ไม่อยากให้โลกนี้มีพ่ออารมณ์ร้าย
เราอยากให้พ่อแม่หย่ากันมากๆๆๆ
มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อเราบีบคอแม่เรา(ปกติจะตบที่หัวเฉยๆ เจ็บ แต่ไม่เห็นแผล ฉลาดมั้ย?)
เราก็โทรเลย191 เบอร์ตำรวจ ใจอยากให้ตำรวจมาจัดการอย่างจริงๆจังๆ
ตอนนั้นเหมือนพ่อเรากะให้แม่เราตาย ตะโกนด้วยว่า กุจะฆ่าเมิง
เราจำภาพได้ติดตาเลย ถึงผ่านสิบกว่าปีแล้วก็ตาม
แม่เราบอกพ่อเราคลายมือนิดหน่อยตอนที่เราตะโกนให้หยุด
แม่เราโกรธมากและหนีออกจากบ้านไป
เนื่องจากแม่เราเป็นคนดูแลการเงินและกิจการที่บ้าน เลยทำไงก็ได้ หุหุ ไม่กลัวขาดเงิน
แม่เราพาเราหนีไปอยู่เชียงใหม่1อาทิตย์
เป็นการหนีที่มีความสุขมากๆๆ ได้เที่ยวด้วย เย้ๆ
ต่อมาแม่เรากลับกรุงเทพ ไปอยู่บ้านอาม่า
พ่อเราตามมาง้อ สัญญาว่าจะไม่ทำอีก
ลุง น้าเราก็บอกว่าถ้าพ่อเราทำอีกจะไปจัดการให้
จริงครึ่งนึงนะ คือพ่อเราไม่ตบแม่เราอีก แต่ยังด่าเหมือนเดิม
แต่แค่นี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว ด่าอย่างเดียวก็ยังดี

พอแม่เราเครียดก็มาระบายกับเรา
เรารับปัญหานี้ตั้งแต่เด็ก ทำให้เราเกลียดพ่อเรามากกว่าเดิม
แค่เห็นจะๆก็เกินจะทนแล้ว แม่เราก็ย้ำกับเราทุกครั้งที่ถูกตบหรือด่า
ซ้ำไป ซ้ำมา เด็กจะเห็นพ่อเป็นตัวแทนของผู้ชายทั้งโลก เราก็เลยมีอคติกับผู้ชายตั้งแต่นั้น
ไม่ต้องถาม เราเกลียดพ่อเราขนาดไหน
เราโทษทุกอย่างที่เราสามารถโทษได้
ตั้งแต่วัฒนธรรมจีนที่หล่อหลอมให้พ่อเราคิดว่า ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหลัง
อาม่า(ย่า)ที่ใจดีกับพ่อสุดๆ
เคยคิดอยู่ว่าไม่อยากพูดคุยกับผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้
เพียงเพราะเขามีเพศเดียวกับพ่อเรา
หลังๆต้องปรับตัว เรารู้ว่าทำตามใจอยากทุกอย่างไม่ได้
ก็ลดๆลงมา

จบมัธยมเราก็ดิ้นรนไปเรียนที่จีน
ไม่ใช่อะไรหรอก เราอยากหนีพ่อเรา
ตอนเรียนนอกมันก็ดีนะ ไม่ค่อยเห็นพ่อเรา
พอเรากลับมาบ้านตอนปิดเทอม พ่อเราก็ไม่ค่อยใส่อารมณ์กับเรา
ตอนนี้เรียนจบแล้ว ปัญหาเริ่มเกิด
เราอยู่เมืองไทยยาวมากๆ ประมาณปีกว่า ยาวที่สุดเท่าที่เรียนจบมัธยมมา
ทะเลาะกับพ่อหลายครั้ง เมื่อก่อนจากไม่เคยเถียงตอบ เริ่มมีพูดสวนบ้างแล้ว(พูดเข้าข้างแม่)
ซึ่งเป็นอะไรที่แทงใจดำพ่อเรา
เรารู้เลย เราไม่สามารถอยู่กับพ่อได้
ตอนนี้อยู่บ้านเดียวกัน แต่ไม่พูดกัน พูดเท่าที่จำเป็น
ยอมทุกอย่าง ไม่กินข้าวเย็นนอกบ้าน ไม่ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด
พ่อเราก็เพลาๆอารมณ์นิดนึง คงเห็นว่าเราเอาจริง
และเขาไม่เหลือใคร(มีรายละเอียดอีกค่ะ แต่เผาแค่นี้พอ ถ้ามีโอกาสวันหลังก็...)
พ่อเราเป็นคนโมโหร้าย แต่เย็นค่อนข้างเร็ว(แน่นอน ไม่ใช่เขาที่ถูกด่าแรงๆนิ)
เขานึกว่าคนอื่นจะให้อภัยเหมือนอาม่า แต่เราทำไม่ได้ เหอะๆ
เราไม่คิดจะทิ้งพ่อเราตอนแก่หรอก ไม่ว่าเขาจะกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นแค่ไหน
ชาตินี้เราขอตอบแทนให้หมด อดทนให้มาก
แล้วภาวนาว่าชาติหน้า ถ้าพ่อเรายังเป็นแบบนี้อีก ก็ขออย่าให้เจอกันอีกเลย จบ
แต่เราไม่บอก ตอนพ่อบ่นน้อยใจก็ช่างเขา นิ่งไว้ไม่อยากให้อารมณ์ปะทุขึ้นมาอีก
เราพยายามพูดกับพ่อน้อยที่สุด เพื่อที่อารมณ์พ่อเราจะได้ไม่ปะทุ
แสดงความรัก อ้อน มันอาจจะมีอยู่บ้างแหละ แต่ยากอ่ะ แสดงไม่ออก
คงซ่อนอยู่แถวๆจิตใต้สำนึก หุบปาก เป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่เราพอทำได้

คุณแม่ทั้งหลายชอบบอกว่าหย่าแล้วเด็กมีปัญหา
แต่กรณีเรา ไม่หย่าต่างหากที่ทำให้เกิดปัญหาที่หนักขึ้น
ถ้าแม่เราหย่ากับพ่อเราตั้งแต่เรายังเด็ก
เราก็คงไม่ต้องเจออารมณ์ร้ายๆของพ่อมาสิบกว่าปีจนกลัวการแต่งงานหัวหดแบบนี้
ตอนนี้พูดถึงคำว่าแต่งงาน เราไม่ดีใจนะ แต่จะขยะแขยงยิ่งกว่าเห็นแมลงสาปอ่ะ
ใครมาบอกว่าจะแต่งงาน เราไม่ดีใจด้วยหรอกถ้าเป็นผู้หญิง
คำว่า นรกจะผุดขึ้นมาในหัว
ถ้าเป็นผู้ชายจะยินดีด้วย นึกในใจว่า ดีใจด้วยนะ
หาคนรับใช้ นางทาสส่วนตัวได้แล้ว อะไรประมาณนั้น
เรารู้ว่าความผิดปกติทางจิตเกิดขึ้นแล้ว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาการที่ว่าทุเลาลงตอนที่เราเรียนอยู่นอก ช่วงที่เราห่างพ่ออ่ะแหละ
ตอนนี้ก็กำลังหาทาง+รอเวลาที่จะไปอีก หึหึ
ถ้ากลับไทย จะไปซื้อคอนโดอยู่ อย่างน้อยๆมีที่หลบพ่อใช้กับแม่2คน
ไว้พ่อเราแก่มากกว่านี้ แรงหมด ด่าไม่ค่อยออกค่อยกลับไปหาพ่อเรา

ไม่ใช่จู่ๆอยากเขียนขึ้นมาหรอก
แต่ตระเวนอ่านกระทู้แนะนำ เจอกระทู้แนะนำของห้องชานเรือนแล้วปรี๊ด
คันมืออยากเขียนทันควัน อุอุ
เข้ากับบรรยากาศวันพ่อ(รึเปล่า)ด้วย

เราขออภัยผู้ชายทุกท่านที่เราแสดงอะไรที่อคติออกไป
โดยเฉพาะกรณีที่เกินควรทั้งหลาย
ห้องที่โดนเยอะสุดน่าจะเป็นห้องสมุด รองมาก็สินธรนะ แหะๆ



Create Date : 03 ธันวาคม 2554
Last Update : 3 ธันวาคม 2554 21:17:22 น.
Counter : 687 Pageviews.

12 comments
  
โดย: todsvuth1 วันที่: 3 ธันวาคม 2554 เวลา:22:49:49 น.
  
ขอให้ผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ด้วยดีนะคะ
โดย: กานดา ขาร็อค วันที่: 3 ธันวาคม 2554 เวลา:23:04:41 น.
  
ขอบคุณ คุณกานดามากๆค่ะ

ขอบคุณคุณ todsvuth1
ถึงแม้เราไม่เข้าใจความหมายของคุณสักเท่าไหร่ก็ตาม
โดย: นางสาวคานทอง วันที่: 8 ธันวาคม 2554 เวลา:18:42:35 น.
  
อ่านแล้วคิดถึงพ่อเราจัง พ่อเราเสียไป 2 ปีกว่าแล้วละ น้ำตาไหลเลยเนี่ย.. เฮ้อ จะบอกว่าพ่อกับแม่เราก็ทะเลาะกันบ่อยมาก ลงไม้ลงมือกันมั่ง ทะเลาะกันเสียงดังมาก เหมือนคนที่ไม่รักกันเลยอ่ะ ตอนเด็กๆเราอยากจะหนีไปไกลๆจากทั้งสองคนนี้มาก เบื่อสุดๆอ่ะ แต่พอโตขึ้นเค้าก็ทะเลาะกันน้อยลงหน่อย จะหนักไปทางเถียงกันมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่พ่อเราจะเงียบ แม่เราเลยต้องค่อยๆเงียบไป และเราก็เพิ่งคิดได้ว่าแม้เค้าจะทะเลาะกันแต่เค้าก็รักกันนี่นา อยู่กันมาได้ตั้ง 40 กว่าปี กว่าเราจะเข้าใจก็ตอนโตเนี่ยแหละ ตอนที่พ่อป่วยเข้ารพ. ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจทางปาก ตอนพ่อรู้สึกตัว(แบบยังสะลึมสะลืออยู่)พ่อพยายามมองหน้าพวกเราและแม่ และพยายามจะถามทั้งๆที่ไม่มีเสียงและคงจะเจ็บมาก ว่าแม่และลูกทุกคนมาครบรึป่าว พวกเราร้องไห้เลย และรู้สึกได้ว่าสิ่งเดียวที่พ่อต้องการคือเห็นหน้าแม่และลูกๆทุกคน ตอนนี้ท่านเสียไปแล้ว รู้สึกสงสารแม่มาก ลูกก็ต้องไปทำงาน แยกครอบครัวกันไปบ้าง ต้องรอลูกกลับมาตอนเย็น ไม่มีคนมาทะเลาะด้วย ขนาดตอนนี้แม่เรายังบอกกับรูปพ่อเราเลยว่า ไอ้แก่จะไปก็ไม่สั่งเสียอะไรซักคำ 555 แล้วแม่เราก็น้ำตาซึม 555

เขียนมาซะยืดยาว เราอยากบอกคุณนางสาวคานทองว่า เราเป็นกำลังใจให้ อย่างที่คุณบอกนั่นแหละ อดทนให้มาก ดูแลท่านยามแก่ เราเชื่อว่าพ่อคุณก็รักคุณกับแม่เหมือนกัน สู้ๆจ้า
ปล. เราก็คงไม่แต่งงานเหมือนคุณนั่นแหละ..เพราะเราเป็นทอม 555
โดย: เด็กดื้อ IP: 125.24.99.75 วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:15:56:07 น.
  
มีความสุข กับสิ่งที่เลือกนะคะ เรามีอดีตคล้ายกันคะ
มาให้กำลังใจให้ผ่านไปด้วยดีคะ
โดย: Mo IP: 125.24.92.168 วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:16:53:45 น.
  
ขอบคุณคุณเด็กดื้อและคุณmoนะคะ

ความรักของพ่อคงมีบ้างแหละ แต่น้อยสุดๆๆแทบไม่รู้สึก
พวกเราญาติดีกันได้ตอนอยู่ห่างกันเท่านั้น ฮ่าๆ
เราต่างจากคุณเด็กดื้อนิดหน่อย คือไม่ได้เป็นทอม ไม่ต้องการใครเข้ามาในชีวิตกรณีนั้นจริงๆ คือกลัวผู้ชายจนรักอิสระแบบสุดๆ มีเวลาให้ที่บ้าน เพื่อนสนิท สังคม หมาที่บ้าน นิดหน่อยก็ดีถมแล้ว
โดย: นางสาวคานทอง วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:19:56:59 น.
  
Do your best.. make yourself and your mom happy as much as you can...

You can make a choice to keep yourself happy.. so why not??

Good luck naka... you are not alone ^^
โดย: similar IP: 81.141.249.100 วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:0:16:03 น.
  
ขอบคุณค่าคุณ similar
โดย: นางสาวคานทอง วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:20:24:21 น.
  
เราเข้าใจคุณนะ เราก็เคยเจอเหตุการณ์แบบคุณเหมือนกัน
แล้วเราก็ไปแบบคุณนี่แหละ ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเรารู้สึกว่ามีความสุขมาก และไม่อยากกลับไปอีก เราอยากให้พ่อแม่หย่ากัน
อยากอยู่กับแม่แค่สองคน ตอนนี้เราก็เรียนจบและอยู่กับแม่
เราไม่อยากให้แม่แบกรับความทุกข์คนเดียว พ่อดีบ้างไม่ดีบ้าง
ส่วนใหญ่คือจะไม่ดี และส่วนที่ไม่ดีก็ไม่ดีมากๆ
ความรักที่เรามีให้พ่อก็แทบไม่มี อ่านเจอ
"ชาตินี้เราขอตอบแทนให้หมด อดทนให้มาก" แล้วจะร้องไห้
เพราะเราก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ทุกวันนี้เราบอกตัวเองว่าทำเพื่อแม่
มันทำให้เราอยู่ได้ เรื่องกลัวการแต่งงานเราก็เป็น
แต่เราคิดว่ามันไม่ผิดปกติ มันอาจจะเป็นปกติของคนที่เจอแบบนี้
เราว่ามันเป็นความรู้สึกที่ป้องกันตัวเองมากกว่า
เมื่อคุณรุ้สึกไม่ดี เราเป็นกำลังใจให้นะ
เราเชื่อว่าสักวันทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ยินดีที่ได้อ่านค่ะ
โดย: Oil IP: 118.172.166.253 วันที่: 9 มีนาคม 2555 เวลา:1:13:50 น.
  
ขอบคุณคุณOilที่เข้าใจและเขียนความเห็นให้อ่านนะคะ
เหมือนเจอเพื่อนที่รู้ใจเลยค่ะ
โดย: นางสาวคานทอง วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:18:44:54 น.
  
พี่เองก็มีประสบการณืแบบเดียวกัน และตอนนี้กำลังปะทุ พี่เลย Search หาคนที่มีประสบการณ์คล้่ายๆ กัน ปรากฏว่า เพียบ ... พี่ใกล้จะ 40 แล้ว และไม่อยากแต่งงาน เพราะเหตุผลเดียวกับน้องนี่แหละค่ะ พี่ไปเรียนต่อเมืองนอกจนจบ ป.เอก มีบ้านของตัวเอง มีงานทำที่มั่นคงมาก แต่จะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ทุกสุดสัปดาห์ บรรยากาศในบ้านพี่ก็คล้ายๆ กับที่น้องเล่ามา พ่อแม่พี่อายุมากแล้ว แต่แข็งแรงมาก เพราะออกกำลังกายทุกวัน แต่พี่อึดอัดทุกครั้งที่กลับบ้าน พี่พยายามอดทน แต่ตอนนี้พี่เองก็มีปัญหาสภาวะหัวใจ พี่พยายามออกกำลังกาย ร่างกายพี่ดีขึ้น แต่พอกลับไปบ้านพ่อแม่ พี่ก็เริ่มมีปัญหาหัวใจขึ้นมาอีก พี่พยายามบอกพวกเขาแล้ว ตอนนี้พี่ก็ยังไม่รู้ว่าพี่จะตายก่อนหรือหลังพ่อแม่พี่

พี่อยากหาที่ระบายค่ะ เพราะคนที่มีประสบการณืคล้ายกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจกัน บางคนไม่เคยเจอก็อาจว่า เราไม่กตัญญู ทั้งๆ ที่ตลอดเกือบ 40 ปีที่ผ่านมาพี่ก็อยู่ในโอวาทเขาทุกอย่าง เป็นเด็กดีมาตลอด ทำให้เขาชื่นใจตลอด เชื่อไหมคะ พ่อแม่พี่ไม่เคยถามพี่ว่า "เหนื่อยไหม" เวลาพี่กลับบ้านเลย ทุกครั้งพี่จะได้ยินหรือได้เห็นแต่ความเกรี้ยวกราด อารมณ์ร้าย หากไม่กลับบ้านก็จะถามว่า "เพราะอะไร" ต้องหาเหตุผลมาสาธยายเลยหละ แต่เหตุผลของพี่คือ การที่พี่อยู่คนเดียว สภาวะหัวใจพี่มันดีกว่าตอนกลับไปหาพ่อแม่

ยังไงๆ น้องก็สู้ๆ นะคะ เติมเต็มทุกวันให้ตัวเอง พี่ก็จะพยายามทำทุกวันให้ดีที่สุด ให้มีความสุขที่สุดเช่นกัน
โดย: พี่ ก. IP: 61.19.231.95 วันที่: 29 มีนาคม 2556 เวลา:16:47:52 น.
  
ขออภัยที่ตอบช้าอย่างสูง ไม่แน่ใจว่าพี่ ก.จะได้เห็นข้อความนี้ของหนูไหม แต่ขอเขียนตอบไว้ก่อน เป็นกำลังใจให้พี่นะคะ ถ้ามีเรื่องระบาย ส่งหลังไมค์มาได้ทุกเวลา จะตอบให้เร็วที่สุด
ปล.ลองส่งหลังไมค์ แต่ไม่ได้อ่ะ
โดย: นางสาวคานทอง วันที่: 16 สิงหาคม 2556 เวลา:22:15:28 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางสาวคานทอง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]