All Blog
มุกเหลี่ยมเพชร ตอนที่ 2



ภายในห้องของคอนโดสุดหรูกลางกรุงเทพฯ แห่งหนึ่ง ภูผาตบหน้าบลูดังผัวะ ขุนพลตั้งท่าจะขยับ ภูผาหันไปจับหัวขุนพลกระแทกเข้ากับผนัง โดยที่ทั้งสองคนไม่กล้าหือ แมงมุมยืนมองอยู่ด้านหลัง

“ไอ้โง่ สะเพร่า ทำไมแกไม่อัดรูปไปแจกตำรวจซะเลยล่ะ ฉันสั่งแล้ว ไม่ให้พวกแกโผล่หน้าออกไปให้ใครเห็น” ภูผาโกรธ
“ก้อจะฆ่าอีนังโจรนั่นได้อยู่แล้ว ถ้ามันไม่มีตัวช่วยโผล่มาซะก่อน” ขุนพลแก้ตัว
“โม้ โม้ โม้ โม้โน่น โม้นี่ ฝีมือไม่ถึงมั้ง” แมงมุมขัด
“อีแมงมุม ตายซะเถอะมึง” ขุนพลด่า
ภูผาชักปืนวางลงตรงกลางของทั้งคู่
“ยิงกันให้ตาย หรือไม่ก็หุบปากทั้งคู่”
แมงมุมกับขุนพลเงียบทันที ภูผากวาดตามอง
“เนสมันตายเพราะประมาท แกสองคนก็จะตายเพราะความประมาทเหมือนกัน”
“อย่างนี้เราก็ไม่รู้ว่านังตัวแสบคนนี้ เป็นใคร แก๊งค์ไหนกันแน่” บลูถามขึ้น ภูผานิ่งคิด

ภายในห้องคนไข้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพชรกำลังยืนเฝ้าเจนจบที่นอนพัก โดยมีมุกดายืนอยู่ตรงข้าม
“ไปมีโจทก์ที่ไหน” เพชรถาม
“หนูมุก.. หนูมุกไม่ทราบจริงๆค่ะ”
“นี่ ... ฉันกินข้าวนะ ไม่ได้กินหญ้า ถึงจะไม่เห็นว่าเธอวิ่งตามผู้หญิงในห้องน้ำ แล้วโดนเค้าไล่ยิง”
“คือ คือจริงๆ .. เค้า..เค้าหาว่าหนูมุกโทรจิกแฟนเค้า เราทะเลาะกันในห้องน้ำ โอ๊ย ... หนูมุกไม่ไหวจะเคลียร์ บอกแล้วว่าหนูมุกไม่รู้เรื่อง เค้าไม่เชื่อ เค้าก็โมโห เค้าก็ไล่ยิง ยิง ยิง ยิง หนูมุก โชคดีที่คุณเจนจบก็มาช่วยหนูมุกไว้พอดีนะคะ”
“โชคดีของเธอ แต่โชคร้ายของเพื่อนฉัน”
“เอาน่า..เพชร .. คุณหนูมุกของนายก็ปลอดภัยแล้ว” เจนจบบอก
เพชรมองหน้ามุกดาแล้วพูดเสียงเน้นๆแดกดัน
“ไม่ใช่หนูมุกของฉัน .. ชาตินี้ก็ไม่ใช่ ต่อให้ชาติหน้าก็ไม่มีทาง”
“พี่เพชรว่าหนูมุกไม่ใช่เหรอคะ หนูมุกว่าใช่ของพี่เพชรนะคะ”
“ฉันพูดภาษาไทย ต้องแปลด้วยเหรอ สมองเธอนี่ มันคงกลวงโบ๋”
“ไม่นะคะ ตอนเด็กๆครูบอกว่า ...ในกะโหลกของหนูมุกเนี่ย มีแต่ฟองอากาศ บุ๋ง บุ๋ง”
“ครูเค้าก็พูดถูกมาก” เพชรเน้นเสียง
เจนจบมองทั้งสองคนที่กัดกันแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
มุกดาหันมามองแต่เจนจบรีบทำเป็นก้มลงไอเพราะกลัวเสียมารยาท
“หัวเราะเยาะหรือไอคะ สงสัยจะไอ คุณเจนจบเจ็บแผลหรือเปล่าคะ” มุกดาเดินไปที่เตียง “มาค่ะ หนูมุกดูให้”
มุกดาเดินเข้าไปใกล้แต่เพชรรีบดึงเธอไว้
“ออกมาห่างๆเพื่อนฉัน แค่นี้เจนจบมันก็ดวงตกพอแล้ว”
“แหม พี่เพชรปากร้ายกับหนูมุกตลอดเลย คิดอะไรกับหนูมุกหรือเปล่าคะเนี่ยะ... เลิฟ เลิฟ จุ๊บ จุ๊บ”
“คิด อยากจะดีดไปทางหน้าต่าง” เพชรแขวะ
“ไม่ไปค่ะ หนูมุกมือเหนียวหนึบ ยิ่งกว่ากาวตราช้าง”
มุกดาแกล้งเอามือเกาะบ่าเพชร ทำให้เพชรรีบกระโดดถอยห่าง
“ไป้ อย่ามาใกล้ฉัน”
“เฮ้ย เพชร” เจนจบปรามเพื่อน “นายอย่าว่าคุณหนูมุกนักเลยน่า”
“ใช่ค่ะ” มุกดาหันไปยิ้มให้เจนจบ “คุณเจนจบนี่น่ารักจังเลยนะคะ หล่อ สุภาพ มารยาทผู้ดี๊ดี เวรี่เจนเทิ้ลแมน ... สุภาพบุรุษที่สุดในโลก”
มุกดาตั้งใจแดกดันเพชร แต่เพชรทำเฉย มุกดายิ้มให้กับเจนจบ
เพชรมองแล้วเริ่มคิดแผนบางอย่าง

ที่ทางเดินในโรงพยาบาล มุกดาเดินออกจากห้องคนไข้ แต่เดินมาได้เพียงนิดเดียวก็เห็นคมกฤชพี่ชายของเธอยืนรออยู่
“เป็นไง คนเจ็บในห้องนั้น”
“ทำไมคนถูกยิง ถึงไม่เป็นนายเพชร”
“อู้ว .. ท่าทางจะรักกันดื่มด่ำ ดูดดื่ม”
“ถ้าเป็นมุก จะยิงที่ปากไอ้พี่เพชรก่อนเลย”
คมกฤชหัวเราะ ส่วนมุกดาเดินไปแบบหน้าตาแค้นในความปากร้ายของเพชร

ภายในห้องคนไข้ เพชรมองเพื่อนด้วยหน้าตาที่ซีเรียส
“เราเป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี นี่จะเป็นครั้งแรก เจนจบ .. ที่ฉันขอร้องนาย”
“เพชร ... นายกำลังทำให้ฉันกลัวว่ะ”
“จีบยายหนูมุกให้ที” เพชรบอก
“หา”
“ฉันเห็นสายตาที่หนูมุกมองนายแล้ว เธอเทิดทูนบูชาฮีโร่อย่างนายสุดๆ”
“เสียใจเพื่อน ฉันไม่ล้อเล่นกับความรัก” เจนจบปฏิเสธ
“แสดงว่าแกยอมให้ฉันตกนรกขุมสุดท้าย”
เจนจบตบบ่าเพื่อน “ช่วยไม่ได้ นายทำบุญมาน้อย”
เพชรลุกพรวด “ไม่จริง ตอนนี้ฉันแค่ดวงตก ดวงซวย ดวงอาภัพ ที่มาเจอยายหนูมุก”
“เอาน่า ค่อยๆทำความรู้จักกันไป คุณหนูมุกเค้าก็ดูแปลกคนหน่อยๆ”
“ไม่หน่อยหรอก ยายหนูมุกน่ะ รวมความบ้า ประสาท เพี้ยน ติงต๊อง อยู่ในคนๆเดียวเลย” เพชรพูดอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย

มุกดาเดินเข้ามาในบ้านของเธอ จู่ๆ ก็โดนมรกตเข้ามาสวมกอดอย่างแรงจนแทบล้ม
คมกฤชที่เดินตามหลังมามองแม่ของเขาที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“โถ ... หนูมุก เจ็บตรงไหน” มรกตถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “มีอะไรบุบสลายหรือเปล่าคะ ป้าล่ะอยากจะตีเพชรให้ตาย ดูแลหนูมุกไม่ได้เรื่อง นี่ถ้าหนูมุกเป็นอะไรไป ป้าจะหาสะใภ้น่ารักๆแบบนี้ได้ที่ไหน”
มรกตพูดเสร็จก็กอดแล้วกอดอีก โดยที่มุกดามีสีหน้าจำทนมาก
คมกฤชหัวเราะ มุกดารีบดันมรกตออก
“คุณป้าคะ หนูมุกมีเรื่องจะบอก .. คือหนูมุกคิดว่าพี่เพชรเค้าเกลียดหนูมุกน่ะค่ะ”

เช้าวันใหม่ ณ ร้านสตาร์ไดมอนท์ เพชรปิดแฟ้มแล้วเงยมองแม่ที่หน้าตาเอาเรื่อง
“แกต้องไปขอโทษ หนูมุก”
“ผมไม่ผิดนะครับที่ผมพูดความจริง ... ความรู้สึกผมทุกครั้งที่เข้าใกล้” เพชรเน้นเสียงอย่างแดกดัน “หนูมุก.. ผมขยะแขยง คลื่นไส้ ผมเกลียดหนูมุก .. ได้ยินมั้ยครับแม่ ผมเกลียดหนูมุก”
“แก..แก..แกทำกับหนูมุกขนาดนี้ได้ยังไง” ..
มรกตแสร้งทำเป็นช็อคล้มหงายหลังไป เพชรหันมาเห็นก็พุ่งเข้ามาประคองแม่ไว้
“คุณแม่ คุณแม่”

ภายในห้องทำงานของธีรพัฒน์ ธีรพัฒน์กำลังกดคลิกภาพบลูจากภาพถ่ายกล้องวงจรปิดจากห้าง ตอนเดินออกมาหลายภาพ โดยมีมุกดากับคมกฤชดูอยู่ด้วย
“ใช่ค่ะ คนนี้แหละ โจรปล้นอะดอเรลลา” มุกดายืนยัน
“ถ้าน้องมุกชี้ตัวแบบนี้ พี่จะรีบส่งภาพวงจรปิดของห้างไป เราน่าจะหาแหล่งกบดานของพวกมันได้” ธีรพัฒน์บอก
“มีชื่ออยู่ในประวัติอาชญากรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีครับ แต่เราส่งทีมนอกเครื่องแบบออกไปแล้ว”
“มุกอยากให้พี่ธีรพัฒน์ลองติดต่อกับตำรวจสากลดูค่ะ เผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น”
“ตำรวจสากลเลยเหรอ”
มุกดานึกขึ้นได้ว่าลืมตัว เธอนึกเหตุผลสนบสนุนคำพูดไม่ทัน แต่คมกฤชรีบช่วย
“ตอนที่มุกมันเรียนอยู่อเมริกา เคยมีข่าวขโมยเครื่องประดับแพงๆ แล้วก็ตามไล่ล่า กันตั้งหลายประเทศ สุดท้ายตำรวจสากลก็มาช่วยจับโจร ได้ของคืน ...ใช่มั้ย ที่แกเคยเล่าน่ะ มุก”
“ใช่ค่ะ .... พี่กฤชความจำดี”
ธีรพัฒน์ทำหน้าเข้าใจ
“งั้นพี่ไปโทรหาเพื่อนที่หน่วยนั้นดูนะ” ธีรพัฒน์บอกแล้วรีบเดินไป คมกฤชรีบเอนมากระซิบน้อง
“ถ้าบอกไปว่าแกเป็นตำรวจสากล จะไม่ทำงานง่ายกว่าเหรอ”
“ไม่หรอก ยายมุกดาสมองใสไร้ปัญญานี่แหละ ไปบ๊องแบ๊วบ้าบออยู่ตรงไหน ก็ไม่มีคนสงสัย”
คมกฤชกอดอกถอนใจเฮือก ส่วนมุกดาท่าทางมั่นใจกับแผนของตัวเอง

ที่ห้องทำงานของมุกดา มุกดากำลังนั่งคุยกับเจอรี่ผ่านวิดีโอแชท
“ตำรวจไทยติดต่อเราแล้ว ผมเพิ่งให้ข้อมูลว่าอะดอเรลลาเป็นเพชรที่ถูกขโมยมา” เจอรี่บอก
“มุกเจอหนึ่งในคนร้ายวันนี้เองค่ะ แต่ยังจับมันไม่ได้ หัวหน้าไม่ต้องห่วงนะคะ ยังไงมุกจะเอาอะดอเรลลาไปคืนราชวงศ์ให้ได้”
“เรื่องนี้มันใหญ่ แล้วก็โยงใยหลายคนนะมุก ผมจะส่ง..”
เจอรี่พูดยังไม่จบก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น มุกดามองไปเห็นคุณปักเปิดประตู โผล่หน้าเข้ามา
“สวัสดีค่ะ คุณหนูมุก ทำอะไรเอ่ย”
“หวัดดีค่ะ คุณปัก .. คือมุกกำลังเช็คข่าวนักร้องเกาหลีอยู่น่ะค่ะ”
เจอรี่ได้ยินก็ทำท่ารูปหัวใจที่อกทันที
“อืมม.. วันนี้กลายเป็นนักร้อง ... ซารังเฮโย” เจอรี่พึมพำ
มุกดาเดินมาหาคุณปักแล้วมองอย่างสงสัย
“คุณปักมาถึงนี่ ..แสดงว่า”
คุณปักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “อิอิ”
มุกดาทำหน้าเดา “ต้องเกี่ยวกับ”
คุณปักรีบตอบพร้อมกับทำท่าน่ารัก “อิอิ .. ใช่ค่ะ”
“งั้นขอหนูมุกแปลงร่างแป๊ปนึงนะคะ”
มุกดาทำท่าหมุนตัวเหมือนได้พรวิเศษของนางฟ้า ส่วนคุณปักก็หมุนไปด้วยแต่หมุนแล้วลมจะจับ

ในห้องรับแขกบ้านมุกดา มุกดาเดินเข้ามาในชุดหวาน กางเกงขาสั้นชายเป็นลูกไม้ ผูกโบว์ใหญ่เหมือนจะไปเที่ยวทะเล เพชรหันมาตาค้าง
มุกดาแสดงท่าทางดีใจโอเว่อร์ “พี่เพชร พี่เพชรมาหาหนูมุก .. ตายแล้ว หนูมุกตาฝาด” มุกดาทำท่าเอียงคอ “ฝันไป รึเปล่า”
เพชรไม่ทำท่าหวานด้วย เขาใส่มุกดาเป็นชุด
“คุณไปบอกอะไรแม่ผม รู้มั้ยว่าแม่ผมเครียดจนความดันขึ้น”
มุกดาอ้าปากจะเถียง แต่เพชรยังใส่ไม่หยุดพร้อมกับเดินเข้าหา
“ผมขอร้องได้มั้ย เรื่องของเรามันไม่มีวันเป็นไปได้ ผมไม่ชอบคุณ แล้วคุณจะมาวิ่งไล่ตามผู้ชายที่เค้าไม่เคยมองคุณ .. ไม่เคยเห็นคุณอยู่ในสายตาทำไม”
มุกดาเอานิ้วม้วนผม แล้วทำท่าทางเขินอาย
“เพราะหนูมุกอยากเป็นแฟนพี่เพชรไงคะ .. ยิ่งพี่เพชรไม่รัก หนูมุกยิ่งท้าทาย”
“จะบ้าเหรอ เอาเวลาไปหาคนที่รักคุณสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูมุกเชื่อผู้ใหญ่ เค้าว่าอยู่ใกล้กัน เดี๋ยวก็ปิ๊งปั๊ง รักกันเอง”
มุกดาเดินเข้าใกล้ แต่เพชรรีบหันหน้าเดินหนีอย่างไม่ทันดู ทำให้หน้าผากชนเข้ากับเหลี่ยมเสา มุกดาตกใจรีบเข้าไปจะจับหน้าผากเพชร
“ว๊าย .. เวรี่เฮิรต์มั้ยคะพี่เพชร”
เพชรยึดมือมุกดาไว้ไม่ให้แตะตัวเขา ทั้งสองมองหน้ากันในระยะประชิด มือของเพชรจับมือของมุกดาแน่น มุกดาแกล้งยิ้มหวาน
“อ่ะแน่ะ พี่เพชรหลอกแต๊ะอั๋งหนูมุก”
เพชรรีบปล่อยมือทันที ถอยห่างออกมาแล้วใช้ไม้อ่อน
“ผมเครียดเรื่องคดีมาก.. ผมก็ไม่อยากให้คุณมาเสียเวลากับคนบ้างานอย่างผม” ..
มุกดาทำตาแบ๊วแล้วเอียงคอถาม “บ้างานไม่ว่า เพราะหนูมุกบ้าพี่เพชร”
“สติเสียกว่านี้มีอีกมั้ย”
“นี่แสดงว่าคุณป้ามรกตยังไม่ได้บอกพี่เพชร”
“เรื่องอะไร”
“ก้อคุณป้าให้หนูมุกไปทำงานเป็นเลขาพี่เพชรไงคะ”
“เลขาฉัน” เพชรทวนคำด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด

ที่บ้านของเพชร เพชรก้าวมายืนข้างเตียงที่มรกตนอนหลับอยู่ โดยมีคุณปักคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ
“ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณแม่ชอบมุกดาตรงไหน”
“ปักรู้ค่ะ”
เพชรมองคุณปักที่มีสีหน้าภูมิใจ
“เพราะคุณหนูมุกเคยช่วยชีวิตคุณผู้หญิง”
“ช่วยชีวิตคุณแม่... เมื่อไหร่ ที่ไหนกัน คุณปัก” เพชรซักอย่างสนใจ
“จำตอนคุณผู้หญิงไปเที่ยวอเมริกาได้มั้ยคะ”
ปักย้อนถาม เพชรนิ่งคิด
“ตอนนั้นฉันไปดูเพชรที่เบลเยี่ยม”
“ค่ะ คุณผู้หญิงกลับมาเล่าให้ฟังว่า โดนโจรปล้น แล้วผู้หญิงคนหนึ่ง ก็เสี่ยงตาย วิ่งไล่จับโจร เอาของมาคืนคุณผู้หญิงได้ครบหมด”
“มุกดาน่ะเหรอ ... ไม่เห็นเค้าเคยพูดเรื่องนี้เลย”
“คุณหนูมุกเธอเป็นคนดีไงคะ ช่วยใครไม่หวังผลตอบแทน เธอก็เลยไม่ได้จำ ไม่ได้ถามชื่อคุณผู้หญิงไว้ แต่คุณผู้หญิงสิคะ... ปลื้มความกล้าของคุณหนูมุกมากกก ยิ่งพอมารู้ว่าเป็นลูกสาวคุณประไพ ตระกูลดีไม่มีที่ติ ก็ยิ่งปลื้มเป็นดับเบิ้ล รับรองเลยค่ะ... ถ้าคุณผู้หญิงจับคู่อุ้มสม หนุนสุดตัวขนาดนี้ ...คุณเพชรไม่รอดมือคุณหนูมุกแน่ๆ”
คุณปักพูดหน้าบาน แต่เพชรฟังแล้วเซ็ง เขาลุกขึ้นจะเดินเข้าไปด้านใน แต่คุณปักรีบเรียก
“คุณเพชร จะไปไหนคะ... ไม่พาคุณผู้หญิงกลับไปบ้านโน้นก่อนเหรอคะ”
“คุณปักนั่นแหละแบกไป”
“ไซส์ปลาวาฬขนาดนี้ สลิมๆอย่างปักเห็นจะแบกไม่ไหว” ปักตอบ
มรกตขยับ ปักสะดุ้งเฮือกแล้วยืนตัวแข็งเพราะคิดว่ามรกตได้ยิน
“บ้านก็ติดกัน แค่เดินข้ามรั้วไป อย่าบ่นนักเลย หรือจะยอมถูกตัดเงินเดือน”
ปักหันไปมองมรกตอีกทีแล้วแสดงสีหน้าว่าเป็นไงเป็นกัน ส่วนเพชรยังอารมณ์ขุ่นเมื่อนึกถึงเรื่องของมุกดา

ตกกลางคืน มุกดากำลังนั่งทำความสะอาดปืนอยู่ในห้องของเธอ โดยมีคมกฤชยืนมอง
“ตกลงว่าแกจะไปเป็นเลขาคุณเพชร หรือเป็นบอดี้การ์ด”
“เผื่อไว้ไงพี่กฤช ถ้านายเพชรคิดหนี มุกจะได้ยิงปากให้ทะลุ แล้วก็ยิงให้ขาลาก แล้วก็เลื่อนไปเล็งสมอง... ปัง...ปิดคดี”
“ความรักของผู้หญิงอย่างแกนี่โหดถึงใจจริงๆ”
มุกดายิ้มแล้วมองปืน คมกฤชมองน้องแล้วเอ่ยอย่างห่วงใย
“มุก ...พี่ไม่อยากให้แกไปเสี่ยงนะ อย่างที่เจอรี่ เจ้านายแกบอก งานนี้มันโยงใยหลายคน”
“นั่นแหละค่ะคือความท้าทายของคดีนี้ ยิ่งยากยิ่งอยากรู้ว่าไอ้คนบงการเป็นใคร”
มุกดายกปืนขึ้นเล็งด้วยแววตาเด็ดขาด

เช้าวันใหม่ ชนินทรยืนหน้าเครียดอยู่ตรงข้ามเจนจบที่นั่งพิงอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล
“เพราะความประมาทของไอ้พาทีคนเดียว เนื้อเข้าปากเสือ เสือที่ไหนมันจะยอมคายเพชร 500 ล้าน”
“ไม่ใช่เวลามานั่งโทษกัน ชนินทร เงินประกันไม่มีความหมายเท่าเพชรอย่างอะดอเรลลา” เจนจบบอก
“ฉันรู้แล้ว... แต่ฝ่ายการตลาดอย่างแกเครียดเท่าฉันหรือเปล่า ดีแต่ยิ้มหล่อให้ลูกค้า ผู้จัดการอย่างฉันสิ .. ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ตำรวจถามแล้วถามอีก ถามเหมือนฉันเป็นขโมย”
“ถ้าไม่ใช่... แกจะร้อนตัวไปทำไม” เจนจบถาม
ชนินทรหันขวับมองเจนจบที่ไม่ได้สงสัยเพื่อนเพียงแต่พูดไปตามความจริง
“เจนจบ ถ้าแกนอนเจ็บเพราะตามหาอะดอเรลลา ฉันคงสงสารแกมากกว่าที่มานอนเจ็บเพราะช่วยผู้หญิง” ชนินทรแขวะ
มีเสียงประตูห้องน้ำปิดดังปัง ชนินทรหันไปเห็นเพชรเดินออกจากห้องน้ำ
ชนินทรตกใจเพราะนึกไม่ถึงว่าเพชรอยู่ในห้องนี้ด้วย
“ถ้าเป็นแก เห็นผู้หญิงโดนทำร้าย แกจะไม่ช่วยเหรอ ชนินทร” เพชรถาม
ชนินทรเงียบ ไม่โต้ตอบเพชร เพชรมองเพื่อนแล้วพูดต่อ
“ในความเป็นเพื่อนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในงาน. .. ไม่มีใครรับผิดชอบมากกว่าใคร เพราะแกสองคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน แล้วก็ไอ้พาทีอีกคน”
เพชรมองเพื่อนด้วยแววตาเข้ม
“พวกแกก็รู้นิสัยฉันดี อะไรที่เป็นของฉัน มันไม่มีสิทธิ์อยู่ที่คนอื่น ... เอาอะดอเรลลากลับมาให้ได้ ก่อนสตาร์ไดมอนด์จะเป็นข่าวเสียหายไปมากกว่านี้”

ที่หน้าห้องทำงานของธีรพัฒน์ รุจาเดินมาป้วนเปี้ยนด้อมๆ มองๆ เธอเห็นจ่าถนอม ตำรวจหน้าห้องกำลังอ่านแฟ้มอยู่ จ่าถนอมหันมา รุจาหลบอย่างรวดเร็ว จ่าถนอมมองไม่เห็นใครแต่ก็รู้สึกแปลกๆ

ในห้องน้ำชาย รุจาแอบอยู่ในส้วม เธอพยายามเอาหูแนบผนังเพื่อให้ได้ยินเสียงตำรวจคุยกัน
“ไม่คืบหน้าเลยว่ะ คดีเพชร” ตำรวจคนที่หนึ่งพูด
“ป่านนี้ขายออกนอกประเทศไปแล้ว” ตำรวจคนที่สองสมทบ
“นี่แหละแหล่งข่าวของเรา ขอดูหน้าหน่อย” รุจากล่าวอย่างดีใจ
รุจาขึ้นไปเหยียบโถส้วมแล้วปีนขึ้นไปเพื่อจะดูหน้าตำรวจ แต่ขณะที่รุจายืดสุดตัวเท้าของเธอก็เลื่อน
“เหวอ”
รุจาหล่นลงมา มือปัดไปโดนกลอนเปิด ส่วนตัวของเธอกลิ้งลงมาอยู่ที่พื้น
รุจามองผ่านประตูไปเห็นตำรวจทุกคนในห้องน้ำมองมา
“อ๊าก” รุจาเอามือปิดหน้าแล้วหลับตาปี๋

รุจาถูกตำรวจลากตัวพาออกไปข้างนอก
คมกฤชออกมาจากห้องธีรพัฒน์ จ่าถนอมทำความเคารพ รุจาเห็นเขาพอดีก็พูดพึมพำ
“สารวัตรธีรพัฒน์”

คมกฤชเปิดประตูรถ เขาก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไป รุจารีบวิ่งตามมาแต่ไม่ทัน จึงรีบย้อนไปที่รถของตัวเองทันที
“คราวนี้เธอต้องไม่พลาด รุจา”
รุจามองเข้าไปในรถ เห็นกุญแจรถวางอยู่ที่เบาะ
“กุญแจรถ!” รุจาตกใจ เธอมองไปเห็นรถคมกฤชกำลังเคลื่อนออกไป
“กุญแจสำรอง กุญแจสำรอง”
รุจาล้วงหากุญแจแต่ไม่เจอสักที เธอจึงเทของในกระเป๋าลงพื้น ของจุกจิกทั้งหลาย กล้องตัวเล็ก เครื่องอัดเสียง หวี หนังสือ ขนม ไฟฉาย ไฟแช็ค มีด คัทเตอร์ สเปรย์พริกไทย หล่นกระจายเต็มพื้น
รุจาเขี่ยหาจนเจอกุญแจสำรอง เธอดีใจเหมือนถูกหวยกำกุญแจกระโดดเหย็ง
“นี่ไง...กุญแจแห่งความสำเร็จ”
รุจาหันไปเห็นตำรวจหลายคนมองมาเป็นตาเดียว เธอรีบไขกุญแจแล้วมุดเข้ารถ สีหน้าของรุจามุ่งมั่น
“บอกแล้ว รุจาไม่มีพลาด”

มุกดายื่นกระเช้าน้ำผลไม้ที่นำมาเยี่ยมให้เจนจบซึ่งกำลังนั่งพิงอยู่บนเตียง
“คุณมุกไม่น่าลำบากเลย เดี๋ยวผมก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเจนจบเป็นคนช่วยชีวิตหนูมุก”
เจนจบขยับจะหยิบน้ำ มุกดารีบบอก
“หนูมุกหยิบให้ค่ะ”
มุกดากุลีกุจอหยิบน้ำมา เจนจบขยับแล้วเจ็บแผล มุกดาขยับเข้าไปป้อนน้ำใกล้ๆ แต่เจนจบขยับมาชนแก้วน้ำในมือมุกดาหกรดกางเกง มุกดาตกใจ
“อุ๊ย”
มุกดาจะหยิบแก้ว ซึ่งเจนจบก็จะหยิบเหมือนกัน เลยกลายเป็นว่าเขาคว้ามือมุกดาเข้า มุกดากับเจนจบหันมาสบตากัน
เพชรเดินเข้ามาเห็นเจนจบกำลังกุมมือมุกดา ในขณะที่มุกดาเอนตัวเข้าใกล้เจนจบที่อยู่บนเตียง สองคนยังสบตากันอยู่
เพชรแกล้งปิดประตูแรงๆ ทำให้เจนจบกับมุกดาสะดุ้ง เจนจบรีบปล่อยมือมุกดา ส่วนมุกดาก็ถอยห่าง
เพชรมองเห็นรอยน้ำที่หกบนกางเกงคนไข้ เขาหันไปทางมุกแล้วพูดแดกดันทันที
“หนูมุกฝากผลงานน่าประทับใจอีกแล้ว”
“ฉันชนคุณมุกเอง” เจนจบแก้ตัวให้
มุกดาทำเสียงเง้างอด “หือมม...พี่เพชรไม่เคยมองหนูมุกในแง่ดีเลยนะคะ เดี๋ยวหนูมุกแกล้งงอนหรอก”
เพชรเปิดตู้หยิบชุดปกติของเจนจบ แล้ววางให้เจนจบ
“เปลี่ยนซะ” เพชรบอก
“หนูมุกช่วยค่ะ”
เพชรรีบดึงม่านคนไข้ปิดกั้นมุกดาทันที
“ไม่ต้อง เดี๋ยวเพื่อนฉันเจ็บหนักกว่านี้”
เจนจบเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หลังผ้าม่าน ส่วนเพชรมองมุกแล้วถาม
“เมื่อไหร่จะไปทำงาน จะได้บอกให้คนจัดโต๊ะเลขาไว้ให้”
เจนจบเปิดม่านพรวดออกมา โดยยังไม่ทันใส่เสื้อทำให้เห็นกล้ามอกเป็นแผง
“คุณมุกจะเป็นเลขาเพชร” เจนจบถามอย่างตกใจ
เพชรทำหน้าตาจำใจแทนคำตอบ มุกดาแกล้งชูสองนิ้วยิ้มร่า
“หนูมุกสู้สู้ค่ะ”
เพชรหันหน้าหนีด้วยสายตาสุดเอียน

บนถนน รุจาเหยียบคันเร่งมิดเพื่อตามคมกฤชให้ทัน เธอบีบแตรไล่รถคันอื่นไปด้วย
“หยุดรถซักทีสิ” รุจาบ่น
รุจาชะโงกหัวออกจากรถ แล้วตะโกนเรียก
“สารวัตรธีรพัฒน์ ! หยุดก่อน ขอเวลาแป๊บเดียว”
คมกฤชนั่งอยู่ภายในรถ และมองจากกระจกหลัง เห็นรถรุจาขับตามมา แถมเจ้าตัวยังโผล่หัวออกมาตะโกนอะไรไม่รู้
“จะรีบอะไรนักหนา คนอื่นเขาก็รีบเหมือนกัน” คมกฤชพูดกับตัวเอง แล้วรีบเร่งเครื่องพุ่งออกไป รุจาที่ขับตามยิ่งโมโห
“รำคาญแล้วนะ เดี๋ยวแม่ชนเข้าให้หรอก จะได้หยุด”
ไม่ทันขาดคำ รถคันหน้าคมกฤชก็เบรกกะทันหัน ทำให้คมกฤชรีบเหยียบเบรก ส่วนรุจาเบรกไม่ทัน ชนท้ายรถคมกฤชเข้าอย่างจัง
คมกฤชหน้าเครียดแล้วเปิดประตูลงมา รุจารีบคว้ามือถือขึ้นมากดอย่างลนลาน
“ประกัน ประกัน”
คมกฤชมามองเห็นรุจานั่งโทรศัพท์อยู่ในรถจึงเคาะกระจกเรียก
“ลงมาสิคุณ”
รุจาพูดโทรศัพท์ “ค่ะๆ รีบมานะคะ ฉันมีธุระต่อ”
รุจาหันมาเห็นคมกฤชหน้าตาโมโหก็ตกใจ เธอเปิดประตูรถกระแทกคมกฤชเข้าอีก คมกฤชทั้งเจ็บทั้งโมโห
“ขอโทษนะคะ ฉันชนบ่อย เรียกประกันแล้วค่ะ” รุจาบอก
คมกฤชกำลังจะอ้าปากพูด แต่รุจารีบยื่นเครื่องอัดเทปจ่อปากคมกฤช
“ฉันชื่อรุจาจากนิวส์ไทม์ จำได้ใช่มั้ยคะ ตอนนี้คดีอะดอเรลลาไปถึงไหนแล้วคะ”
คมกฤชอึ้งไป รุจารีบสวนต่อทันที
“สารวัตรมีเวลาให้ฉันสักหน่อยไหมคะ แค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้ ระหว่างรอประกัน”
“คุณเลื่อนรถเข้าข้างทางก่อนเลยไป ชาวบ้านเขาเดือดร้อน” คมกฤชบอก
รถที่ติดอยู่ข้างหลัง เริ่มบีบแตรไล่ดังขึ้นเรื่อยๆ คมกฤชทนไม่ไหว
“คุณไม่เลื่อน ผมเลื่อนเอง ถ้าเจ๊งอย่ามาว่ากันนะ”
คมกฤชจะเปิดประตู แต่ประตูล็อค เขามองเข้าไปเห็นกุญแจรถวางอยู่บนเบาะ
“เฮ้ย! นี่คุณทิ้งกุญแจรถไว้ข้างใน!”
คมกฤชมองไปที่ถนนเห็นรถติดมากขึ้น เขาตัดสินใจรีบเข็นรถเข้าข้างทาง รุจามองแล้วอมยิ้ม
คมกฤชเข็นรถชิดถนนจนรถข้างหลังขับผ่านไปได้ เขาหันมาเห็นรุจายื่นกุญแจสำรอง
“มีกุญแจสำรองทำไมไม่บอก” คมกฤชถาม
“ก็คุณเอาแต่ด่าๆๆ ฉัน แล้วก็เข็นรถเฉยเลย ตกลงว่าเรื่องคดีปล้นเพชรคืบหน้าไปถึงไหนแล้วคะ สารวัตรธีรพัฒน์”
คมกฤชมองรุจา เขารู้สึกอยากเอาคืนบ้าง
“อยากรู้นักใช่มั้ย” แววตาคมกฤชเต็มไปด้วยความคิดที่อยากล้างแค้น

ณ ร้านสตาร์ไดมอนท์ เพชรเดินนำมุกดาเข้ามาหยุดที่โต๊ะหน้าห้อง
“นั่งที่นี่” เพชรสั่ง
มุกดามองโต๊ะ ไม่ทันได้ตอบอะไร สาลินี เลขาตัวจริงของเพชรก็เดินนวยนาดเข้ามา
“คุณเพชรคะ วันนี้มีประชุมดีลเลอร์จากแอฟริกาใต้ค่ะ”
สาลินีหันไปเห็นมุกดายืนอยู่ ก็ไม่สนใจเพชรรีบหันมาวางท่าขู่ไล่มุกดาทันที สาลินีมองมุกดาหัวจรดเท้า
“นี่เธอ มาสมัครแม่บ้านเชิญชั้นล่างนะ อย่ามาเกะกะคุณเพชร รปภ.ปล่อยให้เข้ามาถึงนี่ได้ยังไง”
สาลินีคว้าข้อมือแล้วกระชากมุกดาอย่างแรง มุกดาจับข้อมือสาลินีบิดกลับโดยสัญชาตญาณ
“อ๊าย เจ็บ”
มุกดานึกขึ้นได้ก็รีบปล่อยมือ เพชรมองอย่างสงสัย
“ทำไมต้องทำร้ายคุณสาลินีด้วย มุกดา”
“หนูมุก หนูมุกไม่ได้ตั้งใจค่ะ มันเป็นอัตโนมัติน่ะค่ะ”
สาลินีทำเป็นฉีกยิ้ม แต่ยกมือขึ้นตั้งท่า “ระวังจะเจออัตโนมือของชั้น”
สาลินีทำท่าตบเผียะๆ ขู่มุกดา แล้วหันมายิ้มหวานใส่เพชร
“คุณเพชรรู้จักน้องหน้าตาแบ๊วๆ คนนี้ด้วยเหรอคะ”
“มุกดา เลขาใหม่ของผม” เพชรตอบ
สาลินียิ้มหวาน “อ๋อ เหรอคะ เลขาใหม่” สาลินีนึกขึ้นได้ “ว๊าย แล้วสาลี่ล่ะคะ สาลี่เป็นเลขาคุณเพชรอยู่นะคะ”
เพชรมองมุกดาด้วยหน้าตาจำใจ มุกดาหันไปยิ้ม แต่สาลินีแยกเขี้ยวให้อย่างเกลียดขี้หน้า

ที่บริเวณป้ายรถเมล์เวลานั้น รุจามีสีหน้าจริงจังกำลังจ่อเครื่องอัดเสียงที่คมกฤชอยู่
“ใครคะที่ปล้นอะดอเรลลา”
“คนร้ายชื่อนาย ชัยยศ เป็นลิเกเก่า” คมกฤชแต่งเรื่อง “รำไปรำมาเกิดอยากใส่ของจริง เลยยกพวกทั้งคณะมาปล้นอะดอเรลลา...จะบ้าตาย คนสมัยนี้ แต่นางเอกลิเกคณะเค้าหุ่นดี๊ดีนะ ผมยังชอบเลย”
“แสดงว่ากลุ่มโจรมีผู้หญิงด้วยเหรอคะ”
“มี...สิ แต่ไม่รู้หญิงจริงรึเปล่านะ เหมือนอย่างคุณเนี้ยแหละ ไม่รู้เพศอะไร ฮ่าฮ่าฮ่า”
รุจากัดฟัน “ฉันผู้หญิงค่ะ”
“แน่ใจเหรอ”
“แน่ใจค่ะ...แล้วอย่างนี้พวกปล้นเพชรจะติดคุกกี่ปี”
“ให้ศาลตัดสินก่อนสิ... พอแล้วล่ะ ตอนแรกกะว่าไม่ให้สัมภาษณ์ใครแล้วนะ ก่อนออกมา หนังสือข่าวด่วนก็เพิ่งสัมภาษณ์ผมไป บอกว่าจะเอาไปลงกรอบเช้าพรุ่งนี้ นิวส์ไทม์ล่ะ จะไปลงวันไหน”

รุจาหน้าตาตื่นเต้นที่รู้ว่าคู่แข่งก็ได้ข่าวไปเหมือนกัน

ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์ รุจายืนอยู่หน้าเครื่องพิมพ์แท่นขนาดใหญ่ พร้อมกับสมพล บรรณาธิการข่าว และบรรพตเจ้าของหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นพ่อของเธอนั่นเอง

“แหล่งข่าวรุจา แน่นอน มั่นคง หนักแน่น เชื่อถือได้ เป็นข่าวด่วน sms ได้เลยค่ะ เราจะได้เป็นที่หนึ่งก่อนใคร” รุจามั่นใจ
“ผมไม่เคยได้ยินประเด็นคณะลิเกเลยนะ”สมพลข้องใจ
“บก.ไม่รู้หรอกค่ะว่า กว่ารุจาจะได้แหล่งข่าวคนนี้มา..เลือดตาแทบกระเด็น”
“ดีมาก ลูกพ่อ” บรรพตชม “เป็นนักข่าว จิตวิญญาณเราต้องทุ่มเทเพื่อความถูกต้อง สมพล”
“ครับ คุณบรรพต”
สมพลยิ้มแป้น บรรพตมองแล้วถาม
“ยิ้มทำไม”
“ก็เรียกทำไมล่ะครับ”
“ฉันเรียกเพราะจะให้แกเอาข่าวจากลูกสาวฉันไปเป็นข่าวด่วน เอสเอ็มเอส ไม่ใช่มามัวแสยะยิ้มให้ฉัน”
“คร้าบ” สมพลหันไปสั่งลูกน้อง “เฮ้ย ข่าวลูกสาวนาย..ด่วน!!”
รุจากอดพ่อด้วยสีหน้าที่มีความสุขมาก

ที่หน้าห้องทำงานของเพชร มุกดามองคนงานที่นำโต๊ะมาวางอยู่สุดมุมห้องตามคำสั่งของสาลินี คนงานวางเสร็จก็เดินออกไป
“คุณสาลี่คะ” มุกดาเรียก
“สาลินีจ้ะ สาลี่ไว้เฉพาะระดับผู้บริหารเรียก พนักงานชั้นล่างๆอย่างเธอ..เรียกชื่อฉันให้เต็มด้วยความเคารพอย่างสูง... คุณสาลินี”
“ค่ะ คุณสาลินีสุดสวย”
สาลินีทำท่าประกอบ “เซ็กซี่ ขี้เล่น เน้นทุกลีลา”
“ค่ะ... เพอร์เฟ็คท์ เป๊ะที่สุด... คุณสาลินีจะให้หนูมุกไปนั่งทำงานตรงซอกนั้นจริงๆ เหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ หรือเธอจะมีปากเสียงจ๊ะ มุกดา”
มุกดามองแล้วเดินไปลากโต๊ะเข้ามา
“หนูมุกว่ามาใกล้ๆหน้าห้องพี่เพชรดีกว่า หนูมุกอยากได้ไออุ่นจากพี่เพชร”
สาลินีรีบวิ่งเข้าไปยื้อไม่ให้มุกดาเลื่อนโต๊ะ
“ดัดเหลือเกินนะยะ มาวันแรกจะเล่นของสูงซะแล้ว รู้บ้างว่าชั้นจองอยู่ หล่อนเป็นใครถึงกล้าขัดคำสั่งฉัน”
มุกดาบิดไหล่ไปมา แล้วทำหน้าตากวนประสาท “กลัว..หนูมุกกลัวจังค่ะ”
มุกดาออกแรงเลื่อนจนสาลินีหน้าคว่ำ สาลินีไม่ยอมกระโดดขึ้นนั่งบนโต๊ะอย่างไม่ยอมให้มุกเลื่อนโต๊ะ
“หล่อนจะประกาศสงครามกับฉันใช่มั้ย รู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงทุกคนในสตาร์ไดมอนด์ยกให้ฉันคือเบอร์หนึ่งของที่นี่”
“โอย ได้ยินแล้ว หนูมุกขาสั่น ใจสั่น หวิวๆจะเป็นลมแล้วค่ะ”
มุกดายกโต๊ะ สาลินีใกล้จะร่วงแบบเทกระจาด แต่เธอรีบคว้ามุมโต๊ะไว้ได้
“กรี๊ดด นังมุกดอง”
สาลินีกรี๊ดดังลั่น มุกดายิ่งแกล้งทำเป็นลากโต๊ะไปอย่างไม่สนใจสาลินี
“มุกดาค่ะ พ่อแม่ตั้งให้ชื่อ มุกดา จำไว้นะคะ”
เพชรเปิดประตูมาเห็นพอดี “ทำอะไรกัน”
มุกดาทำเป็นตกใจยกโต๊ะเท
“อุ๊ย หนูมุกต๊กกะใจ”
สาลินีกรี๊ดยาวเพราะถูกเทร่วงกระจาดลงไปกองกับพื้น
“มุกดา” เพชรยังไม่ทันต่อว่าอะไร เจนจบก็เข้ามาก่อน
“เพชร นายเห็นSMS ข่าวนี้หรือยัง” เจนจบอ่านให้ทุกคนฟัง “ตำรวจเผยจับแก๊งปล้นอะดอเรลลาได้แล้ว ที่แท้เป็นคณะลิเก”
“คณะลิเก!” เพชรตกใจ
มุกดารีบวิ่งมาทางเจนจบ ส่วนสาลินีกำลังจะลุก แต่มุกดาแกล้งกระแทกเบาๆ แล้วเคลื่อนตัวผ่าน ทำให้สาลินีเสียหลักหงายหลังผึ่งขาชี้ฟ้า เพชรกับเจนจบหันไปมอง
“คุณสาลี่” เพชรตกใจ
มุกดาพยายามกลั้นขำ
“คุณสาลี่เป็นลมไปแล้วค่ะ” มุกดาบอกด้วยเสียงไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ณ บ้านของมุกดา คมกฤชอ่าน SMSข่าวสั้นในไอโฟนแล้วถึงกับหัวเราะพรึ่ด
“รุจาเอ๊ย..เชื่อเข้าไปได้ยังไง”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงสายเข้าดัง คมกฤชมองชื่อแล้วกดรับทันที
“เออ..ว่าไง ... ไอ้ธี”
ที่กองปราบ ธีรพัฒน์กำลังโวยใส่เพื่อน
“แกใช่มั้ยที่ไปหลอกนักข่าว นายฉันกำลังโมโหควันออกหู เพราะบก.นิวส์ไทม์ บอกว่าคนให้ข่าวคือฉัน”

รุจายืนอยู่ต่อหน้าบรรพตและสมพลที่หน้าแดงก่ำ อยู่ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์
“ไหนว่าแหล่งข่าวแน่นอน” บรรพตถาม
“มั่นคง” สมพลเสริม
“หนักแน่น” บรรพตต่อ
“เชื่อถือได้ค่ะ” สมพลเสริมอีก
บรรพตเหล่มองสมพลที่ต่อประโยคของเขา
“อธิบดีตำรวจเพิ่งวางสายไป รู้มั้ยเค้าถามพ่อว่ายังไง”
“นักข่าวคุณอายุสมองเท่าไหร่” สมพลเสริม
บรรพตเหล่มองสมพลอีก
“งี่เง่า ไม่ได้เรื่อง ไม่มีวิจารณญาณ ใครสั่งใครสอน” สมพลมาเป็นชุด
“ฉันเอง” บรรพตตอบ
สมพลหุบปากทันที บรรพตหันไปทางลูกสาว
“ไปเอาข่าวมาจากไหน”
“ก้อแหล่งข่าวรุจาเป็นตำรวจเจ้าของคดีนี้เลยนะคะ”
สมพลเสนอหน้า “พันตำรวจตรี ธีรพัฒน์”
“ใช่ค่ะ” รุจาตอบ
“ตำรวจที่ลูกอ้างชื่อ เค้านั่งประชุมอยู่กับอธิบดี ทั้งวัน”
“ทั้งวัน” สมพลย้ำ
“โว๊ย” บรรพตโพล่งออกมา
สมพลเบือนหน้าไปพูดเบาๆ “โว๊ยด้วย”
“รุจา พ่อรู้ว่าลูกตั้งใจ..แต่จะเป็นนักข่าวที่ดี ลูกต้องมีทั้งสัญชาติญาณและวิจารณญาณ ไม่ใช่ว่าใครจะมาเป็นนักข่าวก็ได้ อาชีพเราต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม”
รุจาหน้าจ๋อย “ค่ะ พ่อ”
บรรพตหันไปเห็นสมพลทำท่าสั่งสอนเลียนแบบอยู่

รุจาเดินลิ่วๆมาที่หน้าห้องทำงานของธีรพัฒน์ จ่าถนอมลุกขึ้นขวางทันทีเพราะจำหน้าได้
“น้องอีกแล้ว”
“หนูมาหาสารวัตรธีรพัฒน์”
รุจาแหงนมองคอตั้งบ่าจ้องที่กระดานติดภาพ ยศ ชื่อ ของนายตำรวจระดับสูงแผ่นใหญ่ภายในกองปราบปราม เห็นชื่อและรูปของ พ.ต.ต. ธีรพัฒน์ กำเนิดดี จ่าถนอมมองรุจาอย่างสงสาร
“รู้หรือเปล่า ที่น้องลงข่าวไป สารวัตรเค้าโดนนายตำหนิ”
“หนูโดนหลอกน่ะ พี่คะ แล้ววันนั้น ผู้ชายตัวสูงๆ ที่ออกจากห้องสารวัตร ชื่ออะไรคะ” รุจาถาม
จ่าถนอมพยายามนึก รุจารีบบอกลักษณะเพิ่ม
“หล่อๆ สูงๆ บุคลิกดี แต่นิสัยเลวที่สุด”

ที่บริษัทประกันภัยของคมกฤช คมกฤชนั่งจามติดๆกันไม่หยุด
“ใครคิดถึงเนี่ยะ”
คมกฤชหันไปคลิกจอคอมพิวเตอร์ จู่ๆ ก็มีเสียงเอะอะดังมาจากด้านหน้า
“เข้าไม่ได้นะคะ นัดไว้หรือเปล่า” เสียงเอื้อมดาว เลขาของคมกฤชดังขึ้น
คมกฤชลุกขึ้นมอง เห็นรุจาผลักเอื้อมดาวเลขาคมกฤช แล้วพรวดเข้ามา พอเห็นรุจาคมกฤชก็ยิ้ม
“ว่าไงคุณนักข่าว”
เอื้อมดาวเดินออกไป รุจาเดินตรงมาต่อว่าคมกฤช
“นายมันแย่ ..ไม่มีความละอาย เป็นผู้ชายซะเปล่า กะล่อน สัปปรับ เกิดมาคงไม่มีใครรัก ถึงได้เที่ยวโกหกเรียกร้องความสนใจ ถ้าว่างมาก ก็หัดปล่อยนกปล่อยปลาซะบ้าง บุญจะได้ช่วยให้จิตใจนายสูงกว่านี้”
คมกฤชถามอย่างใจเย็น “เอาน้ำมั้ย”
“สองแก้ว” รุจาตอบ เธอหายใจแรง เท้าเอว มองอย่างเอาเรื่อง
“ทีนี้ตาผม” คมกฤชเดินเข้าไปหา “ผิดก็อย่าพาลคนอื่น แล้วมาถึงนี่ทำไม จะฟ้องผมเหรอว่าเป็นคนให้ข่าวมั่วๆ เอาเลย ..ตามสบาย ผมจะได้ฟ้องกลับบ้างว่านักข่าวไม่มีคุณภาพอย่างคุณ ไม่สมควรอยู่ทำงานให้วงการเค้าเสื่อมเสีย”
“นายว่าฉันเกินไปแล้วนะ ฉันว่านายแค่นิดเดียว”
“มากกว่านี้ ผมก็จะด่า” คมกฤชบอก
“วันนี้ฉันอาจจะไม่ใช่นักข่าวที่เก่งมาจากไหน ถึงเป็นเหยื่อ โดนคนโรคจิตอย่างนายหลอกได้ แต่รับรองเลยว่าอีกหน่อยฉันจะต้องเป็นนักข่าวที่ดีแน่ๆ เพราะฉันจะทำให้นายไม่มีโอกาสไปหลอกคนอื่นอีก”
“นี่เธอ”
“ฉันชื่อรุจา จำไว้ด้วย รุจา จากนิวส์ไทม์ ที่จะคอยตามเปิดโปงบริษัทของนายลองผู้บริหารหน้าด้านหลอกคนอื่นได้ ฉันมั่นใจเลยว่าธุรกิจนายมันก็จ้องจะเอาเปรียบลูกค้า ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับประชาชน”
คมกฤชรำคาญตรงเข้าไปล็อคแขนรุจา แล้วดันรุจาติดผนัง
“อย่านะ นายจะทำอะไรฉัน”
รุจาจ้องคมกฤชที่หน้าอยู่ใกล้จนแทบจะติดกัน
“ก็ลงโทษปากเธอไงล่ะ”
คมกฤชก้มลงจูบรุจาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว รุจาตกใจก่อนจะหลับตาพริ้มเคลิ้มไปกับจูบอันเร่าร้อน
“หลับตาซะพริ้ม คิดว่าฉันจะจูบเธอหรือไง” คมกฤชคิดในใจ
รุจาสะดุ้งแล้วลืมตา เห็นคมกฤชกำลังจ้องเขม็ง เธอนึกอายที่เมื่อกี้คือจินตนาการของตัวเองคนเดียวล้วนๆ
“ฉันไม่มีเวลามาสนใจคนอย่างเธอ ออกไปได้แล้ว”
คมกฤชคว้าแขนรุจาเปิดประตู เหวี่ยงรุจาออกนอกห้อง
“นายคมกฤช” รุจาโมโห
คมกฤชปิดประตูใส่หน้ารุจาอย่างไม่แคร์
รุจามองอย่างโมโห แล้วกระโดดถีบประตูด้วยความเจ็บใจ
“รู้จักรุจาน้อยไปแล้ว”

ที่ทำงานกองบก.นิวส์ไทม์ สมพลกับบรรพตมองรุจาที่หน้าตาจริงจัง
“บริษัทของนายคมกฤชต้องมีนอกมีในกับการหายไปของอะดอเรลลา” รุจาบอก
“เดี๋ยวก่อน ลูกสาวสุดที่รัก บริษัทคุณคมกฤชเค้าต้องจ่ายเป็นพันล้านเลยนะ”
“แล้วตรงไหนที่เป็นผลประโยชน์.... ผมยังนึกไม่ออก” สมพลงง
“ยังไม่มีการจ่ายเงินประกันนี่คะ”
“ใช่ นึกออกพอดี นี่แหละประเด็น” สมพลสรุป
“บางทีเพชรอะดอเรลลาอาจจะไม่มีจริงก็ได้ แต่เป็นกระแสลวงโลก ไม่ต้องห่วงนะคะ รุจาจะตามล้วง ลับ สาวไส้เรื่องนี้มาให้ได้”
บรรพตกับสมพลแอบมองกัน
“ผมว่าคุณน่าจะไปทำข่าวบันเทิง ใครกิ๊กใคร เลิกกับใคร แอบแทงข้างหลังใคร อักษรย่อ ก ข ค ง เอ บี ซี เอาให้งงไปเลย” สมพลเสนอ
“ไม่ค่ะ.. รุจาชอบงานท้าทาย”
“อุดมการณ์มุ่งมั่นเหมือนพ่อ”
“รุจาจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเองว่ารุจาก็เป็นนักข่าวที่ดีได้ โดยเฉพาะนายคมกฤช เค้าต้องถอนคำพูดทุกคำที่ดูถูกรุจา”
“เอาเลย” บรรพตสนับสนุน
“อะไรคะ”
“ก็ทำสิ อย่ามามัวยืนทำตาฝัน ดีแต่พล่ามเพ้อเจ้ออยู่ตรงนี้ ทำเลย แล้วต้องทำให้ดีด้วย ไม่งั้น...”
“ไล่ออก” สมพลเสริม
บรรพตมอง สมพลยืดเหมือนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เสียเอง

ภายในห้องประชุมของบริษัทคมกฤช คมกฤชลุกพรวดต่อหน้าลูกน้องทุกคน
“ลูกค้า 4 รายโทรมายกเลิกสัญญา”
ลูกน้องทุกคนกลัวท่าทางโมโหเป็นไฟของคมกฤช
“ตอนนี้มีข่าวลือว่า บริษัทเราไม่มั่นคงเรื่องการเงิน” เอื้อมดาวบอก
“ข่าวลือ .. ฉันรู้แล้วว่ามาจากใคร” คมกฤชพูดด้วยหน้าตาที่เดือดดาล

ที่สำนักงานกองบก.นิวส์ไทม์ รุจากำลังเลือกรูปในคอมพิวเตอร์ มีเสียงเดินปึงปังเข้ามา รุจาหันไปมองเห็นคมกฤชถือแปรงขัดส้วมกับน้ำยาล้างพื้นเดินตรงมาที่โต๊ะรุจา
รุจาลุกขึ้น คมกฤชโยนของทั้งหมดลงตรงหน้าเธอ สมพลกับทุกคนในกองบก.มองอย่างตกใจ
“ของฝากจากฉัน เอาไว้ขัดปากเธอ” คมกฤชบอก
“จะมาหาเรื่องอะไรฉันอีก”
บรรพตเปิดประตูห้องออกมามอง
“เธอนั่นแหละที่จองเวรฉัน มีสื่อในมือคิดจะทำลายใครก็ได้ใช่มั้ย ฉันบอกไว้เลยนะ ทองแท้อย่างฉันทนไฟ ฉันไม่กลัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุเรศๆที่เธอปล่อยทำลายชื่อเสียงบริษัทฉัน” คมกฤชใส่เป็นชุด
“อ้าว.. คุณ..ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งกล่าวหากัน” สมพลเบรค
คมกฤชหันมาสวน “สั่งสอนลูกน้องคุณด้วย มีจรรยาบรรณซะบ้าง อย่ากร่างนัก”
รุจาโมโหคว้าแปรงขัดส้วมปาไปโดนคมกฤชเต็มๆ
“โอ๊ย” คมกฤชร้อง
“ฉันว่าแปรงขัดส้วมนี่แหละที่นายจะต้องเอาใช้ขัดปากนาย ถ้าดูถูกหนังสือพิมพ์ของฉันอีกคำ ฉันจะจองเวรอย่างที่นายพูด” รุจาโกรธ
คมกฤชเห็นทุกคนมองตรงมาจึงเตะแปรงขัดส้วมกระเด็น แล้วเดินพรวดๆออกไป บรรพตเดินมาหารุจา
“ไอ้หมอนี่ใคร ถึงบ้าระห่ำขึ้นมาด่าหนังสือพิมพ์ชั้น”
“พ่อไม่ต้องค่ะ เรื่องนี้รุจาจัดการเอง มันเป็นแค้นของรุจากับเค้าสองคน รุจาจะไม่เอาหน้าที่มาปนกับเรื่องส่วนตัว”
รุจามองแล้วคว้าน้ำยาขัดส้วมวิ่งตามออกไป
“ตกลงฉันจะได้รู้มั้ยว่ามันเป็นใคร” บรรพตเปรย
“ต้องรอถามคนที่วิ่งออกไปน่ะครับ” สมพลบอก

ที่หน้าตึกหนังสือพิมพ์นิวส์ไทม์ คมกฤชกำลังเดินลงจากตึก รุจาวิ่งตามมา
“นายคมกฤช”
คมกฤชหันมา รุจาฉีดน้ำยาล้างส้วมเข้าที่เสื้อ
“เฮ้ย เธอ อย่า” คมกฤชปัดป้อง “หยุด”
รุจาตามมาฉีดจนหมดขวด
“มันเหม็น” คมกฤชบอก
รุจาปาขวดใส่คมกฤชอย่างแรง
“เหม็นน้อยกว่านาย จำไว้ นายกับฉัน ชาตินี้”
คมกฤชรีบพูดต่อ “ตายกันไปข้างนึง”
รุจากับคมกฤชมองหน้ากันอย่างคู่แค้น

ที่หน้าห้องทำงานของเพชร มุกดากำลังจัดโต๊ะทำงานที่วางติดกับสาลินี สาลินีเดินมาคว้ากระเป๋า
“กลับได้แล้วย่ะ ไม่ต้องทำเป็นขยัน ยังไงผลงานเธอก็ไม่เข้าตาคุณเพชร”
“ใช่ กลับบ้านได้แล้ว หนูมุก” เสียงมรกตดังขึ้น
“คุณป้า คุณป้าของหนูมุก” มุกดาหันไปหา
สาลินีหันตามไป มุกดากำลังจะเดินไปหามรกต แต่สาลินีรีบเบียดมุกดาแล้วรี่เข้าไปไหว้ก่อน
“คุณมรกตสวัสดีค่ะ มีอะไรให้สาลี่รับใช้คะ สบายดีนะคะ ผอมลงหรือเปล่าคะ แต่ยังสวยเหมือนเดิมเลย”
“ลิ้นเธอน่ะ” มรกตพูด
“คะ” สาลินีงงรับมุกไม่ทัน
“ตวัดได้รอบคอแล้ว” มรกตแขวะ
“เหรอคะ สาลี่ไม่รู้ตัวเลย”
สาลินีทำเป็นหัวเราะไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อมรกตเดินผ่านเธอก็แอบทำหน้าหมั่นไส้ใส่
“ใครให้หนูมุกนั่งทำงานตรงนี้” มรกตถาม
“สาลี่เองค่ะ ตอนแรกจะให้นั่งอีกห้อง แต่เห็นว่าคุณเพชรพามาฝากทำงาน สาลี่ก็เลยจัดให้นั่งด้านหน้าตรงนี้”
“เรียกคนมายกโต๊ะ” มรกตสั่ง
“ยกไปด้านนอก” สาลินีดี๊ด๊า
“ยกไปไว้ในห้องเพชร” มรกตบอก
สาลินีอ้าปากค้าง มุกดาหัวเราะสะใจ

ภายในห้องทำงานของเพชร มุกดายืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานที่อยู่ใกล้กับโต๊ะของเพชร สาลินีทำหน้าปั้นยิ้มเต็มที่แล้วพูด
“ดีจังเลยค่ะ แต่ถ้ายกโต๊ะของสาลินีมาอีกคน ห้องคุณเพชรจะอึดอัดไปมั้ยคะ”
“เธอไม่ต้องย้ายเข้ามา สาลินี” มรกตบอก
“แม่ครับ คุณสาลี่ต้องสอนงานมุก” เพชรบอก
“แกก็สอนเองสิ”
“ผมไม่ค่อยว่าง ต้องไปเมืองนอก ไปสั่งของ ไปหาลูกค้า”
“นั่นแหละ พาหนูมุกไปรู้งานด้วย” มรกตบอก
“ไหวเหรอคะ กลัวจะไปติงต๊องให้อายคนมากกว่า” สาลินีรีบค้าน
มรกตหันไปถลึงตาใส่ทำให้สาลินีรีบฉีกยิ้ม
“ทำไมยังไม่เลิกงาน” มรกตถาม
“หนูมุกเลิกแล้วค่ะ คุณสาลี่บอกให้รีบกลับ อย่าทำงานเกินเวลาให้บริษัทเอาเปรียบเรา แต่พอดีคุณป้ามาซะก่อน”
สาลินีหันไปทำท่าเหมือนจะฆ่ามุก ส่วนเพชรขยับไปประคองแม่
“ไปครับ กลับบ้าน คุณแม่เพิ่งหาย”
“ฉันหายดี หายสนิท หายเป็นปลิดทิ้ง ตั้งแต่เห็นหนูมุกที่นี่”
เพชรมองแม่ มรกตทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วสั่งอีก
“ทำหน้าที่เจ้านายหน่อยสิเพชร”
มุกดารีบแกล้งทันที “ไม่ต้องให้พี่เพชรไปส่งหนูมุกนะคะ คุณป้า หนูมุกโหนรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า ลงเรือ ต่อวิน กลับเองได้ค่ะ”
“ก็รีบไปสิจ๊ะ มุกดา มายืนขอความเวทนาอยู่ได้” สาลินีบอก
“ตาเพชร แกอยากหูหนวกจริงๆ หรือเปล่า ไม่ได้ยินที่แม่สั่งหรือไง พาหนูมุกกลับบ้าน”
ทั้งเพชร ทั้งสาลินีหันไปจ้องมุกดาเป็นตาเดียว เหมือนอยากจะฆ่าให้ตายเดี๋ยวนั้น

มุกดาเดินหน้าตาเบิกบานมาตามทางเดินหน้าสตาร์ไดมอนด์ เธอโบกมือบ๊ายบายพนักงานทุกคน
ส่วนเพชรพยายามเดินห่าง มุกดาแกล้งเข้าไปคล้องแขนเพชรแล้วเอียงหัวซบไหล่
“คู่รักหวานแหววแห่งปี เค้าต้องเดินควงกันแบบนี้ค่ะ” มุกดาบอก
เพชรจับหัวมุกดาแล้วดันออกห่าง
“ออกไป ฉันกลัวเชื้อโรค”
“เอาอีกแล้ว พี่เพชรอ่ะ เมื่อไหร่จะโรแมนติกกับหนูมุกบ้างคะ จุ๊ จุ๊ ไม่ต้องอายหรอกค่ะ ใครๆเค้าก็รู้ว่าเราเลิฟกัน”
เพชรทำท่าขนลุก หันไปมองรอบๆ เห็นสายตาพนักงานที่มองมา หลายคนแอบหัวเราะคิกคัก เพชรรีบกระชากเสียง
“ก่อนกลับบ้านฉันขอแวะวัด”
“ว๊าย ว๊าย ว๊าย หนูมุกอ๊าย อาย จะไปผูกดวงหาฤกษ์แต่งเลยเหรอคะ”
“ไปรดน้ำมนต์” เพชรบอกแล้วรีบเดินนำไป แต่เสียงมือถือมุกดากับเพชรดังขึ้นพร้อมกัน สองคนหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมกัน
เพชรมองเห็นหน้าจอขึ้นเป็นชื่อ ธีรพัฒน์ ส่วนที่หน้าจอมุกดาเป็นชื่อ พี่กฤชพร้อมรูป คมกฤช
เพชรหันมา มุกดาทำเป็นโบกมือ
“อุ๊ย อุ๊ย หนูมุกไม่ได้นอกใจพี่เพชรนะคะ ธรรมดาของคนสวย ก็ต้องซุกกิ๊กเยอะนิดนึง ขอเวลา 2 นาที เคลียร์กิ๊กคนนี้ก่อน”
มุกดารีบเดินแยกไป เธอกดรับแล้วพูดเสียงเบา
“ว่าไง พี่กฤช”
เพชรกดรับสายบ้าง
“ครับ ...สารวัตรธีรพัฒน์”

ธีรพัฒน์กำลังพูดโทรศัพท์กับเพชรจากภายในห้องทำงานของเขาเอง
“เราตรวจเจอว่า แผ่นดีวีดีแผนรักษาความปลอดภัยของบริษัทคุณพาที เหมือนกับแผ่นที่อยู่ในกระเป๋าเนส... คนร้ายที่ถูกยิงตาย”
เพชรมีสีหน้าตกใจ
“มีคนส่งระบบรักษาความปลอดภัยให้โจร”
อีกด้านหนึ่ง คมกฤชอยู่ในห้องทำงานกำลังพูดโทรศัพท์กับมุกดา
“ทั้งๆที่เรื่องนี้คือความลับสุดยอด คนที่จะรู้คือระดับผู้บริหารเท่านั้น”
“แสดงว่า....ปล้นครั้งนี้มีคนในร่วมด้วย ไม่แน่ว่าจากพาที หรือไม่ก็คนที่สตาร์ไดมอนด์”
มุกดากับเพชรหันมามองกันพอดี
ทั้งสองคนวางสายแล้วปั้นยิ้มให้กันแบบฝืนๆ โดยที่ภายในใจของทั้งคู่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

เพชรวุ่นวายอยู่กับการเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะภายในห้องทำงาน
“คุณสาลี่เค้าเพิ่งโทรมาเตือนเรื่องประชุมกับกระทรวงพรุ่งนี้ ฉันต้องเอาข้อมูลไปคุยกับรัฐมนตรี เธอกลับบ้านไปก่อนได้เลย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณป้าสั่งให้พี่เพชรไปส่งหนูมุก...ยังไงพี่เพชรก็ต้องไปส่ง” มุกดาบอก
“ฉันมีงานด่วน” เพชรย้ำ
“หนูมุกรอได้ค่ะ” มุกดาร้องเพลงแต่ปางก่อน “รอคอยเธอมาแสนนานนนน”
“หยุดหอน ไม่ต้องรอ กลับไปเลย”
“ไม่ได้ค่ะ คำสั่งคุณป้าคือประกาศิต หนูมุกจะรอพี่เพชร”
“ก็ตามใจ เออ ใช้อะไรหน่อยสิ”
“เยส เซอร์” มุกดาพร้อมรับคำสั่ง
“ไปชงกาแฟมาให้หน่อย...ไม่..ไม่...ไปซื้อให้ดีกว่า เดี๋ยวเธอชงไม่อร่อยที่ร้านด้านล่างตึก”
“แต่หนูมุกชงแป๊ปเดียว พี่เพชรก็ได้จิบร้อนๆแล้วนะคะ”
“ฉันอยากกินกาแฟเย็น... ใส่ทุกอย่างเลยนะ แก้วใหญ่ เอาพวกแซนด์วิชมาด้วย 4-5 อัน แล้วก็เลยไปดูที่ร้านอาหารตรงข้ามตึก ... ฉันอยากกินข้าวต้ม แล้วก็ผัดไทย”
“ที่สั่งน่ะ กินคนเดียวหมดเหรอคะ”
“หมด เอาติ่มซำกับเป็ดปักกิ่งมาด้วย ฉันมีร้านประจำ โทรไปแล้วก็รอให้เค้ามาส่ง แล้วเธอค่อยเอาขึ้นมา”
เพชรทำเป็นง่วนอยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์ มุกดานับนิ้ว
“กาแฟ แซนด์วิช สเต๊ก ส้มตำ ติ่มซำ เป็ดปักกิ่ง”
“ยังไม่ไปอีก หิว” เพชรเร่ง
“หิวมากมั้ยคะ หนูมุกว่ากว่าจะได้ครบ พี่เพชรคงไส้ขาดซะก่อน”
“ก็รีบไปสิ”
“รับทราบ หนูมุกปฏิบัติการณ์รักเพื่อสุดที่เลิฟ ณ บัดนาว”
มุกดารีบวิ่งออกไป พอประตูปิด เพชรก็เงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์แล้วมองนิ่งๆ

มุกดาเดินออกมาหน้าห้อง แล้วหันมองกลับเข้าไป
“รอไปเถอะ ไอ้พี่เพชร รอไปเลย ชาติหน้าค่อยกิน”
มุกดาเดินไปได้สักพักเดียว เพชรก็เดินออกมา เขาตรงไปที่โต๊ะสาลินี
เพชรรื้อโต๊ะสาลินีเห็นดีวีดีหลายแผ่น เขาหยิบมาวางเห็นเป็นแผ่นเพลง แผ่นเล่นโยคะ
แผ่นดีวีดีแต่งหน้าตามเทรนด์และแผ่นดูไพ่ยิบซี
“นี่โต๊ะเลขา หรือว่าโต๊ะดูดวง” เพชรพึมพำ เขากอดอกแล้วนิ่งคิด
“ระบบรักษาความปลอดภัย หลุดไปจากใคร”

มุกดาเดินเข้ามาในห้องทำงานของเจนจบ ภายในห้องมีรูปเจนจบกับเพชร รูปเจนจบ
กับเพชร พาที และชนินทร รูปเจนจบกับลูกค้าวีไอพี มีภาพเครื่องประดับออกแบบสวยๆ อยู่ในห้อง
มุกดารื้อดูเอกสาร เธอกรีดดูที่เก็บนามบัตร เจอแต่นามบัตรลูกค้ากับร้านต่างๆ
มุกดาเปิดดูในคอมพิวเตอร์ มีแต่เรื่องออกแบบเพชร เธอมองนิ่งอย่างใช้ความคิด

ชนินทรถือกระเป๋ากำลังจะกลับบ้านอยู่ที่ทางเดินหน้าสตาร์ไดมอนด์ เขาเดินคุยมือถือด้วยเสียงเครียด
“โทรมาทำไมตอนนี้”
พนักงานเดินผ่านเขาเพราะกำลังจะกลับบ้าน ชนินทรยิ่งเสียงเข้มหนัก
“ฉันสั่งแล้วว่าอย่าโทร เดี๋ยวมีใครได้ยิน”
ปลายสายตอบกลับแต่ชนินทรสวนกลับอย่างมีอารมณ์
“ของร้อนแบบนั้น ใครจะเก็บไว้กับตัว ฉันไม่โง่ให้ใครมาจับฉันได้หรอก”
ชนินทรเดินเร็วออกไป
มุกดาออกจากมุมที่หลบฟังอยู่ เธอมองตามชนินทร แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย

อีกด้านหนึ่ง เพชรเดินคุยมือถืออยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เจนจบ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกหน่อย สองคน”

ป้ายบนโต๊ะเขียนโชว์หราว่า ‘ชนินทร สุดจิตต์ Managing Director’ ภาพในห้องมีแต่ภาพถ่ายชนินทรในมาดนักธุรกิจดูดี ไม่มีภาพถ่ายกับเพื่อนๆเหมือนอย่างห้องของเจนจบ
มุกดาดูตู้เอกสาร รื้อโต๊ะทำงานอย่างเร่งรีบจนข้อศอกไปชนแฟ้มเอกสารบนโต๊ะหล่นลงพื้น
มุกดาก้มลงเก็บ เห็นเอกสารบางอย่างโผล่ออกมา มุกดาเปิดดูเห็นเป็นแผนผังทางเข้าออกโรงแรม
และห้องแสดงเพชรอะดอเรลลา
“ผังโรงแรม... กับห้องแสดงอะดอเรลลา”
มุกดารู้สึกวาบด้านหลัง เธอหันไปเห็นชนินทรยืนจ้องอยู่ก็ตกใจรีบลุกขึ้น
“แกเข้ามาทำอะไร” ชนินทรเสียงเข้ม

มุกดายืนอึ้งเพราะนึกไม่ถึงว่าจะเจอชนินทรในตอนนี้









Create Date : 31 มกราคม 2555
Last Update : 31 มกราคม 2555 10:39:44 น.
Counter : 371 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]