Villa Zolitude Resort & Spa : : Phuket ห่างหายจากการรีวิวไปนานมากๆ ตอนนี้เริ่มมีแรงกลับมารีวิวใหม่อีกครั้ง คราวนี้จะพยายามรีวิวให้ได้ อย่างน้อยๆเดือนละ 1-2 ที่นะคะ เมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา ต้องไปทำธุระที่ภูเก็ตสองวัน เนื่องจากรอบนี้ไปทำงานเลยคิดว่าไม่น่าจะมีเวลาได้เล่นน้ำทะเล เลยมองหาที่พักในเมือง หรือไม่ไกลจากตัวเมือง สุดท้ายก็มาได้ที่นี่ค่ะ "Villa Zolitude" รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่บริเวณอ่าวฉลอง ห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 38 กิโล (ดูจาก gps) ต้องขับรถขึ้นเขา และก็ไม่ติดทะเล โดยรวมก็ถือว่าดี ทำเลไม่แย่นัก ขับรถเข้าเมืองสะดวก แต่รถสาธารณะไม่น่าจะเยอะเท่าที่พักแถวหาดป่าตอง กะตะ กะรน ละแวกนั้น ถ้านับแต่ตัวรีสอร์ทเอง ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ การตกแต่งรีสอร์ท สภาพห้องพัก ข้าวของเครื่องใช้ รายละเอียดต่างๆ หลายๆอย่างผ่านมากๆ แต่มารอบนี้สิ่งที่ผิดหวังที่สุดก็คือพนักงาน รู้สึกได้เลยว่าพนักงานที่นี่ไม่ค่อยมี service mind เท่าไหร่ และอีกอย่างคือระบบการจัดการ check-in / check-out ถือว่ายังจัดการได้ไม่ดีมากๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะที่นี่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานรึเปล่า แต่อย่างน้อยๆ ก็เปิดมาเกินปีแล้วนะ เริ่มจากตอนไปเช็คอิน เราไปถึงที่พักประมาณบ่ายสาม จริงๆตอนแรกรีเควสขอ early check in ไว้ แต่กว่าจะทำงานเสร็จก็เลทมากแล้ว ก็ปรากฎว่าห้องพักยังไม่เรียบร้อย เข้าพักไม่ได้ ระหว่างนั้น สังเกตเห็นได้ว่า มีแขกห้องอื่นก็นั่งรอกันเยอะเหมือนกัน สุดท้ายคนอื่นก็ทยอยกันได้ห้องพักไปหมดละ เหลือเราเป็นห้องสุดท้าย ได้ห้องพักตอนเกือบสี่โมงเย็น ตอนนั่งรอก็พูดกับพนักงานไปเล่นๆว่า late check in เนี่ย late check out ด้วยนะคะ พนักงานเค้าก็ไม่ตอบ ทำสีหน้าไม่ค่อยดีอ่ะ แล้วเดินไปบอกอีกคนว่า "ห้องได้รึยัง แขกเค้าบอกว่า late check in ขอ late check out แล้วนะ" แล้วอีกคนเค้าก็บอกว่า "เนี่ยได้แล้วเนี่ยรอรถมาพาไปห้อง" ระหว่างที่รอ ก็เก็บบรรยากาศบริเวณรอบๆ lobby มาค่ะ บรรยากาศบริเวณสระน้ำของทางรีสอร์ทค่ะ มุมนี้เป็น Library และ Office ด้านนี้เป็นร้านขายของ กับห้องอาหาร ห้องอาหารค่ะ มาทาน Breakfast กันที่นี่ ตกแต่งสวยดี ชอบพวกโคมๆที่เค้าเอามาแต่งมากๆ รถที่จะมาพาขึ้นไปยังห้องพัก มารับแล้วค่ะ (^_______^) ถึงแล้วค่ะ จองห้องพักมาเป็นแบบ Grand Pool Villa ห้องพักที่นี่จะทำเป็นแบบไล่ระดับขึ้นไปเป็นชั้นๆ เนื่องจากอยู่บนเขา โชคดีที่ได้ห้องอยู่ระดับบนสุด เพราะตรงบริเวณสระน้ำของห้องที่อยู่ล่างกว่า จะมองเห็นหมดเลยค่ะ ตรงนี้ไม่ค่อย private เท่าไหร่ เพราะแต่ละห้องไม่มีกำแพงกั้น ทำเป็นเปิดโล่งๆไว้หมด เข้ามาดูในบ้านกันดีกว่า....... เปิดประตูเข้ามา อื้ม..กว้างขวางใช้ได้ ตัวบ้านจะมีสองชั้น ห้องนอนจะอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างจะเป็นสระว่ายน้ำ กับห้องนั่งเล่น ส่วนห้องน้ำมีทั้งสองชั้นเลยค่ะ มาดูในห้องนอนกันมั่ง... ในห้องนอน มี daybed อยู่ตัวนึง เอาไว้นอนดูทีวีมั๊ง แต่มันแข็งมาก ไม่น่านั่งเลย นอนดูบนเตียงดีกว่า เตียงนุ่มสุดๆ กำแพงห้องจะเป็นบานเลื่อนกระจกทั้งสามด้าน มีมูลี่ไม้ไผ่ไว้กันแดด ถ้าช่วงอากาศเย็นๆ เปิดทิ้งไว้ น่าจะสบายสุดๆ แต่เผอิญวันที่ไป อากาศก็ร้อนสุดๆ เปิดไว้ไม่ไหว ร้อน+แสงแยงตามากๆ ถ้าดูจากรูปนี้ จะเห็นว่ามีบานเลื่อนไม้ไว้เลื่อนปิดกระจกได้อีกชั้นค่ะ เพื่อความเป็นส่วนตัว ตรงหัวเตียงอีกด้าน จะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือค่ะ โซนห้องน้ำ จะเห็นว่าตรงบริเวณอ่างล้างมือ ด้านซ้ายด้านขวาจะมีห้องเข้าไปอีกสองห้อง ห้องซ้ายเป็น shower ส่วนห้องขวาเป็น toilet ค่ะ อ่างอาบน้ำ ที่เป็นแค่ bathtub ไม่ใช่ jacuzzi..แต่ไม่กล้าใช้ยังไงก็ไม่รู้ กลัวทำน้ำนองตรงที่นอน ตู้เสื้อผ้า เป็นแบบ walk-in closet toilet.... and shower...ห้องแคบไปนิด แต่ก็โอเค วิวชั้นล่างจากหน้าห้องนอน สระว่ายน้ำเปิดโล่งเลย... ลงไปดูชั้นล่างกันบ้างดีกว่า rain shower ของชั้นล่างค่ะ เป็น outdoor shower ถ้ามองลงมาจากชั้นบน ก็เห็นด้วยอ่ะ (>____<) ห้องชั้นล่างนี้ ไม่มีแอร์ เอาไว้นั่งเล่นรับลมตอนลงมาว่ายน้ำ มีเตียงอาหรับด้วย นุ่มดีเหมือนกัน ยังมีบริเวณส่วนของ spa อีก แต่ว่าไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะว่ามันอยู่ตรงบริเวณที่จอดรถ แล้วก็ต้องเดินลงไปไกล ก่อนจะจบรีวิว ขอติอีกนิดนึง เนื่องจากตอนเช้าตื่นมาแต่เช้าเพราะต้องรีบออกไปทำงานข้างนอก กะว่ากลับมาถึงที่พักก็คงจะเกินเที่ยงแน่ๆ เลยโทรไปขอเลท check out เค้าก็บอกว่า ไม่ได้ค่ะ มีแขกมาพักต่อ เลยบอกเค้าว่า ซักเที่ยงครึ่งได้มั๊ยคะ ไม่ทันจริงๆค่ะ เค้าก็บอกว่างั้นเดี๋ยวขอโทรกลับมาบอกนะคะ ตอนนั้นแอบคิดในใจว่า แล้วทำไมทีเราก็มาพักต่อคนอื่น เรายังได้ห้องตั้งเกือบสี่โมงเย็น ทีงี๊มากลัวคนอื่นไม่ได้เข้าพัก ซักครู่ใหญ่ๆ ก็โทรมาบอกว่า เบื้องต้นได้ถึงเที่ยงครึ่งนะคะ ยังไงรบกวนรีบนิดนึง อ่ะ เราก็อุตส่าห์รีบแทบตาย พอเที่ยงครึ่งก็โทรไปบอกว่าจะเช็คเอ๊าท์ละ ขอรถมารับ นั่งรอเกือบ 20 นาทีได้ กว่ารถจะมารับ พอรถมารับไปถึง lobby ก็ไม่ว่างเช็คให้เราอีก เพราะติดแขกคนอื่นอีก คนรอคิวเยอะอีกแล้ว เบ็ดเสร็จกว่าจะเรียบร้อย ก็เกือบจะบ่ายสองแล้ว อืมม..ไม่รู้จะรีบให้เราออกมาทำไร ให้เราเลทถึงบ่ายสองยังทันเลย แอบขอบ่นหน่อย :P   Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553     Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2553 15:15:59 น. Counter : 4243 Pageviews.   5 comment Share Tweet

Veranda Chiang Mai - the high resort - เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ได้มีโอกาสไปพักที่ Veranda เชียงใหม่มาค่ะ ก็เลยถือโอกาสเก็บรูปมาฝากกันอีก ช่วงที่ไปมีฝนตกพรำๆตลอดค่ะ อยู่ในห้องพักเปิดกระจกทิ้งไว้ได้ทั้งวัน เพราะอากาศดีมากๆๆ นานๆทีหนีความวุ่นวายในเมืองมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ เรียกว่าได้พักผ่อนกันจริงๆเลยทีเดียว เสียดายก็ตรงที่ฟ้าเป็นสีขาวไปหมด ถ่ายรูปออกมาเลยไม่มีสีฟ้าให้เห็นกันเลย ยังไงก็ลองไปชมบรรยากาศในรีสอร์ทกันดีกว่าค่ะ มาถึงแล้วค่ะ ด้านหน้าทางเข้าจะมีป้อมเขียนว่า Veranda ตั้งอยู่ค่ะ สะพานเข้าไปยังรีสอร์ทค่ะ บริเวณทางเข้าไปยัง Lobby เดินผ่านทางเข้าเข้ามาแล้ว จะเห็นบรรยากาศแบบนี้ค่ะ Welcome Drink ^____^ ที่นั่งบริเวณ Lobby ค่ะ ของที่อยู่ในถาดบนโซฟา เห็นแล้วอยากเอากลับไปแต่งบ้านมั่ง อีกมุมนึงของ Lobby กับโคมไฟมากมาย ไปเดินดูบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทกันบ้างดีกว่า ที่นี่มีแมลงปอบินอยู่เยอะมาก เจ้าตัวนี้กำลังกินแมลงวันอยู่ เห็นแล้วอยากได้เลนส์มาโครจัง ห้องอาหารระเบียงชา เป็นห้องอาหารสำหรับทานอาหารเย็นค่ะ ชั้นบนค่ะ เป็นอีกบรรยากาศ มีโซฟานิ่มๆแบบนี้ให้นั่งค่ะ เดินมาต่อกันที่ Library ที่นี่จะมีหนังสือและ DVD ให้ยืม รวมถึงมีพวกเสื้อผ้าและ accessories น่ารักๆไว้จำหน่ายอีกมากมาย ที่นั่งเล่น รอบๆ Library ค่ะ เดินกลับมาที่อาคารที่พัก ตึกนี้จะเป็นส่วน Valley Deluxe ทั้งหมดค่ะ ทางเดินตรงนี้เดินไปยังห้องอาหารระเบียงชาเมื่อตะกี๊ได้ด้วยล่ะ ตึกนี้จะเป็นส่วนของ spa, fitness และห้องอาหาร the higher room บรรยากาศในสปาค่ะ ส่วนของห้องอาหาร the higher room ต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้น 4 ค่ะ ห้องอาหารนี้สำหรับอาหารเช้าและกลางวัน วิวรอบๆรีสอร์ทจากบริเวณห้องอาหารค่ะ สระว่ายน้ำของที่นี่ ก็จะอยู่ตรงบริเวณ the higher room เช่นกันค่ะ เดินกลับไปสำรวจห้องพักกันบ้างดีกว่า ห้องที่มาพักเป็นห้อง Valley Deluxe ในรูปที่เห็น เข้าไปจะแบ่งออกเป็นสองห้องค่ะ ถ้ามาพักห้องเดียวก็เปิดประตูข้างหน้าทิ้งไว้ แต่ถ้ามาพักทั้งสองห้อง ก็ปิดประตูเป็น connect room ได้ค่ะ มาดูบรรยากาศตรงระเบียงก่อนเลย ห้องนี้อยู่ชั้น 1 ค่ะ ก็จะเห็นเป็นวิวนาข้าว มองออกไปลิบๆนั่นเป็นห้องอาหารระเบียงชาค่ะ กลับมาดูในห้องกันบ้าง มีที่เล่น ipod ให้ด้วยค่ะ อ้อ ที่นี่มี ipod และ BB ให้ยืมได้ที่ Library ด้วยนะคะ และมี wi-fi ให้เล่นฟรีทุกห้องค่ะ ห้องน้ำที่นี่ ตรงส่วน shower กับ toilet จะอยู่ติดกัน โดยจะแชร์ประตูกันค่ะ ประตูเป็นแบบ slide เลื่อนไปปิดได้แค่ทีละฝั่ง Amenities ต่างๆครบครัน พวกเครื่องอาบน้ำเป็นของ THANN แต่โดยส่วนตัวคิดว่าคุณภาพไม่ค่อยเหมือนกับที่ขายตามห้าง อันนี้แอบแย่กว่าหน่อย อ่างล้างมือ บริเวณแต่งตัวค่ะ ตู้เย็น ชา กาแฟ บรรยากาศห้องเวลากลางคืนค่ะ ตรงส่วนบริเวณห้องน้ำสามารถเลื่อนประตูมาปิดไว้ได้แบบนี้ค่า ก็มีเท่านี้นะคะ สำหรับรีวิวเล็กๆน้อยๆของรีสอร์ทแห่งนี้ หวังว่าคงชอบกันบ้างนะค๊าาา โอกาสหน้าพบกันใหม่ค่ะ ^____^   Create Date : 15 ตุลาคม 2552     Last Update : 15 ตุลาคม 2552 11:01:01 น. Counter : 1188 Pageviews.   10 comment Share Tweet

Asara Villa & Suite : : Hua Hin วันนี้จะมารีวิวที่ Asara Villa & Suite หัวหินค่ะ เป็นอีกที่นึงที่ไปพักมาแล้วประทับใจมากค่ะ บรรยากาศดี ความ private ก็จัดได้ว่าโอเค ที่สำคัญพนักงานที่นี่มารยาทดีมากๆค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคน เวลาเดินไปไหนมาไหนเจอพนักงาน เค้าจะกล่าวทักทายกันทุกคนเลยค่ะ มีโอกาสได้ไปพักผ่อนกับครอบครัวตั้งแต่ปีใหม่ปีที่แล้วค่ะ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะเป็นช่วงที่ที่นี่เพิ่งเปิดได้ไม่นานด้วยค่ะ ดองไว้ได้ที่เลย ได้ฤกษ์งามยามดีเอามารีวิวกันซะที ไปชมกันดีกว่าค่ะ [ Review ใน BP ค่ะ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8315893/E8315893.html ] ขับรถเลี้ยวเข้ามาจากปากซอย ถึงบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทแล้วค่ะ บริเวณ Lobby ค่ะ อันนี้เป็นที่พักฝั่งโซน Holiday Suite กับ Deluxe Suite ค่ะ แอบเดินไปถ่ายมา ประตูหน้าห้อง Pool Villa ค่ะ บริเวณสระว่ายน้ำของ Pool Villa รูปนี้แอบถ่ายมาจากทางเดินค่ะ รู้สึกว่า Pool Villa ของที่นี่ไม่ค่อย private เท่าไหร่เลยค่ะ คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มองเห็นเข้ามาได้หมดเลย กลับมาฝั่งที่พักของเราดีกว่า ห้องที่ไปพักเป็นแบบ Deluxe Suite ค่ะ เป็นแบบตึกสองชั้น มีห้องล่างกับห้องบน ที่รีสอร์ทนี้ไม่มีห้องแบบ connecting room นะคะ พอดีตอนนั้นไปแล้วจอง 2 ห้อง ก็คือได้แค่ห้องติดกันค่ะ เวลาจะคุยกันต้องออกไปยืนคุยกันที่ระเบียง แต่เดินมาหากันไม่ได้นะคะ ถึงแล้วค่ะ ห้องพักของเรา ห้อง 211 บริเวณนั่งเล่นภายในห้องพักค่ะ ถัดไปเป็นห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำที่นี่จะมีทั้งส่วน indoor และ outdoor rain shower ค่ะ ในส่วน indoor ก็จะมีทั้ง shower และ bathtub ค่ะ ชอบ amenities ของที่นี่มาก มีมากมายครบครันดีค่ะ ส่วน outdoor rain shower ค่ะ ส่วนบริเวณห้องนอน ของเราเป็นเตียง queen-size สองเตียงค่ะ เตียงนุ่มมาก นอนสบายสุดๆ กว้างด้วยค่ะ ตรงนี้เป็นส่วนระเบียงค่ะ ด้านนอกจะมีเตียงสำหรับทำ spa อยู่ด้วยค่ะ โดยเราจะเรียกพนักงานมาทำ spa ให้ที่ห้อง หรือจะไปทำตรงส่วนให้บริการ spa ของโรงแรมก็ได้ค่ะ ออกมาเดินเล่นข้างนอกกันบ้าง ตรงนี้เป็นส่วนสระว่ายน้ำของห้องพักโซน Holiday & Deluxe Suite ค่ะ สระตรงนี้จะไม่ใหญ่เท่ากับสระใหญ่รวมของรีสอร์ท ซึ่งอยู่ติดกับทะเลค่ะ บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทค่ะ บริเวณทางไปห้องสปาและห้องออกกำลังกายค่ะ spa ค่ะ ไม่ได้ถ่ายข้างในมา พอดีมีแขกเลยไม่กล้าเข้าไปรบกวนค่ะ บริเวณที่ทานอาหารค่ะ บรรยากาศระหว่างทางเดินไปทะเลค่ะ ถึงตรงสระน้ำใหญ่แล้วค่ะ โซฟาริมสระ น่านั่งมากค่ะ บริเวณชายทะเลค่ะ Daybed ริมทะเล แกว่งเล่นได้เหมือนชิงช้า นั่งๆนอนๆแถวนี้ก็ chill ดีค่ะ หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ยืมแผ่น DVD ที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้มานอนดูซักเรื่องค่ะ ได้เวลานอนแล้วค่ะ วันนี้ต้องขอจบเพียงเท่านี้ ราตรีสวัสดิ์นะคะ โอกาสหน้าพบกันใหม่ค่ะ ^______^   Create Date : 13 กันยายน 2552     Last Update : 17 กันยายน 2552 0:02:55 น. Counter : 3024 Pageviews.   6 comment Share Tweet

Muthi Maya เขาใหญ่...The Forest Pool Villa ก่อนอื่นเลย ต้องขอสวัสดีเพื่อนๆสมาชิกที่แวะเข้ามาค่ะ วันนี้มีรีวิวจาก Muthi Maya เขาใหญ่มาฝากค่ะ จริงๆก็ไม่ใช่รีวิวใหม่อะไรนัก เพราะขนของย้ายมาจากบ้านเก่าค่ะ ยังไงก็เชิญชมกันตามสบายนะคะ ส่วนรีวิวที่อื่นๆจะทยอยนำมาให้ชมกันเรื่อยๆค่ะ ^__^ ที่นี่เป็นโครงการเดียวกันกับ Kirimaya ค่ะ โดยจะเป็นส่วนที่เปิดขายให้กับคนทั่วไปมาซื้อกันทั้งหลัง เป็นแบบ Leaseback Program ค่ะ สนนราคาอยู่ที่หลังละ 11 ล้านบาท โดยทางรีสอรท์จะจัดการบริหารเวลามีแขกมาพัก และก็มีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับเจ้าของบ้านตามข้อตกลงกันไป เราได้มีโอกาสมาที่นี่ครั้งแรกตอนที่มาพักที่ Kirimaya และทางรีสอร์ทเสนอพาเข้าไปชมค่ะ จริงๆก็ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว ก็ตั้งใจไว้ว่าจะมาพักให้ได้ซักครั้งค่ะ และในที่สุดก็ได้ไปมา ขอบอกได้คำเดียวว่า นอกจากจะไม่ผิดหวังแล้ว ยังเป็นที่ที่ประทับใจมากที่สุดอีกด้วยค่ะ ทางเข้ารีสอร์ทค่ะ โดยตอนแรกจะต้องขับรถผ่าน Kirimaya เข้ามาก่อน และต้องขับต่อเข้าไปอีกไกลพอสมควรเลยล่ะค่ะ มาถึงแล้วค่ะ ตรงนี้เป็นบริเวณ Lobby ของรีสอร์ทค่ะ เดินเลย Lobby เข้ามาอีกนิด จะเจอส่วนสระว่ายน้ำกลางของทางรีสอร์ทค่ะ มองไปฝั่งโน้น จะเห็นวิลล่าอยู่เป็นทิวค่ะ ที่นี่ มีห้อง type เดียวค่ะ เป็น Forest Pool Villa ทั้งหมด 67 หลัง โดยแต่ละหลังจะกว้าง 200 ตรม.ค่ะ ที่นั่งเล่นริมสระค่ะ.. ถึงที่พักแล้วค่ะ รูปนี้เป็นประตูทางเข้าของแต่ละวิลล่าค่ะ ถ่ายประตูจากด้านในค่ะ เข้ามาแล้ว ก็ยังมาเจอประตูเข้าห้องอีกชั้นนึงค่ะ เปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอแบบนี้ (ด้านขวาเป็นประตูห้องน้ำเล็กค่ะ) ห้องน้ำเล็กที่ว่าเมื่อกี๊ ห้องทั้งหมดแบ่งเป็น 4 ส่วนค่ะ มีห้องทานข้าว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำและห้องนอน โดยแต่ละส่วนมีประตูปิดนะคะ แต่ในรูปนี้เปิดประตูเก็บซ่อนไว้หมดค่ะ ยกเว้นตรงบริเวณส่วนห้องกินข้าวกับห้องนั่งเล่นจะไม่มีประตูปิดกันค่ะ บริเวณโต๊ะกินข้าวค่ะ ที่นี่มีกาแฟให้ทานฟรีค่ะ แต่ไม่มีชา..แปลกดีค่ะ มาที่บริเวณห้องนั่งเล่นกันบ้างค่ะ ห้องน้ำค่ะ..มีอ่างจากุ๊ซซี่อยู่กลางห้องเลย เสียดายคราวนี้ไม่ได้ใช้ เลยไม่รู้ว่าอ่างดีแค่ไหน :D ในห้องน้ำ มีพวก amenities ต่างๆวางกระจายอยู่เยอะมากค่ะ ข้ามมาที่ห้องนอนกันต่อเลยค่ะ เตียงนอนนุ่มสบายมากค่ะ นอนสบายจนเกือบตื่นเลยเวลาอาหารเช้าแน่ะ :P เดินออกจากห้องนอน ก็เป็นส่วนของพูลเลยค่ะ ตอนระหว่างวัน เปิดประตูห้องนอนทิ้งไว้ให้ลมพัดเข้ามา relax มากๆค่ะ สระน้ำที่นี่กว้าง 8M x 4M ค่ะ บริเวณที่นั่งเล่นริมสระน้ำค่ะ Pool Villa ยามค่ำคืนค่ะ จบแล้วค่ะสำหรับรีวิวครั้งนี้ หวังว่าเพื่อนๆคงชอบนะคะ มีอะไรก็แนะนำติชมกันได้ตามสบายค่ะ   Create Date : 04 กันยายน 2552     Last Update : 4 กันยายน 2552 15:53:13 น. Counter : 2516 Pageviews.   9 comment Share Tweet

• Travel

• ชานไม้ชายเขา
• มาเรีย ณ ไกลบ้าน
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com