Group Blog
 
All blogs
 
วิวาห์ลวง บ่วงหัวใจ ตอนที่ 2





ตอนที่ 2


หญิงสาวในชุดเดรสแขนกุดสีโอรส ผมหยิกเป็นลอนของเธอมัดรวบไว้อย่างเรียบร้อยด้วยผ้าสีขาวสะอาดรับรู้ถึงสายตาของคู่ดูตฃัวที่มองตรงมาทางเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอก้วเข้ามาในที่นี้ จนตอนนี้ สายตาของเขาก็ยังคงจดจ้องมาที่เธอ หากแต่สายตานั้นไม่ใช่สายตาพิศวาสอย่างที่ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เคยไปดูตัวด้วยมอง แต่สายตาคมที่มองมานี้เป็นสายตาแห่งความสงสัยระคนแปลกใจ ดวงหน้าสดใสจึงทำได้เพียงหรุบต่ำลงตลอดเวลาที่นั่งรับประทานอาหารร่วมกัน เพียงเพราะต้องการหลบสายตาและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันของเธอและเขา และไม่อยากให้มีใครรู้ด้วยว่าพวกเธอรู้จักกันมากก่อน เพราะมันอาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ที่เป็นแรงขับเคลื่อนความฝันของสองครอบครัว เพียงเพราะคิดว่าการบังเอิญเคยพบกันมาก่อนนั้นคือ “พรหมลิขิต” แต่จิณัฐตาก็พอจะอุ่นใจอยู่ ด้วยชายหนุ่มตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะพูดจาเหมือนว่าเคยพบกันมาก่อนแต่อย่างใด


จนกระทั่งเมื่อพิลาไลขอให้คุณพิสมัยและคุณจิราพร ‘เปิดโอกาส ’ ให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักกัน พิพิทธนจึงได้เอ่ยถามสิ่งที่สงสัยมาตลอดมื้ออาหาร


“ คุณมาที่นี่ได้อย่างไรครับ ”เขาถามอย่างสุภาพ ไม่เหลือเค้าของชายหนุ่มผู้พ่ายรักในคืนวันแต่งงานของสพล


“ ฉันโดนแม่หลอกมาน่ะค่ะ แม่บอกจะพามากินข้าว ผลที่สุดก็โดนหลอกมาดูตัวจนได้ ” หญิงสาวพูดเรื่องดูตัว ราวกับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ
แต่คำสารภาพของเธอ กลับทำให้ชายหนุ่มอดยิ้มออกมาเบา ๆ ไม่ได้ และเมื่อรับรู้ว่าเธอเองก็ไม่ได้เต็มใจมาดูตัวในครั้งนี้เท่าไหร่ เขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องพูดมันอีก


“ แล้วเรื่องวันนั้น....หมายถึงที่คุณร้องไห้ ทำใจได้แล้วหรือครับ ” เขาเปลี่ยนประเด็นในการสนทนาใหม่ เพราะรู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมา


“ ความจริงทำใจได้นานแล้วแหละค่ะ....แต่เผอิญว่าวันนั้นฉันดื่มมากไปหน่อยน่ะค่ะ ฉันเมาทีไรแล้วร้องไห้ทุกทีเลย โชคดีที่วันนั้นดื่มไม่มาก ถ้าดื่มมากมีหวังคุณต้องคุยกับฉันไม่รู้เรื่องแน่ ๆ ” พูดไปหญิงสาวก็หัวเราะไปอย่างเขิน ๆ เพราะไม่คิดว่าคนที่เห็นเธอทำตัวแย่ในคืนนั้นจะกลับมาเป็นคู่ดูตัวในวันนี้เสียได้



ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้พิลาไล คุณพิสมัยและคุณจิราพรที่แอบมองอยู่หัวเราะคิกคักชอบใจ โดยเฉพาะคุณพิสมัยที่แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางจินตนาการถึงอนาคตที่สดใสของทั้งสอง


“ คุณแม่คะ ต่อจากนี้ไป ไลจะเดินหน้าเป็นกามเทพจำเป็น ทำให้สองคนนี้แต่งงานกันให้เร็วที่สุดนะคะ ” พิลาไลเอ่ย ท่ามกลางความพอใจของทั้งสองฝ่าย


“ น้าในฐานะแม่ของฝ่ายหญิงไม่ขอขัดข้อง ” คุณจิราพรป้องปากพูด



เมื่อตรวจดูแน่แล้ว ว่าพิมพ์สุจีไม่ได้อยู่ภายในห้อง สพลจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนเพื่อที่จะหยิบของที่ลืมไว้ เขาเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อหยิบโฟมล้างหน้าและครีมที่ใช้อยู่ประจำย้ายไปอยู่ห้องพักแขกที่เขายึดเป็นที่นอนมากว่าสี่วันอย่างถาวร แต่ในขณะที่เขากำลังเก็บของลงกระเป๋าผ้าที่เตรียมมา ก็พบกับสิ่งผิดปกติบางอย่าง


“ ผ้าอนามัย...”
เขาพึมพำ ก่อนจะหยิบห่อผ้าอนามัยที่แกะแล้วและมีร่องรอยการนำไปใช้ จากจำนวนแผ่นที่ยังมีเกือบเต็มห่อ ไม่น่าจะใช้ได้หลายแผ่นนัก เมื่อชายหนุ่มชะโงกหน้าไปดูในถังขยะในห้องน้ำ ก็พบพลาสติกหุ้มผ้าอนามัยและผ้าอนามัยใช้แล้ว ซึ่งถูกห่อด้วยกระดาษเหลือใช้ทิ้งลงไปในถังขยะ เขากำห่อผ้าอนามัยแน่นจนมือสั่นด้วยความโกรธ ก่อนจะเดินไปนั่งรอภรรยาสาวบนเตียงนุ่มอย่างใจเย็น


ด้านพิมพ์สุจี เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนน่าจะยังไม่ได้แยกผ้าอนามัยใช้แล้ว เก็บแยกออกจากขยะปกติ และน่าจะลืมห่อผ้าอนามัยที่เพิ่งแอบซื้อมาใช้เอาไปซ่อน ใครจะเห็นของพวกนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้ของพวกนี้จะเป็นของธรรมดา ๆ ที่หญิงสาวทุกคนต้องใช้ หากแต่มันคงจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดนัก ที่คนตั้งครรภ์อย่างเธอ จะมีของแบบนี้อยู่ในห้อง


ถ้าใครมาพบเข้า...ทุกคนก็จะทราบ ว่าเธอโกหกว่าท้องกับสพล เพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา !!!


ใช่ เพราะเหตุผลที่สพลต้องเร่งแต่งงานกับเธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก็เพราะเธออ้างว่าตั้งครรภ์ เธอจึงเอาความรับผิดชอบ ของสพลมาเป็นตัวต่อรอง ให้เธอได้แต่งงานกับเขา ไม่เช่นนั้น ผู้ชายที่รักมั่นต่อจิณัฐตาอย่างสพลน่ะหรือจะยอมมาแต่งงานกับเธอ


และทันทีที่พิมพ์สุจีเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนกว้าง ก็พบร่างสูงของสามีนั่งยิ้มเยือกเย็นอยู่ที่เตียงใหญ่ที่ควรจะเป็นของเธอและเขา หญิงสาวทำใจดีสู้เสือ กำมือแน่นและรวบรวมความกล้าเดินตรงไปหาสามีของเธอที่นั่งรออยู่


“ วันนี้นึกครึ้มอะไรงั้นหรือคะ ถึงได้มารอที่ห้อง ” พิมพ์สุจีพยายามคุมเสียงให้อยู่ในโทนปกติ


“ ผมอยากรู้...ว่านี่หมายความว่าอะไร ” เขายกมือขึ้น และสิ่งที่สพลถืออยู่ในมือทำเอาพิมพ์สุจีหน้าเสีย


“ ผ้าอนามัยไง ไม่รู้จักหรือ ” หญิงสาวยักคิ้ว ก่อนจะก้าวเข้าไปเพื่อจะหยิบห่อผ้าอนามัย พยามยามสะกัดกลั้นอารมณ์ ของตัวเองเต็มที่ บอกตัวเองว่าไม่ต้องกลัว และยื่นมือสั่นเทาเพราะความกลัวออกไป หมายจะเอาของของเธอคืนมาหากแต่ ชายหนุ่มกลับเบี่ยงตัวหนี


“ ผู้หญิงท้องน่ะ เขามีประจำเดือนด้วยงั้นเหรอ ” คิ้วหนาขมวด ใบหน้าหวานกลับกลายเป็นโกรธเกรี้ยวบึ้งตึง


“ นั่น...ฉันไม่ได้ใช้ ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงสั่น เม้มริมฝีบากแน่น


“ ไม่ได้ใช้...แล้วไอ้ที่อยู่ในถังขยะนั่น ไม่ใช่ของคุณงั้นสินะ คุณจะปฏิเสธไหมล่ะ ว่ามันไม่ใช่ของคุณ ” เขาถามอย่างเกรี้ยวกราด


“ สพล !!!! ”
หญิงสาวตั้งท่าจะวิ่งหนี หากแต่ร่างสูงไวกว่า คว้าท่อนแขนบางแล้วเหวี่ยงเธอลงไปบนเตียงนอนกว้าง ก่อนที่เขาจะเดินไปกดปุ่มล็อคประตู


“ คุณจะทำอะไร..” พิมพ์สุจีถามเสียงสั่น


“ ผมไม่ปล้ำคุณให้เปลืองแรงหรอก แล้วก็จะไม่ตบสั่งสอนคุณด้วยเพราะมันไม่ใช่วิสัยของผม ” เขานั่งลงไปบนเตียงนุ่ม ก่อนจะจับมือเธอ สายตาอ่อนลง
“ แค่คุณยอมหย่า ผมจะไม่ทำอะไรคุณ ” สายตาเว้าวอนของสพล ทำให้พิมพ์สุจีเดือดปุด ๆ “ ได้ไหม... ”


“ ฉันไม่ยอม ! ทำไมต้องยอมให้คุณกลับไปหาผู้หญิงคนนั้นด้วย ”


“ ผมจะฟ้องหย่า !!” เขาบอกเสียงดังหวังจะข่มขู่ แต่พิมพ์สุจีไม่มีทีท่าว่าจะเกรงหลัวแต่อย่างใด


“ เอาสิ !! ฟ้องเลย เขาจะได้รู้ว่าครอบครัวคุณโง่ทั้งตระกูล ให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันหลอกเอาได้
ง่าย ๆ ! ”


“ พิมพ์สุจี !!!! ”
สพลบีบไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาว ก่อนจะเขย่าร่างบางอย่างโกรธเกรี้ยว พิมพ์สุจียิ้มเย็น ก่อนจะมองชายหนุ่มด้วยสายตาเย็นชา


“ ฉันไม่ยอมหย่าหรอกนะ จนกว่าฉันจะพอใจ แล้วตอนที่ฉันอยู่ที่นี่คุณจะทำอะไรฉันก็ได้ จะฆ่าจะแกงก็เชิญ แต่ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ไม่ยอมหย่า ฉันไม่ยอมให้คุณไปครองรักกับจิณัฐตาง่ายๆหรอก ”


“ คุณต้องการอะไรกันแน่ ” ชายหนุ่มถามด้วยความไม่เข้าใจ


“ ฉันต้องการให้จิณัฐตาเจ็บปวด ” เธอบอก แววตาของหญิงสาวส่อแววเจ็บปวดลึก สพลค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากร่างของหญิงสาว


“ คุณไม่หย่าก็ช่างคุณเถอะ ผมจะไปหาจีน ผมอยากจะรู้นักว่าคุณจะทนความเย็นชาของผมได้สักกี่น้ำ แล้ววันนั้น คุณจะต้องมาขอร้องผม ให้ผมหย่ากับคุณ...ซึ่งผมก็จะขอดูความประพฤติของคุณก่อน ว่าคุณมันน่าให้อภัยและปล่อยไปง่าย ๆ หรือเปล่า...ซึ่งผมรับรองว่าผู้หญิงแบบคุณ อดทนอยู่กับผู้ชายที่เย็นชาใส่ได้ไม่นานหรอก ” พูดจบร่างสูงก็เดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ



จิณัฐตานั่งลูบหัวของสุนัขไร้ขนตัวโปรดอย่างเหม่อลอย ทำให้ชายหนุ่มผิวเข้มส่ายหน้าช้า ๆ อย่างอ่อนใจ ก่อนจะตบไหล่เพื่อนอย่างพยายามเรียกสติ


“ แกซึมอย่างนี้ฉันก็จ๋อยสิวะ เหงาเหมือนกันนะเว้ย ไหนว่าทำใจได้แล้วไง ทำไมยังทำหน้าเหมือนกินแกงฝีมือตัวเองทำอย่างนั้นล่ะ ” ปกรณ์แกล้งว่า หมายจะให้หญิงสาวอารมณ์ดีขึ้น


“ ทำมาเป็นปากดีนะกร ” หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ “ ฉันก็ขอเวลาทำใจบ้าง อะไรบ้างล่ะน่า ”


“ แกซึมอย่างนี้ เดี๋ยวลูกชายแกก็ไม่สบายใจหรอก ” พูดพลางยักคิ้วให้เจ้าตัวน้อยที่มีขนยาวเป็นหย่อม ๆ แค่บริเวณหัว แผงคอ และเท้าทั้งสี่ข้างที่ทำตาแป๋ว มองเจ้าของอย่างซื่อ ๆ


“ เกี้ยมอี๋ไม่สบายใจหรือคะ ” เธอถามเจ้าหมาน้อย “ งั้นต่อไปนี้แม่จะยิ้ม แม่จะไม่ทำให้ลูกต้องเครียดอีก ”
เสียงกระดิ่งกรุ้งกริ้งหน้าร้านทำให้สองเพื่อนสนิทหันไปมอง เนื่องจากนึกว่าเป็นลูกค้า แต่เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใคร ปกรณ์ก็อยากจะตรงดิ่งเข้าไปชกให้หน้าหงาย


“ มาที่นี่อีกทำไม ทำไมไม่ไปกกเมียล่ะ เมียแกล่ะอยู่ไหน ” ปกรณ์ว่า


“ ฉันมาหาจีน ” เขาทำท่าสำนึกผิด “ ขอฉันคุยกับจีนเถอะนะ ”


“ จีนไม่มีอะไรจะคุยกับพล ” จิณัฐตาบอก “ พลอย่าทำแบบนี้เลยนะ จีนไม่สบายใจ ”


“ พลอยากปรับความเข้าใจกับจีน พลอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ” เขาขยับเข้าไปใกล้ หากแต่ปกรณ์เดินมาขวางเต็มตัว


“ อย่ามาหน้าด้านนะ แกกลับไปดีกว่าไอ้พล ”


“ ฉันจะคุยกับจีน ไม่ได้คุยกับนาย ”เขาหันไปทำตาขวางใส่ปกรณ์


“ แต่จีนไม่มีอะไรจะคุยกับพลจริง ๆ ไปเถอะ ” จิณัฐตาหมุนตัวกลับ เกี้ยมอี๋มองตาแป๋ว ไม่เข้าใสสถานการณตรงหน้า หากแต่เมื่อมองร่างสูงหน้าหวาน และกลิ่นคุ้นเคย เจ้าหมาน้อยก็วิ่งกุเรงกุเรงไปหาสพล


“ พลจะบอกจีนว่า พิมพ์ไม่ได้ท้อง !! ” คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้จิณัฐตาหยุดกึก หันมามองอย่างไม่เชื่อหู สพลยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะพูดต่ออย่างมีหวัง
“ พิมพ์โกหก ว่าท้องกับพล พลเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงทำแบบนั้น แต่ผมจะหย่า ทันทีที่หย่า ผมจะขอจีนแต่งงานทันที ” จิณัฐตากำมือแน่น เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงสนิท แววตาสั่นระริกฉายแววเจ็บปวด


“ ถึงจะเป็นอย่างนั้น พลก็ต้องเคยนอนกับพิมพ์สุจี เคยนอกใจจีน ไม่อย่างนั้นพิมพ์จะอ้างว่าท้องได้ยังไง ไม่ว่าผลคืออะไรจีนไม่สน แต่ว่าเหตุคือความมักมากของพลไม่ใช่รึไง แล้วอีกอย่าง เราไม่มีวันกลับไปรักพลเด็ดขาด เพราะจีนเองก็มีศักดิ์ศรี ”


   “ ศักดิ์ศรีของจีนมีค่ามากกว่าความรักของเรางั้นเหรอ ” สพลถาม


“ ใช่...แต่ดูเหมือนว่าสำหรับพล ความใคร่ที่จะนอนกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ มันมีค่ามากกว่าความรักที่พลบอกว่ามีค่ามากมาย ” พูดจบจิณัฐตาก็ก้มลงอุ้มเกี้ยมอี๋แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว โดยไม่เสียน้ำตาสักหยด
โดยหารู้ไม่ว่า ที่ถนนตรงหน้าร้าน พิมพ์สุจีซึ่งจอดรถเทียบหน้าร้าน ลดกระจกมองเข้าไปภายในร้ายอย่างแค้นใจ มือเรียวสวยกระแทกพวกมาลัยอย่างต้องการที่ระบายอารมณ์ ก่อนที่เจ้าตัวจะขับรถบึ่งออกไป


คุณไปหาแฟนเก่าได้ ฉันก็ไปหาแฟนเก่าได้เหมือนกัน !!!


“ น้องพีพีจะกลับมาเล่นกับหนูเหมือนเดิมแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ ”


“ ครับ...น้องพีพีหายป่วยแล้วนะครับ อย่าลืมอาบน้ำให้น้องพีพี แล้วระวังอย่าให้แกไปกินอะไรส่งเดชนะครับ ”
พิพิทธนยิ้มให้เด็กหญิงตัวเล็ก แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าแมวสีเหลืองส้มตัวโต ก่อนเดินนำเธอออกไปจากห้องตรวจเพื่อชำระค่ารักษาเจ้าแมวน้อย


“ พีทคะ....พิมพ์รออยู่ตั้งนานแหนะ ”
พิมพ์สุจีลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาเศร้าสร้อยคลอไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นเต็มหน่วยตาทำให้พิพิทธนรู้สึกปลาบแปลบใจ


“ ใครทำให้พิมพ์ร้องไห้ ” ชายหนุ่มบีบมือนุ่มแน่น พยายามมองเธออย่างคาดคั้น พิมพ์สุจีเหลือบมองสาวใหญ่ที่ยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์คิดเงินด้วยหางตา


“ เข้าไปคุยกันในห้องเถอะค่ะ ” พูดจบหญิงสาวก็ลากพิพิทธนเข้าไปในห้องตรวจ
สัตวแพทย์หนุ่มยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนสะอาดส่งให้หญิงสาวที่ร้องไห้หอบจนตัวโยน พิมพ์สุจีรับมาซับน้ำตาตัวเองเบา ๆ


“ พิมพ์เป็นอะไรไป ผมไม่สบายใจเลยที่เห็นพิมพ์เป็นแบบนี้ ” ชายหนุ่มถาม พลางวางมือไว้บนมือนุ่มของหญิงสาว เหมือนต้องการจะส่งผ่านกำลังใจไปให้


“ พิมพ์...พิมพ์เจ็บปวดเหลือเกินค่ะ ” เธอสะอื้นเบา ๆ “ พิมพ์รู้ว่าปัญหาของพิมพ์มันเป็นเรื่องของคนสองคน พิมพ์ไม่ควรเอาเรื่องแบบนี้มาปรึกษาพีท แต่พิมพ์ไม่ไหวจริง ๆ พิมพ์เจ็บปวดมาก พิมพ์ไม่รู้จะไปพึ่งใครดี แต่แปลกนะ ทันทีที่พิมพ์มีปัญหา พิมพ์จะนึกถึงพีทเป็นคนแรก ...แต่ถึงอย่างนั้น พิมพ์ก็คิดแล้วคิดอีก ว่าจะมาหาพีทดีไหม..เพราะว่าปัญหาของพิมพ์...คือ....พิมพ์มีปัญหากับพล ”


“ อะไรนะ !! ” สพลถามเสียงสูง เพิ่งแต่งงานกันไปแท้ ๆ เชียวนะ เขาชกโซฟาที่ตัวเองนั่งอย่างแค้นใจ ริมฝีปากหนาเม้มสนิท ดวงตาเกรี้ยวกราด ไม่เหลือเค้าแววตาอ่อนโยนของสัตวแพทย์หนุ่มเมื่อครู่


“ พีท..อย่าไปโกรธพลเขาเลย...พิมพ์ผิดเองแหละ ” หญิงสาวก้มหน้ากำชายกระโปรงแน่น กัดริมฝีปากจนเลือดซิบ
“ พิมพ์ไม่มีค่าพอที่จะให้พลรัก...พลบอกว่า พลไม่ได้รักพิมพ์แต่งงานกับพิมพ์เพราะว่าเด็กในท้อง แล้วเขาก็ปึงปังใส่พิมพ์ยกใหญ่ แถมจับพิมพ์เหวี่ยง ล้มกลิ้งบนเตียง ไม่คิดจะสนใจใยดี แล้วก็ออกไปหาแฟนเก่า !! ”


“ ไอ้สารเลวนั่น....เอ๊ะ !! เมื่อกี้พิมพ์ว่าไงนะ มันไปหาแฟนเก่ามันงั้นเหรอ ” เขาถามเสียงเข้ม เต็มไปด้วยความโกรธที่แสดงออกมาทั้งสีหน้า แววตาและน้ำเสียง พิมพ์สุจีพยักหน้าเบา ๆ
เขานึกถึงใบหน้าของ ‘ แฟนเก่าของสพล ’ ผู้หญิงเรียบร้อย ท่าทางไม่มีพิษมีภัยที่พบกันเมื่อวันก่อน


“ เธอชื่อจิณัฐตา เขารักกันมาก มากจนพิมพ์.....” ยังไม่ทันพูดจบ เสียงเข้มก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน


“ พิมพ์ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการผู้หญิงคนนั้นให้เอง !!! ”
พิมพ์สุจีมองหน้าคนรักเก่าอย่างไม่เข้าใจ เธอเดาความคิดของเขาไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าคนสองบุคลิกแบบพิพิทธนคนนี้ จะทำอะไรกับจิณัฐตา แล้วเขาจะทำอะไรยัยนั่นได้ ในเมื่อเขาไม่ได้รู้จักเธอ...


พิลาไลปล่อยหนังสือนิยายเล่มหนาลงอย่างตกใจ โดยลืมคำนึงถึงความเสียหายของหนังสือที่จะตามมา เพราะสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่มันเป็นเรื่องน่าตกใจเสียยิ่งกว่านักดาราศาสตร์ไทยจะได้เหยียบดาวอังคาร


“ พี่พีทพูดอีกรอบสิคะ นะคะ ” หญิงสาวประสานมือ ส่งสายตาวะวับขอร้องพี่ชาย


“ พี่อยากเจอจิณัฐตาอีกหลาย ๆ รอบ ไลมีแผนอะไรบ้างไหม แผนที่ทำให้จีนเขาประทับใจในตัวพี่อย่างสุดซึ้ง ในเวลาอันรวดเร็วด้วยนะ พี่ชักจะรอไม่ไหว ” ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่ม


“ เกิดอะไรขึ้นคะ พี่พีทของไลถึงได้กระตือรือร้นผิดปกติ ” น้องสาวหรี่ตาถาม พิพิทธนหัวเราะเสียงดัง พลางยักไหล่ ก่อนจะตบไหล่น้องสาวเบา ๆ


“ ยังไงเราก็เร่งมือหน่อยนะ อ้อ ! พี่อยากให้ดูเป็นเรื่องบังเอิญ ให้ด่วนเลยนะน้องรัก ” เขายิ้มมีความสุข ก่อนจะผิวปากอย่างอารมณ์ดี ก่อนเดินไปเล่นกับแมวน้อยขนฟูขี้เซาสีขาวล้วน นามว่า นูนู่ ที่นอนเอาเท้าเช็ดน้ำลายแล้วป้ายหน้าตัวเองเพื่อทำความสะอาดอยู่บริเวณน้ำตกจำลองเล็ก ๆ ข้างบ้าน


พิลาไลมองพี่ชายที่กลับมายิ้มแย้มอ่อนโยนอย่างรู้สึกโล่งใจ หญิงสาวกำมือแน่น สายตามุ่งมันเหมือนมีไฟลุกโชนในดวงตาคู่สวย หยิบปากกาขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดประจำตัวสีหวาน โดยหารู้ไม่ว่า พิพิทธนพี่ชายของเธอมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์...





Free TextEditor






Create Date : 13 เมษายน 2553
Last Update : 13 เมษายน 2553 14:46:16 น. 3 comments
Counter : 391 Pageviews.

 


โดย: thanitsita วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:16:34:32 น.  

 
มาอ่านนิยายค่ะ

ท่าทางพระเอกจะหูเบานะเนี่ย ทำเหมือนจะไปเล่นงานนางเอกโดยไม่สืบให้รู้เรื่องความจริง น่าให้น้องสาวบ้องซะนักเชียว

ว่าแต่ พยายามตรวจเช็คคำผิดนิดนึงนะคะ เนื้อเรื่องโอเคแล้วค่ะ


โดย: Tukta21 วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:3:42:35 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะคุณ Tukta21

แล้วมาอ่านอีกนะคะ


โดย: kibosi วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:22:44:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kibosi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kibosi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.