|
วิธีแก้ Taxi มอมยา
เรื่องเล่า วันนี้โดนแท็กซี่มอมยาล่ะ ... วันนี้อ่ะ ( วันเสาร์ ) ได้หยุด 1 วันก็เลยมาจตุจักร พอประมาณ 6.30 น ก็โบกแท็กซี่หน้าจตุจักร เพื่อที่จะมาวิภาวดีซอย 20 ปกติเป็นคนระวังตัวอยู่แล้ว ขึ้นรถปั๊บ
สิ่งที่ทำสิ่งแรกคือ มองดูทะเบียนรถ แล้วก็สังเกตคนขับ อ่านจากฟอเวิร์ดเมล์ต่างๆ ขอบอกว่า พวกนี้มีประโยชน์มากๆๆๆๆๆนะคะ วันนี้ที่รอดมาได้ ก็เพราะอ่านเมล์ที่เพื่อนๆกรุณาส่งมาให้อ่านนี่ล่ะ เคยอ่านว่า พวกนี้จะชอบเอามือมาอังไว้ที่แอร์ หรือไม่ก็หมุนหน้าปัดวิทยุ คือไอ้เจ้าคนขับคนนี้มันทำทั้ง 2 อย่าง แล้วขอบอกมันนิ่งมากๆ ทีแรกพอมันเอามือมาอังที่แอร์ เราก็เริ่มเอะใจ ว่ามันจะมอมยาตรูป่าววะเนี่ย แล้วมันไม่ได้อังแบบหน้าเกลียดนะ มันแค่เอาปลายนิ้วไปแตะไว้ตรงหน้ากากแอร์อันทางขวาช่วงล่างๆ นิดเดียว ถ้าคนไม่คอยมองก็อาจจะไม่สังเกต...
สักพัก มันก็เอื้อมมือไปหมุนหน้าปัดวิทยุอีก ........แล้วสักพัก เราก็รู้สึกวูบ...เร็วมากๆ คือหูจะเริ่มอื้อ หายใจไม่สะดวก (จะรู้สึกอึดอัดมากๆ) ตาพร่า และแขนขาไม่มีแรง... อาการแบบนี้เราคุ้นเคยนะ...จากการโดนวางยาสลบผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้เรามั่นใจ ว่ามันเป็นยาสลบแน่ๆ เสี้ยววินาทีนั้น แล้วก็ยื่นหน้าสูดหายใจให้ลึกที่สุด
ตอนนั้นรถยังวิ่งอยู่ตรงห้าแยกลาดพร้าว แล้วก็บอกว่า พี่ จอด...ขอลงตรงนี้ แล้วก็ควานหาน้ำมากิน เพราะอ่านเมล์อันนึง เค้าบอกว่า ตอนที่เค้ามึนๆ อ่ะ คนขับก็ยกน้ำขึ้นจิบบ่อยมาก.... เราก็เลยคิดว่ามันอาจจะช่วยให้เราดีขึ้น แล้วมันก็ช่วยจริงๆ..... อาการวูบหายไป แขนขาเริ่มมีแรง มีอาการมึนหัวเข้ามาแทนที่ ทั้งๆ ที่ก่อนขึ้นรถสมองปลอดโปร่งมาก....อย่างที่บอกอ่ะ
มันนิ่งมากๆ แล้วมันคงจะรู้ว่าเรารู้ตัวแล้ว มันคงอยากให้เราลงจากรถมันเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนั้นอยู่เลนขวาสุด เข้าซ้ายไม่ได้ มันก็บอกว่า ลงได้ จะลงเลยมั๊ย แล้วก็ทำท่าจะหักพวงมาลัยกลับรถไปจอดให้ฝั่งตรงข้าม ตอนนั้นนึกได้ว่าเรามีกล้องดิจิตอลอยู่ ...... ก็เอาวะ บอกมันว่าไม่ต้อง .......ไปส่งให้ถึงที่น่ะแหละ
แล้วเราก็กดโทรศัพท์หาพี่ บอกว่าตอนนี้เราอยู่ที่แยกลาดพร้าวนะ กำลังจะไปถึง ตอนนี้อยู่ในแท็กซี่ อีก 10 นาทีจะไปถึง ออกมารับด้วยล่ะ แท็กซี่เขียวเหลืองนะ เลขทะเบียนมข. 768 ช่วยจำด้วย อีก 10 นาที ใกล้ถึงแล้วจะโทรหาอีกที เราเปิดกระจกไว้ตลอด แล้วนั่งให้ชิดประตูมากที่สุด เราก็หยิบกล้องขึ้นมา แต่ไม่กล้าถ่ายภาพนิ่ง เพราะตอนนั้นก็เกือบทุ่ม แสงน้อยแล้วอีกอย่าง ไฟถนนมันสว่างกว่าในรถ ถ้าใช้แฟลช มันรู้ตัวแน่ ก็เลยปรับเป็นถ่ายวีดีโอ แต่จะไม่ส่องที่ตัวมันโดยตรง แพนกล้องไปเรื่อยๆ หยุดอยู่ที่มันเป็นระยะ แล้วมันคงจะเป็นมืออาชีพ ... ที่ตลอดเวลา มันไม่หันหน้ามาให้เราเห็นเลย ข้างๆ ก็ไม่หันอ่ะ
มีเหลือบๆมองที่กระจกบ้าง ... แล้วภาพที่ถ่ายออกมาก็ค่อนข้างมืด แต่ก็พอระบุรูปพรรณได้เหมือนกัน เพราะมันค่อนข้างผมหยิกและผอม ........
ก็มาถึงที่หมาย ตรงนั้นมีรปภ นั่งอยู่หลายคน พอลงจากรถแล้วมันก็ไม่ยอมไป เราก็เลยเดินไปตรงที่มีรปภ นั่งอยู่เยอะๆ มันก็เลยขับออกไป.... โทรไปเล่าให้พี่คนนึงฟัง เค้าก็บอกลองโทรไปที่ 1644 ก็เลยเล่าให้เค้าฟัง สักพักก็มีคนโทรกลับมา บอกว่าให้เราพูดออนแอร์กับคุณพรสวรรค์ สวพ. 91 ร่วมด้วยช่วยกัน ตื่นเต้นเล็กๆ เค้าก็ถามถึงวิธีเอาตัวรอด ไม่รู้จะมีใครเอาไปใช้ได้มั๊ย แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้นะ ........ ตอนนี้กลับมาถึงบ้านโดยปลอดภัย แต่ก็รู้สึกคลื่นไส้และมึนๆ อยู่ ปกติไม่ค่อยชอบนั่งแท็กซี่เท่าไหร่ เพราะก็กลัวๆเรื่องพวกนี้เหมือนกัน ไม่นึกว่าจะเจอจริงๆ อืมนะ ............ใกล้ตัวมากๆ เพื่อนๆก็ระวังตัวกันด้วยนะ
...............................
อ่านไว้สักนิดก็ดีจ๊า ที่มา- //www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=52&post_id=236473
Create Date : 10 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 10 กรกฎาคม 2551 12:43:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 231 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Tried to take a picture Of love Didn't think I'd miss her That much I want to fill this new frame But it's empty
Tried to write a letter In ink It's been getting better I think I got a piece of paper But it's empty It's empty
Maybe we're trying Trying too hard Maybe we're torn apart Maybe the timing Is beating our hearts We're empty
And I even wonder If we Should be getting under These sheets We could lie in this bed But it's empty It's empty
|
|
|
|
|
|
|
|