All Blog
มุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 5



เพชรก้าวเดินอย่างรวดเร็วมาตามทางเดินหน้าร้านสตาร์ไดมอนด์ พนักงานพากันยกมือไหว้เขา แต่เพชรแค่ผงกหัวรับ แล้วหันไปถามเจนจบเสียงเครียด

“รู้หรือยัง ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
พาที ชนินทร และสาลินีเดินจ้ำตามเพชรกับเจนจบ
“ทางโรงแรมบอกว่า สองคนนั้นไม่ใช่คนที่จ้างมา นักเต้นตัวจริงถูกขังไว้ในห้องแต่งตัว” เจนจบบอก
“ฉันว่าไอ้คู่เต้นแทงโก้ นั่นก็โจร” พาทีเสริม
“วงจรปิดโรงแรมล่ะ” เพชรถาม
“เสีย” ชนินทรตอบ
“ทำไมต้องเจาะจงเสียงานนี้ด้วย”
เพชรหันมาถามเสียงกร้าว ทุกคนหยุดกันแทบไม่ทัน

เวลาเดียวกันนั้น สงครามตบหน้าศักดาอย่างแรง ที่ห้องทำงานของสงครามนั่นเอง
“ความใจร้อน อยากเอาชนะไอ้เพชรของแก กำลังจะลากเราเข้าคุก”
ศักดาหันมามองพ่อที่มีแววตาโกรธจัด
“ดีว่าเจ้าของโรงแรมมันยังติดหนี้ในบ่อนฉันอยู่ ถึงโกหกว่าวงจรปิดเสีย ไม่งั้นอนาคตของพ่อกับแกจบลงตรงนี้ ไป...ออกไปพบตำรวจได้แล้ว” สงครามสั่ง

เพชรหยุดเดิน เขาหันหลังกลับมามองทุกคนด้วยสีหน้าผิดหวัง
“สารวัตรธีรพัฒน์สอบปากคำสองพ่อลูกนั่นหรือยัง มันต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะปล่อยให้โจรเข้ามาในงาน”

สงครามกับศักดานั่งหน้าเครียดอยู่ที่ห้องรับแขกเอสเคไดมอนด์ เบื้องหน้าของสองพ่อลูกคือธีรพัฒน์
“งานเลี้ยงแบบนี้ ผมจะสกรีนแขกทุกคนได้ยังไงครับ” ศักดาบอก
“พยานหลายคนยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยสองคนนั่งข้างคุณกับลูกชาย” ธีรพัฒน์กล่าว
“ผมไม่รู้จักเค้าเลย พอไฟดับโชว์จะเริ่ม เค้าก็มานั่ง ผมคิดว่าเป็นแขกก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนเกิดเรื่องตอนที่นักเต้นผู้หญิง เข้ามาใกล้” สงครามแก้ตัว
ธีรพัฒน์มองไปที่ศักดา ศักดาเงียบแล้วปล่อยให้พ่อพูด
“พอยิงกัน ผมกับลูกก็ไม่รู้อะไรแล้ว คนของผมพาออกไป จัดงานทั้งทีเป็นข่าวอื้อฉาว แล้วยังต้องจ่ายค่าเสียหายให้โรงแรมอีกไม่รู้เท่าไหร่”
“เราเป็นฝ่ายเสียหายเต็มๆนะ สารวัตร” ศักดาขอความเห็นใจ
ธีรพัฒน์มองสงครามกับศักดาที่ทำหน้าเครียดอยู่

เวลานั้นเพชรยืนกอดอกกวาดตามองทุกคน อยู่ภายในห้องทำงานของเขา
“ไม่ได้ทั้งเรื่องโจรอะดอเรลลา ทั้งนักเต้นที่อาจจะรู้จักโจร”
“โดยเฉพาะนักเต้นสาวสุดเซ็กซี่ สาวในฝันของแก” พาทีเสริม
มุกดาเปิดประตูเข้ามาแล้วมองทุกคน
“ฮาโหล... มอร์นิ่ง ประชุมลับกันเหรอค๊า”
มุกดาเดินเข้ามา เธอสวมชุดสีสันหวาน
“หน้าตาราวกับว่าอยากให้หนูมุกช่วย” มุกดาบอก
เพชรทำหน้าเบื่อ “ช่วยเงียบ แล้วก็ไปโต๊ะเธอ นั่งเฉยๆ ไม่ต้องออกความเห็น”
“ห้ามยังกับหนูมุกไม่ได้เอาปากใส่กระเป๋ามา”
“เงียบ” เพชรสั่งเสียงดัง
“หูย.... เสียงดังแบบนี้ ท่าทางเรื่องใหญ่เว่อร์”
เพชรหันไปบอกเจนจบ “ฉันจะไปข้างนอก ไม่อยากทนอยู่กับตัวน่ารำคาญ”
เพชรเดินผ่านมุกดาไป เจนจบมองมุกดาอย่างเห็นใจแล้วเดินตามเพชรออกไป
พาทีมองมุกดาอย่างสงสาร เขาแอบป้องปากบอก
“เรื่องเด็ดครับ ทั้งอะดอเรลลา ทั้งสาวในฝัน”
“เหรอคะ”
มุกดาทำตาโตแต่พอเจอสายตาชนินทรที่เดินผ่านไป มุกดาก็ทำกลัวๆ สาลินีเดินมาใกล้แล้วเชิดใส่มุกดา
“งานเมื่อคืนสนุกมั้ยคะ” มุกดาถาม
“เริด เริดที่สุด อลังการล้านแปด” สาลินีตอบ
“อู้ว เริดยังไงเหรอคะ คุณสาลี่”
“ฉันไม่เล่าให้เธออิจฉาหรอก รับรองเกิดมาชาติหน้า เธอก็ไม่มีทางได้ไปงานเริดๆ แบบนี้”
สาลินีทำหน้าเยาะเย้ย จนมุกดาต้องรีบหันหลังไปกลั้นยิ้ม

ภายในห้องทำงานของธีรพัฒน์ ธีรพัฒน์มองรูปที่รุจาวางให้ตรงหน้า เขาเห็นภาพที่รุจาถ่ายมุกดาตอนโหนตัวยิงเอาไว้หลายรูป
“โชคดีที่ยังพอมีรูปจากคุณ”
“แต่ถ้าฉันเห็นไอ้สองคนนั่นอีกที ฉันชี้ตัวได้เลยนะคะ โดยเฉพาะคนที่ล็อคคอฉัน” รุจารีบบอก
“ผมจะให้ลูกน้องพาคุณไปสเก็ตช์ภาพหน้าคนร้าย”
“ได้เลยค่ะ รับรองเราต้องจับพวกมันได้จากภาพสเก็ตช์ของรุจา” รุจาลุกขึ้น
เพชรเดินเข้ามาในห้องธีรพัฒน์กับเจนจบ ในขณะที่รุจากำลังจะออกไป เมื่อเห็นเพชร รุจาก็ตกตะลึงไปหลายวินาทีเพราะนึกไม่ถึงว่าจะได้เจอจังๆ แบบนี้
เพชรมองเลยไปที่ธีรพัฒน์
“ผมมาเรื่องคนร้ายเมื่อคืน” เพชรบอก
“รุจา จากนิวส์ไทม์ค่ะ” รุจารีบแนะนำตัวเอง
“ผมไม่ให้สัมภาษณ์” เพชรพูดดัก
รุจาผิดหวัง ธีรพัฒน์เอ่ยขึ้น
“คุณรุจาถ่ายภาพนักเต้นที่ยิงปะทะกับคนร้ายไว้ได้”
เพชรรีบพุ่งเข้ามาหมายจะหยิบภาพที่ธีรพัฒน์ส่งให้ แต่รุจาคว้ารูปได้ก่อนถึงมือเพชร
“รูปของฉัน” รุจาบอก
เพชรรู้ว่าเสียทีนักข่าวเข้าแล้ว รุจายิ้มอย่างเป็นต่อแล้วพูดกับเขา
“ไม่ทราบว่าคุณเพชรพอจะมีเวลาให้สัมภาษณ์กับนิวส์ไทม์สัก 2-3 คำถามมั้ยคะ”

เพชรเดินอย่างรวดเร็วมากับเจนจบ โดยมีรุจาวิ่งตามมาด้านหลัง
“ฉันไม่ให้สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น แต่แกต้องเอารูปนักเต้นคนนั้นมาให้ได้” เพชรบอกเจนจบแล้วเดินเลี้ยวหนีไป เจนจบหันไปพอดีกับที่รุจาวิ่งมาชนเขาเต็มแรงแต่เธอเป็นฝ่ายกระเด็นไปเอง
“ผมชื่อเจนจบ เป็นฝ่ายการตลาด มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้มั้ยครับ”
“ฉันอยากสัมภาษณ์คุณเพชร” รุจาบอก
“ได้สิครับ .. แต่ผมสงสัยเรื่องรูปนั่นนิดหน่อย”
“ฉันถ่ายเองค่ะ”
“คุณเป็นนักข่าวที่เยี่ยมมากๆ กล้าเสี่ยงตาย”
รุจายืด “ใช่ค่ะ คุณภาพคน คุณภาพข่าว คุณภาพนิวส์ไทม์”
“งั้นผมจะรบกวนขอรูปสักสองสามรูปจากคุณ ให้ทางบริษัทที่รับประกันเพชรลองตรวจสอบ เพราะมันเกี่ยวกับเรื่องอะดอเรลลาของเรา ไม่ทราบว่าคุณรุจาจะพอให้ได้มั้ยครับ”
เจนจบยิ้มแล้วเดินนำไป รุจามองเพ้อในยิ้มหล่อเหลาของเจนจบ

เพชรยืนรออยู่ เจนจบเดินมา เพชรยิ้มแล้วแบมือขอรูป เจนจบยิ้มแห้งๆ แล้วส่ายหน้า
“เค้าบอกว่าต้องได้สัมภาษณ์นาย”
เพชรมองอย่างโมโห

ที่กองปราบปราม รุจากำลังนั่งดูตำรวจสเก็ตช์ภาพในคอมพิวเตอร์
“หล่อๆค่ะ หล่อกว่านี้” รุจาบอก
ตำรวจวาดเพิ่ม
“หน้าดุๆหน่อย แต่ตาเศร้า ตัวหอมๆด้วยค่ะ”
ตำรวจเหลือบมองรุจาอย่างงงๆ ว่ากลิ่นเกี่ยวอะไรด้วย
คมกฤชเดินเข้ามา รุจาเหลือบมองแค่นิดเดียวแล้วเชิดหน้ากลับไป
“สารวัตรธีรพัฒน์บอกว่าเธอมีรูปนักเต้นเมื่อคืน” คมกฤชพูดกับรุจา
รุจาทำเป็นไม่สนใจคมกฤช เธอหันไปบอกตำรวจที่กำลังสเก็ตช์รูปต่อ
“ผิวคล้ำๆ หน้าเข้ม.... มีเครา”
คมกฤชนั่งลงตรงข้ามรุจา รุจามองผ่านจอที่เป็นรูปสเก็ตช์ซึ่งยังไม่ใกล้เคียงกับใบหน้าภูผา เธอมองผ่านไปเจอหน้าคมกฤช
“รุจา .. ฉันขอรูปนั้นได้มั้ย” คมกฤชอ้อนวอน “ฉันต้องหานักเต้นคนนั้น เค้ารู้จักผู้ต้องสงสัยปล้นเพชรนะ ..รุจา ..ไม่งั้นฉันต้องจ่ายพันล้าน กางเกงในยังไม่เหลือเลย”
“ดี .. ฉันจะรอดูกางเกงในคุณ ...แล้วอย่าลืมซักล่ะ สกปรกแน่ๆ”
รุจาหันมาบอกตำรวจสเก็ตช์
“หนวดค่ะ หนวด”
“ตกลง หนวดหรือเคราครับ” ตำรวจถาม
“รุจา ให้ฉันคุกเข่าขอร้องอย่างคราวก่อนก็ได้” คมกฤชอ้อนวอนต่อ
รุจาเริ่มเสียสมาธิ เธอหันมาบอกตำรวจ
“หนวดค่ะ”
คมกฤชยังตื๊อไม่เลิก
“เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรา”
“เพื่อนเหรอ” รุจาขึ้นเสียงสูง “ช่วงไหนที่ฉันกับนายเป็นเพื่อนกัน .. ขอโทษ จำไม่ได้”
รุจาหันไปบอกตำรวจต่อ
“ผมสั้นค่ะ ผมสั้น”
ตำรวจเริ่มงงๆ เพราะต้องลบภาพใหม่ รุจาหันมาพูดกับคมกฤช
“นายบอกว่านายเก่ง ก็ไปหาเอาเองซี้ ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร”
“ฉันรู้” คมกฤชบอก
“รู้แล้วมาถามฉันทำไม ไม่ต้องมาอวดเก่ง .. หน้าตากลัวเสียฟอร์มอย่างนายลองเจอเหตุการณ์เฉียดตายอย่างเมื่อวาน จะกล้าได้เท่าฉันหรือเปล่า”
“ครับ คุณเก่งมาก ..เก่งเหลือเกิน .. ไม่แอ่นอกรับกระสุนซะเลยล่ะ” คมกฤชประชด
รุจาลุกพรวดแล้วหันมาจิ้มนิ้วลงที่อกคมกฤช
“เอาไว้อกนายสิ ฉันนี่แหละจะยิงให้พรุน”
คมกฤชแกล้งรวบมือรุจามากุมไว้
“โอ๊ย โดนยิง .. หัวใจทะลุ”
“ ปล่อยมือฉัน” รุจาอาย
คมกฤชสะบัดมือรุจาทิ้งอย่างแรง
“มือเหรอ ... นึกว่ากระดาษทราย ทั้งสากทั้งด้าน”
ลูกน้องธีรพัฒน์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ หัวเราะครืนแล้วรีบก้มหน้าหลบ รุจาโมโห
“กระดาษทรายน่ะไว้ขัดปากนาย”
รุจาหันมาบอกตำรวจที่กำลังสเก็ตช์ภาพอยู่
“ผมยาว .. ใส่ชุดราตรี”
รุจาหันไปจ้องคมกฤชด้วยความแค้น
ตำรวจหน้าเหรอหราเพราะงงกับภาพในจอสเก็ตช์ที่กลายเป็นรูปใครก็ไม่รู้และไม่ใกล้เคียงภูผาเลย

รุจาเดินลิ่วๆมาตามทางเดินในกองปราบปราม โดยมีคมกฤชเดินตาม
“นายทำให้ฉันเสียสมาธิ จนสเก็ตช์เป็นใครก็ไม่รู้”
“ก้อแค่รูปจะงกอะไรนักหนา”
“ทำไมถึงอยากได้กันเหลือเกินนะ ... รูปผู้หญิงคนนี้”
รุจาแกล้งหยิบรูปขึ้นมาโบก คมกฤชทำท่าจะคว้าแต่รุจาดึงกลับ
“สงสัยจะไม่ใช่คนธรรมดา คุณเพชรก็อยากได้ นายก็อยากได้” รุจายั่ว
คมกฤชมองอย่างแค้นใจ รุจามองรูปแล้วฉีก
“เฮ้ย ... เธอ” คมกฤชตกใจ
“อยากได้นัก ก็เอาไป”
รุจาโปรยรูปมุกดาในภาพนักเต้นที่ฉีกละเอียดใส่หน้าคมกฤช แล้วหัวเราะสะใจก่อนจะเดินออกไป
“ยายโรคจิต” คมกฤชว่าตามหลัง

มุกดาเดินคุยโทรศัพท์กับคมกฤชตามทางเดินภายในสตาร์ไดมอนด์
“พี่กฤชต้องเอาไฟล์รูปจากรุจามาให้ได้”
มุกดามองไปเห็นสาลินีทำผลุบๆโผล่ๆ ตามหลังมา
ส่วนที่ด้านหน้ากองปราบปราม คมกฤชเดินคุยด้วยเสียงกลัดกลุ้ม
“คุณเพชรก็อยากได้รูปแก”
มุกดาชะงักแล้วพูดเสียงดัง
“หา ..พี่เพชร”
มุกดานึกได้รีบหันไปแต่ไม่เห็นสาลินี เธอจึงหลบเข้ามุมเพื่อคุย
“ให้ไม่ได้เด็ดขาด พี่กฤชรีบหาทางลบไฟล์รูปมุกเร็วๆ”
มุกดาสั่งแล้วเดินเลี้ยวขึ้นลิฟต์ไป สาลินีโผล่หน้าออกมาจากด้านหลังด้วยหน้าตาที่สงสัยเป็นอย่างมาก

ภายในห้องทำงานของชนินทร ชนินทรฟังสาลินีที่เข้ามารายงาน
“มีพิรุธล้านล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ แม่หนูมุกคนนี้”
“อาจจะเกี่ยวกับเพชรที่หาย” ชนินทรรีบเสริม
“นั่นสิคะ คุณเพชรกับคุณเจนจบน่ะ ไม่เชื่อสาลี่เลย มีแต่คุณชนินทรเท่านั้นที่จะจับแม่หนูมุกได้คาหนังคาเขา”
“จับตาดูไว้ห่างๆ ผมไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเพื่อนผมลับหลัง”
“ซึ้งจังเลยค่ะ คุณชนินทรเป็นเพื่อนแท้ของคุณเพชรจริงๆนะคะ”
ชนินทรยิ้มรับน้อยๆ

ที่ห้องทำงานของเพชร เจนจบมองจ้องหน้ามุกดา ส่วนมุกดาที่นั่งอยู่แกล้งพูดกลบเกลื่อน
“หน้าหนูมุกสวยขึ้นเหรอคะ คุณเจนจบถึงจ้องเอาจ้องเอา”
เพชรที่กำลังเปิดแฟ้มอยู่ วางแฟ้มลงอย่างแรงแล้วประชด
“สวยจนน่าขนลุก”
“... คงไม่ใช่ ..” เจนจบเปรยขึ้น
“ไม่ใช่อะไรคะ” มุกดาถาม
“เมื่อวานในงาน ..มีนักเต้นคนนึง..หน้าคล้ายๆ” เจนจบพูด
เพชรเดินมาจ้องหน้ามุกดาแล้วถามเจนจบ
“คล้ายยายหนูมุกเนี่ยะนะ”
มุกดารีบยิ้มหวานแล้วยื่นหน้าไป เธอหลับตาพริ้มเหมือนรอจูบ แต่เพชรดันหน้ามุกดาออกห่าง
“ไปตัดแว่น หรือไม่ก็ยิงเลเซอร์เหอะเจนจบ .. หน้าอย่างยายหนูมุก.. ใครเหมือนรับรองชะตาขาด”
“ชะตาขาดก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะก่อนตาย เคยได้เป็นแฟนหนุ่ม หล่อ หรู ดูดีที่สุดอย่างพี่เพชร”
เพชรเดินหนีกลับไปนั่งห่างๆ เจนจบถือแฟ้มไปวางให้เขา
“ฉันลองถามไปตามโรงเรียนสอนเต้นรำว่ามีลักษณะนักเต้นหรือนักเรียนคล้ายๆ สองคนเมื่อคืนบ้างมั้ย”
เพชรพลิกแฟ้มรูปที่เจนจบได้มาพบว่าเป็นรูปนักเต้นรำที่ไม่เหมือนผู้หญิงเมื่อคืนเลย
“ไม่ใช่ พวกนี้ไม่ใช่” เพชรบอก
มุกดาทำเป็นเดินมาชะโงกดูในแฟ้ม
“นายลองดูช้าๆสิ เพชร .. เมื่อคืนนายก็เห็นเค้าไม่ชัดเท่าไหร่” เจนจบบอกเพื่อน
ภาพเมื่อคืนย้อนขึ้นในหัวของเพชร ตอนนั้น เพชรกำลังจ้องมุกดาขณะโหนตัว เพชรรู้สึกว่าเป็นภาพที่งดงามที่สุดในความคิดของเขา
มุกดามองเพชรที่ตาลอยๆ กับภาพในอดีต
“แค่ไม่กี่นาที ฉันก็จำเค้าได้” เพชรบอก
มุกดาเผลอหัวเราะ เพชรหันขวับ มุกดาเลยแกล้งทำเป็นไอ
“ตรงนี้แอร์แร๊งแรง” มุกดาแก้ตัว
เสียงมือถือของเจนจบดังขึ้น เจนจบมอง
“พาทีโทรมา” เจนจบรับแล้วนิ่งฟัง “ว่าไงนะ แกมีวิธีจะช่วยหาสาวแทงโก้คนนั้น”
เพชรหน้าตาตื่นเต้นรีบคว้ามือถือมาพร้อมกับยิ้มกว้าง
“แกนี่ฉลาดที่สุด .. วิธีไหน ..ว่ามาเลย” เพชรถาม
มุกดามองอย่างหวาดเสียว

ณ โรงเรียนสอนเต้นรำแห่งหนึ่ง ครูกำลังสอนนักเรียนหลากหลายวัยอยู่ที่ฟลอร์เต้นรำ หลายคู่เต้นไปรอบๆ
เพชรยืนมองโดยมีพาที เจนจบอยู่ข้างๆ ส่วนมุกดายืนอมยิ้มอยู่ใกล้ๆ เจนจบด้วย
“อยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ” พาทีบอก
“ไม่เห็นเกี่ยวกันตรงไหนเลยว่ะ” เจนจบแย้ง
“วันหลังไม่ต้องพูดก็ได้นะ พาที ถ้าแกไม่พูด ไม่ออกความเห็น แกจะหล่อมาก” เพชรว่าเพื่อน
“หยุด เดี๋ยวก่อน วันนี้จะหล่อมากกว่าเดิม” พาทีบอก “ถามหน่อย แกจะไปหานักเต้นที่ไหน เซเว่น หรือค่ายมวย นี่ มันต้องนี่โรงเรียนสอนเต้นรำ”
พาทีทำท่ายืด ส่วนเพชรนิ่งคิด
เพชรเดินมองคู่เต้นมากมายที่อยู่บนฟลอร์ ส่วนมุกดาทำเป็นเดินตาม
คู่เต้นทั้งหลายกำลังเต้นรำและหมุนตัวอยู่

คู่เต้นรำของโรงเรียนสอนเต้นรำแห่งที่สองกำลังเต้นรำกันอยู่ เพชรเดินมองไปรอบๆ เห็นคู่เต้นหมุนไปรอบห้อง เพชรพยายามดูหน้าคู่เต้นผู้หญิง
มุกดาเดินตามหลังเพชร เพชรหยุด มุกดาก็หยุด
อีกมุมหนึ่งพาทีกับเจนจบกำลังยืนกอดอกมอง
เพชรหยุดมองหาแล้วถอนหายใจ
พาทีเห็นสีหน้าเพชรเช่นนั้น เขาก็เริ่มจ๋อย เพชรหันหลังจะเดินออกไป แต่เจอมุกดายืนประชิดตัวอยู่
มุกดาแกล้งทำเป็นถอยตามสเต็ปเต้นรำเพื่อล้อเพชร เพชรเดินชนมุกดาอย่างไม่สนใจ มุกดาอมยิ้มแล้วก็ขำเพชร
ฟลอร์ว่างเปล่า เพชร เจนจบ พาที มุกดามองนักเต้นที่ทยอยเดินออกไป
“ถ้าวิธีนี้ไม่เวิร์ค ฉันว่าแกน่าจะลองอีกวิธี” พาทีเสนอ
“เอาที่ชัวร์ๆ หน่อยได้มั้ย ฉันไม่มีเวลาว่างมาเดินดูขา ดูหน้า ดูก้นผู้หญิง ฉันต้องทำงาน ต้องตามหาอะดอเรลลา” เพชรหงุดหงิด
“ใจเย็นเพื่อน ..งั้นลองวิธีนี้ .. รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะแสนครั้ง แกต้องเต้น” พาทีเสนอต่อ
“หา” เพชรร้องเสียงหลง
ทุกคนหันไปมองพาทีที่กำลังยิ้มกริ่ม
หลังจากนั้นไม่นาน ครูสอนเต้นพาเพชรขึ้นไปเต้นบนฟลอร์ เพชรเต้นเก้ๆกังๆ เพราะไม่เคยเต้นมาก่อน เจนจบ พาที และมุกดายืนเชียร์อยู่ด้านนอก
มุกดาปรบมือชอบใจแล้วตะโกนล้อๆ
“พี่เพชร เก่งที่สุด บราโว”
เพชรได้ยินถึงกับเต้นผิดเหยียบเท้าครู เพชรรีบยกมือขอโทษ ครูถอนใจหันมามองทางมุกดา มุกดายืนหัวเราะเพชรแบบสะใจ
หลังจากนั้นไม่นาน เพชรยืนเต้นโดยมองตรงมาที่คู่เต้น ตรงข้ามกับเพชรคือมุกดาที่ถูกเรียกให้มาเป็นคู่เต้นของเพชร ครูกำลังจับท่าส่วนทั้งสองคนหน้าตาเหมือนจะแยกเขี้ยวใส่กัน
ครูบอกให้หมุน มุกดาแกล้งเหยียบเท้าเพชร เพชรจ้อง พอหมุนอีกรอบ เพชรจึงแกล้งเหยียบพลาดลงบนเท้ามุกดาบ้าง
สองคนจ้องกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
มุกดาแกล้งเหวี่ยงเพชรไปแรงๆ แล้วปล่อยมือ เพชรเสียหลักไถลล้มไปบนพื้น
เพชรดึงเอวมุกดามาแล้วปล่อยออกไปบ้าง แต่มุกดาทรงตัวดีแกล้งเหวี่ยงเพชรจนล้มลงไปอีก
พาทีหัวเราะชอบใจแล้วปรบมือ
“บราโว คุณมุกยอดเยี่ยม ไอ้เพชร ยอดแย่ ... บราโว”
เพชรกับมุกดามองหน้ากันแบบคู่กัด

ที่คอนโดกลางเมือง เสียงเพลงแดนซ์ดังกระหึ่มห้องของภูผา แมงมุมเดินมาปิด บลูเงยขึ้นจากโซฟามามอง
“เมื่อไหร่จะได้เงิน” แมงมุมถาม
ภูผาเดินออกมาจากห้อง ขุนพลที่กำลังต่อโมเดลรถอยู่เงยมองแล้วรู้สึกได้ว่าบรรยากาศตึงเครียด
“ตอนนี้เราเสียเปรียบทุกอย่าง มัวใจเย็นไม่ได้แล้ว” บลูบอก
“เดือดร้อนเลยสิ ที่รัก ....เมื่อวานลุยจนงานเละขนาดนั้น” แมงมุมประชด
“ก็ดีกว่านั่งหดหัวอยู่ในห้อง รอส่วนแบ่ง”
แมงมุมพุ่งพรวดไปบีบคางบลู
“ปากดีแบบนี้ เฮียทำโทษสักจ๊วบ”
แมงมุมทำก้มลงไปจะจูบบลู แต่ภูผาเข้ามาตบกบาลฉาดใหญ่แล้วเหวี่ยงแมงมุมออกไปให้ห่างบลู ขุนพลมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่เงียบๆ
“เมื่อวานตัวประกันเป็นนักข่าว ชื่อรุจา อยู่หนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์” ภูผาบอกแล้วโยนรูปที่พิมพ์จากคอมพิวเตอร์ให้ดู เป็นภาพคอลัมน์จากหนังสือสัมภาษณ์ บรรพต ยักษ์ใหญ่วงการหนังสือพิมพ์ ส่วนอีกภาพ เป็นภาพที่ถ่ายคู่กับรุจา แมงมุมหยิบมาดู
“งั้นรูปหล่ออย่างแมงมุม .. ขอโชว์ฝีมือ ปิดบัญชีนี้เอง”

ณ ที่ทำงานกอง บก.นิวส์ไทม์ รุจากำลังขยายภาพมุกดาในชุดนักเต้นอยู่ในจอคอมพิวเตอร์ รุจาขยายจนเห็นแววตามุกดา รุจาเอียงคอมองแล้วมองอีก เธอหลับตาแล้วเคาะหัว
“เหมือนใคร .. เหมือนใคร นึกสิ รุจา ..นึกให้ออก”
รุจาลืมตาขึ้นมาเห็นช่อกุหลาบสีส้มสวยยื่นมาตรงหน้าเธอ รุจามองเลยขึ้นไปที่คนถือจึงเห็นว่าเป็นคมกฤช
รุจาตื่นเต้นแต่พยายามระงับสีหน้า ทำปรายตามองแล้วปรบมือเรียกคนในกอง บก.
“ที่นี่ใครป่วย มีดอกไม้มาเยี่ยมไข้”
คนในกองบก. มองด้วยสีหน้าอยากรู้ บางคนหัวเราะ บางคนแอบซุบซิบกันเพราะจำคมกฤชได้
คมกฤชข่มความอายแล้วพูด
“ผมมาขอโทษคุณ”
“ฉันเกลียดดอกกุหลาบ”
“กุหลาบไม่เกี่ยว เกลียดผมดีกว่า”
รุจาใจอ่อนยวบ เธอเอื้อมมือไปรับมาดม คมกฤชมองแล้วยิ้มเพราะคิดว่าสำเร็จแล้ว แต่รุจาเงยมาเห็นรอยยิ้มนั้นพอดี เธอเลยเปลี่ยนเป็นโยนช่อดอกไม้นั้นลงถังขยะ
“มุขตื้นๆ ดอกไม้แลกรูป โทษนะ..ฉันกินข้าว ไม่ได้กินหญ้า มุขนี้ไปหลอกเด็ก เด็กมันยังด่าเลย”
รุจามองหมิ่นๆ แล้วคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกไป คมกฤชทั้งอายทั้งโมโหแต่ก็อดทนเดินตามไป

รุจาเดินอย่างรวดเร็วมาที่ลานจอดรถหน้าตึกนิวส์ไทม์ โดยมีคมกฤชวิ่งตามมา
“รุจา ให้โอกาสผมอีกครั้งนะ”
“ซอรี่”
แมงมุมซุ่มอยู่ในรถเก๋งคันเก่าที่จอดอยู่ในลานจอดรถ แมงมุมมองกล้องที่ต่ออยู่กับปืนโดยเล็งไปที่รุจา
คมกฤชเดินมายืนดักหน้ารุจา แมงมุมจึงพยายามขยับหามุมใหม่
“ผมจำเป็นจริงๆ ผมไม่มีเงินจ่ายค่าประกันพันล้าน ผมถึงต้องทำทุกอย่างให้ได้เพชรกลับมา” คมกฤชบอก
รุจามองอย่างกำลังจะใจอ่อน
“ผมเคยอวดดีใส่คุณ เพราะผมรับไม่ได้ว่า..ผม ...ผม..กำลังจะล้มละลาย”
คมกฤชทำสีหน้ากดดัน รุจามองแล้วผลักคมกฤชออกไป
“แอคติ้งใช้ได้ แต่เผอิญฉันฉลาด ... เลยไม่เชื่อ”
แมงมุมเห็นรุจาขยับมาอยู่กลางเป้าจึงเหนี่ยวไก แต่คมกฤชดึงรุจาเข้ามาพอดี
“รุจา..ผมขอร้อง”
กระสุนของแมงมุมเฉียดหัวรุจาไปโดนกระจกด้านหลังจนแตกทั้งบาน
รุจากับคมกฤชตะลึง คนที่อยู่แถวนั้นก็ตกใจ คมกฤชรีบกดหัวรุจาให้หมอบทันที
แมงมุมเห็นว่าทำงานพลาด รีบใส่แว่นดำ วางปืน แล้วถอยรถออก
คมกฤชมองเห็นรถคันหนึ่งกำลังถอยออกจึงรีบตะโกนบอกยาม
“ดักรถคันนั้น”

ยามรีบเป่านกหวีดแล้ว ว.บอกกัน คมกฤชวิ่งพุ่งตามออกไปทันที รุจามองอย่างเป็นห่วง


แมงมุมขับรถพุ่งมาอย่างเร็วแต่จู่ๆ ก็มีรถจะออกถอยมาขวาง แมงมุมเบรกเอี๊ยด แล้วถอยหลังจะเลี้ยวไปอีกทาง

คมกฤชตามมารีบกระโดดขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่อง ในขณะที่อีกมือหยิบปืนที่อยู่ในรถ
แมงมุมถอยหลังจนเจอทางแยก จึงรีบหักเลี้ยวจะออก แต่รถคมกฤชมาขวางไว้ แมงมุมชักปืนยิง คมกฤชถอยรถหนี แมงมุมมองแล้วพุ่งรถเข้าใส่ทันที
จังหวะนั้นคมกฤชถอยรถเพื่อล่อให้แมงมุมตามมา พอถึงทางแยกคมกฤชก็หยุดรถ แมงมุมพุ่งรถตามมา
คมกฤชรอจังหวะให้แมงมุมเข้ามาใกล้ แล้วชักปืนยิงออกไปกระสุนโดนไหล่ขวาแมงมุมอย่างจัง จนรถแมงมุมปัดไปกระแทกกรวยกั้นบนถนนแล้วจอดนิ่ง คมกฤชรีบเปิดประตูถือปืนวิ่งลงไปที่รถแมงมุมทันที แต่แมงมุมพุ่งออกจากประตูอีกด้านแล้ววิ่งหนี คมกฤชวิ่งตาม

ยามที่เห็นเหตุการณ์วิ่งมาขวางแมงมุมไว้ แต่ถูกแมงมุมยิงปืนใส่จนยามหนีกระเจิง แมงมุมกระโดดข้ามไม้กั้น โดยที่คมกฤชวิ่งตามไปติดๆ
แมงมุมเปิดประตูขึ้นแท็กซี่ที่วิ่งเข้ามาจอดเอาปืนขู่ บังคับให้แท็กซี่รีบขับออกไป คมกฤชกับยามวิ่งตามมาแต่ไม่ทันแล้ว

ที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์ บรรดาพนักงานในกองบรรณาธิการกำลังวุ่นวายไปหมด สมพลกับบรรพตมีสีหน้าเครียด ในขณะที่รุจานั่งอยู่ที่โต๊ะให้ปากคำกับตำรวจอยู่
บรรพตถามตำรวจเสียงดัง
“จับตัวคนร้ายที่ยิงลูกสาวฉันได้หรือยัง”

ภายในห้องของภูผา แมงมุมกัดผ้าแน่น แผลถูกยิงที่ไหล่ขวามีเลือดไหลทะลัก ขุนพลเอาแอลกอฮอล์ราดลงไปบนแผล แมงมุมตัวสั่นด้วยความแสบแล้วกัดผ้าแน่นขึ้นอีก
บลูถือมีดผ่าตัดอยู่ใกล้ๆ เธอมองแผลแล้วกรีดมีดลงเนื้อ แมงมุมดิ้นพราดปากกัดผ้าแน่น ภูผายืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่
จังหวะหนึ่งบลูหยิบปากคีบล้วงลงไปในแผลที่ถูกยิง แมงมุมดิ้น ขุนพลเอามือกดหัวแมงมุมไว้ไม่ให้ดิ้น ในที่สุดบลูก็คีบกระสุนติดเลือดออกมาทิ้งลงในถาด แมงมุมหายใจแรง
ขุนพลเอายาราดแผล บลูจัดการเย็บอย่างคล่องแคล่ว แมงมุมกัดผ้าแน่นด้วยแววตาเจ็บใจ

ส่วนที่สำนักงานกองบก.นิวส์ไทม์ รุจามองพ่ออยู่โดยมีสมพลนั่งใกล้ๆ คอยเป็นกำลังใจ
“ต่อไปนี้ลูกไม่ต้องมาทำข่าว” บรรพตสั่งลูกสาว
“พ่อคะ หนูอยากทำงาน หนูไม่กลัว เรายอมแพ้พวกอำนาจเถื่อนไม่ได้นะคะพ่อ เราต้องจับมันมาลงโทษ”
“วันนี้คุณคมกฤชช่วยหนูไว้ได้ แต่คราวหน้าหนูอาจจะไม่มีคนอยู่ข้างๆ” สมพลบอก
“ติดต่อคุณคมกฤชด้วย ว่าฉันอยากขอบใจเค้า” บรรพตหันไปบอกสมพล
“พ่อคะ ขอหนูทำข่าวนี้ต่อเถอะนะคะ”
บรรพตยกมือห้าม
“หยุด พ่อไม่อนุญาต กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ สมพล เรียกหัวหน้าข่าวอาชญากรรมมาประชุมที่ห้องฉัน”
“ครับ นาย”
“พ่อคะ พ่อ”
“พ่อมีลูกสาวคนเดียว”
บรรพตเดินเข้าห้องไปทันที รุจามีสีหน้าผิดหวัง
“อาเข้าใจความมุ่งมั่นของหนู แต่อาก็เข้าใจความรักของพ่อหนูด้วย เพราะอาก็เป็นพ่อคนนึง” สมพลปลอบ
“บก.คะ หนูไม่อยากหนี หนูอยากปิดข่าวนี้ด้วยตัวเอง”
“ใจเย็นๆ รอสักพัก เดี๋ยวอาจะช่วยพูดให้”
พูดจบสมพลก็เดินเข้าไปในห้องบรรพต รุจามองตามอย่างท้อแท้

ณ สะพานกลางกรุงเทพฯ ที่มีไฟติดระยิบระยับ มองไปเห็นวิวอันสวยงามของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน คมกฤชกำลังยืนเครียด โดยมีมุกดาที่มองอย่างรู้อารมณ์พี่ชาย
“พวกมันจะปิดปากรุจา ไม่ได้ขู่ แต่เอาถึงตาย”
“พี่กฤชห่วงรุจาแบบคนรักหรือเปล่า” มุกดาถาม
“เปล่า พี่กำลังคิดว่าคดีอะดอเรลลามันลากคนเข้ามาเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ลองกล้ายิงลูกสาวเจ้าของหนังสือพิมพ์ เรื่องไม่เงียบหายแน่ๆ”

ในห้องของภูผา ภูผาเดินมามองแมงมุมที่กำลังนอนเจ็บโดยมีผ้าพันอยู่ที่ไหล่ขวา ภูผาหันมาเจอบลูที่กำลังพิงประตูมองอยู่
“ตอนนี้แค่เงินไม่พอแล้ว” บลูบอก “เอาพาสปอร์ตมาด้วย เราอยู่ที่นี่ไม่ได้”

ภูผายืนคุยมือถือกับชายลึกลับอยู่ที่ระเบียงคอนโด เขาพูดเสียงเข้มและมีสีหน้าไม่พอใจ
“ผมจะไม่ทำตามแผนอะไรของคุณอีก จนกว่าจะได้เงิน”

ขุนพลส่งยาแก้อักเสบให้แมงมุม แมงมุมโยนยาใส่ปากแล้วพิงหัวนอนลงไปบนตักบลู ภูผาเดินเข้ามา ขุนพลมองแล้วโวยขึ้น
“ไม่จ่ายเหมือนเดิมอีกล่ะสิ สงสัยมันจะรอจนพวกเราตายไปทีละคน”
“ไอ้คนจ้าง มันเป็นใคร ฉันจะเอากระสุนไปฝังในกบาลมัน” บลูโกรธ
“เค้าจ่าย” ภูผาพูดเรียบๆ
แมงมุมลืมตามองทันที ทุกคนมองภูผา
“ค่าจ้างงวดแรก คือราคาเพชรรอบๆ อะดอเรลลา เราแกะไปขายได้เลย”

บ่ายวันใหม่ ภายในห้องโรงแรมเก่าโทรมแห่งหนึ่ง เพชรรอบๆอะดอเรลลานับสิบเม็ดบรรจุอยู่ในกล่อง เสี่ยติ่งกำลังวางให้ลูกค้าผู้หญิง แต่งตัวดีคนหนึ่ง
“ของร้อน ราคาพิเศษ” เสี่ยติ่งบอก
ลูกค้าหญิงหยิบกล้องขึ้นส่อง ตรวจดูเพชร
“เชื่อใจเสี่ยติ่งได้ เดี๋ยวคิดราคากันเอง”
ลูกค้ายังส่องหมุนไปหมุนมาอย่างใจเย็น แต่เสี่ยติ่งลุกลี้ลุกลน ดึงเพชรกลับมาทำท่าจะปิดกระเป๋า
“จะดูอะไรนักหนา คนอื่นรออยู่ ไม่ขายแล้ว”
เสี่ยติ่งลุกขึ้นจะเอาเพชรไป พอเปิดประตู ธีรพัฒน์กับพวกก็เดินเข้ามา
“เฮ้ย โจร” เสี่ยติ่งตะโกนแล้วทำท่าจะสู้ แต่ลูกน้องธีรพัฒน์เข้ามากดเสี่ยติ่งลงกับเตียงแล้วสวมกุญแจมือทันที
ธีรพัฒน์คว้ากระเป๋าในมือเสี่ยติ่งมาเปิดออก หยิบห่อออกมาเทบนเตียง เพชรเม็ดเล็กๆ แวววาวจำนวนมาหล่นเรียงราย

ภายในห้องของภูผา เงินปึกใหญ่ 2 ปึกวางอยู่ แล้วปึกที่ 3 ก็ถูกวางลงตรงหน้าขุนพล
บลู แมงมุม และขุนพลหยิบเงินปึกของตัวเองมา แต่ละคนมีสีหน้าดีใจสุดๆ
“ขนาดเพชรเม็ดเล็กๆ รอบอะดอเรลลา ยังได้ราคาขนาดนี้” ขุนพลพูด
“ถ้าเราขายอะดอเรลลาซะเอง คงรวยเป็นโคตะระเศรษฐี” แมงมุมบอก
“หรือไม่ก็เข้าไปใช้เงินในคุกเร็วขึ้น” บลูขัด
“แหม...ที่รัก ล้อเล่น ขำขำ อย่าดุนักสิจ๊ะ ได้รถใหม่แล้วโว๊ย”
แมงมุมหยิบเงิน แหกปากร้องเพลงแล้วเดินเข้าไปด้านใน
ภูผามองทุกคนอย่างพอใจ แล้วก็เปิดประตูออกไปจากห้อง เหลือขุนพลกับบลู
“ขอไปใช้เงินก่อน” ขุนพลบอกแล้วทำท่าจะเดินไป แต่บลูเข้าไปโอบกอดจากด้านหลัง
“ไม่ฉลองกันหน่อยเหรอ”
ขุนพลหันมามองบลูที่สายตายั่วยวน เขารวบเอวบลูมาแนบตัว
“ที่ไหน เมื่อไหร่ ขุนพลไม่เกี่ยง”
ขุนพลขยี้จูบลงบนปากบลูที่รอรับอยู่แล้ว
ห่างออกไป แมงมุมกำลังแอบมองทั้งสองนัวเนียกันด้วยสายตาอิจฉาขุนพล

คมกฤชมองผ่านกระจกห้องสอบสวนเข้าไป โดยมีธีรพัฒน์ยืนอยู่ข้างเขา
คมกฤชเห็นเสี่ยติ่งนั่งหน้าเครียด กระวนกระวายอยู่ในห้อง
ธีรพัฒน์เล่าให้เพื่อนฟัง
“ไอ้ติ่ง พ่อค้าเพชรเถื่อน มันรับซื้อเพชรรอบๆอะดอเรลลาจากพวกปล้น แล้วก็เอามาปล่อยขายถูกๆให้ลูกค้าที่เป็นสายของเรา”
“แกบอกเรื่องนี้กับคุณเพชรหรือยัง” คมกฤชถาม
“ยัง..ฉันจะเอาไอ้ติ่งเป็นเหยื่อล่อ จับพวกมันทั้งแก๊งค์”
“ฉันไปด้วย” คมกฤชบอก
“ไม่ได้ ไอ้กฤช .. แกไม่ใช่ตำรวจ”
“งั้นแค่บอกฉัน ว่าคืนนี้แกจะไปกินเหล้าที่ไหน แค่นั้น..ตกลงมั้ยเพื่อนรัก”
คมกฤชกับธีรพัฒน์สบตาอย่างรู้กัน

ภายในห้องทำงานของเพชร เพชรกำลังคุยเรื่องออกแบบอยู่กับเจนจบ ชนินทร โดยที่มุกดานั่งอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์
“ฉันอยากให้งานของเรามีคอนเซปต์ใหม่ๆบ้าง เบื่อดีไซน์ใหญ่ๆ “ เพชรบอกเพื่อน
“งั้นลองดูนี่ ดีไซเนอร์ออกแบบไว้” เจนจบเสนอ เขาเปิดแฟ้มงานดีไซน์ เพชรกับชนินทรมองตาม
ทันใดนั้นเสียงเมสเสจของมือถือมุกดาก็ดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง มุกดาเอนตัวมาแล้วยิ้ม
“ของหนูมุกเองค่ะ”
มุกดาเปิดอ่านแล้วหน้าเครียดไปครู่หนึ่ง พอเงยขึ้นมาเจอสายตาชนินทรที่มองจ้องมาเธอก็ทำเป็นลุกขึ้น
“ประชุมเครียดจนคิ้วผูกโบว์แล้ว ทานกาแฟหน่อยมั้ยคะ หนูมุกไปชงให้”

มุกดาหลบมาคุยมือถือที่ทางเดินในสตาร์ไดมอนด์
“พี่กฤช ... ให้มุกไปจับพวกโจรอะดอเรลลาด้วย”
ที่ห้องทำงานของคมกฤช คมกฤชกำลังเช็คปืนและคุยโทรศัพท์โดยใส่สมอล์คทอล์คอยู่กับน้องไปด้วย
“ไม่ต้องหรอก มุก ไอ้ธีมันเอาลูกน้องไปหมด”
มุกดามีสีหน้าร้อนรน
“พี่กฤชก็รู้ พวกมันเก่งทุกคน โอกาสแบบนี้ พลาดไม่ได้อีกแล้ว”
คมกฤชนิ่งคิดสักพัก
“งั้นคืนนี้เจอกัน”
มุกดาตัดสาย แล้วฉีกยิ้มเมื่อหันมาเจอสาลินี
“มาแอบส่งความลับของบริษัทให้ใคร” สาลินีถาม
“เปล่านี่คะ .. หนูมุกมาโทรหาคุณแม่”
“แม่หล่อนเป็นอะไร มีเรื่องสำคัญขนาดไหน ถึงต้องหลบมาคุยลับตาชาวบ้าน”
“คือ..คุณสาลี่อย่าบอกใครนะคะ .. คือ กิ๊กน่ะค่ะ ..หนูมุกมีคนมาจีบ แต่หนูมุกไม่อยากให้พี่เพชรเสียใจ” มุกดาแต่งเรื่อง
สาลินีผลักมุกดาไปชนผนังแล้วชี้หน้า
“คิดจะตบตาฉัน”
“คุณสาลี่ ผีเข้าเหรอคะ” มุกดาทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ใช่..ผีสาวเซ็กซี่ ขยี้ใจชาย .. แต่ตอนนี้ฉันจะขยี้หล่นให้แหลกก่อน เพราะฉันเกลียดหล่อน หล่อนมันไว้ใจไม่ได้”
สาลินีพยายามจะบีบคอมุกดา แต่มุกดาแกล้งก้มหลบแล้วเผ่นออกมาอีกทาง
“หนูมุกกลัวแล้วค่ะ อย่าทำอะไรหนูมุกตาดำๆเลย ช่วยไม่ได้นะคะ ที่พี่เพชรจะไม่รักผู้หญิงนมนำหน้า ปัญญาตามหลัง”
“ฉันนำโด่งทั้งสองอย่างย่ะ ... แกไม่ใช่คู่แข่งฉันเลย นังหนูมุก”
“เหรอคะ หนูมุกคิดว่าคุณสาลี่แอบรักพี่เพชร แล้วไม่สมหวัง เลยเป็นบ้า”
“ฉันบอกให้หยุด ฉันไม่อยากได้ยิน มานี่ เอามือถือมา ฉันต้องรู้ว่าแกคุยกับใคร”
สาลินีจะเข้าไปกระชากมือถือ แต่มุกดาแกล้งปัดมือแล้วตบเข้าหน้าสาลินีอย่างจัง
“แกตบฉันเหรอ”
“เปล่าค่ะ มือไปเอง”
“งั้นมือฉันก็ไปเองบ้าง”
สาลินีกระโจนเข้าไปตบผัวะเข้าที่แก้มมุกดา มุกดาแกล้งทำเป็นปลิวติดผนัง
“ฉันจะสั่งสอนให้รู้ว่าที่นี่ฉันเป็นใคร” สาลินีตวาดเสียงเข้ม
“อย่าค่ะ อย่าทำหนูมุก”
สาลินีตบตีเป็นชุด มุกดาแกล้งล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมทำท่าปัดป้อง
สาลินีตบตีมุกดาที่แกล้งเสียท่าอยู่จนสะใจ แล้วจึงยืนขึ้น จับเสื้อผ้า จับผม
“จำไว้ ..ที่นี่ ฉันคือเบอร์หนึ่ง”
สาลินียิ้มเหยียด แล้วหันขวับมาเจอสายตาพนักงานเป็นสิบที่กำลังมองอยู่

มุกดายืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ภายในห้องทำงานของเพชร โดยมีสาลินียืนอยู่ข้างๆ
เพชรกอดอกมอง โดยที่เจนจบกับชนินทรยืนอยู่ด้านหลัง
“หนูมุกตบสาลี่ก่อนค่ะ ตบซ้ายตบขวา ทุกคนเป็นพยานได้” สาลินีรีบบอก
“ทุกคนเป็นพยานว่าคุณตบ ทำร้ายคุณมุกอยู่ฝ่ายเดียว” เจนจบขัด
“พอเถอะค่ะ” มุกดาแกล้งจับแก้มตัวเอง “หนูมุกไม่อยากให้เป็นข่าวฉาว หนูมุกแคร์สื่อ” มุกดาสะอื้น “ให้มันแล้วๆกันไปนะคะ คนบริษัทเดียวกัน หนูมุกไม่โกรธหรอกค่ะ คุณสาลี่เธอหวังดี ก็แค่กระชากมือถือหนูมุก แล้วก็จิกหัว .. ตบ”
“คุณสาลี่ ... ไปเขียนใบลาพักร้อน” เพชรสั่ง
“แต่สาลินีทำเพราะหวังดีนะคะ คุณชนินทรคะ” สาลินีแก้ตัว เธอมองไปทางชนินทรเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ชนินทรทำเฉยเพราะเห็นว่าช่วยลำบาก
“ความหวังดีต้องมีขอบเขต” เพชรย้ำ “ไปเขียนใบลาพักร้อน”
“สาลี่ถูกใส่ร้าย สาลี่เสียใจ เสียใจที่สุด ... สาลี่เจ็บ เจ็บที่สุด”
สาลินีจ้องมุกดา มุกดาแกล้งร้องไห้ดังกว่า สาลินีจึงสะบัดหน้าเชิดออกไป
เพชรกุมขมับหันมาทางมุกดา
“หนูมุก.. ฉันขอร้อง เรื่องนี้ไม่ต้องรายงานแม่ฉันได้มั้ย”

สาลินีเดินออกมาอย่างเจ็บแค้น เธอหันกลับไปมองด้านใน
“ฉันมันสันดานไม่ดี เจ็บแล้วจำ จำแล้วต้องล้างแค้น เดี๋ยวก็รู้ แกกับฉัน ใครจะปั้นหน้า จริตมารยาเยอะกว่ากัน”
แววตาสาลินีอาฆาตรุนแรง

ภายในห้องทำงานของเพชร มุกดาทำเป็นซับน้ำตาแล้วมองทุกคน
“มุกไม่รายงานคุณป้าก็ได้ค่ะ ถือว่าช่วยพี่เพชรไม่ให้หูชา แต่คราวหน้าพี่เพชรปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายแฟนแบบนี้ไม่ได้แล้วนะคะ”
มุกดาเดินไปหยิบกระเป๋า แล้วทำท่าจะออกจากห้อง
“หนูมุกขอตัวกลับไปหลบเลียแผลใจ”
“คุณมุก ลืมหรือเปล่าครับ” เจนจบทัก
มุกดาหันมา เจนจบพูดต่อ
“วันนี้คุณมุกมีนัดกับเพชร”
เพชรกับมุกดามองหน้ากัน

ที่โรงเรียนสอนเต้นรำ ครูกำลังสอนเพชรกับมุกดาเรียนเต้นรำ เพชรมีสีหน้าเนือยๆ ส่วนมุกดาก็มีสีหน้าเบื่อ
ครูพยายามกระตุ้นให้ทั้งสองคนสนุก พยายามดึงเพชรกับมุกดาเข้าไปชิดกัน แต่เพชรกับมุกดาหันหน้าไปคนละทาง ครูมองอย่างอ่อนใจ
“พักก่อนแล้วกันครับ” ครูบอกแล้วเดินออกไป
เพชรกับมุกดาผละจากกัน มุกดารีบทำท่าจะเดินออกไป
“จะรีบไปไหน” เพชรถาม
“หนูมุก..อยากกลับบ้าน ปวดขาค่ะ ..ปวดมาก”
“นึกว่านัดใครไว้” เพชรดัก
“หึงหนูมุกเหรอคะ”
“ฉันจะทำยังไงให้เธอเลิกหลงตัวเองสักที”
“อิมพอสซิเบิ้ลเลยค่ะ หนูมุกภูมิใจในความสวยของตัวเองมาก”
มุกดายิ้มกว้าง เพชรคอตก
“หนูมุกก็ถามตรงๆนะคะ พี่เพชร มาเรียนเต้นทุกวันเนี่ยะ กะว่าถ้าเจอสาวในฝันคนนั้นแล้วจะเต้นคู่กับเค้าเหรอ”
เพชรอึกอักไม่ยอมตอบ มุกรุกหนัก
“เค้าสวยกว่าหนูมุก”
เพชรยิ้ม “ใช่”
“เร้าใจกว่าหนูมุก”
เพชรยิ้ม “เยอะ”
“หนูมุกโกรธแล้วนะ”
“ดี” เพชรบอก
“ไม่ให้นักสืบตามหา แล้วเอามาแต่งงานด้วยเลยล่ะ” มุกดาประชด
“ถ้าเธอจะคิดโง่ๆ ว่าฉันหลงผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนนึงจนมาเสียเวลาเรียนเต้นรำน่ะ ฉันจะบอกว่าเธอคิดผิด ฉันอยากรู้จักผู้หญิงคนนั้นน่ะใช่ ..แต่เหตุผลคือ ผู้หญิงคนนั้นรู้จักโจรที่ปล้นเพชร”
“พี่เพชรแน่ใจได้ไงคะว่าเค้ารู้จัก” มุกดาแกล้งถาม
“ฉันแน่ใจ แล้วถ้าฉันตามผู้หญิงคนนั้นเจอ เราจะตามไปถึงพวกปล้น แล้วฉันก็จะได้เพชรคืน”
“แล้วก้อลงเอยเป็นแฟนกับสาวแทงโก้” มุกดาแกล้งแซว
“ก็ไม่แปลกสำหรับผู้ชายหน้าตาดี เพอร์เฟ็คท์”
“ผู้หญิงไม่ได้หลงที่ความหล่อ รวย ทุกคนหรอกนะคะ”
“อย่างน้อยก็ 99.99 เปอร์เซ็นต์”
“แล้วถ้าสาวในฝันของพี่เพชรคนนั้นเป็น 0.1 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ที่ชอบผู้ชายมีสมอง ไม่ดูถูกผู้หญิง แล้วเชิดใส่ความหล่อ ความรวยขึ้นมาล่ะ”
“พูดยังกับเป็นตัวเอง”
เพชรพูดประชดโดยไม่ได้คิดอะไร แต่มุกดาชะงักไปนิด
“ไม่มีผู้หญิงคนไหน ปฏิเสธชีวิตเพียบพร้อม ความสุข เค้าถึงบอกว่าเพชรคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิง”
“ความรักต่างหากที่เป็นเครื่องประดับที่สวยที่สุดในชีวิต”
“ไปจำหนังสือเล่มไหนมา”
เพชรกัด มุกดาสะบัดหน้าทำเป็นงอนแล้วเดินหนีไป
“จะไปไหน” เพชรร้องถาม
“กลับบ้านสิคะ”
“ฉันไปส่ง”
มุกดาหันขวับ “ไม่ต้องค่ะ หนูมุกงอนพี่เพชร”
เพชรเดินมาจ้องหน้ามุกดา
“ทุกทีแทบจะเกาะล้อรถฉัน แต่วันนี้ไม่ยอมให้ไปส่ง สงสัยจะมีอะไรปิดๆบังๆ ... แบบที่คุณสาลี่บอก”
มุกดาอึ้ง เพชรมองจ้องอย่างสำรวจ จู่ๆ เสียงมือถือมุกดาก็ดังขึ้น เพชรมอง ส่วนมุกดาไม่กล้ารับสาย

ที่ห้องทำงานคมกฤช คมกฤชกำลังรอให้มุกดารับสาย
“ไม่รับล่ะ มุก..”
คมกฤชรอจนสายตัดไป เขาเลยหยิบปืนมาใส่เอว แล้วคว้าเสื้อสูทเดินออกไป
คมกฤชเปิดประตูออกมาแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรุจายืนรออยู่
“รุจา”

ที่โรงเรียนสอนเต้นรำ มุกดากำกระเป๋าไว้แน่น เพชรมองอย่างสงสัย
“ทำไมไม่กล้ารับสายต่อหน้าฉัน”
“หนูมุกไม่อยากให้พี่เพชรเสียใจ”
“เรื่องอะไรที่ฉันต้องเสียใจ”
“หนูมุก..หนูมุกมีกิ๊ก”
“ข่าวดีที่สุดของฉันเลยนะนั่น”
“เค้าโทรมาขอเจอหนูมุก”
“ไปสิ..ฉันไปส่ง” เพชรอาสา
มุกดาถึงกับพูดไม่ออก
“ฉันอยากเห็นหน้าผู้ชายไม่เพอร์เฟ็คท์ ไม่รวย ไม่หล่อ ไม่ดูถูกผู้หญิง”
เพชรยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่มุกดามองเหมือนอยากจะอัดเขา

ที่หน้าห้องทำงานของคมกฤช คมกฤชมองรุจาที่ยืนหน้าตาซีเรียสอยู่
“ให้ฉันไปด้วยได้มั้ย” รุจาถาม
“ไปไหน ฉันจะกลับบ้าน” คมกฤชโกหกไป
“คุณไม่ได้กลับบ้าน ... คุณกำลังจะไปจับโจรปล้นเพชร”
“เธอรู้ได้ยังไง”
“ฉันเป็นนักข่าวนะคุณ ... ฉันก็มีแหล่งข่าวของฉัน”
รุจามองหน้าคมกฤชแล้วยิ้มอย่างยืดๆ

มุกดาเดินอย่างรวดเร็ว เธอมองซ้ายมองขวาแล้วพยายามเบียดนักเรียนเต้นรำคนอื่นเพื่อแทรกตัวหนี แต่พอเดินไปถึงประตู เพชรที่ดักอยู่ก็เปิดประตูให้ มุกดามองอย่างเจ็บใจ เธอเดินเชิดหน้าจะออกไป แต่เพชรคว้ามือของเธอไว้
“วันนี้ฉันเต็มใจทำอย่างที่แม่สั่งทุกอย่าง ..หนูมุกจะไปไหน ต้องส่งให้ถึงที่”
มุกดามองอย่างอัดอั้น เพชรยิ้มสะใจแล้วกระชากมุกดาออกไปอย่างไม่ปรานี

ที่หน้าห้องทำงานคมกฤช รุจายังมองคมกฤชด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก
“พ่อไม่ให้ฉันเป็นนักข่าว ไม่ให้ฉันยุ่งกับเรื่องนี้อีก แต่ฉันไม่ยอม” รุจาบอก
“พ่อคุณทำถูกแล้ว คุณควรจะเชื่อพ่อ”
“ฉันรู้ว่าฉันเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อ แต่ฉันก็อยากทำให้พ่อภูมิใจในตัวฉัน”
“หาวิธีอื่นสิ มีตั้งหลายวิธีที่จะพิสูจน์ตัวเอง แบบไม่ต้องเสี่ยงตาย”
คมกฤชเดินเลยรุจาไป รุจาตะโกน
“ฉันทำได้ ฉันรู้ว่าฉันทำได้”
คมกฤชหันมาเห็นรุจามีแววตาเชื่อมั่นในตัวเอง
“ถึงฉันจะไม่เก่งอะไรเลย แต่ฉันทำได้”
รุจาวิ่งมาตรงหน้าคมกฤช
“ขอโอกาสฉันนะ ขอโอกาสฉันสักครั้ง”
รุจามองคมกฤชอย่างขอร้อง
“แน่ใจนะ ว่าทำได้ทุกอย่าง” คมกฤชถามย้ำ
รุจายิ้มกว้างอย่างดีใจ

ภายในผับแห่งหนึ่งที่เวลานั้นมีโคโยตี้เต้นในลีลาหวือหวาท่ามกลางแสงไฟวูบวาบ เสี่ยติ่งนั่งลงที่เก้าอี้ซึ่งมีสาวๆ ห้อมล้อมรอบกาย เสี่ยติ่งฝืนยิ้ม มองไปยังธีรพัฒน์ที่อยู่ในคราบนักเที่ยวและมีลูกน้องปลอมตัวปนอยู่ประจำตามจุดต่างๆ
“เสี่ยขา วันนี้ไม่เห็นสั่งอะไรเลย...” บริกรสาวคนหนึ่งพูดกับเสี่ยติ่ง “นั่ง” สาวคนนั้นเน้นคำ “..ตัวแข็ง...เลย” จากนั้นสาวๆ เหล่านั้นก็ลูบไล้เนื้อตัวเสี่ยติ่งแล้วพากันหัวเราะ เสี่ยติ่งยิ้มฝืนแห้งๆ แล้วกวักมือเรียกบริกร

เด็กเสิร์ฟรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามารับออเดอร์ พอเข้ามาใกล้ๆ ก็เห็นชัดว่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นที่แท้เป็นคมกฤช
“วันนี้กี่ดริ๊งค์ดีครับเสี่ย” คมกฤชถาม
สาวๆ แย่งกันสั่งแทน คมกฤชจดแล้วเดินออกไป
คมกฤชเดินผ่านหน้าเวทีโคโยตี้ เขาเหลือบไปมองรุจาที่อยู่ในชุดโคโยตี้กำลังเต้นโยกไปโยกมาแบบ อายๆ รุจาสบตาคมกฤช ในขณะที่คมกฤชยิ้มให้แล้วขยับปากพูดล้อออกมาโดยไม่มีเสียง
“ทำได้ทุกอย่าง”
รุจาเห็นแล้วรู้สึกฮึดฮัดอย่างไม่ยอมแพ้ จึงเต้นด้วยลีลายั่วยวนร้อนแรงตามอย่างโคโยตี้คนข้างๆ คมกฤชถึงกับมองตาค้าง

ทันใดนั้นเอง ภูผาก็เดินแฝงตัวเข้ามาในเงามืด กวาดสายตามองไปรอบๆ ประหนึ่งเหยี่ยวมองหาเหยื่อ!








Create Date : 31 มกราคม 2555
Last Update : 31 มกราคม 2555 10:43:16 น.
Counter : 324 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]