All Blog
แทกิล วันที่ 13 ธันวาคม 2554


อ๊บบ๊ก ถามแคลองว่า ตั๋วเงินใบนี้ ควรต้องหาคนช่วยเอาไปแลกให้ใช่มั้ย
“ฮะ ๆๆ แน่นอน แล้วข้าก็หาคน ๆ นั้นมาให้แล้ว คียูน เจ้ามาถึงรึยัง?”

“หึ ๆๆ สบายดีรึเปล่า ฮะ ๆๆ อย่างน้อยต้องคนละสามสิบตำลึง” คียูน กล่าว

“งั้นเจ้าฟังให้ดีนะ ถ้ากล้าหลอกเงินพวกข้าละก็ ข้าฆ่าเจ้าแน่ เข้าใจมั้ย?” อ๊บบ๊ก รีบขู่

“เจ้าอยากจะตายตั้งแต่ตอนนี้รึไงหา หึ ๆๆ”

“เอ๊ะนี่เจ้า เจ้ามันไอ้คนหลอกลวงนี่”

“เจ้าเป็นใคร?” คียูน ถาม

“ไอ้เลว ไอ้เดรัจฉาน ข้าจะฆ่าเจ้า ไอ้เดรัจฉาน มันเป็นแค่นักต้มตุ๋น” อ๊บบ๊ก กล่าว

“มีอะไร พูดกันดี ๆ สิ” กึ๊ตบง บอกทุกคน

“ไอ้สารเลวคนนี้ต่างหากที่ควรทุบหัวมันให้แบะ”

“จะฆ่ากันเพราะเงินไม่กี่ตำลึงเนี่ยนะ เจ้ามันไอ้ขี้งกที่สุดในโลก” คียูน กล่าว

“อะไรนะ ปล่อยข้านะ”

“ค่อย ๆ พูดกัน มีอะไรค่อย ๆ พูดกัน”

“คนจะแห่มาเพราะนึกว่ามีงานเลี้ยงแล้ว ช่วยเบา ๆ กันหน่อยสิ” โชบ๊ก กล่าว

“นั่งลง” กึ๊ตบง สั่ง

“คนพวกนี้ มีสมองกันบ้างรึเปล่านะ เฮ้อ”

“ปล่อย” อ๊บบ๊ก กล่าว

“ขี้โมโหไม่เข้าท่า” คียูน กล่าว

“มีสมองกันบ้างมั้ยเนี่ย ว่าแล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ เฮ้อ”

“เรื่องนี้เป็นความจริงรึ?” แคลอง กล่าว

“เจ้าหมอนี่เลวจะตาย ตัวเองเป็นทาสหลบหนี แต่ไปหลอกเงินทาสที่หลบหนีด้วยกัน”

“เค้าพูดจริงเหรอ?” แคลอง ถาม

“ถ้าไม่จำเป็นข้าไม่ทำหรอก คนซื่อ ๆ อย่างข้าเนี่ยนะ”

“นั่นสิ ๆ เรื่องอดีตก็ให้มันผ่านไปเถอะ อย่าเห็นเค้าเป็นทาสอย่างนี้นะ เมื่อก่อนตอนที่เค้าเป็นทาสของทางการเคยรู้จักมักจี่กับพวกที่รับแลกเงินอย่างดี” แคลอง กล่าว

“มันต้องช่วยได้แน่ ไม่งั้นมีตาเพิ่มที่หลังหัวอีกรูแน่” อ๊บบ๊ก กล่าว

“ฮึ่ม นี่เหรอตั๋วเงินที่ว่า” คียูน กล่าว

“ช่วยดูให้ดี ๆ ท่านผู้นั้นบอกว่าให้เราเตรียมไว้ใช้ก่อการ” กึ๊ตบง กล่าว

“ปวดหัวจริง ๆ กระดาษอย่างนี้เอามาเช็ดขี้น่ะพอได้” คียูน กล่าว

“ขี้ เจ้าบอกว่าเอาตั๋วเงินพันตำลึงไปเช็ดขี้เหรอ?

“ในนี้สลักหลังว่าออกโดยเจ้ากรมกลาโหมจงพัคซอ เงินนี่คงต้องให้ร้านตั๋วเงินที่ไหนสักที่ออกให้ แต่นี่ จิ๊ ๆๆ”

“หมายความว่าไง”

“ยังไม่เข้าใจกันอีกเหรอ ถ้าเราเอาเงินนี้ไปแลกกับร้านตั๋วเงิน ท่านเจ้ากรมก็จะรู้ได้ในทันที ไม่ต่างอะไรกับถือของที่ขโมยเดินไปหามือปราบ”

“หา อย่างนั้นไม่ได้นะ”

“ถ้างั้นเจ้าช่วยคิดหาวิธีให้หน่อยสิ” แคลอง กล่าว

“วิธีมันก็ พอมีอยู่วิธีนึง”

“คิดจะหลอกกันรึไง?”

“ไม่ทำแล้ว”

“เดี๋ยว ๆๆ เจ้านี่ทำบ้าอะไรของเจ้าหึ”

“บอกแล้วไงว่าข้าไม่ทำแล้ว”

“เจ้าเป็นพวกเดียวกับเราไม่ใช่เหรอ ควบ คุมอารมณ์หน่อยซี่ แหะ ๆ”

“การจัดการกับตั๋วเงินที่จะนำภัยมาให้มีแค่วิธีเดียว ก็คือยืมมือพ่อค้าสักคนทำให้เงินเปลี่ยนมือไปสักสองรอบ พอเปลี่ยนจากมือนี้ไปมือนั้นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้แล้ว สุดท้ายคนที่ถือคนสุดท้ายก็จะเป็นคนซวย แต่ว่า ระหว่างทางเงินจะลดลงไปบ้าง” คียูน กล่าว

“เอ๊ะ จะน้อยลงไปเท่าไหร่”

“ตอบยาก ถ้าโชคดี ก็อาจจะหายไปประมาณครึ่งนึง”

“เหลือแค่เนี้ย น้อยอย่างนั้นเลยเหรอ”

“ห้าร้อยตำลึงยังน้อยเหรอ เพราะเป็นข้าหรอกถึงยังเหลือได้ขนาดนี้”

“อย่ามาเล่นตุกติกละกัน เพราะปลายปืนมันจ่อกะโหลกของเจ้าอยู่” อ๊บบ๊ก กล่าว

“พอแล้ว ๆ ข้าไม่ทำมันแล้ว”

“ควบคุมอารมณ์บ้า ๆ ของเจ้าหน่อย” แคลอง กล่าว

อ๊บบ๊ก ถามความเห็นของโชบ๊ก ว่าจะร่วมมือทำงานกับคนเลวได้อย่างไร

“เป็นยังไง” โชบ๊ก ถาม

“ยังไม่ปล่อยอีก”

“เห็นมั้ย จูงตอนที่ควรจูง ปล่อยตอนที่ควรปล่อย จะจูงหรือว่าไม่จูง จะมาหรือไม่มา อย่าเอาแต่ลังเลแบบนั้นสิ หึ?” โชบ๊ก กล่าว

ซอลฮวา เริ่มเหนื่อยและเบื่อกับการเดินทาง จึงสอบถามแทกิล ว่าจะเดินทางไปไหน

“เป็นผู้หญิงอย่านอนแผ่ไปทั่วแบบนี้สิ” แทกิล กล่าว

“ที่ไหนก็ได้ นอนได้คือห้องนอนนั่งยองได้ก็เป็นห้องน้ำ” ซอลฮวา กล่าว

“จุดจบของแมงเม่าที่อยากเล่นไฟก็คือถูกเผาจนตาย” แทกิล กล่าว

“ชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลวนะ วัน ๆ ได้กินข้าวตั้งสองมื้อ ได้ไปเห็นที่สวย ๆ ไม่มีไล่ตีบังคับให้จ่ายค่าผ่านทาง แถมไม่มีใครมาจับตัวไปเพราะไม่ได้จ่ายเงิน งั้นข้าเปลี่ยนมาเป็นนักล่าทาสบ้างดีกว่า”

“เจ้ากินอิ่มหลับสบายแล้วว่างเกินไปรึไงหะ? คิดว่ามันเป็นงานที่คนเค้าทำกันเหรอ?” แทกิล กล่าว

“แล้วทำไมพี่ทำล่ะ?”

“ข้าต้องจับพวกเค้าให้ได้ ข้าจะต้องตามจับทาสที่มันทรยศเจ้านายกลับมาให้หมด แล้วส่งกลับไปในที่ที่ควรอยู่”

“พี่จะไปตามหาผู้หญิงคนนั้นนี่เอง” ซอล ฮวา กล่าว

“นอนเถอะ”

“ข้าพูดถูกใช่มั้ย อย่าดูถูกข้านะ เรื่องการอ่านสีหน้าของคนเนี่ยข้าถนัดที่สุดเลย”

“ไม่ต้องพูดมากรีบนอนไปซะ” แทกิลสั่ง

“แต่พี่ยังถือว่าโชคดีแล้วนะ ยังมีคนให้ตามหาอยู่ คนเรามีชีวิตอยู่เพื่อตามหา หรือว่ารอคอยใครบางคน ส่วนข้าพอกินข้าวเช้า ก็รอข้าวกลางวัน พอกินข้าวกลางวันก็รอข้าวเย็น”

“มันก็ดีออกนี่ วัน ๆ ได้แต่รอกิน ชีวิตก็เรียบง่ายดี ชีวิตแบบนั้นแหละสบายที่สุด” แทกิล กล่าว

“ชีวิตคนเราอยู่เพื่อกินรึไง?”

“เจ้านี่มันเถียงคำไม่ตกฟาก”

“ก็หมัดสู้เค้าไม่ได้ อย่างน้อยก็มีปากสู้ได้ เฮ้อ ทำไมชีวิตข้าถึงได้กลายเป็นอย่างนี้นะ”

“ยังไง?”

“จะยังไงล่ะ ชีวิตผู้หญิงอย่างข้า มันก็มีแต่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด”

วังซอนสงสัยว่าทำไมแทกิลจึงใจร้อนรีบตามหาออนยอน แสดงว่านางต้องสวยงามมาก

“เฮ้อ โบราณว่าผู้หญิง ต้องสำเนียงอย่างฮันยาง งามแบบสาวเปียงยาง ผิวอย่างคังวอนโท นั่นแหละ วิเศษที่สุด”

“เที่ยวนี้คว้าน้ำเหลวอีกแน่ ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว” เช กล่าว

“ถูกเผงเลย ข้าถึงได้ว่า เราสองคนน่าจะไปเกาะเชจูดีกว่า”

“บางที การไม่ได้เจอ อาจจะดีซะกว่า”

“นี่มันอะไรเนี่ย ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว” วังซอน กล่าว





//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 10:43:55 น.
Counter : 230 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 12 ธันวาคม 2554


“ฮิ ๆ ๆ ข้าเคยให้เจ้าน้อยรึไง” จีโฮ กล่าว
“ข้าหมายความว่าต้องให้ข้ามากกว่าเดิมอีกหน่อย พี่ ข้ารักพี่นะ”

“ฮิ ๆ ๆ เจ้าคิดว่าพวกมันกลับไปเมืองหลวงแล้วจะไปอยู่ดีมีสุขรึไง”

คนชั้นต่ำมาแขวนคอตายถึงศาลาอับกู มือปราบโอ มาพบเข้า

“ถ้าพวกชนชั้นสูงรู้เข้า ต้องมาเอาเรื่องกับพวกเราแน่ ๆ” ชายคนหนึ่งกล่าว

“ทำอะไรอยู่เล่า รีบไปเอาลงมาซี่” มือปราบโอ สั่ง

“เฮ้ ๆ เดี๋ยวก่อน เจ้าคนนี้ มันเป็นลูกน้องของชอนจีโฮนี่”

“เฮ้ จริง ๆ ด้วย”

“ฮึ้ย บ้าเอ๊ยโชคร้ายจริง ๆ” มือปราบโอ กล่าว

พี่ของอึนเจ บอกกับอึนเจว่า มีคนตายเพราะถูกฆ่าสามคน

“โอ๊ย ตอนนี้ในเมืองแตกตื่นกันไปหมดแล้ว”

“แล้วใครตายล่ะ” อึนเจ ถาม

“ได้ยินว่าเป็นชนชั้นสูงแถวซอโซมุน เห็นว่าถูกปืนยิงทะลุหัวเลย”

“ปืนเหรอ?”

“ปืนน่ะสิ ก็ปืนอย่างที่เคยยิงถากหัวแทกิลคราวนั้นไง”

“น่ากลัวจังเลย โลกมันเป็นอะไรเนี่ย ไม่ได้ใช้แค่ดาบแต่ใช้ปืนฆ่ากันเลยเหรอเนี่ย” อึนเจ กล่าว

“เฮ้อ พี่ก็ว่างั้นแหละ แต่ว่าพูดถึงเรื่องนี้นะ คงทำให้ไม่มีลูกค้าเข้าร้านไปหลายวันเลย”

“แย่ล่ะสิ ข้าตุ๋นเนื้อไว้เยอะเลยด้วย”

“แล้วเจ้าตุ๋นไปเท่าไหร่” พี่ของอึนเจ ถาม

“ตุ๋นสำหรับสามสี่วันเลย”

“นี่เจ้าบ้าไปแล้วรึไง ขายยังไงทำไมถึงตุ๋นเยอะขนาดนี้”

“ใครจะรู้ว่ามีคนฆ่ากันตายเล่า จะปีใหม่อยู่แล้วข้าก็คิดว่าลูกค้าจะมากันเยอะเลยเตรียมไว้”

“โอ๊ย อย่างนี้ก็เน่าเสียหมด จะทำยังไงล่ะหา”

โชบ๊ก นำตั๋วเงินใบละพันตำลึง มาให้ อ๊บบ๊ก

“อืม ข้าน่ะนอนไม่หลับเลย หลับตาทีไรก็เห็นภาพนั้นทุกที”

“อย่าคิดมากน่า นอน ๆ ไปเถอะ” อ๊บบ๊ก กล่าว

“แต่ว่าข้าเห็นคนตายอยู่ตรงหน้า...” โชบ๊ก กล่าว

“พูดอะไรของเจ้าเนี่ย? ที่เราฆ่าวันนั้นมันไม่ใช่คน มันเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน”

“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะทำใจแข็งให้ได้ เจ้าต้องระวังตัวด้วยนะ ระวังคำพูดให้ดี” โชบ๊ก กล่าว

แทฮาพายเรือพาเฮวอนไปที่เกาะวอนโท

“พายอย่างนี้ จะไปถึงเกาะเชจูเหรอ?”

“พายไปอีกนิดเดียวก็คงเห็นทะเลแล้ว อีกไม่นานจะถึงเกาะวอนโท แล้วเราจะไปเปลี่ยนเรือใหญ่กันที่นั่น”

“ท่านเคยไปเกาะเชจูเหรอ?” เฮวอน ถาม

“ตอนเด็ก ๆ ข้าเคยอยู่ในกองทหารเรือ และเคยเรียนรู้มาบ้างนิดหน่อย”

“ท่านเคยอยู่ในค่ายทหารเรือนานมั้ย?”

“ข้าอยู่ที่นั่นสองปีเต็ม แล้วก็ย้ายไปชายแดน สุดท้ายก็ไปประจำที่ค่ายฝึก”

“แต่ว่าทำไมท่านถึงกลายมาเป็นทาสล่ะ”

“ข้าไม่ใช่ทาสสักหน่อย” แทฮา บอก

“ถ้าอย่างนั้นเป็นใคร เป็นทาสแต่กลับบอกว่าไม่ใช่ ถูกตามล่าแต่ปฏิเสธ ท่านจะอธิบายยังไง ทุกคำที่ท่านพูดมา มีเรื่องไหนที่ควรเชื่อและเรื่องไหนควรลืมบ้าง”

“ถ้าหากเจ้าไม่เชื่อใจข้าขนาดนี้ แล้วทำไมถึงยอมมากับข้า”

“เพราะท่านเอ่ยปากชวนข้าเดินทางมาด้วย ได้โปรดบอกข้ามาเถอะ การเดินทางที่ไม่ใช่เป้าหมายของข้า ข้าจะเชื่อใจและไปกับท่านได้ยังไง”

“แปดปีหลังจากที่ข้ากลับมาจากต้าชิง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ผู้คน เพื่อนที่ข้าเคยสนิทที่สุด กลับเป็นคนใส่ร้ายว่าข้าเป็นขโมย”

แทฮา เล่าเรื่องของชอลวุงและตนให้แฮวอนฟัง ว่าพวกนั้นเอาหลักฐานมามัดตัวตนว่าเป็นคนขโมยเสบียงกองทัพ ตอนสอบสวนขจึงถูกตีจนขาหัก จากนั้นจึงตัดสินใจว่าจะยอมตาย เพราะไม่รู้ว่าจะทนรับความอัปยศได้หรือไม่ตอนนั้นยองโฮมาขอให้ตนรับโทษ และร้องขอชีวิตเพื่อจะได้มีชีวิตต่อไปเพราะก่อนสิ้นองค์รัชทายาท พระองค์ได้มอบจดหมายฉบับหนึ่งให้กับเขา เมื่อถึงเวลาเขาจะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ตนจึงต้องยอมรับโทษที่ไม่ได้เป็นคนก่อ

“พวกข้าจึงต้องเอาชีวิตรอด แต่นึกไม่ถึงว่าจะถูกสักคำนี้ไว้ที่หน้าผาก” แทฮา กล่าว

“เพื่อลบล้างมลทินนี้ ท่านถึงได้หนีมาเพื่อจะหาทางกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม ก่อนที่จะกลายเป็นทาสเหรอ?”

“ข้ามีเรื่องที่สำคัญมากกว่าการ..พ้นจากทาสที่ต้องทำ”

“มีเรื่อง เรื่องอะไร..ที่สำคัญกว่าเรื่องนี้อีกเหรอ?”

“อย่าว่าแต่เป็นทาสเลย ต่อให้ข้าต้องต่ำต้อยยิ่งกว่าทาส ข้าก็จะต้องทำเรื่องนั้นให้ได้”

“ไม่มีอะไรต่ำต้อยไปกว่าทาสอีกแล้ว”

จีโฮสอบถามชอลวุง ว่าเดินทางมาทำอะไรที่นี่กันแน่

“เจ้ามีเรื่องอะไรเหรอ?”

“ฮิ ๆ ๆ ก็รู้สึกว่าเรือลำนี้มันโคลงเคลงไปมา พอจะนอนก็กลัวจะคลื่นไส้ ถ้าเป็นอย่างนี้ข้าต้องทนไม่ไหวแน่ ข้าเลยคิดว่าเรามาดื่มเหล้ากันหน่อยดีกว่า”

“ในค่ายทหารมีเหล้าซะที่ไหนกัน” ชอลวุง กล่าว

“แหม ฮิ ๆ ๆ โบราณว่าหอสุราไม่ขาดนารี ค่ายทหารมีหรือจะขาดเหล้า ท่านไม่รู้รึไง?”

“หุบปากของเจ้าแล้วรีบเข้าไปซะ”

“โธ่ ใต้เท้า บรรยากาศตอนนี้มีลมพัดเบา ๆ คลื่นลมสงบ ได้ดื่มเหล้าสักกรึ๊บ มันจะรู้สึกฮึกเหิม เหมือนกำลังไปสร้างเกียรติประวัติไม่ใช่เหรอ?”

“ถ้าเจ้ายังพูดอีกคำเดียว ก็อย่ามีปากไว้พูดอีกเลย”

“ใต้เท้า มาดื่มกันสักจอกสิ จะได้ช่วยให้ท่านคลายความคิดถึงฮูหยินท่านที่ฮันยางไปได้ไง ที่นี่ก็เหมือนกับเป็นเกาะสวรรค์อยู่แล้วนี่ ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาประลองความเป็นความตายกัน ข้าคือชอนจีโฮนะ ชอนจีโฮ ฮิ ๆ ๆ หา ใต้เท้า เลือดข้าออกแล้ว ฮิ ๆ ๆ”

แคลองมาลองทดสอบปืนกับกึ๊ตบง

“มือปืนพระกาฬของเรา”

“โธ่ ก็ไม่มีอะไรหรอก เรื่องเล็กน้อยแค่นี้” อ๊บบ๊กกล่าว

“ฮึ่ย ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ นะ ถ้าพูดถึงคนชั่วที่รังแกทาส เจ้าพัคชินซาถือว่าเลวที่สุดในโชซอนแล้ว เจ้ากลับยิงเจ้าหมอนั่นหัวเป็นรูได้ มันสะใจ แถมน่าภาคภูมิใจจะตายไป” แคลอง กล่าว

“ไม่ใช่แค่เจาะกะโหลกมันนะ ยังได้... นี่ ตั๋วเงินพันตำลึงด้วย ฮะ ๆ ๆ ถ้าเอาไปแลกเป็นเงิน เราจะซื้อปืนได้คนละกระบอก แล้วเราจะได้ฝึกยิงปืนกันทุกคน แล้วออกตามฆ่าพวกชนชั้นสูงกันทุกคืนเลย ฮะ ๆ ๆ” กึ๊ตบง กล่าว

“แลกเป็นเงิน ใครไปแลก”

“ใครก็ได้มั้ง” กึ๊ตบง กล่าว

“แลกยังไง”

“ต้องยังไงด้วยเหรอ?” กึ๊ตบง กล่าว

“นั่นแหละปัญหาเจ้าโง่ มันต้องมีที่มาที่ไป ของแบบนี้ถ้าไม่ใช่คนที่เคยอยู่ในวงการ อย่าว่าแต่เงินพันตำลึงเลย แค่เฟื้องเดียวก็แลกมาไม่ได้” แคลอง กล่าว





//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 10:40:30 น.
Counter : 252 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 11 ธันวาคม 2554


“ข้าอยู่ในสนามรบ ภาคภูมิใจอยู่กับการที่ได้ช่วยชีวิตคนนับหมื่น แต่ภรรยาและลูกชายข้า กลับต้องถูกคนฆ่าตาย ข้าตัดสินใจว่าจะไม่ไปข้องแวะกับใครอีก แต่ถ้าหากว่ามันเป็นวาสนา ข้าอยากจะปกป้องนางให้ถึงที่สุด”

“แปลว่าท่านต้องการจะคุ้มครอง ข้าใช่รึเปล่า?”

ตกกลางคืน ระหว่างที่แทกิลแม่ทัพเช วังซอน และซอลฮวากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ แม่ทัพเชเห็นแทกิลนั่งครุ่นคิดจึงเดาความคิดของแทกิลออก

“เจ้าคิดอะไรอยู่ เจ้าคง..ไม่ได้คิดจะไปเกาะเชจูนะ”

“ทำไมจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาล่ะ”

“ก็ดูเส้นทางของเจ้าซงแทฮาสิ สุสานรัชทายาท ไปหาอิมยองโฮ เค้าจะไปที่ไหนล่ะ”

“ต้องเป็นที่เกาะเชจูแน่” แทกิลต่อให้

“ทั่วประเทศนี้เจ้าจะไปไหนก็ได้ ยกเว้นเกาะเชจูที่ห้ามไป”

“ทำไมข้าต้องไปที่นั่น ไม่ไปหรอก”

“ตอนนี้เกาะเชจูเป็นศูนย์กลางของการแก่งแย่งอำนาจราชสำนัก คนไม่มีอำนาจอย่างพวกเราถ้ากระโดดเข้าไปแล้วอาจจะตายโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย”

“บอกแล้วไงว่าไม่ไป ต้องจับให้ได้ก่อนถึงนั่น” แทกิลพูดอย่างมั่นใจ

“ถ้าอย่างนั้น เราจะไปถึงแค่มักโป”

“ทำไมพูดอะไรโง่อย่างนั้นเล่า ทหารเฝ้าอยู่เต็มไปหมด แล้วยังคิดว่าพวกเค้าจะเดินอาด ๆ ไปขึ้นเรือเหรอ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย” แทกิลส่ายหน้า

“ถ้างั้นเค้าจะไปจากเกาะวอนโทเหรอ?” “ตอนแรกคงคิดอย่างนั้น แต่ถ้าเค้าพาผู้หญิงไปด้วย น่าจะเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุด/ที่นี่จะต้องล่องเรือไปทางน้ำเพื่อออกทางทะเล” แทกิลคาดเดา

แทกิลออกไปที่ท่าเรือเพื่อเช่าเรือเพื่อเดินทางพร้อมกับถามเบาะแสของแทฮากับคนที่ท่าเรือ “ตาแก่ มานี่หน่อยสิ จะถามอะไรหน่อย”

“เจ้าว่าอะไรนะ ตาแก่เหรอ” ชายคนนั้นไม่ค่อยพอใจนัก

“ช่วงนี้เจ้าเห็น ชายหญิงคู่นึงมาหาเรือเช่าไปเกาะวอนโทบ้างรึเปล่า?”

“ไอ้คนไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ กล้าพูดจาเสียมารยาทกับผู้ใหญ่?ระวังข้าจะฉีกปาก แล้วค่อยตัดลิ้นของเจ้าออกมา” ชายคนนั้นแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน และไม่ยอมตอบคำถามของแทกิล

“ตาแก่อย่างเจ้าคงไม่กลัวมือปราบใช่รึเปล่า ระวังข้าจะตัดแขนขาเจ้าไปโยนให้กากินซะ” แทกิลประกาศ

ชายคนนั้นตกใจลนลาน “โอ๊ย ข้าน้อยมันตาบอด ข้าน้อยผิดไปแล้วครับ”

“ตกลงเห็นชายหญิงคู่นึงมั้ย?” แทกิลถามย้ำ

“เอ่อ เมื่อกี้นี้เอง ไป..ทางนั้น ทางไปท่าเรือ ข้าเป็นคนบอกทางพวกเค้าเอง”

“เมื่อกี้นี้คือเมื่อไหร่ล่ะ?”

“ก็น่าจะ..ประมาณสักครึ่งชั่วโมงได้มั้ง”

แทกิลเจ็บใจที่คลาดกับแทฮาเพียงนิดเดียว

เบ็กโฮ ได้รับคำสั่งจากคึนนอมให้กำจัดแทกิล เมื่อเขาตามหาแทกิลจนพบก็ได้ต่อสู้กันอย่างรุนแรงทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก เบ็กโฮ ได้นำรูปเฮวอนให้แทกิลดูว่ารู้จักผู้หญิงคนนี้หรือไม่ ทำให้แทกิลสงสัย

“เจ้าเป็นใครหะ? เจ้าตามหาออนยอนทำไม ใครส่งเจ้ามา บอกมา บอกมา ข้าบอกให้บอกไง”

“ใจเย็นไว้แทกิล” เช กล่าว

“เจ้าหมอนี่ตามหาออนยอน เค้ารู้แม้แต่ชื่อของข้า”

“เค้าสิ้นใจแล้วนะ ตัดใจเถอะ”

“โห ทะลุหัวใจเหรอ เฮ้อ พี่ก็ ยั้งมือไว้หน่อยก็ไม่ได้ ฮึ้ย..” วังซอนกล่าว เมื่อแทกิลเล่นงานเบ็กโฮ จนเสียชีวิต

“คงฝังศพให้เจ้าไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ หวังว่าเจ้าจะได้ไปสู่สุคตินะ” เช กล่าว

“นี่ถือเป็นค่าเดินทางไปปรโลก อย่าโกรธแค้นลูกพี่ข้าเลยนะ แล้วก็อย่าตามไปรังควานเค้าในฝันด้วย”

“ไปเถอะ ถ้าพวกมือปราบมาเจอเข้า เรื่องมันจะยิ่งยุ่ง นี่เจ้าจะทำอะไร ไปเอาของคนตายได้
ยังไง”

“เบ็กโฮชาวมกโกเกาะยอจู ถ้าไปที่นั่นคงได้เจอออนยอนแน่” แทกิล กล่าวเมื่อดูป้ายของเบ็กโฮ

“เฮ้ ลูกพี่ อะไรเนี่ย ตามไปเร็วเข้า”

ชอลวุง เดินทางมาพบนายอำเภอชังแทซก

“ระหว่างสืบราชการลับไม่ต้องมากพิธี เจ้ารีบออกเรือให้ข้าได้มั้ย” ชอลวุง ถาม

“ถึงจะตรวจราชการ แต่การจะใช้เรือของ กองทัพจำเป็นต้องมีหนังสือคำสั่ง เชิญท่านตามข้ามาข้างใน”

“อย่างนั้นก็ได้ พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ก่อน” ชอลวุง กล่าว

“ดูท่าสิ อายุแค่นี้ทำเป็นวางมาดใหญ่โต เหอะ คิดว่าตัวเองเป็นพระราชารึไง หะ เฮ้ ต่อให้เชิญข้าไปข้าก็ไม่ไปหรอก” จีโฮ กล่าว

“แต่ว่าลูกพี่ครับ ตอนนี้เหลือแค่เราสองคน อย่าลืมว่าต้องแบ่งให้ข้าเยอะกว่าคนอื่นนะ” มันดึ๊ก กล่าว





//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 10:39:30 น.
Counter : 338 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 10 ธันวาคม 2554


“มีความจำเป็นที่ทำให้ข้ารอไม่ได้”

“ไม่ว่าจะมีความจำเป็นอะไรก็ไม่ควรฝ่าฝืนกฎหมาย” แม่ทัพซินบอก

“ถ้าเช่นนั้นทำไมท่านแม่ทัพ ถึงไม่ยอมสยบให้ต้าชิงตามคำสั่ง แต่กลับยอมถอดชุดทหาร นั่นไม่ใช่การฝ่าฝืนกฎหมายหรือ”

“เพราะว่าสำหรับทหาร คำสั่งบางอย่างไม่อาจทำได้”

“ข้าก็เป็นเช่นนั้น”

“งั้นแล้วไปเถอะ”

“ตอนนี้ท่านอาจารย์ถูกชอลวุงอดีตลูกน้องของท่านแม่ทัพ..สังหารจนตายแล้ว” แทฮาพูดถึงยองโฮ

“ข้าเป็นคนที่โลกได้ลืมไปแล้ว ข้าต้องการแค่ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบ” แม่ทัพซินพูดเสียงเรียบ

“ต่อให้วันนี้ท่านซ่อนตัวอยู่ที่นี่ พวกเค้าก็ไม่มีทางปล่อยท่านไปอยู่ดี”

“พวกเจ้าออกไปจากบ้านข้าซะเถอะ” แม่ทัพซินตัดสินใจขอให้แทฮาออกจากบ้านตนเอง เพื่อไม่ให้ตนเองต้องเดือดร้อน

“มาเยือนโดยไม่บอกกล่าว แต่ท่านยังยอมต้อนรับข้า”

“มีทาสหลบหนีออกจากค่ายฝึก พวกมือปราบคงตามล่ากันให้ควั่กแน่” แม่ทัพซินคาดเดา

“อีกไม่นานพวกทหารคงจะตามมาถึงที่นี่” แทฮาบอกแม่ทัพซินว่าเขาจะไปเกาะเชจู “ข้าจะต้องไปช่วยนายน้อยที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวออกมา” แทฮาบอก

“ประวัติศาสตร์คือคลื่นยักษ์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าอาศัยแค่กำลังคนไม่กี่คนก็ไปแก้ไขมันได้ ผู้คนก็คงจะไม่เรียกมันว่าประวัติศาสตร์แล้ว”

“ข้าจะถือซะว่าไม่ได้ยิน” แทฮาเลียนแบบคำพูด แม่ทัพซินขำ ๆ “ฮะ ๆ ๆ ดูเหมือนทหารจะตามมาแล้ว ข้าจะช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ให้”

“ท่านก็ระวังด้วย”

ด้านแทกิลนึกถึงแต่เฮวอนตอนที่นางเป็นทาสในบ้านของเขา

“ออนยอน นี่ให้เจ้า เดี๋ยวมือเท้าเจ้าจะรู้สึกอบอุ่นขึ้น ถือเอาไว้นะ ผู้ป่วยต้องรักษา ใช้ยามาบำบัด ไม่ทราบว่าใช้สิ่งใด เฉินเซ่อได้กล่าวว่า ท่านดูสิ รังนกสีเลือดนี่คือยาชั้นยอด”

“นายน้อยคะ ข้าเอาอาหารว่างมื้อดึกมาให้ค่ะ”

“เอาเข้ามาสิ เข้ามาใกล้อีกหน่อยสิ มา เข้ามาอีก” แทกิลบอกเฮวอนก่อนจะสวมกอด เฮวอนตกใจมาก “ถ้านายท่านมาเห็นเข้าข้าต้องตายแน่”

“ไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่งลงเถอะ” แทกิลให้เฮวอนนั่งลงที่เก้าอี้ และนวดมือเท้าให้

“นายน้อยคะ” เฮวอนกลัว ๆ

“ไม่เป็นไรหรอก เฮ้อ มิน่ามือเท้าเจ้า ถึงได้แข็งจนแตกแบบนี้ได้ทุกวัน จุ๊ ๆ ๆ มือคงเย็นทั้งวันเลยใช่มั้ย?”

“วันมะรืนก็จะเป็นวันสอบแล้ว ท่านอ่านหนังสืออย่างนี้ ถึงเวลาจะสอบได้เหรอคะ?”

“สอบครั้งนี้น่าจะไม่มีปัญหา ข้าจะต้องสอบระดับชาติให้ได้ แล้วแบกออนยอนของข้า ขึ้นเกี้ยวแห่ไปให้ทั่วเลย”

“คำสัญญาของท่านน่ะพูดมาตั้งกี่ปีแล้วเนี่ย” เฮวอนยิ้ม ๆ

“งั้นถือว่าข้าสอบได้แล้วแบกตอนนี้เลยดีมั้ย?” แทกิลทำท่าจะแบกเฮวอน แต่เฮวอนห้ามไว้ “เลิกแหย่ข้าสักทีน่า”

“ไม่ได้หรอก ข้าจะแบกเจ้า มา”

“อย่ามัวเล่นเลยนายน้อย นายน้อยคะ”

“มาเร็ว ข้าจะแบกเจ้า”

“อย่าทำอย่างนี้สิคะ ตอนที่ข้ายังเด็ก คงเป็นเพราะข้าไร้เดียงสาก็เลยเห็นนายน้อยเป็นเหมือนเพื่อนคนนึง พอโตขึ้นมาถึงเข้าใจว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่างชนชั้น ถ้าตอนนี้ท่านจะเห็นข้าเป็นแค่ของเล่นของท่าน ข้าคงไม่กล้าจะขัดขืนท่าน แต่ข้าก็หวังว่าท่านจะไม่ทำอย่างนั้น” เฮวอนพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

“เห็นเจ้าเป็นของเล่นรึ? ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนั้นล่ะ?” แทกิลตกใจมาก

“ฐานะเราแตกต่างกัน ถ้าไม่ใช่ของเล่นแล้วเป็นอะไร” เฮวอนพาลน้ำตาจะไหล

“ข้าน่ะนะ รู้มั้ยว่าข้าไม่เคยชอบเลย ไม่ชอบที่เจ้าต้องหนาว ไม่ชอบเห็นเจ้าต้องป่วย และไม่อยากเห็นเจ้าต้องเหนื่อย” แทกิลมองเฮวอนด้วยความรัก

แม่ทัพซินได้ยินเสียงควบม้ามาแต่ไกลจึงบอกให้แทฮารีบพาเฮวอนหนีไป ไม่นานนักซอลวุงก็มาบ้านแม่ทัพซิน “ซงแทฮามาที่นี่รึเปล่าครับ?”

“ได้ยินว่าเจ้าฆ่าอาจารย์ข้า เป็นคำสั่งเสนาบดีเหรอ?” แม่ทัพซินไม่ตอบ แต่ถามกลับ

“ซงแทฮาอยู่ที่ไหนครับ?”

“แม้แต่คนไม่สำคัญอย่างข้าเค้ายังนึกถึง ท่านเสนาฯเป็นคนขี้ขลาดขี้ระแวงจริง ๆ”

“ข้าคงต้องขอเข้าไปค้นในบ้านท่าน”

“ข้าน่ะหรือจะยอมให้ครูฝึกกระจอกคนนึงมาค้นบ้านของข้า” แม่ทัพซินพูดเสียงเข้ม ไม่พอใจ ซอลวุงแสยะยิ้ม “ข้าไม่เคยคิดว่าจะต้องได้รับการอนุญาต”

“เจ้าต้องลองด้วยตัวเอง ถึงจะยอมเข้าใจว่าอะไรเรียกว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำใช่รึเปล่า?” แม่ทัพซินตวาดเสียงดัง

แต่ซอลวุงไม่สะทกสะท้าน “ฟ้าผืนนั้น ไม่เปลี่ยนชื่อแซ่ตัวเองไปแล้ว”

จากนั้นซอลวุงจึงเข้าต่อสู้กับแม่ทัพซิน และฆ่าแม่ทัพซินเสียชีวิต ก่อนจะเรียกจีโฮและลูกน้องตามมาจัดการกับศพของแม่ทัพซิน

“ครับใต้เท้า ขอแค่ท่านจ่ายสะดวกแบบนี้ให้เราทุกครั้ง ฮิ ๆ ๆ ข้าจะช่วยจัดการให้อย่างเรียบร้อย จะไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่น้อย นี่พวกเรา ไปเร็ว” จีโฮสั่งลูกน้อง

เบ็กโฮกลับมาบอกคึนนอมเรื่องที่เฮวอนแต่งงานแล้วกับแทฮา ซึ่งเป็นหัวหน้าค่ายฝึกทหาร คึนนอมอดแปลกใจไม่ได้ว่าเฮวอนรู้จักกับแทฮาได้อย่างไร

“แต่เรื่องนี้คุณหนูเป็นคนบอกข้าเอง แต่ที่น่าสงสัยคือ แม่ทัพซงแทฮา ต้องโทษถูกลดไปเป็นทาสเมื่อสองปีก่อน ข่าวว่าเขาขโมยเสบียงหลวง แต่ว่าคนในวงการทหารต่างก็รู้ดีว่าเค้าถูกคนใส่ร้าย”

“ถ้าเค้าเป็นทาสจริง ตอนนี้เค้าได้รับการปลดปล่อยแล้วรึยัง?”

“เค้าเป็นทาสอยู่ในค่ายฝึก...แต่เพิ่งจะหนีไปเมื่อไม่นานมานี้”

“เป็นทาสหลบหนีงั้นเหรอ แล้วเฮวอนน้องข้ากลับไปอยู่กับทาสที่หลบหนี”

“ถึงเค้าจะถูกใส่ร้ายจนต้องถูกลดไปเป็นทาส แต่แม่ทัพซงคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือ หรือว่านิสัยเขาเป็นสุภาพบุรุษมาก”

“ไม่ว่าเป็นคนยังไง แต่ตอนนี้เค้าเป็นทาสหลบหนี”

“แต่ยังมีคนน่าสงสัยกลุ่มนึง ที่ตามล่าเค้ามาตลอดทาง ในนั้นมีนักฆ่าหญิงของทางต้าหมิงคนนึง กับนักล่าทาส...ที่ชื่อว่าอีแทกิล นายท่าน”

“เจ้าบอกว่าเค้าชื่ออีแทกิลงั้นรึ?” คึนนอมตกใจมาก

“ครับ ช่วงสงครามมีทาสในบ้านคนนึงวางเพลิงแล้วหลบหนีไป ทำให้พ่อแม่เขาต้องตาย มีเค้าคนเดียวที่รอดชีวิตมา”

คึนนอมนึกไปถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เขาเข้าไปวางเพลิงบ้านของแทกิล ทำให้พ่อแม่ของแทกิลเสียชีวิต และคึนนอมยังพาเฮวอนน้องสาวของเขาหนีมา สร้างความแค้นให้กับแทกิล ทำให้แทกิลมามีอาชีพตามล่าทาส เบ็กโฮยังบอกว่าเฮวอนขอร้องให้เลิกตามนางกลับมา คึนนอมบอกให้เบ็กโฮคอยติดตามนางอย่างลับ ๆ และให้ฆ่าแทกิลเสีย

“เจ้าต้องทำ ฆ่าเค้าซะ ต้องฆ่าเค้า เฮวอนถึงจะมีชีวิตต่อไปได้” คึนนอมย้ำเพราะไม่อยากให้เฮวอนและแทกิลได้เจอกัน

แทกิล แม่ทัพเช และวังซอนใช้หน้าที่กองปราบไล่จับทาสและรีดไถเงินมาใช้ช่วงตามล่าแทฮา แทกิลเจอเข้ากับซอลฮวาขณะที่นางถูกคณะละครจับตัวไปเพื่อจะให้นางขายตัว และแทกิลก็ช่วยเหลือนางไว้ได้ทัน ซอลฮวารับปากว่านางจะช่วยหุงหาอาหารแทนวังซอนและไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอีก ทำให้แม่ทัพเชและวังซอนใจอ่อนยอมให้นางติดตามไปด้วย

แทฮาบอกเฮวอนเรื่องที่จะเดินทางไปเชจูเพื่อตามหาพระโอรสของรัชทายาท “พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปเกาะเชจู”

“เป็นจุดหมายปลายทางแล้วรึ?”

“ที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก”

“ข้าขอถามท่านได้มั้ยว่า มันเป็นจุดเริ่มต้นของอะไร?”

“ประวัติศาสตร์จะฟื้นกลับมาอีกครั้ง”

“ท่านต้องทำงานใหญ่ ท่านคงรู้สึกว่าข้าเป็นตัวถ่วงสินะ”

“เจ้ายินดีจะไปเกาะเชจูกับข้ามั้ย?” แทฮาเอ่ยขึ้น

“แล้วข้าจะไม่ไปเป็นตัวถ่วงงานของท่าน เหรอ”

แสดงความคิดเห็น
แบ่งปัน





//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 10:37:56 น.
Counter : 264 Pageviews.

0 comment
แทกิล วันที่ 9 ธันวาคม 2554


“เห็นหน้าตาอมทุกข์ของเจ้าก็รู้แล้วว่า ต้องมีเรื่องคับอกอยู่มากมาย อยากจะคุยเพื่อระบาย มั้ย?”

“คงไม่ใช่แผนจะหลอกข้าไปนอนด้วยนะ” ซอลฮวาดักคอ

“อะไร...คุยกันไปมา ก็คุยกันจนรักกันได้ แล้วจากนั้นก็จะนอนด้วยกันได้เอง นี่เป็นธรรมชาติไม่ใช่เหรอ เจ้าว่าจริงมั้ยล่ะ มา ๆ ๆ ข้าดื่มให้เจ้าหนึ่งจอก” ชายคนนั้นยกจอกเหล้าขึ้นดื่ม

“ฮึ ๆ ผู้ชายอย่างพวกเจ้า ทำไมถึงได้เหมือนกันหมดเลย พอมาเห็นผู้หญิง ก็คิดแต่จะมอมเหล้า ให้เจ้าดื่มดีกว่า”

ซอลฮวายกจอกให้ ชายอีกคนถาม “เจ้าจะให้ข้าดื่มด้วยซักจอกได้มั้ย?”

“ผู้ชายพวกนี้นี่ อ้อ ดูนี่ เคยเห็นเงินมั้ย เอาไปซื้อเหล้ากินกันเลย”

ซอลฮวาควักเงินออกมา ชายเหล่านั้นตาโต ก่อนจะกินเหล้ากันยกใหญ่และร้องเพลงอย่างสนุกสนาน แต่ในใจของซอลฮวาเจ็บช้ำยิ่งนัก

“พี่ชายคะ ๆ อย่าดูถูกข้าเพราะงานที่ข้าเคยทำเลย ท่านทิ้งข้าไปเพราะข้าเป็นผู้หญิงต่ำ ๆ เหรอ? รู้ความรู้สึกของคนที่ถูกทิ้งมั้ย? พวกเค้าทิ้งข้ากันไปหมดเลย” ซอลฮวาน้ำตาไหล

เบ็กโฮตามมาจนเจอเฮวอน และจะเข้าจับกุม เฮวอนร้องขอขึ้น “ว้าย ๆ อย่าทำอย่างนี้เลยนะ ถ้าเจ้าไปอธิบายให้พี่ข้าฟัง เค้าจะต้องเข้าใจแน่”

“นายท่านเป็นห่วงท่านมากนะ” เบ็กโฮบอก

“เราเคยเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ถึงกับต้องทำอย่างนี้ด้วยเหรอ?”

“ท่านกลับไปกับข้าเถอะนะ” เบ็กโฮขอร้อง

“ถ้าข้าคิดจะกลับไป ก็คงไม่หนีมาแต่แรก” เฮวอนยืนกราน

เบ็กโฮจึงสั่งลูกน้อง “ไปเชิญคุณหนูมา เจ้าจะมั่นใจเกินไปแล้วมั้ง” และหันไปพูดกับแทฮา

“เห็นว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมต้อง ใช้ดาบจริงมาสู้กันด้วย” แทฮาหรี่ตา ประเมินสถาน การณ์ เฮวอนพยายามบอกอย่าให้เกิการต่อสู้กัน

“ข้าไม่เป็นอะไรหรอก เจ้าถือซะว่าดูผู้ชายกำลังหยอกล้อเล่นกัน ลงมือได้แล้ว” แทฮาบอก ก่อนจะลงมือสู้กับพวกเบ็กโฮ

แทฮามีลีลาการต่อสู้ที่เหนือชั้นกว่ามาก จนกระทั่งชนะเบ็กโฮ

“เจ้าอยากฆ่าก็ฆ่าเลย แต่อย่ามาหยามเกียรติข้า” เบ็กโฮเสียงแข็ง

“อย่าคิดว่าเป็นการหยามเกียรติ แต่ถือซะว่ามันเป็นการสั่งสอน จำเอาไว้ว่า วิชากระบี่ ไม่ได้อยู่แต่ในตำรา ยังคิดจะตามต่อไปอีกหรือ?”

“เป็นคำสั่งของเจ้านาย จะละเลยไม่ได้”

“งั้นช่วยไม่ได้ เจ้าก็ตามต่อไปเถอะ แต่ว่าเรามีมิตรภาพต่อกันแล้ว จะรอถึงฟ้าสางค่อยตามต่อได้รึเปล่า อย่างน้อยให้คืนนี้พวกข้าได้เดินทางอย่างวางใจ”

“ข้าเข้าใจดี การประลองถือเป็นวาสนา ช่วยบอกนามท่านได้หรือไม่ ข้าเป็นชาวซงโท ชื่อเบ็กโฮ”

“ข้าเป็น ชาวฮันยางชื่อซงแทฮา”

“ซงแทฮา หรือว่า” เบ็กโฮครุ่นคิด ก่อนจะตาโตอย่างแปลกใจ “ท่านเคยเป็นหัวหน้าค่ายฝึก อภัยที่ข้าตาไม่ถึง”

“เคยรับการฝึกมาใช่มั้ย?”

“ครับ ข้าเคยฝึกวิชากระบี่มาประมาณสี่ห้าปี” เบ็กโฮบอก

“ด้วยความสามารถของเจ้า หากจะสอบเป็นขุนนางย่อมเหลือเฟือ ทำไมถึงไปเป็นคนคุ้มกันให้คนทั่วไป”

“ขอบอกตามตรง เพราะข้ายังหาเหตุผลที่จะทำให้ตัวเองสามารถรับใช้พระราชาไม่ได้ ขุนนางซื่อสัตย์มักจะกลายเป็นเครื่องสังเวยยามบ้านเมืองวุ่นวายไม่ใช่หรือ นี่เป็นเพราะพระราชาไม่เที่ยงธรรม”

“ถ้าหนีหมวกขุนนางเพราะสกปรก ตลอดชีวิตของเจ้าคงไม่สามารถลบล้างความสกปรกได้ การกระโดดลงบ่อโคลน ถึงจะเห็นโลกที่โสมมได้ชัด จากนั้นจึงจะพบวิธีทำให้มันสะอาดได้ ถ้าครั้งหน้ามีโอกาส เราค่อยมาประลองกันใหม่”

“อีกไม่นานก็คงมีโอกาสนั้น คุณหนู ข้าควรไปอธิบายกับนายท่านว่ายังไง” ตอนท้ายเบ็กโฮหันไปถามเฮวอน

“ข้า...แต่งกับนายท่านท่านนี้แล้ว” เฮวอนบอกเสียงเรียบ

เบ็กโฮอ้าปากค้าง เมื่อเฮวอนบอกว่าเขาและแทฮาแต่งงานกันแล้ว

“พวกข้าเจอกันโดยบังเอิญแต่ก็ชื่นชมกันและกัน แต่เมื่อไม่ได้พบ ก็เลยรู้สึกเสียใจมาก สุดท้ายถึงตัดสินใจหนี ถ้ามีโอกาสข้าจะกลับไปเอง กลับไปบอกพี่ว่าเลิกตามได้แล้ว”

“คุณหนู ได้แต่งงานแล้วจริง ๆ เหรอครับ?” เบ็กโฮถามย้ำ

“ใช่ พวกเราได้ดื่มเหล้า แต่งงานกันที่วัดเล็ก ๆ น่ะ”

“เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ” เบ็กโฮสีหน้ากังวลใจ

เฮวอนชวนแทฮาเดินเสี่ยงออกมา เมื่อออกมาได้สักพักก็เอ่ยกับแทฮา “พวกเค้า คงจะไม่ตามมาอีกแล้ว ข้าจะไม่เป็นตัวปัญหาของท่านอีก”

แทกิลตามตัวซอลฮวาจนพบแต่ปรากฏว่าไม่เห็นม้า เสบียงก็หายไปแถมเงินก็เอาไปกินเหล้าจนหมด วังซอนโมโหแทบจะฆ่านางทิ้ง แต่แทกิลห้ามไว้แม่ทัพเชไม่พอใจที่แทกิลไม่คิดจะลงโทษซอลฮวา วังซอนพูดอย่างโมโหว่าให้ขายนางเข้าสู่หอนางโลม หรือขายให้นายทาสคนใหม่ไป

ซอลฮวายังโกรธไม่หายที่ทั้งหมดทิ้งนางไว้ “จะขายข้าเหรอ ทิ้งข้ายังไม่พอยังคิดจะขายข้าอีก?”

“เจ้าคิดว่าขายเจ้า แล้วจะได้เงินคุ้มค่ากับค่าม้าตัวนึงรึไง?” วังซอนดูถูก

“ข้ารู้ดี ข้ารู้ราคาค่าตัวข้าดี ตอนเด็กมีราคาข้าวสองถังครึ่ง พอโตเป็นสาวก็น่าจะให้ได้ถึงห้าถัง ผู้หญิงอย่างข้ามีค่าอย่างมากก็แค่ข้าวที่คนเจ็ดคนกินกันได้หนึ่งเดือน ตอนหกขวบข้าก็ถูกคนขายทิ้ง พออายุสิบสองข้าก็ต้องเริ่มขายตัว คน ๆ นี้ซื้อไปแล้วก็ขายต่อคนนั้นมาซื้อต่อแล้วก็ขายไป ขายไปเลยสิ ยังไงก็ถูกขายนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”

“อะไรเนี่ย ยังมาทำเป็นมีเหตุผล ยังกล้าใช้แผนโจรร้องจับโจรอีก”

“เลิกพูดกันได้แล้ว ถึงยังไงเจ้าก็เอาเงินมาให้ไม่ได้งั้นก็ไปเถอะ” แทกิลบอก

“คิดว่าข้าไม่กล้าไปเหรอ ทำเป็นมาบอกว่าจะช่วยตามหาแม่ ข้าไม่เคยเชื่อแต่แรกแล้ว คิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดของผู้ชายรึไงหะ? เชื่อว่าขนขึ้นกระดองเต่าได้ยังเชื่อง่ายซะกว่า” ซอลฮวาพูดอย่างน้อยใจ

แทกิลเริ่มมีอารมณ์ตวาดเสียงดัง “ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง อย่ามาเพิ่มความวุ่นวายที่นี่เลย ไปซะ”

“ข้า ไปนะ”

“แต่ว่าพี่แทกิล ท่านบอกว่าตามหาผู้หญิงคนนั้นมาสิบปีแล้วใช่มั้ย อย่าร้อนใจไปเลยนะ ถ้ามีวาสนาต่อกัน ยังไงก็ต้องมาเจอกันสักวัน มีคำบอกว่าแตงโมกับผู้หญิงต้องโชคดีถึงได้พบนี่ พี่แม่ทัพเชคะ ช่วงที่ผ่านมาขอบคุณมาก อย่าเล่นตัวอีกเลยน่า ยอมลงเอยกับเถ้าแก่เนี้ยคนนั้นไปดีกว่า ส่วนพี่วังซอน ไม่เคยเห็นใครเหมือนท่านมาก่อนเลย”

“จะไปอยู่แล้วยัง.. นี่เจ้าอย่าให้ข้าเจอหน้าอีกนะ ข้าจะฆ่าเจ้าแน่ ไปเลย ฮึย ๆ” วังซอนไล่

“ก็ได้ ไปก็ได้ ขอให้พวกท่านอายุยืนเป็นร้อยปีเลย”

ซอลฮวาไปแล้ว แทกิล แม่ทัพเช และวังซอนจะเดินทางต่อแต่ติดปัญหาใหญ่

“จะทำยังไงดี ในเมื่อเราไม่มีเงินสักแดง คงไม่ใช่ให้ตามล่าทาสไปก็ขอทานไปนะ”

“อย่างนี้เราคงต้องแวะไปเล่นสักหน่อยก่อน”

“ไปเล่นเหรอ เฮ้อ ต้องตะลอนไปมาอีกแล้วเหรอ”

“หามาซักคนละ 30 ตำลึงก็พอ” แทกิลบอก ทั้งสามคิดจะเข้าบ่อนเพื่อหาเงินเป็นค่าเดินทาง

แทฮาพาเฮวอนมาที่บ้านหลังหนึ่ง เฮวอนมองไปรอบ ๆ แทฮาเอ่ยปากบอก “เป็นบ้านอดีตเจ้านายของข้า ที่นี่ปลอดภัย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ข้าขอตัวไปข้างนอกก่อน”

แทฮาเข้าไปพบแม่ทัพซิน “ต้องขอโทษจริง ๆ ที่มาอย่างกะทันหัน ต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาท”

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นทาสที่หนีมาใช่มั้ย?”

“นางเป็นคุณหนูชนชั้นสูง อีกอย่างนึง ข้าก็ไม่ใช่ทาสเหมือนกัน”

“ในเมื่อทำผิดกฎหมายจนถูกลงโทษให้เป็นทาส เจ้าก็คือทาส”

“แต่ข้าถูกคนใส่ร้าย” แทฮาบอก

“ในเมื่อถูกใส่ร้ายด้วยกฎหมาย เจ้าก็ต้องคืนความบริสุทธิ์ด้วยกฎหมายเหมือนกัน นั่นจึงจะเป็นท่าทีที่ขุนนางภักดีห่วงใยประชาชนควรจะมีไม่ใช่เหรอ?”

แสดงความคิดเห็น
แบ่งปัน




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 10:36:53 น.
Counter : 248 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]