All Blog
ฉันรักเธอนะ ตอนที่ 1 (ต่อ)



ที่ประเทศญี่ปุ่น...พ่อและแม่ มาส่งยูกิขึ้นรถ ทั้งสามคนกอดกันด้วยร้อยยิ้ม โดยไม่รู้เลยว่ายามาดะแอบมองพวกเขาอยู่

“เดินทางปลอดภัยนะลูก”
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วนี่ไคคุงไม่มาส่งเหรอ” พ่อถาม
“ติดงานน่ะค่ะ แต่เราลากันแล้ว”
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะสาย”
“ค่ะ แล้วหนูจะโทรมานะคะ”
ยูกิขึ้นรถ รถแล่นออกไป พ่อแม่กลับเข้าบ้าน ยามาดะออกมาจากมุมตึก มองตามรถของไอยูกิไป อย่างไม่ประสงค์ดี

นับดาวแต่งหน้าจัดแบบเพชรา ผมตีโป่ง นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของห้าง พนักงานคนอื่นมองนับดาวแล้วหัวเราะกันคิกคัก รวมถึงคนที่เดินผ่านไปมาด้วย นับดาวเสียความมั่นใจ ไม่กล้ามองหน้าใคร แล้วก็มีฝรั่งเดินมาสอบถามนับดาวถึงร้านในห้างว่าอยู่ตรงไหน นับดาวทำท่ามั่นใจเข้าไปคุยกับฝรั่ง ท่ามกลางความกดดันจากกลุ่มพวกประชาสัมพันธ์
“ว่าไงนะคะ”
เธอหันหูซ้ายรับฟัง
“where’s tops market”
“อ๋อ ท็อปส์ เดี๋ยวเดินลงชั้นใต้ดิน ลงบันไดเลื่อนไปอยู่ซ้ายมือ”
“what?”
“ว็อต อะไรล่ะ ก็บอกไปแล้วไง หูหนวกเหรอ บอกอยู่ชั้นบี...ชั้นบี”
พนักงานคนอื่นๆหัวเราะกันมากกว่าเดิม นับดาวเหล่ตาไปมองอย่างไม่พอใจ
“can you speak English”
“ทำไมฉันต้องสปีกอิงลิชด้วย นี่มันประเทศไทยนะคะ ฉันไปเมืองนอกฉันพูดภาษาคุณ โอเค ฉันรับได้ แต่คุณมาเมืองไทยยังจะให้ฉันพูดภาษาอังกฤษกับคุณอีกเหรอ มันไม่ใช่ป่าว เอาแต่ใจไปมั้ย อยู่เมืองไทย พูดภาษาไทยสิ”
ฝรั่งงงแตก ไม่เข้าใจที่นับดาวพูดซักประโยค จนพนักงานคนอื่นต้องมาบอกทางเป็นภาษาอังกฤษกับฝรั่ง นับดาวถูกผลักเข้าไปด้านหลังอย่างตัวประหลาด ทั้งพนักงานทั้งฝรั่งมองเธออย่างดูถูก
เมื่อถึงเวลาพัก พนักงานทุกคนรวมตัวกันจะไปทานข้าว นับดาวก็สะพายกระเป๋าเตรียมจะไปด้วย คนอื่นก็พากันเดินออกไปไม่สนใจ นับดาวเซ็งเดินออกไปคนเดียว

นับดาวเดินถือน้ำแดงออกมาหน้าห้างคนเดียว ดูดน้ำไปพลาง ถอนหายใจไปพลาง แล้วลมก็พัดเศษฝุ่นเข้าตา บาดคอนแทคเลนส์ในตา เธอเจ็บตามากจนเดินเสียหลักจากฟุตบาทไปขอบถนน
องอาจขับรถ โดยเป็นไทนั่งอยู่เบาะหลังสุดของรถลิมูซีนดูนาฬิกาใจร้อน องอาจหันมาคุยกับเป็นไท
“รถลิมูซีนนี่ขับยากเหมือนกันนะครับ ยาวเป็นรถเมล์เลย”
“ถ้าขับยากผมว่าคุณหันไปขับดีๆมั้ยครับ จะได้ไม่ยาก”
“คุณไทกลัวความเร็วเหรอครับ”
“เปล่า ไม่ไว้ใจคุณนั่นแหละ รีบๆเหอะ เดี๋ยวคุณไอ ยูกิ มาถึงไม่เจอใครล่ะแย่เลย”
“ครับผม”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ องอาจก็หันไปเห็นว่ามีผู้หญิงอยู่ใกล้กับรถมากแล้ว องอาจตกใจ เบรกเอี๊ยดกะทันหัน รถเฉี่ยวหญิงคนนั้นล้มจ้ำไป องอาจและเป็นไทตกใจ

นับดาวนั่งจ้ำกับพื้น น้ำแดงหกเลอะเสื้อไปหมด ตาเธอก็ลืมไม่ขึ้น แถมยังเจ็บตัวอีก องอาจกับเป็นไทรีบออกจากรถมาดู
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
เป็นไทช่วยพยุงนับดาวลุกขึ้น นับดาวลุกขึ้นอย่างโอดโอย เอามือปิดตา
“เจ็บ...”
“แล้วนั่นตาคุณเป็นอะไร”
นับดาวไม่ได้ยินที่เป็นไทพูด ยังมึนๆอยู่ และยังเจ็บตามองไม่ถนัด”
“หรือเศษกระจกกระเด็นเข้าไปครับคุณไท”
“เฮ้ย พูดเป็นเล่น”
เป็นไทรีบเอาผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋า เข้าไปประชิดตัวนับดาวทันที นับดาวตั้งตัวไม่ทัน
“ไหนดูซิ”
เป็นไทเห็นเศษผงในตาเอาผ้าเขี่ยออกให้ นับดาวตาเริ่มดี มองเห็นหน้าเป็นไทในระยะประชิด แอบเขิน แต่เธอก็คิดได้ว่านี่คือเป็นไท คนที่เคยก่อเรื่องไว้กับเธอ
“เฮ้ย คุณ คิดจะทำอะไรน่ะ เมื่อกี้เหมือนมีอะไรมากระแทกแล้วเราล้มอ๋อ...คุณคือคนที่เดินชนฉันเมื่อกี้ใช่มั้ย”
“เปล่า ผมไม่ได้ชนคุณ”
“ยังจะเถียงอีกเหรอ”
องอาจกับเป็นไทมองหน้านับดาว แล้วมองไปที่รถ นับดาวเริ่มประมวลผลอะไรได้
“รถ...คุณขับรถชนฉันเหรอ”
องอาจรีบบอก
“ผมเป็นคนขับเองครับ ว่าแต่คุณไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย”
นับดาวตกใจ
“ฉันโดนรถชนเหรอ”
นับดาวเข่าอ่อนทรุดตัวลงกับพื้น ช็อก พูดอย่างคิดไปเอง
“ถึงว่าสิ เจ็บ...เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย เดินไม่ได้แล้วเนี่ย”
“จริงๆ เราก็แค่เฉี่ยวนิดหน่อย”
“จะปัดความรับผิดชอบใช้มั้ย”
“ผมก็เห็นแค่คุณมีรอยถลอกที่แขนคงเพราะโดนกระจกรถ นิดหน่อยเอง”
“แต่ฉันเดินไม่ไหว”
เป็นไทมองงงๆ
“เมื่อกี้คุณยังยืนได้อยู่เลย”
“แต่นี่ฉันเลอะไปทั้งตัวแล้ว คุณต้องรับผิดชอบ”
“เอางี้ละกันนะครับ พอดีว่าผมรีบ” เป็นไทยื่นนามบัตรให้ “ค่ารักษาเท่าไหร่คุณติดต่อผมไปได้เลย ผมไปล่ะ...ไปกันเถอะ”
เป็นไทพยักหน้า องอาจหันไปพูดกับนับดาว
“แล้วคุณล่ะ ไม่รีบไปงานมนต์รักลูกทุ่งเหรอ แต่งตัวซะสวยเชียว”
“ไอ้...”
นับดาวจะด่า แต่องอาจขัดขึ้นก่อน
“ไปก่อนนะครับคุณทองกวาว”
องอาจกับเป็นไทขึ้นรถขับออกไป นับดาวเจ็บใจลุกขึ้นยืนด่า
“ไอ้...พวกบ้า ชนแล้วหนี คิดจะล้างแค้นที่ฉันแกล้งไว้ มันไม่แรงไปหน่อยเหรอ”
นับดาวรู้สึกตัวว่าตัวเองยืนได้
“เออ ยืนได้แล้วแฮะ...รับดาวสำรวจร่างกายตัวเอง “แค่ถลอกเองเหรอ”
นับดาวยังมองตามรถเป็นไทอย่างโกรธๆ

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ยูกิลากกระเป๋าใบโตออกมา เธอใส่แว่นดำ ใส่หมวกพรางตัวเอง เดินตื่นตาตื่นใจกับเมืองไทย โดยไม่รู้ว่า ยามาดะ สะกดรอยตามเธอมาด้วย ยูกิมองเห็นป้ายห้องน้ำ เธอเดินเข้าไปอย่างอารมณ์ดี ยามาดะเห็นว่าครั้งนี้คือโอกาสสำคัญ เขาจะเดินตามเธอไป แต่โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมาซะก่อน ยามาดะกดรับ
“สวัสดีครับ”
ซีซีเดินเข็นรถอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต หยิบของขึ้นรถเข็นไปด้วย คุยโทรศัพท์ไปด้วย
“ทำไมแกรับโทรศัพท์ช้าจัง”
“กำลังติดธุระ”
ซีซีไม่พอใจ
“ฉันโทรมา ต้องรับ ไม่ว่าจะติดธุระอะไรทั้งนั้น...มันมาถึงเมืองไทยแล้วใช่มั้ย”
“ใช่”
“แล้วแกจัดการจับตัวมันรึยัง”
“ก็กำลังจะจับ คุณโทรมาพอดี”
“โอ๊ย...แล้วแกรับทำไมเล่า รีบไปจัดการมันสิ”
“ตกลงจะให้รับหรือไม่ให้รับกันแน่”
“พูดมาก ฉันสั่งก็ไปทำเร็ว”
ซีซีกดโทรศัพท์วางทันทีอย่างหงุดหงิด

ในซุปเปอร์มาร์เก็ต...นับดาวยังอยู่ในชุดเพชรา เข็นรถเข็นมากับวราพรรณ นับดาวยังเดินเดี้ยงอยู่นิดๆ
“ซวยจริงๆเลยฉัน นึกว่าจะได้ค่าทำขวัญ ซักแสนสองแสน”
วราพรรณยิ้มปลอบ
“เอาน่า ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ฟาดเคราะห์ไป”
ซีซี เดินซื้อของในซุกเปอร์ เลี้ยวเข้ามาซองเดียวกันกับวราพรรณ และนับดาว
“ใช่ดาราป่ะแก” นับดาวมองอย่างไม่แน่ใจ
“ฉันว่าใช่นะ ซีซีไง”
ซีซีทำท่าภูมิใจที่มีคนจำเธอได้
“ซีซี คนไทยที่ไปเป็นดาราดังที่ญี่ปุ่นน่ะเหรอ”
วราพรรณพยักหน้า
“เออ...ตัวจริงสวยว่ะ”
ซีซียิ่งภาคภูมิใจกว่าเก่า นับดาวถามอย่างสงสัย
“แต่ตอนนี้ไม่เห็นมีงานเลยนะ เงียบไปพักใหญ่แล้วอ่ะ”
“ตอนนี้ก็ต้องไอ ยูกิคนเดียวแหละเนอะ”
“ฉันว่าคงตกอับจริงแหละ ไม่งั้นไม่กลับมาอยู่เมืองไทยหรอก”
นับดาวพูดตรงๆ ซีซีจากที่ภูมิใจกลายเป็นหงุดหงิดทันที หันไปเหวี่ยง
“นี่ พวกเธอสองคน จะซื้อมั้ย ถ้าไม่ซื้อก็ไปที่อื่น คนอื่นเค้าจะได้ซื้อบ้าง”
สองคนตกใจ รีบเดินออกจากเชลฟ์ทันที แถมซุบซิบกันต่ออีก
“เหวี่ยงว่ะแก”
“แบบนี้ไง ถึงดังได้ไม่นาน”
ซีซีได้ยินแล้วยิ่งหงุดหงิดใหญ่
“คอยดูวันที่ฉันกลับมาทวงตำแหน่งจาก ไอ ยูกิ ก็แล้วกัน”
พลังของความริษยาในใจของซีซี ที่มีต่อยูกินั้นมากมาย

ยามาดะค่อยๆย่องเข้าไป ในห้องน้ำหญิงที่ปราศจากผู้คน เขาก้มมองผ่านช่องประตู เห็นขายูกิอยู่ในห้องน้ำห้องริมสุด เขาหยิบกระสอบข้าวสารที่เตรียมมา แล้วก็ลองเอาตัวเองลงไปอยู่ในกระสอบ ยามาดา ยิ้มกระหยิ่มใจว่ากระสอบใส่คนได้ เขาออกมาจากกระสอบ ย่องไปด้านหลังยูกิ ที่กำลังเติมปากอยู่หน้ากระจก ยามาดาจะเอากระสอบครอบยูกิ แต่แล้วก็มีสาวๆเข้ามาในห้องน้ำ เขาได้ยินเสียง เขารีบหลบเข้าไปซ่อนในห้องส้วมตามเดิม
ขณะเดียวกันที่จุดรอรับผู้โดยสาร องอาจถือป้าย เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่ายูกิ ชูไว้เหนือหัว โดยมีเป็นไทยืนทำหน้าหล่ออยู่ข้างๆ ทั้งคู่ชะเง้อมองหายูกิกันไม่วางตา แล้วยูกิก็เดินออกมา เป็นช่วงเวลาที่สวยงามมากสำหรับเป็นไท ความขาวของเธอเปล่งรัศมี ความสวยของเธอดึงดูดทุกสายตา และเสน่ห์ของเธอทำให้ชายทุกคนต้องเหลียวตามอง เป็นไทกับองอาจมองยูกิตาค้าง
ยูกิ เห็นป้ายชื่อของเธอ เธอยกมือขึ้นโบกทักทายอย่างเป็นกันเอง แล้วเดินรี่มาหา ทำเอาสองหนุ่มเคลิ้ม ตกในภวังค์เลยทีเดียว ยูกิเดินมาทักเป็นภาษาไทย ติดสำเนียงญี่ปุ่น
“สวัสดีค่ะ”
“โห พูดไทยได้ด้วยอ่ะ กันเองสุดๆ”
องอาจยิ้มปลื้ม ทั้งคู่ยังมองยูกิตาเยิ้ม
“เป็นอะไรกันค่ะ”
ยูกิ เอามือไปโบกต่อหน้าองอาจ และเป็นไท ให้หลุดจากภวังค์ ทั้งคู่รู้สึกตัว
“สวัสดีครับ ผมเป็นไทครับ เป็นคนดูแลงานนี้”
“ผมองอาจ เป็นผู้ช่วยครับ”
“เป็งทาย โองอ่ะ” ยูกิพูดตาม
“เรียกไทเฉยๆก็ได้ครับ”
องอาจพูดกับตัวเอง บ่นเป็นไท
“แหมๆ ทำชื่อสั้น จะได้จำได้ก่อนละสิ” แล้วหันไปบอกยูกิ “เรียกว่าอาจก็ได้ อาจที่แปลว่า may be น่ะครับ” พูดแล้วก็แอบพึมพำกับตัวเอง “เป็นไงล่ะมีคำแปลให้ด้วย หึ หึ”
ยูกิหัวเราะ
“คุณไท กับ คุณอาจ”
“ถูกครับถูก ผมเรียกคุณว่า ยูกิจัง ได้มั้ยครับ”
เป็นไทขัด
“เฮ้ย น่าเกลียดน่าคุณ เรายังไม่ได้สนิทกับเค้าซะหน่อย ใช่มั้ยครับ ยูกิจัง”
องอาจมองค้อนเป็นไท ยูกิกับเป็นไทต่างยิ้มให้กัน

นับดาวอยู่ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ด้วยหน้าตาเพชราเหมือนเดิม แต่เสื้อเลอะน้ำแดง จากที่เป็นไทชน ยิ่งดูเพี้ยนไปใหญ่ ซีซีเดินเข้ามาสอบถามข้อมูล เธอจำนับดาวได้ว่าเคยเม้าท์เธอในซุปเปอร์มาร์เก็ต จึงเข้ามากวน เธอยืนตรงฝั่งขวา พูดกับหูข้างที่หนวกของนับดาว
“นี่เธอ ที่บ้านแป้งเหลือเหรอ หรือใช้ขนตาทำเป็นราวตากผ้า แต่งหน้าซะขนาดนี้ สติดีรึเปล่าเนี่ย หรือกลัวใครจะจำได้”
นับดาวไม่ได้ยินแต่คลับคล้ายคลับคลาซีซี
“อุ๊ย..คุณ สอบถามข้อมูลได้เลยค่ะ”
“ที่นี่มีสปามั้ยคะ”
“ขออีกทีได้มั้ยคะ”
“สปาน่ะค่ะ มีมั้ย”
“บาจา? ไปแผนกรองเท้าเลยค่ะ รองเท้าเค้าดีนะคะ พื้นนี่นิ่มเชียว ใส่มาตั้งแต่ เป็นนักเรียน”
ซีซีงง
“สปา บาจาบ้าอะไรล่ะ”
“ปะปา? ในนี้ไม่มีหรอกค่ะ แต่ถ้าอยากจะจ่ายค่าน้ำ เชิญที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสทางด้านนี้ได้เลยค่ะ”
“ฉันรู้ว่าปะปาไม่มี ไม่ได้โง่ ฉันถามสปา หูหนวกรึไง”
“ทาทา?” นัลบดาวร้องด้วย เต้นด้วย “มาจาเร่ ดูม มาจาเร่ ดูม เพลงเพราะนะคะ มีรสนิยมในการเลือกเสพมาก เชิญแผนกซีดี ชั้น 3 เลยค่ะ”
“โอ๊ย นี่มันอะไรกันเนี่ย ห้างนี้เค้ารับคนบ้ามาทำงานด้วยใช่มั้ยเนี่ย”
ผู้จัดการแผนกเดินเข้ามาพอดี เขาเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น
“มีอะไรกันครับ”
ซีซีหันขวับไปเล่นงาน
“นี่คุณ เป็นหัวหน้ารึเปล่าเนี่ย ปล่อยคนแบบนี้มาทำงานได้ไง ดูแต่งหน้าแต่งตัวซิ จะว่าฮาโลวีนก็ไม่ใช่ บ้าแน่ๆ”
“ขอโทษด้วยครับ”
ผู้จัดการหันไปมองนับดาวด้วยสีหน้าตำหนิ แค่แววตาของเขาก็โทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะนับดาวคนเดียว นับดาวจ๋อยทันที

เป็นไท ยูกิและองอาจ นั่งทานอาหารอยู่ในร้านหรู ทั้งคู่ปลื้มไอยูกิมาก ต่างพยายามแย่งกันเอาใจ
“ยูกิจังพูดไทยเก่งจังเลยนะครับ” เป็นไทยชวนคุย
“เรียนมาตั้งแต่เด็กค่ะ”
“ผมชอบเพลงไทยที่ยูกิจังแต่งไว้เพลงสุดท้ายในอัลบั้มมากเลย”
องอาจกัด...
“แหม ทำเป็นเนียน ว่าติดตามผลงานเชียวนะครับคุณไท”
“ว่าแต่คุณองอาจเถอะ ได้ข่าวว่ามีธุระไม่ใช่เหรอ ไม่รีบไปละครับ”
เป็นไทไล่หน้าตาเฉย องอาจตาโต
“ธุระอะไรก็ไม่สำคัญกับการได้มีโอกาส ได้ทานข้าวกับคุณยูกิจังอยู่แล้ว”
เป็นไทกระซิบองอาจ
“ไหนคุณบอกว่ายูกิ คุณจะไม่ยุ่ง ให้ผมจัดการไง”
องอาจกระซิบตอบ
“ก็ตอนก็คิดงั้น แต่พอได้เจอแล้ว ผมว่าคุณไทจัดการคนเดียวไม่ไหวแน่”
เป็นไทเจ็บใจที่มีก้างขวางคอ
“ไหนคุณไทว่าจะชวนคุณแพรวมากินข้าวด้วยกันไงครับ ไม่เห็นมาซักที”
ยูกิงง
“แพรว...ใครคะ”
“ก็คุณแพรว แฟ...”
เป็นไทแทรกทันที
“เป็นหุ้นอีกคนนึงนะครับ แต่พอดีว่าเค้าไม่ว่างเลย คิวเต็มตลอด”
องอาจมองค้อนเป็นไท
“ผมว่าเรามาทานอาหารกันเถอะครับ” เป็นไทตักอาหารให้ “ลองทานต้มยำกุ้งนี่สิครับ อร่อยมาก รสชาติแบบไทยแท้ๆเลย”
องอาจตักอาหารให้บ้าง
“นี่ก็อร่อยครับ ผัดกระเพราะหมูสับ ดูเหมือนจะเป็นอาหารพื้นๆแต่จริงๆ รสเด็ด ก็เหมือนๆกับผมน่ะครับ ดูธรรมดา แต่ต้องลองชิมดู”
ยูกิไม่เข้าใจความหมายองอาจ
“คุณอาจ กินได้ด้วยเหรอ”
“รสเด็ดเลยครับ”
ยูกิพยักหน้ารับ หันไปบอกพนักงาน ชี้ไปที่องอาจ
“เอาแบบนี้ที่นึง”
องอาจกับยูกิหัวเราะร่วน แต่เป็นไทแอบหมั่นไส้ หาทางแก้เผ็ด
“เฮ้ย...ลืมบอกคุณไปได้ไงองอาจ ว่าผมต้องการเอกสารด่วนของการประชุมพรุ่งนี้อ่ะ”
“เดี๋ยวผมโทรให้เลขาจัดการให้”
“ไม่ได้...เลขาเค้ายังไม่รู้รายละเอียดเรื่องตัวเลขเลยไม่ใช่เหรอ”
องอาจนิ่ง เถียงไม่ออก เป็นไทรุก
“เห็นทีคุณต้องกลับไปทำให้ผมแล้วล่ะ”
องอาจกัดฟัน
“ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด”
เป็นไทหันไปบอกยูกิ
“เดี๋ยวคุณองอาจ เค้าต้องกลับไปทำงานแล้วนะยูกิจัง”
ยูกิโค้งให้
“ขอบคุณมากนะคะ ที่มาทานข้าวด้วยกัน”
องอาจยิ้มให้ยูกิ แต่มองเป็นไทอย่างเคืองๆ เป็นไทยิ้มแป้นที่ตัดก้างขวางคอไปได้

ค่ำคืนนั้น...เป็นไทพายูกิมาเดินปากคลองตลาด ยูกิตื่นตาตื่นใจมาก
“ถ้ายูกิจังอยากเห็นไทยๆ ผมก็คิดได้แค่นี้แหละครับ”
“ฉันชอบค่ะ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ดอกไม้เต็มไปหมด”
“คุณนี่ทำตัวเป็นคนต่างชาติจริงๆ ชื่นชมอะไรที่คนไทยเค้าไม่ชื่นชมกัน”
“น่าตื่นเต้นออก ฉันว่าบรรยากาศมันมีสเน่ห์มากๆเลย” ยูกิหันไปเห็นดอกกุหลาบช่อโต “....สวยมาก”
เป็นไทมองยูกิอย่างเอ็นดู ยูกิเดินไปตามทาง มองโน่นมองนี่เพลิน หันไปอีกที เป็นไทก็หายไปแล้ว เธอยูกิชะเง้อหาใหญ่ เดินกลับไปทางเก่าไปหาดูก็ไม่เห็น แต่แล้วก็มีดอกกุหลาบช่อยักษ์ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ยื่นมาให้ ยูกิหันไปมองคือเป็นไทนั่นเอง ยูกิรับดอกไม้แล้วยิ้ม
“อะริงาโตะโกไซมัส”
“ยินดีครับ”
“คุณน่ารักมาก แต่ทำฉันตกใจแทบแย่ นึกว่าหลงทางซะแล้ว”
“ดอกไม้แบบไทยๆ หวังว่าคุณคงจะชอบ มีหนังสือพิมพ์ให้อ่านด้วยนะ เผื่ออยากรู้ข่าวสารบ้านเมือง”
ยูกิหัวเราะ แล้วคนเข็นรถเข็นก็เข็นชนยูกิกระเด็น เซถลาไปทางเป็นไท ที่รีบประคองไว้ ทั้งคู่สบตากันในระยะใกล้ แล้วต่างคนก็ต่างอาย ผละออกจากกัน
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“โดนรถชนแบบไทยๆ เรียกประกันไม่ได้นะแบบนี้”
ทั้งคู่เดินต่อไป ต่างรู้สึกดีต่อกัน

เป็นไทกับไอยูกิ พากันไปยืนคุยกันบนสะพานพุทธ
“คุณดีกับฉันจนฉันไม่รู้จะตอบแทนให้ยังไง นอกจากบอกว่าจะแสดงคอนเสิร์ตให้เต็มที่”
“ผมขอบอกว่าแค่นั้นไม่พอ”
ยูกิงง ไม่คิดว่าเป็นไทจะตอบแบบนี้
“ไม่พอ”
“ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ มากกว่าการอ่านประวัติผ่านนิตยสารเจาะลึกชีวิตดารา”
“ทำไม”
“ผมจะได้คิดตีมของคอนเสิร์ตออกมาได้ถูกใจทั้งคุณแล้วก็ผู้ชมไง”
“อ๋อ...แล้วไป”
“ทำไม คุณคิดว่าผมจะขอจีบคุณเหรอ”
ยูกิเขิน
“ถ้าคุณทำแบบนั้น ฉันคงไปอยู่ด้านล่างแล้วตอนนี้”
ยูกิมองจากสะพานลงไปแม่น้ำด้านล่าง
“คุณใจร้ายกับผมเกินไปแล้ว”
“ฉันพูดจริงนะ ฉันไม่ชอบความรู้สึกสับสน ฉันไม่อยากต้องเลือกระหว่างอะไรกับอะไร”
“ถ้าคุณเคยเป็นคนไม่ถูกเลือก คุณอาจจะชอบความรู้สึกสับสนนี้ขึ้นมาเลยก็ได้”

ยูกิยิ้มรับคำพูดเป็นไท เหมือนเป็นการยอมรับกลายๆ













Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 11:11:46 น.
Counter : 233 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]