All Blog
มือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 5 (ต่อ)




ท้ายรถกระบะของพิมมาดาที่จอดอยู่ในที่จอดรถบ้านสุขสันต์ ใบหน้าของพวกเด็กๆ โผล่พ้นชายผ้าใบออกมาสลอน แต่ทั้งสามคนดันหลับอยู่! ป๊อปคอร์นเลียจีจ้าเพื่อปลุกให้ตื่น แต่จีจ้าไม่ตื่น ป๊อปคอร์นจึงหันไปเลียแจ๊ส

แจ๊สสะดุ้งตื่น “อุ๊ย” แจ๊สมองไปรอบๆ “โจ๊ก จีจ้า ตื่นๆๆ เรามาถึงบ้านนายสุขสันต์แล้ว”
“ถึงแล้วเหรอ” โจ๊กพูด
“จีจ้าปวดฉี่”
“ชู่ว์...” แจ๊สให้น้องเงียบ
“เสียงอะไร” ยามทักแล้วเดินเข้ามาดูๆ
แจ๊สรีบเอาผ้าใบคลุมทุกคนไว้ ยามเดินเข้ามาใกล้ พอไม่เห็นอะไรก็เดินกลับไป
“แอบตามมาอย่างนี้ ถ้าน้าพิมรู้เข้า..ตายหยังเขียด” จีจ้าว่า

ริมสระน้ำในโรงแรม แพรวพิลาศกำลังนอนเอนหลังอยู่โดยมีฉัตรชัยใช้พัดลูกไม้สีดำของเธอโบกลมให้เธอ มาวินยืนมองอยู่ข้างๆ ในมือถือช่อดอกไม้จากร้านพิมมาดาอยู่
“เป็นอะไรมากมั้ย ปลุกได้แล้ว” มาวินถาม
“ยังจะมีหน้ามาถาม คุณแพรวเป็นคนจิตใจอ่อนไหว..ร่างกายก็อ่อนแอ..แกจะฆ่าเธอแล้ว ยังไม่เก็ตอีก” ฉัตรชัยตำหนิ
มาวินมองช่อดอกไม้ในมือ “ดอกไม้..จากร้านของพิมโรส โอ้โห..จุ๊ๆๆ ไอ้สุขสันต์นายแกนี่มันเด็ดจริง..สั่งดอกไม้กิ๊ก..ไปให้แฟน..ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง พวกผู้หญิงก็โง่ต่อไป”
แพรวพิลาศลืมตาขึ้นแล้วก็ลุกเด้งขึ้นมาทันที
“แปลว่า..สุขสันต์กำลังจีบเจ้าของร้านดอกไม้นี่อยู่เหรอ มันเป็นใคร หาฉัตรชัย!!” แพรวพิลาศถามเสียงเข้ม
มาวินยิ้มอย่างสะใจ เขาดึงนามบัตรออกจากช่อดอกไม้ “ดูสิครับ ในนามบัตรร้านตรงนี้..มีที่อยู่ด้วย..ขอให้โชคดีนะ..พ่อบอดี้การ์ดเลือดร้อน ฮ่าๆๆๆ” มาวินดีดนามบัตรใส่ฉัตรชัย แล้วเดินไป
“ไอ้เลว!” ฉัตรชัยฉุนเขารีบคว้านามบัตรแต่แพรวพิลาศไวกว่าดึงนามบัตรมาจากมือฉัตรชัยแล้วพลิกอ่านที่อยู่โดยละเอียด แพรวพิลาศตาลุกวาว

ที่บ้านของสุขสันต์ สุขสันต์พาพิมมาดาเดินเข้ามาชมในบริเวณบ้าน ที่ตลอดทางประดับประดาด้วยภาพเขียนฝีมือเด็กๆ กับงานปูนปั้นน่ารักๆ
“ของตกแต่งส่วนใหญ่ก็..เป็นของที่เด็กๆในมูลนิธิทำน่ะครับ” สุขสันต์รีบบอก “ แกอยากจะตอบแทนผม ผมก็ยินดีที่จะมีของแบบนี้ในบ้าน..เวลามองไปแล้ว มันรู้สึกสดชื่น..มีกำลังขึ้นมาได้”
“คุณคงจะรักเด็กมากเลยนะคะ นี่ถ้าคุณมีลูก เค้าคงต้องเป็นเด็กที่โชคดีมากแน่ๆ” พิมมาดาชม
“คุณพิมรักเด็กมั้ยครับ” สุขสันต์ถาม
“เอ่อ ก็.”
“ต้องรักอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แหม ก็เลี้ยงหลานตั้งสามคนอย่างนั้น ผมไม่น่าถาม..เออ แล้วเรื่องที่จะให้ผมติดต่อโรงเรียนประจำดัดสันดานที่อินเดีย”
สุขสันต์เปิดประตูกระจกซึ่งเป็นประตูที่เปิดไปสู่สวนหลังบ้าน เขากดสวิทซ์เปิดไฟ แล้วแสงสว่างก็ติดพรึ่บจนเห็นสวนที่ถูกตกแต่งประดับประดาด้วยไฟระยิบระยับ มีมุมดินเนอร์เล็กๆ ใต้แสงเทียนอยู่ด้วย
“โหว...สวยจังเลยค่ะ” พิมมาดาตะลึง
สุขสันต์ดีดนิ้ว ฮิมกดเปิดเพลงจาก ipod ออกลำโพงไปทั่วบริเวณ แต่เขากดผิดกลายเป็นเพลงหมอลำ สุขสันต์และพิมมาดาทำหน้างงๆ สุขสันต์หันไปมองทางฮิมแล้วก็โมโห ฮิมสะดุ้งรีบปิดแล้วเปิดใหม่ทันที
“อูย...งานเข้าแล้ว” ฮิมบ่นกับตัวเอง
ดนตรีเพลงแจ๊สเบาๆ ดังขึ้นมาแทน สุขสันต์ยิ้มแล้วหันมาทำหน้าเขินๆกับพิมมาดา
สุขสันต์โค้ง “เต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ”
“อย่าเลยค่ะ พิมเต้นไม่”
สุขสันต์รีบเข้ามาประกบ “ผมก็เต้นไม่เก่งหรอกครับ เรามามั่วไปด้วยกันดีกว่าครับ”
“เอ่อ” พิมมาดายิ้ม “ค่ะ”

กริสน์เดินด้อมๆ มองๆ ไปรอบบ้าน เขาพูดบลูทูธคุยกับภัทรดนัยไปด้วย
“รู้แล้วว่าหน้าต่าง..แต่มันบานไหนล่ะวะ เอาให้แน่สิเว้ย” กริสน์ถาม
ในรถ ภัทรดนัยกำลังบัญชาการอยู่ ตรงหน้าเขามีโน้ตบุ๊คที่หน้าจอเป็นแบบแปลนบ้านของสุขสันต์
“ชั้นก็กำลังดูแปลนบ้านนายสุขสันต์ให้อยู่ไง..อืมๆ แกเดินจากที่จอดรถ มาด้านขวาของบ้าน...ทางนี้..อืม..งั้นระเบียงห้องที่สองที่แกเห็น ที่หันหน้ารับทิศตะวันออก..เป็นห้องทำงานคุณสุขสันต์ ชัวร์!”
“ชั้นจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ” กริสน์ตั้งท่าหาที่ปีน

กริสน์โหนตัวปีนขึ้นมาที่ระเบียงห้องชั้นบนอย่างคล่องแคล่ว เขาเอาหลังชิดผนังเตรียมตัวจะเข้าไป
กริสน์จะเปิดประตูเลื่อนเข้าไปแต่ก็ต้องผงะเพราะห้องนั้นเป็นห้องพักผ่อนของพวกบอดี้การ์ด มีบอดี้การ์ดนั่งพักผ่อนอยู่2-3คน ทั้งหมดกำลังรุมดูฟุตบอลในทีวีอยู่ โดยทุกคนหันหลังให้เขา
กริสน์ผงะ ถอยออกแทบไม่ทัน แต่ก็เผลอทำเสียงดังแก๊กขึ้น
“เสียงอะไร!” บอดี้การ์ดคนนึงทักขึ้น
บอดี้การ์ดคนนึงเดินแยกออกมาดูแล้วเปิดประตูเลื่อนออกไป แต่ไม่พบอะไร บอดี้การ์ดมองสำรวจจนแน่ใจว่าไม่มีอะไร จึงกลับเข้าไปเฮฮากับเพื่อนต่อ
กริสน์เกาะราวระเบียงห้อยตัวหลบซ่อนอยู่
“ไอ้มั่ว..ไม่ใช่ห้องนี้แล้วห้องไหน..” กริสน์กัดฟันบ่น “ห้องข้างๆ ถ้ามั่วอีก แกโดนแน่”
ระหว่างนั้น กริสน์มองไปอีกด้านก็ถึงกับตาโตเพราะเขาเห็นพิมมาดากำลังเต้นรำแบบแนบชิดอยู่กับสุขสันต์ ทั้งสองใกล้ชิดกัน สบตากัน อมยิ้มและเขินอาย
“เฮ้ย..ไรเนี่ย..ไร้ยางอายสิ้นดี” กริสน์บ่นด้วยความไม่พอใจ

พิมมาดากำลังเต้นรำอยู่กับสุขสันต์
“ไหนคุณพิมบอกเต้นไม่เป็นไงครับ” สุขสันต์ถาม
“พิมก็มั่วๆไปตามคุณสุขสันต์นั่นแหละคะ..จริงๆแล้วเพราะมีผู้นำดี พิมก็เลยดูเหมือนเก่งไปด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นเราต้องเต้นบ่อยๆนะครับ เพราะเรา..เข้ากัน...ได้ดี” สุขสันต์หยอด
พิมมาดายิ้มแค่นๆ
“คุณพิมอยากจะขึ้นไปดู..ห้องนอนผมมั้ยครับ..ผมแต่งในแบบนีโอ โรแมนติก” สุขสันต์ชวน
“เอ่อ..ห้องนอน..ว้าย....เราไปทานอาหารเย็นกันก่อนดีมั้ยคะ”
“อย่าเปลี่ยนประเด็นสิครับ..ว่าไงครับ”
“เอ่อ การตกแต่งภายในของบ้านคุณสวยดีนะคะ แต่คุณสุขสันต์ พิม พิม..พิมกำลังหิวน้ำ..คุณยังไม่ได้มีอะไรให้พิมดื่มเลย”
“โอว..จริงด้วย..ผม..ผมมัวแต่ตื่นเต้น ที่คุณมาบ้าน”
“คะ”
“เรามาหาอะไร..ที่ทำให้ครึ้มๆ..สบายๆ..แต่ช่วยให้เลือดสูบฉีด..สุขภาพดี ดื่มกันดีกว่าครับ” สุขสันต์โอบพิมมาดาไปอีกทาง
กริสน์ไต่ตามไปดู “จะไปไหนกันวะ ทำไมต้องโอบกันด้วย เฮ้ย อย่าไปที่ลับตาคนดิ ไอ้..ไอ้เสือผู้หญิง ไอ้บ้ากาม..เย้ย..ยัยแจ๋น..ผู้หญิงอะไร ไม่หวงตัวเลย นี่หรือเมืองพุทธ!”

ที่ร้านดอกไม้ เต๋ากับเต้ยกำลังเก็บของในร้านอยู่ เต้ยล้างมือจนสะอาด แพรวพิลาศเดินเข้ามาในร้านโดยมีฉัตรชัยเดินหน้าจ๋อยๆ ตามมาด้วย
“สวัสดีค่ะคุณขา” เต้ยทัก
แพรวพิลาศมองทั้งเต๋าและเต้ยแบบหัวจรดเท้า “กรี๊ด..ฉัตรชัย...ในที่สุด..สุขสันต์เค้าก็ค้นพบตัวเองเหรอ..ว่าชอบพวกอาหารป่าเปิบพิสดาร!”
“คือ..คุณแพรว..ใจเย็นๆครับ” ฉัตรชัยพยายามปราม
“หมายความว่าไงคะ คุ้ณณณ..อาหารป่าคืออะไรคะ” เต้ยงง
“ก็เก้งกวางไงล่ะยะหล่อน..แล้ว..คนไหน..คนไหน..คือเจ้าของร้านนี้” แพรวพิลาศถาม
“เจ้าของร้านไม่อยู่..ถ้าจะสั่งดอกไม้ สั่งที่พวกเราก็ได้ พวกเราจัดดอกไม้สวยนะคะ” เต๋าบอก
“ช่าย..เพราะพวกแมนแท้ๆมันหายาก” เต้ยรีบเสริม
“คุณแพรวครับ เจ้าของร้านคงจะไม่อยู่จริงๆ เรากลับกันเถอะครับ” ฉัตรชัยชวน
“นายไม่อยากให้ชั้นเจอกับเจ้าของร้านนี้..ทำไมเหรอฉัตรชัย มีอะไรปกปิดชั้นอยู่ใช่มั้ย..นี่ๆๆ เก้งกวางๆ”
“ว้าย..เราไม่ได้ชื่อเก้งชื่อกวางนะคะ”
“เราชื่อ เต๋ากับเต้ย” เต๋ารีบบอก
“พวกเธอโทร.ไปบอกเจ้าของร้านนะ ว่าชั้นอยากจะสั่งดอกไม้ล็อตใหญ่มาก..และชั้นจะรอเจอเจ้าของร้านเท่านั้น”
“อย่ารอเลยค่ะคุณ ไม่รู้ว่าคืนนี้เจ้าของร้านจะกลับหรือเปล่า..คือพอดีว่า..เจ้าของร้าน มีนัดเดทอ่ะคะ..เดทที่บ้านผู้ชายด้วย” เต้ยบอก

“บ้านผู้ชายด้วย!” แพรวพิลาศสูดลมหายใจถี่ๆ

ที่บ้านของสุขสันต์ บอดี้การ์ดเดินคุมบริเวณหน้าประตูบ้าน ที่ด้านหลังพวกเด็กๆวิ่งผ่านไป จากมุมหนึ่งไปซ่อนอีกมุมหนึ่ง บอดี้การ์ดรู้สึกเอะใจแต่พอหันกลับไปก็ไม่พบอะไรผิดปกติ
พวกเด็กๆ วิ่งจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง เด็กทั้งสามไปแอบอยู่หลังพุ่มไม้
บอดี้การ์ดอีกคนผ่านมา เห็นพุ่มไม้สั่นไหวก็เอะใจ จะเข้าไปดู ทันใดนั้นป๊อปคอร์นก็กระโดดพรวดออกมาจากพุ่มไม้ทันที
“เฮ้ย!! หมาใครวะ” บอดี้การ์ดคนนั้นโวยวาย
“เข้ามาได้ยังไง..รีบจับมันออกไปเร็ว เดี๋ยวเจ้านายมาเห็น จะโดนกันหมด ไปๆ” บอดี้การืดอีกคนพูด
พวกบอดี้การ์ดพยายามวิ่งไล่จับ ป๊อปคอร์นวิ่งหนีไป แล้วป๊อปคอร์นก็วิ่งวกกลับมาอีกที คราวนี้พวกบอดี้การ์ดที่วิ่งไล่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ป็อบคอร์นวิ่งไป พอป๊อปคอร์นวิ่งกลับมาอีกที พวกบอดี้การ์ดก็เพิ่มจำนวนขึ้นอีก

ระหว่างนั้น แจ๊ส โจ๊ก และจีจ้าแอบลอบเข้าไปในบ้านอย่างง่ายดาย

ภายในบ้านของสุขสันต์ กริสน์อยู่ที่เบรกเกอร์ของบ้านซึ่งมีหน้าต่างอยู่ใกล้ๆ กริสน์มองออกไปที่พิมมาดากับสุขสันต์ที่กำลังชนแก้วพั้นช์สีสดใสกันอยู่
“อู๊ย..ชนแก้วอยู่ได้ โรแมนติกมากใช่มั้ย หึหึหึ หมดเวลาอินเลิฟแล้วยัยเจ๊โหด”
กริสน์พูดแล้วสับคัทเอ้าท์ลงทันที เพลงดับ ไฟทั้งหมดดับพรึ่บ พิมมาดาร้องกรี๊ดเบาๆ
“หึๆๆ ฮ่าๆๆ งงดิ งงๆๆ ฮ่าๆๆ” กริสน์สะใจแล้วมองไปอีกครั้งก็แทบช็อก “เฮ้ยยยยย อะไรวะนั่น!”
พิมมาดาโผเข้ากอดสุขสันต์
“เฮ้ย จะให้เลิกสวีท ไม่ได้ให้เสียขวัญกอดกัน โหย..ฉวยโอกาสชัดๆ แยกๆ” กริสน์สับคัทเอ้าท์คืน ไฟกลับมาสว่างตามเดิม
“คุณพิมครับ ไฟมาแล้วครับ ..สงสัยไฟจะตก ขอโทษนะครับที่ทำให้ตกใจ” สุขสันต์บอก
“คะ..ค่ะ”
พิมมาดาจะถอยออก แต่สุขสันต์คว้ามือพิมมาดาเอาไว้ “เราไปที่โต๊ะอาหารเถอะครับ เชิญครับ”
“ค่ะ” พิมมาดารับ
สุขสันต์จับมือพิมมาดาพาเดินไปโดยไม่ยอมปล่อย
“เฮ้ย ไรว้า..ยังจับมือต่อ..ปล่อยมือสิ..ปล่อย”
กริสน์ไม่พอใจจึงสับคัทเอ้าท์ให้ไฟดับอีก
“ไฟบ้านคุณสุขสันต์เป็นอะไรคะ” พิมมาดาถาม
สุขสันต์กระชับมือพิมมาดาให้แน่นขึ้น สุขสันต์ดึงพิมมาดาให้มาแนบชิด “ไม่ต้องกลัวครับ ผมไม่ปล่อยมือคุณพิมแน่นอน”
กริสน์สับคัทเอ้าท์ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้ไฟดับๆ ติดๆ
“ปล่อยมือๆๆ” กริสน์ไม่พอใจ
“เฮ้ย ให้ใครไปดูที่ไฟสิ ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ไปๆๆ” สุขสันต์สั่ง
กริสน์เห็นพวกบอดี้การ์ดวิ่งมาทางตึก
“โธ่เว้ย..ยอมแพ้เว้ย..หญิงก็ร้าย ชายก็เลว”
กริสน์จำใจต้องผละไป

ภายในรถ ฉัตรชัยกำลังขับรถโดยมีแพรวพิลาศที่กำลังเดือดดาลนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
“ใช่ นายแกมันเลว”
“แต่...” ฉัตรชัยพยายามแก้ตัวแทน
“ไม่ต้องมาแต่ รีบๆ ขับพาชั้นไปบ้านนายแกให้เร็วที่สุด”
“ไม่อยู่ที่บ้านหรอกครับคุณสุขสันต์”
“เงียบเลย...ขับไปเร็วๆ”
ฉัตรชัยจ๋อย ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ก้มหน้าก้มตาขับต่อไป

ที่ริมสระน้ำภายในบ้านสุขสันต์ สุขสันต์เดินนำพิมมาดามาที่สระว่ายน้ำซึ่งมีโต๊ะดินเนอร์วางอยู่ อย่างโรแมนติก
“เชิญนั่งครับ”
สุขสันต์ขยับเก้าอี้ให้พิมมาดานั่งอย่างสุภาพบุรุษ
“ขอบคุณค่ะ” พิมมาดานั่งลง
สุขสันต์กำลังจะไปนั่ง แต่ฮิมเดินเข้ามาหาเขาแล้วพูด
“ท่านครับ..เอิ่ม มีสาย”
“บอกเค้า..ว่าเดี๋ยวชั้นโทรกลับไป”
“แต่..” ฮิมอึกอัก
สุขสันต์เอะใจ พิมมาดาเห็นท่าทีของสุขสันต์จึงพูดกับเขา
“คงจะธุระด่วน คุณสุขสันต์ไปรับเถอะค่ะ ไม่ต้องเกรงใจพิม”
“งั้น..ผมขอตัวสักครู่นะครับ”
สุขสันต์เดินไปรับสายแล้วแยกออกมาคุยอีกด้าน
“จตุพล” สุขสันต์พูด
ที่หน้าบ้านของอธิป จตุพลพูดสายอยู่กับสุขสันต์
“ผมให้คนส่งตัวอย่างขนมสวีทโอปอไปให้ท่านดูแล้วนะครับ แบบนึงเป็นแบบปกติ อีกแบบนึงเป็นแบบสอดไส้”
“ชั้นเห็นแล้ว ทำได้เนียนมาก แยกไม่ออกจริงๆ ทั้งสีทั้งกลิ่นไม่มีอะไรน่าสงสัย..ดำเนินการเตรียมวางจำหน่ายได้เลย” สุขสันต์ชม
“ทันทีครับ”
จตุพลวางสายแล้วหันมาถามชายที่แต่งสูทดูดีที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พร้อมหรือยังคุณหมอ”
“คะ ครับ.” ชายคนนั้นตอบรับ
“พูดจาให้มันหนักแน่นน่าเชื่อถือเหมือนหมอหน่อย..ไป เข้าไป” จตุพลสั่ง

ที่ห้องทำงานภายในบ้านสุขสันต์ กริสน์ค่อยๆ เปิดประตูจากระเบียงแล้วเดินเข้ามา
“เออ..ชั้นเข้ามาแล้ว..ห้องทำงานนายสุขสันต์ แกหยุดบ่นซะทีได้มั้ย”
ในรถบัญชาการ ภัทรดนัยยังบ่นไม่หยุด
“ยังมีหน้ามาสั่งให้ชั้นหยุดอีกเหรอ..ไอ้ไม่มืออาชีพ ไม่โปรเฟสชั่นเนล..เค้าจะสวีทกัน แกไปเกี่ยวอะไรด้วยวะ..หรือว่า..แกคิดอะไรกะยัยเจ๊โหด..ไม่ได้นะเว้ย มันผิดๆๆๆ คิดบ้างมั้ยว่า ถ้าแกถูกจับได้ว่าแอบเข้าบ้านนายสุขสันต์ จะเป็นไง!!..แกจะทำให้ทุกอย่างพังหมด ไอ้บ้า..ไอ้..เฮ้ย..นี่แกฟังอยู่หรือเปล่า..ไอ้กริสน์..ไอ้กริสน์”
กริสน์ถอดบลูทูธออกแล้วเอามาถือไว้ในมือ
“บ่นอยู่ได้ ขี้เกียจฟัง “เสียงโวยวายดังออกมาจากบลูทูธ “ชั้นจัดการเองได้น่ะ” กริสน์มองเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานในห้อง
กริสน์รีบตรงไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานแล้วกดเปิดเครื่อง ก่อนจะมองเห็นขนมสวีทโอปอสองห่อที่เปิดแล้ววางอยู่ใกล้ๆ
“ขนม..สวีทโอปอ..ไอ้สุขสันต์กินขนมเป็นเด็กๆด้วยเหรอวะเนี่ย ปัญญาอ่อนว่ะ”
กริสน์วางขนมคืนที่เดิมอย่างไม่สนใจ เขายังสนใจคอมพิวเตอร์ตรงหน้าต่อไป

ที่โถงหน้าบันไดชั้นล่างภายในบ้านสุขสันต์ พวกเด็กๆแอบเดินเข้ามาตามทางในห้อง
“ตามมา เงียบๆ ชู่ว์” โจ๊กบอกแล้วเดินนำทีม ทั้งสามค่อยๆเดินไปตามทางกำลังถึงห้อง ฮิมเดินดูดอมยิ้มมาจากอีกด้านของมุมห้องซึ่งกำลังจะเผชิญหน้ากับเด็กๆ อยู่แล้ว แต่ฮิมชะงักเมื่อเห็นห้องน้ำ ตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำไปถ่ายเบา
เด็กทั้ง 3 เลี้ยวออกมาจากมุมโดยคลาดกับฮิมแค่นิดเดียว เด็กทั้ง3 เดินผ่านห้องน้ำที่ฮิมเพิ่งเข้าไปอย่างช้าๆ พอเด็กๆ เดินจากไปฮิมก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี แล้วเดินสวนไปทางที่เด็กๆเพิ่งเดินไป

รถฉัตรชัยวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ภายในรถ ฉัตรชัยกำลังกดโทรศัพท์
“ฉัตรชัย!! จะโทรหาใคร” แพรวพิลาศถาม
“ห๊า” ฉัตรชัยตกใจ “จะๆ..โทรๆ.ไปหาแม่ครับ”
“ไม่ต้องมาอ้าง แกจะแอบโทรไปบอกคุณสุขสันต์..ชั้นรู้..วางโทรศัพท์..เดี๋ยวนี้!” แพรวพิลาศสั่ง
ฉัตรชัยเหงื่อตกเพราะไม่รู้จะช่วยสุขสันต์ยังไง

ที่ห้องอธิป อธิปซึ่งแต่งตัวเป็นมือปืนกำลังเล็งปืนอยู่
“ผมวางไม่ได้หมอ ถ้ามีตำรวจมาจะทำยังไงล่ะ” อธิปบอก
หมอพยายามตรวจอธิปอย่างทุลักทุเล เพราะอธิปไม่อยู่นิ่งคอยเล็งปืนไปมาตลอด
“ครับๆ เสร็จแล้วครับ” หมอบอก
“เสร็จแล้วใช่มั้ย..ถ้างั้นรีบออกไปเร็วหมอ..ผมจะคอยคุ้มกันหลังให้”อธิปบอก
“ป๊า..ป๊าเป็นอะไรพี่เดช ป๊าจะตายมั้ย” โอปอถาม
“อุ๊ย ไม่ได้อาการหนักขนาดนั้นหรอกครับคุณหนูโอปอ..ดูแล้ว เดชว่าเป็นการเห็นภาพหลอน คือ เมื่อเวลาที่เราเกิดความเครียด ร่างกายจะปลดปล่อยฮอร์โมนที่ชื่อว่า "คอร์ติซอล" ซึ่งจะปลดปล่อยออกมามากเช่นเดียวกันเมื่อเราดื่มกาแฟ..ยิ่งเครียดมาก ยิ่งดื่มกาแฟมาก ยิ่งมีคอร์ติซอลมาก ยิ่งเห็นภาพหลอนมาก..เครียด กาแฟ คอร์ติซอล หลอน” เดชอธิบายยาว
“เรียนจบแค่มอ.ต้น แต่เดี๋ยวนี้เก่งกว่าหมออีกเหรอไอ้เดช..เอ้า หมอ อากู๋ผมเป็นยังไงบ้าง บอกให้หลานผมสบายใจหน่อยสิ” จตุพลถาม
“เสี่ยอธิปมีอาการเห็นภาพหลอน แต่ไม่มีอะไรน่าห่วงครับ..มันอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาบางตัว..ยังไงช่วงนี้ หยุดทานยาปฏิชีวนะไว้ก่อน..ให้เสี่ยอธิปพักผ่อนเยอะๆ ทานแค่ยาบำรุงของคุณจตุพล ให้ตรงเวลา อันนี้ยาดีมาก..แล้วหมอจะมาดูอาการอีกที” หมอรายงาน
อธิปหันมาพูดกับหมอ “รีบไปดิหมอ..พวกมันกำลังมาแล้ว”
“ป๊า..นั่นมันคุณหมอ” โอปอบอก
อธิปกลิ้งตัวไปหลบหลังโซฟาแล้วตะโกน
“ไอ้เดช เตรียมลุยโว๊ย”
“ได้ครับเสี่ย” เดชรับคำแล้วหันไปพูดกับโอปอ “คุณหนูโอปอไม่ต้องกลัว ผมเอากระสุนออกหมดแระ”
พูดเสร็จ เดชก็รีบเอาปืนมาถือแล้วหลบไปหลังเก้าอี้อีกตัวทันที โอปอยืนหน้าเศร้า ไม่เข้าใจทำไมพ่อถึงเป็นแบบนี้
“ป๊ะป๋า” โอปอเรียก
จตุพลยืนมองอย่างสมเพช
“ผมว่าคุณหมอกลับก่อนเถอะครับ ผมไปส่ง”
จตุพลพูดแล้วเดินแยกออกมาส่งหมอ
“ขอบคุณหมอมากนะที่ช่วยผม เอ๊ย ช่วยอากู๋ของผม”
“เพื่อคุณจตุพล จะให้ผมเป็นหมอเป็นตำรวจหรือนักธุรกิจผมทำได้หมด” หมอพูดเบาๆ
เดชมองไปที่จตุพลกับหมอ เห็นทั้งสองคนยิ้มๆ ให้กันก็แปลกใจ

ในห้องทำงาน บ้านสุขสันต์ กริสน์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เขากำลังเปิดเช็กข้อมูลที่ผิดปกติ
“อันไหนละวะเนี่ย โฟลเดอร์มันเต็มไปหมด จะรู้ได้ไงว่าอันไหนเป็นบัญชีลับ..ก็มันไม่ได้เขียนไว้นี่ว่าบัญชีนี้ผิดกฏหมาย ชั้นจะไปรู้ได้ไงวะ”
“ถ้าไม่รู้ว่าไฟล์ไหน งั้นดาวน์โหลดข้อมูลออกมาให้หมดเครื่องเลย เร็วๆ” ภทัรดนัยบอก
“รู้แล้ว..อย่าสั่งมากได้มั้ย รำคาญ!” กริสน์ชักฉุน
กริสน์ใส่แผ่นดิสก์ลงไปเพื่อดาวน์โหลดข้อมูล ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์กำลังโอนข้อมูลลงแผ่นดิสก์
“ดาวน์โหลดแล้ว” กริสน์บอก
“ดี ระหว่างรอดาวน์โหลด แกไปสำรวจห้องทำงานมันดู..ชั้นมั่นใจว่ามันต้องมีช่องลับหรือเซฟลับซ่อนอยู่ที่ไหนสักที่แน่” ภทัรดนัยสั่ง
กริสน์เดินสำรวจรอบๆห้อง
“เซฟลับ..อยู่ไหนๆ..แกซ่อนความลับเอาไว้ตรงไหน”

เด็กทั้ง 3 ย่องมาตามทางภายในบ้านอีกห้อง บอดี้การ์ดเดินพูดโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“จ้าๆ ไม่ลืมจ้า..พรุ่งนี้จะรีบไปซื้อให้เลยนะคะ”
บอดี้การ์ดเดินไปพูดไปจนเลยประตูแล้วหยุดยืนฟังปลายสายพูด ประตูห้องนั้นเปิดออกมา เด็กๆ 3 คนเดินย่องออกมา โดยที่ทั้งบอดี้การืดและเด็กๆ ต่างฝ่ายต่างไม่เห็นกัน
เด็กๆ เลี่ยงไปอีกทาง บอดี้การ์ดหันหลังให้เลยไม่เห็น พอเด็กๆ เดินพ้นไป บอดี้การ์ดก็หันกลับมาพอดี “จ๊า...ได้ๆๆ..ก็เดี๋ยวจะไปซื้อให้แต่เช้านะ”

บอดี้การ์ดพูดกับเมียต่อแล้วเดินไป
เวลานั้นกริสน์ยังคงเดินสำรวจบ้าน จังหวะนั้นเขาหันไปเห็นประตูห้องๆ หนึ่ง กริสน์สนใจจึงค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป แล้วเขาก็ต้องตาโต

“หา”
“อะไร..แกเห็นอะไร” ภทัรดนัยรีบถาม “ไอ้กริสน์ ถ่ายรูปส่งมาให้ชั้นด้วยสิ..แกเจอของดีของไอ้สุขสันต์ใช่มั้ย.. โซ่แส้กุญแจมือ กับชุดพยาบาลสาว ใช่มั้ย..หรือว่า หรือไอ้สุขสันต์แอบแต่งหญิงเวลาอยู่บ้าน ใช่มั้ยๆ”
“ยิ่งกว่านั้นอีก” กริสน์บอก
ภายในห้องนั้นซึ่งเป็นห้องนอนของสุขสันต์มีประตูเชื่อมต่อกับห้องทำงาน สภาพห้องเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ เชิงเทียน ที่ทุกอย่างจัดหนักเตรียมการเอาไว้พร้อมสรรพ
“จัดห้องนอนเอาไว้แบบนี้..นี่มันคิดไม่ดีกะยัยเจ๊โหดนี่หว่า” กริสน์พูด
สักพักก็มีเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้น กริสน์เดินไปตามเสียง เขามองผ่านระเบียงห้องนอนออกไป พบว่าข้างล่างเป็นสระว่ายน้ำของบ้าน เขาเห็นพิมมาดากำลังดินเนอร์อยู่กับสุขสันต์
สุขสันต์กำลังตักอาหารบริการพิมมาดา
“ระริกระรี้จริงๆ..ไม่รู้หรือไงว่า มันเตรียมจะฟาดเจ๊ต่อหลังอาหารน่ะ” กริสน์พูดแล้วยืนมองอยู่ที่หน้าต่างนั้น
อยู่ๆ ก็มีปืนมาจี้ที่หลังของกริสน์ กริสน์ผงะหน้าซีด แล้วยกมือขึ้นเป็นสัญญาณว่ายอมแล้ว
“เฮ้ยๆ...ว่าไง..ทำไมเงียบไปเล่า” ภัทรดนัยส่งเสียงถาม

ป๊อปคอร์นวิ่งหนีออกมาแล้วก็ต้องเบรคเอี๊ยด เพราะมีบอดี้การ์ด 2-3 คนยืนดักอยู่ตรงหน้า บอดี้การ์ดถือถุงกระสอบไว้เตรียมจะครอบจับ ป๊อปคอร์นจะถอยหนีก็มีบอดี้การ์ดอีกกลุ่มตามมา ล้อมป๊อปคอร์นเอาไว้ ป๊อปคอร์นจนมุมจึงตั้งใจจะวิ่งฝ่า
พวกบอดี้การ์ดรุมจับป็อบคอร์นได้ในที่สุด ป๊อปคอร์นถูกเอากระสอบครอบไว้ ทันใดนั้นรถของแพรวพิลาศก็เข้ามาจอด แพรวพิลาศเปิดประตูพรวดพราดลงมา
“คุณสุขสันต์อยู่ไหน!”
พวกบอดี้การ์ดถึงกับผงะ “คุณแพรว”
บอดี้การ์ดตกใจเผลอปล่อยมือ ป๊อปคอร์นจึงวิ่งหนีออกไปได้
“เจ้านายพวกแกอยู่ในบ้านใช่มั้ย..ไหนบอกว่าประชุม!”
“คุณแพรวครับ คุณแพรวอย่าเพิ่งใจร้อนวู่วามสิครับ..มันมีแต่เสียกับเสียนะครับ เดี๋ยวผมให้เด็กไปตามคุณสุขสันต์ออก..” ฉัตรชัยพยายามเกลี้ยกล่อม
“ไม่ต้องยุ่ง” แพรวพิลาศตอกกลับ
“แต่ผมว่า..” ฉัตรชัยพยายามกล่อม
“จะทำตัวเป็นลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ใช่มั้ย แปลว่าพวกแกอยากมีปัญหากับชั้นเพื่อปกป้องเจ้านายแก..ใช่มั้ย ชั้นหายใจไม่ออก ๆ เฮือกๆๆ ฮ้าๆๆ” แพรวพิลาศทำท่าจะขาดใจตาย
“เชิญครับ”
ฉัตรชัยพูดแล้วก้าวถอยหลบให้ทันที แพรวพิลาศหายทันใดแล้วเดินฝ่าเข้าไป
“อภัยให้ผมด้วยนะครับท่าน ผมพยายามสุดความสามารถแล้วครับ” ฉัตรชัยพึมพำ

ภายในห้องทำงานของบ้านสุขสันต์ กริสน์ยังถูกปืนจี้หลังอยู่
“อย่าเพิ่งยิงนะ..ใจเย็นๆก่อน” กริสน์เกลี้ยกล่อม
“คิดจะทำชั่วอะไร บอกมานะ” เสียงโจ๊กพูดขึ้น
กริสน์คุ้นๆ จำเสียงได้ “เอ..เสียง..อย่าบอกนะว่า” กริสน์หันกลับมา พบเด็กๆยืนอยู่ตามคาด “อ๊าก..ว่าแล้ว ..มาได้ไงเนี่ย”
“ใครมา?” ภัทรดนัยถาม
“เราก็แอบสะกดรอยตามน้ามาน่ะสิ..น้าเป็นพวกนายสุขสันต์..แฝงตัวเข้ามาเป็นไส้ศึก คิดจะหลอกพวกเราใช่มั้ย” โจ๊กถาม
“คิดจะทำอะไรน้าพิมบอกมานะ แล้วตอนนี้น้าพิมอยู่ไหน” แจ๊สถามบ้าง
“ชั้นไม่ใช่พวกนายสุขสันต์ ชั้นเป็นพวกเดียวกับพวกเธอ..เชื่อกันหน่อยเซ่..ที่ชั้นมาเนี่ย เพราะจะมาหาหลักฐานว่านายสุขสันต์เป็นคนไม่ดี..พอมีหลักฐานแล้ว เอาไปบอกน้าพิมของพวกเธอ เค้าก็จะได้เชื่อไง ไม่งั้นพูดให้ตายคนอย่างน้าเธอก็ไม่มีวันเชื่อหรอก”
“อย่าบอกนะว่าเด็กๆตามแกมา ฮ่าๆๆ สายสืบมือหนึ่งโดนเด็กสะกดรอย ฮ่าๆๆ” ภัทรดนัยขำกลิ้ง
“เห็นมั้ย จีจ้าบอกแล้วว่าน้ากริสน์ไว้ใจได้” จีจ้ารีบบอก
“ใช่” กริสน์พูดแล้วหันไปเห็นจีจ้าเล่นเกมส์หน้าคอมพิวเตอร์ “เฮ้ย จีจ้า..ทำอะไรน่ะ”
“เล่นเกมส์ค่ะ”
กริสน์รีบปราดไปดูหน้าจอ “เฮ้ย!!! แล้ว..แล้วงานที่ชั้นดาวน์โหลดเอาไว้ล่ะ อย่าบอกนะว่าเธอกดแคนเซิลไปแล้ว ไม่นะ”
“ค่ะ แคนเซิลแล้ว” จีจ้าตอบ
“เฮ้ย” กริสน์ร้องอย่างตกใจ
“เฮ้ย!” ภัทรดนัยร้องด้วย
“ซะเมื่อไหร่” จีจ้าหยิบแผ่นซีดีออกมา “อยู่นี่ค๊า”
กริสน์รีบเข้ามาคว้า “รู้มั้ยว่าในนี้ อาจจะมีหลักฐานอยู่ก็ได้”
“ว้าว ขนม” จีจ้าหยิบขนมสวีทโอปอขึ้นมา “ขนมไรอ่ะ ไม่เคยเห็น ท่าทางจะอร่อย”
จีจ้าทำท่าจะกินแต่กริสน์ดึงขนมคืนมา “หยุดเลย!! ห้ามแตะต้องเคลื่อนย้ายข้าวของในห้องนี้เด็ดขาด ห้ามๆๆ พวกเธอจะทำทุกอย่างเจ๊งกะบ้งกันหมด..ถ้าพวกมันจับได้ว่าเราแอบขึ้นมา..มีแต่ตายกับตายรู้หรือเปล่า..ชั้นอยากจะบีบคอพวกเธอจริงๆ”
อยู่ๆ ก็มีเสียงแกร๊กๆ ดังขึ้น
“ใครทำเสียงอะไร” กริสน์ถาม
“อะไรอีกว่ะ..เสียงอะไร” ภัทรดนัยถามบ้าง
กริสน์หันมาโวยเสียงเบาๆ “หยุดซะทีไอ้ภัทรดนัย แค่นี้ก็ยุ่งจะบ้าแล้ว พูดแทรกมาอยู่ได้”
กริสน์หันมาทางเด็กๆ “ตกลงเสียงอะไร”
กริสน์มองหาที่มาของเสียง พวกเด็กๆ แบมือออกเพื่อบอกว่าไม่ได้ทำ
“หา เสียงมาจากประตูคะ” จีจ้าวิ่งไปที่ประตูทันที
“อย่าเปิด!”
กริสน์ตามไปห้าม แต่ช้าไปแล้วเพราะจีจ้าเปิดประตูพรวดทันที ทั้งหมดเห็นป๊อปคอร์นที่อยู่หน้าห้อง วิ่งเข้ามา
จีจ้ากอดสุนัขสุดรัก “ป๊อปคอร์นๆๆ”
“หมาก็มาหรอ?? โอย..ตายๆๆโดนจับแน่แก” ภทัรดนัยเซ็ง
สักพักก็มีเสียงคนวิ่งตามป๊อปคอร์นขึ้นมา
“มันวิ่งไปที่ห้องทำงานแล้ว ไปจับมันเร็วๆๆ” เสียงบอดี้การ์ดสั่งงานดังขึ้น กริสน์อึ้งแล้วถอย เขาทำมือจุ๊ๆให้เด็กๆเงียบ อยู่ๆป๊อปคอร์นก็กระโดดออกจากมือจีจ้าไปที่โต๊ะทำงาน
“ป๊อปคอร์น” จีจ้าเรียก
“ชู่ว์...” กริสน์ทำเสียงให้เงียบ
มีเงาคนมาหยุดที่หน้าห้อง แล้วก็มีการบิดลูกบิดดังแกร๊กๆ
“ทำไมชอบหาเรื่องยุ่งมาให้ชั้น...ไปๆๆ” กริสน์พาเด็กลุกออกไป
“ป๊อปคอร์นๆๆ” จีจ้ายังเรียกสุนัขของเธอ
ป๊อปคอร์นกำลังกินขนมสวีทโอปออยู่
เสียงบอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นที่ประตู “มันล็อก แกมีกุญแจมั้ยวะ เอามาไขเร็วๆ”
มีเสียงหยิบพวกกุญแจออกมา เสียงดังกุ๊งกิ๊งเหมือนว่าลูกกุญแจเยอะมาก “ดอกไหนวะ อืมมม ไม่ใช่ดอกนี้”
กริสน์ถอยไปที่ระเบียง แต่ก็ต้องผงะ เพราะเห็นพิมมาดากับสุขสันต์ยังดินเนอร์กันอยู่
“แล้วแกจะทำยังไงล่ะทีนี้” ภัทรดนัยถาม
“นั่นเป็นคำถามที่ชั้นต้องถามแก ไม่ใช่แกมาถามชั้น” กริสน์บอก
ทันใดนั้นก็มีเสียงไขประตูดังขึ้น พวกกริสน์เบรกเอี๊ยดแล้วยืนทื่อ แทบหยุดหายใจเพราะทำอะไรไม่ทันแล้ว ประตูค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ อยู่ๆป๊อปคอร์นก็กระโจนไปที่ประตู มันวิ่งมุดออกไป พวกบอดี้การ์ดหันไปเห็นหมาจึงรีบวิ่งตาม
“มันออกมาแล้ว ไปนั่นแล้ว ตามๆ”
พวกบอดี้การ์ดวิ่งไปไล่จับป๊อปคอร์นจึงไม่ได้เดินเข้ามาในห้อง กริสน์โล่งอก เขารีบพาเด็กๆหนีออกไปทันที

ที่ริมสระน้ำ สุขสันต์กำลังเอาใจพิมมาดาอยู่
“เสียง..เอ่อ เสียงอะไรจากในบ้านเหรอคะ” พิมมาดาถาม
“อย่าไปสนใจเลยครับคุณพิม เราทานอาหารของเราต่อเถอะครับ” สุขสันต์ตักอาหารให้ “ทานนะครับ แล้วถ้าติดใจ จะได้มาทานอีกบ่อยๆ”
ทันใดนั้นเองแพรวพิลาศก็เดินเข้ามา
“คุณสุขสันต์!”
“แพรว” สุขสันต์ช็อกจนตาค้าง ช้อนหล่นจากมือทันที
พิมมาดามองอย่างงงๆ แพรวพิลาศเดินฉับๆ ปราดเข้ามาตรงหน้าแล้วจ้องหน้าพิมมาดา แต่แล้วอยู่ๆก็ทำเป็นยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรเต็มที่
“สวัสดีค่ะ..แพรวค่ะ..แพรวา พุทธาอภินันท์ ลูกสาวคนเดียวของ..คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ก็หัวหน้าพรรคที่คุณสุขสันต์อยู่ไงคะ”
“ค่ะ..พิมค่ะ..พิมมาดาค่ะ”
“ผมว่า..พิมกลับก่อนเถอะนะ ไปๆ” สุขสันต์บอก
“เสียมารยาท..แพรวกำลังทำความรู้จักเพื่อนใหม่คุณอยู่นะคะ..คุณพิมขา นามสกุลล่ะคะ นามสกุลอะไร ดังหรือเปล่า ผู้ดีเก่าหรือเศรษฐีใหม่”
“ไม่ใช่ทั้งนั้นค่ะ พิมเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ” พิมมาดาตอบ
“ลูกตาสีตาสาเหรอคะ” แพรวพิลาศทำท่ารังเกียจ “หว๋าย ไม่อยากจะเชื่อ แบบนี้เวลาทำอะไรผิดก็ต้องดิ้นรนหาทางรอดเอาเอง ไม่มีพ่อแม่มาช่วยเคลียร์ใช่มั้ยคะเนี่ย..ว้าว!! เก่งจังเลยค่ะ ทำได้ยังไงอ้ะ..เก่งสุดๆไปเลยเนอะที่รักเนอะ” แพรวพิลาศรีบเข้าไปควงแขนสุขสันต์ทันที
“ที่รัก?” พิมมาดางง
“ไม่ใช่อย่างที่...” สุขสันต์พยายามอธิบาย
“ใช่ค่ะ แพรวเป็นแฟนคุณสุขสันต์..อย่าบอกนะคะว่าไม่ทราบ”
พิมมาดาหันไปมองสุขสันต์อย่างอึ้งๆ
“พิมครับ” สุขสันต์พยายามจะแก้ตัว
แพรวพิลาศหันมาพูดกับสุขสันต์ “คุณคะ คุณไปหิ้วเค้ามา แล้วก็ไม่บอกความจริงเค้าอีกแล้วเหรอ..แพรวบอกแล้วไง แพรวไม่เคยว่าถ้าคุณจะรักสนุก แต่ก็แฟร์ๆหน่อยสิคะ บอกความจริงเค้าไป..อย่าไปหลอกลวงเค้า ..แค่เกิดมามีนามสกุลไก่กาก็แย่แล้ว อย่าไปซ้ำเติมเค้าอีกเลย สงสาร”
“พิมว่า..พิมกลับก่อนดีกว่า”
พิมมาดาพูดแล้วลุกจะกลับ
“อ้าว จะกลับแล้วเหรอ..หายคันแล้วเหรอคะ”
แพรวพิลาศจิกต่อ พิมมาดาหน้าชา ทนไม่ได้ รีบเดินหนีออกไปทันที

พิมมาดาเดินออกมาที่รถที่จอดอยู่ เธอมาหยุดหน้ารถ ในหัวมึนงงคิดอะไรไม่ออก
ยามเดินเข้ามาพินอบพิเทา “คนขับรถคุณไปห้องน้ำครับ ตั้งนานแล้ว แหะๆ สงสัยจะศึกหนัก..รอสักครู่ครับ เดี๋ยวผมไปตามให้นะครับ”
กริสน์วิ่งกลับมาพอดี
“มาแล้วครับๆๆ..อ้าว ลุง จะมายุ่งอะไรอีก ไปๆ ไปเปิดประตูบ้านให้ผมด้วยสิคร้าบ” กริสน์หันมาพูดกับพิมมาดา “ทำไมรีบกลับนักล่ะคุณ” กริสน์รีบเอาหูฟังออก
ทันใดนั้นเอง แพรวพิลาศก็เดินตามมา สุขสันต์เดินตามมาด้วย
“พอแล้วแพรว” สุขสันต์ปราม
“ถ้าจะมาอีกเมื่อไหร่ มาได้เลยนะคะคุณพิมไม่ต้องเกรงใจ คุณสุขสันต์ชอบช่วยเหลือเด็กยากจนและ..พวกอดอยาก ขาดแคลน..แด่น้อง..ผู้หิวโหย....อยู่แล้ว”
กริสน์ยืนงงๆ แล้วพยายามจะปะติดปะต่อเรื่อง ระหว่างนั้นพวกเด็กๆ ก็ย่องก้มๆมุดๆ มาแอบปีนขึ้นไปที่ท้ายรถ พิมมาดาหน้าชาเพราะถูกกระแหนะกระแหน เธอจะเปิดประตูรถแต่ก็เปิดไม่ออก
“เปิดประตู” พิมมาดาสั่ง
“หา” กริสน์ยังงง
“เปิดประตู”
“อ่อ ครับๆ”
“กลับไปหยอดน้ำมันด้วยนะคะ จะได้เปิดง่ายขึ้น” แพรวพิลาศซัดอีกหนึ่งดอก
กริสน์รีบไขแล้วเปิดประตูรถให้ พิมมาดาเปิดพรวดขึ้นไปนั่งทันที กริสน์ตามขึ้นไปนั่งที่คนขับแล้วมองพิมมาดาอย่างสงสัย แต่พิมมาดานั่งนิ่ง ไม่ไหวติงใดๆ กริสน์คาดเข็มขัด เขามองผ่านกระจกหลัง เห็นพวกเด็กๆแอบขึ้นรถมาหมดแล้วรวมทั้งป๊อปคอร์นด้วย กริสน์จึงออกรถทันที
แพรวพิลาศโบกมือส่งพิมมาดาอย่างเสแสร้ง พอรถพิมมาดาแล่นออกไป แพรวพิลาศก็หันมาจ้องสุขสันต์ด้วยสายตาพิฆาต จนสุขสันต์หน้าซีด
“สงสัยเราคงต้องคุยกันหน่อยนะคะ..คุณสุขสันต์”

พิมมาดานั่งอยู่ในรถ เธอพยายามสะกดอารมณ์เอาไว้ด้วยการทำหน้าตาเรียบเฉย ไร้อารมณ์ บรรยากาศในรถเงียบเชียบ กริสน์ทำตัวไม่ถูกแต่ก็พยายามหาเรื่องคุย
“เปิดเพลงฟังดีกว่านะคุณ..เมื่อกี้ตอนรอคุณ ผมฟังเพลง มีแต่เพลงเพราะๆ ฟังแล้วอารมณ์ดีทั้งนั้น” กริสน์กดเปิดวิทยุ เพลงในวิทยุดังขึ้น
อยากเป็นคนรัก ไม่ได้อยากเป็นชู้...
“เฮ้ย!” กริสน์รีบปิดแทบไม่ทัน “ คลื่นอะไรเนี่ย เปิดเพลงไม่ได้เรื่อง เปลี่ยนๆ”
แฟนเก็บอยู่อย่างเจ็บๆอย่างคนเป็นน้อย..
“เฮ้ย!! ไม่ฟังแล้วๆๆ เปิดซีดีดีกว่า” กริสน์รีบปิด
พิมมาดานั่งเงียบไม่ไหวติงใดๆ ทั้งสิ้น
“อืม..นั่งเงียบๆก็ดีเหมือนกัน”
กริสน์พูดแล้วนิ่งไปเพราะรู้ว่าทำอะไรก็ไม่เวิร์ค แต่เขาก็คอยเหลือบมองอย่างห่วงใยเป็นระยะๆ
พิมมาดาเอาแต่นั่งนิ่งมองไปข้างหน้า

ที่บ้านของสุขสันต์ แพรวพิลาศเดินรุกไล่สุขสันต์ สุขสันต์ถอยหลังกรูด
“แพรวไว้ใจคุณมาตลอด..อุตส่าห์ช่วยเชียร์กับคุณพ่อให้เสมอว่าคุณเหมาะสมที่จะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ แล้วนี่เหรอ ที่คุณตอบแทนแพรว..คอยดู..แพรวจะฟ้องคุณพ่อ..ให้ปลดคุณออก ชาตินี้ไม่ต้องหวังจะกลับมาเล่นการเมืองอีกเลย คอยดู”
“ขอเวลาให้ผมห้านาทีเพื่อแถลงเหตุและผลของผมบ้างได้มั้ย” สุขสันต์ต่อรอง
“ไม่ต้องมาแถลง ชั้นไม่ไว้วางใจคุณ”
“ผมกับพิมมาดาไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ..เค้าแค่มาขอร้องผม..ขอให้ผมช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจนำเข้าดอกไม้นอกของเค้า..ผมเคยปฏิเสธเค้าไปแล้ว แต่เค้าก็มาตื๊อไม่เลิก ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง..ก็ได้แต่ฟังไปตามมารยาท”
“ไม่ต้องมาทำเป็นลิ้นชาละวัน ชั้นไม่เชื่อคุณ”
“เชื่อผมสิ ผมไม่ได้คิดอะไรกับพิมมาดาเลย..ยัยนั่นมีลูกแล้ว ตั้งสามคน..ผมจะเอาไปทำอะไร”
“มีลูกแล้ว”แพรวพิลาศตกใจ
สุขสันต์ได้ทีรีบรุกกลับ “สามคน อายุสิบ แปด และหกขวบตามลำดับ..แพรว มันเป็นเรื่องธุรกิจล้วนๆ..แพรวเคยบอกไม่ใช่เหรอว่า ผมเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ดี..แพรวก็น่าจะเชื่อในวิสัยทัศน์เรื่องคนรักของผมนะ..นะ”
“ครั้งนี้แพรวจะให้โอกาสคุณ แต่ถ้ามีครั้งต่อไป..คุณ” แพรวพิลาศใช้นิ้วปาดคอตัวเองขู่สุขสันต์

กริสน์ขับรถมาจอดที่บ้านพิมมาดา พิมมาดาเดินลงจากรถในสภาพล่องลอย ไม่พูดไม่จาด้วย กริสน์หันมาสบตากับพวกเด็กๆที่อยู่ท้ายรถ เขารู้ทันทีว่าต้องหาจังหวะให้เด็กๆ จึงรีบตามไปขวางพิมมาดาไว้
“คุณ..เดี๋ยวๆ”
กริสน์วิ่งมาขวางพิมมาดาไว้ โดยตั้งใจถ่วงเวลาให้เด็กๆ แอบเข้าบ้านก่อน เขาจึงจับให้พิมมาดาหมุนตามมาโดยหันหลังให้พวกเด็กๆ “คุณ..หันมาดูอะไรที่นั่น..ร้านดอกไม้..พี่เต๋าพี่เต้ยหลับอยู่นั่น..แวะไปดูหน่อยมั้ยว่าเรียบร้อยหรือเปล่า ไปๆๆ”
“ปล่อยชั้น” พิมมาดาบอก
“เดี๋ยวสิคุณ” กริสน์ตามไปขวางไว้อีก
“อย่ามายุ่งกับชั้น!”
พิมมาดาผลักกริสน์ออกไป กริสน์ยิ่งงง พิมมาดาเดินเข้าบ้านไป
“หนอย..นี่ เห็นว่าอกหักนะ เลยยอมให้วันนึง ไม่งั้นนะ ฮึ่ม”
กริสน์บ่นแล้วหันมาอีกด้าน ก็เจอป๊อปคอร์นที่กำลังกระโดดๆ ไม่หยุด
“เป็นอะไรของแก ดีใจอะไร”
กริสน์เดินผ่านไป แต่แล้วก็ต้องชะงัก พอหันกลับมาอีกที ป๊อปคอร์นก็ยังกระโดดไม่เลิก
“เป็นหมารึจิงโจ้เนี่ย” กริสน์แปลกใจ

พิมมาดาเดินมาที่หน้าห้องเด็กๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปดูที่ห้องแจ๊สพบว่าในห้องว่างเปล่า ไม่มีแจ๊สอยู่ในห้อง พิมมาดาแปลกใจ เธอมาเปิดดูห้องโจ๊กกับจีจ้า ก็พบเด็กๆ นอนอยู่ด้วยกันอย่างระเกะระกะ พิมมาดาโล่งใจ
พิมมาดามองสภาพการนอนของเด็กๆ แล้วเดินเข้าไปจัดการ เธอหยิบเอาหมอนมาหนุนหัวให้แจ๊สที่นอนอยู่กับพื้น แล้วจึงจัดการโจ๊กให้นอนดีๆ จากนั้นจึงห่มผ้าให้จีจ้า แล้วหยิบตุ๊กตามาให้เธอกอด
พอจัดแจงทุกอย่างเสร็จ พิมมาดาก็ทรุดลงนั่งพิงเตียงใกล้ๆกับพวกเด็กๆ เธอนั่งเหม่อลอยกับเรื่องของตัวเองเพราะไม่รู้จะจัดการยังไงต่อไปดี
พวกเด็กๆที่นอนอยู่แอบหรี่ตามองอย่างเห็นใจน้า ทั้งสามหันมาขยิบตาให้กันแล้วทำท่าบุ้ยใบ้ใส่กัน จีจ้ากลิ้งตัวมาคนแรก เธอมานอนใกล้ๆ พิมมาดาจึงเอามือโอบไว้ สักพักโจ๊กกับแจ๊สก็ตามมานอนข้างๆพิมมาดาด้วย ทั้งหมดโอบๆ พิมมาดาเอาไว้
พิมมาดาร้องไห้เงียบๆ

สุขสันต์เดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน
“ยัยแพรว..” สุขสันต์ทำหน้านิ่งๆ แต่อมยิ้ม “ทำเป็นมาขู่..อีกไม่นานทั้งเธอทั้งพ่อเธอจะโดนชั้นเขี่ยแน่”
ฉัตรชัยกับฮิมเดินตามเข้ามา
“คุณแพรวกลับไปเรียบร้อยแล้วครับท่าน” ฉัตรชัยรายงาน
“ดีมาก” สุขสันต์พูดแล้วชกเปรี้ยงเข้าที่หน้าของฉัตรชัย “โอ๊ยๆ” สุขสันต์เจ็บมือเอง “ชั้นให้แกพาคุณแพรวไปเถลไถลที่ไหนก็ได้..จะใช้จ่ายเงินเท่าไหร่ก็ได้ แค่อย่าพากลับมา..แต่แกก็ทำไม่ได้ มันน่ากระทืบให้ตาย”
“ท่านครับ ผมพยายามแล้ว แต่มันมีไอ้ตำรวจจอมแส่” ฉัตรชัยบอก
“ฮะ..ตำรวจ..ตำรวจมาเกี่ยวไรด้วย” สุขสันต์งง
“มันชื่อสารวัตรมาวิน มันบอกว่า..มันเป็นแฟนพิมมาดา แล้วมันดอดมาฟ้องคุณแพรว”
“หา..ไรนะ มีแฟนเป็นสารวัตร ไหนว่ามันไม่มีใครไง แล้วเป็นไรไม่เป็น ดันเป็นตำรวจ!”
“น่าจะเป็นไอ้แฟนเก่าที่หวนกลับมาเพราะหวงก้างน่ะครับ..ที่เราเคยได้ข้อมูลมา..ว่ามันเคยทิ้งยัยนี่ไป เพราะทนไอ้พวกเด็กนรกไม่ไหว” ฉัตรชัยรายงาน
“แล้วชั้นจะทำไงต่อวะเนี่ย”
“เดี๋ยวนี้ท่านมีเวลาว่างเล่นเกมส์ด้วยหรอคับ” อิมถาม
สุขสันต์หันไปที่โต๊ะทำงาน แล้วก็ต้องแปลกใจ เขาเห็นธีรเดชยืนมองคอมอยู่ คอมพิวเตอร์กำลังเปิดเกมค้างไว้
“ชั้นไม่เคยเล่นเกมส์” สุขสันต์บอก เขาเหลือบไปเห็นขนมสวีทโอปอกระจาย
“ฝีมือใคร?” สุขสันต์ถาม

ที่บ้านของพิมมาดา ป๊อปคอร์นยังคงกระโดดอยู่ กริสน์นั่งยองๆ เท้าคางมองป๊อปคอร์นว่าเมื่อไหร่จะหยุด
“แกไม่เหนื่อยเหรอ..โดดไม่ยอมหยุดเลยนะ ใช่..นี่แกไปคึกอะไรจากไหนมาห๊ะป๊อปคอร์น” กริสน์ถาม ป๊อปคอร์นยังกระโดดไม่หยุด “เอ้า เป็นบ้าไปแล้วเหรอ เดี๋ยวก็เหนื่อยตายพอดี..หยุดโดด หยุดๆ”
กริสน์เข้าไปขวางแล้วไล่ป๊อปคอร์นให้เลิกกระโดด ป๊อปคอร์นวิ่งกวดไปกวดมา กริสน์ยิ่งงง
“เฮ้ย ยังมีแรงวิ่งอีกเหรอวะ..ป๊อปคอร์น..หยุดวิ่ง” กริสน์ไปขวางเส้นทางวิ่งแล้วพยายามจะต้อนจับให้หยุด “หยุดๆๆ”
ป๊อปคอร์นไม่ยอมให้กริสน์เข้าใกล้ มันยังวิ่งๆๆ แล้วสุดท้ายก็หยุด
“หยุดสักที” กริสน์เหนื่อยแทน
“บรู๊ว” ป๊อบคอร์นหอนยาว

ป๊อบคอร์นหอนต่อไปไม่ยอมหยุด










Create Date : 31 มกราคม 2555
Last Update : 31 มกราคม 2555 13:24:20 น.
Counter : 301 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]