SmileySmiley :: How Do I Enjoy Life while "Living with Cancer" ::
Group Blog
 
All blogs
 

สัมภาษณ์ นิตยสารชีวจิต "บนลู่วิ่งชีวิต"

เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ในกองบรรณาธิการชีวจิต
ได้นัดสัมภาษณ์ เนื่องมาจากหนังสือ "จากวิ่งเร็วเป็นเดินช้า"
การสนทนาดำเนินไปหลายชั่วโมง ถึงสองครา
เพื่อจะนำไปลงในคอลัมน์ "บันทึกหัวใจแกร่ง" ในนิตยสารชีวจิต
ฉบับที่ 258-259-260 เดือนกรกฏาคม-สิงหาคม 2552
ในชื่อเรื่อง "บนลู่วิ่งชีวิต"

ได้รับหนังสือแล้ว จึงเขียนอีเมล์ไปขออนุญาตบรรณาธิการ
เพื่อนำมาลงในบล็อกส่วนตัว ซึ่งก็ได้รับการตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
จึงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ




















 

Create Date : 27 สิงหาคม 2552    
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 20:35:14 น.
Counter : 12951 Pageviews.  

รายการ สยามทูเดย์ สัมภาษณ์มีนา เปรื่องวิริยะ จากวิ่งเร็วเป็นเดินช้า วิถีธรรมชาติบำบัดมะเร็ง

ได้รับเชิญเป็นแขกสัมภาษณ์ในรายการ
สยามทูเดย์ ประเด็น จากวิ่งเร็วเป็นเดินช้า วิถีธรรมชาติบำบัดมะเร็ง

ดูย้อนหลังก็ไปที่ คลิ๊กไปเวปนี้

แล้วเลือกดู
ช่อง 5
วันที่ 4 มิถุนายน 2552
เวลา 17.00 น.



เพื่อนที่ได้ชมรายการถ่ายรูปมาจากหน้าจอทีวี
ขอบคุณ เด้ง เพื่อนนักเรียนมัธยมสามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย


ที่สตูดิโอ ช่อง ๕ ช่วงรอคิวสัมภาษณ์สด


ถ่ายรูปกับพิธีกร รายการสยามทูเดย์


คุณวาทิศ ไปเป็นกำลังใจตอนสัมภาษณ์ด้วย






 

Create Date : 05 มิถุนายน 2552    
Last Update : 7 มิถุนายน 2552 15:00:11 น.
Counter : 3024 Pageviews.  

ไข้น้ำเหลือง 5 วันติด โหดจริงๆ

ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันมีอาการขาบวมอักเสบ
เป็นไข้สูงคล้ายที่เคยเป็น แต่คราวนี้ ไข้สูงถึง 5 วัน
ปวดน่องกับตาตุ่มแทบเดินไม่ได้


รักษาตัวเอง ใช้วิธีธรรมชาติบำบัด เพื่อดูแลอาการไข้
โดยมีแม่กับน้องเป็นหมอธรรมชาติบำบัดประจำบ้านดูแลใกล้ชิด

โหดมาก ไข้หนาวสั่น ปวดกระดูกสันหลัง โอดโอย ครวญคราง
วัดไข้เป็นช่วงๆ ระหว่าง 5 วัน ไข้สูง 38.5 - 40.3 องศา
ตอนไข้สูงมากๆ ที่วัดได้ 39, 40.3 นั่น มีอาการปวดหัวหรือมึนๆ หัว
ก็เอาน้ำราดหัวครึ่งชั่วโมง อาการดีขึ้น ไข้ลดลง
ช่วงมีไข้ ขาก็บวมอักเสบ ที่ผ่านมาหลายครั้ง อักเสบต้นขาข้างซ้าย
แต่คราวนี้ อักเสบต้นขาข้างขวาช่วงสองวันแรก
แล้วก็ลุกลามลงไปที่น่อง ถึงตาตุ่ม บวมแดงร้อน ปวดจนเดินไม่ได้

ระหว่างเป็นไข้สูงมากๆ ทรมาน อารมณ์ผสมผสาน
เดี๋ยวๆ รู้สึกว่าต้องลุยกับไข้ เดี๋ยวก็รู้สึกต้องพักก่อน
พักด้วยการมรณานุสติ ปล่อยไป ปล่อยวาง
ให้มันเป็นตามที่มันจะเป็น เราก็ได้แต่ดูอาการ บำบัดอะไรได้ก็ทำไป
แต่ถ้ามันจะกัดกินร่างกายของเราจนถึงที่สุดก็คอยดูมันไป
นอนดูลมหายใจไป เห็นอาการที่เกิดกับร่างกายไปพร้อมกัน

5 วันผ่านไป ไข้ลด แต่ขายังบวม ปวด โดยเฉพาะที่น่องกับตาตุ่ม
ส่วนต้นขาค่อยๆ เปลี่ยนสีเป็นม่วงคล้ำ แล้วค่อยๆ เป็นสีน้ำตาลจางลง

8 วันนับแต่เริ่มเป็นไข้ อาการดีขึ้น
แล้วจู่ๆ ขาซ้ายก็เกิดจุดแดงๆ แล้วก็บวมเป็นปื้น ไม่มีไข้
ตอนนั้น เริ่มลุกขึ้นมาใช้อินเตอร์เน็ทบนเตียงนอนได้
แต่เดินลงบันไดไปทำอาหาร ไปกินข้าวข้างล่างเองไม่ได้
ต้องคอยให้แม่บริการ
รู้สึกแย่มาก เบื่อหน่าย และบางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองไร้ค่า
นี่ล่ะ จิตตก...
เห็นชัดเลยว่า จิตตก
วันวันอยู่แต่บนเตียง นอนตื่นสาย ยกขาสูงให้อาการบวมลดลง
ไม่อยากกินอะไร เพราะไม่อยากเป็นภาระให้แม่ต้องคอยบริการ
เริ่มอาการซึมเศร้า แล้วมั๊ง...ตอนนั้นน่ะ

พอเริ่มเดินได้บ้าง ก็อยากดูแลตัวเอง
ลงไปกินข้าวที่ห้องครัว แต่ก็ยังกลับมาจับเจ่าอยู่บนเตียง
อ่านหนังสือบ้าง นอนขี้เกียจบ้าง
ชักรู้สึกว่า พอปล่อยวางแล้ว กลายเป็นเนือยๆ เบื่อๆ
หมดพลัง...ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไร้ชีวิตเป็นแน่
หาวิธีทำอย่างไรหนอ ต้องหาทางเพิ่มพลังใจให้ตัวเอง
คำตอบที่ได้ คือ ตัวเองต้องตื่น...ตื่นตัว...
ที่ระดับร่างกายก่อน แล้วพลังใจจะตามมาเอง

เช้าวันต่อมา ยืดเส้นยืดสายบนเตียง แต่เช้า
แล้วลงไปสนามหญ้าหน้าบ้าน ตากแดดเช้า
ขยับแข้งขา มือ แขน เอาเท่าที่พอทำได้ ขาขวามันยังปวดอยู่
อากาศตอนเช้าแจ่มใสเหมือนเคย
นกร้อง ดอกไม้เริ่มบาน แดดอ่อนๆ สาดส่อง
เช้าวันใหม่ เหมือนการเกิดใหม่ของสรรพสิ่ง
บางทีพลังที่หมดไป ก็เริ่มฟื้นคืนมาได้ในรุ่งอรุณของวันใหม่

เมื่อสองวันก่อน ไปตามหาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านภาวะน้ำเหลืองบวม
ดีใจได้เจอตัวแล้ว เลยต้องควักงบประมาณก้อนใหญ่
เพื่อทำ MRI ตรวจดูระบบน้ำเหลืองที่ผิดปกติ
และเตรียมเข้ารับการบำบัดแบบเชิงรุก ป้องกันไม่ให้เกิดอาการซ้ำอีก
นี่เป็น เพียงหนึ่งในผลข้างเคียงจากการบำบัดมะเร็ง

หมอบอกว่า อาการที่เป็นครั้งล่าสุด ต่างจากที่ผ่านมา
และแม้อาการบวมจะลดลง แต่ทิ้งอาการปวดร้าวตามแนวน้ำเหลือง
เป็นลักษณะ "ภาวะบวมน้ำเหลืองระนาบลึก"
กำลังขอคุณหมอว่า การเป็นคนไข้ก็เรื่องหนึ่ง แต่ว่าขอมาเป็นลูกศิษย์ด้วย
ก็ดี...เดี๋ยวได้เรียนองค์ความรู้ใหม่ มาใช้ดูแลตัวเอง
การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุดจริงๆ...

ฉันตื่น...เซลล์ทุกเซลล์ตื่นขึ้นด้วย
ฉันมีกำลังกายกลับคืนมา
พลังใจนั้นเติมเต็ม
และกำลังเดินหน้าเรียนรู้ เพื่อให้เข้าใจตนเอง และเข้าใจผู้อื่นที่อยู่รอบข้าง
วันนี้ของฉัน เต็มไปด้วยความตื่นตัว เริงร่า และมีชีวิตชีวา

------------------------------------------------
ข้อมูล นพ.ดร.วิชัย เอกทักษิณ
แผนกบำบัดภาวะน้ำเหลืองอักเสบ 02 354 8395
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 4 มีนาคม 2554 11:57:11 น.
Counter : 1612 Pageviews.  

ปรับสูตรการกิน หลังบำบัดมะเร็ง

ระยะหลังมานี่
ประมาณ 2 ปี แล้ว ที่ฉันเริ่มปรับการดูแลตัวเอง
มาเป็น "ธรรมชาติบำบัดพึ่งตนเอง"

เดี๋ยวนี้เลยเป็นการผสมผสาน
++ อาหารต้านมะเร็งแบบบัลวี ชีวจิต ธรรมชาติบำบัดพึ่งตนเองแบบหมอเจคอบ กับหมอเขียว
- คือปกติงดน้ำมัน เค็มน้อย ไม่ใช้ผงชูรส
- ถ้าอยากยืดหยุ่น ซึ่งไม่บ่อยนัก ก็มีน้ำมันมะกอก น้ำมันงา บ้าง กับปลา
- ชนิดอาหาร กินข้าวกล้อง ผักสด ผักลวกหรือแกง บางมื้อเป็นผลไม้สดทั้งหมดเลย (ไม่กินข้าว) ทั้งนี้ กับข้าวต่างๆ พยายามลดอาหารแห้ง ที่เอามาปรุงอาหาร และทำกับข้าวให้พอดีกับที่จะกินในมื้อนั้นๆ พยายามกินที่เหลือค้างให้น้อยๆ หน่อย จะมีก็เช่น น้ำพริก น้ำซุปผัก
- เน้นวัตถุดิบที่สด มาทำอาหาร เพราะงั้น วัตถุดิบอะไรที่ผ่านการถนอมอาหาร ไม่มีพลังชีวิตแล้ว ก็มันเอาใส่ตัว
- พวกถั่ว และเห็ดต่างๆ ที่อาหารต้านมะเร็งบอกว่าไม่ให้กิน ก็กินบ้างนิดๆ หน่อย พอขำๆ
- กินอาหารหลากหลายเข้าไว้
- เริ่มกินน้ำผักคั้นให้บ่อยกว่าเดิม เอาผักฤทธิ์เย็น ได้แก่ ย่านาง อ่อมแซ่บ ใบบัวบก ใบเตย มาผสมน้ำดื่มคั้น หรือปั่น กินสด วันไหนกินเข้มข้นไม่ไหว ก็ผสมให้เจือจาง บางทีก็ผสมกับน้ำมะพร้าวอ่อน
- น้ำมะพร้าวอ่อน มีฮอร์โมน Phyto Estogen กินได้ แต่ไม่มาก เพราะส่วนที่เราขาดฮอร์โมน เวลาเราเติมเข้าไป อาจจะทำให้วูบวาบ คือฮอร์โมนแกว่ง สูงบ้าง ต่ำบ้าง
แต่ที่ทดลองด้วยตัวเอง ก็ไม่เดือดร้อนอะไรนัก และรู้สึกว่า น่าจะดีกว่าการใช้ฮอร์โมนทดแทน หรือที่เป็นวิตามินสกัดมา เพราะมันไม่ธรรมชาติแล้ว
- วิตามินต่างๆ ลดเหลือน้อยลง เพียงแค่ แคลเซียม วิตามินซี ขมิ้นชัน และฟ้าทะลายโจรในวันที่เจ็บคอ

ส่วนการปฏิบัติตัว
- ฝึกปราณ ด้วยชี่กง ผ่อนคลายอย่างลึก
- ฝึกโยคะ สังเกตร่างกาย และใจ
- ฝึกเรกิ โดยเฉพาะการทบทวนหลัก 5 ข้อของเรกิ และไหว้พระอาทิตย์
- ลดภาระการงาน
- ดูลมหายใจ บ่อยๆ เท่าที่นึกได้
- อาบน้ำสลับร้อน-เย็น
- ราดน้ำที่หัว แช่สะโพก ในบางครั้ง โดยเฉพาะตอนรู้สึกร้อนจัด
- กินผลไม้เพื่อล้างพิษ 1-2 วัน เวลารู้สึกว่า กินผลไม้สดชื่นกว่าอาหารอื่น
- สวนล้างลำไส้ด้วยกาแฟ บางทีถ้ารู้สึกว่า ทำบ่อย ก็สวนล้างด้วยน้ำเปล่า
- เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ ตามใจอยาก
- อาบแดดตอนเช้า กับตอนเย็น ถ้าไม่นั่งเฉยๆ ดูพระอาทิตย์ขึ้น หรือตก ก็ฝึกโยคะ ชี่กง ใต้แดดอุ่น
- ลดการใช้เครื่องสำอางค์ สบู่ แชมพูต่างๆ

เล่าสู่กันฟังค่ะ
เพราะว่า Clear Cell Adenocacinoma มีโอกาสกลับมาภายใน 2 ปี เมื่อผ่าน 2 ปีไปแล้ว หมอบอกว่า ไม่ค่อยน่าห่วง แต่อย่างไรก็ดี ดูแลร่างกาย และใจ ไว้ให้ดีๆ จะดีกว่า
ถ้าปล่อยตัวปล่อยใจ เดี๋ยวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย...




 

Create Date : 25 เมษายน 2552    
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 10:00:45 น.
Counter : 2135 Pageviews.  

4 ปีครึ่งแล้วหนอ ที่มะเร็งแวะมาหา


4 ปีครึ่งแล้ว ที่ตรวจพบมะเร็ง และทำการบำบัดไป
ช่วง 2 ปีแรกเป็นช่วงแห่งการลุ้นๆๆ เพราะหมอบอกว่า
มะเร็งชนิดที่ตรวจพบในรังไข่ของฉัน มักจะกลับมาในช่วง 2 ปีแรก

การใช้ธรรมชาติบำบัดในมือแพทย์ จึงเป็นการเรียนรู้ และนำมาใช้กับชีวิต
ในช่วง 2 ปีนั้น ร่วมกันกับการแพทย์แบบแผน

พอพ้น 2 ปีไป ฉันก็เริ่มเรียนรู้ ศึกษา ปฏิบัติตัวตามแนวผสมผสาน
โดยเอาพื้นฐานธรรมชาติบำบัดในมือแพทย์เป็นตัวยืน แล้วเสริมด้วย
ธรรมชาติบำบัดพึ่งตนเอง เพื่อปฏิบัติเป็นการต่อยอดขึ้นไปจากฐานที่มีอยู่

โดยเน้นการกินผลไม้เป็นอาหารหลัก โดยมีเครื่องดื่มเป็นน้ำมะพร้าวอ่อน 2 เวลา
ทดลองกินผลไม้เป็นอาหารเลยทั้ง 3 มื้อ เป็นเวลา 30 วัน
ผลที่ได้ คือร่างกายสดชื่น ตัวผอมลง ไขมันส่วนเกินหายเกลี้ยง น้ำหนัก 51 ลดลงเหลือ 45 กิโลกรัม เท่ากันกับตอนอายุ 17 ปี ฮิฮิ
แต่รู้สึกจะผอมไปสักหน่อย จากมาตรฐานคนอายุเข้า 40 ปี
รวมทั้ง แม่ก็บอกว่า ทำน้ำหนักสักหน่อยเถอะจะได้ไม่ดูน่าเกลียด...อ่านะ
ทั้งๆ ที่ในบ้านเราตั้งชมรม "ผอมแห้ง แรงมาก" กันแล้วก็ตาม

ปรับสูตรการกินอีกทีหนึ่ง
ลดการดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนสดจากลูก ให้น้อยลงหน่อย
ดื่มน้ำย่านาง+ใบเตย+ใบบัวบก+อ่อมแซ่บ คั้นสด
กินผลไม้ก่อนอาหาร แล้วกินข้าวกล้องโรยจมูกข้าวสาลีกับผักสด ผักลวก แกงผัก
หรือถ้าขี้เกียจทำอาหาร หรือไปนอกบ้านไม่มีอาหารต้านมะเร็ง
ก็กินผลไม้แทนอาหารมื้อนั้นไปเลย
วิตามินที่กินมากตอนเริ่มบำบัดโดยธรรมชาติบำบัดในมือแพทย์ก็ลดลง
เหลือแค่ ขมิ้นชัน วิตามินซีกินบ้างไม่กินบ้าง และแคลเซียมที่รับจากโรงพยาบาล นอกนั้นงดไปแล้ว
โยคะ ชี่กง อาบน้ำสลับร้อนเย็น ละวาง พัฒนาศิลปะการใช้ชีวิต

ผลตรวจล่าสุด
เล่าให้ฟังค่ะ

++ คุณหมอตรวจภายใน ไม่พบสิ่งผิดปกติ
++ ตัวเองคลำเจอต่อมน้ำเหลืองก้อนเท่าถั่วเหลืองที่ขาหนีบทั้งสองข้าง ตั้งแต่ 6 เดือนก่อน จนถึงตอนนี้ ขนาดเท่าเดิม
ให้คุณหมอตรวจ คุณหมอบอกว่า ไม่เป็นไร ดูมันไปเรื่อยๆ
++ คุณหมอขอทำ Pap Smear ตัดเนื้อเยื่อไปตรวจมะเร็งปากมดลูก...ยังไม่ทราบผล
++ ผลเลือด ค่อนข้างดีแฮะ ค่าตับ ค่าไต ค่าไขมัน พอใจมากๆ

อนุโมทนา สาธุ กันหน่อยค่ะ :)




 

Create Date : 24 เมษายน 2552    
Last Update : 24 เมษายน 2552 11:41:13 น.
Counter : 1765 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

Minie'
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]




รู้โลกเรียนธรรม

Friends' blogs
[Add Minie''s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.