… GREATEST LOVE OF ALL …

I believe the children are our future. Teach them well and let them lead the way
Show them all the beauty they possess inside. Give them a sense of pride to make it easier
Let the children's laughter remind us how we used to be

Everybody's searching for a hero. People need someone to look up to
I never found anyone who fulfilled my needs. A lonely place to be and so I learned to depend on me

I decided long ago. Never to walk in anyone's shadows. If I fail, If I succeed
At least I lived as I believed. No matter what they take from me. They can't take away my dignity

Because the greatest love of all is happening to me. I've found the greatest love of all inside of me
The greatest love of all is easy to achieve. Learning to love yourself, it is the greatest love of all

And if by chance that special place. That you've been dreaming of
Leads you to a lonely place. Find your strength in love ….

MiniPenzman
Location :
Quebec, Canada

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ไดอารี่ออนไลน์เล่มนี้
แม่ตั้งใจทำเก็บไว้ให้ ลูกน้อยของแม่
ที่กำลังจะเกิดมาเป็นกำลังใจ
ให้แม่ดำเนินชีวิตต่อไป
อย่างมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
และมีความหวังมากยิ่งขึ้น
อย่างที่แม่และพ่อเอง
ก็ไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าชีวิตของเรา
จะมีเป้าหมายชีวิตที่มีความชัดเจน
ได้มากมายถึงเพียงนี้




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add MiniPenzman's blog to your web]
Links
 

 
วันที่หมดหวัง และหดหู่...

23 ธค. 50

วันนี้เป็นวันเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ หลังจากรัฐประหารเมื่อ 19 กย.49 มาประมาณปีเศษๆ
เห็นสรุปผลเลือกตั้งแล้วเซ็งจิตมากๆ เลยลูก อยากจะร้องไห้ให้กับประเทศชาติจริงๆ ทุกครั้งที่แม่ไปเลือกตั้ง แล้วผลเลือกตั้งมันสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าเราพยายามแสดงออกอย่างไร มันก็ไม่มีประโยชน์ ตราบใดที่ คนส่วนใหญ่ของประเทศในบางภาค ยังติดคำว่า อามิต สินจ้าง หรือเงินเล็กๆ น้อย อยู่ร่ำไป...

แม่เห็นภาพพวกนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่แม่มีสิทธิเลือกตั้งเมื่ออายุ 18
ตลอดชีวิตแม่ แม่ไม่เคยพลาดการเลือกตั้ง แล้วก็มีอยู่พรรคเดียวที่แม่เลือก ตั้งแต่อายุ 18 จนทุกวันนี้.. การเมืองไทยไม่เคยเปลี่ยน สังคมไทยก็ไม่เคยเปลี่ยน มีแต่จะยิ่งแย่ลง แม่ได้แต่นั่งคิด แล้วประเทศชาติมันจะเป็นอย่างไรหนอ ตราบใดที่คนกลุ่มใหญ่ของประเทศยังเข้าไม่ถึงข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้อง...

แม่ไม่อยากพูดว่า เป็นเพราะเขาจน เขาไม่มีการศึกษา เขาจึงไม่รู้ ไม่สนใจ ไม่มีเวลามานั่งฟังข่าว หรือไม่มีเงินกระทั่งซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่าน แม่มองๆ ดู แม่ว่า การศึกษาอาจจะมีส่วน แต่แม่ว่า เป็นที่สื่อทีวีมากกว่า.. จริงๆ รัฐบาลไทยน่าจะปรับผังรายการทีวีได้แล้ว ให้มีรายการข่าวเยอะๆ หรือรายการที่นำเสนอเรื่องราวความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม น่าจะออกเป็นกฏหมายไปเลย ให้มีเฉพาะรายการที่มันสร้างสรรค์ มีสาระ ละครน้ำเน่า ให้เลิกทำกันได้แล้ว อาจมีบ้างเพื่อความบรรเทิง แต่ไม่ใช่ให้เยอะกันเกลื่อนกลาดขนาดนี้ ละครไทยมันก็สะท้อนสังคมไทยนั่นแหละ

แม่เคยสงสัยว่า ถ้ารัฐควบคุมหรือปรับผังรายการทีวีกันจริงๆ เพื่อเป็นการบังคับให้คนเสพแต่ข่าวสาร ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมกันมากกว่า การดูละครน้ำเน่า แล้วบ้านเมืองมันจะเป็นอย่างนี้อยู่อีกหรือเปล่า แม่เชื่อว่า มันจะเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในสังคมไทยให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะการเสพข่าวสาร ข้อเท็จจริง ก็เป็นการให้การศึกษาคนในอีกด้านหนึ่งเหมือนกัน ในความคิดของแม่ แม่กลับคิดว่า ทีวีเป็นสื่อที่เข้าถึงทุกคน ทุกบ้าน ทุกเวลาที่เราต้องการ ไม่ต้องมานั่งอ่าน นั่งท่องจำ แม่เชื่อเหลือเกินว่า สังคมไทยจะดีกว่านี้อีกเยอะ และการซื้อเสียงจะน้อยลง ประเทศชาติจะพัฒนามากขึ้น... แต่แม่ก็ได้แต่หวัง ซึ่งคงเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ของแม่อีกนั่นแหละ

แม่ไม่อยากโทษคนอีสานที่เขามักจะเทคะแนนเสียง ให้กับคนที่มาซื้อเสียงเขา เขาทำไปเพราะเขาขาดข้อมูล ข่าวสาร เขาเข้าไม่ถึงข้อเท็จจริง เผลอๆ บางบ้านไม่มีทีวีดูด้วยซ้ำ (แต่อันนี้แม่ไม่ค่อยเชื่อ เพราะสมัยนี้ทีวีเครื่องหนึ่ง ราคาแค่ไม่กี่บาท คนอีสานสมัยนี้ก็ไม่ได้ยากจนเหมือนเมื่อสมัยรุ่นปู่รุ่นย่าเรา)

ไอ้ครั้นจะให้เขาดูข่าว เขาก็ไม่ชอบกัน เพราะมันเครียด มันน่าเบื่อ มันไม่สนุก เขาก็เลยเลือกที่จะดูหนัง ดูละครน้ำเน่า และบรรดาเกมส์โชว์ติงต๊องพวกนั้น แต่...

แต่ถ้ารัฐออกกฏหมายควบคุมผู้ผลิตรายการทีวี ให้ผลิตเฉพาะรายการที่มันมีสาระ และให้ข้อคิดผ่านทางความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม คนดู ก็จะได้ดูแต่รายการที่มีสาระ และเสพแต่ข่าวสารข้อมูล ข้อเท็จจริงมากกว่า ละคร หรือรายการที่ไม่สร้างสรรสังคมพวกนั้น อยากดูช่องไหน ก็เลือกกันเอา แต่ทุกช่องควรจะมีแต่รายการที่ดี ที่สามารถ EDUCTAE คนได้ ไม่ว่าจะในแง่สังคม เศรษฐกิจ การเมือง แล้วดูสิว่า ประเทศชาติมันจะไม่พัฒนาได้อย่างไร...

แม่จำได้สมัยแม่ยังเด็กๆ ตอนยังเรียนประถมอยู่ แม่ได้ยินผู้ใหญ่พูดกันบ่อยๆ ว่า เมืองไทยกำลังจะกลายเป็น เสือตัวที่ 5 ของเอเซีย แต่ดูวันนี้ซิ เมืองไทยมีแต่ถอยหลังเข้าคลอง.... แม่เหลียวมองดูประเทศเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันทุกวันนี้ แล้วแม่หดหู่กับอนาคตบ้านเกิดเมืองนอนของแม่จริงๆ ...

ตราบใดที่ สังคม และวัฒนธรรมในการบริหารราชการบ้านเมืองมันไม่เปลี่ยน..
ประเทศชาติมันจะเดินหน้าไปได้อย่างไร...

DADDY ของหนูคุยกับเพื่อนชาวมาเลยเซียวันนี้ หนูรู้มั้ยเขาบอกว่าอย่างไร

เขาบอกว่า นักการเมืองไทย ไม่อยากพัฒนาประเทศกันจริงๆ จังๆ หรอก โดยเฉพาะเรื่องระบบการศึกษา เพราะเขากลัวว่า คนไทยจะฉลาดขึ้น แล้วทำให้เขาคอรัปชั่นกันลำบาก... นักการเมืองไทยชอบให้คนไทยโง่อยู่อย่างนี้แหละ เพราะ control ได้ง่ายกว่า..
เขาบอก ให้มองดูเพื่อนบ้านรอบๆ เมืองไทยซิ เขากำลังทะยอยพัฒนาล่ำหน้าเมืองไทยกันไปแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เมืองไทยนับเป็นดาวรุ่งในเอเซียเลยนะ เอาง่ายๆ กัมพูชา กับ เวียดนาม ที่ครั้งหนึ่งเราเคยดูถูกเขาด้วยซ้ำ แล้วดูเขาตอนนี้ซิ กำลังจะล่ำหน้าประเทศไทยไปแล้ว

HOPELESS COUNTRY ……

แม่ฟังพ่อหนูเล่าให้ฟังแล้ว แม่อึ้งนะ แม่เสียใจที่คนภายนอกมองเมืองไทยแบบนี้... แต่แม่ว่าที่เขาพูดก็มีส่วนจริงนะลูก

แล้วแม่จะทำอะไรได้ละ…….

สงสัยสิ่งเดียวที่แม่ทำได้ก็คือ เดินออกจากสิ่งแวดล้อมพวกนี้ไปซะ ไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหนสักแห่งหนึ่งกับหนู และ daddy..

จาก...แม่ของหนู



Create Date : 25 ธันวาคม 2550
Last Update : 25 ธันวาคม 2550 2:02:31 น. 5 comments
Counter : 340 Pageviews.

 
ผมเองก็หมดหวังเหมือนกัน


โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:3:35:07 น.  

 
เจ็บจังค่ะ
ได้ฟังที่พูดน่ะ....แต่จะปฏิเสธว่าไม่จริงก็ไม่ใช่

ทำยังไงได้ละคะ ประชาธิปไตยพัฒนาไปทั้ง ๆ ที่คนในประเทศชาติไม่ได้พัฒนาตาม
สิ่งที่หลงเหลือให้เห็น ก็คือ เศษผุพังของความฉลาดและเหลี่ยมจัดของผู้มีอำนาจ
แล้วจะร่ำร้อง คร่ำครวญ โวยวายไป ก็มีแต่เสียใจอยู่คนเดียว

ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ เลยใช่มั้ยคะนี่...

สงสัย...คงต้องเดินออกจาสิ่งแวดล้อมพวกนี้ไปด้วยคน...แม้รู้ว่ามันแค่หนีปัญหาก็ตาม


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:4:57:43 น.  

 
ถ้าแม่เอาแต่คิดจะจากไปอย่างหมดหวัง แล้วจะมีอะไรดีขึ้นรึเปล่าคะ
ถ้า1 แรงมาพร้อมกับความตั้งใจรวมกันเป็นหลายแรง หลายแรงรวมกันเป็นหลายล้านแรง มันน่าจะมีอะไรดีขึ้นไม่มากก็น้อยนะคะ

เอ..หรือเราจะฝันเฟื่อง


โดย: the Vicky วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:6:56:17 น.  

 
สงสัยเราจะใจเดียวกันค่ะ ผลเลือกตั้งออกปุ๊บ เซ็งจิตเลย....เอาอีกละ เด๋วก้กลายเป็นเรื่องพายเรือวนอยู่ในอ่างนี่แหละ ถึงมันจะยังจมอยู่ในปลัก ก็อย่าเพิ่งถอดใจเลยค่ะ อยู่เป็นพลังเงียบด้วยกันก่อนดีก่า วันพระไม่ได้มีแค่หนเดียว


โดย: สวยทรหด วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:22:20:36 น.  

 
จะไม่ให้หดหู่ และเศร้าใจกับประเทศชาติได้ไงค่ะเพื่อนๆ

เราสองคนกับแฟนซึ่งเป็นฝรั่งแท้ๆ อุตส่าห์ไปนอนกลางดิน กินกลางทรายที่สะพานมัฆวานกันมา ขับรถจากเมืองชลไป คิดแต่ว่า ไปช่วยกันคนละไม้คนละมือ เผื่อประเทศชาติอันเป็นที่รัก จะได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ีที่ถูกต้องเสียที

จริงๆ มันก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หรอก แต่เรารู้สึกว่า มัน fake และสูญเปล่า หากผลเลือกตั้งเป็นแบบนี้ เป็นห่วงรุ่นลูก รุ่นหลานของเรา เขาจะอยู่กันอย่างไร
ขณะที่เราพยายามทำสิ่งที่คิดว่าควรทำตามสิทธิ และหน้าที่ของเราแล้ว มันกลับไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ก็คงต้องยอมรับว่า ทุกอย่างมันยากเกินจะเยียวยา ตราบใดที่เงินยังซื้อคนที่เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารได้..

ไปเสียดีกว่า เพื่ออนาคตของลูก...


โดย: เพนนี (MiniPenzman ) วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:2:33:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.