เที่ยวหน้าฝน EP.2 บ้านปายนาปายตา
หวังว่าฤดูฝนปีนี้จะนำพาความชุ่มฉ่ำที่มาพร้อมกับสายฝนทำให้ใครหลายๆคนคลายร้อน ได้บ้างนะคะ ^^ เมื่อเข้าหน้าสู่หน้าฝนแล้วถ้าให้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวแล้วละก็...'ปาย' น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วละค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วเค้าน่าจะไปช่วงหน้าหนาวกันเนอะ


...ถ้าอยากรู้ว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ลองตามไปดูกันดีกว่านะคะ...



ระหว่างที่ขับรถมาจากเชียงใหม่ฝนก็ตกตลอดทางเลยค่ะทุลักทุเลพอสมควร เราก็มาถึงที่พัก 'บ้านปายนาปายตา' ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก พี่กบ ด้วยชาข้าวหอมกรุ่นช่วยให้หายมึน ได้อย่างดีแล้วก็รู้สึกอุ่นขึ้นด้วย


ไม่รอช้าพาไปชมบรรยากาศกันดีกว่าค่ะ...และนี่ก็เป็นที่สำหรับพักผ่อน ทานอาหาร นั่งเล่น นอนเปล อ่านหนังสือ ของที่นี่ค่ะ และที่สำคัญสามารถมองเห็นวิวทุ่งนาเขียวๆอันกว้างใหญ่ได้อย่างไม่มีเบื่อเลย ทีเดียวคะ สำหรับคนรักน้องแมวต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอนเพราะมีอยู่หลายตัวและน่ารัก มากๆ พวกเค้าจะคอยเป็นยามรักษาความปลอดภัย คอยตระเวนตรวจเชคความเรียบร้อยไปทั่วบริเวณเลยละคะ



ที่นี่ยังมีครัวเล็กๆเอาไว้เป็นที่ปรุงอาหารสูตรเด็ดของ พี่กบ อาหารแต่ละเมนูของที่นี่แต่ละวันจะมีให้เลือกจากกระดานดำ ขอบอกว่ารสชาดดีมากๆ จนตลอดที่พักอยู่ที่นี่ไม่ออกไปกินร้านอาหารในตัวเมืองปายกันเลยทีเดียว ผักสดๆที่เพิ่งเด็ดมาจากแปรงผักสวนครัวที่ปลูกไว้ แล้วก็กรรมวิธีการปรุงที่ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ รวมถึงบรรยากาศที่เรานั่งทานกันที่นี่จึงทำให้ทุกครั้งที่ทานมีความสุขและ อิ่มเอมใจไปพร้อมๆกัน ถึงแม้ว่าการเดินทางมาที่นี่จะไกลพอสมควรแต่ถ้าลองได้มานี้แล้วละก็ถือว่าคุ้มจริงๆ




ณ บ้านปายนาปายตา แห่งนี้จะมีบ้านพักทั้งหมด 5 หลังด้วยกัน ความพิเศษของที่นี่ก็คือเป็น 'บ้านดิน' ที่ออกแบบโดย พี่ปัน แล้วก็ลงมือปั้นเองกับมือ บ่งบอกถึงตั้งใจแล้วกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ แต่ละหลังก็คนละสไตล์แล้วก็ถูกตั้งชื่อได้เข้ากับธรรมชาติสุดๆ ครั้งนี้พักที่บ้านข้าวตู ตรงหน้าบ้านมีชิงช้าส่วนตัวน่ารักมากๆ พี่กบบอกเราว่าครั้งนี้เรามาเจอการตกแต่งแบบนี้แต่ครั้งหน้าเราอาจจะเห็น อะไรแปลกใหม่ก็ได้นะ เพราะที่นี่มักเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือความสงบ เรียบง่าย และธรรมชาตินั่นเอง



พอฝนซาเราก็ออกไปชื่นชมธรรมชาติเมืองปายกันดีกว่า let's go!!


ใครหลายคนอาจจะคิดว่าปายหน้าฝนคงไม่มีอะไร แต่ที่นี่สำหรับเรามันช่างมีเสน่ห์มากๆ ต้นไม้ใบไม้เขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย อยู่นิ่งๆ นั่งมองสายฝน แค่นี้ก็มีความสุขเพียงพอแล้ว

...บางครั้งการมาเมืองปายครั้งหน้าคงจะไม่ต้องรอให้ถึงฤดูหนาวอีกต่อไป...


SmileyHappy Rainy Day !!!


Song:: Patty Ascher - Rains Drop Keep Falling On My Head





Create Date : 08 กรกฎาคม 2556
Last Update : 8 กรกฎาคม 2556 18:02:00 น.
Counter : 510 Pageviews.

2 comment
เที่ยวหน้าฝน EP.1 บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านในฝันของคนรักธรรมชาติ
จากการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตจนบังเอิญได้มาเจอ บ้านแม่กำปอง (Ban Maekampong) แห่งนี้ ซึ่งคิดในใจว่า ณ ตอนนี้ที่นี่ยังคงความสงบ เรียบง่าย และธรรมชาติยังคงมีเหมือนอย่างข้อมูลที่ถูกโพสต์ไว้เมื่อหลายปีก่อนหรือไม่ จึงทำให้เกิดการเดินทางครั้งนี้ขึ้นค่ะ


"หมู่บ้านแม่กำปอง" ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 3 ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เริ่มต้นจากตัวเมืองเชียงใหม่เดินทางมาตามเส้นทางไปน้ำพุร้อนสันกำแพง ขับตรงไปเรื่อยเข้าสู่เขตอำเภอแม่ออน ก็จะเริ่มเห็นถึงทัศนียภาพระหว่างทางที่เปลี่ยนไปจากถนนกว้างและรถเยอะ กลายเป็นถนนแคบลงและต้นไม้เยอะขึ้นค่ะ  พอมาถึงจะมีป้ายตรงทางเข้าสู่หมู่บ้าน เราก็จะเห็นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่เบื้องหน้าของเราท่ามกลางป่าเขาแบบนี้ละคะ



" ธรรมชาติมากล้น  ผู้คนน้ำใจดี
 มากมีดอกเอื้องดิน  สู่ถิ่นเมี่ยงชาและกาแฟ
มียาแท้สมุนไพร  ชื่นฉ่ำใจน้ำตกเย็น
เห็นวิวทิวเขาสวย  ร่มรื่นด้วยสวนสนบนม่อนล้าน "

- คำขวัญของที่นี่ค่ะ -



หมู่บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ค่ะ สามารถเดินเล่นได้ทุกซอกทุกมุมแบบไม่มีเบื่อ บ้านเรือนส่วนใหญ่ก็หลังเล็กๆส่วนใหญ่ทำจากไม้ ปลูกบนพื้นที่สูงต่ำสลับกันไปตามลักษณะของภูมิประเทศ ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพปลูกชา กาแฟ นอกจากนั้นก็มีร้านค้าเล็กๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวรสชาดแบบที่เคยทานตอนเด็กๆ ก็ยังมี ด้วยความที่อากาศที่นี้เย็นสบายมากๆผักริมรั้วจึงเขียวสดน่าทานโดยเฉพาะ ยอดซาโยเต้  เลยขอเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวทำเมนูยอดซาโยเต้ผัดน้ำมันหอยให้ซะเลย >_< เด็ดมาทำให้ทานกันสดๆแบบนี้ต้องบอกว่าอร่อยสุดๆไปเลย






เหนือขึ้นไปของหมู่บ้านจะมี น้ำตกแม่กำปอง (Maekampong Waterfall) ซึ่งมีทั้งหมดเจ็ดชั้น มีน้ำไหลผ่านไปยังหมู่บ้านตลอดทั้งปีจึงทำให้ชาวบ้านได้ยินเสียงน้ำตกได้ตลอดทั้งวัน แล้วมีส่วนทำให้ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย ตรงท้ายหมู่บ้านถ้าเดินเข้าไปจะเจอเส้นทางเดินป่า มีทางน้ำตกไหลตลอดทาง เราสามารถเดินเล่นไปเรื่อยๆ แล้วไปทะลุตรงถนนทางขึ้นไปสู่น้ำตกแม่กำปองได้เลยค่ะ ระหว่างเดินป่านั้นเราจะได้ยินเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล ไปพร้อมๆกับทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มตลอดการเดินทางนี้ค่ะ ไม่แปลกใจเลยว่าชาวบ้านทำไมดูมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส คงเพราะพวกเค้าได้ใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศและธรรมชาติที่บริสุทธิ์แบบนี้นี่เอง



สำหรับผู้ที่อยากพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ก็มีให้เลือกทั้งแบบบ้านพักโฮมสเตย์ใช้ชีวิตทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านก็ติดต่อไปได้ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน คุณพรหมมินทร์ พวงมาลา หรือถ้าต้องการพักผ่อนแบบส่วนตัวหน่อยก็ติดต่อได้ที่ ร้านกาแฟชมนกชมไม้ ค่ะ


"หมู่บ้านแห่งนี้มีการส่งเสริมให้ชาวบ้านยังคงรักและหวงแหนวิถีชีวิต ความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย และยังรักษาธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ซึ่งน่ายกย่องและควรเอาเป็นแบบอย่างมากๆค่ะ"


SmileyHappy Rainy Day !!!



เว็บไซต์อ้างอิง:
//www.chomnokchommai.com/



Song :: Kelly Sweet - Raincoat



Create Date : 08 กรกฎาคม 2556
Last Update : 8 กรกฎาคม 2556 15:25:27 น.
Counter : 757 Pageviews.

2 comment
ไปเที่ยวปราณบุรีกันเถอะ
ตื่นแต่ไก่โห่ขับรถมุ่งหน้าไปเที่ยวที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอำเภอหัวหินมากนักค่ะ ระหว่างทางก็จะมองเห็นภูเขาชัดเจนมาก และมีสวนมะพร้าวเยอะมากๆเลยค่ะ การเดินทางครั้งนี้เราไม่มีแพลนว่าอยากไปที่ไหนแค่ขับรถเล่นไปเรื่อยๆ เวลาเจอป้ายสถานที่ท่องเที่ยวตามข้างทางก็ลองแวะเข้าไปดูค่ะ  ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องเวลาการเที่ยวแบบนี้ก็เพลินดีนะคะ ^^

ที่แรกที่ลองแวะดูก็คือ "หาดสามร้อยยอด" เงียบสงบมากๆคะ




หลังจากนั้นก็เดินทางไป "ถ้ำพระยานคร" ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ระหว่างทางก็จะผ่านชุมชนชาวประมงบ้านบางปู มีป่าโกงกางสองข้างทางเขียวชอุ่มแล้วก็มีการทำบ่อเลี้ยงกุ้งของชาวบ้าน และมีร้านอาหารอีกด้วยนะคะ ทางไปถ้ำพระยานครสามารถเข้าไปจอดรถในบริเวณวัดบางปูได้คะซึ่งจะมีลานจอดรถตรงหาดบ้านบางปู







ตอนแรกคิดว่าถ้ำแห่งนี้คงจะอยู่ภายในบริเวณวัดเนี่ยละ แต่ที่ไหนได้จากการสอบถามแม่ค้าร้านอาหารเค้าก็เชียร์ให้เช่าเรือไปกลับคนละ 300 บาทต่อคน ไปลงที่หาดแหลมศาลาแล้วเดินขึ้นเขาลูกที่ 2 ได้เลย หรือถ้าใครร่างกายฟิตหย่อยก็วิธีที่สองคือ...เดินเท้าขึ้นเขาเทียนลูกที่ 1 ระยะทาง 1 km. หลังจากนั้นก็จะเจอหาดแหลมศาลา แล้วเดินขึ้นเขาลูกที่ 2 ระยะทางอีก 430 m. ก็จะถึงถ้ำค่ะ!! สรุปเราเลือกวิธีที่สองค่ะ (ร่างกายไม่ฟิตบวกยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย T-T) แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดมากๆ


ระหว่างเดินข้ามเขาลูกที่ 1 เห็นวิวหาดแหลมศาลาที่กำลังรอเราอยู่เบื้องหน้า ซึ่งใครที่เลือกเดินทางวิธีแรกก็จะมาลงเรือตรงจุดนี้ค่ะ



 ทางเดินบนหาดแหลมศาลาเต็มไปด้วยต้นมะพร้าว ต้นสน และทรายขาว ช่วยทำให้ลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินข้ามเข้าลูกแรกได้เป็นอย่างดี :)





ที่นี่เราจะเจอกับ "ค่างแว่น" ด้วยนะคะ Smiley



ทางเดินขึ้นเขาลูกที่สองค่อนข้างชัน และมีก้อนหินลื่นๆ ต้องคอยระวังเป็นพิเศษ

แแแ

เมื่อเข้ามาถึงตัวถ้ำ แล้วมองขึ้นไปข้างบนก็จะเจอกับปล่องที่เรียกว่า "สะพานมรณะ" ค่ะ



แล้วก็เจออีกจุดที่มีแสงลอดผ่านเข้ามาพอดีสวยงามมากๆ



หลังจากนั้นเราก็มาถึงจุดสำคัญของถ้ำพระยานครนั่นก็คือ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวพระองค์ท่านได้เสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 ค่ะ




การเดินทางครั้งนี้ถือว่าเป็นการเดินทางตามรอยเส้นทางประพาสของรัชกาลที่ 5 ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีโอกาสได้ทำและรู้สึกประทับใจมากจริงๆ ค่ะ

SmileySmiley


** สิ่งที่จำเป็นในการเดินทางไปถ้ำพระยานครค่ะ **
- น้ำดื่ม
- หมวก, แว่นตากันแดด
- เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย
- รองเท้าที่เหมาะกับการเดินขึ้นเขา (เพราะระหว่างทางเห็นพังหลายคู่เลย)
- ฟิตร่างกายให้พร้อมค่ะ
- อย่าลืมเอาบัตรค่าเข้าอุทยานฯ ติดตัวไปด้วยนะคะเพราะทางเจ้าหน้าที่ตรงหาดแหลมศาลาเค้าจะขอตรวจคะ





Create Date : 26 มิถุนายน 2556
Last Update : 27 มิถุนายน 2556 11:07:19 น.
Counter : 1720 Pageviews.

2 comment

Tuchi
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สังคมแห่งการแบ่งปันที่สร้างความสุข รอยยิ้ม ความผูกพัน กำลังใจ แนวคิดจากประสบการณ์ต่างๆ ดีใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสังคมแห่งนี้คะ

ขอให้วันนี้มีความสุขมากๆ นะคะ

H A P P Y S H A R I N G :)
New Comments
  •  Bloggang.com