^0^ BiEnVeNuE ^0^

ให้ความหวังเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะต้องสุญเสีย

ในวันหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่า...
อะไรบางอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
อะไรที่เคยเป็นของเรากลับกลายเป็นไม่ใช่
และสิ่งที่เรารักมากๆไม่มีอีกแล้ว
ความทุกจะเดินทางมาสู่วันคืนที่เหลืออยู่อย่างๆไม่รีรอ
ออกจะเป็นการยากสักหน่อยที่จะทำใจยอมรับให้ได้
ว่าของบางอย่างไม่ใช่ของเราอีกต่อไป
ยามหลับตาลง ภาพสิ่งต่างๆ ที่เคยอยู่ เคยเป็น เคยมี
เคยได้ อาจลอยวนอยู่ตรงหน้าอย่างจงใจแกล้ง
จะตอกย้ำให้เจ็บยิ่งกว่าที่กำลังเจ็บอยู่
ร้อยพันความรู้สึกจะประเดประดังเข้ามา
จนไม่รู้ว่า...จะต้องหยิบจับ ทำอะไรก่อนหรือหลัง

ร้องเถอะ...ร้องไห้
ร้องไห้พอกับความสูญเสียที่ท่วมท้นอยู่ในใจ
หากสิ่งที่เสียไปไม่ใช่แค่นั้น
หากแต่เป็นการเสียความเชื่อมั่นในชีวิต
เสียความสมดุลในความคิด
เสียเวลาในการดูและทะนุถนอมมาทั้งชีวิต
เสียใจ เสียความฝัน เสียพลัง
ในการจะตื่นขึ้นมาแต่ละวันเพื่อรับมือกับวันต่อๆไป

ร้องเถอะ...ร้องไห้
ร้องไห้พอหากการเสียน้ำตา
มันจะทำให้เธอได้ความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมาบ้าง
หากน้ำตาจะแลกคืนมากับเรี่ยวแรงของสองมือและสองขา
พอที่จะยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง

อะไรทุกอย่างในโลกไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราอย่างแท้จริง
ทุกอย่างย่อมมีวันสลายหายไปตามกาลเวลา
บางอย่าง...ต้องมีวีนเปลี่ยนเจ้าของ
เปลี่ยนคนครอบครอง




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 21:03:29 น.   
Counter : 852 Pageviews.  

...แค่ฝันร้าย จะฝันได้สักกี่คืน...

เชื่อมั่นในเวลาเถอะ...
ว่าเวลาจะลบความรู้สึกของการไม่เหลืออะไร
ไปจากเราได้ในวันหนึ่ง
แล้วความทรงจำเก่าๆจะเป็นเพียงซากอดีต
และความเจ็บปวดในคืนวันเก่าเป็นเพียง ฝั น ร้ า ย ที่พอเราตื่นขึ้นมาเราก็จะได้มีเรื่องเล่า
และทำนานยฝันกันเล่นๆ
ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น...
การนอนหลับแต่ละคืนก็แตกต่างกันไป
บางคืนก็หลับง่าย...บางคืนก็หลับยาก...
มีบางคืนที่ฝันดี...มีบางคืนที่ฝันร้าย...
แต่ไม่ว่าเราจะฝันดีสักแค่ไหนหรือฝันร้ายสักแค่ไหน
แต่สุดท้ายเราก็ต้องตื่น และมันก็จะผ่านไป
ที่เกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ได้มีความหมายอะไรให้ลึกซึ้ง
..........................

หากคืนนี้ฝันร้ายก็ไม่เป็นไร...
เพราะยังมีคืนต่อๆไปให้ได้ฝันอีกมากมาย
ไม่มีประโยชน์ที่จะมัวเจ็บจมอยู่กับฝันร้าย
ค่อยๆลืมตา มาอยู่ในโลกของความเป็นจริง
มาดูว่ามันกว้างใหญ่แค่ไหน
ฝันร้ายไม่น่าจดจำ หรือคร่ำครวญ
นอกจากมันจะไม่เคยทำอะไรให้ดีขึ้นแล้ว
ไม่เคยช่วยซับน้ำตา...ไม่เคยช่วงหุงหาอาหาร
ไม่เคยเยียวยายามป่วยไข้
มันมีแต่จะฉุดเราลงไปอยู่ในโลกของความท้อแท้และหมดหวังในชีวิต

ปัจุบันต่างหากที่เป็นความจริง
เป็นของเราและอยู่กับเรา
เพื่อที่จะคอยบอกเราอยู่เสมอว่าเราจะต้องอยู่
ต้องหายใจให้พ้นไปถึงพรุ่งนี้...
และอยู่ให้พรุ่งนี้ของทุกๆวัน

" แม้ว่าคนเราจะมีความเข็มแข็ง
ในการลืมบางสิ่งบางอย่างไม่เท่ากัน
แต่โลกก็มีเวลาให้เพื่อการลืมเหมือนกัน"


อาจเร็วบ้าง...ช้าบ้างไม่ใช่สิ่งสำคัญ
และความฝันไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว
ก็แค่ฝันร้าย...จะฝันได้ซักกี่คืนกัน




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 19:04:00 น.   
Counter : 623 Pageviews.  

ใช้กำแพงไปให้ถึงประตู

ปั ญ ห า
จะจับเราโยนเหวี่ยงเข้ามาในห้องมืดทึบอย่างแรง
ความมืดของห้องสี่เหลี่ยมนั้น
อาจทำให้เราต้องหรี่ตาเพื่อปรับแสงในความมืด
และอาจต้องใช้เวลานานซักหน่อย
ที่ตาจะสามารถมองเห็นได้เพียงลางๆ
ไม่จำเป็นต้องตกใจในความแปลกที่แปลกทาง
จนต้องรีบร้อนหาทางออก
นั่งปรับใจ...ปรับอารมณ์ให้เคยชินสักพัก
การที่เราได้มาอยู่ในห้องเงียบๆไม่มีคนรบกวน
ก็ทำให้เรามีเวลานั่งคิดทบทวนอะไรต่างๆมากขึ้น
นั่งพัก นอนเหยียดขา หยุดวิ่งวน
และร้อนรนกับทุกสิ่งทุกอย่าง...และอยู่กับตัวเอง
หายเหนื่อยแล้วค่อยมาคิดว่า
เราจะออกจากห้องนี้ได้อย่างไร
เริ่มต้นจากการคิดว่าห้องทุกห้องในโลกนั้นย่อมมีประตู
แตความมืดอาจทำให้เราหามันเจอยากสักนิด...
..................

จงอย่าท้อถอย...แสงสว่างที่ลอดมาจากช่องประตู
อาจจะเลือนลางยิ่งกว่าแสงไม้ขีดไฟ
แต่นั่นเป็นสิ่งเดียว...ที่จะบอกว่า เรายังมีความหวัง
แสงสว่างนั้นจะเป็นแรงผลักดันให้เราเร่งมือ
เพื่อที่จะออกไปเผชิญกับโลกภายนอกอย่างอาจหาญ
จะคอยส่งเสียงให้กำลังใจให้เรามีความฮึกเหิม
ประหนึ่งว่ากำลังแข่งขันอะไรสักอย่าง
เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
แต่หากในท้ายที่สุดแล้ว...
ดวงตาของเราไม่อาจมองเห็นสิ่งใดนอกจากกำแพงทึบ
ก็จงอย่าโทษดวงตา
เพราะดวงตาก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเท่าที่มันจะทำได้
และการมองไม่เห็น ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีประตู

"คนที่ยอมแพ้ต่อชีวิต
จะรู้สึกว่า ทั้งห้องเต็มไปด้วยกำแพง
แต่คนที่ไม่ยอมแพ้
จะใช้ทุกด้านของกำแพงไปให้ถึงประตู"


เมื่อมองหาไม่เจอ...ลองหลับตา...
ค่อยๆใช้สมอง ใช้หัวใจ ค่อยๆสัมผัสกับผนัง
คลำกำแพงไปให้ถึงประตู
ค่อยๆคลำมันไปทุกๆกด้าน...มันอาจะช้าหน่อย
แต่ต้องมีสักด้านที่เป็นประตู




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 18:44:57 น.   
Counter : 488 Pageviews.  

กรวดทราย กลายเป็นแก้ว

สิ่งธรรมดาที่อาจดูไร้ค่า ไร้ประโยชน์
สร้างสิ่งมีค่ามานับไม่ถ้วน
ไม่มีอิฐก้อนที่หนึ่งจะไม่มีตึกที่สูงตระหง่าน
สิ่งที่เราเห็นว่าไม่สำคัญ
อาจกำลังรอให้เราหยิบจับขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับโลก
ความคิดของคนนั้นมีพลังในการสร้างสรรค์มากมาย
และของเล็กน้อยทุกอย่างก็กำลังรอวันเติบโต
ถ้าคนมัวแต่ดูถูกกรวดทรายแล้วคิดเพียงแค่จะเหยียบย่ำ
โลกของเราคงไม่แก้วใสๆให้ได้ใช้
ทรายไม่เคยอยากไร้ค่า...คนต่างหากที่ไม่เคยเห็นคุณค่า
หรือเพราะว่าเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเท่านั้น
จึงถูกคนมองข้ามและไม่เคยเห็นความสำคัญ
ของทุกอย่างในโลกมีค่าในตัวของมันเองเสมอ
เพียงแต่ว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร...กับใคร
ของที่ไม่มีประโยชน์กับเรา
อาจมีค่ามหาศาลกับคนอีกคน

เสื้อกันหนาวที่เราซื้อมาทิ้งไว้ในตู้โดยไม่เคยใส่
ไม่เคยแยแส
อาจเป็นความฝันทั้งชีวิตของคนชรา
ที่ต้องทนต่อความหนาวเหน็บบนยอดดอย

ตุ๊กตาเก่าๆหนึ่งตัวที่เราเล่นจนเบื่อ
และวางทิ้งไว้กับกองรองเท้า
อาจเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่เด็กเร่ร่อนคิดอยากจะมี

หนังสือเล่มเก่าที่เราปล่อยทิ้งไว้
ให้ตากฝนบนระเบียงบ้าน...จนพองและขึ้นรา
อาจเป็นสิ่งที่เด็กหลายคน
กำลังทำงานหนักเพื่อที่จะซื้อมัน

ลองนึกย้อนไปว่าชีวิตเราได้หลงลืม
ละเลยอะไรไปบ้าง...ได้ทิ้งอะไรไปบ้าง
และตอนนี้มีอะไรที่กำลังจะทิ้ง
จะดีไหมหากจะทำให้มีประโยชน์เป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่จะเสียมันไป
..........
ไม่ต้องสนใจว่าใครจะขว้างหินทิ้งไป
แต่จงดูว่า...ใครจะหยิบหินก้อนนั้นมาสร้างบ้าน
ทรายอยู่บนพื้นอาจไม่มีประโยชน์
แต่เมื่อถึงเวลาสร้างประโยชน์
ทรายก็ทำได้อย่างยิ่งใหญ่

"...คนเก่ง... ไม่ใช่คนที่มองเห็นสิ่งที่สวยงาม
แล้วบอกว่ามันมีค่า
แต่คือคนที่มองของธรรมดา
แล้วรู้ว่าจะทำมันให้มีค่าได้อย่างไร"




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 18:31:04 น.   
Counter : 878 Pageviews.  

แรงปะทะ

ธรรมชาติสอนให้เราเรียนรู้
" ก า ร ลุ ก"
ด้วย
" ก า ร ล้ ม"
เพราะธรรมชาติรู้ว่า
ใ น ถ น น ทุ ก ส า ย
ล้วนมีก้อนหินระเกะระกะอยู่ข้างหน้า
ก้อนหินที่ถูกสร้างมาเพื่อทดสอบชีวิต
ยามที่ล้มก็ย่อมบาดเจ็บและเสียเวลา
ใครที่สะดุดหินก้อนเล็ก ก็อาจเพียงแค่ซวนเซ
ใครสะดุดหินก้อนใหญ่ก็อาจล้มอย่างไม่เป็นท่า
" ก้ อ น หิ น " อาจสำคัญ
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่า คือ "แรงปะทะ"
ก้อนหินที่ตั้งอยู่ตรงหน้า
ถ้าพุ่งชนเพื่อที่จะให้มันแตก...
เราเองนั่นแหละที่จะเจ็บหนัก
ถ้าค่อยๆหาวิธีผลักมันออกไป...
เ ร า อ า จ จ ะ เ ดิ น ต่ อ ไ ป ไ ด้

ในการยกหิน
" หินบางก้อนต้องใช้แรง หินบางก้อนต้องใช้สมอง"




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2550   
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 18:15:45 น.   
Counter : 767 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

Milintaria
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ยิ้มให้ความผิดหวัง....อย่างคนคุ้นเคย
ยิ้มให้ความมืดมน อย่างคนรู้จักกัน
นี่คือเพื่อน เก่า ที่เรา ต้องเจอ
เจอกันเมื่อนานแสนนาน

ร้องไห้ให้กับมัน ช่างดูง่ายดาย
เหมือนมันไม่ท้าทาย เท่า เรายิ้มให้มัน
สุขก็ยิ้มได้ เจ็บก็ยิ้ม ได้
ให้ราคามันเท่ากัน ยิ้มให้มันก็ พอ.....
[Add Milintaria's blog to your web]