SmileySmiley :: How Do I Enjoy Life while "Living with Cancer" ::
Group Blog
 
All blogs
 

ขาใหญ่...ผลพวงการบำบัดมะเร็ง

อาการขาใหญ่ มาอีกแล้วค่ะ
เมื่่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นครั้งที่ 11 จากที่่เคยเป็นครั้งแรกเมื่อเกือบ 6 ปีก่อน
หลังผ่าตัดบำบัดมะเร็ง

แม้ว่าจะเป็นครั้งที่ 11 แล้ว แต่ก็ไม่อยากจะเป็นอีก
ไม่ต้องการทำสถิติให้มากขึ้นแต่อย่างไดเลยค่ะ

อาการที่เริ่ม ขาบวมตึงๆ ที่ขาหนีบมีจุดแข็งทั้งสองข้าง
รู้สึกเจ็บๆ พอเอามือคลำก็ยิ่งเจ็บมาก และร้อนหน่อยๆ

จากนั้น
ไข้ขึ้นสูง 37.5 - 39.5 องศา
หนาวสั่นจากข้างในเลยค่ะ
ปวดกระดูกสันหลังจากข้อบนสุดไปจนถึงล่างสุด แต่ช่วงบนๆ จะปวดหนักหน่อย
ปวดบ่า ไหล่ ปวดหัว ที่ขมับ ส่วนหว่างคิ้วนี่ปวดทรมาน

เหงื่อท่วม ตัวร้อนจี๋
ขาซ้ายอักเสบ เป็นปื้นแดงจัด ร้อนกว่าจุดอื่น

เป็นแต่ละครั้งจะมีวันไม่สบาย 4-5 วันทำการ เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ
ซึ่งจะทิ้งอาการบวมไว้ต่อไป ให้ได้ทำการบำบัดรัดขา
ภาพที่เห็นเป็นภาพของวันที่ 4 หลังเริ่มเป็นไข้สูงน่ะค่ะ



ต้องตั้งหน้าบำบัด เพราะไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วค่ะ
พันขา วันละ 4-5 ชั่วโมง (เอาให้ได้ 2 ชั่วโมงก่อนก็เก่งแล้ว)
ต้องหาผู้ช่วยค่ะ ไม่งั้นไม่รอดแน่

หมอบอกว่า เป็นมา 6 ปี ก็คงต้องพันไปเรื่อยๆ 6 ปี จึงจะหายขาด
เพราะต้องรอให้เซลล์ทั้งหมดค่อยๆ กลับใจ...

นี่รู้วิธีบำบัดมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว
แต่ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ไม่สามารถรัดได้ทุกวัน
บางครั้งฮึดสู้ เพราะตระหนักถึงปัญหา และมีคนอยู่ด้วย ก็รัดได้สัก 2 สัปดาห์
ต่อมา ก็ห่างๆ ขึ้น ได้แต่ใส่ถุงน่องรัด
แต่ถ้าช่วงอยู่คนเดียว แทบจะไม่ได้รัดเลยค่ะ เพราะตอนรัดปวดหัวมาก

อ่านวิธีบำบัด และสาเหตุการเกิดโรคได้ที่ ไข้น้ำเหลือง...ภาวะบวมอักเสบของระบบน้ำเหลือง จนถึงโรคเท้าช้าง...องค์ความรู้เกี่ยวกับอาการบวม

ตั้งหน้า ตั้งตา ตั้งใจ...ทำต่อไปค่ะ

-----------------------------------------------
ข้อมูล นพ.ดร.วิชัย เอกทักษิณ
แผนกบำบัดภาวะน้ำเหลืองอักเสบ 02 354 8395
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 4 มีนาคม 2554 11:56:41 น.
Counter : 4315 Pageviews.  

จากวิ่งเร็ว เป็นเดินช้า...ถ้าเดินเล่นอย่าให้นานนัก

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ บล็อก,

จากที่เขียนหนังสือ "จากวิ่งเร็ว เป็นเดินช้า"
การใช้ชีวิตที่ปรับเปลี่ยน เรียนรู้ อย่างเป็นองค์รวม

ทิ้งท้ายไว้ในเล่มว่า ....เพราะความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน

เมื่อวันเวลา ผ่านไปๆ นานเนิ่นออกไป
การจะใช้ชีวิต เรียบง่าย เป็นสิ่งดี
ไม่ซับซ้อน ไม่วุ่นวาย ได้พบความสงบบ้างบ่อยๆ ขึ้น

แต่พบว่า เราจำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
สิ่งใดที่เรารู้สึกว่า ไม่ใช่ ก็ต้องใช้ความเพียร
ตื่นขึ้น จากสิ่งที่จมจ่อมอยู่

ชีวิตไม่ใช่เพียงแค่ สุขภาพแบบองค์รวม
ชีวิตเป็นองค์รวม ในทุกด้าน
ชีวิตต้องมีการต่อสู้ ก้าวเดินไป อย่างอาจหาญ

เราปรับเปลี่ยนได้ เพื่อเป้าหมายระยะสั้นให้สำเร็จ
ในขณะที่เราต้องมีเป้าหมายอันเล็กๆ อีกเรื่อยๆ
เพื่อก้าวต่อไป

เดินช้า...เป็นเรื่องดี
แต่อย่า "เดินเล่น" ให้นานนัก

ก็มันเฉยๆ
เฉยบนความรู้สึกที่ไม่เป็นจริง
มามองดู ว่าสบายเกินไป และชักเริ่มรู้สึก ไม่ค่อยสบาย
ถ้าตัวเองไม่ยอมลุกขึ้นมาทำอะไร

การงานชอบ...
หน้าที่...
ความรัก...
สุขภาพ...
คนรอบข้าง...
สังคม...

เดินเล่นได้...แต่อย่าให้นานนัก :)
คนจะอิจฉา...555

แล้วพบกันค่ะ




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2553 21:57:27 น.
Counter : 1597 Pageviews.  

ไข้น้ำเหลือง...ภาวะบวมอักเสบของระบบน้ำเหลือง จนถึงโรคเท้าช้าง

เมื่อมีอาการบวม อักเสบ เป็นไข้
อย่างที่เคยเล่าไว้ พอเป็นไข้ ขาบวมต่อกันถึง 5 วัน

แ่ม่เปรยขึ้นว่า..."กวาง แม่เคยเห็นในทีวี มีหมอใช้การขันชะเนาะ รักษาขาบวม"
กวางฟังก็หงุดหงิด เพราะแค่ที่ดูแลตัวเองอยู่นี่ก็ยุ่งยากใจมากพอแล้ว...

แต่...2 ชั่วโมงให้หลัง
ไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตด้วยคำว่า "ขันชะเนาะ"
จากนั้น พบเวปนี้ เวปเกี่ยวกับขันชะเนาะรักษาโรคเท้าช้าง

โทรหาืที่คลีนิค เพื่อนัดหมาย
วันต่อมา พาแม่ไปที่เวชศาตร์เขตร้อน เช็คอาการคัน
พอบ่าย 2 ก็ไปนั่งคอยหมอที่คลีนิคไข้น้ำเหลือง
นักบำบัด วัดขนาดขา ตามตำแหน่งต่างๆ

แล้วคอยๆๆๆๆ เพราะเหมาะจะมีคนไข้ที่อยู่ในคลีนิค
ขอคำปรึกษาตลอดวัน
ซึ่งคลีินิกนี้ หมอตั้งชื่อไว้ว่า อาศรมบำบัดภาวะน้ำเหลืองอักเสบ

จน 5 โมงเย็น ได้คุยกับหมอ
คุณหมอชื่อ นายแพทย์วิชัย เอกทักษิณ
หมอถามว่า มากันกี่คน ให้เชิญเข้ามาฟังด้วยกันหมด
ก็มีกวางกับแม่...
หมอวิชัย ให้ดูภาพของคนไข้ บางส่วนจาก 802 รายที่หมอรับเข้ารักษา
- ผู้ใหญ่บวม อักเสบที่ขา จนเป็นเท้าช้าง ผิวแตก น้ำเหลืองไหล
- ผู้ใหญ่บวม ที่อัณฑะ รัดผ้าแล้ว ขนาดใหญ่น่าเห็นใจมาก
- วัยรุ่น บวมแดงที่เท้า
- เด็กอ่อน 1 ขวบ บวมที่หน้าด้านซ้าย แขนและมือขวา ขาซ้าย
- เด็กหญิง 8 ขวบ บวมที่ขา และอวัยวะเพศ
- ผู้ใหญ่บำบัดมะเร็งรังไข่ ขาบวม 1 ข้างบ้าง 2 ข้างบ้าง
- ผู้ใหญ่ผ่าตัดและฉายแสง บำบัดมะเร็งเต้านม แขนโต บวมเป่ง
และอื่นๆ อีกมาก

จากการซักประวัติ หมอบอกว่า
มีข้อสังเกตที่ ทางการแพทย์ไม่เคยระบุไว้ ไม่มีโรงเรียนแพทย์ ที่ไหนสอนกัน กำลังเป็นการทำวิจัยและรวบรวมข้อมูลอยู่
ซึ่งเวลานำเสนอวงการแพทย์ในเวทีโลก หมอวิชัยใช้คำว่า "Slangh"
ภาษาไทยของเราเลย คือ "แสลง" ของแสลงที่ว่ากันมาแต่โบร่ำโบราณ

เพราะหมอวิชัยพบว่า
ของแสลง ที่ทำให้คนไข้ของหมอ มีภาวะบวมน้ำเหลือง และอักเสบ
ได้แก่ เนื้อสัตว์ หมู ไก่ ปลา ปลาหมึก กุ้ง ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ นม เนย ไข่
น้ำปลา กะปิ ปลาร้า
คนไข้แต่ละคน ต้องสังเกตเอาเอง ว่า กินอะไรแล้วบวม กินอะไรแล้วอักเสบ คนหนึ่งๆ อาจจะมีของแสลงไ้ด้มากกว่า 1 อย่าง

หมอวิชัย แนะนำว่า ถ้าให้ดี ควรกินมังสะวิรัตไปเลย

วิธีการปฏิบัติตัว 3 ข้อสำคัญ เพื่อที่จะให้หายขาดจากอาการคือ
1. ภูษาบำบัด รัดขา ด้วยผ้ายืดรัดขา ลงน้ำหนักให้มากบริเวณที่เป็น และใส่ถุงน่องชนิดมีแรงรัด ช่วยพยุงไว้
2. ประคบเย็น เมื่อมีอาการตึง บวม หรืออักเสบแดงร้อน
3. กินอาหารเทพ ก็คือกินมังสะวิรัติ งดเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์



ดูภาพก่อนนะ
เดี๋ยวค่อยอธิบาย ที่มาของการรักษา ของหมอวิชัยให้ฟัง

พวกที่กินของแสลง แล้วเป็น มีอาการบวมแดง
บางคนเป็นมาก เท้าช้าง และเน่าเฟะ ... งือ


วัดขนาดของ ขา จะมีตาราง วัดละเอียด
แล้วคอยวัดเปรียบเทียบก่อนและหลัง การบำบัดรัดขา ประคบเย็นในแต่ละวัน

เมื่อหักลบค่าที่แตกต่างของแต่ละจุด
แล้วเอาตัวเลขมารวมกัน ก็จะได้ค่าแตกต่าง ซึ่งเอาเก็บเป็นสถิติ

การรวมแบบนี้ ฟังดูมีกำลังใจมากๆ เช่น วันนี้ ลดไปได้ 7 เซ็นติเมตร...

อีกอย่าง ก็ต้องถ่ายรูปก่อนการบำบัดไว้ด้วย
การไปคลีนิคเพื่อตรวจติดตามก็จะถ่ายรูป

ชั่งน้ำหนัก ที่มีแยก น้ำหนัก แขน - ขา ไว้เปรียบเทียบด้วย

ข้อควรระมัดระวังเวลาไปหาหมอวิชัย...
- หมอจะขอให้ถอดกางเกงออกจนเหลือแต่กางเกงใน เพื่อจะสังเกตร่างกายคนไข้ได้ชัดเจนขึ้น...แถมถ่ายรูปไว้อีก
- กวางว่า เพราะหมอเองก็เก็บประสบการณ์ ในการตรวจด้วยการกดตามทางเดินน้ำเหลือง และการสังเกตการบวมแต่ละแห่ง
ไว้เปรียบเทียบกับ ภาพจากฟิล์ม MRI



วันแรก คุยกับหมอวิชัยนาน 2 ชั่วโมง
เพื่อจะอธิบายภาวะน้ำเหลืองทั่วๆ ไป ทำการซักประวัติ เขียนประวัติละเอียดเป็นหน้าๆ และตรวจร่างกาย

แม่กะกวาง เหนื่อยเลย เครียดด้วย
เพราะอาการของคนไข้อื่นๆ ที่หมอเอาให้ดู...น่ากลัวมาก

แถมหมอยังบอกว่า เริ่มต้นก่อนจะเป็นเท้าช้าง
ก็เกิดจากการอักเสบเพียงเล็กน้อยแบบนี้แหละ!!!

ภาพข้างล่าง เป็นบรรยากาศที่อาศรม


การเข้าไปบำบัดและเรียนรู้ 5 วัน
หมอให้อยู่ในความดูแลใกล้ชิด เพราะการรัดขา อาจจะเกิดความดันโลหิตสูงขึ้นได้ด้วย

วันแรกที่เข้าอาศรม ผึ้งไปด้วย
ไปถึงก็วัดขา ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ตรวจชีพจร
แล้วก็เริ่ม...หัดพันขา ตั้งแต่นิ้วเท้าขึ้นมาถึงสะโพก

นักบำบัด ทำให้ดู และช่วยกันทำ หมอวิชัยแวะมาดู
เพื่อกำชับว่า ต้องพันให้กระชับ และอุปกรณ์ใช้เพียงแค่
ผ้าก๊อต ผ้ายืด และซาวน่า ก็พอ ไม่ต้องขันชะเนาะ


ร่วมด้วยช่วยกัน คนละข้าง


พันเสร็จก็หมดแรง...
นอนดีกว่า

มันแน่นมากๆ อึดอัด
ปกติไม่ชอบใส่อะไรรัดๆ นี่เลยแย่...


ผึ้งนั่งมอง...
หน้าตาดูไม่ค่อยให้กำลังใจเท่าไร...งือ

ผึ้ง "นี่ ถ้าอยู่ๆ หมอไม่อธิบายอะไร แล้วมารัดเจ๊กวางแบบนี้ สงสัยต้องมีอาละวาดแน่ๆ


สิบนาทีผ่านไป

ปลายเท้าเริ่มชา
น่องเริ่มปวด
ในใจเริ่มโอดโอย
อาละวาด...

นักบำบัด บอกให้ยืดเส้นยืดสาย
เลยนอนยกขา ขึ้นๆ ลงๆ

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
คิิดในใจ ไม่ไหวแล้วโว้ย
"ถอดออกได้มั้ย?"

นักบำบัดบอกว่า เอาออกเลยพี่ ไม่ไหวก็เอาออก
หมอวิชัยแวะมาดู "ล้างไพ่ใหม่เลย ถอดออก พัก 5 นาที แล้วเริ่มใหม่"

โห...กว่าจะพันเสร็จ เกือบครึ่งชั่วโมงนะ


พอถอดออก
ผิวเป็นแบบนี้

ได้ขาเรียวเล็ก...555 ได้ขาลีบๆ มามากกว่า

หมอวิชัยบอกว่า ใครรัดขา รัดหน้าท้อง รัดเอว
ก็ได้ผลหมดแหละ พวกศูนย์ลดน้ำหนักเอามาใช้กับคนรักสวยรักงาม
แต่พอไปนอน เช้าตื่นขึ้นมา ก็เด้งกลับไปเท่าเดิม

เพราะน้ำเหลือง จะจำที่อยู่ได้ มันจะไหลกลับมาอยู่ที่เดิม
เหมือนกับแม่ค้า กับเทศกิจ พอเทศกิจมาอยู่ แม่ค้าก็หายไป
พอเทศกิจกลับไป แม่ค้าก็กลับมาทันที
เพราะฉะนั้น ต้องมีกรวย หรือมีแผงกั้น เอาไว้ แม่ค้าจะได้ไม่มา
คือ ใช้ถุงน่อง นั่นเอง


หมอวิชัย วิจัยเรื่องตับ
แล้ววันหนึ่งก็พบว่า มีเซลล์เนื้อเยื่อ ที่ผันตัวเองไปเป็นเซลล์ท่อน้ำเหลือง
ในภาวะที่ระบบน้ำเหลืองอ่อนแอ และต้องการทางเดินเพิ่มเติม
จึงเกิดการ "แพร่พันธุ์ของท่อน้ำเหลือง" การใช้ภูษาบำบัด รวมเอาเทคโนโลยีของหมอวิชัย ด้วยการขันชะเนาะ สำหรับคนที่บวมขาช้าง

ต้องทำต่อเนื่องจนทำให้สิ่งแวดล้อมที่ขากระชับ
ท่อทางเดินน้ำเหลืองหลัก กลับมามีขนาดเท่าเิดิม ลิ้นในท่อน้ำเหลืองที่ตกลงเปลี่ยนทิศลงข้างล่าง ให้เด้งกลับขึ้นมาเป็นทิศขึ้นบน
ระบบน้ำเหลืองเข้าที่ เซลล์ท่อน้ำเหลืองที่แพร่พันธุ์ไป
จะรู้ตัวว่า ไม่มีประโยชน์แล้ว ก็จะ "กลับใจ" แปรตัวเอง
ให้กลับกลายเป็นเซลล์เนื้อเยื่อ

นี่ถ้าผลการวิจัยของหมอ รวมถึงวิจัยการบำบัด เป็นผลสำเร็จ
หมออาจจะได้รางวัลโนเบล...!!

เพราะทั่วโลก ทางการแพทย์ บอกว่า โรคระบบน้ำเหลืองรักษาประคองได้ แต่ไม่หายขาด



วิธีพันนิ้วมือ นิ้วเท้า


ตอนเย็น อ่านฟิล์ม....
หมอวิชัย อธิบายละเอียด
ผึ้งและกวาง ต่างก็มีคำถาม หมอตอบคำถามได้ชัดเจน แจ่มแจ้ง...

และจากฟิล์ม นอกเหนือจากที่หมอตรวจร่างกายด้วยการกด
ว่า ที่ขา น่อง ตาตุ่ม มีปัญหา

ก็ยังพบเพิ่มเติม ในส่วนขาอ่อนด้านใน
เป็นจุดที่มีเนื้ออ่อนๆ ทำให้การกดตรวจ สังเกตได้ยาก
ขาอ่อนด้านในทั้งสองข้าง มีทางน้ำเหลืองแพร่พันธุ์เยอะมาก
ตรงจุดนี้แหละ ที่ 7-8 ครั้งที่ผ่านมาพบว่า บวมอักเสบ แดงร้อนที่บริเวณนี้

ส่วนที่ใต้หัวเข่า น่อง และตาตุ่ม จากฟิล์ม เห็นเลยว่า เป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่เคยปวดขา จนเดินไม่ได้ ตอนไข้ขึ้น 5 วัน แปลว่า การอักเสบมันขยายพื้นที่ออกไปจากเดิม


การดูฟิล์มอันนี้
เป็นฟิล์ม ที่แสดงให้เห็นว่า บริเวณใด ที่มีน้ำปริมาณมาก

เช่น ในกระเพาะปัสสาวะ มีฉี่เยอะ ในตอนที่ถ่ายฟิล์ม

ตรงขาอ่อนด้านในทั้งซ้ายและขวา
ใต้หัวเข่า น่อง และตาตุ่มขวา
น่องซ้าย


แต่ที่กวางรู้สึกแย่สุด...

ที่เป้า มีการแพร่พันธุ์ของทางน้ำเหลืองด้วย
รู้ึสึกตั้งแต่ตอนขาบวมแล้ว ว่า ที่เป้าข้างซ้ายก็บวม

พอเห็นในฟิล์ม ยิ่งยืนยัน

และมันรัดผ้าได้ยาก
ล่าสุด เลยต้องใช้กางเกงแบบรัดเป้าและหน้าท้อง มาเพิ่มเติม

งานนี้ ใช้งบประมาณไป 40,000 เศษแล้ว
เพราะแค่ ถ่าย MRI ก็ 21,000 บาท

ขอรับเงินชดเชยรายได้จากประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ จะเอามาช่วยค่ารักษามั่ง แต่ล่าสุด ประกันปฏิเสธมา
เพราะทางโรงพยาบาลระบุว่า เป็นคนไข้นอก...เฮ้อ
แต่จะไปปรึกษากับหมออีกที เพราะหมอบอกว่า
เดี๋ยวนี้ทางโรงพยาบาลรับรองให้แล้วว่า เป็นคนไข้ใน แต่ไม่ได้อยู่ค้างคืน


ผ่านไป 3 เดือน

รัดบ้าง ไม่รัดบ้าง
ภาระมันเยอะมาก ที่จะต้องทำ แถมทรมานอีกต่างหาก
สำหรับคนเอาจริง คนที่เขาเป็นเท้าช้างคนหนึ่ง
ที่เคยออกรายการทีวี

ขาใหญ่ 70 กิโล ขันชะเนาะ ทุกวัน ทั้งวัน วันละ 10 เที่ยว ภายใน 2 เดือน
เธอมาใส่กางเกงยีนส์ได้แล้ว....

คือต้องเอาจริง

ล่าสุดวันที่ไปพบหมอเพื่อตรวจติดตาม
วันนั้น ก็ตรวจตัวเอง เออตรงที่เคยบวม มันนิ่มๆ ไม่หนัก
เพราะงั้นเท่าที่ทำมา ก็คงพอช่วยได้บ้าง
คือรัดประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 2 ชั่วโมง

ก่อนขึ้นไปอาศรม
แวะกินข้าว
ร้านอาหารมังสะวิรัติ อาหารหมด
เลยกระเถิบไปดูก๋วยเตี๋ยวไก่

สั่งยืดหยุ่นตามสไตล์กวาง
วุ้นเส้น ใส่ผัก ไม่เอาเนื้อไก่ ไม่ผงชูรส
วันนี้ อยากกินต้มยำ เลยเอาน้ำซุปด้วย
กินน้ำซุปไปครึ่งถ้วย

ขึ้นไปอาศรม หลังกินก๋วยเตี๋ยว ครึ่งชั่วโมง
เริ่มวัดขา...ขนาดไม่เล็กลง แต่ก็ไม่ใหญ่ขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับตอนฝึกที่อาศรม
วัดยังไม่ทันเสร็จเลย อยู่ๆ ต้นขาซ้ายก็บวมตึงขึ้น มีจุดขาวๆ ขึ้นเห็นๆ
นักบำบัด "ประคบเย็นนะพี่ เดี๋ยวหยิบมาให้"
ประคบเย็นไป 1 ชั่วโมง
พบหมอวิชัย...หมอถาม "กินอะไรมา"
รายงานเสร็จ หมอพูดว่า "อย่าประมาท แต่ละคนพอเจอหมอแล้วก็ประมาท รู้ว่า หมอรักษาเท้าช้างใหญ่ๆ ได้ เลยไม่ยอมดูแลตัวเองเคร่งครัด อย่าลืม 3 ข้อ ที่ต้องทำ หนึ่งภูษาบำบัด สองประคบเย็น สามกินอาหารเทพ"

หมอพูดอีกที จากที่เคยพูดไว้แล้ว "พวกเท้าช้าง ก็เป็นจากการอักเสบซ้ำๆ จนเนื้อเยื่อเป็นพังผืด แล้วเป็นก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทีนี้ รักษายากนะ"



คนอื่นๆ ที่มารักษา
ซ้ายสุด แขนบวม จากการบำบัดมะเร็งเต้านม อาการเกิดขึ้นหลังผ่าตัดและฉายแสง 10 ปี
ขวาบน เคยตัดมดลูกเลาะต่อมน้ำเหลือง อาการเกิดขึ้นหลังผ่าตัด 15 ปี

ก็คือ บางครั้ง อาการอักเสบระนาบลึก มันเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่รู้ ไม่ได้สังเกตตัวเอง จนมันอักเสบมากและเป็นการอักเสบไปทั่ว...


อ้อ...คนที่ขาใหญ่ขวาบน ยังกินอาหารทุกชนิด
เวลาบวมมาก ก็มาเข้าคลีนิก....งือ

รูปขวาล่าง เป็นการใช้ถุงลม เรียก วาโยบำบัด
ชุดถุงลมแบบนี้ 2แสนกว่าบาท....

เคยลองใช้ทีหนึ่ง หนุกดี...
-----------------------------------------------

ป่านนี้ ร่างกายยังไม่ชินกับการถูกรัด
ใส่ถุงน่อง ก็ยังมึนหัว...

ไม่ค่อยได้ทำการรัด เท่าใด
ตอนนี้ ขาใหญ่ขึ้นนิดๆ

เพราะยังเกเร กินอาหารมีผลิตภัณฑ์สัตว์บ้าง
ทำให้มีอาการบวมรายวันอยู่นะ
โดยเฉพาะตอนไปเที่ยวช่วงปีใหม่ กับครอบครัว
ชิม หลายอย่าง....
----------------------------------------------
ข้อมูล นพ.ดร.วิชัย เอกทักษิณ
แผนกบำบัดภาวะน้ำเหลืองอักเสบ 02 354 8395
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ




 

Create Date : 06 มกราคม 2553    
Last Update : 4 มีนาคม 2554 11:56:20 น.
Counter : 28345 Pageviews.  

สัมภาษณ์เจ้าของหนังสือ "จากวิ่งเร็วเป็นเดินช้า" : ASTV

22/09/52 คุยกับเจ้าของหนังสือ "จากวิ่งเร็วเป็นเดินช้า" หญิงที่ไม่หวั่นไหวต่อโรคมะเร็งรังไข่ "มีนา เปรื่องวิริยะั"

คลิ๊กรับฟังย้อนหลัง

เริ่มฟัง ตรงนาทีที่ 15 ค่ะ




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2552 15:16:06 น.
Counter : 1656 Pageviews.  

4 ปีครึ่ง หลังเคมีบำบัด ของกวาง-มีนา

วันเวลา ล่วงไป...
พบมะเร็ง เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ผ่าัตัดทันที แล้วให้เคมีบำบัด เดือนละครั้ง 6 เดือน

นับจากเมื่อจบเคมีบำบัด
ต้องฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจ มาเรื่อยๆ
ถึงวันนี้ 4 ปีครึ่ง

มีเพื่อนบางคนเขาบอกว่า กำไรแล้ว
เพราะตามปกติ เซลล์มะเร็งชนิดที่ตรวจพบ เ็ป็นเกรดสูง
มักจะกลับมาเป็นอีก ภายใน 2 ปี หลังรับเคมีบำบัด

ถ้าคิดเป็นกำไร ก็ถือว่า กำไรชีวิตปลอดเคมีบำบัด มา 2 ปีครึ่ง...

ปลอดภัยแล้ว...หรือเปล่า??

ร่างกายนี้ มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ
เมื่อยังมีการเปลี่ยนแปลง ก็ยังมีชีวิตอยู่
เมื่อไร หยุดเปลี่ยน ก็สิ้นชีวิต...

--------------------------------------------
อาการไม่พึงประสงค์ที่เป็นอยู่
ซึ่งเป็นอาการที่พอรับได้ พิจารณาให้ใจยอมรับ
เพราะมันมีที่มา มีเหตุ เราก็รับผลของมันไป

- ปวดเมื่อยกล้้ามเนื้อ เส้นเอ็นต่างๆ จากการพร่องฮอร์โมน
เนื่องจากผ่าตัดเอารังไข่ออกไปทั้งสองข้าง

- ปวดล้าที่ขา เพราะระบบน้ำเหลืองที่ขาทั้งสองข้าง มาจนถึงหน้าท้อง
อักเสบ เนื่องจากการผ่าตัด ไปรบกวนต่อมน้ำเหลือง ด้วยการตัดบางส่วนทิ้ง

- ระบบน้ำเหลืองอ่อนแอ กินอาหารบางชนิด แล้วเกิดอาการแสลง
นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ให้คำแนะนำว่า สาเหตุมาจากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์ ควรกินมังสะวิรัตอย่างเคร่งครัด
ไม่เช่นนั้น จะเกิดอาการเป็นไข้น้ำเหลือง เนื้อเยี่อในส่วนที่อักเสบแดง บวม จะเกิดเป็นพังผืด ทำให้ขาบวมขึ้นเรื่อยๆ ระบบน้ำเหลืองแย่ลงเรื่อยๆ จนลุกลามเป็นโรคเท้าช้างทุติยภูมิได้

- เมื่อมีอาการทางกาย บางครั้ง ก็จิตตก
จึงต้องพึ่งครูบาอาจารย์ ให้คำแนะนำ ในการพิจารณาความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง รวมถึงกาย และจิต ของตน

-------------------------------------------------------


แต่ทั้งนี้ ช่วงเวลาหลังการบำบัดมะเร็ง
เป็นเวลาที่เสมือนมีชีวิตใหม่
เนื่องจากการเปลี่ยนวิถีชีวิต ในแนวทางธรรมชาติบำบัด
ใจสงบ...
เมื่อลดความวุ่นวาย ด้วยการเป็นอยู่เรียบง่าย
ทุกข์ก็น้อยลง เห็นสุขเล็กๆ ได้ชัดเจนขึ้น

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รับเชิญไปสัมภาษณ์ในรายการ "ประเด็นข่าว ประเด็นธรรม" ช่อง ASTV
คุณบัณฑิต สัมภาษณ์ยาวเลย
แล้วท่านจันทร์ สมณะจากสันติอโศก ได้วิเคราะห์เป็นประเด็นธรรม

ส่วนหนึ่งท่านกล่าวว่า "...คุณมีนา ใช้ทรัพย์ที่หามาได้จากการเป็นมนุษย์เงินเดือน นำไปใช้ 'ซื้อวิถีชีวิต' ที่หลวงพระบาง...."

ฟังแล้วก็เห็นว่าจริง 'ซื้อวิถีชีวิต'
ก็เพราะฉันเกษียณก่อนอายุ
แต่ที่จริง ทรัพย์ที่เคยหามาได้ หมดไปตั้งแต่ตอนบำบัดมะเร็ง
และออกท่องเที่ยว หลังร่างกายฟื้นฟูแล้ว ในช่วงแรกๆ

ระยะหลายปีมานี้ ก็พึ่งพาสามีและครอบครัวของสามีในเรื่องการเิงิน
เศรษฐกิจก็ฝืดเคือง ธุรกิจไม่ค่อยดีนัก
ก็ใช้วิธีประหยัด เพื่อจะเก็บออมเงินบางส่วนไว้ใช้
จะได้ไม่ต้องขอเงินเพิ่ม เมื่อจำเป็น
รักษาตัว...เช่น การบำบัดน้ำเหลืองอักเสบ ใช้งบ MRI รวมพบแพทย์ และอุปกรณ์การรัดขา ไปหลายหมื่นบาท...

----------------------------------------------------

การสอนโยคะ ยังเป็นงานอดิเรก
เพราะจะยึดเอาเป็นที่มาของรายได้ เพื่อให้เพียงพอ
กับค่าใช้จ่ายในชีวิต นั้นยังไม่ได้

งานหลัก จึงเป็นการดูแลตนเอง ทั้งกายและใจ ไม่ให้เจ็บป่วย...
ไม่ให้ถึงขนาดต้องมีคนดูแล พาวิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาล

งานรอง เป็นการเขียนหนังสือ และสอนโยคะ รวมถึงรับเป็นวิทยากรการดูแลสุขภาพกายและใจแบบองค์รวม ตามแต่โอกาส

----------------------------------------------------

คุณโธมัส-วาทิศ ผู้เป็นสามี
กล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า
"ชีวิตของเธอ เปรียบเหมือนลูกตุ้ม ที่เดิม มันแกว่งสุดโต่งไปข้างหนึ่ง
ขณะนี้ มันแกว่งไปสุดโต่งอีกข้างหนึ่ง แล้วมันยังคงแกว่งต่อไป
คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพื่อที่จะแกว่งไปๆ เพื่อหาจุดสมดุล..."

----------------------------------------------------

ก่อนมาตรวจสุขภาพ ตามที่หมอนัด
ตรวจสุขภาพตนเอง ด้วยการ<แบกเป้เดินทางคนเดียว...6 วัน 6 คืน>
โชคดีที่รอดมาได้ ... หึหึ




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2552    
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 14:12:44 น.
Counter : 2946 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

Minie'
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]




รู้โลกเรียนธรรม

Friends' blogs
[Add Minie''s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.