All Blog
มุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 2



ภายในห้องของคอนโดสุดหรูกลางกรุงเทพฯ แห่งหนึ่ง ภูผาตบหน้าบลูดังผัวะ ขุนพลตั้งท่าจะขยับ ภูผาหันไปจับหัวขุนพลกระแทกเข้ากับผนัง โดยที่ทั้งสองคนไม่กล้าหือ แมงมุมยืนมองอยู่ด้านหลัง

“ไอ้โง่ สะเพร่า ทำไมแกไม่อัดรูปไปแจกตำรวจซะเลยล่ะ ฉันสั่งแล้ว ไม่ให้พวกแกโผล่หน้าออกไปให้ใครเห็น” ภูผาโกรธ
“ก้อจะฆ่าอีนังโจรนั่นได้อยู่แล้ว ถ้ามันไม่มีตัวช่วยโผล่มาซะก่อน” ขุนพลแก้ตัว
“โม้ โม้ โม้ โม้โน่น โม้นี่ ฝีมือไม่ถึงมั้ง” แมงมุมขัด
“อีแมงมุม ตายซะเถอะมึง” ขุนพลด่า
ภูผาชักปืนวางลงตรงกลางของทั้งคู่
“ยิงกันให้ตาย หรือไม่ก็หุบปากทั้งคู่”
แมงมุมกับขุนพลเงียบทันที ภูผากวาดตามอง
“เนสมันตายเพราะประมาท แกสองคนก็จะตายเพราะความประมาทเหมือนกัน”
“อย่างนี้เราก็ไม่รู้ว่านังตัวแสบคนนี้ เป็นใคร แก๊งค์ไหนกันแน่” บลูถามขึ้น ภูผานิ่งคิด

ภายในห้องคนไข้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพชรกำลังยืนเฝ้าเจนจบที่นอนพัก โดยมีมุกดายืนอยู่ตรงข้าม
“ไปมีโจทก์ที่ไหน” เพชรถาม
“หนูมุก.. หนูมุกไม่ทราบจริงๆค่ะ”
“นี่ ... ฉันกินข้าวนะ ไม่ได้กินหญ้า ถึงจะไม่เห็นว่าเธอวิ่งตามผู้หญิงในห้องน้ำ แล้วโดนเค้าไล่ยิง”
“คือ คือจริงๆ .. เค้า..เค้าหาว่าหนูมุกโทรจิกแฟนเค้า เราทะเลาะกันในห้องน้ำ โอ๊ย ... หนูมุกไม่ไหวจะเคลียร์ บอกแล้วว่าหนูมุกไม่รู้เรื่อง เค้าไม่เชื่อ เค้าก็โมโห เค้าก็ไล่ยิง ยิง ยิง ยิง หนูมุก โชคดีที่คุณเจนจบก็มาช่วยหนูมุกไว้พอดีนะคะ”
“โชคดีของเธอ แต่โชคร้ายของเพื่อนฉัน”
“เอาน่า..เพชร .. คุณหนูมุกของนายก็ปลอดภัยแล้ว” เจนจบบอก
เพชรมองหน้ามุกดาแล้วพูดเสียงเน้นๆแดกดัน
“ไม่ใช่หนูมุกของฉัน .. ชาตินี้ก็ไม่ใช่ ต่อให้ชาติหน้าก็ไม่มีทาง”
“พี่เพชรว่าหนูมุกไม่ใช่เหรอคะ หนูมุกว่าใช่ของพี่เพชรนะคะ”
“ฉันพูดภาษาไทย ต้องแปลด้วยเหรอ สมองเธอนี่ มันคงกลวงโบ๋”
“ไม่นะคะ ตอนเด็กๆครูบอกว่า ...ในกะโหลกของหนูมุกเนี่ย มีแต่ฟองอากาศ บุ๋ง บุ๋ง”
“ครูเค้าก็พูดถูกมาก” เพชรเน้นเสียง
เจนจบมองทั้งสองคนที่กัดกันแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
มุกดาหันมามองแต่เจนจบรีบทำเป็นก้มลงไอเพราะกลัวเสียมารยาท
“หัวเราะเยาะหรือไอคะ สงสัยจะไอ คุณเจนจบเจ็บแผลหรือเปล่าคะ” มุกดาเดินไปที่เตียง “มาค่ะ หนูมุกดูให้”
มุกดาเดินเข้าไปใกล้แต่เพชรรีบดึงเธอไว้
“ออกมาห่างๆเพื่อนฉัน แค่นี้เจนจบมันก็ดวงตกพอแล้ว”
“แหม พี่เพชรปากร้ายกับหนูมุกตลอดเลย คิดอะไรกับหนูมุกหรือเปล่าคะเนี่ยะ... เลิฟ เลิฟ จุ๊บ จุ๊บ”
“คิด อยากจะดีดไปทางหน้าต่าง” เพชรแขวะ
“ไม่ไปค่ะ หนูมุกมือเหนียวหนึบ ยิ่งกว่ากาวตราช้าง”
มุกดาแกล้งเอามือเกาะบ่าเพชร ทำให้เพชรรีบกระโดดถอยห่าง
“ไป้ อย่ามาใกล้ฉัน”
“เฮ้ย เพชร” เจนจบปรามเพื่อน “นายอย่าว่าคุณหนูมุกนักเลยน่า”
“ใช่ค่ะ” มุกดาหันไปยิ้มให้เจนจบ “คุณเจนจบนี่น่ารักจังเลยนะคะ หล่อ สุภาพ มารยาทผู้ดี๊ดี เวรี่เจนเทิ้ลแมน ... สุภาพบุรุษที่สุดในโลก”
มุกดาตั้งใจแดกดันเพชร แต่เพชรทำเฉย มุกดายิ้มให้กับเจนจบ
เพชรมองแล้วเริ่มคิดแผนบางอย่าง

ที่ทางเดินในโรงพยาบาล มุกดาเดินออกจากห้องคนไข้ แต่เดินมาได้เพียงนิดเดียวก็เห็นคมกฤชพี่ชายของเธอยืนรออยู่
“เป็นไง คนเจ็บในห้องนั้น”
“ทำไมคนถูกยิง ถึงไม่เป็นนายเพชร”
“อู้ว .. ท่าทางจะรักกันดื่มด่ำ ดูดดื่ม”
“ถ้าเป็นมุก จะยิงที่ปากไอ้พี่เพชรก่อนเลย”
คมกฤชหัวเราะ ส่วนมุกดาเดินไปแบบหน้าตาแค้นในความปากร้ายของเพชร

ภายในห้องคนไข้ เพชรมองเพื่อนด้วยหน้าตาที่ซีเรียส
“เราเป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี นี่จะเป็นครั้งแรก เจนจบ .. ที่ฉันขอร้องนาย”
“เพชร ... นายกำลังทำให้ฉันกลัวว่ะ”
“จีบยายหนูมุกให้ที” เพชรบอก
“หา”
“ฉันเห็นสายตาที่หนูมุกมองนายแล้ว เธอเทิดทูนบูชาฮีโร่อย่างนายสุดๆ”
“เสียใจเพื่อน ฉันไม่ล้อเล่นกับความรัก” เจนจบปฏิเสธ
“แสดงว่าแกยอมให้ฉันตกนรกขุมสุดท้าย”
เจนจบตบบ่าเพื่อน “ช่วยไม่ได้ นายทำบุญมาน้อย”
เพชรลุกพรวด “ไม่จริง ตอนนี้ฉันแค่ดวงตก ดวงซวย ดวงอาภัพ ที่มาเจอยายหนูมุก”
“เอาน่า ค่อยๆทำความรู้จักกันไป คุณหนูมุกเค้าก็ดูแปลกคนหน่อยๆ”
“ไม่หน่อยหรอก ยายหนูมุกน่ะ รวมความบ้า ประสาท เพี้ยน ติงต๊อง อยู่ในคนๆเดียวเลย” เพชรพูดอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย

มุกดาเดินเข้ามาในบ้านของเธอ จู่ๆ ก็โดนมรกตเข้ามาสวมกอดอย่างแรงจนแทบล้ม
คมกฤชที่เดินตามหลังมามองแม่ของเขาที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“โถ ... หนูมุก เจ็บตรงไหน” มรกตถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “มีอะไรบุบสลายหรือเปล่าคะ ป้าล่ะอยากจะตีเพชรให้ตาย ดูแลหนูมุกไม่ได้เรื่อง นี่ถ้าหนูมุกเป็นอะไรไป ป้าจะหาสะใภ้น่ารักๆแบบนี้ได้ที่ไหน”
มรกตพูดเสร็จก็กอดแล้วกอดอีก โดยที่มุกดามีสีหน้าจำทนมาก
คมกฤชหัวเราะ มุกดารีบดันมรกตออก
“คุณป้าคะ หนูมุกมีเรื่องจะบอก .. คือหนูมุกคิดว่าพี่เพชรเค้าเกลียดหนูมุกน่ะค่ะ”

เช้าวันใหม่ ณ ร้านสตาร์ไดมอนท์ เพชรปิดแฟ้มแล้วเงยมองแม่ที่หน้าตาเอาเรื่อง
“แกต้องไปขอโทษ หนูมุก”
“ผมไม่ผิดนะครับที่ผมพูดความจริง ... ความรู้สึกผมทุกครั้งที่เข้าใกล้” เพชรเน้นเสียงอย่างแดกดัน “หนูมุก.. ผมขยะแขยง คลื่นไส้ ผมเกลียดหนูมุก .. ได้ยินมั้ยครับแม่ ผมเกลียดหนูมุก”
“แก..แก..แกทำกับหนูมุกขนาดนี้ได้ยังไง” ..
มรกตแสร้งทำเป็นช็อคล้มหงายหลังไป เพชรหันมาเห็นก็พุ่งเข้ามาประคองแม่ไว้
“คุณแม่ คุณแม่”

ภายในห้องทำงานของธีรพัฒน์ ธีรพัฒน์กำลังกดคลิกภาพบลูจากภาพถ่ายกล้องวงจรปิดจากห้าง ตอนเดินออกมาหลายภาพ โดยมีมุกดากับคมกฤชดูอยู่ด้วย
“ใช่ค่ะ คนนี้แหละ โจรปล้นอะดอเรลลา” มุกดายืนยัน
“ถ้าน้องมุกชี้ตัวแบบนี้ พี่จะรีบส่งภาพวงจรปิดของห้างไป เราน่าจะหาแหล่งกบดานของพวกมันได้” ธีรพัฒน์บอก
“มีชื่ออยู่ในประวัติอาชญากรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีครับ แต่เราส่งทีมนอกเครื่องแบบออกไปแล้ว”
“มุกอยากให้พี่ธีรพัฒน์ลองติดต่อกับตำรวจสากลดูค่ะ เผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น”
“ตำรวจสากลเลยเหรอ”
มุกดานึกขึ้นได้ว่าลืมตัว เธอนึกเหตุผลสนบสนุนคำพูดไม่ทัน แต่คมกฤชรีบช่วย
“ตอนที่มุกมันเรียนอยู่อเมริกา เคยมีข่าวขโมยเครื่องประดับแพงๆ แล้วก็ตามไล่ล่า กันตั้งหลายประเทศ สุดท้ายตำรวจสากลก็มาช่วยจับโจร ได้ของคืน ...ใช่มั้ย ที่แกเคยเล่าน่ะ มุก”
“ใช่ค่ะ .... พี่กฤชความจำดี”
ธีรพัฒน์ทำหน้าเข้าใจ
“งั้นพี่ไปโทรหาเพื่อนที่หน่วยนั้นดูนะ” ธีรพัฒน์บอกแล้วรีบเดินไป คมกฤชรีบเอนมากระซิบน้อง
“ถ้าบอกไปว่าแกเป็นตำรวจสากล จะไม่ทำงานง่ายกว่าเหรอ”
“ไม่หรอก ยายมุกดาสมองใสไร้ปัญญานี่แหละ ไปบ๊องแบ๊วบ้าบออยู่ตรงไหน ก็ไม่มีคนสงสัย”
คมกฤชกอดอกถอนใจเฮือก ส่วนมุกดาท่าทางมั่นใจกับแผนของตัวเอง

ที่ห้องทำงานของมุกดา มุกดากำลังนั่งคุยกับเจอรี่ผ่านวิดีโอแชท
“ตำรวจไทยติดต่อเราแล้ว ผมเพิ่งให้ข้อมูลว่าอะดอเรลลาเป็นเพชรที่ถูกขโมยมา” เจอรี่บอก
“มุกเจอหนึ่งในคนร้ายวันนี้เองค่ะ แต่ยังจับมันไม่ได้ หัวหน้าไม่ต้องห่วงนะคะ ยังไงมุกจะเอาอะดอเรลลาไปคืนราชวงศ์ให้ได้”
“เรื่องนี้มันใหญ่ แล้วก็โยงใยหลายคนนะมุก ผมจะส่ง..”
เจอรี่พูดยังไม่จบก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น มุกดามองไปเห็นคุณปักเปิดประตู โผล่หน้าเข้ามา
“สวัสดีค่ะ คุณหนูมุก ทำอะไรเอ่ย”
“หวัดดีค่ะ คุณปัก .. คือมุกกำลังเช็คข่าวนักร้องเกาหลีอยู่น่ะค่ะ”
เจอรี่ได้ยินก็ทำท่ารูปหัวใจที่อกทันที
“อืมม.. วันนี้กลายเป็นนักร้อง ... ซารังเฮโย” เจอรี่พึมพำ
มุกดาเดินมาหาคุณปักแล้วมองอย่างสงสัย
“คุณปักมาถึงนี่ ..แสดงว่า”
คุณปักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “อิอิ”
มุกดาทำหน้าเดา “ต้องเกี่ยวกับ”
คุณปักรีบตอบพร้อมกับทำท่าน่ารัก “อิอิ .. ใช่ค่ะ”
“งั้นขอหนูมุกแปลงร่างแป๊ปนึงนะคะ”
มุกดาทำท่าหมุนตัวเหมือนได้พรวิเศษของนางฟ้า ส่วนคุณปักก็หมุนไปด้วยแต่หมุนแล้วลมจะจับ

ในห้องรับแขกบ้านมุกดา มุกดาเดินเข้ามาในชุดหวาน กางเกงขาสั้นชายเป็นลูกไม้ ผูกโบว์ใหญ่เหมือนจะไปเที่ยวทะเล เพชรหันมาตาค้าง
มุกดาแสดงท่าทางดีใจโอเว่อร์ “พี่เพชร พี่เพชรมาหาหนูมุก .. ตายแล้ว หนูมุกตาฝาด” มุกดาทำท่าเอียงคอ “ฝันไป รึเปล่า”
เพชรไม่ทำท่าหวานด้วย เขาใส่มุกดาเป็นชุด
“คุณไปบอกอะไรแม่ผม รู้มั้ยว่าแม่ผมเครียดจนความดันขึ้น”
มุกดาอ้าปากจะเถียง แต่เพชรยังใส่ไม่หยุดพร้อมกับเดินเข้าหา
“ผมขอร้องได้มั้ย เรื่องของเรามันไม่มีวันเป็นไปได้ ผมไม่ชอบคุณ แล้วคุณจะมาวิ่งไล่ตามผู้ชายที่เค้าไม่เคยมองคุณ .. ไม่เคยเห็นคุณอยู่ในสายตาทำไม”
มุกดาเอานิ้วม้วนผม แล้วทำท่าทางเขินอาย
“เพราะหนูมุกอยากเป็นแฟนพี่เพชรไงคะ .. ยิ่งพี่เพชรไม่รัก หนูมุกยิ่งท้าทาย”
“จะบ้าเหรอ เอาเวลาไปหาคนที่รักคุณสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูมุกเชื่อผู้ใหญ่ เค้าว่าอยู่ใกล้กัน เดี๋ยวก็ปิ๊งปั๊ง รักกันเอง”
มุกดาเดินเข้าใกล้ แต่เพชรรีบหันหน้าเดินหนีอย่างไม่ทันดู ทำให้หน้าผากชนเข้ากับเหลี่ยมเสา มุกดาตกใจรีบเข้าไปจะจับหน้าผากเพชร
“ว๊าย .. เวรี่เฮิรต์มั้ยคะพี่เพชร”
เพชรยึดมือมุกดาไว้ไม่ให้แตะตัวเขา ทั้งสองมองหน้ากันในระยะประชิด มือของเพชรจับมือของมุกดาแน่น มุกดาแกล้งยิ้มหวาน
“อ่ะแน่ะ พี่เพชรหลอกแต๊ะอั๋งหนูมุก”
เพชรรีบปล่อยมือทันที ถอยห่างออกมาแล้วใช้ไม้อ่อน
“ผมเครียดเรื่องคดีมาก.. ผมก็ไม่อยากให้คุณมาเสียเวลากับคนบ้างานอย่างผม” ..
มุกดาทำตาแบ๊วแล้วเอียงคอถาม “บ้างานไม่ว่า เพราะหนูมุกบ้าพี่เพชร”
“สติเสียกว่านี้มีอีกมั้ย”
“นี่แสดงว่าคุณป้ามรกตยังไม่ได้บอกพี่เพชร”
“เรื่องอะไร”
“ก้อคุณป้าให้หนูมุกไปทำงานเป็นเลขาพี่เพชรไงคะ”
“เลขาฉัน” เพชรทวนคำด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด

ที่บ้านของเพชร เพชรก้าวมายืนข้างเตียงที่มรกตนอนหลับอยู่ โดยมีคุณปักคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ
“ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณแม่ชอบมุกดาตรงไหน”
“ปักรู้ค่ะ”
เพชรมองคุณปักที่มีสีหน้าภูมิใจ
“เพราะคุณหนูมุกเคยช่วยชีวิตคุณผู้หญิง”
“ช่วยชีวิตคุณแม่... เมื่อไหร่ ที่ไหนกัน คุณปัก” เพชรซักอย่างสนใจ
“จำตอนคุณผู้หญิงไปเที่ยวอเมริกาได้มั้ยคะ”
ปักย้อนถาม เพชรนิ่งคิด
“ตอนนั้นฉันไปดูเพชรที่เบลเยี่ยม”
“ค่ะ คุณผู้หญิงกลับมาเล่าให้ฟังว่า โดนโจรปล้น แล้วผู้หญิงคนหนึ่ง ก็เสี่ยงตาย วิ่งไล่จับโจร เอาของมาคืนคุณผู้หญิงได้ครบหมด”
“มุกดาน่ะเหรอ ... ไม่เห็นเค้าเคยพูดเรื่องนี้เลย”
“คุณหนูมุกเธอเป็นคนดีไงคะ ช่วยใครไม่หวังผลตอบแทน เธอก็เลยไม่ได้จำ ไม่ได้ถามชื่อคุณผู้หญิงไว้ แต่คุณผู้หญิงสิคะ... ปลื้มความกล้าของคุณหนูมุกมากกก ยิ่งพอมารู้ว่าเป็นลูกสาวคุณประไพ ตระกูลดีไม่มีที่ติ ก็ยิ่งปลื้มเป็นดับเบิ้ล รับรองเลยค่ะ... ถ้าคุณผู้หญิงจับคู่อุ้มสม หนุนสุดตัวขนาดนี้ ...คุณเพชรไม่รอดมือคุณหนูมุกแน่ๆ”
คุณปักพูดหน้าบาน แต่เพชรฟังแล้วเซ็ง เขาลุกขึ้นจะเดินเข้าไปด้านใน แต่คุณปักรีบเรียก
“คุณเพชร จะไปไหนคะ... ไม่พาคุณผู้หญิงกลับไปบ้านโน้นก่อนเหรอคะ”
“คุณปักนั่นแหละแบกไป”
“ไซส์ปลาวาฬขนาดนี้ สลิมๆอย่างปักเห็นจะแบกไม่ไหว” ปักตอบ
มรกตขยับ ปักสะดุ้งเฮือกแล้วยืนตัวแข็งเพราะคิดว่ามรกตได้ยิน
“บ้านก็ติดกัน แค่เดินข้ามรั้วไป อย่าบ่นนักเลย หรือจะยอมถูกตัดเงินเดือน”
ปักหันไปมองมรกตอีกทีแล้วแสดงสีหน้าว่าเป็นไงเป็นกัน ส่วนเพชรยังอารมณ์ขุ่นเมื่อนึกถึงเรื่องของมุกดา

ตกกลางคืน มุกดากำลังนั่งทำความสะอาดปืนอยู่ในห้องของเธอ โดยมีคมกฤชยืนมอง
“ตกลงว่าแกจะไปเป็นเลขาคุณเพชร หรือเป็นบอดี้การ์ด”
“เผื่อไว้ไงพี่กฤช ถ้านายเพชรคิดหนี มุกจะได้ยิงปากให้ทะลุ แล้วก็ยิงให้ขาลาก แล้วก็เลื่อนไปเล็งสมอง... ปัง...ปิดคดี”
“ความรักของผู้หญิงอย่างแกนี่โหดถึงใจจริงๆ”
มุกดายิ้มแล้วมองปืน คมกฤชมองน้องแล้วเอ่ยอย่างห่วงใย
“มุก ...พี่ไม่อยากให้แกไปเสี่ยงนะ อย่างที่เจอรี่ เจ้านายแกบอก งานนี้มันโยงใยหลายคน”
“นั่นแหละค่ะคือความท้าทายของคดีนี้ ยิ่งยากยิ่งอยากรู้ว่าไอ้คนบงการเป็นใคร”
มุกดายกปืนขึ้นเล็งด้วยแววตาเด็ดขาด

เช้าวันใหม่ ชนินทรยืนหน้าเครียดอยู่ตรงข้ามเจนจบที่นั่งพิงอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล
“เพราะความประมาทของไอ้พาทีคนเดียว เนื้อเข้าปากเสือ เสือที่ไหนมันจะยอมคายเพชร 500 ล้าน”
“ไม่ใช่เวลามานั่งโทษกัน ชนินทร เงินประกันไม่มีความหมายเท่าเพชรอย่างอะดอเรลลา” เจนจบบอก
“ฉันรู้แล้ว... แต่ฝ่ายการตลาดอย่างแกเครียดเท่าฉันหรือเปล่า ดีแต่ยิ้มหล่อให้ลูกค้า ผู้จัดการอย่างฉันสิ .. ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ตำรวจถามแล้วถามอีก ถามเหมือนฉันเป็นขโมย”
“ถ้าไม่ใช่... แกจะร้อนตัวไปทำไม” เจนจบถาม
ชนินทรหันขวับมองเจนจบที่ไม่ได้สงสัยเพื่อนเพียงแต่พูดไปตามความจริง
“เจนจบ ถ้าแกนอนเจ็บเพราะตามหาอะดอเรลลา ฉันคงสงสารแกมากกว่าที่มานอนเจ็บเพราะช่วยผู้หญิง” ชนินทรแขวะ
มีเสียงประตูห้องน้ำปิดดังปัง ชนินทรหันไปเห็นเพชรเดินออกจากห้องน้ำ
ชนินทรตกใจเพราะนึกไม่ถึงว่าเพชรอยู่ในห้องนี้ด้วย
“ถ้าเป็นแก เห็นผู้หญิงโดนทำร้าย แกจะไม่ช่วยเหรอ ชนินทร” เพชรถาม
ชนินทรเงียบ ไม่โต้ตอบเพชร เพชรมองเพื่อนแล้วพูดต่อ
“ในความเป็นเพื่อนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในงาน. .. ไม่มีใครรับผิดชอบมากกว่าใคร เพราะแกสองคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน แล้วก็ไอ้พาทีอีกคน”
เพชรมองเพื่อนด้วยแววตาเข้ม
“พวกแกก็รู้นิสัยฉันดี อะไรที่เป็นของฉัน มันไม่มีสิทธิ์อยู่ที่คนอื่น ... เอาอะดอเรลลากลับมาให้ได้ ก่อนสตาร์ไดมอนด์จะเป็นข่าวเสียหายไปมากกว่านี้”

ที่หน้าห้องทำงานของธีรพัฒน์ รุจาเดินมาป้วนเปี้ยนด้อมๆ มองๆ เธอเห็นจ่าถนอม ตำรวจหน้าห้องกำลังอ่านแฟ้มอยู่ จ่าถนอมหันมา รุจาหลบอย่างรวดเร็ว จ่าถนอมมองไม่เห็นใครแต่ก็รู้สึกแปลกๆ

ในห้องน้ำชาย รุจาแอบอยู่ในส้วม เธอพยายามเอาหูแนบผนังเพื่อให้ได้ยินเสียงตำรวจคุยกัน
“ไม่คืบหน้าเลยว่ะ คดีเพชร” ตำรวจคนที่หนึ่งพูด
“ป่านนี้ขายออกนอกประเทศไปแล้ว” ตำรวจคนที่สองสมทบ
“นี่แหละแหล่งข่าวของเรา ขอดูหน้าหน่อย” รุจากล่าวอย่างดีใจ
รุจาขึ้นไปเหยียบโถส้วมแล้วปีนขึ้นไปเพื่อจะดูหน้าตำรวจ แต่ขณะที่รุจายืดสุดตัวเท้าของเธอก็เลื่อน
“เหวอ”
รุจาหล่นลงมา มือปัดไปโดนกลอนเปิด ส่วนตัวของเธอกลิ้งลงมาอยู่ที่พื้น
รุจามองผ่านประตูไปเห็นตำรวจทุกคนในห้องน้ำมองมา
“อ๊าก” รุจาเอามือปิดหน้าแล้วหลับตาปี๋

รุจาถูกตำรวจลากตัวพาออกไปข้างนอก
คมกฤชออกมาจากห้องธีรพัฒน์ จ่าถนอมทำความเคารพ รุจาเห็นเขาพอดีก็พูดพึมพำ
“สารวัตรธีรพัฒน์”

คมกฤชเปิดประตูรถ เขาก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไป รุจารีบวิ่งตามมาแต่ไม่ทัน จึงรีบย้อนไปที่รถของตัวเองทันที
“คราวนี้เธอต้องไม่พลาด รุจา”
รุจามองเข้าไปในรถ เห็นกุญแจรถวางอยู่ที่เบาะ
“กุญแจรถ!” รุจาตกใจ เธอมองไปเห็นรถคมกฤชกำลังเคลื่อนออกไป
“กุญแจสำรอง กุญแจสำรอง”
รุจาล้วงหากุญแจแต่ไม่เจอสักที เธอจึงเทของในกระเป๋าลงพื้น ของจุกจิกทั้งหลาย กล้องตัวเล็ก เครื่องอัดเสียง หวี หนังสือ ขนม ไฟฉาย ไฟแช็ค มีด คัทเตอร์ สเปรย์พริกไทย หล่นกระจายเต็มพื้น
รุจาเขี่ยหาจนเจอกุญแจสำรอง เธอดีใจเหมือนถูกหวยกำกุญแจกระโดดเหย็ง
“นี่ไง...กุญแจแห่งความสำเร็จ”
รุจาหันไปเห็นตำรวจหลายคนมองมาเป็นตาเดียว เธอรีบไขกุญแจแล้วมุดเข้ารถ สีหน้าของรุจามุ่งมั่น
“บอกแล้ว รุจาไม่มีพลาด”

มุกดายื่นกระเช้าน้ำผลไม้ที่นำมาเยี่ยมให้เจนจบซึ่งกำลังนั่งพิงอยู่บนเตียง
“คุณมุกไม่น่าลำบากเลย เดี๋ยวผมก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเจนจบเป็นคนช่วยชีวิตหนูมุก”
เจนจบขยับจะหยิบน้ำ มุกดารีบบอก
“หนูมุกหยิบให้ค่ะ”
มุกดากุลีกุจอหยิบน้ำมา เจนจบขยับแล้วเจ็บแผล มุกดาขยับเข้าไปป้อนน้ำใกล้ๆ แต่เจนจบขยับมาชนแก้วน้ำในมือมุกดาหกรดกางเกง มุกดาตกใจ
“อุ๊ย”
มุกดาจะหยิบแก้ว ซึ่งเจนจบก็จะหยิบเหมือนกัน เลยกลายเป็นว่าเขาคว้ามือมุกดาเข้า มุกดากับเจนจบหันมาสบตากัน
เพชรเดินเข้ามาเห็นเจนจบกำลังกุมมือมุกดา ในขณะที่มุกดาเอนตัวเข้าใกล้เจนจบที่อยู่บนเตียง สองคนยังสบตากันอยู่
เพชรแกล้งปิดประตูแรงๆ ทำให้เจนจบกับมุกดาสะดุ้ง เจนจบรีบปล่อยมือมุกดา ส่วนมุกดาก็ถอยห่าง
เพชรมองเห็นรอยน้ำที่หกบนกางเกงคนไข้ เขาหันไปทางมุกแล้วพูดแดกดันทันที
“หนูมุกฝากผลงานน่าประทับใจอีกแล้ว”
“ฉันชนคุณมุกเอง” เจนจบแก้ตัวให้
มุกดาทำเสียงเง้างอด “หือมม...พี่เพชรไม่เคยมองหนูมุกในแง่ดีเลยนะคะ เดี๋ยวหนูมุกแกล้งงอนหรอก”
เพชรเปิดตู้หยิบชุดปกติของเจนจบ แล้ววางให้เจนจบ
“เปลี่ยนซะ” เพชรบอก
“หนูมุกช่วยค่ะ”
เพชรรีบดึงม่านคนไข้ปิดกั้นมุกดาทันที
“ไม่ต้อง เดี๋ยวเพื่อนฉันเจ็บหนักกว่านี้”
เจนจบเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หลังผ้าม่าน ส่วนเพชรมองมุกแล้วถาม
“เมื่อไหร่จะไปทำงาน จะได้บอกให้คนจัดโต๊ะเลขาไว้ให้”
เจนจบเปิดม่านพรวดออกมา โดยยังไม่ทันใส่เสื้อทำให้เห็นกล้ามอกเป็นแผง
“คุณมุกจะเป็นเลขาเพชร” เจนจบถามอย่างตกใจ
เพชรทำหน้าตาจำใจแทนคำตอบ มุกดาแกล้งชูสองนิ้วยิ้มร่า
“หนูมุกสู้สู้ค่ะ”
เพชรหันหน้าหนีด้วยสายตาสุดเอียน

บนถนน รุจาเหยียบคันเร่งมิดเพื่อตามคมกฤชให้ทัน เธอบีบแตรไล่รถคันอื่นไปด้วย
“หยุดรถซักทีสิ” รุจาบ่น
รุจาชะโงกหัวออกจากรถ แล้วตะโกนเรียก
“สารวัตรธีรพัฒน์ ! หยุดก่อน ขอเวลาแป๊บเดียว”
คมกฤชนั่งอยู่ภายในรถ และมองจากกระจกหลัง เห็นรถรุจาขับตามมา แถมเจ้าตัวยังโผล่หัวออกมาตะโกนอะไรไม่รู้
“จะรีบอะไรนักหนา คนอื่นเขาก็รีบเหมือนกัน” คมกฤชพูดกับตัวเอง แล้วรีบเร่งเครื่องพุ่งออกไป รุจาที่ขับตามยิ่งโมโห
“รำคาญแล้วนะ เดี๋ยวแม่ชนเข้าให้หรอก จะได้หยุด”
ไม่ทันขาดคำ รถคันหน้าคมกฤชก็เบรกกะทันหัน ทำให้คมกฤชรีบเหยียบเบรก ส่วนรุจาเบรกไม่ทัน ชนท้ายรถคมกฤชเข้าอย่างจัง
คมกฤชหน้าเครียดแล้วเปิดประตูลงมา รุจารีบคว้ามือถือขึ้นมากดอย่างลนลาน
“ประกัน ประกัน”
คมกฤชมามองเห็นรุจานั่งโทรศัพท์อยู่ในรถจึงเคาะกระจกเรียก
“ลงมาสิคุณ”
รุจาพูดโทรศัพท์ “ค่ะๆ รีบมานะคะ ฉันมีธุระต่อ”
รุจาหันมาเห็นคมกฤชหน้าตาโมโหก็ตกใจ เธอเปิดประตูรถกระแทกคมกฤชเข้าอีก คมกฤชทั้งเจ็บทั้งโมโห
“ขอโทษนะคะ ฉันชนบ่อย เรียกประกันแล้วค่ะ” รุจาบอก
คมกฤชกำลังจะอ้าปากพูด แต่รุจารีบยื่นเครื่องอัดเทปจ่อปากคมกฤช
“ฉันชื่อรุจาจากนิวส์ไทม์ จำได้ใช่มั้ยคะ ตอนนี้คดีอะดอเรลลาไปถึงไหนแล้วคะ”
คมกฤชอึ้งไป รุจารีบสวนต่อทันที
“สารวัตรมีเวลาให้ฉันสักหน่อยไหมคะ แค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้ ระหว่างรอประกัน”
“คุณเลื่อนรถเข้าข้างทางก่อนเลยไป ชาวบ้านเขาเดือดร้อน” คมกฤชบอก
รถที่ติดอยู่ข้างหลัง เริ่มบีบแตรไล่ดังขึ้นเรื่อยๆ คมกฤชทนไม่ไหว
“คุณไม่เลื่อน ผมเลื่อนเอง ถ้าเจ๊งอย่ามาว่ากันนะ”
คมกฤชจะเปิดประตู แต่ประตูล็อค เขามองเข้าไปเห็นกุญแจรถวางอยู่บนเบาะ
“เฮ้ย! นี่คุณทิ้งกุญแจรถไว้ข้างใน!”
คมกฤชมองไปที่ถนนเห็นรถติดมากขึ้น เขาตัดสินใจรีบเข็นรถเข้าข้างทาง รุจามองแล้วอมยิ้ม
คมกฤชเข็นรถชิดถนนจนรถข้างหลังขับผ่านไปได้ เขาหันมาเห็นรุจายื่นกุญแจสำรอง
“มีกุญแจสำรองทำไมไม่บอก” คมกฤชถาม
“ก็คุณเอาแต่ด่าๆๆ ฉัน แล้วก็เข็นรถเฉยเลย ตกลงว่าเรื่องคดีปล้นเพชรคืบหน้าไปถึงไหนแล้วคะ สารวัตรธีรพัฒน์”
คมกฤชมองรุจา เขารู้สึกอยากเอาคืนบ้าง
“อยากรู้นักใช่มั้ย” แววตาคมกฤชเต็มไปด้วยความคิดที่อยากล้างแค้น

ณ ร้านสตาร์ไดมอนท์ เพชรเดินนำมุกดาเข้ามาหยุดที่โต๊ะหน้าห้อง
“นั่งที่นี่” เพชรสั่ง
มุกดามองโต๊ะ ไม่ทันได้ตอบอะไร สาลินี เลขาตัวจริงของเพชรก็เดินนวยนาดเข้ามา
“คุณเพชรคะ วันนี้มีประชุมดีลเลอร์จากแอฟริกาใต้ค่ะ”
สาลินีหันไปเห็นมุกดายืนอยู่ ก็ไม่สนใจเพชรรีบหันมาวางท่าขู่ไล่มุกดาทันที สาลินีมองมุกดาหัวจรดเท้า
“นี่เธอ มาสมัครแม่บ้านเชิญชั้นล่างนะ อย่ามาเกะกะคุณเพชร รปภ.ปล่อยให้เข้ามาถึงนี่ได้ยังไง”
สาลินีคว้าข้อมือแล้วกระชากมุกดาอย่างแรง มุกดาจับข้อมือสาลินีบิดกลับโดยสัญชาตญาณ
“อ๊าย เจ็บ”
มุกดานึกขึ้นได้ก็รีบปล่อยมือ เพชรมองอย่างสงสัย
“ทำไมต้องทำร้ายคุณสาลินีด้วย มุกดา”
“หนูมุก หนูมุกไม่ได้ตั้งใจค่ะ มันเป็นอัตโนมัติน่ะค่ะ”
สาลินีทำเป็นฉีกยิ้ม แต่ยกมือขึ้นตั้งท่า “ระวังจะเจออัตโนมือของชั้น”
สาลินีทำท่าตบเผียะๆ ขู่มุกดา แล้วหันมายิ้มหวานใส่เพชร
“คุณเพชรรู้จักน้องหน้าตาแบ๊วๆ คนนี้ด้วยเหรอคะ”
“มุกดา เลขาใหม่ของผม” เพชรตอบ
สาลินียิ้มหวาน “อ๋อ เหรอคะ เลขาใหม่” สาลินีนึกขึ้นได้ “ว๊าย แล้วสาลี่ล่ะคะ สาลี่เป็นเลขาคุณเพชรอยู่นะคะ”
เพชรมองมุกดาด้วยหน้าตาจำใจ มุกดาหันไปยิ้ม แต่สาลินีแยกเขี้ยวให้อย่างเกลียดขี้หน้า

ที่บริเวณป้ายรถเมล์เวลานั้น รุจามีสีหน้าจริงจังกำลังจ่อเครื่องอัดเสียงที่คมกฤชอยู่
“ใครคะที่ปล้นอะดอเรลลา”
“คนร้ายชื่อนาย ชัยยศ เป็นลิเกเก่า” คมกฤชแต่งเรื่อง “รำไปรำมาเกิดอยากใส่ของจริง เลยยกพวกทั้งคณะมาปล้นอะดอเรลลา...จะบ้าตาย คนสมัยนี้ แต่นางเอกลิเกคณะเค้าหุ่นดี๊ดีนะ ผมยังชอบเลย”
“แสดงว่ากลุ่มโจรมีผู้หญิงด้วยเหรอคะ”
“มี...สิ แต่ไม่รู้หญิงจริงรึเปล่านะ เหมือนอย่างคุณเนี้ยแหละ ไม่รู้เพศอะไร ฮ่าฮ่าฮ่า”
รุจากัดฟัน “ฉันผู้หญิงค่ะ”
“แน่ใจเหรอ”
“แน่ใจค่ะ...แล้วอย่างนี้พวกปล้นเพชรจะติดคุกกี่ปี”
“ให้ศาลตัดสินก่อนสิ... พอแล้วล่ะ ตอนแรกกะว่าไม่ให้สัมภาษณ์ใครแล้วนะ ก่อนออกมา หนังสือข่าวด่วนก็เพิ่งสัมภาษณ์ผมไป บอกว่าจะเอาไปลงกรอบเช้าพรุ่งนี้ นิวส์ไทม์ล่ะ จะไปลงวันไหน”

รุจาหน้าตาตื่นเต้นที่รู้ว่าคู่แข่งก็ได้ข่าวไปเหมือนกัน

ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์ รุจายืนอยู่หน้าเครื่องพิมพ์แท่นขนาดใหญ่ พร้อมกับสมพล บรรณาธิการข่าว และบรรพตเจ้าของหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นพ่อของเธอนั่นเอง

“แหล่งข่าวรุจา แน่นอน มั่นคง หนักแน่น เชื่อถือได้ เป็นข่าวด่วน sms ได้เลยค่ะ เราจะได้เป็นที่หนึ่งก่อนใคร” รุจามั่นใจ
“ผมไม่เคยได้ยินประเด็นคณะลิเกเลยนะ”สมพลข้องใจ
“บก.ไม่รู้หรอกค่ะว่า กว่ารุจาจะได้แหล่งข่าวคนนี้มา..เลือดตาแทบกระเด็น”
“ดีมาก ลูกพ่อ” บรรพตชม “เป็นนักข่าว จิตวิญญาณเราต้องทุ่มเทเพื่อความถูกต้อง สมพล”
“ครับ คุณบรรพต”
สมพลยิ้มแป้น บรรพตมองแล้วถาม
“ยิ้มทำไม”
“ก็เรียกทำไมล่ะครับ”
“ฉันเรียกเพราะจะให้แกเอาข่าวจากลูกสาวฉันไปเป็นข่าวด่วน เอสเอ็มเอส ไม่ใช่มามัวแสยะยิ้มให้ฉัน”
“คร้าบ” สมพลหันไปสั่งลูกน้อง “เฮ้ย ข่าวลูกสาวนาย..ด่วน!!”
รุจากอดพ่อด้วยสีหน้าที่มีความสุขมาก

ที่หน้าห้องทำงานของเพชร มุกดามองคนงานที่นำโต๊ะมาวางอยู่สุดมุมห้องตามคำสั่งของสาลินี คนงานวางเสร็จก็เดินออกไป
“คุณสาลี่คะ” มุกดาเรียก
“สาลินีจ้ะ สาลี่ไว้เฉพาะระดับผู้บริหารเรียก พนักงานชั้นล่างๆอย่างเธอ..เรียกชื่อฉันให้เต็มด้วยความเคารพอย่างสูง... คุณสาลินี”
“ค่ะ คุณสาลินีสุดสวย”
สาลินีทำท่าประกอบ “เซ็กซี่ ขี้เล่น เน้นทุกลีลา”
“ค่ะ... เพอร์เฟ็คท์ เป๊ะที่สุด... คุณสาลินีจะให้หนูมุกไปนั่งทำงานตรงซอกนั้นจริงๆ เหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ หรือเธอจะมีปากเสียงจ๊ะ มุกดา”
มุกดามองแล้วเดินไปลากโต๊ะเข้ามา
“หนูมุกว่ามาใกล้ๆหน้าห้องพี่เพชรดีกว่า หนูมุกอยากได้ไออุ่นจากพี่เพชร”
สาลินีรีบวิ่งเข้าไปยื้อไม่ให้มุกดาเลื่อนโต๊ะ
“ดัดเหลือเกินนะยะ มาวันแรกจะเล่นของสูงซะแล้ว รู้บ้างว่าชั้นจองอยู่ หล่อนเป็นใครถึงกล้าขัดคำสั่งฉัน”
มุกดาบิดไหล่ไปมา แล้วทำหน้าตากวนประสาท “กลัว..หนูมุกกลัวจังค่ะ”
มุกดาออกแรงเลื่อนจนสาลินีหน้าคว่ำ สาลินีไม่ยอมกระโดดขึ้นนั่งบนโต๊ะอย่างไม่ยอมให้มุกเลื่อนโต๊ะ
“หล่อนจะประกาศสงครามกับฉันใช่มั้ย รู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงทุกคนในสตาร์ไดมอนด์ยกให้ฉันคือเบอร์หนึ่งของที่นี่”
“โอย ได้ยินแล้ว หนูมุกขาสั่น ใจสั่น หวิวๆจะเป็นลมแล้วค่ะ”
มุกดายกโต๊ะ สาลินีใกล้จะร่วงแบบเทกระจาด แต่เธอรีบคว้ามุมโต๊ะไว้ได้
“กรี๊ดด นังมุกดอง”
สาลินีกรี๊ดดังลั่น มุกดายิ่งแกล้งทำเป็นลากโต๊ะไปอย่างไม่สนใจสาลินี
“มุกดาค่ะ พ่อแม่ตั้งให้ชื่อ มุกดา จำไว้นะคะ”
เพชรเปิดประตูมาเห็นพอดี “ทำอะไรกัน”
มุกดาทำเป็นตกใจยกโต๊ะเท
“อุ๊ย หนูมุกต๊กกะใจ”
สาลินีกรี๊ดยาวเพราะถูกเทร่วงกระจาดลงไปกองกับพื้น
“มุกดา” เพชรยังไม่ทันต่อว่าอะไร เจนจบก็เข้ามาก่อน
“เพชร นายเห็นSMS ข่าวนี้หรือยัง” เจนจบอ่านให้ทุกคนฟัง “ตำรวจเผยจับแก๊งปล้นอะดอเรลลาได้แล้ว ที่แท้เป็นคณะลิเก”
“คณะลิเก!” เพชรตกใจ
มุกดารีบวิ่งมาทางเจนจบ ส่วนสาลินีกำลังจะลุก แต่มุกดาแกล้งกระแทกเบาๆ แล้วเคลื่อนตัวผ่าน ทำให้สาลินีเสียหลักหงายหลังผึ่งขาชี้ฟ้า เพชรกับเจนจบหันไปมอง
“คุณสาลี่” เพชรตกใจ
มุกดาพยายามกลั้นขำ
“คุณสาลี่เป็นลมไปแล้วค่ะ” มุกดาบอกด้วยเสียงไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ณ บ้านของมุกดา คมกฤชอ่าน SMSข่าวสั้นในไอโฟนแล้วถึงกับหัวเราะพรึ่ด
“รุจาเอ๊ย..เชื่อเข้าไปได้ยังไง”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงสายเข้าดัง คมกฤชมองชื่อแล้วกดรับทันที
“เออ..ว่าไง ... ไอ้ธี”
ที่กองปราบ ธีรพัฒน์กำลังโวยใส่เพื่อน
“แกใช่มั้ยที่ไปหลอกนักข่าว นายฉันกำลังโมโหควันออกหู เพราะบก.นิวส์ไทม์ บอกว่าคนให้ข่าวคือฉัน”

รุจายืนอยู่ต่อหน้าบรรพตและสมพลที่หน้าแดงก่ำ อยู่ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์
“ไหนว่าแหล่งข่าวแน่นอน” บรรพตถาม
“มั่นคง” สมพลเสริม
“หนักแน่น” บรรพตต่อ
“เชื่อถือได้ค่ะ” สมพลเสริมอีก
บรรพตเหล่มองสมพลที่ต่อประโยคของเขา
“อธิบดีตำรวจเพิ่งวางสายไป รู้มั้ยเค้าถามพ่อว่ายังไง”
“นักข่าวคุณอายุสมองเท่าไหร่” สมพลเสริม
บรรพตเหล่มองสมพลอีก
“งี่เง่า ไม่ได้เรื่อง ไม่มีวิจารณญาณ ใครสั่งใครสอน” สมพลมาเป็นชุด
“ฉันเอง” บรรพตตอบ
สมพลหุบปากทันที บรรพตหันไปทางลูกสาว
“ไปเอาข่าวมาจากไหน”
“ก้อแหล่งข่าวรุจาเป็นตำรวจเจ้าของคดีนี้เลยนะคะ”
สมพลเสนอหน้า “พันตำรวจตรี ธีรพัฒน์”
“ใช่ค่ะ” รุจาตอบ
“ตำรวจที่ลูกอ้างชื่อ เค้านั่งประชุมอยู่กับอธิบดี ทั้งวัน”
“ทั้งวัน” สมพลย้ำ
“โว๊ย” บรรพตโพล่งออกมา
สมพลเบือนหน้าไปพูดเบาๆ “โว๊ยด้วย”
“รุจา พ่อรู้ว่าลูกตั้งใจ..แต่จะเป็นนักข่าวที่ดี ลูกต้องมีทั้งสัญชาติญาณและวิจารณญาณ ไม่ใช่ว่าใครจะมาเป็นนักข่าวก็ได้ อาชีพเราต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม”
รุจาหน้าจ๋อย “ค่ะ พ่อ”
บรรพตหันไปเห็นสมพลทำท่าสั่งสอนเลียนแบบอยู่

รุจาเดินลิ่วๆมาที่หน้าห้องทำงานของธีรพัฒน์ จ่าถนอมลุกขึ้นขวางทันทีเพราะจำหน้าได้
“น้องอีกแล้ว”
“หนูมาหาสารวัตรธีรพัฒน์”
รุจาแหงนมองคอตั้งบ่าจ้องที่กระดานติดภาพ ยศ ชื่อ ของนายตำรวจระดับสูงแผ่นใหญ่ภายในกองปราบปราม เห็นชื่อและรูปของ พ.ต.ต. ธีรพัฒน์ กำเนิดดี จ่าถนอมมองรุจาอย่างสงสาร
“รู้หรือเปล่า ที่น้องลงข่าวไป สารวัตรเค้าโดนนายตำหนิ”
“หนูโดนหลอกน่ะ พี่คะ แล้ววันนั้น ผู้ชายตัวสูงๆ ที่ออกจากห้องสารวัตร ชื่ออะไรคะ” รุจาถาม
จ่าถนอมพยายามนึก รุจารีบบอกลักษณะเพิ่ม
“หล่อๆ สูงๆ บุคลิกดี แต่นิสัยเลวที่สุด”

ที่บริษัทประกันภัยของคมกฤช คมกฤชนั่งจามติดๆกันไม่หยุด
“ใครคิดถึงเนี่ยะ”
คมกฤชหันไปคลิกจอคอมพิวเตอร์ จู่ๆ ก็มีเสียงเอะอะดังมาจากด้านหน้า
“เข้าไม่ได้นะคะ นัดไว้หรือเปล่า” เสียงเอื้อมดาว เลขาของคมกฤชดังขึ้น
คมกฤชลุกขึ้นมอง เห็นรุจาผลักเอื้อมดาวเลขาคมกฤช แล้วพรวดเข้ามา พอเห็นรุจาคมกฤชก็ยิ้ม
“ว่าไงคุณนักข่าว”
เอื้อมดาวเดินออกไป รุจาเดินตรงมาต่อว่าคมกฤช
“นายมันแย่ ..ไม่มีความละอาย เป็นผู้ชายซะเปล่า กะล่อน สัปปรับ เกิดมาคงไม่มีใครรัก ถึงได้เที่ยวโกหกเรียกร้องความสนใจ ถ้าว่างมาก ก็หัดปล่อยนกปล่อยปลาซะบ้าง บุญจะได้ช่วยให้จิตใจนายสูงกว่านี้”
คมกฤชถามอย่างใจเย็น “เอาน้ำมั้ย”
“สองแก้ว” รุจาตอบ เธอหายใจแรง เท้าเอว มองอย่างเอาเรื่อง
“ทีนี้ตาผม” คมกฤชเดินเข้าไปหา “ผิดก็อย่าพาลคนอื่น แล้วมาถึงนี่ทำไม จะฟ้องผมเหรอว่าเป็นคนให้ข่าวมั่วๆ เอาเลย ..ตามสบาย ผมจะได้ฟ้องกลับบ้างว่านักข่าวไม่มีคุณภาพอย่างคุณ ไม่สมควรอยู่ทำงานให้วงการเค้าเสื่อมเสีย”
“นายว่าฉันเกินไปแล้วนะ ฉันว่านายแค่นิดเดียว”
“มากกว่านี้ ผมก็จะด่า” คมกฤชบอก
“วันนี้ฉันอาจจะไม่ใช่นักข่าวที่เก่งมาจากไหน ถึงเป็นเหยื่อ โดนคนโรคจิตอย่างนายหลอกได้ แต่รับรองเลยว่าอีกหน่อยฉันจะต้องเป็นนักข่าวที่ดีแน่ๆ เพราะฉันจะทำให้นายไม่มีโอกาสไปหลอกคนอื่นอีก”
“นี่เธอ”
“ฉันชื่อรุจา จำไว้ด้วย รุจา จากนิวส์ไทม์ ที่จะคอยตามเปิดโปงบริษัทของนายลองผู้บริหารหน้าด้านหลอกคนอื่นได้ ฉันมั่นใจเลยว่าธุรกิจนายมันก็จ้องจะเอาเปรียบลูกค้า ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับประชาชน”
คมกฤชรำคาญตรงเข้าไปล็อคแขนรุจา แล้วดันรุจาติดผนัง
“อย่านะ นายจะทำอะไรฉัน”
รุจาจ้องคมกฤชที่หน้าอยู่ใกล้จนแทบจะติดกัน
“ก็ลงโทษปากเธอไงล่ะ”
คมกฤชก้มลงจูบรุจาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว รุจาตกใจก่อนจะหลับตาพริ้มเคลิ้มไปกับจูบอันเร่าร้อน
“หลับตาซะพริ้ม คิดว่าฉันจะจูบเธอหรือไง” คมกฤชคิดในใจ
รุจาสะดุ้งแล้วลืมตา เห็นคมกฤชกำลังจ้องเขม็ง เธอนึกอายที่เมื่อกี้คือจินตนาการของตัวเองคนเดียวล้วนๆ
“ฉันไม่มีเวลามาสนใจคนอย่างเธอ ออกไปได้แล้ว”
คมกฤชคว้าแขนรุจาเปิดประตู เหวี่ยงรุจาออกนอกห้อง
“นายคมกฤช” รุจาโมโห
คมกฤชปิดประตูใส่หน้ารุจาอย่างไม่แคร์
รุจามองอย่างโมโห แล้วกระโดดถีบประตูด้วยความเจ็บใจ
“รู้จักรุจาน้อยไปแล้ว”

ที่ทำงานกองบก.นิวส์ไทม์ สมพลกับบรรพตมองรุจาที่หน้าตาจริงจัง
“บริษัทของนายคมกฤชต้องมีนอกมีในกับการหายไปของอะดอเรลลา” รุจาบอก
“เดี๋ยวก่อน ลูกสาวสุดที่รัก บริษัทคุณคมกฤชเค้าต้องจ่ายเป็นพันล้านเลยนะ”
“แล้วตรงไหนที่เป็นผลประโยชน์.... ผมยังนึกไม่ออก” สมพลงง
“ยังไม่มีการจ่ายเงินประกันนี่คะ”
“ใช่ นึกออกพอดี นี่แหละประเด็น” สมพลสรุป
“บางทีเพชรอะดอเรลลาอาจจะไม่มีจริงก็ได้ แต่เป็นกระแสลวงโลก ไม่ต้องห่วงนะคะ รุจาจะตามล้วง ลับ สาวไส้เรื่องนี้มาให้ได้”
บรรพตกับสมพลแอบมองกัน
“ผมว่าคุณน่าจะไปทำข่าวบันเทิง ใครกิ๊กใคร เลิกกับใคร แอบแทงข้างหลังใคร อักษรย่อ ก ข ค ง เอ บี ซี เอาให้งงไปเลย” สมพลเสนอ
“ไม่ค่ะ.. รุจาชอบงานท้าทาย”
“อุดมการณ์มุ่งมั่นเหมือนพ่อ”
“รุจาจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเองว่ารุจาก็เป็นนักข่าวที่ดีได้ โดยเฉพาะนายคมกฤช เค้าต้องถอนคำพูดทุกคำที่ดูถูกรุจา”
“เอาเลย” บรรพตสนับสนุน
“อะไรคะ”
“ก็ทำสิ อย่ามามัวยืนทำตาฝัน ดีแต่พล่ามเพ้อเจ้ออยู่ตรงนี้ ทำเลย แล้วต้องทำให้ดีด้วย ไม่งั้น...”
“ไล่ออก” สมพลเสริม
บรรพตมอง สมพลยืดเหมือนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เสียเอง

ภายในห้องประชุมของบริษัทคมกฤช คมกฤชลุกพรวดต่อหน้าลูกน้องทุกคน
“ลูกค้า 4 รายโทรมายกเลิกสัญญา”
ลูกน้องทุกคนกลัวท่าทางโมโหเป็นไฟของคมกฤช
“ตอนนี้มีข่าวลือว่า บริษัทเราไม่มั่นคงเรื่องการเงิน” เอื้อมดาวบอก
“ข่าวลือ .. ฉันรู้แล้วว่ามาจากใคร” คมกฤชพูดด้วยหน้าตาที่เดือดดาล

ที่สำนักงานกองบก.นิวส์ไทม์ รุจากำลังเลือกรูปในคอมพิวเตอร์ มีเสียงเดินปึงปังเข้ามา รุจาหันไปมองเห็นคมกฤชถือแปรงขัดส้วมกับน้ำยาล้างพื้นเดินตรงมาที่โต๊ะรุจา
รุจาลุกขึ้น คมกฤชโยนของทั้งหมดลงตรงหน้าเธอ สมพลกับทุกคนในกองบก.มองอย่างตกใจ
“ของฝากจากฉัน เอาไว้ขัดปากเธอ” คมกฤชบอก
“จะมาหาเรื่องอะไรฉันอีก”
บรรพตเปิดประตูห้องออกมามอง
“เธอนั่นแหละที่จองเวรฉัน มีสื่อในมือคิดจะทำลายใครก็ได้ใช่มั้ย ฉันบอกไว้เลยนะ ทองแท้อย่างฉันทนไฟ ฉันไม่กลัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุเรศๆที่เธอปล่อยทำลายชื่อเสียงบริษัทฉัน” คมกฤชใส่เป็นชุด
“อ้าว.. คุณ..ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งกล่าวหากัน” สมพลเบรค
คมกฤชหันมาสวน “สั่งสอนลูกน้องคุณด้วย มีจรรยาบรรณซะบ้าง อย่ากร่างนัก”
รุจาโมโหคว้าแปรงขัดส้วมปาไปโดนคมกฤชเต็มๆ
“โอ๊ย” คมกฤชร้อง
“ฉันว่าแปรงขัดส้วมนี่แหละที่นายจะต้องเอาใช้ขัดปากนาย ถ้าดูถูกหนังสือพิมพ์ของฉันอีกคำ ฉันจะจองเวรอย่างที่นายพูด” รุจาโกรธ
คมกฤชเห็นทุกคนมองตรงมาจึงเตะแปรงขัดส้วมกระเด็น แล้วเดินพรวดๆออกไป บรรพตเดินมาหารุจา
“ไอ้หมอนี่ใคร ถึงบ้าระห่ำขึ้นมาด่าหนังสือพิมพ์ชั้น”
“พ่อไม่ต้องค่ะ เรื่องนี้รุจาจัดการเอง มันเป็นแค้นของรุจากับเค้าสองคน รุจาจะไม่เอาหน้าที่มาปนกับเรื่องส่วนตัว”
รุจามองแล้วคว้าน้ำยาขัดส้วมวิ่งตามออกไป
“ตกลงฉันจะได้รู้มั้ยว่ามันเป็นใคร” บรรพตเปรย
“ต้องรอถามคนที่วิ่งออกไปน่ะครับ” สมพลบอก

ที่หน้าตึกหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์ คมกฤชกำลังเดินลงจากตึก รุจาวิ่งตามมา
“นายคมกฤช”
คมกฤชหันมา รุจาฉีดน้ำยาล้างส้วมเข้าที่เสื้อ
“เฮ้ย เธอ อย่า” คมกฤชปัดป้อง “หยุด”
รุจาตามมาฉีดจนหมดขวด
“มันเหม็น” คมกฤชบอก
รุจาปาขวดใส่คมกฤชอย่างแรง
“เหม็นน้อยกว่านาย จำไว้ นายกับฉัน ชาตินี้”
คมกฤชรีบพูดต่อ “ตายกันไปข้างนึง”
รุจากับคมกฤชมองหน้ากันอย่างคู่แค้น

ที่หน้าห้องทำงานของเพชร มุกดากำลังจัดโต๊ะทำงานที่วางติดกับสาลินี สาลินีเดินมาคว้ากระเป๋า
“กลับได้แล้วย่ะ ไม่ต้องทำเป็นขยัน ยังไงผลงานเธอก็ไม่เข้าตาคุณเพชร”
“ใช่ กลับบ้านได้แล้ว หนูมุก” เสียงมรกตดังขึ้น
“คุณป้า คุณป้าของหนูมุก” มุกดาหันไปหา
สาลินีหันตามไป มุกดากำลังจะเดินไปหามรกต แต่สาลินีรีบเบียดมุกดาแล้วรี่เข้าไปไหว้ก่อน
“คุณมรกตสวัสดีค่ะ มีอะไรให้สาลี่รับใช้คะ สบายดีนะคะ ผอมลงหรือเปล่าคะ แต่ยังสวยเหมือนเดิมเลย”
“ลิ้นเธอน่ะ” มรกตพูด
“คะ” สาลินีงงรับมุกไม่ทัน
“ตวัดได้รอบคอแล้ว” มรกตแขวะ
“เหรอคะ สาลี่ไม่รู้ตัวเลย”
สาลินีทำเป็นหัวเราะไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อมรกตเดินผ่านเธอก็แอบทำหน้าหมั่นไส้ใส่
“ใครให้หนูมุกนั่งทำงานตรงนี้” มรกตถาม
“สาลี่เองค่ะ ตอนแรกจะให้นั่งอีกห้อง แต่เห็นว่าคุณเพชรพามาฝากทำงาน สาลี่ก็เลยจัดให้นั่งด้านหน้าตรงนี้”
“เรียกคนมายกโต๊ะ” มรกตสั่ง
“ยกไปด้านนอก” สาลินีดี๊ด๊า
“ยกไปไว้ในห้องเพชร” มรกตบอก
สาลินีอ้าปากค้าง มุกดาหัวเราะสะใจ

ภายในห้องทำงานของเพชร มุกดายืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานที่อยู่ใกล้กับโต๊ะของเพชร สาลินีทำหน้าปั้นยิ้มเต็มที่แล้วพูด
“ดีจังเลยค่ะ แต่ถ้ายกโต๊ะของสาลินีมาอีกคน ห้องคุณเพชรจะอึดอัดไปมั้ยคะ”
“เธอไม่ต้องย้ายเข้ามา สาลินี” มรกตบอก
“แม่ครับ คุณสาลี่ต้องสอนงานมุก” เพชรบอก
“แกก็สอนเองสิ”
“ผมไม่ค่อยว่าง ต้องไปเมืองนอก ไปสั่งของ ไปหาลูกค้า”
“นั่นแหละ พาหนูมุกไปรู้งานด้วย” มรกตบอก
“ไหวเหรอคะ กลัวจะไปติงต๊องให้อายคนมากกว่า” สาลินีรีบค้าน
มรกตหันไปถลึงตาใส่ทำให้สาลินีรีบฉีกยิ้ม
“ทำไมยังไม่เลิกงาน” มรกตถาม
“หนูมุกเลิกแล้วค่ะ คุณสาลี่บอกให้รีบกลับ อย่าทำงานเกินเวลาให้บริษัทเอาเปรียบเรา แต่พอดีคุณป้ามาซะก่อน”
สาลินีหันไปทำท่าเหมือนจะฆ่ามุก ส่วนเพชรขยับไปประคองแม่
“ไปครับ กลับบ้าน คุณแม่เพิ่งหาย”
“ฉันหายดี หายสนิท หายเป็นปลิดทิ้ง ตั้งแต่เห็นหนูมุกที่นี่”
เพชรมองแม่ มรกตทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วสั่งอีก
“ทำหน้าที่เจ้านายหน่อยสิเพชร”
มุกดารีบแกล้งทันที “ไม่ต้องให้พี่เพชรไปส่งหนูมุกนะคะ คุณป้า หนูมุกโหนรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า ลงเรือ ต่อวิน กลับเองได้ค่ะ”
“ก็รีบไปสิจ๊ะ มุกดา มายืนขอความเวทนาอยู่ได้” สาลินีบอก
“ตาเพชร แกอยากหูหนวกจริงๆ หรือเปล่า ไม่ได้ยินที่แม่สั่งหรือไง พาหนูมุกกลับบ้าน”
ทั้งเพชร ทั้งสาลินีหันไปจ้องมุกดาเป็นตาเดียว เหมือนอยากจะฆ่าให้ตายเดี๋ยวนั้น

มุกดาเดินหน้าตาเบิกบานมาตามทางเดินหน้าสตาร์ไดมอนด์ เธอโบกมือบ๊ายบายพนักงานทุกคน
ส่วนเพชรพยายามเดินห่าง มุกดาแกล้งเข้าไปคล้องแขนเพชรแล้วเอียงหัวซบไหล่
“คู่รักหวานแหววแห่งปี เค้าต้องเดินควงกันแบบนี้ค่ะ” มุกดาบอก
เพชรจับหัวมุกดาแล้วดันออกห่าง
“ออกไป ฉันกลัวเชื้อโรค”
“เอาอีกแล้ว พี่เพชรอ่ะ เมื่อไหร่จะโรแมนติกกับหนูมุกบ้างคะ จุ๊ จุ๊ ไม่ต้องอายหรอกค่ะ ใครๆเค้าก็รู้ว่าเราเลิฟกัน”
เพชรทำท่าขนลุก หันไปมองรอบๆ เห็นสายตาพนักงานที่มองมา หลายคนแอบหัวเราะคิกคัก เพชรรีบกระชากเสียง
“ก่อนกลับบ้านฉันขอแวะวัด”
“ว๊าย ว๊าย ว๊าย หนูมุกอ๊าย อาย จะไปผูกดวงหาฤกษ์แต่งเลยเหรอคะ”
“ไปรดน้ำมนต์” เพชรบอกแล้วรีบเดินนำไป แต่เสียงมือถือมุกดากับเพชรดังขึ้นพร้อมกัน สองคนหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมกัน
เพชรมองเห็นหน้าจอขึ้นเป็นชื่อ ธีรพัฒน์ ส่วนที่หน้าจอมุกดาเป็นชื่อ พี่กฤชพร้อมรูป คมกฤช
เพชรหันมา มุกดาทำเป็นโบกมือ
“อุ๊ย อุ๊ย หนูมุกไม่ได้นอกใจพี่เพชรนะคะ ธรรมดาของคนสวย ก็ต้องซุกกิ๊กเยอะนิดนึง ขอเวลา 2 นาที เคลียร์กิ๊กคนนี้ก่อน”
มุกดารีบเดินแยกไป เธอกดรับแล้วพูดเสียงเบา
“ว่าไง พี่กฤช”
เพชรกดรับสายบ้าง
“ครับ ...สารวัตรธีรพัฒน์”

ธีรพัฒน์กำลังพูดโทรศัพท์กับเพชรจากภายในห้องทำงานของเขาเอง
“เราตรวจเจอว่า แผ่นดีวีดีแผนรักษาความปลอดภัยของบริษัทคุณพาที เหมือนกับแผ่นที่อยู่ในกระเป๋าเนส... คนร้ายที่ถูกยิงตาย”
เพชรมีสีหน้าตกใจ
“มีคนส่งระบบรักษาความปลอดภัยให้โจร”
อีกด้านหนึ่ง คมกฤชอยู่ในห้องทำงานกำลังพูดโทรศัพท์กับมุกดา
“ทั้งๆที่เรื่องนี้คือความลับสุดยอด คนที่จะรู้คือระดับผู้บริหารเท่านั้น”
“แสดงว่า....ปล้นครั้งนี้มีคนในร่วมด้วย ไม่แน่ว่าจากพาที หรือไม่ก็คนที่สตาร์ไดมอนด์”
มุกดากับเพชรหันมามองกันพอดี
ทั้งสองคนวางสายแล้วปั้นยิ้มให้กันแบบฝืนๆ โดยที่ภายในใจของทั้งคู่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

เพชรวุ่นวายอยู่กับการเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะภายในห้องทำงาน
“คุณสาลี่เค้าเพิ่งโทรมาเตือนเรื่องประชุมกับกระทรวงพรุ่งนี้ ฉันต้องเอาข้อมูลไปคุยกับรัฐมนตรี เธอกลับบ้านไปก่อนได้เลย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณป้าสั่งให้พี่เพชรไปส่งหนูมุก...ยังไงพี่เพชรก็ต้องไปส่ง” มุกดาบอก
“ฉันมีงานด่วน” เพชรย้ำ
“หนูมุกรอได้ค่ะ” มุกดาร้องเพลงแต่ปางก่อน “รอคอยเธอมาแสนนานนนน”
“หยุดหอน ไม่ต้องรอ กลับไปเลย”
“ไม่ได้ค่ะ คำสั่งคุณป้าคือประกาศิต หนูมุกจะรอพี่เพชร”
“ก็ตามใจ เออ ใช้อะไรหน่อยสิ”
“เยส เซอร์” มุกดาพร้อมรับคำสั่ง
“ไปชงกาแฟมาให้หน่อย...ไม่..ไม่...ไปซื้อให้ดีกว่า เดี๋ยวเธอชงไม่อร่อยที่ร้านด้านล่างตึก”
“แต่หนูมุกชงแป๊ปเดียว พี่เพชรก็ได้จิบร้อนๆแล้วนะคะ”
“ฉันอยากกินกาแฟเย็น... ใส่ทุกอย่างเลยนะ แก้วใหญ่ เอาพวกแซนด์วิชมาด้วย 4-5 อัน แล้วก็เลยไปดูที่ร้านอาหารตรงข้ามตึก ... ฉันอยากกินข้าวต้ม แล้วก็ผัดไทย”
“ที่สั่งน่ะ กินคนเดียวหมดเหรอคะ”
“หมด เอาติ่มซำกับเป็ดปักกิ่งมาด้วย ฉันมีร้านประจำ โทรไปแล้วก็รอให้เค้ามาส่ง แล้วเธอค่อยเอาขึ้นมา”
เพชรทำเป็นง่วนอยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์ มุกดานับนิ้ว
“กาแฟ แซนด์วิช สเต๊ก ส้มตำ ติ่มซำ เป็ดปักกิ่ง”
“ยังไม่ไปอีก หิว” เพชรเร่ง
“หิวมากมั้ยคะ หนูมุกว่ากว่าจะได้ครบ พี่เพชรคงไส้ขาดซะก่อน”
“ก็รีบไปสิ”
“รับทราบ หนูมุกปฏิบัติการณ์รักเพื่อสุดที่เลิฟ ณ บัดนาว”
มุกดารีบวิ่งออกไป พอประตูปิด เพชรก็เงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์แล้วมองนิ่งๆ

มุกดาเดินออกมาหน้าห้อง แล้วหันมองกลับเข้าไป
“รอไปเถอะ ไอ้พี่เพชร รอไปเลย ชาติหน้าค่อยกิน”
มุกดาเดินไปได้สักพักเดียว เพชรก็เดินออกมา เขาตรงไปที่โต๊ะสาลินี
เพชรรื้อโต๊ะสาลินีเห็นดีวีดีหลายแผ่น เขาหยิบมาวางเห็นเป็นแผ่นเพลง แผ่นเล่นโยคะ
แผ่นดีวีดีแต่งหน้าตามเทรนด์และแผ่นดูไพ่ยิบซี
“นี่โต๊ะเลขา หรือว่าโต๊ะดูดวง” เพชรพึมพำ เขากอดอกแล้วนิ่งคิด
“ระบบรักษาความปลอดภัย หลุดไปจากใคร”

มุกดาเดินเข้ามาในห้องทำงานของเจนจบ ภายในห้องมีรูปเจนจบกับเพชร รูปเจนจบ
กับเพชร พาที และชนินทร รูปเจนจบกับลูกค้าวีไอพี มีภาพเครื่องประดับออกแบบสวยๆ อยู่ในห้อง
มุกดารื้อดูเอกสาร เธอกรีดดูที่เก็บนามบัตร เจอแต่นามบัตรลูกค้ากับร้านต่างๆ
มุกดาเปิดดูในคอมพิวเตอร์ มีแต่เรื่องออกแบบเพชร เธอมองนิ่งอย่างใช้ความคิด

ชนินทรถือกระเป๋ากำลังจะกลับบ้านอยู่ที่ทางเดินหน้าสตาร์ไดมอนด์ เขาเดินคุยมือถือด้วยเสียงเครียด
“โทรมาทำไมตอนนี้”
พนักงานเดินผ่านเขาเพราะกำลังจะกลับบ้าน ชนินทรยิ่งเสียงเข้มหนัก
“ฉันสั่งแล้วว่าอย่าโทร เดี๋ยวมีใครได้ยิน”
ปลายสายตอบกลับแต่ชนินทรสวนกลับอย่างมีอารมณ์
“ของร้อนแบบนั้น ใครจะเก็บไว้กับตัว ฉันไม่โง่ให้ใครมาจับฉันได้หรอก”
ชนินทรเดินเร็วออกไป
มุกดาออกจากมุมที่หลบฟังอยู่ เธอมองตามชนินทร แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย

อีกด้านหนึ่ง เพชรเดินคุยมือถืออยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เจนจบ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกหน่อย สองคน”

ป้ายบนโต๊ะเขียนโชว์หราว่า ‘ชนินทร สุดจิตต์ Managing Director’ ภาพในห้องมีแต่ภาพถ่ายชนินทรในมาดนักธุรกิจดูดี ไม่มีภาพถ่ายกับเพื่อนๆเหมือนอย่างห้องของเจนจบ
มุกดาดูตู้เอกสาร รื้อโต๊ะทำงานอย่างเร่งรีบจนข้อศอกไปชนแฟ้มเอกสารบนโต๊ะหล่นลงพื้น
มุกดาก้มลงเก็บ เห็นเอกสารบางอย่างโผล่ออกมา มุกดาเปิดดูเห็นเป็นแผนผังทางเข้าออกโรงแรม
และห้องแสดงเพชรอะดอเรลลา
“ผังโรงแรม... กับห้องแสดงอะดอเรลลา”
มุกดารู้สึกวาบด้านหลัง เธอหันไปเห็นชนินทรยืนจ้องอยู่ก็ตกใจรีบลุกขึ้น
“แกเข้ามาทำอะไร” ชนินทรเสียงเข้ม

มุกดายืนอึ้งเพราะนึกไม่ถึงว่าจะเจอชนินทรในตอนนี้









Create Date : 31 มกราคม 2555
Last Update : 31 มกราคม 2555 10:39:44 น.
Counter : 369 Pageviews.

0 comment
มุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 1



กลางดึกของค่ำคืนหนึ่ง รถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาในลานจอดรถโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ แล้วถอยหลังเข้าจอดด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็มีรถยนต์แต่งสีสันจัดจ้านตีวงเลี้ยวเข้ามาในลานจอดรถ ก่อนจะดริฟท์เสียงล้อบดขยี้ถนนดังบาดหู

อีกด้านหนึ่ง รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ซึ่งมีคนนั่งซ้อนท้ายมาด้วยหนึ่งคน ก็เร่งเครื่องพุ่งทะยานมา รถบิ๊กไบค์เร่งเครื่องอย่างรวดเร็วแล้วตีวงจอด
เจ้าของรถหรูคันแรกคือ ภูผา หนุ่มมาดเข้มก้าวลงจากฝั่งข้างคนขับ เขาแต่งตัวหรูและถือกระเป๋าใบใหญ่ หลังจากนั้น บลู สาวสวยเซ็กซี่ในชุดหนังรัดรูปก็ก้าวลงมาจากที่นั่งด้านข้าง
ส่วนคนขับรถบิ๊กไบค์เป็น แมงมุม สาวมาดเท่ดูเผินๆเหมือนผู้ชายเธอกำลังถอดหมวกออก คนซ้อนคือเนส เด็กหนุ่มหล่อสะอาดมีเป้สะพายอยู่ที่ด้านหลัง
รถยนต์แต่งเร่งเสียงเครื่องครางหึ่งก่อนจะดับลง ร่างของ ขุนพล หนุ่มหล่อแต่งตัวแนวสปอร์ตลงมาเป็นคนสุดท้าย ภูผา บลู ขุนพล แมงมุม และเนส ก้าวลงจากทางลาดของลานจอดรถ มาพร้อมๆ กัน

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่ทางเดินภายในโรงแรม มุกดาเดินเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉง หลังจากนั้นไม่นานกระโปรงที่เธอใส่อยู่ก็ถูกกระชากออกอย่างแรง จนเผยให้เห็นขายาวขาวในชุดแนบเนื้อของเธอ

ที่ห้องแสดงเพชรอะดอเรลลาซึ่งเป็นห้องกระจกบนชั้นสูงของตึกที่มองเห็นวิวรอบกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา ธีรพัฒน์ ตำรวจหนุ่มก้าวเข้าห้องมา พร้อมลูกน้องทั้งในและนอกเครื่องแบบซึ่งมาตรวจดูความปลอดภัย
อะดอเรลลา เป็นสร้อยเพชรสีชมพู 20 กะรัต ล้อมวงด้วยเพชรเม็ดเล็กๆเรียงกัน ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ท่ามกลางเครื่องประดับชิ้นอื่นๆที่ใส่ตู้วางอยู่รอบๆ

ภายในอาคารสตาร์ไดมอนด์ เพชร ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของสตาร์ไดมอนด์ซึ่งอยู่ในชุดสูทที่ดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า เพชรยืนอยู่ท่ามกลางเครื่องประดับราคาแพงมากมายภายในร้าน
“อะดอเรลลา สร้อยเพชรสีชมพูอาถรรพ์” เสียงเจนจบดังเข้ามา เพชรหันไปมองที่เจนจบ หนุ่มหล่อสะอาด ซึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับพาที หนุ่มอารมณ์ดี และชนินทร หนุ่มหน้าตาเคร่งขรึม ทั้ง 3 เป็นเพื่อนสนิทของเขา
“คนอย่างเพชร พัชระ โสภณพันธ์ ไม่เชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ อาถรรพ์ของอะดอเรลลา ก็แค่เรื่องบังเอิญ” เพชรบอกเพื่อนๆ
ทุกคนมองมาที่เพชร เจ้าของตึกและธุรกิจอัญมณีชั้นนำของเมืองไทยในชื่อ สตาร์ไดมอนด์ เป็นตาเดียว

ภายในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่กำลังดูในจอที่ฉายภาพมุมทางเดินต่างๆในโรงแรม ภูผาก้าวเข้ามาด้านหลัง
“งั้นลองฟังเรื่องบังเอิญของนายก่อน” เสียงของชนินทรที่พูดกับเพื่อนๆ เรื่องอะดอเรลลาอยู่ในร้านสตาร์ไดมอนด์ดังขึ้น
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งหันไปมองแล้วตกใจที่เห็นภูผา เขาทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ แต่ภูผาเอาเท้ายันอก จนท. ก่อนจะดันเก้าอี้จนติดผนังแล้วสะบัดมีดโค้งด้ามสลักไม้แทงเข้าปักอกจนท.คนนั้น แล้วหันกลับมาปาดคอ จนท.คนที่ 2 จนเลือดกระฉูด
“ราชินีองค์แรกที่ได้ อะดอเรลลา เป็นของขวัญแต่งงาน โดนกิโยตินตัดคอ...” เสียงของเพชรดังขึ้นในขณะที่ภายในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดได้รับการบุกรุกแล้ว

ณ ทางเดินภายในโรงแรม บลูในชุดรัดรูปสั้น กำลังก้าวเข้าไปในลิฟต์ ประตูลิฟต์กำลังจะปิดแต่มีมือมาแทรกไว้ บลูมองตามเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 คน ก้าวเข้ามาในลิฟต์ บลูยิ้มแล้วทิ้งสายตา เธอขยับปลดต่างหูรูปแท่งยาว ลิฟต์ปิดแล้วเลื่อนขึ้น
“ชั้นไหนครับ” ตำรวจถาม
“ชั้นอะดอเรลลาค่ะ” บลูตอบ
ได้ยินดังนั้น ตำรวจทั้ง 4 นายก็หันขวับมาทันที แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร บลูก็เอาต่างหูที่เป็นอาวุธเหล็กแหลมแทงเข้าที่คอของตำรวจคนแรกแล้วชักออก เลือดพุ่งกระฉูดจากคอ ตำรวจที่เหลือชักปืนแต่มือขวาบลูถือมีดบางเฉียบ ปาดฉับๆ ส่วนมือซ้ายก็แทงต่างหูแหลมเข้าที่คอตำรวจคนสุดท้าย หยดเลือดกระเซ็นไปทั้งลิฟต์ ตำรวจทั้ง 4 นายล้มลงเป็นศพที่ปลายเท้าของบลู
บลูยิ้ม เธอปาดเลือดที่กระเซ็นบนเนินอกขาวด้วยปลายนิ้ว แล้วใช้ลิ้นเลีย เธอเงยหน้ามองลิฟต์ที่กำลังไล่เลขขึ้นไปชั้นบน

ณ โถงทางเดินหน้าลิฟต์ หน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทพาทีพร้อมอาวุธครบมือยืนเฝ้าโถงทางเดินอยู่ ธีรพัฒน์เดินมากับลูกน้อง หน่วยรปภ. กดลิฟต์ให้เขา
“ผมจะลงไปตรวจด้านล่างอีกรอบ ห้ามใครผ่านขึ้นมาชั้นนี้เด็ดขาด” ธีรพัฒน์บอก รปภ.
ลิฟต์เปิดออก ภายในว่างเปล่า เพราะไม่ใช่ลิฟต์ตัวที่บลูขึ้น ธีรพัฒน์กับลูกน้องเดินเข้าไป

หน้าแผงควบคุมคอมพิวเตอร์ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เนสกำลังถือแมคบุ๊คต่อเชื่อมกับระบบภาพวงจรปิดทั้งโรงแรมและข้อมูลคอมพิวเตอร์ต่างๆ อยู่
เนสกดคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว เขาเข้าระบบไปทำลายข้อมูลต่างๆ ขั้นสุดท้าย เนสกด enter ทันใดนั้นเองแผงไฟก็กระตุก หน้าจอควบคุมวงจรหลายเครื่องดับลง เนสยิ้มที่ทำงานสำเร็จ

ภายในร้านสตาร์ไดมอนด์ เพชรกำลังจัดวางเครื่องประดับในตู้ใหม่ เจนจบเล่าเรื่องอาถรรพ์ให้ทุกคนฟังอย่างต่อเนื่อง
“เจ้าหญิงคนต่อมา ใส่อะดอเรลลาในงานหมั้น หลังพิธี .. รถตกเหว พระศพแหลกเหลว ไม่มีใครจำสภาพได้”
“พอเถอะ เจนจบ” เพชรขัด “ต่อให้นายเชื่อว่าอะดอเรลลามีอาถรรพ์ แต่ฉันก็ได้มันมาแล้วในราคาถูกๆแค่ 500 ล้าน”
“ถูกของแก 500 ล้าน” พาทีประชด
“ใช่ 500 ล้าน ไม่แพงเลยสำหรับชื่อเสียงสตาร์ไดมอนด์ของฉัน” เพชรหันไปทางพาที “บริษัทรักษาความปลอดภัยของแกน่ะ มีหน้าที่ดูแลอะดอเรลลาของฉันให้ดีที่สุด ก่อนเปิดแสดงพรุ่งนี้ .. ฉันสั่งแกแล้วนะ พาที มดสักตัว ฉันก็ไม่อนุญาตให้เดินเฉียดอะดอเรลลา”
เพชรพูดเสียงเข้มด้วยแววตาจริงจัง

ภายในห้องแสดงอะดอเรลลา อะดอเรลลาสะท้อนไฟแวววาวอยู่ ทั่วบริเวณโดยรอบมีแสงเลเซอร์สีเขียวพาดไว้โดยรอบอะดอเรลา มุกดาจับจ้องไปยังอะดอเรลลาอย่างใช้ความคิด

ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์อยู่กับลูกน้อง 2 คน อยู่ๆลิฟต์ก็ค้าง เกิดเสียงกระแทกดังตึ๊ง ธีรพัฒน์กับลูกน้องชักปืนออกมาเตรียมพร้อมทันที
ลูกน้องกดสัญญาณแจ้งลิฟต์ค้าง ธีรพัฒน์พูดใส่ไมค์โครโฟนที่ติดอยู่บนปกเสื้อเพื่อติดต่อลูกน้องด้านนอก
“ด้านล่างมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
ที่ปล่องลิฟต์ ภูผากำลังนั่งอยู่บนตู้ลิฟต์โดยสารของธีรพัฒน์อย่างใจเย็น
ธีรพัฒน์ถือปืน มองไปรอบๆ ตามสัญชาติญาณของตำรวจ เขาพูดย้ำกับทุกคน
“ล็อคลิฟต์ทุกตัว ย้ำ ..ล็อคลิฟต์ทุกตัว อย่าให้ใครผ่านขึ้นไปห้องแสดงอะดอเรลลา”
ภูผาที่นั่งฟังอยู่ยิ้มนิดๆ ด้วยท่าทีนิ่งๆ

หน่วยรปภ.ที่โถงทางเดินหน้าลิฟท์ถือปืนเตรียมพร้อม เมื่อลิฟต์เปิดออก ทุกคนเล็งปืนไปด้านในแต่ไม่มีคนอยู่ในลิฟต์ รปภ. ทุกคนจึงลดปืน
รปภ.คนที่หนึ่งพูดว. “แจ้งบริษัทสตาร์ไดมอนด์ กับคุณพาที ด่วนที่....”
ทันใดนั้นเอง ขุนพลที่ใส่หน้ากากยางปิดบังหน้าตาใช้สลิงยึดตัวอยู่กับเพดานลิฟต์ก็ห้อยตัวลงมา รปภ.2 คนเห็นก็ยกปืนขึ้นจะยิง แต่เจอขุนพลยิงเจาะอกทั้งสองคน
รปภ อีก 2 คนยิงปืนใส่ กระสุนเฉียดขุนพลที่ดึงตัวขึ้นไปหลบแนบเพดาน รปภ.ที่เหลือพุ่งเข้าไปจะยิงซ้ำ แต่ประตูลิฟต์ก็ปิดเสียก่อน

ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์พยายามติดต่อคนภายนอก ส่วนตำรวจลูกน้องทั้ง 2 คนกำลังช่วยกันงัดลิฟต์ด้วยมือเปล่า
“ทุกหน่วยคุ้มกันห้องอะดอเรลลา” ธีรพัฒน์สั่งเสียงเข้ม

อีกด้านหนึ่ง หน่วย รปภ.เตรียมพร้อมอยู่หน้าลิฟต์ มีเสียงลิฟต์หยุด รปภ. ทุกคนเล็งปืนไปที่ลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกันทั้งสองตัว
ขุนพลห้อยตัวลงมา ส่วนบลูใส่หน้ากากยางอีกแบบทั้งสองมือมีปืนถืออยู่ ทั้งขุนพลและบลูกราดยิงออกมาจากลิฟต์ ส่วน รปภ.ยิงสู้
ขุนพลม้วนตัวเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมกับบลู ทั้งสองคนยิงถูกที่กลางอกของรปภ.ที่เหลือจนล้มลงตาย ขุนพลกับบลูมองศพ รปภ. ที่เกลื่อนหน้าลิฟต์ แล้วเดินเข้าไปในห้องแสดงอะดอเรลลาทันที

ภายในห้องแสดงอะดอเรลลา อะดอเรลลายังตั้งเด่นอยู่กลางห้อง บลูกับขุนพลเห็นมุกดากำลังเอื้อมมือจะหยิบอะดอเรลลา
“ห้ามแตะ นั่นมันอะดอเรลลาของเรา” บลูร้องบอก
“ของฉันต่างหาก”
มุกดายิ้ม และคว้าอะดอเรลลามาได้ เธอรีบหย่อนลงถุงที่ข้างเอวทันที
ขุนพลยิง มุกดาม้วนตัวหลบทำให้กระสุนโดนตู้เครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ตกลงมา มุกดาพุ่งตัวหลบไปจนสุดอีกด้านหนึ่ง เธอหันไปมองผ่านกระจกเห็นความสูงของตึกก็ถึงกับชะงัก พอหันหน้ากลับมาบลูกก็ระชากตัวมุกดามาและกำลังจะปักเหล็กแหลมลงที่คอของมุกดา
มุกดาชกเปรี้ยงเข้าที่หน้าบลูทำให้เหล็กหล่นจากมือ ขุนพลยิง มุกดาก้มตัวหยิบเหล็กของบลูแล้วปาพุ่งเข้าน่องขุนพล
มุกดาวิ่งพุ่งไปทางประตู แต่บลูโดดขวางไว้ ทั้งมุกดาและบลูล้มกลิ้งกันไป บลูพยายามดึงถุงอะดอเรลลาที่เอวมุกดา มุกดาก็พยายามกระชากหน้ากากยางของบลูออก
บลูกัดมือมุกดา มุกดาตบเข้าที่ใบหน้าบลูเต็มแรง ขุนพลมองนาฬิกาแล้วตะโกนบอกบลู
“ต้องไปแล้ว บลู”
บลูกระแทกมุกดาเข้ากับผนังตั้งใจจะคว้าถุงให้ได้ แต่มุกดาเตะเข้าที่กลางตัวบลูแล้วกระชากหน้ากากออกทันที
สองคนต่างตกตะลึงจ้องหน้ากันอยู่นานหลายวินาที บลูชกเปรี้ยงเข้าที่หน้า แต่มุกดาบิดหน้าหลบทันอย่างฉิวเฉียด บลูดึงหน้ากากปิด ขุนพลยิงใส่จนมุกดาต้องกระโดดหนีแล้วพุ่งอย่างเร็วไปทางประตู

ที่ปล่องลิฟต์ ภูผามองนาฬิกาแล้วหยิบระเบิดวางลงบนลิฟต์ แล้วรีบไต่สลิงขึ้นไปด้านบน
ธีรพัฒน์ร้อนรนในขณะที่ตำรวจลูกน้องพยายามงัดลิฟต์อยู่
“ใครอยู่ที่ห้องแสดงอะดอเรลลา รายงานด้วย” ธีรพัฒน์พูดใส่ไมค์โครโฟนด้วยเสียงเข้ม

อีกด้านหนึ่ง มุกดาพุ่งออกมาจากในห้องแสดงอะดอเรลลา แต่เจอแมงมุมที่ใส่หน้ากากยางดักอยู่ แมงมุมก้าวมายิงใส่ มุกดาวิ่งหลบแล้วตัดสินใจพุ่งหนีไปทางบันไดหนีไฟ ส่วนบลูกับขุนพลวิ่งออกมา
“เอาไง” แมงมุมถาม
“แกกับฉันไปเอาเพชร .. บลู ทำตามแผนเดิม” ขุนพลบอก
“ต้องฆ่านังนั่นก่อน มันเห็นหน้าฉัน” บลูเสียงจริงจัง
“โอ๊ะ เด็กๆ..เดี๋ยวจัดการให้ คนสวย” แมงมุมพูดแล้วส่งจูบใส่บลู
ทุกคนมองไปที่ลิฟต์แล้วทำตามแผนที่ตกลงกันไว้

ภายในปล่องลิฟต์ ภูผาโหนสลิงซึ่งสูงกว่าตัวลิฟต์ เขากดระเบิดในมือจนระเบิดที่ติดอยู่ที่ลิฟต์ระเบิดขึ้น ภูผาหันหน้าหนีเปลวไฟที่พวยพุ่ง
เสียงระเบิดดังสนั่น สลิงขาด
ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์กับลูกน้องตำรวจถึงกับเซไปมา ลิฟต์ร่วงลงสู่พื้น ภูผาที่โหนตัวอยู่บนสลิงมองตู้ลิฟต์กำลังร่วงลงข้างล่าง
ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์และลูกน้องเอียงกะเท่เร่ตามแรงลิฟต์ที่พุ่งลงอย่างรวดเร็ว ธีรพัฒน์สั่งเสียงเข้ม
“กันคนด้านล่างออกไป ลิฟต์กำลังร่วง กันคนออกไป”

ที่ร้านสตาร์ไดมอนด์ เสียงมือถือของพาทีดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง พาทีกดรับสายแล้วนิ่งฟัง

บริเวณหน้าลิฟท์ภายในโรงแรม มีแขกกับพนักงานยืนอออยู่หน้าลิฟต์ ตำรวจนอกเครื่องแบบวิ่งเข้ามา
“ออกไปครับ ออกไป”
แขกเหรื่อได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ก้าวห่างจากลิฟต์เพียงไม่กี่ก้าว เสียงลิฟต์ตกกระแทกอย่างแรง
ภายในลิฟต์ ธีรพัฒน์กับลูกน้องกลิ้งกระแทกพื้น ไฟในลิฟต์ดับพรึ่บ ควันมากมายพุ่งออกจากประตู
แขกบริเวณนั้นร้องกรี๊ดเสียงดัง บรรยากาศภายในโรงแรมอลหม่านชุลมุน ตำรวจ 2 คนวิ่งเข้าไปดูลิฟต์ เห็นลิฟต์แยก ทุกคนมองเข้าไปเห็นธีรพัฒน์ตะเกียกตะกายออกมาจากลิฟต์
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นรีบเข้ามาช่วยกันแยกลิฟต์ เอาคนที่ติดอยู่ด้านในออกมา

ที่ร้านสตาร์ไดมอนด์ พาทีทวนคำจากปลายสาย
“เพชรถูกขโมย”
ทุกคนตกใจ เพชรมองจ้องเพื่อน พาทีวางสายแล้วหันมาแต่ยังพูดไม่ออก
“ไม่ต้องพูดแล้ว ..ฉันได้ยิน ... อะดอเรลลาถูกขโมย..” เพชรพูดด้วยความตกใจแล้วเขาก็วิ่งออกไปเป็นคนแรก ทุกคนวิ่งตามออกไปทันที

ภูผาปีนสลิงมาที่ประตูลิฟต์ เขาเหวี่ยงตัวไปถีบลิฟต์เป็นสัญญาณ ภูผาโหนตัวขึ้นอีกที ลิฟต์เปิดออก ภูผาโดดออกมายืนที่โถงทางเดินหน้าลิฟต์
เนสซึ่งเป็นคนช่วยงัดลิฟต์ ยืนรออยู่บริเวณนั้น ภูผากับเนสดึงหน้ากากยางลงปิดหน้าแล้ววิ่งอย่างรวดเร็วไปที่บันไดหนีไฟ

มุกดาวิ่งอย่างรวดเร็วอยู่ที่ทางเดินในโรงแรม ขุนพลกับแมงมุมวิ่งไล่ยิง มุกดาโดดลงมายังชั้นที่มีห้องพัก แขกที่มาพักวิ่งหนีออกจากห้อง เครื่องจับควันไฟบนเพดานทำงานทุกตัว น้ำกระจายไปทั่วทางเดิน
มุกดาวิ่งพร้อมกับตะโกนบอกแขกที่กำลังจะออกจากห้องด้วยความตกใจ
“หลบไป หลบไป”
มุกดาวิ่งเลี้ยวไปทางบันไดหนีไฟอย่างรวดเร็ว

มุกดาวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟ โดยมีแมงมุมกับขุนพลวิ่งไล่ยิงมา มุกดาหลบกระสุนแล้ววิ่งต่อ เธอจะวิ่งขึ้นข้างบนแต่เจอภูผาโผล่มาจากด้านบนยิงสวนลงมา ทำให้มุกดาโดนยิงประกบจากทั้งข้างล่างและข้างบนทันที
ภูผามองเห็นถุงอะดอเรลลาอยู่ที่เอวมุกดา มุกดาก้มต่ำเพื่อหลบกระสุน เธอมองขึ้นไปเห็นเฮลิคอปเตอร์กำลังบินเข้ามาใกล้

ภายในเฮลิคอปเตอร์ สำนักข่าวครอบครัวข่าวกำลังบินรายงานอยู่
“ขณะนี้ผมกฤต เจนพานิชการ จาก Sky Report กำลังบินอยู่เหนือโรงแรมที่เกิดเหตุปล้นอะดอเรลลา เพชรสีชมพู มูลค่า 500 ล้าน”

มุกดาก้มหลบกระสุนของแมงมุมและขุนพล เมื่อมองไปด้านบนก็เห็นภูผากำลังเล็งปืนลงมาหาเธอ
“เรามาถึงที่เกิดเหตุเป็นสำนักข่าวแรก” เสียงของกฤตยังรายงานข่าวต่อเนื่อง “ทันทีที่ได้รับการประสานกับทางตำรวจ เดี๋ยวเราจะลงไปรายงานนะครับ ท่านผู้ชม ว่าเกิดอะไรขึ้นในเหตุปล้นสะเทือนขวัญกลางเมือง”
มุกดาแตะถุงอะดอเรลลาอย่างระมัดระวัง เธอคิดว่าทางรอดทางเดียวก็คือกระโดดหนี ภูผายิงสกัดไม่ให้เธอกระโดด มุกดาเห็นภูผากำลังไต่ลงมา เธอหลบกระสุนของแมงมุมกับขุนพลพร้อมกับเหวี่ยงตัวจะพุ่งลงไป
ภูผาพุ่งเข้ามากระชากถุงอะดอเรลลา มุกดาโหนบันไดแล้วห้อยตัวคว้าถุงอะดอเรลลาไว้ มุกดากับภูผาต่างก็ตะปบถุงอะดอเรลลาไว้ทั้งคู่ ต่างคนต่างดึงจนถุงอะดอเรลลาขาด อะดอเรลลาหล่นจากถุง
ภูผาพุ่งร่างตามโดยเอาขาเกี่ยวไว้กับบันไดก่อนจะร่วงหล่นไป มุกดาที่โหนมือเดียวรีบเอื้อมมือไปรับอะดอเรลลาที่กำลังจะร่วง แต่ภูผาคว้าอะดอเรลลาไว้ได้ก่อนที่จะหล่นลงในมือมุกดา
ขุนพลกับแมงมุมเห็นภูผาคว้าอะดอเรลลาไว้ได้ก็ยิงมุกดาทันที
มุกดาที่ห้อยอยู่เห็นภูผากำอะดอเรลลาอยู่กับหน้าอก ก็จะโหนตัวขึ้นแย่งแต่กระสุนของขุนพลยิงเฉียดมือเธอที่จับราวบันไดอยู่ แมงมุมรีบไต่ขึ้นมากระทืบมือมุกดาเต็มแรงแล้วจ่อปืนหมายจะยิงมือให้ทะลุ
มุกดาทนไม่ไหว จำต้องปล่อยมือ ทำให้เธอร่วงลงไป ภูผา ขุนพล และแมงมุมมองตาม
“ไม่เหลือ” แมงมุมรำพึงขึ้นมา

ที่บันไดหนีไฟ มุกดาวิ่งตามกลุ่มภูผาขึ้นไปชั้นบน มุกดาวิ่งมาตามทางเดิน อยู่ๆ มีมือมาคว้าแขนของเธอ มุกดาหันไปฟันสันมือใส่จนเกือบจะเข้าหน้าคมกฤช พี่ชายของมุกดาผู้เป็นเจ้าของธุรกิจรักษาความปลอดภัย แต่คมกฤชหลบได้อย่างว่องไวโดยที่มือของมุกดาอยู่ห่างหน้าแค่คืบ
“พี่กฤช” มุกดาลดมือ
คมกฤชพูดกับน้องสาวด้วยความร้อนใจ
“หลบไปก่อนมุก”
“ไม่ได้ อะดอเรลลาถูกขโมยไปแล้ว”
“ปล่อยให้พี่กับธีรพัฒน์จัดการเอง ตำรวจอยู่เต็มโรงแรม นักข่าวก็กำลังมา ถ้าพวกนั้นรู้ว่าพี่ใช้มุกมาทดสอบระบบความปลอดภัย มุกจะโดนข้อหาปล้นไปด้วย”
“เรื่องนั้นว่ากันทีหลัง... ยังไงตอนนี้เราต้องเอาอะดอเรลลากลับมาให้ได้ก่อนพวกมันขึ้นไปดาดฟ้า แผนหนีของมันต้องเริ่มจากบนนั้น” มุกดาบอก
“อันตรายมากนะมุก พี่ไม่ยอมให้แกไปเสี่ยงตายขนาดนั้น”
“มุกไม่กลัว หนักกว่านี้ มุกก็เคยเจอมาแล้ว”
“พี่บอกว่าไม่ได้ ก็ต้องไม่ได้!!!”

คมกฤชกระชากแขกลากตัวน้องสาวออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

ภายในเฮลิคอปเตอร์ทีมงานครอบครัวข่าวซึ่งกำลังจะบินลงไปจอดที่จุดจอดบนดาดฟ้าของโรงแรม
“ผมยังไม่ยืนยันนะครับ ดูเหมือนมีคนร่วงลงมาจากตึกของโรงแรมด้วย”

กฤต ซึ่งทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวรายงาน อย่างจริงจัง

ที่ประตูทางออกดาดฟ้าโรงแรม เนสยืนหลบอยู่ เขากำลังเอาเลือดราดที่ตัวให้ดูเหมือนบาดเจ็บ เนสส่งเลือดต่อให้บลู พอบลูเทใส่ตัวแล้วยังฉีกเสื้อผ้าให้ขาดวิ่น เธอปาดเลือดให้ไหลไปบนเนื้อขาวๆ
เฮลิคอปเตอร์ครอบครัวข่าวใกล้จะลงจอด เนสกับบลูวิ่งก้มต่ำออกมาจากที่ซ่อน
กฤตซึ่งนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์มองไปเห็นทั้งสองคนวิ่งออกมา
“ตอนนี้เราเห็นผู้บาดเจ็บสองคน มีผู้หญิงด้วยนะครับ ท่าทางบาดเจ็บสาหัส เดี๋ยวเราจะลงไปสอบถามว่าเกิดเหตุอะไรด้านใน”
เฮลิคอปเตอร์บินต่ำลงมาเตรียมจอด
บลูวิ่งมาทำเป็นล้มหมดแรงลงกับพื้น ส่วนเนสทำเป็นทรุดลง ก้มตัวลงต่ำ เฮลิคอปเตอร์จอด กฤตกับช่างภาพกรูกันลงมา กฤตถึงตัวบลูก่อนจึงเข้าไปประคอง
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
บลูเงยขึ้นมาในขณะที่สวมหน้ากากอยู่ เธอเอาปืนจ่อ กฤตถึงกับผงะ แมงมุมโผล่จากที่ซ่อนพุ่งเข้าชาร์จช่างภาพแล้วเอาปืนจ่อ นักบินตกใจเตรียมจะเอาเครื่องขึ้น แต่ขุนพลพุ่งมาจากอีกด้านเอาปืนจ่อหัวก่อน
“พวกคุณเป็นโจร” กฤตละลักละล่ำ
กฤต ช่างภาพ และนักบินถูกมัดโดยมีกล้องวางอยู่กับพื้น
แก๊งภูผาทั้ง5 ซึ่งอยู่ในหน้ากากอำพรางใบหน้าวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ หลังจากนั้น เฮลิคอปเตอร์ก็บินขึ้นเหนือพื้น
ธีรพัฒน์ที่ยังบาดเจ็บอยู่โผล่ขึ้นมาที่ดาดฟ้าโดยมีลูกน้องติดตามมาด้วย ธีรพัฒน์ยิงสกัดไปที่กลุ่มภูผา เนสที่จะขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้ายโดนกระสุนล้มลง
“เนส” แมงมุมร้องลั่น
ภูผาเอาเครื่องขึ้นสูงแล้วบินออกไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มภูผาทั้ง 4 คนบนเฮลิคอปเตอร์เห็นตำรวจกรูเข้ามาล้อมศพเนส
ธีรพัฒน์มองตามเฮลิคอปเตอร์ที่บินขึ้นไปด้วยความโมโห
กฤตวิ่งถือไมค์เข้ามารายงาน “ท่านผู้ชมครับ ครอบครัวข่าว 3 ยังอยู่กับท่านวินาทีต่อวินาทีนะครับ เหตุการณ์สดๆตอนนี้ เครื่องบินของเราถูกแก๊งปล้นอะดอเรลลาจี้ไป หนึ่งในกลุ่มโจรถูกวิสามัญ หลังจากทำร้ายช่างภาพ นักบิน และ นักข่าว”
“แต่ท่านผู้ชมมั่นใจได้เลยครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกสถานการณ์ ครอบครัวข่าวสาม พร้อมจะรายงานให้ท่านผู้ชมทันข่าวก่อนใคร!!!”

รถของเพชรมาจอดที่หน้าโรงแรม ท่ามกลางความวุ่นวายของแขกที่พากันวิ่งหนีออกมา โดยมีตำรวจกำลังเคลียร์พื้นที่อยู่ เพชรพรวดพราดลงจากรถ เจนจบซึ่งเป็นคนขับตามลงมา ชนินทร และพาทีลงด้านหลัง
“ไม่จริง .. นี่ฉันฝันไปใช่มั้ย” พาทีกล่าวอย่างตกใจ
ชนินทรหันไปตบหน้าพาทีดังป๊าบจนพาทีหมุนคว้าง
“เออ..เจ็บจริง... อะดอเรลลา อะดอเรลลาถูกปล้น”
เพชรไม่สนใจเพื่อนๆ เขารีบวิ่งอย่างรวดเร็วเข้าไปในโรงแรม เจนจบตามไปติดๆ โดยมีชนินทรกับพาทีตามไปด้วย

มุกดาถูกพี่ชายลากตัวมาที่มุมมืดแห่งหนึ่งเพื่อหลบสายตาผู้คน คมกฤชแตะตัวมุกดาโดยมีแววตาห่วงใยน้องสาว
“ไปจากที่นี่ก่อน มุก”
“แต่อะดอเรลลาถูกขโมยไปแล้ว พี่กฤช”
“เดี๋ยวพี่กับธีรพัฒน์จัดการเอง มุกรีบไปก่อน ถ้าเกิดมีคนรู้ว่าพี่ใช้มุกเข้าไปทดสอบระบบความปลอดภัย มุกจะโดนข้อหาปล้น”
มุกดามองหน้าพี่ชาย สองพี่น้องมีสีหน้ากังวลใจ

ภายในห้องแสดงเพชรอะดอเรลลา บัดนี้แท่นที่เคยตั้งอะดอเรลลาว่างเปล่า เพชรหันขวับไปมองธีรพัฒน์ที่ยังไม่ได้ทำแผล
“ดูแลกันยังไง ของห้าร้อยล้านถึงหายไปได้ ว่าไง .. พาที”
“คือว่า..” พาทีอ้ำอึ้ง
“คือว่า.. ทุเรศ.. ไหนบอกว่าบริษัทแกดีที่สุดเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย”เพชรชี้ไปที่แท่นโล่งๆ ด้วยความโกรธ “นี่ใช่มั้ย .. ผลงานสุดยอดของแก”
“ก้อโจรสมัยนี้มันเก่ง” พาทีแก้ตัว
“แสดงว่าฉันโง่ที่จ้างบริษัทห่วยแตกของแก”
พาทีค่อยๆถอยห่างเพชรที่กำลังโมโหไปสองก้าว
“ใจเย็นๆ เพชร” เจนจบปลอบ
“เงียบเลย เจนจบ .. นี่ไม่ใช่เรื่องใจเย็น ... แล้วบริษัทประกันมาหรือยัง”
คมกฤชก้าวเข้ามาในห้องที่บรรยากาศกำลังตึงเครียด
“ผมมาถึงนานแล้วครับ คุณเพชร แต่ไปดูที่เกิดเหตุ” คมกฤชบอก
เพชรเอ่ยถามเสียงเรียบแต่บอกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“แล้วเจออะไรที่จะทำให้ได้อะดอเรลลาของผมคืนมาบ้างหรือยัง คุณคมกฤช”
“ยังครับ”
“ผมให้ห้าล้าน สำหรับคนบอกเบาะแสจับโจรอะดอเรลลา”
“ห้าล้าน...มากไปหรือเปล่าครับ” ธีรพัฒน์ท้วง
เพชรหันขวับมอง พาทีหุบปากเงียบด้วยความเกรง
“ไม่มากหรอก เพราะราคาประกันของอะดอเรลลาคือ พันล้าน” ชนินทรบอก
ทุกคนในห้องเงียบเหมือนหยุดหายใจ
“พันล้านที่บริษัทคุณต้องจ่าย” เพชรหันไปพูดกับคมกฤช
“ผมขอเวลาหน่อย” คมกฤชต่อรอง
“ได้ ผมไม่ใช่คนโหดร้าย ผมอยากเห็นเหมือนกันว่า ตำรวจบริษัทรักษาความปลอดภัย และบริษัทประกัน จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากแค่ไหน”
เพชรกวาดตามองทุกคนด้วยสายตาเข้ม แล้วมาหยุดที่คมกฤช
“ผมให้เวลาอย่างที่คุณขอ... สองอาทิตย์”
ทุกคนถึงกับอึ้ง คมกฤชฟังแล้วหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิม

เช้าวันรุ่งขึ้น ภายในห้องรับแขกของบ้านเพชร เพชรหันไปมองมรกต แม่ของเขาที่กำลังพูดด้วยเสียงสูง
“สองอาทิตย์...แกให้เวลาตำรวจเค้าจับโจรปล้นเพชรห้าร้อยล้านหรือโจรปล้นมอเตอร์ไซค์...หา…ตาเพชร”
คุณปัก แม่บ้านใหญ่ถึงกับสะดุ้ง ส่วนมะดันที่ถือถาดกาแฟเข้ามาก็มือสั่น
“คุณแม่... แค่วันเดียว ก็เอาอะดอเรลลาออกนอกประเทศได้แล้วครับ” เพชรบอก
“นั่นน่ะสิ คุณมรกต...เครื่องประดับห้าร้อยล้านนะคุณ ชื่อเสียงสตาร์ไดมอนด์อีก” เผ่าพงศ์ พ่อของเพชรสนับสนุนลูกชาย
“ฉันขอความเห็นหรือยัง คุณเผ่า” มรกตเสียงเข้ม
เผ่าพงศ์ซึ่งเป็นคนกลัวเมียอยู่แล้วทำเป็นยกหนังสือพิมพ์อ่านทันที มรกตหันไปทางเพชร
“ก็ได้ สองอาทิตย์”
เพชรกับเผ่าพงศ์พูดขึ้นพร้อมกันอย่างรู้นิสัยมรกต
“แต่...”
“แต่…แต่แกอย่าเพิ่งทวงเงินประกันจากคมกฤชโดยเด็ดขาด” มรกตบอกเงื่อนไข “ห้ามหือ ห้ามอือ เพราะนี่เป็นคำสั่งที่ต้องไม่มีใครกล้าปฏิเสธ”
มรกตยื่นคำขาด เพชรมีสีหน้าขัดใจกับคำสั่งแม่

ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ประไพ แม่ของคมกฤชและมุกดายกมือขึ้นไหว้มรกต คมกฤชที่นั่งอยู่ข้างๆ ไหว้พร้อมๆกัน
“ขอบคุณมากนะคะคุณพี่... ที่เมตตาบริษัทลูกชายดิฉัน” ประไพกล่าวอย่างนอบน้อม
“ผมรับรองครับคุณป้า เราต้องได้อะดอเรลลาคืน” คมกฤชเสริม
“เร็วหน่อยก็ดีนะจ๊ะคมกฤช ป้าขี้เกียจฟังลูกชายบ่น ว่าแต่..หนูมุกไม่มาด้วยเหรอ”
มรกตถามถึงมุกดา ประไพอมยิ้มกับมรกตอย่างรู้กัน
“คราวหน้า คุณพี่ได้เจอหนูมุกแน่ๆค่ะ”
คมกฤชมองแม่พร้อมแววตาสงสัย

ที่สนามบิน มุกดากำลังซ้อมยิงปืน กระสุนที่เธอยิงเข้ากลางเป้าทุกนัด คมกฤชยกปืนยิง กระสุนเข้ากลางเป้าทุกนัดเหมือนกัน
“ฉันว่าแม่กับคุณมรกตกำลังวางแผนที่เกี่ยวกับแกอยู่ว่ะ... มุก” คมกฤชหันมาพูดกับน้อง
“จะมีอะไร ก็เรื่องเดิมๆ หาลูกเขย”
“ดีนะ มีน้องเขยเป็นเจ้าของอะดอเรลลา ฉันจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินประกัน”
“บ้าน่ะ พี่กฤช .. แล้วคดีได้เรื่องคืบหน้ามั่งหรือเปล่า”
“ไม่เลย... แก๊งนี้ มันฉลาด เปลี่ยนโปรแกรมให้กล้องวงจรปิดหยุดบันทึก”
“แต่ก็ถือเป็นโชคดีของแก ไม่งั้นก็ต้องมีภาพตอนแกเข้าไปหยิบอะดอเรลลา”
“ก็มุกทำตามคำสั่งใครล่ะ”
“เออ...ฉันผิดเอง ที่ใช้แกไปทดสอบ ไม่นึกว่าฝีมือตำรวจสากลอย่างแก...จะหยุดโจรไม่ได้”
คมกฤชพูดไม่ทันขาดคำ มุกดาก็ยิงไปที่เป้าของคมกฤช กระสุนเข้ากลางเป้าที่คมกฤชยิงไว้
คมกฤชมองน้องสาว มุกดามองปืนคู่ใจแล้วปลดแม๊ก หยิบแม๊กใหม่ยัดใส่ทันที
“มุกประมาทไปหน่อย ถ้าติดกระบอกนี้ไปด้วย พวกมันไม่รอด”
มุกดาหันไปยิงใส่เป้าไม่ยั้งด้วยความแค้นใจ

หน้าห้องทำงานธีรพัฒน์ที่กองปราบปราม พาทีกำลังเดินคุยมากับธีรพัฒน์
“ผมจะรีบส่งแผนรักษาความปลอดภัยอย่างละเอียดให้สารวัตรเร็วที่สุดครับ” พาทีบอก
“ขอบคุณครับ”
พาทีเดินแยกไป ธีรพัฒน์หันจะเดินกลับเข้าห้องแต่กลับเจอนักข่าวกรูเข้ามาดัก
“รู้หรือยังคะว่าใครเป็นโจร” นักข่าวคนหนึ่งถาม
“เมื่อไหร่จะจับได้ครับ” นักข่าวอีกคนถามขึ้นมาอีก
จ่าถนอม ตำรวจหน้าห้องของธีรพัฒน์ช่วยกันนักข่าวออกไป
“สารวัตรยังไม่ให้สัมภาษณ์นะครับ น้องๆ รอแถลงข่าวนะครับ”
ธีรพัฒน์รีบปิดประตูเข้าห้อง กลุ่มนักข่าวยังคงรออยู่ด้านนอก คมกฤชกำลังนั่งรออยู่ด้านใน เขามองเพื่อนที่หน้าตาเซ็งสุดขีด
“สอบปากคำเป็นร้อย แต่อะดอเรลลาก็ยังล่องหน...เหมือนไอ้โจร 4 คนนั้น” คมกฤชพูดขึ้น
“ฉันเครียดแทนแกเลยไอ้กฤช รับเข้าไปได้ยังไง วงเงินประกันพันล้าน” ธีรพัฒน์กล่าว
“เพราะบริษัทประกันน้องใหม่อย่างฉัน ต้องการความเชื่อถือจากลูกค้าน่ะสิ แต่งานนี้มันผิดพลาดที่ระบบรักษาความปลอดภัยของพาที”
“คุณพาทีเค้าก็เครียดนะ เพิ่งจะกลับไปเมื่อกี๊นี้”
คมกฤชลุกเดินไปมาอย่างใช้ความคิด
“เพชรแค่เม็ดเดียว สะเทือนกันไปหมด”
“เพราะอะดอเรลลามันเป็นเพชรอาถรรพ์” ธีรพัฒน์พูด คมกฤชมองเพื่อน ที่หน้าตากลุ้มกับคดีเป็นอย่างมาก

ที่ทางเดินภายในกองปราบ นักข่าวพากันเดินกลับออกมา ทุกคนบ่นอุบอิบเพราะไม่ได้ข่าว
“ต้องเอาข่าวจากสารวัตรธีรพัฒน์นั่นแหละ”
รุจา นักข่าวสาวมือใหม่เดินเข้ามา เธอหอบข้าวของที่เตรียมมาสัมภาษณ์ ทั้งแฟ้มข้อมูล กล้องถ่ายรูป เครื่องอัดเสียง MP3 ในมือวุ่นวายไปหมด เธอมองไปเห็นกลุ่มนักข่าวเดินมาก็ดีใจ วิ่งเข้าไป แต่แฟ้มข้อมูลในมือหล่น เสียงดัง ส่วนตัวรุจาก็เบรกไม่ทันสะดุดแฟ้มตัวเองลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น นักข่าวทุกคนเดินมาเห็นก็หัวเราะ
“ฉบับไหนเนี่ย” นักข่าวคนหนึ่งพูดปนหัวเราะ
รุจารีบลุกขึ้น ยิ้มภูมิใจ
“รุจา จากนิวส์ไทม์ น้องใหม่ ฝากตัวกับพี่ด้วยๆนะคะ”
รุจายกมือไหว้พร้อมก้มหัวอย่างสวยงาม แต่พอเงยขึ้นมา ไม่เหลือนักข่าวรุ่นพี่ตรงนั้นเลยสักคน เธอหน้าเหี่ยวอยู่พักเดียว ก่อนจะฮึดบอกตัวเอง
“ไม่เป็นไร รุจา... ล้มวันนี้เพื่อก้าวที่ยิ่งใหญ่ในวันหน้า”

รุจาวิ่งอย่างรวดเร็วมาตามทางเดินในกองปราบปราม คมกฤชเปิดประตูออกจากห้อง จ่าถนอม หน้าห้องของธีรพัฒน์ยกมือทำความเคารพคมกฤช คมกฤชยิ้มให้เป็นเชิงขอบคุณ
รุจาหยุดวิ่งแล้วเปิดแฟ้มข้อมูลดู
“คนรับผิดชอบคดีนี้ สารวัตรธีรพัฒน์” รุจาพึมพำกับตัวเอง
รุจาวิ่งมาดูป้ายชื่อหน้าห้อง เห็นเป็นชื่อ พ.ต.ต. ธีรพัฒน์ กำเนิดดี เธอจึงอ้าปากจะถามแต่จ่าถนอมรีบพูดดัก
“สารวัตรไม่ให้สัมภาษณ์ครับ”
รุจาหันไปมองคมกฤชที่เดินออกมา แล้วรีบวิ่งตามไปทันที

คมกฤชเดินออกมาจากกองปราบปราม รุจาวิ่งตามมา เธอตะโกนเรียก
“สารวัตรธีรพัฒน์คะ”
คมกฤชเดินต่อไม่หันตามเสียง รุจารีบวิ่งมาดักหน้า ยื่นเครื่องอัดเสียงจ่อปาก
“เฮ้ย... คือผม...” คมกฤชตกใจ
“ถือว่าการปล้นอะดอเรลลานี่เป็นปฏิบัติการหยามเกียรติตำรวจไทยได้หรือเปล่าคะ”
คมกฤชอึ้งกับคำถาม
“กำลังจะบอกว่า...”
รุจายิงคำถามที่จดมาเป็นโพยใส่คมกฤชต่อ
“ตามสถิติแล้ว ตำรวจคลี่คลายคดีใหญ่ๆแบบนี้ได้ภายในหนึ่งเดือน คราวนี้คิดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนคะ”
“นี่คุณนักข่าว”
“รุจาค่ะ” รุจามีแววตากระตือรือร้น “ดิฉัน รุจา น้องใหม่ไฟแรง คุณภาพคน คุณภาพข่าว คุณภาพนิวส์ไทม์ค่ะ”
คมกฤชรำคาญ ดึงเครื่องอัดเสียงมาแล้วกดปิด เขายัดเครื่องอัดเสียงคืนใส่มือรุจา
“มาทางไหน กลับไปทางนั้น.... ให้เร็วเลย”
“ดิฉันเข้าใจค่ะ ว่าคดีนี้มันใหญ่ ตอบอะไรไป ก็อาจจะเป็นประเด็น”
“เฮ้ย คุณ... ปิดปากแป๊บนึง ... ฟังผมบ้างสิ”
รุจาเปิดเครื่องอัดเสียงแล้วจ่อใกล้ปากคมกฤชอีก “ฟังอยู่ค่ะ พูดเลยค่ะสารวัตร ไม่ต้องกลัวนะคะ ดิฉันจะอ้างว่าท่านเป็นแหล่งข่าว”
“บ้าซีแหล่งข่าว... ไม่ต้อง”
คมกฤชเสียงเข้ม รุจาตกใจ
“ไม่ต้องอะไรคะ ไม่ต้องอ้างเหรอคะ เขียนชื่อจริงได้เลยใช่มั้ยคะ”
“ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าคุณอีก” คมกฤชพูดเน้นเป็นคำๆ

รุจาอึ้ง คมกฤชทำหน้าดุเอาเรื่องใส่รุจา

มุกดากำลังคุยกับเจอรี่ ตำรวจชาวต่างชาติซึ่งเป็นเจ้านายของเธอผ่านวิดีโอแชท ภายในห้องนอน

“เจอรี่ มุกเองนะ”
เจอรี่นั่งอยู่หน้าคอมพ์ในห้องทำงานของเขา
“ใกล้หมดกำหนดพักร้อนแล้ว คุณจะกลับมาวันไหน” เจอรี่ถาม
“ยังกลับไม่ได้ค่ะ เจ้านาย ที่นี่มีเรื่องด่วนมาก เจอรี่คะ มุกอยากรู้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเครื่องประดับเก่าแก่ ที่ชื่ออะดอเรลลา”
มุกดากำลังจะพูดต่อแต่ประไพเปิดประตูเข้ามาพอดี
“ทำอะไรอยู่จ๊ะ”
มุกดารีบลุกขึ้นแล้วเอาตัวบังหน้าจอไว้ เธอมองแม่ของตัวเองแล้วยิ้ม
“ดูเว็บแฟชั่นค่ะ”
ภาพที่ภายในจอคอมพ์ฯ เจอรี่ก็ยิ้มเช่นกัน
“อืม...ยังดูเฟิร์มดี ตกลงจะให้ผมพูดกับก้นคุณ หรือหน้าคุณดี” เจอรี่แซว
มุกดารีบเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อกดปุ่มปิดเสียง

ที่นอกห้องนอนของมุกดา ประไพกำลังมองลูกสาวอย่างไม่ค่อยชอบใจ
“แม่อยากจะให้มุกเลิกเรียน แฟชั่นดีไซน์อะไรนี่เสียที จะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แถมตอนนี้ กฤชเองก็กำลังลำบาก”
“มุกจะจับโจรปล้นเพชรให้ได้ค่ะ แม่”
ประไพตีแขน “มุกไม่ใช่ตำรวจนะ จะไปวิ่งไล่จับโจร”
“ แล้วถ้ามุกเป็นตำรวจ...แม่ไม่ชอบเหรอคะ”
“ไม่ได้เด็ดขาด แม่ไม่ให้มุกทำงานเสี่ยงตายแบบนั้น”
ประไพตาแดงคล้ายจะร้องไห้ มุกดารีบกุมมือให้กำลังใจแม่
“มุก... อยากช่วยพี่มั้ยลูก” ประไพถาม
“ค่ะ แม่ ทางไหนที่ช่วยพี่กฤชได้ มุกจะทำ”
“รับปากแล้วนะ” ประไพยิ้มกว้าง
มุกดาชะงักเพราะเริ่มไม่แน่ใจ เธอรีบปฏิเสธอย่างรู้ทัน
“ยกเว้นเรื่องเดียวค่ะ แม่... ไม่นะคะ ไม่ค่ะ ไม่เด็ดขาด”

เวลาเดียวกันนั้นภายในบ้านของเพชร เขาปลดเนคไทออกแล้วส่ายหน้าเดินหนีมรกตผู้เป็นมารดา
“ไม่ ไม่ ไม่…ผมบอกว่าไม่ไงครับ... ผมไม่ไปดูตัวอะไรทั้งนั้น”
ปักที่กำลังจัดโต๊ะอาหาร ถึงกับทำส้อมหล่นดังแกร๊ง
“ขวัญอ่อนเหลือเกินนะยะ คุณปัก” มรกตแขวะ “จะแอบฟัง ก็ให้มันเบาๆ หน่อย”
“ค่ะ คุณผู้หญิง” ปักเผลอตัวตอบอีก มะดันรีบสะกิด ปักนึกได้จึงรีบปิดปาก
“แม่ครับ เพชรมูลค่าห้าร้อยล้านเพิ่งถูกขโมย คดีไม่คืบหน้า ผมเครียดที่สุดในชีวิตแล้วนะครับ แม่จะให้ผมไปนั่งกินข้าวดูตัวเนี่ยะนะ”
“ทำไม ..ชีวิตแกมีแต่เรื่องตามหาเพชรอาถรรพ์นั่นอย่างเดียวหรือไง หน้าที่ตำรวจก็ปล่อยเค้าทำไปสิ” มรกตดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง
“ถึงยังไง ผมก็ไม่ไปดูตัวกับพวกลูกสาวเพื่อนแม่แล้วครับ จำคนก่อนได้มั้ย แม่บอกว่าสาวไฮโซ ตระกูลดี เรียบร้อยยิ่งกว่าผ้าพับไว้ในหีบ ตอนนี้เป็นไงครับ ปฏิทินนู้ดเธอขายเกลื่อนเมือง” เพชรเย้ยมารดา
มรกตตั้งท่าจะเถียง แต่เพชรส่ายหน้าเป็นเชิงห้าม
“คนก่อนโน้น... น่ารัก น่าทะนุถนอม .. เพิ่งลงหน้าข่าวสังคม ประกาศตัว ผัวใคร ไม่สน... ฉันชอบแย่ง” เพชรต่ออีก
“ตาเพชร”
“พอซะทีเถอะครับเรื่องจับคู่... ตอนนี้ผมขอทำงานก่อน”
“ก็ได้... ถ้าแกไม่ไป แม่จะไม่แตะข้าวมื้อนี้”
เผ่าพงศ์รีบตักกิน ไม่รอ มรกตเสียงดัง
“คุณเผ่าพงศ์...ก็จะไม่แตะเหมือนกัน บ้วนออกมา”
เผ่าพงศ์ซดแกงจืดค้าง เขาหันซ้ายหันขวา ปักถลาเอาถ้วยเปล่ามารองรับ เผ่าพงศ์จำใจบ้วนแกงออกอย่างเสียดาย
“แม่จะอดข้าวตาย ถ้าแกไม่เห็นความหวังดีของแม่” มรกตขู่
ทุกคนหันไปมองเพชรด้วยสีหน้าที่มีความคาดหวังเต็มที่ เผ่าพงศ์มองลูกชายแล้วบอกให้อ่านปาก เขาพูดโดยไม่มีเสียงว่า “พ่อหิว” ยิ่งทำให้เพชรหน้าตาเซ็งมากขึ้น

ที่ร้านอาหารหรูภายในห้างสรรพสินค้า มรกตกำลังยิ้มประชดใส่ลูกชาย
“ทำหน้าให้มันมีความสุขหน่อยสิ นี่ไม่ใช่วันโลกแตกนะยะ”
เพชรฉีกยิ้มขึ้นมานิดนึง มรกตมองค้อนหมั่นไส้
เพชรเหลือบมองนาฬิกา “ผู้หญิงอะไร...นัดไม่เป็นนัด”
“แกมันบ้า... เพิ่งสายไป 1 นาที 27 วินาทีนะยะ”
“เวลาของผมมีค่าทุกนาทีครับ”
“แกคงไม่ขายเพชรสิบล้านได้ตอนนี้หรอก” มรกตประชด
“ใครจะแจกเพชรให้หนูมุกเหรอคะ” เสียงหวานๆ ของมุกดาลอยมาแต่ไกล “สวัสดีค่ะ... คุณป้ามรกต”
เพชรสะดุ้งเฮือกหันไปมองมุกดาที่กำลังเดินเข้ามา โดยมีประไพเดินตามมาด้านหลัง เขาเห็นมุกดาอยู่ในชุดกระโปรงสีชมพูหวานฟูฟ่อง มีระบายลูกไม้ขลิบสวยงาม ถักผมสองข้างเป็นเปียมีริบบิ้นสีชมพูติดด้วย เพชรถึงกับตาค้างด้วยความรังเกียจ
มุกดาแกล้งกะพริบตาถี่ แล้วโปรยยิ้มหวานให้
“พี่เพชรใช่มั้ยคะ”
“ตายแล้ว หนูมุก น่ารักจังเลย หวานใสเหมือนไอติมแท่งอะไรอย่างนี้” มรกตชม
มุกดาหันไปไหว้มรกตอย่างอ่อนช้อย ย่อตัวลงแทบติดพื้นแล้วแกล้งเดินเฉียดเพชร เพชรรีบเบี่ยงไหล่หลบเหมือนเจอแมลงสาบ
“หนูมุกนั่งตรงนี้นะคะ” มุกดาหันไปมองเพชรแล้วทอดเสียงหวานเลี่ยน “ข้างๆ พี่เพชร”
เพชรรีบลากเก้าอี้ออกมาห่างมุกดาพร้อมกับนั่งตัวตรง
ประไพนั่งลงใกล้มรกต มุกดาหันไปทางเพชร
“ขอโทษนะคะที่มาช้า หนูมุกมัวแต่ดีไซน์งานส่งอาจารย์คอลเล็คชั่นซัมเมอร์หน้าน่ะค่ะ”
มุกดาดัดสำเนียงไทยคำอังกฤษคำอย่างดัดจริต เพชรถึงกับเบือนหน้าหนี

ภายในร้านสตาร์ไดมอนด์ เจนจบยิ้มให้กับธีรพัฒน์และลูกน้องตำรวจที่มาหาเพชร
“เพชรไม่อยู่หรอกครับ ไปประชุมกับลูกค้า”
ชนินทรพูดเรียบๆ “ทำไมต้องมาสอบปากคำเพชร หรือคิดว่าเพชรมันจะวางแผนขโมยของตัวเอง”
ธีรพัฒน์พยายามสะกดอารมณ์ “ผมต้องสอบปากคำทุกคนตามหน้าที่ครับ ขอให้คุณเจนจบกับ คุณชนินทรเข้าใจด้วย”
“ผมเข้าใจครับ สารวัตร ไม่มีปัญหาครับ สอบปากคำผมกับชนินทรก่อนก็ได้ ยังไงเชิญที่ห้องประชุมเลยครับ”
ธีรพัฒน์เดินไปกับลูกน้อง เจนจบหันมามองเห็นชนินทรหน้าบึ้ง
“ให้ความร่วมมือกับตำรวจแค่นี้ อย่าเครียดนักเลย ชนินทร” เจนจบบอกเพื่อน
“ฉันคงยิ้มใจเย็นอย่างแกไม่ได้หรอก เจนจบ ฉันเป็นห่วงชื่อเสียงสตาร์ไดมอนด์”
“ถึงฉันจะเป็นแค่ฝ่ายการตลาด แต่ฉันก็ห่วงที่นี่พอๆกับผู้จัดการอย่างแก ยิ่งแกไม่ให้ข้อมูลกับตำรวจ คนที่จะเดือดร้อนที่สุดคือเพชร”
เจนจบเตือนเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่หวังดีกับเพชรอย่างจริงใจ

ที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า เพชรมองมุกดาที่ซู้ดเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากด้วยเสียงดังอย่างเอร็ดอร่อยเต็มที่ สายตาของเพชรรังเกียจมุกดาไม่มีมารยาทบนโต๊ะอาหารเป็นอย่างมาก มุกดาเห็นเพชรมองอยู่ก็ยิ่งแกล้ง
“แบ่งกันนะคะ พี่เพชร”
มุกดาเด็ดเส้นที่คาปากของเธอออก แล้วเอนตัวเข้าไปชิดจากนั้นก็ยื่นเส้นสปาเก็ตตี้จ่อไปที่ปากเพชร
เพชรเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็วจนชนส้อมในจานหล่นพื้น เขาชักสีหน้าเพราะเห็นโต๊ะอื่นมองมา มุกดาทำไม่รู้ไม่ชี้ หยิบขวดซอสขึ้นมาเขย่า
“ซอสมะเขือเทศหน่อยนะคะ”
เพชรหันมา มุกดาแกล้งเขย่าแรงจนซอสสาดไปโดนเสื้อเพชรเต็มๆ เพชรลุกพรวด มรกตกับประไพถึงกับตกใจ ส่วนมุกดาทำหน้าบ๊องแบ๊ว
“ตายแล้ว เสื้อพี่เพชรเลอะหมดเลย หนูมุกขอโทษนะคะ “
มุกดารีบคว้าทิชชู่มาเช็ด แต่เพชรปัดมือมุกดาอย่างแรง
“ช่วยอยู่ห่างๆ ผมด้วย”
เพชรทำหน้าดุ แต่มุกดาทำหน้าผิดหวัง
“หนูมุกเสียใจจังเลย” มุกดาทำเสียงเศร้า แต่อีกมือแกล้งเกี่ยวผ้าปูโต๊ะ จนจานชามช้อนแก้วพากันเทลงต่อหน้าเพชร เพชรลุกพรวด คนทั้งร้านหันมามองเขาเป็นตาเดียว เพชรรู้สึกอายสุดขีด

เพชรเดินหัวเสียเข้ามาในห้องทำงาน เจนจบที่นั่งรออยู่มองยิ้มๆ
“ยายมุกดา จะต้องเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายบนโลกที่ได้แต่งงาน”
“สวยใสไร้สติ หากแต่คุณสมบัติดีเพียบพร้อม” เจนจบแซว
“เออ...ดีจนฉันสงสัยว่าคุณแม่ไปขุดมาจากป่าช้าไหน”
“น้องสาวคุณคมกฤช ที่รับประกันอะดอเรลล่าใช่มั้ย”
“ใช่…พี่ชายคงไม่มีเงินจ่าย เลยเข้าทางคุณแม่ จัดแจงส่งตุ๊กตาภูเขาทองมาหลอกล่อกะว่าฉันจะหน้ามืดตาบอด หลงรักผู้หญิงบ้าๆบอๆ” เพชรพูดอย่างอารมณ์เสีย

ที่สนามยิงปืน มุกดาซึ่งเปลี่ยนเป็นชุดทะมัดทะแมงแล้ว กำลังดึงขนตาแผงหนาออก ส่วนใบหน้าของเธอยังมีเมคอัพจากตอนที่ไปร้านอาหารอยู่ เธอใส่อารมณ์กับพี่ชายที่กำลังซ้อมยิงปืน
“ผู้ชายดีแต่หน้า ปากยิ่งกว่าส้วม อย่างนายเพชร... ไม่น่าเก็บไว้ทำพันธุ์”
“แกก็คงยั่วอารมณ์เค้าซะกระเจิดกระเจิง”
“นี่มันขั้นอนุบาล”
“ธีรพัฒน์มันไปสอบปากคำทุกคนที่สตาร์ไดมอนด์แล้วนะ ไม่มีใครเข้าข่ายผู้ต้องสงสัย”
“พี่กฤช...นี่มันไม่ใช่คดีปล้นเพชรธรรมดา”
คมกฤชเก็บปืนแล้วมองหน้าน้องสาวอย่างจริงจัง
“เจอรี่เจ้านายมุกเพิ่งบอกว่า อะดอเรลลาคือเพชรที่เพิ่งถูกขโมยมาจากราชวงศ์แอนโทรมานอฟ”
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่เห็นมีข่าวเลย” คมกฤชสงสัย
“สำนักพระราชวังปิดข่าวเพราะมันเกี่ยวกับความหละหลวมเรื่องรักษาความปลอดภัย ยังมีเครื่องประดับเก่าแก่หลายรายการถูกขโมยออกมา แต่ชิ้นที่สำคัญที่สุด และทางราชวงศ์ขอให้ตำรวจสากลตามหาคือ อะดอเรลลา”
“แล้วอยู่ๆ อะดอเรลลาก็มาโผล่ที่เมืองไทย”
“เพราะฉะนั้นนายเพชรแสนดีของคุณแม่นั่นแหละที่รับซื้อของโจร แล้วก็วางแผนปล้นเพชรของตัวเอง หวังเงินประกัน”
มุกดาพูดอย่างเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง

ที่ร้านสตาร์ไดมอนด์ เพชรเดินหนีมรกตที่ตามเขามาติดๆ
“ผมไม่ไปหายายมุกดำ มุกดาอะไรของแม่อีกแล้วครับ... เสียเวลา”
“แกต้องไป ชั้นอยากได้หนูมุกเป็นลูกสะใภ้”
เจนจบ ชนินทร และพาทีที่ยืนอยู่ถึงกับอมยิ้ม มรกตหันขวับไปมอง ทุกคนรีบทำเป็นเปิดแฟ้มปรึกษากันเรื่องงาน
“แม่ครับผมไม่สนใจเรื่องอะไร... นอกจากงาน” เพชรบอก
“ฉันถึงต้องเลือกเมียให้แกไง ฉันต้องการอุ้มหลาน หรือที่แกไม่ยอมแต่งก็เพราะว่ายังไม่ลืมแม่ปานตาแฟนเก่า”
เพชรชะงัก ชนินทร พาที และเจนจบตกใจทีได้ยินคำพูดของมรกต ทุกคนพากันมองหน้าเพชร
“คุณแม่ครับ อันนี้แรงไปมั้ยครับ” พาทีเอ่ยขึ้น
“แรงแล้วเดือดร้อนส่วนไหนของชีวิตเธอจ้ะ พาที”
“อุ่ย... ไม่เลยครับ ผมสอดเอง”
“ผมยืนยันได้ว่าเพชรไม่ได้คิดถึงปานตาหรอกครับ” เจนจบกล่าว
มรกตยิ้มหวาน “เหรอจ๊ะ เพิ่งรู้นะเจนจบว่าเธอเป็นฝาแฝดลูกชายฉัน นึกว่าเป็นเพื่อนสนิทเพชรอย่างเดียว”
เจนจบหันไป พาทียิ้มให้ในทำนองสมน้ำหน้า
“คนอย่างปานตา ไม่มีอะไรให้เพชรนึกถึงหรอกครับ” ชนินทรเสริม
“ใช่ซิ จะเป็นเจ้าสาวอยู่อีกวันสองวัน ยังวิ่งโร่ไปกับผู้ชายคนอื่น” มรกตกระแหนะกระแหน
“พอแล้วครับ แม่” เพชรเสียงเข้มอย่างอดกลั้นไม่ไหว ทำให้ทุกคนเงียบ
“ปานตาไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ผมจะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน อดีตก็คืออดีต ผู้หญิงคนเดียว... กำหนดชีวิตผมไม่ได้”
“แต่ผู้หญิงคนนี้กำหนดชีวิตของลูกได้นะจ๊ะ” มรกตชี้ที่ตัวเอง “ถ้าแกลืมแม่ปานตาได้จริงๆ แม่ขอสั่งให้แกเปิดใจมองผู้หญิงดีๆอย่างหนูมุกดา.. .เดี๋ยวนี้”
มรกตเดินออกไปทันทีไม่ปล่อยให้เพชรปฏิเสธ ทุกคนมองเพชรอย่างเห็นใจ

ณ บ้านของมุกดา มุกดาทำตาชวนฝันแล้วเอ่ยเสียงหวาน
“พี่เพชรเหรอคะ สมาร์ท เนี้ยบ หน้าหว๊านหวาน บาดใจวัยใส ดูดีสุดๆ มุกอินเลิฟเค้ามากมายค่ะ แม่”
มุกดายกแขนทำเป็นรูปหัวใจบนหัวแบบเกาหลี คมกฤชถึงกับสำลักกาแฟ ประไพเข้ามากอดลูกสาวอย่างดีอกดีใจ
“งั้นแม่โทร.ไปตอบรับคุณป้ามรกตก่อนนะจ๊ะ”
ประไพเดินอออกไป คมกฤชหันมาทางน้อง
“ไม่ต้องช่วยพี่ผ่อนหนี้ด้วยการเอาตัวเข้าล่อ เข้าแลกก็ได้นะมุก”
“มุกไม่ได้ทำเพื่อพี่กฤชคนเดียว มุกต้องการได้ตัวทุกคนที่รู้เห็นเรื่องขโมยเพชรอะดอเรลลา”
คมกฤชมองมุกดา เห็นน้องสาวมีหน้าตาจริงจัง
“แกเลยยอมไปดูตัวเพราะต้องการเข้าใกล้คุณเพชร”
“ค่ะ ในฐานะตำรวจสากล แล้วก็เป็นคนไทย มุกต้องเอาอะดอเรลลากลับไปคืนราชวงศ์ให้ได้ มุกไม่ยอมให้คนไทยแค่ไม่กี่คน ทำลายศักดิ์ศรีประเทศชาติทุกคนต้องรู้ว่าเมืองไทยไม่ใช่ประเทศขี้ขโมย”
มุกดามีสีหน้ามุ่งมั่นเอาจริง

ในห้องอบซาวน่าเวลานั้น ไอน้ำลอยฟุ้งเต็มทั่วห้อง เพชรและเพื่อนทั้ง 3 คนนั่งแช่น้ำอยู่ มีเหงื่อหยดเต็มหน้าเต็มตัว
“คิดออกหรือยังว่าฉันจะดีดยายหนูมุกออกไปยังไง” เพชรถามพาที
“คนนะ ไม่ใช่แมลงสาบ ขอเวลาคิดหน่อยสิวะ” พาทีบอก
ชนินทรลุกขึ้นจากน้ำ “พวกแกวางแผนไปแล้วกัน ฉันกลับบ้านก่อน”
“ไอ้ชนินทรเอ้ยยย...นิสัยหวงเมียเว่อร์นี่แก้ไม่หาย” พาทีแขวะ
“ฉันไม่ใช่พวกชอบสะสมกิ๊กอย่างแกนี่ พาที น้องก้อยจับได้ หูแกยานลากพื้นแน่”
“ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ก้อเหมือนงูไม่มีพิษ” พาทีรีบแก้ต่าง
“แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะโดนรีดพิษจากผู้หญิงสติเสีย... พวกแกคิดเร็วๆสิวะ” เพชรกลับเข้าเรื่องของตัวเอง
“ฉันประสบการณ์น้อย คอยหน่อยแล้วกัน ยังคิดไม่ออกว่ะ” เจนจบออกตัว
“ใครช่วยจับฉันกดน้ำให้ตายที” เพชรพูดด้วยหน้าตาอยากตาย เจนจบหันมากดเพชรลงน้ำไปจริงๆ ทุกคนเฮ
เพชรพยายามจะลุกขึ้น เจนจบเหนี่ยวคอเพชรกดลงไปอีกครั้ง แล้วปล่อยให้เพชรขึ้นมา เปียกทั้งหน้า ทั้งตัว
“เล่นจริงเลยเหรอวะ” เพชรฉุนเพื่อน
“เดี๋ยวจะหาว่าไม่ใช่เพื่อนรัก ทำให้ได้ทุกอย่าง” เจนจบหัวเราะ พาทีมองรอยยิ้มของเจนจบแล้วปิ๊งขึ้นมาทันที
“แกนั่นแหละ เจนจบ... แกช่วยไอ้เพชรได้แน่นอน”
ทุกคนมองมาที่เจนจบแบบงงๆ

บ่ายของวันใหม่ ณ ห้างสรรพสินค้า เพชรเดินคุยมือถือมาด้วยหน้าตาสุดเซ็ง
“ครับแม่ มาถึงแล้วครับ ... ผมไม่เบี้ยวหรอกน่า...แต่หนูมุกของแม่น่ะสิ ป่านนี้ยังไม่โผล่หน้ามาเลย”
“พี่เพชรคะ พี่เพชร หนูมุกอยู่นี่คะ ยู้ฮู” เสียงมุกดาดังมาจากที่ไกล
เพชรสะดุ้งเฮือก หันไปเห็นมุกดาแต่งตัวหวานจ๋อย และกำลังยกป้ายไฟเขียนว่ามุก พี่เพชร ปักกับมะดันร้องกรี๊ดๆเหมือนแฟนคลับเจอดาราอยู่ด้านหลัง
“ทางนี้ค่ะ พี่เพชร... ซารังโย้โย... สุดหล่อ เลิฟยู จุ๊บจุ๊บ” มุกดาตะโกนเสียงดัง
ปักกับมะดันกรี๊ดยาว คนในห้างสรรพสินค้าพากันมองมาที่เพชร เพชรก้มหน้าหลบหลังป้ายโฆษณาด้วยความอาย

มุกดาเดินแกว่งแขนดูของอย่างสบายใจ เพชรเดินห่างแล้วทำเป็นหยุดมองอย่างอื่น มุกดาหันมาเห็น เลยแกล้งเรียกเสียงดัง
“พี่เพชรขา”
เพชรเห็นสาวๆ หันมามองก็อาย ทำเป็นไม่ได้ยิน มุกดารีบวิ่งมาเกาะแขน เพชรสะบัดอย่างแรง แต่มุกดาไม่ยอมปล่อย สาวๆ หัวเราะเพชร เพชรรำคาญมากจึงกระชากแขนออก
“พี่เพชรชอบแบบนี้เหรอคะ” มุกดาถามเสียงซื่อ
“แบบไหน”
“ดิบ เถื่อน ใช้ความรุนแรง จะตบหนูมุกก่อนเลยมั้ยคะ” มุกดาเสียงดัง พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหา
“เอาเลยค่ะ ตบแล้วจูบได้เลยนะคะ”
เพชรเห็นคนมองก็รีบเดินหนี มุกดาเดินตาม เพชรกัดฟันถาม
“หิวหรือยัง รีบไปกินอะไรให้อิ่มๆ แล้วแยกย้ายเถอะ ผมมีงานรออยู่”
“พี่เพชรจะไปหาพลอยสีชมพูที่หายไปเหรอคะ”
เพชรหันมามองอย่างเหยียดๆ
“อะดอเรลลาไม่ใช่พลอย แต่เป็นเพชร” เพชรเน้นเสียง “เพชรสีชมพู”
“เพชรมีสีชมพู้ ชมพูด้วยเหรอคะ หนูมุกเคยเห็นแต่สีขาว แล้วหายไปได้ยังไงคะ เมื่อไหร่จะได้คืน”
“เพชรมูลค่า 500 ล้านนะครับ” เพชรมองด้วยแววตาเชือดเฉือน “ไม่ใช่มือถือเครื่องนึงหาย สองสามวันถึงจะได้คืน”
มุกดาทำหน้าซื่อ “เหรอคะ... อย่างงี้พี่เพชรก็จนแย่สิคะ ของแพงๆหายไป”
“สตาร์ไดมอนด์ยังฐานะมั่นคง ให้ผู้หญิงน้ำลายหกอีกหลายคน” เพชรพูดแดกดัน
“หนูมุกน้า หกแล้วหกอีกนะคะ น้ำลายเนี่ยะ หิวค่ะ หนูมุกขอกินร้านแพงๆ นะคะ”
มุกดาชี้ไปร้านปิ้งย่างที่คนแน่นยืนต่อแถวหน้าร้านยาว เพชรถึงกับชะงัก
“ร้านโน้นดีกว่า” เพชรเสนอ เขาชี้ไปอีกร้านที่ดูดีและมีคนน้อยกว่า
“ไม่ค่ะ หนูมุกอยากกินร้านนั้น”
มุกดาดีดดิ้น ทำท่าแบบเด็กเอาแต่ใจ
“ร้านโน้น ต้องร้านโน้น พี่เพชรต้องตามใจหนูมุก”
มุกดาชี้มือแล้วหันไปมองร้านเดิม เธอเห็นบลูกำลังเดินแนบชิดมากับขุนพล
ภาพในอดีต ตอนที่มุกดาเห็นหน้าบลูใต้หน้ากากเพียงไม่กี่วินาทีแวบขึ้นมาในสมองมุกดาทันที
มุกดาเห็นบลูแยกกับขุนพล ขุนพลไปทางลานจอดรถ แต่บลูไปทางห้องน้ำ
“เอ้า…ตามใจ จะกินร้านไหน ก็รีบๆ กินให้เสร็จ” เพชรบอกอย่างรำคาญแล้วหันมาทางมุกดา แต่มุกดาเดินอย่างรวดเร็วตามบลูไปแล้ว
“นี่...เธอจะไปไหน”
มุกดารีบหันมาสั่ง “พี่เพชรไปเข้าแถวรอโต๊ะก่อนนะคะ หนูมุกปวดท้องค่ะ ปวดมาก กำลังจะราด ว๊าย... ตดแล้วค่ะ ได้กลิ่นมั้ย”
เพชรรีบปิดจมูก มุกดาหัวเราะ เพชรจึงรู้ตัวว่าโดนแกล้ง แต่มุกดาวิ่งไปแล้ว เพชรได้แต่มองตาม

บลูเดินเข้าห้องน้ำหญิงไป มีผู้หญิงเดินสวนออกไป 2 คน มุกดาตามเข้ามา เห็นบลูเข้าห้องน้ำปิดประตูไปแล้ว มุกดามองห้องอื่นๆ เห็นประตูเปิดและไม่มีคน
มุกดากดล็อคประตูห้องน้ำเบาๆ แล้วค่อยๆ เดินไปทางห้องบลู มุกดาเข้าไปใกล้อย่างระวังตัว แต่บลูเปิดพรวดออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าไปล็อคคอมุกแล้วกดจนติดผนัง
“แกตามฉันมาทำไม” บลูมองจ้องมุกดา
ภาพเหตุการณ์ในอดีต ตอนที่บลูปะทะกับมุกย้อนกลับมา
“แก...ที่ขโมยอะดอเรลลา” บลูตกใจ
“แกต่างหาก... ขโมย” มุกดาเสียงกร้าว
บลูเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ แต่มุกดารูดตัวหลบต่ำ ทำให้บลูชกเข้ากับผนัง พอหันมาก็เจอมุกดาสันฟันมือใส่ทำให้บลูเซ
มุกดาจะเข้าไปซ้ำ แต่บลูคว้าถังขยะขึ้นมาเขวี้ยงใส่ มุกดาหลบแล้วพุ่งเข้าถีบจนบลูล้มลงกับพื้น

ขณะเดียวกันนั้นที่หน้าร้านอาหาร เพชรยืนรอมุกดาอย่างหงุดหงิด

ส่วนด้านในห้องน้ำหญิง มุกดากับบลูยืนอยู่คนละด้าน บลูมองไปที่ประตู มุกดารู้ว่าบลูกำลังจะหนี บลูวิ่งแต่มุกดาพุ่งเข้าไปล็อคคอแล้วจับบลูกระแทกอ่างน้ำ
“แกทำงานให้ใคร” มุกดาถาม
บลูไม่ตอบ มุกดาเปิดน้ำแล้วกดหัวบลูให้จมน้ำ บลูดิ้นและสำลัก มุกดากระชากหัวบลูขึ้นมา
“อะดอเรลลาอยู่ที่ไหน”
มุกดาจะกดซ้ำ แต่บลูกระทุ้งศอกเข้าที่ท้องของมุกดา แล้วเป็นฝ่ายจับมุกดากดน้ำแทน บลูกดกระแทกจนมุกดาสำลักและเข่าอ่อน บลูจิกหน้ามุกดาหงายขึ้นแล้วถาม
“แกอยู่แก๊งไหน”
มุกดาไม่ตอบ บลูชกมุกดาจนหน้าหงายกระเด็นออกไป ทั้งสองคนสะบัดเนื้อตัว ปัดหน้าตาและผมที่เปียกน้ำแล้วมองหน้ากันอย่างดุเดือด
บลูหันไปคว้าไม้ถูพื้นด้ามยาวขึ้นมาฟาด จนมุกดาต้องถอยติดมุม บลูหักไม้เป็นปลายด้ามแหลมยาว แล้วถือยืนจังก้า เตรียมเสียบร่างมุกดาที่หลังติดผนังอยู่

เพชรเดินมาเลียบๆเคียงๆ มองหน้าห้องน้ำหญิง ยามเดินผ่านมาเหล่มองเขา
“เข้าไปอาบน้ำหรือไง” เพชรหน้าตาอึดอัด

ด้านในห้องน้ำหญิง บลูตั้งท่าจะพุ่งไม้แต่มุกดาเอาสองขายัน แล้วหนีบไม้ถูพื้นปลายแหลมได้ก่อนจะถึงตัว บลูออกแรงดัน แต่มุกดาตัดสินใจเบี่ยงตัวหลบ แล้วตวัดขาฟาดพาดคอบลู บลูเซ ทันใดนั้นเองมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทั้งสองคนชะงักหันไปมอง

หน้าห้องน้ำหญิง เพชรยืนอยู่ข้างยาม
“มีคนอยู่ข้างในหรือเปล่าครับ” ยามตะโกนถาม
ข้างในเงียบ ยามหันมา เพชรบอกน้ำเสียงจริงจัง
“เพื่อนผมเข้าไปนานแล้ว”

บลูมองประตูห้องน้ำ มุกดาฉวยจังหวะคว้าสายยางใต้อ่างล้างหน้ามารัดคอบลู บลูดิ้นจนน้ำพุ่งไปรอบๆ
“อะดอเรลลา ..อยู่ที่ไหน” มุกดาถาม
บลูชักมีดที่ซ่อนไว้ในเข็มขัดขึ้นมา เตรียมจะแทงไปที่ท้องของมุกดา มุกดายังไม่รู้ตัว เธอยังคงรัดคอบลูแน่น
“จะตอบ หรือจะตาย”
บลูกัดฟัน กำลังจะแทง แต่ประตูห้องน้ำเปิดออกมาเพราะเพชรถีบประตูพุ่งพรวดเข้ามา ยามตามหลังเข้ามาติดๆ เพชรเห็นผู้หญิงสองคนยืนตัวเปียกอยู่ มุกดาถือสายยาง เธอเห็นเพชรก็รีบโยนสายยางทิ้งแล้วโปรยยิ้มใส่
“นี่.. มาเข้าส้วมหรือมาล้างห้องน้ำ” เพชรถาม
“พอดีพื้นมันลื่น หนูมุกเลยล้ม” มุกดาแต่งเรื่องแล้วหันไปยิ้มกับบลูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ใช่ .. ล้มทั้งคู่” บลูรับเรื่องแล้วรีบแหวกเพชรหลบออกไป มุกดาเดินตามแต่เพชรคว้าตัวไว้ จนมุกดาเซเข้ามาใกล้เพชร ทั้งสองคนสบตากันในระยะประชิด
“เกิดมา .. ยังไม่เคยเห็นใครเปียกแล้วอุบาทว์เท่าเธอเลย” เพชรต่อว่า
มุกดาโมโหขึ้นมาทันที เธอแกล้งทำเป็นลื่น แล้วผลักเพชรกระเด็นไปชนอ่างล้างหน้า
“หนูมุกลื่นอีกค่ะ” มุกดายิ้มสะใจ
เพชรที่เซไปชนอ่างล้างหน้ารู้สึกเสียฟอร์ม เขามองมุกดาที่กำลังออกประตูไป
“มุกดา .. จะไปไหนอีก”
เพชรรีบวิ่งตามออกไป

บลูวิ่งหลบหลีกคนมาเรื่อยๆ ด้านหลังของบลูมีมุกดาวิ่งตาม บลูหันไปเห็นมุกดาก็รีบวิ่งแทรกคน หนีไปทางประตูลานจอดรถ มุกดาวิ่งตามไปติดๆ
เพชรวิ่งออกมา เห็นหลังมุกดาไวไว
“วิ่งตามใคร” เพชรพึมพำ

มุกดาวิ่งออกมาที่ลานจอดรถ แต่บลูหายไปแล้ว มุกดาวิ่งมาถึงก็มองไปรอบๆ
รถคันหนึ่งวิ่งมาจากด้านหลัง มุกดาหันไปเห็นขุนพลเป็นคนขับโดยมีบลูนั่งอยู่ข้างๆ ขุนพลเร่งเครื่องพุ่งหวังเข้าชนมุกดา มุกดาม้วนตัวหลบไปอีกด้านอย่างฉิวเฉียด
ขุนพลถอยกลับมาอย่างเร็วตั้งใจจะชนมุกดาที่กำลังลุกขึ้น มุกดาวิ่งหนี ขุนพลรีบดริฟท์รถตามอย่างไม่ลดละ มุกดาตัดสินใจวิ่งเข้าซอกเล็กๆ ระหว่างรถแล้วก้มลงมอง
มุกดามองล้อรถของขุนพล เห็นล้อรถหยุดนิ่ง มุกดาคลานรวดเร็วหลบออกอีกทาง
มุกดาคลานพ้นออกมาจากแนวรถ เธอยืนขึ้นเห็นบลูที่อยู่ในรถกำลังยกปืนเล็งออกมานอกหน้าต่าง มุกดาวิ่งหลบ บลูรัวไม่ยั้ง มุกดาหนีเข้ามุมอับ เธอหันไปเห็นบลูลั่นไก
แววตาของมุกดาตื่นตระหนก ทันใดนั้นเอง เจนจบกระโดดพุ่งเข้ามาคว้ามุกไปกอดบังไว้ กระสุนของบลูเจาะผ่านไหล่เจนจบ
เพชรที่วิ่งตามมาหยุดตรงประตู เห็นเพื่อนถูกยิงก็ตะโกนลั่น
“เจนจบ”
ขุนพลรีบถอยรถหนีไปอย่างเร็ว
เพชรวิ่งเข้ามา เจนจบร่วงลงในอ้อมแขนของมุกดา
“คุณ...ปลอดภัย ..ใช่มั้ยครับ”
มุกดาตะลึง เจนจบสลบไปในอ้อมแขนของมุกดา
“เจนจบ เจนจบ” เพชรร้องเรียกแล้วหันไปมองหน้ามุกดาอย่างเคร่งเครียด

มุกดาตกใจที่เจนจบเข้ามาขวางจนโดนยิงเช่นนี้










Create Date : 31 มกราคม 2555
Last Update : 31 มกราคม 2555 10:37:32 น.
Counter : 703 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]