ้น แทบจะเป็นอารมณ์เอกของเราในตอนนี้ แรกๆก็ร้อนใจ ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร คิดว่าเดินมาผิดทาง ธรรมะของหลวงพ่อช่วยเราไว้ได้อีกครั้ง ในเทปบันทึกบรรยายธรรมมีคนถามคำถามกับหลวงพ่อว่า ทำไมเขารู้สึกว่าโกรธง่ายและรุนแรงกว่าเดิม หลวงพ่อตอบว่าความโกรธมันคิดดอกเบี้ย โล่งไปเปราะนึง งั้นก็เดินหน้าต่อไป ตามรู้ต่อไป อีกอารมณ์ที่กลับมาคืออารมณ์กลัวร่างกายตัวเอง จริงๆอารมณ์นี้เคยเกิดค่อนข้างรุนแรงเมื่อประมาณ10ปีที่แล้ว ตอนนั้นรู้สึกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา ใจนี้ไม่ใช่ของเรา กายและวิญญาณเหมือนศพและผีประกอบกันขึ้นมา อารมณ์ประมาณว่าไม่มีทางหนี หนีไม่ได้ คนน่ากลัวกว่าผีหรือศพเพราะมัน 2 in 1 นอกจากกลัวกายและวิญญาณของตัวเองแล้วยังกลัวของคนอื่นด้วย มีจุดหนึ่งที่เรากลัวเป็นพิเศษคือมือ ตอนนั้นเรามองมือเหมือนเป็นของประหลาดอะไรซักอย่าง น่ากลัวมากๆ ตอนนั้นเรายังเด็กมาก ไม่เคยฟังธรรมะของใครมาก่อน ทรมานกับมันมาก เคยพูดเรื่องนี้กับแม่ด้วย วิธีแก้ของเราในเวลานั้นคือ พยายามทำใจให้เชื่อว่าร่ายกายมีตัวตนเช่นเดิมจนเลิกกลัวไปในที่สุด มารู้ประมาณ1ปีที่แล้วจากเทปบันทึกฯของหลวงพ่อว่า อาการนั่นอ่ะ ถ้าใจเด็ดตามดูไปเรื่อยๆอาจจะพบธรรม โอยยยย อยากกระทืบตัวเองมากมายงานนี้ ตอนนี้เราเริ่มกลัวแบบนี้นิดๆ แต่รู้สึกว่าเรากำลังไปจ้องมันอยู่ จ้องมันว่าเมื่อไหร่จะเกิด เนื่องจากเสียดายอาการนี้ที่เราทำลายไปเมื่อ10ปีก่อน จนแล้วจนรอด รู้สึกได้นิดๆก็จริง แต่ไม่เท่ากับคราวที่แล้ว ถ้าไปถามหลวงพ่อ หลวงพ่อคงตอบเราว่าใจเรามันไปกดมันไว้อยู่ ปล่อยวางซะ เราเข้าใจของเราเองว่า เวลาที่คนไปถามว่าทำผิดไหม ทำแบบนี้ถูกหรือยัง แสดงว่าคนๆนั้นไม่ยอมให้ตัวเองหลับ เอาแต่จ้อง พอเป็นงี้ก็หลับไม่ลงจริงๆ อาการตื่นรู้จึงเกิดไม่ได้ ไม่sleep (หลับ)เลย จะ wake up(ตื่น)ได้อย่างไร ต้องให้รู้ไปตามสบาย ทำนองรู้ก็ช่าง ไม่รู้ก็ช่าง อย่ากดมันเกินไป พอคิดได้งี้คราวนี้ใจเราไม่ร้อนเหมือนเวลาเจอปัญหาอย่างที่ผ่านๆมา เราทำตามที่เราคิด อีกคำพูดที่ยืนยันความคิดเราก็คือ ที่หลวงพ่อบอกว่า ใจของเราจะตื่นเอง ไม่ต้องไปทำให้มันตื่น เรารู้ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ตื่นเอง ชาตินี้ไม่ได้ก็พยายามในชาติหน้า และชาติต่อๆไปจนกว่าจะได้ ยากแท้หนอ เมื่อก่อนไม่รู้สึกว่ายาก ตอนนี้เริ่มละ ยากสุดๆ หวังว่าชาติหน้าจะพยายามแบบนี้นะ เราไม่กลัวนาน กลัวเข็มทิศชีวิตหันผิดทิศมากกว่า สาธุ ขอให้เดินเข้าใกล้ธรรมมากขึ้นเรื่อยๆเทอญ ผิดหวังกับเดี่ยว9
ปกติเราชอบดูเดี่ยวฯสุดๆ เดี่ยว4-8 ดูไม่ต่ำกว่า10รอบ
เดี่ยว1-3ดูน้อยหน่อย เพราะหาไฟล์ในยูทูปไม่เจอในช่วงหลังๆ ชอบสุดๆคือเดี่ยว6และ8 แต่เดี่ยว9เราว่าเราขำไม่ออก ปกติเราจะไม่ชอบมุกเกี่ยวกับเพศของโน้สมากนักอยู่แล้ว รอบนี้มีการบอก ทะเบียนสมรสน่าจะต่อทุก1ปี จะได้ไม่มีการหย่า ผู้ชายจะได้ตัดสินใจแต่งงานง่ายขึ้น แหม อยากยุให้ผู้หญิงกล้าหย่ามากขึ้นจริงๆ น่าหมั่นใส้โน้สมากๆ งี้เิงพวกผู้ชายอย่าแต่งงานเลยดีกว่า ถ้าจ้องจะหย่าทุกปีแบบนี้ ยกเว้นจะมีปัญหาทางจิตเหมือนเรา หึหึ กล้ายอมรับไหม (ถ้าจำเป็นต้องแต่ง เราชอบการแต่งแบบนี้มากกว่าแบบปกติ) หรือผู้ชายมันไม่มีจิตใจ พร้อมหย่า พร้อมเลิกได้ทุกสถานการณ์ อืมมม แสดงว่าสิ่งที่เราคิด เราเดามาตลอดนก็ถูกต้องอ่ะดิ แปลว่า การตัดสินใจของเราเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ขอบใจโน้สดีไหมเนี่ย ขอบใจที่เผยธาตุแท้ของผู้ชายมาให้พวกเราเห็น ไม่ต้องเสียเวลาเดาอีกต่อไป รอบนี้มีเพิ่มในแง่เชื้อชาติ ดูถูกเขมร ความไม่รู้สึกผิดเรื่องที่ทำเพื่อนหัวแตก ฯลฯ ทำให้ดูสนุกน้อยลง แต่ทำใจไว้แล้ว เพราะก่อนซื้อแผ่นมาดูก็ได้ยินคนบอกเดี่ยว9ไม่ค่อยหนุก แต่ก็ซื้อแผ่นแท้มาดูนะ(ช่วงนี้พยายามลดซื้อแผ่นก๊อปอยู่แล้ว) ไม่งั้นจะรอยูทูป ฮ่าๆ ว่าตามจริง หนุกพอสมควร แต่สู้เดี่ยวที่ผ่านๆมาไม่ได้ จำได้ว่าดูเดี่ยวก่อนๆนั้น หัวเราะท้องแข็งเกือบตลอด แต่เดี่ยว9หัวเราะท้องแข็งได้แค่ครั้งเดียว ส่วนมากจะมีอะไรบางอย่างมาทำให้หัวเราะไม่ออก สรุป เนื่องจากเราทำใจมาล่วงหน้าว่าเดี่ยวอาจจะไม่หนุกเท่าเดี่ยวก่อนๆเลยไม่ค่อยรู้สึกผิดหวังมาก ถึงแม้ว่าแรกๆจะไม่เชื่อ แต่ก็พยายามทำใจล่วงหน้า ก่อนหน้านั้นนึกว่าเดี่ยว9จะดีเท่า หรือดีกว่าเดี่ยว8 ผิดคาดเห็นๆ ชอบโน้สน้อยลงเลยตู ศัพท์หุ้นในภาษาจีน
被套 หรือ 套牢 แปลว่าติดดอย
补仓 แปลว่าซื้อถัว คือซื้อหุ้นแล้วมันลง เราก็ซื้อใหม่ในราคาที่ถูกกว่าเก่า เอามาเฉลี่ยกับของเดิม ทำให้ต้นทุนโดยรวมถูกลง 牛市 bull market ตลาดกระทิง ตลาดดุ ราคาพุ่ง ใครๆก็อยากเล่น 熊市 ตลาดหมี ซึมๆ ราคาตกลง ไม่ค่อยมีคนอยากซื้อขายเสียเท่าไหร่ 炒股 ปั่นหุ้น 斩仓 cut loss ซื้อหุ้นแล้วราคาตกลง ชิงขายก่อนที่มันจะตกลงไปมากกว่านี้ 卖空 short sale //www.sec.or.th/investor_edu/info_media/article/manager/manager078_271051.pdf ทุกวันนี้ยังงงว่ามันจะ short sale ได้ยังไงฟร่ะ ยืมหุ้นกันได้ด้วยเหรอ??? 上涨 ราคาขึ้น 上涨极快 ราคาขึ้นเร็วมาก 下跌 ราคาตก 下滑 ราคาตกแบบฮวบฮาบ 开盘 กระดานเปิด 收盘 กระดานปิด 新高 new high ราคาสูงมากๆแบบทำสถิติ 新低 new low ราคาต่ำมากๆ แบบทำสถิติ 建仓 เดาไว้ว่าของราคาจะขึ้นแล้วซื้อไว้ 踏空 ตกรถ คือหุ้นพุ่งไปแล้วแต่ซื้อไม่ทัน 平衡市 sideway ราคาอยู่นิ่งๆ ค่อนข้างนิ่ง ขึ้นๆลงๆ คำที่มีความหมายใกล้เคียงคือ 猴市 ขึ้นๆลงๆแรง แต่ไม่รู้ไปทางไหน 回升 รีบาวน์ หรือ ภาษาอังกฤษสะกดแบบนี้หรือเปล่าไม่แน่ใจ rebound คำใกล้เคียงคือ 反弹 空仓 พอร์ทว่าง ไม่มีหุ้นในมือเลย 利多 หรือ 利好 มีข่าวดีมาเรื่อยๆ คนคาดการณ์กันว่าหุ้นจะขึ้น ส่วนมากหมายถึงข่าววงใน 利空 ข่าวร้ายที่ทำให้หุ้นตก 大盘 สภาพตลาดโดยรวม 蓝筹股หรือ绩优股 หุ้นกลุ่มบลูชิพ คือหุ้นที่มีความมั่นคง เช่น พลังงาน ธนาคาร ที่มาคือเวลาไปเล่นพนันเขาต้องแลกเป็นเหรียญของบ่อนก่อน เหรียญของบ่อนสีฟ้าจะเป็นเหรียญที่มีค่ามากที่สุด คำตรงข้ามคือ 垃圾股 A股 คำนี้น่าจะมีเฉพาะที่จีนนะคะ เป็นหุ้นของบ.จีน ใช้เงินหยวนซื้อขายในจีนแผ่นดินใหญ่ (ข่าวมีคำนี้ออกบ่อยมาก) B股 ใช้เงินหยวนในการระบุราคา แต่ใช้เงินต่างประเทศซื้อขาย ขายในจีน แต่ส่วนมากคนซื้อขายจะเป็นคนต่างชาติ รวมมาเก๊า ฮ่องกงและไต้หวันด้วย H股 ขึ้นทะเบียนในจีน แต่ซื้อขายที่ฮ่องกง 内地注册、香港上市的外资股 N股 ขึ้นทะเบียนในจีน แต่ซื้อขายที่ลอนดอน 内地注册,纽约上市的外资股 白马股 หุ้นที่มีการประกาศข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นต่อสาธารณะ ส่วนมากไม่เสี่ยง 涨停板 หุ้นพุ่งเกินทีเขากำหนดไว้(10%)จนต้องหยุดการซื้อขาย 散户 เม่า ย่อมาจากแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ฮ่าๆ นักลงทุนรายย่อยนั่นเอง 市盈率 P/E อัตราส่วนราคาต่อกำไร เมื่อหารออกมาจะรู้ว่าเราถือหุ้นนานเท่าไหร่ถึงคือทุน ยิ่งต่ำยิ่งดี 跌停板 หุ้นตกเกิน 10 เปอร์เซ็นจนต้องหยุดการซื้อขาย 庄家 แปลว่า เจ้า หรือนักลงทุนรายใหญ่ที่ควบคุมหรือส่งผลต่อราคาหุ้นได้ระดับหนึ่ง 打压 เจ้าพยายามกดราคาให้ต่ำๆ ให้เม่าหรือนักลงทุนรายย่อยขายหุ้นในราคาถูก(หรือเรียกกันว่าให้เม่าคายหุ้นออกมา) จากนั้นเจ้าก็จะซื้อหุ้นไปทำกำไร 放量 ปริมาตรการซื้อขายเพิ่มขึ้นเยอะ 龙头股 หุ้นที่ส่งผลต่อราคาหุ้นตัวอื่นที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ในระยะเวลาหนึ่งๆ 盘整 ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไม่มาก ขอสารภาพว่ามีศัพท์เกี่ยวกับหุ้นอีกมากนักที่เราอ่านไม่รู้เรื่อง เหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ อาจจะเป็นเพราะเข้าใจตลาดหุ้นไม่ดีนัก อีกทั้งมันเป็นภาษาจีนล้วน มึนสองเด้ง ฮือๆ แหล่งเสพสื่อภาษาจีน
//video.baidu.com/childchannal/videotv/videotv.html
รวมละคนจากเว็บไป่ตู้ ดูโหงวเฮ้งละกันว่าเรื่องไหนน่าดู เพียบค่ะ //bugu.cntv.cn/column_cctv/index.shtml ทีวีค่ะ มีหมด ถ้าขยัน จะเจอแหล่งละครด้วย //aod.cnr.cn/ วิทยุ ฟังสดได้ค่ะ แต่คุณจะมึนกับโฆษณา แบบเปิดเพลงให้สองเพลง โฆษณาอีกแล้ว น่าเบื่อมากกก เราทนฟังไม่ได้อ่ะ แต่ถ้าฟังเฉยๆให้คุ้นสำเนียง เราแนะนำค่ะ สำเนียงมาตรฐานแน่นอน //www.tingbook.com/book/free.html หนังสือเสียงพร้อมสคริป ส่วนที่เอามาให้นี่ฟรีทั้งเล่มค่ะ ส่วนอื่นๆ ฟรีครึ่งเล่ม โปรแกรมที่คนจีนใช้โหลดไฟล์ easyMule และ eMule โปรแกรมเล่นไฟล์ QvodPlayer ตอนนี้มีภาษาอังกฤษแล้วนะคะ อ่านไฟล์ได้หลากหลาย คนจีนเป็นคนทำ ใช้กับไฟล์จากเว็บจีนได้แน่นอน โปรแกรมฟังเพลง ใช้โหลดเพลงได้ 千千静听 และ QQ音乐 ใช้โหลดเพลงได้ทั้งสองโปรแกรมค่ะ แต่เราว่า千千静听 เสถียรมากกว่านะ แบบเวลาใช้มีปัญหาน้อยกว่าอ่ะ โปรแกรมที่กำราบสปายแวร์จีนได้ดี คือ SUPERAntiSpyware Free Edition โหลดไว้นะคะ ที่ //www.filehippo.com/download_superantispyware/ ถ้าอยากฝึกภาษาอื่น(อังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น) ใช้ easyMule โหลดจากเว็บนี้ค่ะ ดีกว่าเว็บอื่นๆตรงที่มีซับสองภาษา เท่าที่รู้มีเว็บนี้เว็บเดียวที่ทำได้ //yyets.com/ เขียนตอบกระทู้ไว้ แต่คิดว่ามีประโยชน์ ไม่อยากเขียนใหม่ เอามาแปะไว้ แหะๆ |
นางสาวคานทอง
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] All Blog
Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
