Group Blog
 
All blogs
 
วิวาห์ลวง บ่วงหัวใจ ตอนที่ 4





ตอนที่ 4





ทันที่ที่จิณัฐตาเปิดประตูเข้าในร้านคอมพิวเตอร์ของตน ปกรณ์ก็ถลามาหาเธออย่างรวดเร็ว หนุ่มเข้มยิ้มจนเห็นฟันครบทั้งสามสิบาสองซี่ จิณัฐตามองเพื่อนสนิทด้วยสายตาแปลกประหลาด


“ เป็นอะไรไปยะ ” จิณัฐตาถามเสียงสูง “ แกมีพิรุธชะมัดเลยนะกร ”


“ ก็วันนี้ฉันเห็นแกมีความสุข ฉันเลยมีความสุขด้วยน่ะสิ ” เขาบอก พลางตบไหล่เพื่อนเบา ๆ สองสามที แล้วคนตัวสูงก็เดินดุ่ม ๆ ไปที่โต๊ะทำงานของจิณัฐตา และกลับมาพร้อมกับดอกไม้ช่อโต


“ เอามาให้ทำไม ” จิณัฐตาเกาหัวแกรก ๆ “ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นแกจะสนใจใยดีฉันเลย แล้วนี่จู่ ๆ เอามาให้ทำไม ”


“ โหย..ไอ้บ้า ” ชายหนุ่มด่าเข้าให้ ไม่คิดว่าเพื่อนจะเข้าใจผิดได้ขนาดนี้ คิดแล้วก็ขำเมื่อเช้าที่เขากำลังรถน้ำต้นไม้อยู่หน้าร้าน ใครก็ไม่รู้ก็เดินเข้ามาพร้อมกับดอกไม้ รู้แต่ว่าหล่อบาดจิต หน้าตาคมเข้ม สูงแมนแฮนซั่มมาก ขนาดเขาเป็นผุ้ชายยังอดตะลึงไม่ได้ จิณัฐตาที่ฟังเขาเล่าบรรยายความหล่อของผู้ชายคนนั้นอยู่นานก็หรี่ตามองเพื่อนอย่างไม่แน่ใจว่ามันจะ ‘ แมน ’ จริงหรือเปล่า


“ แกอย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ฉันแมน ถ้าไม่แน่ใจลองสักคืนไหม ” ปกรณ์ยักคิ้ว ทำหน้าทะเล้นแต่จิณัฐตาไม่ขำด้วย ตีแขนเพื่อนเบา ๆ


“ หยาบคายจริง ๆ ”


“ ว่าแต่ไม่ต้องมาเฉไฉ ตกลงแกรู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ” จิณัฐตาทำหน้าแหย อึก ๆ อัก ๆ ไม่อยากจะบอกว่าผู้ชายที่เพื่อนว่าหล่อนักหล่อหนานั้นมาตามจีบเธอ แถมยังเป็นคู่นัดบอดอีกต่างหาก จึงได้แต่ปฏิเสธไปแล้วขอตัวไปทำงาน หากแต่คนที่โดนตัดบทเอาง่ายกลับไม่เชื่อ เชอะ..ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ จีนจ๋า...


เกือบหกโมงเย็นแล้ว จิณัฐตากับปกรณ์เห็นว่าควรปิดร้านและแยกย้ายกันกับบ้านกลับช่องเสียที ด้วยเหตุที่ว่า ปกรณ์ติดละครเย็น ..จิณัฐตายอมให้เพื่อนแสนแมนของเธออย่างเสียมิได้ เพราะขืนอยู่ไปลูกค้าก็ไม่ค่อยมีอยู่ดี ดังนั้นตั้งแต่เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน เวลาปิดร้านจึงเลื่อนจากสองทุ่มเป็นหกโมงเย็นแทน และไม่ทันที่จิณับตาจะก้าวพ้นร้าน รถสีบอร์นคันหรูก้มาจอดเทียบหน้าร้าน ปรกรณ์ผิวปากเป็นเสียงเพลงรักตามสมัยนิยมล้อเรียนเพื่อน ก่อนจะโบกมือลาเงียบ ๆ หลังจากมองจนแน่ในแล้วว่า เป็นคนคนเดียวกับที่เอาดอกไม้มาให้เพื่อนของเขาเมื่อเช้า
พิพิทธนมองตามร่างสูงที่ขัยรถชอบเปอร์ออกไป ก่อนจะหันมายิ้มเศร้า


“ ดูท่าทางสนิทกันจังนะครับ ” ถามเสียอ่อยเพื่อเรียกร้องความสนใจ และมันได้ผลจิณัฐตารีบโบกมือปฏิเสธทันควัน


“ ไอ้..เอ่อ...กรเป็นเพื่อนฉันเองค่ะ ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ” หญิงสาวอยากจะตบปากตัวเองสักร้อยครั้ง เมื่อเห็นสีหน้ายินดีปรีดาของอีกฝ่าย จะแก้ตัวทำไมเนี่ย...


“ งั้นไปทานอาหารกับผมสักมื้อนะครับ ผมเลี้ยงเอง คราวเนี้ย รับรองไม่เวอร์ ” ชายหนุ่มยกนิ้วโป้งขึ้นรับรองว่าอร่อยจริง จิณัฐตาทำหน้าลำบากใจ ก่อนจะตอบรับเบา ๆ


รถสีบอร์นคันงามแล่นฝ่าการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดไปสู่ชานเมืองย่านสมุทรปราการ ซึ่งมีร้านอาหารชื่อดังอยู่หลายร้าน และจนกว่าจะมาถึงจุดหมาย แสงสีส้มที่เคยจับขอบฟ้า ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มของยามราตรีเสียแล้ว พิพิทธนเลี้ยวรถเข้าจอดบริเวณโรงจอดรถ ก่อนจะเดินนำหญิงสาวเข้าไปในร้านอาหาร
จิณัฐตาออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่บรรยากาศของร้านที่เขาพาเธอมาทานอาหาร แตกต่างกันทุกครั้ง ครั้งนี้ร้านอาหารดูเป็นกันเองมากขึ้น มีผู้คนพลุกพล่าน เนื่องจากเป็นร้านอาหารทะเลที่ราคาไม่สูงมานัก ซ้ำยังใกล้กรุงเทพจึงเห็นภาพครอบครัวออกมาสังสรรค์กันพร้อมหน้าพร้อมตา พาลให้คิดถึงพ่อแม่ที่อยู่ที่บ้านไม่ได้ จิรัฐตาหย่อนตัวลงบนเก้าอี้พลาสติกสีขาวช้า ๆ ก่อนจะรับเมนูจากบริกรมาเปิดเลือกเล็กน้อย เธอไม่เลือกที่จะไปเลือกตัวที่ยังมีชีวิตที่เขามีบริการอยู่ หากแต่ยอมทานที่เขาเตรียมไว้แล้วดีกว่า


“ ทำไมไม่เลือกเองล่ะครับ สดกว่าด้วย เลือกได้จะเอาผอมอ้วนยังไง ” พิพิทธนถามขึ้น หลังจากสั่งรายการอาหารเรียบร้อย


“ ฉันไม่อยากไปชี้ตัวเป็น ๆ หรอกค่ะ มันเหมือนจงใจจะเอาชีวิตเขา มันบาป ” พิพิทธนมองเธอยิ้ม ๆ ไม่พูดอะไร ก่อนจะมองไปที่สระน้ำที่ร้านจัดไว้ ในใจพลันคิดหมั่นไส้คนนั่งตรงข้ามว่าทำเป็นกลัวบาป มือถือสากปากถือศีลแท้ ๆ เขาไม่เข้าใจเลยว่าเธอไม่คิดหรือว่าการที่เธอแย่งสามีคนอื่นไม่บาปหรืออย่างไร
อาหารเริ่มทยอยมาทีละอย่าง จิณัฐตามองอาหารตรงหน้าอย่างตื่นเต้น เธอเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่ากินอาหารทะเลครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจจะเป็นตอนฉลองรับปริญญา ซึ่งมันก็นานพอตัว หญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างลืมตัว จนเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกมอง หญิงสาวจึงลูบผมที่มัดเป็นหางม้าของตัวเองแก้เก้อ


“ เอ่อ....ฉันลืมตัว ทำท่าตะกละไปสักนิด แย่จังเลยนะคะ ” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี พิพิทธนเองก็อดจะมองอย่างชื่นชมไม่ได้ ว่าช่างเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน ถ้าเขาไม่เห็นกับตาว่าผู้หญิงตรงหน้าจูบกับสามีของพิมพ์สุจีอยู่หน้าบ้านกับตา เขาก็ไม่อยากจะเชื่ออย่างปักใจเด็ดขาด


“ งั้น เดี๋ยวฉัน ขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ จะได้กิน..เอ้ย ทานได้เต็มที่ ” หญิงสาวป้องปากพูดอย่างเป็นกันเอง พิพิทธนจึงอดหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กของเธอไม่ได้ เขาผายมือแทนคำอนุญาต และทันทีที่หญิงสาวเดินไปจนลับสายตา รอยยิ้มนั้นก็มลายหายไปจากหน้าเข้มแทบจะทันที


พิพิทธนเหลียวซ้ายแลขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใครมองเขาอยู่แน่ ๆ ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ หยิบซองยาเม็ดสีขาวขึ้นมา หยิบยาเม็ดเล็กออกมาห่อด้วยกระดาษทิชชูแล้วบดจนละเอียด จากนั้นจึงค่อย ๆ เทใส่ในแก้วน้ำของหญิงสาวและคนมันช้า ๆ จนละลายไม่เห็นตะกอน
เมื่อจิณัฐตามาถึง ก็เริ่มรับประทานอาหารโดยไม่รอให้อาหารครบ หญิงสาวคุยอย่างเป็นกันเองมากขึ้นเมื่อเขาชวนคุยถึงเรื่องสัตว์ที่มารักษาที่โรงพยาบาล หรือเธอเล่าเรื่องสุนัขพันธุ์ Chinese Crested ของเธอว่าแสนรู้ ทำให้เขาแทบจะทานอาหารไม่ลง เพราะถึงแม้เขาจะเป็นสัตวแพทย์ไม่ควรเกลียดหรือกลัวสัตว์ชนิดใด หากแต่เขาก็ขอยกเจ้า Chinese Crested ที่หน้าแบ๊ว แต่ตัวไม่มีขนนี่ไว้ตัวหนี่ง
จิณัฐตาเริ่มรู้สึกว่าเธอพูดมากเกินไป จนทำให้พลังงานในตัวเริ่มร่อยหรอหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ใจคือ ในตอนนี้ภาพมันพร่ามัวเหมือนตอนที่เธอขโมยแว่นตาของพ่อมาใส่ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่ปาน หญิงสาวกำกระบวยตักต้มยำทะเลแน่น ก่อนจะพยายามบอกกับตัวเองว่าไม่ได้มึนแต่อย่างใด ด้วยการยื่นมันออกไปหมายจะตักเอาหอยแมลงภู่มากินอีกสักตัว หากแต่ยังไม่ทันที่กระบวยจะถึงหม้อต้มยำ ร่างบางก็ร่วงฟุบลงไปกับโต๊ะ


ท่ามกลางความตกใจของผู้ที่พบเห็น บริการคนหนึ่งวิ่งมาดูเหตุการณ์ พิพิทธนจึงเอาตัวรอดด้วยการบอกว่าเธอท้องแล้วหน้ามืด จึงขอให้บริกรช่วยพยุงร่างบางไปส่งที่รถ
พิพิทธนมองคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอย่างนึกสงสาร เขาเองก็ไม่อยากจะใช้วิธีสกปรก ๆ เช่นนี้กับหญิงสาววัยละอ่อนเช่นเธอ หากแต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอทำ มันกลับเป็นข้อสนับสนุนที่มีน้ำหนักมากจนทำให้ความสงสารตกไปจากการพิจารณา พิพิทธนเสียบบลูธูทที่หู ก่อนจะกดโทรศัพท์หาใครบางคน


“ ตอนนี้ใกล้ถึงโรงแรมแล้ว คุณเตรียมตัวให้พร้อมด้วย ”
พิพิทธนอุ้มหญิงสาวที่นอนหมดสติข้ามาในโรงแรมอย่างไม่สนใจสายตาของคนที่พบเห็น และเมื่อยามเดินมาถาม เขาก็ตอบแต่เพียงว่าภรรยาของเขาหมดสติ และต้องการพักผ่อน ชายหนุ่มตรงดิ่งขึ้นห้องพักที่จัดเตียมไว้ เขาเคาะประตูสามสี่ครั้ง ชายหนุ่มหน้าซื่อ ซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซด์แถวคลินิกก็เปิดประตูรับ เมื่อเขาเห็นสภาพจิณัฐตาแล้วก็หน้าเหวอ ถึงเขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เขาก็รู้โดยสัญชาติญาณว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่


“ หมอ...หมอจะทำอะไรน่ะ ” เขาถามเสียงสั่น หลังจากปิดประตูห้องเสร็จ


“ ไม่ต้องถามหรอกน่า รับรอง ผมไม่ได้เรียกพี่มาทำอะไรไม่ดี ” พิพิทธนบอก หลังจากวางหญิงสาวลงบนเตียงเสร็จ เขาเอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออก มือหนาสั่นเล็กน้อย เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผู้หญิงที่รู้จักมักจี่มาก่อน เคยก็แต่กลับผู้หญิงใจแตกที่มาเสนอตัวให้เขาเพียงครู่ก็จากไป ชายหนุ่มชะงักมือเมื่อเห็นบราสีชมพูอ่อนของหญิงสาว เขาดึงผ้าขึ้นมาคลุมร่างไร้สติจนมิดถึงคอ ก่อนจะหันไปหาหนุ่มวินมอเตอร์ไซด์ที่พยายามชะเง้อมองร่างบาง


“ พี่ออกไปครุ่นึงได้มั้ย ผมจะถอดเสื้อเธอ ” เขาถามหน้าเครียด คิ้วหนาขมวดเหมือนผูกโบว์


“ ถอดเสื้อ !!! คุณจะทำอะไร ” เขาถามตาลุกตาพอง สีหน้าเริ่มเครียด


“ ผมไม่ข่มขืนเธอหรอก ถ้าผมจะข่มขืนผมจะเรียกพี่มาทำไม เอาเป็นว่าพี่ไปอยู่ในห้องน้ำซักครู่
นะครับ ”
หลังจากที่ผู้ช่วยจำเป็นหลบแกไปเรียบร้อย เขาก็ค่อย ๆ ลดผ้าห่มลงมาเพื่อปลดกระดุมต่อจนครบ เผยเนินอกอิ่มภายใต้การโอบอุ้มด้วยบราลูกไม้ตัวจิ๋ว พิพิทธนทำหน้าบอกไม่ถูก เขาค่อย ๆ ปลดสายบราออก เหลือแต่เพียงตัวบราที่โอบอุ้มทรวงอกไว้ครึ่งหนึ่ง เขาดึงผ้าห่มหนามาลองปิด...มันดูเหมือนเธอไม่ได้ใส่อะไรเลยจริง ๆ เขายิ้มอย่าพอใจ ก่อนจะปลดเสื้อเชิ้ตของเขาออก เผยให้เห็นแผงอกแข่งแกร่ง และหน้าท้องแข็งแรงจากการออกกำลังกายเป็นประจำ ชายหนุ่มกระโดดขึ้นเตียงและเรียกให้ผู้ช่วยออกมา เมื่อเขาออกมาเห็นภาพถึงกับร้องเสียงหลง จนพิพิทธนต้องทำสัญลักษณ์บอกให้เขาเงียบเสียง


“ พี่ถ่ายรูปจากที่ไกล ๆ เอาสวย ๆ นะ สักยี่สิบรูป แล้วเดี๋ยวผมเลือกเอง ”

หนุ่มวินมอเตอร์ไซด์ช่วยคิดท่า จัดท่าทาง ถ่ายรูปอย่างเกร็ง ๆ รู้สึกเหมือนขาข้างหนึ่งจะก้าวเข้าไปในคุกอย่างไรไม่รู้ เขาจัดท่าหลายท่าจนคิดว่ามันคงจะไม่เนียน ถ้าขาดซ็อตจูบ ซึ่งพูดเท่าไหร่ พิพิทธนก็ไม่ยอม จนต้องอ้างว่าถ้าไม่ทำ สิ่งที่ลงทุนทำมาตลอดก็จะไม่สำเร็จ
ชายหนุ่มค่อย ๆ ก้มลงบรรจงแนบริมฝีปากหนาลงบนแก้มนวล เขาคิดว่าถึงเขาจะเลวเพียงไรแต่เขาก็มีจิตสำนึกพอที่ไม่ฉวยโอกาสทำกับเธอเยี่ยงสัตว์ป่าจริง ๆ


“ ทีนี้จูบปากเน้น ๆ เลยนะครับหมอ หมอจูบหมอนมาหลายรอบแล้ว ” จบประโยค พิพิทธนก็ทำหน้าปูเลี่ยน มองร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่อย่างทำใจ ก่อนจะค่อย ๆ กลั้นใจก้มลงประกบปากหนาลงบนริมฝีปากบางเพียงแตะ ๆ จนกระทั่งเสียงตากล้องบอกว่าโอเค เขาจึงออกห่างจากร่างบางโดยไม่ได้ทำอะไร เขาส่งหนุ่มวินมอเตอร์ไซด์ให้เงินเขาไปและไม่ลืมกำชับว่าไม่ใช้บอกใคร


วินมอเตอร์ไซด์พยักหน้ารับรู้และจากไปอย่างเงียบ ๆ มองเงินในมือพลางคิดว่าจะเอาไปซื้อของดี ๆ ให้แม่ของเขา และอาจจะเหลือพอสำหรับภรรยาและลูกตัวเล็กอีกด้วย แม้ว่าในใจของมอเตอร์ไซด์รับจ้างหนุ่มจะรู้สึกผิดต่อหญิงสาวมากเท่าไหร่ก็ตาม


สัตวแพทย์หนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะมองคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง เขาลูบผมเธอเบา ๆ ก่อนจะเผลอยิ้มอย่างอย่าลืมตัว


“ ถ้าคุณไม่แย่งสามีคนอื่น ผมก็คงไม่ทำร้ายคุณขนาดนี้ ยิ่งคนคนนั้นเป็นคนที่ผมรัก ผมยิ่งให้ปล่อยคุณไปไม่ได้ ”



จิณัฐตาค่อย ๆ บิดตัวไปทางซ้ายเพื่อคลายความเมื่อยล้า วันนี้หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองนอนเต็มตื่นกว่าทุกคืนที่ผ่านมา เธอลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะยกมือบางทุบหัวตัวเองเบา ๆ เพราะถึงแม้ว่าจะนอนเต็มตื่นแต่ก็อดจะมึนหัวไม่ได้ เธอมองไปรอบ ๆ ห้องบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคยทำให้หญิงสาวขมวดคิ้ว ที่นี่ที่ไหนเธอก็จำไม่ค่อยจะได้นัก ยิ่งถ้าถามว่ามาที่นี่ได้อย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะความทรงจำสุดท้าย เธอยังอยู่ที่ร้านอาหารทะเลนั่นกับพิพิทธนอยู่เลย


อยู่กับพิพิทธน !!!


หญิงสาวหันมองข้างตัว...ร่างกำยำของใครคนหนึ่งนอนหลับตาพริ้ม หายใจเบา ๆ เป็นจังหวะ คิ้วหนาเข้ม เปลือกตาที่ปิดสนิท
คือเขา....
คือเขา


พิพิทธนที่นอนอยู่ข้างเธอ !!!


จิณัฐตาก้มลงมองสภาพตัวเองที่กระดุมถูกปลดจนหมด ท่อนล่างก็เหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเล็ก หญิงสาวตกใจจนสะดุ้ง รีบกลัดกระดุมอย่างรีบร้อนลนลาน นี่มันเกิดอะไรขึ้น เธอสับสนไปหมด ดวงตาสดใสของเธอบัดนี้เต็มไปด้วยความกังวล ความตื่นกลัว เสียงหัวใจเต้นรัวแรงดังก้องไปทั่วทั้งสมอง และยังไม่ทันรู้ว่าสิ่งใดไปกระตุ้นต่อมน้ำตาให้ทำงาน น้ำร้อน ๆ ก็ไหลอาบสองแก้มเสียแล้ว เธอกลืนน้ำลายตัวเองเพื่อหวังว่าจะลดความตึงเครียดของสมองในตอนนี้ หญิงสาวเอื้อมมือไปเขย่าร่างที่นอนหลับอยู่ มือเล็กสั่นเทาจนแทบจะไม่มีกำลัง หากแต่ต้องกลั้นใจยื่นออกไปเขย่าร่างนั้น ไม่นาน คนที่นอนอยู่ ก็รู้สึกตัว เขาขยี้ตาเหมือนเด็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ


“ ตื่นแล้วหรือครับ ” เขาถามเสียงหวาน ก่อนทีมือหนาจะเอื้อมมาลูบผมยุ่ง ๆ ของเธอ สายตาที่มองมา หากไม่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เธอจะคิดว่ามันช่างอบอุ่นเหลือเกิน หากแต่ตอนนี้เธอกลับปัดมันออกอย่างไร้ค่า


“ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ” ตะคอกเสียงสั่น แววตาไหวระริก “ คุณอธิบายมาสิ ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันกับคุณถึงมานอนอยู่บนเตียงเดียวกันได้ บอกมาสิ !!! ” หญิงสาวตะคอกอีกครั้ง พร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรู


“ ผมไม่อยากจะพูด....ผมว่าคุณเองก็พอนึกออกนะครับจีน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น...อีกอย่าง คุณเป็นคนเริ่มเองนะครับ ผมพยายามแล้ว แต่เพราะผมเองก็พอใจในตัวคุณเช่นกัน เมื่อคืนจึงเป็นคืนที่ผมมีความสุขที่สุด ” คำพูดนั้น คนพูดเอ่ยออกมาอย่างไม่ละอายปาก ก่อนเอื้อมมือมาลูบผมเธอเบา ๆ อีกครั้ง ครั้งนี้เธอยอมให้เขาลูบ หากแต่สายตาที่มองกลับมานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอมองเขานิ่ง นาน จนน้ำตาที่เคยเอ่อเต็มสองตาเหือดแห้งไป


“ ไม่ต้องกลัวนะคนดี ผมจะรับผิดชอบจีน จะหมั้นกับจีน จะสร้างครอบครัวกันอย่างมีความสุข พ่อของผมจะกลับมาจากต่างจังหวดแล้ว ผมจะให้ท่านไปทาบทามคุณ ถึงแม้เราจะรู้จักกันได้เพียงสัปดาห์เดียว แต่ผมก็เชื่อมั่นในรักแท้นะครับจีน  ”


“ ไม่ต้อง...” หญิงสาวบอกช้า ๆ หากแต่ชัดเจนจนทำให้พิพิทธนชะงัก


“ ไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบฉัน...ฉันไม่สนใจกับเรื่องแบบนี้หรอก มันก็แค่คืนเดียวเท่านั้น ความสัมพันธ์ฉาบฉวยแบบนี้ มีถมไปในสังคมเน่าเฟะในปัจจุบัน หรือคุณจะเถียงคะ ว่าคุณไม่เคย ”


“ ผมเคย...แต่ที่ผมไม่ใส่ใจก็เพราะผู้หญิงพวกนั้นเขาคนละชั้นกับคุณ ” เขาบอก พยายามหว่านล้อม ถึงแม้ในใจจะนึกรังเกียจผู้หญิงง่าย ๆ อย่างเธอเต็มทนก็ตาม


“ ผู้หญิงมีค่าทุกคน ฉันขอยืนยัน !!! ” เธอบอกอย่างหนักแน่น ก่อนที่มือบางจะปัดมือของพิพิทธนออกอย่างแรง
“ แล้วก็เอามือสกปรกของคุณออกจากผมของฉันได้แล้ว ขยะแขยง !!! ”


“ จิณัฐตา !!! ” พิพิทธนหมดความอดทน เรียกชื่อเธอเสียงดัง “ คุณไม่มีสิทธิที่จะรังเกียจผมนะ แค่จับหัวหน่อยเดียวทำเป็นเล่นตัว ทีเมื่อคืนผมจับมากกว่านั้น คุณยังไม่บ่นสักคำ !! ”


เพี๊ยะ !!!!!!!!!!!


พิพิทธนหน้าหันไปตามแรงผ่ามือของหญิงสาว เขาหันกลับมามองด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว เธอเองก็สบตาเขาโดยไม่หลบเช่นกัน หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดออกซิบ ๆ หญิงสาวยกริมฝีปากข้างหนึ่งขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน


“ อย่ามายุ่งกับฉันอีก ถ้ามายุ่งอีก ฉันจะแจ้งความ !! ” เธอลุกขึ้นยืน ก่อนจะกอดอกมองเขาด้วยสายตาดูถูกที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับมา “ ส่วนเรื่องเมื่อคืน ฉันก็ถือว่าให้ทานกับคนอดอยากปากแห้งแล้วกัน ทำบุญกับคนน่ะ มันคงได้บุญมากโข จริงมั้ยคะ ”


พิพิทธนมองคนที่เดินเข้าห้องน้ำไปเงียบ ๆ ก่อนจะต่อยหมัดหนัก ๆ ลงไปบนหมอนเพื่อระบายอารมณ์โกรธแค้น เธอมันสำส่อนได้โล่จริง ๆ ให้ตายเถอะ ผู้หญิงแบบนี้อันตรายต่อผู้ชายทั้งโลก เขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงหน้าตาใสซื่อ ดูเหมือนเด็ก ๆ อย่างเธอจะผ่านผู้ชายมากี่คน แต่เขาก็เชื่อว่า สพลอะไรนั่น คงไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวของเธอเป็นแน่ ....พิพิทธนยิ้มเย็น เมื่อนึกถึงรูปที่เขาถ่ายเอาไว้


ปากดีนักใช่ไหม ??
อยากรู้นักว่าถ้าเธอเห็นรูปพวกนั้น เธอจะทำหน้ายังไง แล้วถ้าผู้ใหญ่เห็นรูปพวกนั้น เธอจะหนีจากเขาพ้นหรือไม่ !
คิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงจัดการสางผมด้วยมือลวก ๆ ก่อนจะคว้าข้าวของส่วนตัวออกไปจากห้องทันที โดยไม่ร่ำราผู้ที่กำลังอาบน้ำเพื่อขัดราคีออกจากร่างกายอย่างแสนเจ็บปวดเลยสักนิด







Free TextEditor














Create Date : 22 เมษายน 2553
Last Update : 22 เมษายน 2553 20:21:38 น. 2 comments
Counter : 305 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:22:58:11 น.  

 
ทักทายค่ะ...
เข้ามาโพสติชมกันได้นะคะ


โดย: kibosi วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:19:37:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kibosi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kibosi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.