มีคนมาชอบ แต่ไม่ชอบเขา "การปฏิเสธการขอเป็นแฟน ไม่ใช่การปฏิเสธความรัก" มีอีกปัญหาหนึ่ง คนที่ไม่มีใครมาชอบก็กลุ้มใจ ส่วนคนที่มีคนชอบก็กลุ้มใจเหมือนกัน เพราะไม่ได้ชอบเขา มันก็เลยเกิดปัญหาว่าจะทำยังไงดี? จะลองคบดู หรือปฏิเสธไปดี กลัวเขาเสียใจบ้าง กลัวว่าปฏิเสธไปอาจไม่เจอใครเลยบ้าง กลัว ๆ กล้า ๆไม่รู้จะทำยังไงดี การที่มีคนมาชอบ ก็ทำให้เรามั่นใจในตัวเองมากขึ้น เราจะเลิกเครียดกับคำว่า "อยู่ยังไง...ไม่มีแฟน"เพราะเราจะตอบได้ว่า "จะมีก็มีได้... แต่ฉันไม่เอาตังหาก" ปัญหาการขาดความมั่นใจก็ตัดไป แถมยิ่งมั่นใจในเสน่ห์ตัวเองมากขึ้น แต่ระวังรักษาระดับไว้ให้ดีล่ะ อย่าหลงไปกับมัน จนทำให้ตัวเองกลายเป็นคนเย่อหยิ่งในสายตาคนอื่น ทีนี้มากลุ้มใจต่อว่า จะตอบตกลงหรือปฏิเสธดี? เธอต้องพิจารณาก่อนว่า เธอมีความประทับใจอะไรในตัวเขาบ้าง ถ้าไม่รู้จักกันเลย และดู ๆ แล้วก็น่าจะชอบได้ หรือรู้จักแล้ว และพอมีอะไรที่ถูกใจยู่บ้าง คือไม่รู้สึกขัดกับอุดมการณ์มากนัก ก็คบไว้ในระดับเพื่อนไว้ก่อน แล้วค่อย ๆ แอบทดสอบนิสัยเขาไปเรื่อย ๆ เพราะพวกนี้เวลามาจีบก็พยายามสร้างภาพให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากดูไปแล้ว ท่าทางจะอาการหนักไปกันไม่ได้แน่ ก็พยายามงัดนิสัยที่ไม่ได้เรื่องของตัวเองมาโชว์ให้เขาเห็นบ้าง เผื่อเขารับไม่ได้ อยากเห็นแต่ภาพสวยงามของเรา เขาก็จะตีจากเราไปเอง แต่ถ้ายิ่งทำ เขากลับยิ่งชอบเรา ต้องเป็นโรคจิตแน่ ๆ บ้าใส่แล้วยังชอบ เราอาจจะเกิดความรู้สึกประหลาดกับอาการรับได้ในความทุเรศของเราก็ได้ ลองดูว่าจะเปลี่ยนความรู้สึกเป็นชอบเขาได้ไหม คนที่รับเราได้แม้จะเห็นฉากบัดซบเราแล้ว หายากเลยนะ สำหรับคนที่ดูแล้วไม่ผ่านตั้งแต่แรก ไม่ได้รู้สึกเป็นกลาง แถมยังรู้สึกติดออกทางลบด้วยซ้ำ เขาจะทำอะไรบางอย่างที่ดูแล้วขัดหูขัดตาเรามาก ไม่ชอบเอาซะเลย เป็นเพื่อนก็ไม่เอา ก็ปฏิเสธเขาได้ การพูดคุยอย่างสุภาพ สุภาพชนจะเข้าใจ หากเขาไม่เข้าใจ นั่นก็เป็นจุดที่ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นว่าเราคิดถูกที่ไม่รับอีตานี่เป็นแฟน เพราะพูดแค่นี้ก็ไม่รู้เรื่องแล้ว และหากเขาจริงจังกับเราจริง ๆ เขาอาจจะตามตอแยเราอีกซักพัก ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับใจเธอ ว่าเขาจะมีความสามารถทำให้เธอลบภาพเลวร้ายของเขาในวันแรก ๆ ออกได้รึเปล่า และเปลี่ยนเป็นคำ "ไม่ถือสา" ได้ไหม แต่ถ้าเขาจีบเล่น ๆ เขาก็จะหายสาบสูญไปจากวงจรชีวิตเราเอง การปฏิเสธการขอเป็นแฟน ไม่ใช่การปฏิเสธความรัก หากเขามีความจริงใจ และรักเราอย่างบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ซักวันเขาจะทำให้เราปฏิเสธเขาไม่ลงเอง และความรักก็มีหลายรูปแบบ เราอาจจะได้เพื่อนที่จริงใจเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็ได้ ความรักไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเห็น ไม่แปลกอะไรเลย ถ้าเธอไม่ได้รู้สึกรักเขาตั้งแต่แรก จู่ ๆ จะให้รักเลยได้ยังไง ความรักมันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเกิดการถ่ายเทพลังงานอ่อนโยนของคนสองคน และเมื่อถึงเวลานั้น เธอยังปฎิเสธเขา แม้แต่ความเป็นเพื่อน เธอก็ใจดำเกินไปแล้วล่ะ   Create Date : 14 มิถุนายน 2550     6 comment Last Update : 14 มิถุนายน 2550 23:21:00 น.     Counter : 968 Pageviews.   Share Tweet

ความรักที่สมหวัง...อยากมีบ้าง กลัวผิดหวังกับความรัก "เรามักมองเห็นความรักของคนอื่นเป็นเรื่องง่าย แต่กลับทำให้ความรักของตัวเองเป็นเรื่องยากเสมอ" คนบางคนกำลังรอคอยความรัก คนบางคนก็กลัว ๆ กล้า ๆ ที่จะมีรัก บางคนก็หวาดกลัวปิดบังความต้องการของตัวเอง เพราะมองเห็นเพื่อนรอบข้างทุกข์กับความรัก เลยมองไปว่า เมื่อมีความรัก เราต้องผิดหวัง เราต้องทุกข์ แล้วเมื่อมันไม่สมหวัง เราก็คงจะเจ็บเจียนตายเหมือนเพื่อนเราที่กำลังเป็นอยู่ ความรักแต่ละคู่มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ถ้าเธอลองมองให้ละเอียด เธอจะรู้ว่าเพื่อนรอบข้างทุกข์ให้กับรักในสาเหตุที่แตกต่างกัน และบางครั้งเธอเองก็มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี เป็นเรื่อง่าย ๆ ที่ทำให้เป็นเรื่องยากกันไปได้ เธอมักจะมองว่าถ้าเธอเป็นเพื่อน เธอคงไม่คิดมากอย่างนี้ หรือเธอคงมีทางออกที่ดีกว่านี้ เธอจะทำอย่างนั้น อย่างนี้ และปัญหามันก็คงจบลงได้รวดเร็ว หรือมันก็คงไม่เกิดขึ้นเลย เรามักมองเห็นความรักของคนอื่นเป็นเรื่องง่ายแต่กลับทำให้ความรักของตัวเองเป็นเรื่องยากเสมอ อย่างที่บอกถ้าเธอไม่เป็นเขา เธอไม่คิดอย่างเขา เธอก็ไม่สามารถพูดได้ว่าทำไม่ทำอย่างนั้น ทำไมคิดอย่างนี้ ปัญหาขี้ประติ๋วของคนคู่หนึ่งทำไมอีกคู่หนึ่งมองว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ "คู่เราไม่มาทะเลาะกับเรื่องไร้สาระอย่างนี้หรอก" แต่กลับมีปัญหาในเรื่องที่คู่อื่นเขาไม่เป็น เพราะฉะนั้นอย่าตัดสินความารักจากคู่ของคนอื่น ความรักที่เกิดกับเธอก็จะเป็นความรักเฉพาะของเธอ ถ้าเราเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ด้วยสติ และใช้สติดูแลความรักของตัวเอง ความเข้าใจกันและกัน ความรักของเธอก็จะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้อย่างสวยงาม แม้มันจะทุลักทุเลบ้าง แต่มันก็เป็นความหอมหวาน เพราะการได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน มันจะทำให้ความรักมีความสมบูรณ์แข็งแรงและมั่นคงขึ้นตามกาลเวลา ส่วนคนที่กลัวผิดหวังกับความรัก ประมาณว่า กลัวอกหัก รู้ไหมว่า เธอจะรู้จักความรักในแบบฉบับของเธอ ด้วยการมีความรัก หากเธอไม่เริ่มที่จะรัก เธอจะไม่มีวันรู้ว่า การถูกรักมันมีสุขแค่ไหน การมอบความรักให้ใครมันสุขแค่ไหน การมอบความรักให้ใครมันสุขแค่ไหน และการได้รับการปฏิเสธมัน จะรู้สึกอย่างไร และความผิดหวังนี่แหละที่จะทำให้เธอค่อย ๆ ปรับรูปแบบความรักของเธอไปเรื่อย ๆ เปลี่ยนแปลงความคิด มุมมอง เพื่อให้เข้ากับเธอมากที่สุด จนวันหนึ่งที่เธอพบรักแท้ เธอจะรู้ว่าความผิดหวังที่เธอเดินผ่านมานั่นเอง ที่ทำให้เธอค้นพบความรักที่เหมาะสมกับตัวเธอที่สุด และทำให้เธอรู้ว่ารักที่พอเหมาะพอดี รักที่คู่ควรกับเธอเป็นอย่างไร? อย่ากลัวความผิดหวัง อย่ากลัวที่จะรัก เพราะความกลัวอาจทำให้เธอพลาดความหอมหวานในช่วงเวลารักไป เก็บความอิ่มเอมใจไว้ให้เต็มที่ เพราะในวันที่มันหายไป เธอจะได้มองภาพออกว่าเธอจะคิดถึงอะไรได้บ้าง ดีกว่าที่จะปล่อยให้มันเป็นภาพว่างเปล่า นึกถึงความรักไม่ออก แม้แต่หน้าใครซักคนก็นึกไม่ออก อาการเหงาแบบไม่รู้ที่มามันน่าหงุดหงิดนะ   Create Date : 14 มิถุนายน 2550     25 comment Last Update : 14 มิถุนายน 2550 21:33:17 น.     Counter : 1185 Pageviews.   Share Tweet

ทำไมเราไม่มีแฟนซะที...อยากมีแฟนกับเขาบ้าง "อย่าเอาความสวยไม่สวย มาเป็นเงื่อนไขต่อการใช้ชีวิตของเธอ" "คนไม่มีแฟน" ฟังบางทีก็รู้สึกดี เหมือนเป็นสาวโสดสองพันปี ดูมีเสน่ห์ แต่ในบางครั้งก็สะกิดหัวใจให้คิดอยู่เหมือนกันว่า "ทำไม" "เพราะอะไร" เพราะเรา หรือเพราะเนื้อคู่อยู่ไกลยังมาไม่ถึงกันแน่ คนที่ไม่มีแฟน จะยังไม่รู้สึกเหงามากนัก ถ้าในกลุ่มในแก๊งยังไม่มีอีกหลายคน ยังพบปะสังสรรค์ ไปไหนมาไหน ปิ๊งหนุ่มได้สะดวก โดยไม่มีแฟนมานั่งตาขวางคอบควบคุม แต่หากเพื่อน ๆ ในกลุ่มมีแฟนเป็นตัวของตัวเองไปหมดแล้ว หรือเราแต่เพียงผู้เดียว ส่วนใหญ่มักโทษกรรมพันธุ์ คือ เราเกิดมาไม่สวย หุ่นไม่ดี หรือรวยไม่พอ ใช้ของไม่มีสกุล แต่งตัวเชยไม่มีรสนิยม จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ คือ องค์ประกอบภายนอกที่สร้างแรงดึงดูดสำคัญต่อฝ่ายตรงข้าม ซึ่งคู่ควงที่ได้ก็ไม่แน่ว่าจะมาชั่วคราวหรือค้างคืน จะคบกันได้นานแค่ไหน เราขาดองค์ประกอบภายนอกที่ว่าเราก็หมดสิทธิ์แล้ว ชายที่ไหนจะมาแล หน้าตาอย่างนี้ หุ่นอย่างนี้ แต่งตัวอย่างนี้ แถมพ่อไม่รวย เรามักคิดกันอย่างนี้ "คู่รัก"ในความหมายที่ลึกซึ้งมันมีมากกว่านั้น "แฟน"ที่เธอยากได้ รับรองว่า คงไม่ใช่ประเภทเดินตามจีบเธอ หรือขอเบอร์เธอแน่ แต่ถ้าเธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาซักคน เธอคงอยากให้มันมีความยั่งยืน และมีระยะเวลายาวนานกว่าประเภทตามจีบแน่นอน แต่กว่าจะมีใครมาเป็นแฟนเนี่ยสิ คงยากน่าดู เมื่อรูปร่างหน้าตาและเครื่องทรงเป็นอุปรรคของการมีแฟนแล้ว เลิกคิดที่จะแก้ไข และเลิกคิดที่จะหาทางสวยด้วยแพทย์ เพราะของปลอมยังไงก็เป็นของปลอมอยู่วันยังค่ำ แต่สิ่งที่ยังเหลือก็คือ ความสวยงามภายในที่เราสามารถจัดได้ และแต่งแต้มเสน่ห์ให้มันได้ เธอต้องสำรวจภายในใจของเธอว่ามีอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการคบหาเพื่อนต่างเพศรึเปล่า ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้หญิงจุกจิก หยุมหยิม คิดเล็กคิดน้อย ผู้หญิงอารมณ์ดีจะเป็นเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศ ตรงข้ามได้มากที่สุด เคยเห็นหนุ่ม ๆ หลายคนห้อมล้อมผู้หญิงคนเดียว แม้เธอจะไม่ใช่คนสวย แต่วงสนทนานั้นมีเสียงหัวเราะตลอดเวลา หากเธอเป็นคนจู้จี้จุกจิก นอกจากนิสัยจะช่วยเธอคัดชายหนุ่มออกไปจากชีวิตเธอแล้ว เธอจะเป็นคนมีมิตรน้อยเช่นกัน ความร่าเริง มองโลกในแง่ดี และความมั่นใจ กล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์ คือ เสน่ห์อย่างนึงของผู้หญิง อย่าเอาความสวยไม่สวย มาเป็นเงื่อนไขต่อการใช้ชีวิตของเธอ ไม่กล้าทำอะไรซักอย่าง เพราะตอบตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า "เราไม่สวย" ยังไงก็ดูไม่ดี เธอกำลังพ่ายแพ้กับบททดสอบแรกที่สวรรค์ส่งมาแกล้งเธอแล้วนะ มั่นใจเถิดว่า "คนรัก" ที่จะเข้ามาหาเธอเขาจะรักเธอที่หัวใจจริง ๆ ไม่ใช่หน้าตา น่าภูมิใจกว่าเป็นไหน ๆ และมันจะมั่นคงยาวนานได้แค่ไหน อยู่ที่เธอจะเป็นตัวของตัวเองได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า และมีความเข้มแข็งพอหรือเปล่า หากเธอกำลังสงสัยว่าทำไมเธอยังไม่มีแฟนซะที ลองใช้วิธีมองกลับดูว่า "ถ้าเธอเป็นผู้ชาย เธอจะเลือกคนแบบเธอเป็นแฟนหรือเปล่า และน่าเลือกตรงไหน?" ถ้ามีคุณสมบัติเพียบ ก็คงต้องโทษสววรรค์ล่ะ เขาอาจส่งมาให้ช้า รอหน่อยแล้วกันนะ แต่ถ้าไม่มีคุณสมบัติใด ๆ น่าชอบเลย แสดงว่าแม้บททดสอบบทแรกของการใช้ชีวิต บทที่ว่าด้วย การดูแลตัวเอง เธอก็ไม่ผ่านมันซะแล้ว   Create Date : 14 มิถุนายน 2550     14 comment Last Update : 14 มิถุนายน 2550 21:07:06 น.     Counter : 1094 Pageviews.   Share Tweet

ค ว า ม ห่ า ง ไ ก ล มันทรมาน ความหอมหวานเกิดขึ้นเสมอ เวลาที่คน ไ ก ล มาเจอกัน ไม่มีเรื่องทุกข์ เรารักกันดี ไม่เคยขัดแย้งกันเลย ไม่มีปัญหาทางบ้าน ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เรื่องเดียวที่ทำให้เราทรมาน คือ "เราอยู่ไกลกัน" บางคนไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาคิดมากกับความรักดี เลยโยนภาระโรคคิดมากให้กับ "ความห่างไกล" ถ้าเรามองให้เป็นเรื่องทุกข์ก็เป็นเรื่องทุกข์ เพราะคนที่รักกันในระยะแรก ๆ ช่วงหวานมันฉันคือเธอ เป็นช่วงเวลาที่สวีทที่สุด อยากเจอกันทุกวัน ไปไหนไปด้วยกัน อยากอยู่ด้วยกันนาน ๆ ยิ่งหลังจากบอกรักกันเรียบร้อยแล้ว แทบจะไปอยู่บ้านเดียวกันเลย แต่ก็กลับมีอุปสรรคสวรรค์กลั่นแกล้งให้หลายคู่ต้องห่างไกลกันฝ่ายหนึ่งต้องอยู่ต่างจังหวัด บ้างก็ต้องไปศึกษาต่อ บ้างก็ไปเรียนเมืองนอก นาน ๆ จะเจอกันทีมันทรมานแค่ไหนที่ต้องรอคอยเพื่อให้ถึงวันที่พบกันเร็ว ๆ ฟังดูเป็นเรื่องทุกข์ สวรรค์คงเห็นว่าคู่เราเหมาะสมที่สุด ไม่มีปัญหาใด ๆ เลยสร้างปัญหาขึ้นมาซักเรื่อง เพื่อที่ว่าอย่าให้เราสบายกันนัก กว่าจะรักกัน กว่าจะได้อยู่ด้วยกัน จะได้ดูมีอุปสรรคบ้าง เดี๋ยวโดนเชิญออกไปรายการใด ๆ ไม่ได้ เพราะมันราบรื่นเกินไป ต้องฝ่าฟันกันหน่อย เวลาเจอกันทีจะได้หอมหวาน และเป็นความทรงจำที่เก็บไปนั่งเพ้อฝันได้ในวันจาก จริง ๆ แล้วถ้าเรามองว่า ความห่างไกลเป็นตัววัดใจของอีกฝ่าย ก็คงจะดีไม่น้อย เราจะได้รู้ไงว่าเขารักเราจริงแค่ไหน เขามั่นคงกับความรักแค่ไหน ถ้าเราต้องเจอกันทุกวัน ไปไหนไปด้วยกัน ยังไม่เกิดความรู้สึกคิดถึงก็ได้เจอกันแล้ว ไม่มีอุปสรรคใด ๆ เลย แค่คิดถึงก็มาหาได้ทันที อยากเจอเมื่อไหร่ก็เจอ คนที่เคยเจอกันบ่อย ๆ นานวันเข้าความหระตือรือร้นมันจะลดน้อยลง กลายเป็นกิตวัตรประจำวันที่ต้องทำทุกวันจนชินไปแล้ว " ความประทับใจ หรือความสุข จะมีมากกับอะไรก็ตามที่ไม่ได้มีบ่อย" เราไม่รู้หรอกว่า ไอติม มันอร่อยแค่ไหน ถ้าเรากินอยู่ทุกวัน เมื่อไหร่ที่เราตกอยู่ท่ามกลางทะเลทราย คอแห้งผาก รถไอติมคันเดิมหน้าปากซอยขับผ่าน วันนั้นแหละจะเป็นวันที่เรารู้สึกว่าไอติมนั้นอร่อยที่สุดในโลก ความหอมหวานจึงเกิดขึ้นเสมอเวลาที่คนไกลมาเจอกัน และเราจะต้องตักตวงความสุขนั้นอย่างเต็มที่ในทุก ๆ วินาทีที่เราอยู่ด้วยกัน คำพูดที่ว่า "รักแท้แพ้ใกล้ชิด" คนที่อยู่ห่างกันจะพิสูจน์คำนี้ได้ ว่าคนที่เรารักเป็นอย่างนี้หรือเปล่า ระยะทางทำให้ต่างฝ่ายต่างมีอิสระมาก ที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวเอง โดยอีกฝ่ายไม่มีโอกาสเห็น แต่พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากการเจอกันในครั้งต่อไป ถ้าเขายังเหมือนเดิม เราเจอกันก็หอมหวานเช่นเดิม แต่ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลง มันจะมีม่านหมอกอะไรบางอย่าง บอกเราว่าเขาไม่เหมือนเดิม การกระทำหรือความรู้สึกของเขาจะบอกเราได้ นั่นล่ะที่เรียกว่า ระยะทางพิสูจน์ได้ว่าเขามั่นคงในรักมากแค่ไหน และถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ไม่ว่าเราหรือเขา ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะการได้คนหนึ่ง ๆ มาโดยที่เขามีจิตใจรวนเร ไม่เข้มแข็ง ต่อไปก็ไม่รู้จะร่วมชีวิตกันได้ยังไง หากวันใดวันหนึ่งเราต้องไปรับใช้ชาติเป็นปี กลับมาเขากลายเป็นคนอื่น ตอนนั้นมันอาจสายเกินไปที่จะเลือกทางเดินใหม่ หรือเริ่มชีวิตใหม่แล้วก็ได้ การได้รับรู้และมีโอกาสได้ทดสอบตั้งแต่ตอนนี้ มันจะทำให้เราตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเองได้ถูกทางขึ้น ในขณะที่ยังมีทางเลือก...   Create Date : 14 มิถุนายน 2550     7 comment Last Update : 14 มิถุนายน 2550 20:33:36 น.     Counter : 633 Pageviews.   Share Tweet

ชีวิตที่เหลืออยู่ จะมีความหมายยังไง "เลิกมองตัวเองว่าเป็นผู้ถูกดูแล แต่มองกลับว่า เธอต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลอะไรบ้าง" "ความรัก"เป็นดาบสองคมของชีวิตจริง ๆ บางคนเอา"ความรัก" เป็นเครื่องต่อรองการใช้ชีวิต หมดความรักชีวิตก็หมดความหมาย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตมาได้ดิบดี ไม่มีปัญหาอะไร จะมีก็เหงาบ้าง เศร้าบ้าง แต่ไม่ถึงกับจะเป็นจะตาย พอเจอเข้ากับความรัก ก็หน่วงเหนี่ยวมาเป็นสมบัติของตัวเอง มอบชีวิตทั้งชีวิตให้ตกอยู่ในความดูแลของความรัก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้จักมักจี่มาก่อน เป็นใครมากไหนไม่รู้ ไว้ใจได้ยังไงขนาดนั้น และเมื่อวันหนึ่งที่เขาเดินจากไป ก็กลับมองเห็นว่า เขาเอาความรักนั้นไปด้วย แล้วร่างกายของเราจะอยู่อย่างไร เมื่อโดนขโมยวิญญาณและชีวิตไป เธอคงลืมไปแล้วว่า เธอได้สร้างความรักขึ้นมาด้วยตัวเธอเอง เขาไม่ได้เป็นคนเอาความรักมา ความรักของเขาก็คือของเขา ของเธอก็คือของเธอ เมื่อของเขาหมด แล้วเดินกลับไป ทำไมเธอต้องหมดไปพร้อมกับเขา มันไม่ได้เริ่มขึ้นมาพร้อมกันด้วยซ้ำ ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากหัวใจเดียวกันซักหน่อย หัวใจหนึ่งหายไป แต่เธอก็ยังหายใจอยู่ และความรักของเธอมันก็ยังอยู่กับหัวใจเธอ ถ้าเธอใช้ความรักเป็นข้ออ้าง ทำไมเธอไม่ใช้ความรักที่อยู่ในใจเธอดูแลชีวิตเธอล่ะ มันยังมีความหมายต่อใครอีกหลายคน ข้างในใจเธอ นอกจากมีรักให้กับเขาคนนั้นแล้ว ยังมีรักให้กับใครต่อใครได้อีก ไม่ว่าพ่อแม่ เพื่อนฝูง หมาที่บ้าน งานที่ทำ โดราเอมอน(ไม่รักจะสะสมได้ยังไง) ถ้ายังมีใครต่อใคร อะไรอีกมากมาย ที่รอคอยเธอและมีความสุขกับความรักที่เธอให้ เลิกมองตัวเองว่าเป็นผู้ถูกดูแล แต่มองกลับไปว่า เธอต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลอะไรบ้าง เธอจะรู้ว่าชีวิตเธอมีความหมายแค่ไหน และไม่มีใครมาเอาความรักของเธอไปจากเธอได้ ถ้าเธอโยนความหมายของชีวิตให้ความรัก เธอก็ต้องรู้ด้วยว่า ความรักแบบไหนที่จะทำให้ชีวิตเธอมีความหมาย   Create Date : 12 มิถุนายน 2550     1 comment Last Update : 12 มิถุนายน 2550 20:02:57 น.     Counter : 527 Pageviews.   Share Tweet