แวววัน - โบตั๋น

**SPOILER ALERT






หนึ่งในหนังสือนอกเวลาสมัยมัธยมฯ พยายามขุดความทรงจำอยู่เหมือนกันแต่คิดไม่ออกว่าตอนนั้นรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ ที่จำได้ลางๆ คือเรื่องนี้ช่างแห้งแล้งแท้ -_-ll

แต่เมื่อได้อ่านอีกครั้งตอนเป็นผู้ใหญ่ความรู้สึกกลับเปลี่ยนไป ไม่ใช่หนังสือที่เรียกได้ว่าชอบเพราะอ่านสนุก แต่จัดไว้ว่าชอบเพราะเป็นหนังสือดีที่มีคุณค่า อ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรๆ หลายอย่าง ได้มุมมอง และทัศนคติที่เอามาปรับใช้ในชีวิตจริง เป็นนิยายดีเล่มหนึ่งที่สะท้อนสภาพสังคมและผู้คนจริงๆ ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมตอนเป็นเด็กน้อยคอซองถุงเท้ายาวถึงได้เฉยๆ อึนๆ กับหนังสือเล่มนี้ เพราะมันค่อนข้างลึกซึ้งเกินกว่าเด็กวัยรุ่นจะเข้าใจ

เนื้อเรื่องหลักๆ ของแวววันคือเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่พยายามถีบตัวเองให้ห่างจากความยากจนโดยใช้การศึกษาเป็นตัวผลักดัน การศึกษาในระดับที่สูงขึ้นทำให้แวววันได้พบเจอกับผู้คนหลากหลาย ความแตกต่างระหว่างสภาพสังคมที่เธออาศัยอยู่กับสังคมการศึกษาแตกต่างกันมาก ผู้คนที่ได้เจอปะสมาคมก็มีนิสัยแตกต่างกันไป กระนั้นแวววันก็ได้ค้นพบว่าไม่ว่าจะยากดีมีจน ทุกคนล้วนแล้วแต่มีปัญหาของตัวเองทั้งสิ้น คนรวยก็มีปัญหาแบบคนรวย คนจนก็มีปัญหาแบบคนจน ปากกัดตีนถีบ หาเช้ากินค่ำกันไป

ในบรรดาผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของแวววัน เราคิดว่ารวิวรรณคือตัวแทนของผู้หญิงสมัยเก่าและสมัยใหม่ที่ผสมกันได้อย่างลงตัว เราชอบทัศนคติในตอนที่พยายามช่วยเพื่อนที่ตั้งท้องระหว่างการเรียน มีแนวคิดสมัยใหม่แต่ก็ยังแคร์และเข้าใจสังคม ขณะเดียวกันเมื่อผู้หญิงที่ดูจะสมัยใหม่อย่างระวิวรรณถูกบังคับแต่งงานกับคนที่ไม่ชอบ เจ้าตัวก็ยอมรับและพยายามประคับประคองชีวิตคู่

กรองกาญจน์ นักอุดมคติที่ถูกทุนนิยมกลืนกิน ความเคียดแค้นหลอมรวมให้กรองกาญจน์เกลียดชั้นชนเศรษฐี แต่สุดท้ายกรองกาญจน์ก็เลือกความสบายอยู่ดี ลืมความคิดที่จะพัฒนาบ้านเกิดแล้วหนีไปเมืองนอก แอบคิดว่าถ้าช่วงเวลาในเรื่องขยับช้าลงมาสักหน่อย กรองกาญจน์จะกลายเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่หนีเข้าป่ารึเปล่าหนอ ? 

ตัวละครที่หดหู่สุดๆ ในสายตาของเราคงเป็นไววิทย์ ด้วยความที่เราติดพ่อแม่มาก เลยรู้สึกแย่จริงๆ ที่ลูกลืมบุพการีไปเสียสิ้น ลืมแล้วว่าใครเลี้ยงดูอุ้มชู แม้ว่าความเป็นอยู่ของครอบครัวจะไม่ได้ดีมากถึงขั้นพ่อแม่ตามใจได้ทุกอย่าง แต่ไววิทย์ก็ได้รับความรักและการอุปการะจากพ่อแม่ รวมถึงพี่สาวตลอดมา คนแบบไววิทย์เองก็มีในสังคมจริงๆ ยิ่งในข่าววงเวียนชีวิต เราก็เห็นคนแก่ที่ต้องอาศัยตัวคนเดียว หาเลี้ยงตัวเองเพราะลูกหลานล้วนย้ายหนีไปหมด 

ฉากหนึ่งในเรื่องตอนที่แวววันเริ่มเป็นครู แล้วถูกขอให้ลดการสอนในชั้นเรียนเพื่อนำเนื้อหาไปสอนในชั้นเรียนพิเศษ มันทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ การศึกษามันล้มเหลวมาตั้งแต่สมัยนั้นเลยนะ แถมไอ้การเรียนพิเศษมันก็มีมานานแล้ว สมัยเราจะเอ็นท์ฯ ก็ว่าเรียนพิเศษเยอะแล้ว ปิดเทอมเรียนเช้ายันค่ำ ใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องเรียน หน้าจอทีวีที่เปิดเทปบันทึกการสอน แต่เห็นเด็กสมัยนี้เค้าเรียนพิเศษแล้วหนักใจกว่า ปัญหาที่ว่าความรู้จากครูในห้องเรียนไม่เพียงพอจนต้องไปหาครูสอนพิเศษชนิดที่ต้องแย่งกันจองคอร์สเรียนนี่มันฟักตัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แล้วมันจะดำเนินไปอีกนานแค่ไหน

ชอบตอนจบของเรื่อง ฉากสุดท้ายที่แวววันพูดคุยกับพันธ์สุรีย์ ความคิดที่อยู่ในใจของแวววันที่ว่าพันธ์สุรีย์คงหลงตัวเองที่คิดว่าแวววันยังอยู่เป็นโสดจนถึงตอนนี้เพราะรอเขา เราคิดว่าแวววันตัดสินใจได้ถูกต้องที่สุดแล้ว ถึงแม้จะเสียดายอยู่ลึกๆ ว่าทำไมไม่มีใครมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของสตรีคนนี้ โดยไม่ได้มองเธอเป็นแค่ตัวสำรองหรือตัวแทนของใครบ้างนะ

ถึงแม้ว่าเราไม่ได้เข้าใจทุกอย่างที่แวววันเป็น ไม่ได้ชื่นชอบทุกการกระทำของแวววัน แต่เข้าใจว่าคนอย่างแวววันมีอยู่จริง แอบหวังอยู่ในใจลึกๆ ว่าขอให้พวกเขาเป็นเช่นหินผาแวววันที่มั่นคงในการทำความดี ไม่หวั่นไหวไปตามกระแสสังคมหรือกระแสธารของทุนนิยม




Create Date : 03 เมษายน 2556
Last Update : 2 พฤษภาคม 2557 17:47:23 น.
Counter : 14122 Pageviews.

13 comment
มายานาง - อวี๋ฉิง

**SPOILER ALERT





หลังจากใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่บนเตียง ไม่ค่อยได้พบเจอผู้ใดเพราะร่างกายแสนจะอ่อนแอ ในที่สุดวาระสุดท้ายก็มาเยือน ‘ซี่ซุ่นหวา’ ทายาทคนสุดท้ายของอดีตตระกูลมหาเศรษฐีชั้นทองแห่งเป่ยถัง

ทว่าเรื่องน่าเหลือเชื่อกลับบังเกิดขึ้น เมื่อสวรรค์ยังไม่เรียกให้นางกลับไปที่นั่น ซ้ำยังมอบโอกาสให้นางได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง...ในร่างของคนอื่น ณ ช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนที่วาระสุดท้ายของซี่ซุ่นหวาจะมาเยือน

แต่ทำไมกันหนอ ผู้คนมีเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น เหตุไฉนคนที่สวรรค์ส่งให้นางมาอยู่ในร่างกลับเป็น ‘ชุยซุ่นหวา’ โฉมสะคราญผู้เป็นหนึ่งในสี่ประมุขตระกูลใหญ่ คนที่ใครๆ ต่างก็เรียกขานว่า ‘นางมารร้าย’ คนนั้น ทำไม!





หวนคืนสู่มากกว่ารัก กับนิยายเรื่องมายานางที่ตอนแรกว่าจะข้ามไปก่อนเพราะสนใจ "ฝันคืนสู่ต้าชิง" มากกว่า แต่พอได้เปิดอ่านในส่วนของจากใจผู้เขียนที่อยู่ท้ายเล่มถึงพบว่าเล่มนี้มันต่อจากหลงเงานางนี่นา แอร๊ย เล่มโปรดและนักเขียนคนโปรด นี่ถ้าไม่ซื้อก็ไม่ใช่แฟนคลับของสีต๋าแห่งสีเซียนแล้ว XD

(SPOILER - เนื้อเรื่องในมายานางไม่มีตัวละครใดๆ ของหลงเงานางมาออกโรง ทว่ามีการพูดถึงตระกูลสีที่กระจัดกระจายกันไปในสี่แคว้น ตระกูลของนางเอกคือแซ่ซี่แห่งเป่ยถัง บรรพบุรุษของนางถูกจักรพรรดิ์หวาดระแวงจึงสั่งยึดทรัพย์ ตระกูลซี่จึงถูกลดบทบาทลงนับแต่นั้น จนถึงทายาทรุ่นสุดท้ายคือซี่ซุ่นหวา ดูเหมือนอนาคตของตระกูลซี่ต้องมาจบลงที่นางเพราะสุขภาพที่อ่อนแอชนิดที่ว่ามีชีวิตอยู่มาจนถึงอายุ 19 ปีก็นับว่ามหัศจรรย์มากแล้ว ซี่ซุ่นหวาอาศัยกับพี่ชายบุญธรรมคือไป๋ฉี ในวันที่เขาเดินทางไปสู่ขอพี่สะใภ้เป็นวันตายของซี่ซุ่นหว่า ทว่าวิญญาณของนางไม่ได้เดินทางกลับไปปรโลกแต่เข้าไปสิงในร่างของซุยซุ่นหวา ทายาทตระกูลใหญ่ผู้กุมอำนาจของเมืองหลวงโดยนับย้อนเวลากลับไป 1 ปีก่อนที่ซี่ซุ่นหวาจะตาย ซุยซุ่นหวานั้นมีนิสัยโหดร้ายและเลือดเย็น เมื่อวิญญาณของซี่ซุ่นหวามาอยู่ในร่างชุยซุ่นหวานิสัยก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ชีวิตของซี่ซุ่นหวาตกอยู่ในอันตรายอีกครั้งเพราะทุกๆ คนล้วนแต่เกลียดชังจนอยากเอาชีวิตซุยซุ่นหวา ที่พึ่งเดียวของนางคืออี้ฉือกง เมื่ออยู่ในร่างของซุยซุ่นหวา ซี่ซุ่นหวาได้พบความลับมากมายที่เกี่ยวพันกับราชวงศ์และตระกูลซี่ รวมถึงความจริงที่ว่าฆาตกรฆ่านางคือซุยซุ่นหวาที่ได้รับคำสั่งจากพระพันปี ร่วมมือกับว่าที่พี่สะใภ้ของนาง ซี่ซุ่นหวากลับไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้เพราะเป็นลิขิตของสวรรค์ นอกจากจะรักษาชีวิตในร่างของซุยซุ่นหวา แต่แล้วความเปลี่ยนแปลงก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากสายตาของอี้ฉือกงไปได้ ความลับที่ว่านางคือวิญญาณซี่ซุ่นหว่าที่อาศัยในร่างซุยซุ่นหวาถูกเขาค้นพบ เมื่อไม่มีสิ่งใดแก้ไขได้ซี่ซุ่นหวายินยอมให้ความตายดำเนินต่อไปโดยไม่อาจหยุดยั้ง ไม่ใช่เพียงซี่ซุ่นหวาที่เฝ้าคอยอย่างทรมาน อี้ฉือกงก็เฝ้ารออย่างทรมานเช่นกันเพราะไม่มีใครรู้ว่าเมื่อวิญญาณของซี่ซุ่นหว่าหลุดออกจากร่างตัวเองอีกครั้งจะเกิดผลกระทบอะไรกับวิญญาณซี่ซุ่นหวาในร่างซุยซุ่นหว่า ทั้งหวาดหวั่นว่าวิญญาณของซุยซุ่นหวาจะกลับมาเข้าร่างเดิมหรือไม่ สุดท้ายวิญญาณของซี่ซุ่นหวาก็ไม่ได้ไปไหน ยังสิงอยู่ในร่างของซุยซุ่นหวาแต่ปัญหาที่ตามมาคือไป๋ฉีตั้งใจเอาชีวิตของซุยซุ่นหวาเพื่อแก้แค้นในน้องสาว )

ความรู้สึกหลังอ่าน ... ใครที่เรียกร้องแนวดราม่าจากแจ่มใสก็คงสมใจ มันดราม่า มันซับซ้อน ._. คุณอวี๋ฉิงผูกเรื่องได้น่าติดตาม บางตอนก็เดาออก บางอย่างก็เดาไม่ออก ฉากที่พีคมากๆ คงเป็นตอนที่ซี่ซุ่นหยาตายครั้งที่สองกับตอนที่ไป๋ฉีจับตัวซี่ซุ่นหยาในร่างซุนซุ่ยหยาไว้ที่เรือน แต่ด้วยสไตล์การเขียนของคุณอวี๋ฉิงจะตัดอารมณ์คือเล่าเรื่องมาให้ลุ้น อารมณ์กำลังพีคแต่ตัดฉากไปเลยแล้วเล่าย้อนหรือท้าวความเอา ตัดอารมณ์คนอ่านเหอะค่ะ ;_;  แต่โดยรวมก็ยังน่าติดตามอยู่ดี มาช่วยลุ้นว่าซี่ซุ่นหยาจะเอาตัวรอดจากปากเหยี่ยวปากกาได้หรือไม่ ในเล่มนี้ความสัมพันธ์ของพระนางค่อนข้างใกล้ชิดกันมาก ชนิดที่ระเบียบแบบแผนทางสังคมสมัยนั้นลืมๆ มันไปเถอะ คนเขียนเองก็บอกแล้วว่าทุกอย่างในเรื่องล้วนมาจากจินตนาการ เนื้อหาในเล่มก็ไม่ได้อิงจากราชวงศ์ไหนแต่สมมติให้เป็นดินแดนแห่งหนึ่ง

อี้ฉือกงยังเป็นพระเอกในมาตรฐานของคุณอวี๋ฉิงอยู่คือฉลาด เงียบๆ ไม่ค่อยจา ไม่ค่อยแสดงออกทางคำพูด แต่การกระทำนั้นรักจริง  ส่วนนางเอกก็เหมือนกันดูเหมือนจะอ่อนแอแต่ก็เป็นประเภทสู้คน อดทน มีคุณสมบัติในการเอาตัวรอดสูง ความรักของพระนางอาจจะไม่หวานล้ำ ลึกซึ้งกินใจน้ำตาตก แต่เป็นความรักแบบที่เกิดจากความเข้าใจหรือเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า โดยเฉพาะคู่นี้ไม่ต้องนั่งลุ้นเลยว่าจะรักกันยังไง ใกล้ชิดสนิทสนมกันตั้งแต่เริ่มๆ (แต่เล่มนี้ก็หวานๆ อยู่นะ นางเอกแอบหื่นด้วยตามสไตล์ผู้เขียน 555+)

ส่วนตัวจขบ. ชอบสไตล์ของคุณอวี๋ฉิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาเล่มนี้ก็ชอบเหมือนเดิม ที่ชอบมากในเล่มคงเป็นจุดที่ทุกสิ่งที่อยู่ในชีวิตของซี่ซุ่นหยาตอนใกล้ตายล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับซี่ซุ่นหยาในร่างซุนซุ่นหยา แม้จะแอบติดใจสงสัยว่าแล้วในช่วงเวลาเดียวกันคนเราจะมีดวงวิญญาณสองดวงได้ไง? คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่ผู้เขียนพูดถึงแบบขำๆ ก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจดี เสียแต่สุดท้ายก็ต้องใช้พล็อตถอดวิญญาณเพื่อคงความเป็นนิยายรักเหมือนเดิม แต่จขบ. คิดว่าวิญญาณอาจจะมาแนว time travel ก็ได้ :P

สรุป ... ถ้าเบื่อแจ่มใสเล่มบางๆ ขอให้ลองเล่มนี้ 455 หน้า หนาสะใจ เนื้อเรื่องแปลกดี ไม่เน้นหวานแต่อ่านสนุก

หวังว่าแจ่มใสจะออกแนวนี้มาอีกเยอะๆ นะ ชอบ XD

ปล. ตอนแรกที่พล็อตเป็นนางเอกถอดวิญญาณไปสิงในร่างสตรีผู้มีอำนาจนี่คิดถึง "แปดสามี" ตะหงิดๆ แต่ก็ไม่คล้ายเลยสักกะนิด แปดสามีแฟนตาซีกว่าออกทะเลมากกว่าเยอะ



Create Date : 01 เมษายน 2556
Last Update : 2 พฤษภาคม 2557 17:47:41 น.
Counter : 9199 Pageviews.

12 comment
หนึ่งรัก...เหนือกาล - ธัญกร

**SPOILER ALERT





แรงอธิษฐานของคนในอดีตนำพาหญิงสาวจากอนาคตย้อนเวลากลับไปสู่อาณาจักรโบราณในยุคศรีวิชัยเพื่อเป็นตัวแทนราชธิดาตาราผู้สาบสูญ ความรักเหนือกาลเวลาจึงเริ่มต้นขึ้น

ปลายธาร หญิงสาวผู้ไม่เคยศรัทธาในศาสนาใด มักฝันเห็นมกร สัตว์ในตำนานและได้ยินเสียงคลื่นแว่วอยู่ในหู แม้จะรู้สึกผิดปกติแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร จนเมื่อเธอเดินทางไปเที่ยวโบโรบูดูร์กับครอบครัวในวันพระจันทร์เต็มดวง เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย เธอต้องหลับตาลงเพราะทนแสบตาไม่ไหว แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงไป

เธอจะเลือกอะไร...ระหว่างย้อนเวลากลับไปหาครอบครัวในยุคปัจจุบันอันแสนคุ้นเคย กับอยู่เสี่ยงภัยในฐานะราชธิดา ตาราเคียงข้างองค์สะมา ชายผู้เป็นที่รัก







ช่วงนี้อ่านนิยายที่เกี่ยวข้องกับประเทศใกล้ๆ มาสามเล่มติดแล้วล่ะค่ะ หนึ่งรัก...เหนือกาล เองก็เป็นเรื่องที่ใช้ประเทศอินโดนีเซียเป็นฉากหลัง แต่ทว่าไม่ได้เป็นอินโดฯ ในปัจจุบัน แต่เป็นอินโดฯ โบราณหรือแผ่นดินชวาในเวลานั้น 

เรื่องของเรื่องคือ ( SPOILED - อุบัติเหตุแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด ณ บูโรพุทโธทำให้ ปลายธาร หลงกาลเวลาย้อนกลับไปยังอดีตในยุคของราชวงศ์ไศเลนทรา ผู้สร้างบูโรพุทโธ ผู้ที่ปลายธารได้พบเป็นคนแรกคือองค์สะมาระตุงคะ เจ้าชายผู้สืบทอดราชบัลลังค์ ปลายธารอาศัยอยู่ในฐานะของนางกำนัล โดยมีดาหลาเป็นเพื่อนสนิทและบิมา องครักษ์ขององค์สะมาระตุงคะคอยจับตาดูด้วยความไม่ชอบใจ ฐานะนางกำนัลของปลายธารเปลี่ยนไปเมือได้พบกับพระเจ้าอินทรา พระบิดาขององค์สะมาระตุงคะ ผู้ที่เข้าใจว่าปลายธารคือราชธิดาตาราแห่งราชวงศ์ศรีวิชัยเนื่องจากทั้งคู่มีใบหน้าที่คล้ายคลึงกัน ด้วยความเข้าใจผิดของพระเจ้าอินทรานี้ทำให้องค์สะมาระตุงคะขอร้องให้ปลายธารสมอ้างรับเป็นราชธิดาตาราที่หายตัวไป ภายหลังพิธีราชภิเษกและพิธิอภิเษกสมรส สถานะปลายธารกลายเป็นรานีตาราในพระเจ้าสะมารุตุงคะแห่งราชวงศ์ไศเลนทรา ทว่าความยุ่งยากต่างๆ ก็ถือกำเนิดขึ้นเมื่อรานีตาราถูกลอบปลงพระชนม์ติดๆ องค์สะมาระตุงคะสั่งให้สืบสวนและพบว่ารานีแห่งตามพรลิงค์เป็นผู้บงการเพราะความหึงหวงเนื่องจากรายาแห่งตามพรลิงค์ต้องการเสกสมรสกับราชธิดาตาราเพื่อรวบอำนาจของอาณาจักรศรีวิชัย แต่ว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้กลับกลายเป็นผลประโยชน์ในการเดินทางเรือและเครื่องเทศจากเกาะโมลุกกะ รวมไปถึงลัทธิตันตระ ไสยเวทย์ดำที่มีคนใกล้ตัวขององค์สะมาระตุงคะเข้าไปเกี่ยวข้อง แถมปลายธารยังมีปัญหาให้ขบคิดตามมาเมื่อ หมันหยา พี่ชายของบิมาและคนสนิทขององค์สะมาระตุงคะ เอ่ยชวนเธอให้หนีการไล่ล่าเอาชีวิตไปกับเขา


นิยายเล่มนี้อิงเนื้อหาประวัติศาสตร์เต็มๆ เพราะทุกราชวงศ์ที่อ้างถึงในเรื่องก็ผ่านหูผ่านตามาแล้วทั้งนั้นสมัยเรียนมัธยม พระเจ้าสะมาระตุงคะและรานีตาราเองก็มีพระนามจารึกในประวัติศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ไศเลนทราและเป็นผู้สร้างบูโรพุทโธ

นิยายเปิดเรื่องมากับฉากของหญิงสาวนิรนามที่เรือแตก ท่ามกลางความตายนั้นหญิงสาวภาวนาต่อพระอรหันต์ให้ช่วยคุ้มครองบ้านเมืองของเธอให้ปลอดภัย นิยายมาเฉลยในตอนท้ายว่าหญิงสาวที่ถูกกล่าวถึงคือราชธิดาตาราแห่งอาณาจักรศรีวิชัยคู่ตุนาหงันขององค์สะมาระตุงคะ แรงภาวนาของราชธิดาทำให้ตัวของปลายธารถูกดึงมาที่ชวา ในเรื่องได้กล่าวย้ำถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของทั้งสองอาณาจักรว่ามีศรัทธาต่อองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นแฟ้น ศรีวิชัยมีพระธาตุไชยา ไศเลนทรามีบุโรพุทโธ ตัวละครราชธิดาและองค์สะมาระตุงคะเองก็มีศรัทธาที่่ยิ่งใหญ่ องค์สะมาระตุงคะถึงขั้นแกะสลักงานหินในบุโรพุทโธด้วยองค์เอง ... จุดนี้ช่วยตอบคำถามที่ว่าข้ามเวลามาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะมาก็มา 

แล้วทำไมต้องเป็นปลายธาร ? เนื้อเรื่องเกริ่นไว้ว่าปลายธารเป็นคนจังหวัดสุราษฏ์ธานี จังหวัดที่มีพระธาตุไชยาและแน่นอนว่าเป็นอาณาจักรศรีวิชัยเมื่อในอดีต ราชธิดาตาราเองก็มาจากศรีวิชัย แถมประเด็นที่จขบ. คิดเองเออเองว่ามันน่าจะใช่ คือตัวละคร หมันหยาผู้หลงรักราชธิดา ตัวหมันหยาตอนจบตั้งมั่นไว้ว่าจะเดินทางไปยังเมืองศรีวิชัย ดินแดนของหญิงสาวที่ตนรัก(ราชธิดาตารา) ผู้เขียนได้อธิบายลักษณะของหมันหยาไว้ว่ามีใบหน้าเหมือนพี่ชายของตนเองจนทำให้ปลายธารตกตะลึง แถมยังมีนิสัยที่คล้ายๆ กัน จขบ. เลยจับแพะชนแกะเข้าว่าจริงๆ แล้วปลายธารอาจจะเป็นทายาทของหมันหยาก็ได้ ถึงแม้จะไม่ได้สืบสายตรงจากราชธิดาแต่เป็นเชื้อสายของหมันหยา ชายที่หลงราชธิดาเพียงแค่สบตา กงล้อของโชคชะตาเลยหมุนเวียนพาปลายธารไปสู่อดีต 

นอกจากนี้ผู้เขียนยังอุดประเด็นเรื่องการสื่อสารกับคนโบราณเอาไว้ โดยการให้ปลายธารเป็นนักศึกษาเอกวิชาภาษามลายู เออ ดักทางคนอ่านตั้งกะเริ่ม 

สำหรับเนื้อเรื่องหลังจากที่ย้อนยุคมาก็ยังเรื่อยๆ ขายฉากความน่ารักระหว่างพระนาง องค์สะมาระตุงคะก็เป็นผู้ชายที่รักจริงและขยันหยอดจริง อ่านแล้วแบบ โอ้ย นี่ก็จะรักตาราไปถึงไหน ส่วนตัวละครปลายธารในฉากที่จะต้องเลือกระหว่างคนที่รักทั้งสองฝ่าย ทำให้เรารู้สึกถึงความลังเล สับสนไม่แน่ใจและความบีบคั้นที่จะต้องเลือก ระดับความน่าติดตามมาเพิ่มเอาช่วงที่ปลายธารถูกเอาชีวิตติดๆ กัน ข้ามไปตอนที่จัดฉากถูกลักพาตัวแต่ดันซวยถูกลักพาไปจริงๆ เป็นช่วงที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ 

ส่วนตัวละครที่ไม่ได้โผล่ออกมาสักเท่าไหร่แต่กลับมีความสำคัญมากเพราะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดคือคุณท้าวบาหยัน คุณท้าวบาหยันเป็นตัวแทนของมนุษย์ที่มีความศรัทธาอย่างเหนียวแน่นจนแปรเปลี่ยนเป็นความขาดสติ ตัวละครตัวนี้น่าจะเป็นกระจกให้เรา balance การใช้ชีวิต ไม่หมกมุ่นหรือจมอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกิน ไม่ใช้ชีวิตจนตึงเกินไปจนทุกอย่างพังทลาย ในเรื่องนี้คุณท้าวบาหยันไม่เพียงทำลายชีวิตครอบครัวของตัวเองและชีวิตของราชธิดาแต่ยังทำลายราชวงศ์ไศเลนทราในชวา เพราะคำสัญญาที่พระเจ้าสะมาระตุงคะที่ได้ให้ไว้กับคุณท้าวคือการให้พระธิดาของพระองค์ตุนาหงันกับราชวงศ์สัญชัยเพื่อรักษาสายเลือดบริสุทธิ์ของวงศ์อสัญแดหวาอย่างที่คุณท้าวตั้งใจไว้ จนเกิดการแย่งอำนาจกันขึ้น นำไปสู่จุดเสื่อมอำนาจของราชวงศ์ไศเลนทราในชวา

จุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างคือการนำสัตว์หิมพานต์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักอย่างมกรคชสีห์มาใช้เป็นตัวดำเนินเรื่อง ตอนแรกก็งงๆ นะว่าตัวจระเข้ มีงวงช้าง หางนกยูง แถมมีขาแบบสิงห์นี่มันจะหน้าตายังไงเนี่ย ?

ส่วนจุดที่ยังขาดๆ เกินๆ ไปบ้างคงเป็นการใช้ราชาศัพท์ที่บางทีก็ยังพิลึกพิลั่น แล้วก็ไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจของคนเขียนรึเปล่าแต่ราชวงศ์ไศเลนทราแต่ที่พบเจอส่วนมากจะเรียกว่าไศเลนทร์ แล้วก็ timeline การครองราชย์ของพระเจ้าอินทราและองค์สะมาระตุงคะที่ในเรื่องจะครองราชย์ต่อเนื่องกัน แต่จากลำดับการครองราชย์สองพระองค์นี้ไม่ได้ครองราชย์ต่อกัน และในเชิงอรรถที่ผู้เขียนบอกว่า Rakai Panangkaran ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับพระเจ้าอินทรา แต่ใน wiki มีชื่อของ Dharanindra ที่เป็นผู้เริ่มก่อสร้างบูโรพุทโธ เลยคิดว่าพระเจ้าอินทราน่าจะเป็น Dharanindra มากกว่า แต่ข้อมูลจาก wiki ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อได้กี่ %

ประเด็นที่ยังไม่เข้าใจคือคุณท้าวบาหยันหนีไปมีลูกมีครอบครัว คลอดลูกออกมาได้ยังไงโดยที่ไม่มีใครไหวตัว ในเรื่องไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดแต่เราก็สงสัยในจุดเล็กจุดน้อย -_-?

สรุปว่าชอบเล่มนี้จัดว่าชอบมาก *_*b ความเห็นส่วนตัวสำหรับเรื่องนี้คือเนื้อเรื่องไม่ได้สลับซับซ้อนดราม่าซ่อนเงื่อน จัดว่ายังเบาๆ อยู่ ผู้เขียนวางรายละเอียดของเรื่องไว้ได้สอดคล้องมีเหตุผลรองรับ มีความเชื่อมโยงของอดีตและอนาคต จะเรียกว่าเล่นท่าไม่ยากแต่ทำออกมาได้ดี ถือว่าเป็นผลงานเรื่องแรกของนักเขียนใหม่ที่น่าจับตา ตอนนี้ก็ติดตาและติดใจชื่อของนักเขียนท่านนี้และรอจะได้อ่านผลงานเล่มถัดไป ซึ่งอยากอ่านเรื่องของหมันหยา ;_; แอบหวังว่านักเขียนจะเขียน <3

ปล. ไม่แน่ใจว่าปกนี้เหมาะสม ไม่เหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ? มาร่วมด้วยช่วยอภิปรายได้นะคะ
ปลล. เป็นเอนทรี่ที่ยาวจนเมื่อยมือ ...
ปลลล. เข้าใจแล้วว่าทำไมมีคนอ่านนิยายเรื่องนี้จบแล้วถึงมาถามหานิยายที่มีฉากเป็นอินโดฯ ทำเอาอยากอ่าน "บุหงาตานี - บุหงาปารี" ต่อ




Create Date : 27 มีนาคม 2556
Last Update : 2 พฤษภาคม 2557 17:48:24 น.
Counter : 1068 Pageviews.

6 comment
ดุจคำอธิษฐาน - ชมจันท์


**SPOILER ALERT




เหตุเพราะเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ประตูดินเข้าไส้ ทอปโมเดลอย่างดุจดาราเลยลืมตัว เผยอกระทุ้งจุดยุทธศาสตร์ขาใหญ่ในวงการแฟชั่นจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง และต้องระเห็จไปรับงานเดินแบบที่พม่าแทน เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าที่ดินแดนกันดารแบบนี้จะเปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลัง พระธาตุอินทร์แขวนที่เหมือนจะลอยตัวอยู่ตรงปลายภูผาอย่างน่ามหัศจรรย์ทำให้เธอบังเกิดความศรัทธา กระทั่งหลับตาอธิษฐานของให้ได้พบผู้ชายดีๆ เมื่อลืมตาขึ้น...ชายหนุ่มร่างสูงกำยำ ดวงตาเรียวยาวเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ สอดรับกับจมูกโด่งงุ้มและริมฝีปากหยักก็ปรากฏแก่สายตา หัวใจของดุจดาราพลันกระตุกทันที...เธอกำลังตกหลุมรักหรือนี่ ทว่าพอได้ยินเขาอ้าปากพูดเท่านั้นแหละ หญิงสาวก็รู้ได้โดยอัตโนมัติว่า กามเทพคงแผลงศรผิดพลาดไปแล้วกระมัง





ก่อนอื่นใดขอชมหน้าปกก่อน หน้าปกสวย ดูแล้วดึงดูดสายตา เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ซื้อมาอ่าน ทางกราฟฟิคดีไซเนอร์ถือว่าออกแบบได้ดี สอดคล้องกับตัวเรื่อง

เพิ่มเติมค่ะ พอดีคุณ Serverlus ท้วงติงมาถึงความไม่เหมาะสมในการนำเอาสิ่งศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของพม่ามาใช้เป็นปกนิยาย ประเด็นนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนค่ะ คงเป็นโจทย์ให้ทีมออกแบบคิดล่ะว่าทำยังไงถึงจะไม่กระทบกระเทือนจิตใจผู้ที่ศรัทธาและลงตัวมากที่สุด

มาพูดถึงตัวเรื่อง ... เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า (SPOILED - นางเอกเป็นคู่หมั้นที่พระเอกหลงรักมานานแต่ด้วยความที่นางเอกไม่เชื่อมั่นในตัวผู้ชายเพราะฝังใจว่าพ่อนอกใจแม่ พระเอกเลยไม่ยอมทำความรู้จักและสารภาพความในใจสักที จนกระทั่งเพื่อนสนิทและญาติผู้น้องที่เป็นแฟนกับเพื่อนนางเอกทนไม่ได้ รวมหัวกันช่วยกันสร้างสถานการณ์ขึ้นมาให้นางเอกได้ใช้เวลาอยู่กับพระเอก โดยให้เพื่อนนางเอกลวงนางเอกมาที่พม่าที่ๆ พระเอกมาทำการเก็บข้อมูล ซึ่งตัวนางเอกเองก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนที่เธอเริ่มหวั่นไหวคือคู่หมั้นตัวเองที่หล่อนไม่เคยสนใจ ไม่เคยเจอหน้า แล้วผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างดีเพราะนางเอกสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น อ่อนโยนและเริ่มเปิดใจให้พระเอก ทว่าฟากพระเอกก็มีสาวพม่ามาหลงรักอยู่นานปี สาวพม่าจ้องจองเวรผู้หญิงทุกนางที่เข้าใกล้พระเอก แล้วก็เป็นสาวพม่าอีกแหละที่เป็น key สำคัญที่ทำให้ความลับทุกอย่างไขกระจ่าง แถมนางเอกยังได้เคลียร์กับพ่อ แต่ลงท้ายนางเอกก็ยังได้งอนพระเอกให้พระเอกได้ไปง้อในตอนจบ)

ส่วนตัวแล้วคิดว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างจะเรียบๆ ไปนิด ไม่มีจุดเร้าใจหรือสร้างปมให้ดราม่า ตื่นเต้น ทว่าพยายามอมพะนำความลับของเรื่องเอาไว้อย่างดี จนอ่านแล้วรู้สึกอึดอัดใจ ใคร่อยากรู้ กว่าจะจับไต๋เดาได้ว่าทั้งหมดทั้งมวลที่ชาวคณะเค้าปิดบังกันมาคืออะไรก็นู้นกลางๆ เล่มเข้าไปแล้ว แต่ในจุดของการใช้พม่าเป็นฉากหลังของเรื่องคิดว่าทำได้ดี บรรยายออกมาได้ละเอียดลงตัว ทำให้คิดภาพความงดงามของพม่าขึ้นมาในหัวได้ง่าย จุดนี้ให้ +1

พระเอกของเรื่องเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อบด้วยรูป ทรัพย์และคุณสมบัติ อายุ 36 หน้าตาหล่อ บ้านรวย เป็นศ.ดร. แต่ไหงดันป็อดคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรจะเด็ดดอกฟ้า เอ่อ คือ ... ถ้าเพียบพร้อมอย่างนี้ไม่คู่ควรไม่รู้จะหาใครมาคู่ควรแล้วล่ะค่ะพี่ชาย ก็แอบหมั่นไส้ฮีอยู่นิดๆ ตอนที่อมพะนำ รักเค้าแต่ไม่กล้าบอกพออยู่ใกล้ๆ ก็ตบะแตก มีฉากพระนางง๊องแง๊งใส่กันเรียกความน่ารักน่าเอ็นดู(ส่วนมากเป็นนางเอกที่ง๊องแง๊งอะนะ) ส่วนตัวชอบฉากเล่นน้ำสงกรานต์ ฉากขับจักรยาน ฉากจับมือตอนไปเก็บตัวอย่าง ฉากบนบัลลูนและฉากขึ้นเรือ แอ๊ะ นี่มันเกือบทุกฉากที่พระนางได้อยู่กันสองต่อสองเลยนี่ แบบว่าเค้าอยู่ด้วยกันแล้วน่ารักดี บางทีพระเอกก็หยอดตลอดหวานตลอด จนเริ่มงงว่าพี่ชายจะเอายังไงกันแน่จะป็อดหรือจะรุก

ส่วนนางเอกก็เหวี่ยง วีนบ้างตามประสาซุปเปอร์โมเดล ชอบตอนที่นางต้องมาทำงานถือป้ายเรียกลูกค้าเข้าร้านอาหาร เจ้าตัวยอมทำงานโลโซทั้งๆ ที่เข้าใจผิดก็เพราะว่าตกลงรับงานมาแล้ว

ตอนจบของเรื่องถ้าถามว่าเราสงสารใคร ขอตอบว่ามะมยะ ... นางเป็นผู้หญิงน่าสงสารอะ นางรักของนางมาเป็นสิบๆ ปีแถมพระเอกก็ไม่ได้มีท่าทีหมางเมินแถมยังใช้นางเป็นไม้กันหมาเรื่อยๆ นัยว่าถ้าครั้งนี้นางเอกไม่ถูกกระทำ พระเอกคงไม่โทสะแตกสะบั้นความสัมพันธ์ตัดรอนมะมยะโต้งๆ นางเป็นนางร้ายที่น่าเห็นใจแต่ก็ไม่สามารถหักลบความจริงที่ว่าการกระทำของนางมันไม่น่ารักออกไปได้ โดยเฉพาะตอนที่ลวงนางเอกไปปล่อยเกาะ

เพิ่มเติมอีกนิด พอดีว่าคิดออกว่ามีฉากที่ไม่ควรเกิดขึ้นด้วย อย่างฉากที่เจอกันของพระนาง ตัวนางเอกไม่ได้ถอดรองเท้าในบริเวณพระธาตุ ซึ่งประเด็นนี้ในชีวิตจริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยเพราะทางการพม่าค่อนข้างเข้มงวดมากๆ แต่ผู้เขียนก็ได้ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นประเด็นที่ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้แต่จำเป็นต้องใส่ กับตอนจบของเรื่องที่เป็นฉากของพระนางกอดกันในบริเวณพระธาตุ อันนี้ค่อนข้างตะหงิดใจมากทว่าตอนจบตัวผู้เขียนก็ดักทางโดยการให้พระเอกก็แก้เกี้ยวออกมาว่าเราไม่ควรกอดกันในวัด เอาน่ะ พยายามไม่คิดมากก็ได้

สรุปแล้วเล่มนี้โอเคนะ พล็อตธรรมดาแต่เด่นในการดึงธรรมชาติของพม่ามาใช้ในการสร้างอารมณ์ของเรื่อง ระดับความหวานน่ารักกำลังดี ให้คะแนน +




Create Date : 24 มีนาคม 2556
Last Update : 2 พฤษภาคม 2557 17:48:44 น.
Counter : 1120 Pageviews.

8 comment
เคนโงะ ทะกะชิโระแห่งแผนกคดีคนหาย ตอน ขัดแย้ง - โดบะ ชุนอิจิ

**SPOILER ALERT



//www.smmonline.net/news/75601-เคนโงะทะกะชิโระแห่งแผนกคดีคนหาย2.html


เล่ม 2 ของซีรี่ย์แผนกคดีคนหาย คราวนี้เป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่จู่ๆ ก็หายตัวไป ที่น่าแปลกคือคนที่เข้ามาแจ้งความกลับไม่ใช่พ่อแม่แต่เป็นเพื่อนร่วมชั้น สืบไปสืบมานอกจากจะพบความผิดปกติแล้ว เรื่องราวอีรุงตุงนังไปเกี่ยวข้องกับบริษัทฟอกเงินของยากุซ่าและเรื่องราวการแตกแยกของพี่น้อง เรียกว่าเรื่องราวค่อนข้างซับซ้อน

ในเล่มนี้สารวัตรทะกะชิโระจับคู่กับนายตำรวจไดโงะ อดีตนักกีฬาที่บาดเจ็บจนเล่นเป็นอาชีพต่อไปอีกไม่ได้เลยเบนหน้ามาทำอาชีพตำรวจ ถึงจะดูพึ่งพาไม่ค่อยได้แต่ที่จริงแล้วไดโงะก็เป็นตำรวจที่มีประสบการณ์พอตัวคนหนึ่ง คดีความในเล่มนี้เกี่ยวข้องกับการแตกแยกของพี่ๆ น้องๆ บังเอิญตัวไดโงะก็มีปูมหลังที่ไม่ดีกับพี่ชายนัก พอเจอคดีนี้เข้าไปเลยสะเทือนซาง ตัวสารวัตรทะกะชิโระเองก็เริ่มเปิดใจกับสมาชิกในแผนกมากขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริงแผนกคนหายอาจจะรวมคนที่มีอะไรดีๆ ในตัวอยู่ก็ได้เพียงแต่ยังไม่ได้ฉายแสงอย่างจริงจัง เริ่มเข้าใจว่าทำไมหัวหน้ามะยุมิถึงมั่นใจว่าสารวัตรทะกะชิโระจะทำให้แผนกคนหายเกิดการเปลี่ยนแปลง




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 2 พฤษภาคม 2557 17:51:07 น.
Counter : 649 Pageviews.

6 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

a murder suicide
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



fat NEET and sometimes Hikki.
living in the small and blind world, kind of closed mind, a light level of bipolar, not much friendly with human.



All Blog